ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [yaoi] ใช่ครับผมมันร้าย

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 318
      1
      25 พ.ค. 57



        ผมสีบลอนด์ทองปลิวไสวไปตามลมก่อนที่ร่างบางผิวขาวอมชมพู จะรวบเก็บมันอย่างไม่รีบร้อนนักมือเล็กๆดึงหนังยางสีดำที่พกติดตัวเสมอมามัดผมเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย ใบหน้าหวานยกยิ้มนิดๆอย่างพอใจก่อนจะสาวเท้าเข้ามาในโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอย่างไม่รีบร้อน

     

    "มิลร์"

     

        เสียงเรียกจากทางด้านหลังเรียกความสนใจจากใบหน้าสวยได้เป็นอย่างดี ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปฉีกยิ้มกว้างให้กับผู้มาใหม่ก่อนจะเอ่ยทักทายด้วยความสนิทสนม

     

    "Good Morning เฮเลน"

     

        เฮเลนวิ่งมาคล้องแขนเพื่อนรักด้วยความสนิทสนมก่อนทั้งสองจะเดินเข้ามาในอาคารเรียนของเกรด 12 มุ่งหน้าไปที่ห้อง 12A ก่อนจะทักทายเพื่อนๆทุกคน

     

    "เป็นยังไงบ้างมิลร์"

     

        อัลฟาเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าตอนปิดเทอมเพื่อนรักต้องทนเจอกับอะไรมาบ้างเพราะเจ้าตัวก็เล่าให้เพื่อนๆในกลุ่มฟังเสมอๆ พวกเค้าไม่ว่าเพราะนอกจากพวกเค้าที่เป็นที่พึ่งให้กับร่างบางก็คงไม่มีใครอีกแล้ว

     

    "เออจริงด้วยไอ้สวยสบายดีป่ะวะลูกเมียน้อยกับแม่มันทำอะไรมึงบ้างรึเปล่า"

     

        ลูกเมียน้อยที่ทุกคนกล่าวถึงนี่คือไอ เด็กชายหน้าหวานไม่ต่างกับเขาลูกติดของเมียน้อยของพ่อ ไออยู่ห้องEซึ่งก็คือห้องของเด็กเส้นเรียนก็ไม่เก่งแต่อยากมาทำตัวเทียบชั้นกับมิลร์

     

    "สบายดีมันทำอะไรฉันฉันก็ทำคืนนั่นและพวกมึงไม่ต้องห่วงคุณตากับคุณยายมารับไปอยู่ที่อเมริกาด้วย"

     

        เจ้าตัวเอ่ยด้วยน้ำเสียงมีความสุขเขาดีใจที่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในที่ของแม่เขาเติบโต แม่ของมิลร์เป็นคนสวยออกจะดุๆแต่อ่อนโยนแม่เขาเป็นคนอิตาเลี่ยนแท้ ครอบครัวฝ่ายแม่นั้นทำธุรกิจส่งออกไวน์ไปทั่วโลกของเครือ'อัมเบอโต' ส่วนพ่อของเจ้าตัวนั้นนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทยคงไม่มีใครไม่รู้จักเครือ'สิงห์มณี'

     

    "นี่ๆว่างๆเอาไวน์ของครอบครัวนายมาให้หน่อยสิคุณพ่อท่านอยากจิบนะแต่ไม่ว่างพอที่จะไปซื้อ"

     

        เอริคเพื่อนสนิทอีกคนหันมาร่วมวงสนทนาก่อนที่เจ้าตัวจะละมือจากหนังสือการ์ตูนเล่มโปรด มิลร์พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนที่เจ้าตัวจะหยิบไอโฟนเครื่องสวยมาส่งข้อความไปหาคุณยายกับคุณตาให้ส่งของมาให้ คุณยายกับคุณตาเป็นคนอิตาเลี่ยนแท้ที่ชอบความเป็นไทยเลยชอบมาเที่ยวที่ไทยบ่อยๆ บางครั้งตอนกลับก็มารับเขาไปเที่ยวด้วยท่านทั้งสองอาศัยอยู่ที่อเมริกา

     

    "ไอ้สวยยยยยยยยยยยยย"

     

        กวางวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าแดงก่ำ เจ้าตัวหอบแฮกๆเพราะด้วยความเป็นห่วเพื่อนหน้าสวยของตัวเองช่วงปิดเทอมทำให้ทันทีที่ลงจากรถยนต์ของทางบ้านก็รีบใส่สปีดมาหาทันที

     

    "มีอะไรว่ะทำหน้าอย่างกับคนจะร้องไห้"

     

        มิลร์เก็บไอโฟนเครื่องสวยเข้ากระเป๋าก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนสนิท กวางสำรวจใบหน้าของเพื่อนสนิทตนก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก

     

    'อย่างน้อยๆหน้าสวยๆของมันก็ไม่มีแผล'

     

    "เขาทำอะไรมึงบ้างว่ะ ปิดเทอมมึงโดนตบมั๊ย"

     

    "ไม่หรอกบอกแล้วไงว่าคุณตากับคุณยายมารับไปอยู่ที่อเมริกานะ"

     

    "อิดอกกกกกมิลร์"

     

         น้ำเสียงติดจะหอบเอ่ยเรียกเพื่อนรักด้วยความดีใจ โจ้ เอม และลิ เอ่ยเรียกเพื่อนด้วยน้ำเสียงดีใจสามคนนี้เป็นเกย์ของห้อง แต่ก็อยู่ในแก็งเดียวกันไม่แปลกใจที่จะห่วงกันมากมายขนาดนี้

     

    "ว่าไงครับสุดสวย"

     

    "หยุดนะหยุดหน้ามึงไม่เหมาะจะพูดครับเลยนะจ๊ะ"

     

        ลิชี้หน้าเพื่อนรักก่อนจะเอ่ย มิลร์ยู่หน้าลงอย่างขัดใจถึงเขาจะหน้าสวยแต่ก็ไม่ได้เบี่ยงเบนนะเว้ยยยย เจ้าตัวบ่นขมุบขมิบก่อนที่สายตาจะไปเห็นร่างๆหนึ่งเดินผ่าน เนื่องจากห้องของมิลร์เป็นห้องแรก เวลาที่จะไปห้องอื่นๆจึงต้องเดินผ่านห้องเขาก่อนทำให้เขาได้เจอกับศัตรูหมายเลข 1

     

    "กูว่าเปิดเทอมเรามีเรื่องสนุกๆทำแล้วว่ะ"

     

        มิลร์พูดจบเพื่อนๆทุกคนต่างละออกจากสิ่งที่ทำอยู่หันหน้ามาสุมหัวกันอย่างมีความสุข ก็เพื่อนๆเขานะหมั่นไส้ลูกเมียน้อยนั่นขนาดไหน

     

    พักเที่ยง

     

        มิลร์กับเพื่อนๆเดินออกมาจากห้องเรียนเนื่องจากเป็นโรงเรียนนานาชาติ ทำให้ไม่มีเครื่องแบบทำให้นักเรียนจะแต่งตัวยังไงก็ได้ มิลร์อยู่ในชุดเสื้อไหมพรหมสีส้มกับกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ เจ้าตัวเร่งจังหวะการเดินก่อนที่ทั้งหมดจะไปปรากฏตัวอยู่ที่โรงอาหารของโรงเรียน

     

    "จัดการเลยมั๊ยมึง"

     

        อัลฟากระซิบถามเพื่อนรักด้วยความหมั่นไส้ มิลร์หันมามองหน้าทุกคนก่อนจะยิ้มละมุนให้แล้วค่อยๆพยักหน้า เพื่อนๆแต่ละคนรีบเดินเข้าไปประจำที่ คนในโรงอาหารเริ่มหันมามองอย่างหวาดๆ พวกนั้นรู้ตัวดีว่าแก็งเขาร้ายขนาดไหนและไม่มีใครที่จะเข้ามายุ่ง

     

       ร่างบอบบางของไอกำลังเดินมา ไอมองทางตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวเขารู้ตัวดีว่าตัวเองจะถูกทำอะไรและมันก็เข้าทางเขาเพราะยิ่งมิลร์ทำร้ายไอเท่าไหร่คุณพ่อก็จะรักไอมากเท่านั้นรวมทั้งพวกเพื่อนๆด้วย ไอยิ้มขำในใจก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นหวาดกลัวแล้วเดินตรงมา

     

    พลั่ก

     

        ร่างของไอล้มหน้าทิ้มพื้นอัลฟายกยิ้มพอใจในผลงาน เขาขัดขาของไอส่วนไอก็ได้แต่กัดฟันกรอดเขาท่องในใจไว้ว่าต้องแสดงละคร ก่อนจะทำหน้าตาให้น่าสงสารน้ำสีใสค่อยๆไหลอาบลงมาที่แก้มสีชมพู

     

    ซ่า

     

        มิลร์เทน้ำซุปลงมาราดบนตัวของไอ ผิวขาวๆเริ่มขึ้นสีแดงน้ำซุปไม่ได้ร้อนมากเพราะมิลร์ไม่ใช่คนใจร้ายเท่าไหร่ยกเว้นพวกมันนะ

     

    ซ่า

     

        ก๋วยเตี๋ยวเผ็ดๆของเอริคสาดเข้ามาเต็มตัวของร่างบาง ไอจิกเล็บแน่นพลางมองไปที่มิลร์อย่างเคียดแค้นมิลร์ยักคิ้วให้นิดๆก่อนจะเดินไปกินข้าวต่อกับเพื่อนๆ ไอสะบัดเสื้อเชิ๊ตสีขาวของตัวเองกับกางเกงยีนส์ขาสั้นประมานเข่า เจ้าตัวลุกขึ้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพื่อนๆของไอเดินเข้ามาพอดิบพอดี

     

    "ว้ายตายแล้วไอใครทำอะไรเธอ"

     

        ลิลลี่เพื่อนกระเทยของไอพูดด้วยสีหน้าร้อนใจไอหันไปฉีกยิ้มให้อย่างเสแสร้ง ก่อนจะเริ่มแสดงละคร

     

    "มะไม่เป็นไรหรอกมิลร์คงไม่ได้ตั้งใจนะ"

     

    "แบบนี้เธอยังจะยอมอีกหรอเราไม่ยอมนะ"

     

        แพทพูดเสร็จก็เดินเชิดหน้ามาที่โต๊ะกลุ่มของมิลร์นั่งอยู่ ทุกคนในโต๊ะชายตามองเล็กน้อยก่อนที่จะลงมือทานข้าวกันโดยหาจะสนใจเด็กหนุ่มที่ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่

     

    "นี่พวแกกล้าทำอย่างนี้กับเพื่อนฉันได้ยังไง"

     

        แพทพูดอย่างเหลืออดไอเดินเข้ามาจับแขนเพื่อนไว้ก่อนจะบีบน้ำตาเสแสร้ง แต่คนในโต๊ะก็หาได้สนใจคุยกันต่อไปเรื่อยๆ

     

    "นี่ไอ้พวกนิสัยไม่ดี เลว"

     

         ลิลลี่ที่ทนไม่ไหวร้องขึ้นพวกของมิลร์ปรายสายตามองอย่างเหยียดๆก่อนที่โจ้จะลุกขึ้นและเดินไปหาลิลลี่ก่อนจะหยิบน้ำเยนมาสาดใส่ลิลลี่แต่มันก็ไปโดนไอที่ยืนเกาะแขนลิลลี่อยู่ด้วย

     

    "สะใจจริงที่หลังอย่ามาริอาจยุ่งกับฉันพวกนังลูกเมียน้อย"

     

     

     

     

     

         มิลร์เดินเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่ว่าภายในใจกลับสั่นระรัวเขารู้ว่าตัวเองต้องเจอกลับอะไร แต่ก็หาได้สนใจเพราะยังไงเขาก็โดนจนชินแล้วละไม่ว่าจะถ้อยคำด่าทอ สายตาแข็งกร้าว หรือว่าการตบตี นั่นคือสิ่งที่เขาได้รับมาจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น'พ่อ'แต่เขาก็หาได้ใส่ใจเพียงแค่คิดถึงใบหน้าหวานสวยของใครอีกคนก็ทำให้เขามีกำลังใจเพียงแค่นึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่น สัมผัสที่คอยปลอบ เสียงหวานๆที่คอยกล่อมมือเรียวสวยที่คอยสอนทุกอย่าง ก็ทำให้เขาไม่อยากไปจากไปไหนแต่เธอคนนั้นกลับไม่อยู่กลับมีอีกคนมาแทนที่ผู้ที่ได้ศักดิ์ว่าแม่เลี้ยง แค่คิดถึงตรงนี้มือเรียวบางกำแน่นขึ้นมาดวงตาที่เคยมีความเศร้าเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว เขาโกรธเขาเกลียดคนพวกนั้น

     

    "แกทำอะไรไว้"

     

         มิลร์ที่กำลังเดินผ่านห้องโถงหันไปตามเสียงก่อนจะพบผู้ที่ได้ศักดิ์ว่าพ่อนั่งมองเขาอย่างโกรธเคือง มิลร์ยิ้มขำให้กับโชคชะตาของตัวเองในใจก่อนจะมองไปที่ไอที่นั่งให้ยัยแม่เลี้ยงทำปผลให้อยู่

     

    "ทำอะไรหรอครับ"

     

        ถามกลับอย่างไม่ใส่ใจนายใหญ่ของบ้านเดินเข้ามาพร้อมกับฟาดฝ่ามือลงไปที่ใบหน้าหวานอย่างโมโห

     

    เพี๊ยะ

     

        เสียงตบดังไปทั่วห้องโถงกว้างมิลร์ลูบแก้มตัวเองเบาๆ เขากัดปากแน่นระงับอารมณ์ทุกสิ่งทุกอย่างไว้ก่อนจะเงยหน้าสบตาผู้เป็นพ่อ

     

    "แกมันอย่างนี่ไงนิสัยร้ายกาจไม่แพ้แม่แก แม่แกมันเลว แกก็ไม่ต่างจากแม่แกสักเท่าไหร่หรอก"

     

        นิ้วเรียวสวยกำแน่นด่าเขาได้ด่าไปเลยแต่อย่ามายุ่งกับแม่ของเขา คุณมันน่าขยะแขยงปากเรียวสวยบางเม้มเข้าหากันก่อนจะเชิดหน้าอย่างหยิ่งทนงตน

     

    "แค่นี้ใช่มั๊ยครับผมไปก่อนนะครับ"

     

        พูดจบก็รีบเดินขึ้นไปบนห้องนอนรีบล็อคประตูก่อนจะก้มหน้าลงกับเข่าแล้วปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างออกมา ไม่เคยมีเลยคำพูดคำจาดีๆ มีแต่คำด่าว่าสารพัด วันนี้คุณยายกับคุณตาคงส่งเงินมาให้แล้วมิลร์คิดได้ดังนั้งจึงหยิบไอโฟนเครื่องสวยมาเช็คดูเงินจำนวนมากมายที่เขาได้จากตาและยาย แต่กับผู้เป็นพ่อเขาไม่เคยได้ตั้งแต่คนพวกนั้นก้าวขาเข้ามาในครอบครัวของเขา เธอคนนั้นสวยสู้แม่เขาไม่ได้สักนิดมีแต่มารยาแถมยังคอยแกล้งเขาสารพัดของทุกสิ่งทุกอย่างที่มาจากคนเป็นพ่อเขาเอาไปเผาทิ้งแล้วตอนนี้เหลือแต่ของแม่เขาเท่านั้น กับของที่เงินตายายซื้อตายายรู้ดีว่าผมโดนอะไรบ้างแต่ถ้าผมยังอายุไม่ถึง20ก็ทำอะไรไม่ได้เลยต้องทนไว้

     

    Trrr Trrr

     

    -เฮเลน-

     

    "ว่าไง"

     

    (แกกลับมาโดนอะไรบ้างรึเปล่า)

     

         น้ำเสียงของปลายสายฟังก็รู้ว่าเป็นห่วงอย่างมากมันทำให้คนตัวเล็กยิ้มได้  ถึงพ่อไม่ต้องการแต่อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนๆคอยช่วยเหลือและคุณตาคุณยาย

     

    "โดนตบกับโดนด่า"

     

    (เห้ยจริงหรอว่ะฉันจะไปหาแกฉันจะไปปรึกษาพ่อ)

     

        พ่อของเฮเลนเป็นทนายชื่อดัง แต่มิลร์ไม่อยากจะให้เรื่องราวมันยุ่งยากรออีกแค่ 2 ปีเท่านั้นเขาจะรีบหายออกไปจากบ้านหลังนี้บ้านที่มีแต่ความเหน็บหนาว บ้านที่ไม่เคยได่รับความอบอุ่น น้ำตาที่เริ่มจะแห้งเหือดกลับมาไหลอีกครั้ง

     

    "ฮึก ไม่ต้องมาหรอก กูชินแล้วว่ะ ฮึกไม่ต้องห่วง"

     

    (กูเป็นห่วงมึงนะพวกไอ้เอริคก็ด้วย)

     

    "มะไม่เป็นไรฮึก ฮืออออออ"

     

    (ร้องไห้หมดร้องออกมาเลยนะมึง)

     

     

     

         ไม่รู้ว่าร้องไห้ไปนานขนาดไหนรู้แต่ว่าพอตื่นขึ้นมาก็ต้องเจอกับสภาพตาที่บวมเป่ง ช่างเหอะตาเขาจะเป็นอะไร คนเป็นพ่อก็ไม่เคยจะรับรู้หรอกคิดได้ดังนั้นก็อาบน้ำไปโรงเรียน มิลร์เป็นคนตื่นเช้าเพราะไม่อยากจะเจอภาพบาดตาบาดใจครอบครัวสุขสันต์ ภาพที่ทำให้แม่ของเขาหายไป มิลร์หยิบกระเป๋าและสัมภาระก่อนจะเดินไปข้างล่าง ด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินไปที่ห้องอาหารที่มีเพียงเขาคนเดียวนั่งอยู่ คนใช้หลายคนมองเขาอย่างห่วงใย

     

    "เจ็บมากรึเปล่าค่ะคุณหนู"

     

        บัวเอ่ยถามเจ้านายพร้อมกับลูบไปที่รอยแดงบนใบหน้า มิลร์ฉีกยิ้มหวานก่อนจะส่ายหัวนิดหน่อยคุณหนูของพวกเธอไม่ใช่คนถือตัว คุณหนูเป็นที่รักของเด็กรับใช้ในบ้านทำให้ทุกคนต่างสงสารแตก็ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะทำอะไรได้

     

    "ผมชินแล้วละ"

     

        มิลร์ตอบก่อนจะรับถ้วยข้าวต้มมาจากน้ำฝน น้ำฝนหยิบยางรัดผมสีดำมาก่อนจะรวบผมสีบลอนด์ทองที่ได้มาจากผู้เป็นแม่ของมิลร์มารัดไว้ เจ้าตัวส่งยิ้มบางๆให้ก่อนจะรีบกินข้าวและออกไปก่อนที่ครอบครัวสุขสันต์เขาจะลงมา

     

    ตุ่บ

     

        ด้วยความที่ก้มหน้าก้มตาเดินทำให้ชนเข้ากับคนอื่นอย่างจัง ร่างบางของมิลร์ล้มลงไปกระแทกพื้นก่อนเจ้าตัวจะรีบลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัว

     

    "ขอโทษนะครับผมไม่ได้ตั้งใจ"

     

        มิลร์โค้งหัวให้อย่างนอบน้อม เขาไม่ใช่คนขี้เหวี่ยงและมีเหตุผลพอแต่เรื่องของลูกเมียน้อยมันเป็นเรื่องเหนือเหตุผลทั้งปวง ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกไปโดยไม่เงยหน้ามองสักนิดว่าคนที่ตนชนนั้นเป็นใคร

     

         ร่างสูงของพายดูจะแปลกใจไม่ใช่น้อยเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นผู้ชายเขาดูเหมือนผู้หญิงมากกว่านะ ดูเหมือนคนขี้เกรงใจนะพายคิดได้ดังนั้นก่อนจะสาวเท้าเข้าไปในห้องโถงของบ้านสิงห์มณี 

     

    "ผมมาหาคุณอารุจครับ"

     

    "คุณท่านยังไม่ลงมารอสักครู่นะค่ะ"

     

        หญิงรับใช่พูดด้วยความสุภาพนอบน้อมก่อนที่เธอจะภายมือให้ร่างสูงตรงหน้าไปนั่งรอที่ห้องรับแขก พายเดินเข้ามาสำรวจภายในบ้านก่อนที่จะไปสดุดตากับร่างบางผมบลอนด์ทอง ที่ยืนถ่ายคู่กับหญิงสาวผมบลอนด์ทองอีกคนรอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้าสวย

     

    "คุณๆทั้งสองคือคุณหนูกับนายหญิงของบ้านหลังนี้ค่ะ"

     

        ดวงตาคมไล่ไปตามรูปแต่ละรูปดูเหมือนรูปของคุณหนูของบ้านจะมีนิดเดียวเอง เท่านั้นคิ้วคมขมวดด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะไปเจออีกรูปเป็นรูปตอนที่คุณหนูของบ้านแข่งเปียโนได้ที่1 ไม่มีแววตาดีใจไม่มีรอยยิ้มในรูปเป็นรูปเดี่ยวๆ ผมสีทองถูกมัดรวบหน้าตาดูเรียบเฉย ดูรวมๆแล้วดูเหงาเหลือเกิน

     

    "เค้าชื่ออะไรหรอครับ"

     

    "คุณหนูชื่อมิลร์ สิงห์มณี อัมเบอโต ส่วนคุณผู้หญิงคือโรน่า สิงห์มณี อัมเบอโต"

       

        ชายหนุ่มไล่สายตาไปทั่วใบหน้าสวยที่ยังคงความเศร้าไว้ เค้าคือคนที่ชนเรา ชายหนุ่มคิดในใจถึงจะบอกว่าเป็นคุณหนูของบ้านแต่รูปที่ห้องโถงมีเพียง2รูปเท่านั้นเอง ต่างกันกับเด็กหนุ่มอีกคนกับผู้หญิงอีกคน

     

    "เอ้าพายมาแล้วหรอ"

     

    "ครับคุณอาผมจะย้ายมาอยู่บ้านข้างๆคุณพ่อกับคุณแม่ก็อยู่อังกฤษต่อไปนะครับ"

     

         พายตอบด้วยรอยยิ้ม คนตรงหน้าของเขาเป็นเพื่อนรักของคุณพ่อพายเคารพรุจไม่ต่างจากพ่อของตัวเอง

     

    "แหมมันใจกล้าทิ้งลูกตัวเองไว้นะอานะใจไม่กล้าพอที่จะทิ้งน้องไอไว้หรอก"

     

         คิ้วของพายขมวดมุ่นด้วยความไม่เข้าใจจากที่สาวใช้บอกคือมิลร์ไม่ใช่หรอ สงสัยได้ไม่นานร่างบางของไอก็เดินเข้ามานั่งกับคุณพ่อของตนตามด้วยลันดาที่เดินมานั่งข้างๆสามี

     

    "คุณพ่ออรุณสวัสดิ์ครับ"

     

    "อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณ"

     

         พายมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจ แล้วมิลร์หรือคุณโรน่าละไอส่งยิ้มทักทายให้กับพาย พายได้แต่ยิ้มแห้งๆส่งไปให้แววตาเศร้าของมิลร์ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเขา

     

    "นี่ไอกับคุณลันดาลูกกับภรรยาอาเอง"

     

    "ผมพายครับ"

     

    "ลันดาค่ะ"

     

    "ไอครับ"

     

         ไอส่งรอยยิ้มหวานพร้อมกับแสดงสีหน้าให้น่ารักที่สุด ผู้ชายตรงหน้ายอมรับว่าถูกใจไอตั้งแต่แรกๆทำให้ไออยากจะสานต่อด้วย อย่างนี้ก็ต้องอ่อยและยั่วสินะ

     

    "เอ่อแล้วคุณโรน่ากับมิลร์ละครับ"

     

         พายเอ่ยถามด้วยอาการไม่แน่ใจเท่าไหร่ รุจแสดงสีหน้าเป็นเรียกเฉยส่วนไอก็ได้แต่เก็บความริษยาไว้ในใจ

     

    "ถามถึงมันทำไมไม่รู้ป่านนี้ตื่นรึยังก็ไม่รู้"

     

    "ผมเห็นเดินออกไปตั้งนานแล้วครับ"

     

    "อาว่าอย่าพูดถึงมันเลยนิสัยไม่ดีไปกินข้าวดีกว่าทานข้าวเช้ามารึยังละหลานชาย"

     

    "ยังครับ"

     

    "งั้นมาทานด้วยกันเลยนะ"

     

         พายเดินตามคุณอาของตนเข้าไปในห้องอาหาร ห้องอาหารอันแสนกว้างสามคนพ่อแม่ลูกนั่งทานไปด้วยกันด้วยบรรยากาศอันอบอุ่นพายมองภาพตรงหน้าด้วยความยินดี แต่เมื่อคิดไปถึงอีกคนที่พึ่งชนกันเมื่อเช้ากลับรู้สึกหดหู่แปลกๆ ไม่เข้าใจเลยความรู้สึกนี้

     

    "งั้นเดี๋ยวให้ไอไปกับพายเลยนะเรียนที่เดียวกันนี่"

     

         พายพยักหน้าก่อนจะเดินไปที่BMWสีดำเงางามของเจ้าตัว ไอยกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเดินไปเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ

     

    "พายเรียนเกรดอะไรหรอ"

     

    "12"

     

    "งั้นอายุเท่ากันเลยละสิห้องไหนหรอๆ"

     

    "A"

     

         ไอได้ยินคำตอบก็คิ้วขมวดกันจนยุ่งเหยิงก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าตาไร้เดียงสาและใสซื่อ พายหาได้สนใจแต่กลับขับรถไปเรื่อยๆก่อนจะเห็นร่างบางที่คุ้นตากำลังซื้ออมยิ้มอยู่กับยายแก่ๆคนหนึ่ง

     

    "นั่นใช่มิลร์รึเปล่า"

     

         พายหันไปถามไอที่นั่งข้างๆ ไอชะโงกหน้าไปดูก่อนจะฉีกยิ้มให้อย่างเสแสร้ง

     

    "ใช่แล้วว่าแต่ไปทำอะไรแถวข้างถนนนะ"

     

    "มิลร์กับไอเป็นพี่น้องกันหรอทำไมสีผมไม่เหมือนกันเลย"

     

    "ไอเป็นลูกของแม่ลันดานะส่วนมิลร์เป็นลูกของคุณโรน่า"

     

     

     

        ร่างบอบบางของมิลร์เดินไปตามทางเรื่อยๆวันนี้เป็นวันเกิดของเจ้าตัว มิลร์ก็ได้ทำบุญไปแล้วเมื่อกี๊ซื้ออมยิ้มมาเกือบหมดแผง เห็นคุณยายขายอยู่คนเดียวน่าสงสารเลยช่วยซื้อว่าจะเอาไปแจกพวกเพื่อนๆ

     

    "ว่าไงมิลร์ HappyBirthDayนะ"

     

    "GoodMorning เอม"

     

         ริมฝีปากสีชมพูฉีกยิ้มไปให้เพื่อน เอมพยักหน้ารับก่อนจะตาโตเมื่อเห็นโหลอมยิ้มหลายโหล

     

    "ไปเหมามาจากไหนเนี่ย"

     

    "พอดีเห็นคุณยายท่านหนึ่งนะขายอยู่สงสารเลยซื้อมานะ"

     

         สองเพื่อนซี้หน้าสวยเดินเข้ามาในตึกเกรด12ก่อนจะเจอกับไอที่ออกมาจากรถBMWคันงาม มิลร์กระตุกยิ้มร้ายที่ริมฝีปากก่อนจะเดินกระแทกไหล่ของไอไปอย่างไม่ใยดี

     

    "โอ๊ย"

     

         ไอร้องออกมาด้วยความเจ็บก่อนจะยกมือขึ้นมาดู นัยตากลมโตเบิกกว้างเมื่อพบกับรอยถลอกบนฝ่ามือขาว แต่สองเพื่อนซี้ก็หาได้สนใจกลับเชิดหน้าขึ้นแล้วเดินไปแต่ก่อนที่จะได้สาวเท้าออกไปข้อมือสวยก็ถูกกระชากมาจากด้านหลัง มิลร์หันหน้าไปอย่างไม่พอใจก่อนจะเจอกับพายมิลร์เอียงคอนิดหนึ่งหรี่ตานิดหน่อยพลางคิดว่าผู้ชายตรงหน้าคนนี้เป็นใคร

     

    "ปล่อย"

     

    "ไม่จนกว่านายจะขอโทษไอก่อน"

     

        ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างทนงค์ตนก่อนจะสบัดข้อมือใหญ่ออกไปแล้วหันหลังเดินกอดคอกับเพื่อนซี้ออกไปโดยไม่สนใจร่างสูงที่อยู่ข้างหลังแม้แต่น้อย พายมองคนข้างหน้าที่เดินจากไปอย่างไม่เข้าใจ

     

     

     

     

        มิลร์เดินเข้ามาในบ้านด้วยความรู้สึกเฉยเมยต่อสิ่งรอบข้างวันนี้เป็นวันเกิดของเขา แต่กับไม่มีใครมาแฮปปี้เบิร์ดเดย์สักคนนอกเหนือจากพวกเพื่อนๆสุดน่ารักของเจ้าตัว บ้านวันนี้คึกคักเป็นพิเศษเพราะนอกเหนือจากวันเกิดของมิลร์แล้วยังมีวันเกิดของไออีก มิลร์เก็บความน้อยใจไว้ในส่วนลึกของจิตใจก่อนที่จะเชิดหน้าขึ้นแล้วีบเดินขึ้นไปบนห้องวันนี้เขาจะป่วนเขาจะทำลายความสุขของทุกคนให้มันมอดไหม้

     

    "มิลร์"

     

         เสียงเรียกมาจากด้านหลังทำให้มิลร์หันไปมองผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จิตใจดวงนี้กำลังหวาดกลัวกลัวคำบางคำกลัวเหลือเกินที่เค้าจะพูดออกมา

     

    "อย่าลงมาถ้าไม่จำเป็นฉันไม่อยากให้แกมาป่วนงานอีก"

     

        เขากลัวถ้อยคำที่ว่าเขาเป็นส่วนเกินในชีวิตของผู้เป็นพ่อ น้อยใจคำนี้คงใช้ได้สินะหึแม้แต่คำพูดดีๆยังไม่ได้เลยในวันเกิดไม่ใช่สิแม้แต่วันเกิดของเขาพ่อก็ยังไม่เคยคิดจะจำเลยใช่วันนี้มันคงเป็นแค่วันสำคัญของลูกรักของสิงห์มณีสินะ เขามันอัมเบอโตนี่ถึงในชื่อจะมีสิงห์มณีอยู่ด้วยแต่มันคงไม่จำเป็นหรอกในเมื่อทุกอย่างที่เป็นเขาได้มาจากอัมเบอโตทั้งนั้น

     

     

    Happy Birth Day To You

    Happy Birth Day To You

    Happy Birth Day

    Happy Birth Day

    Happy Birth Day To You

     

    "สุขสันต์วันเกิดนะลูกรักของพ่อ"

     

    "มีความสุขมากนะลูกรักของแม่"

     

    "นี่ของขวัญของพวกเราจะ"

     

        มิลร์ยืนดูอยู่ในมุมมืดๆเงียบๆคนเดียวดวงตาสวยแดงก่ำ มิลร์ยกมือเช็ดน้ำตาลวกๆสาวใช้หลายคนมองดูคุณหนูของบ้านด้วยความเป็นห่วง วันนี้วันเกิดพวกเธอรู้ดีพวกเธอไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อของขวัญให้เลยได้แต่เขียนคำอวยพรให้กับคุณหนูอันเป็นที่รักยิ่ง

     

    เพล้ง

     

        แก้วใบสีสวยถูกเขวี้ยงลงพื้นกระเบื้องอย่างไม่ใยดีผู้คนทั้งงานมองมาที่ร่างบางเป็นตาเดียวมิลร์กรีดยิ้มร้ายที่มุมปากกว้างก่อนที่จะเดินออกมา ผู้ชายหลายคนถึงกับหยุดหายใจร่างบางในชุดเสื้อเชิ๊ตสีขาวกับกางเกงยีนส์สีซีดผมบลอนด์ทองที่เคยมัดตอนนี้กับปล่อยไว้เฉยๆ

     

    "แกเจ้ามิลร์"

     

         ผู้เป็นพ่อชี้หน้าด้วยความโกรธมิลร์ยักไหล่ไม่หยีระ ก่อนจะเดินไปใกล้ๆไอเขารู้คนมากขนาดนี้ไอไม่มีทางทำอะไรเขาได้ มิลร์มองไออย่างเหยียดๆมือเรียวบางคว้าไปที่เค้กก้อนโตก่อนจะโผละเข้าที่หัวของอีกคน ทั้งงานกำลังอึ้งและตกตลึง

     

    เพี๊ยะ

     

    เพี๊ยะ

     

        ฝ่ามือของผู้เป็นพ่อฟาดมาที่ใบหน้าสวยก่อนจะใช้หลังมือตบเข้าให้อีก กลิ่นคาวเลือดในปากลอยคละคลุ้ง มิลร์เชิดหน้าขึ้นสู้ก่อนจะยิ้มท้าทายไปให้คนตรงหน้าคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าพ่อคนที่ตบลูกตัวเองได้อย่างไม่สะทกสะท้าน

     

    "ฉันเลี้ยงแกแบบนี้ได้ใจมากไปรึเปล่า"

     

        มือหยาบกร้านตรงเข้ามาบีบกรามลูกชายตัวเองแน่น ไอแอบลอบยิ้มออกมาอย่างสะใจไม่ต่างกับแม่ของตัวเองที่กำลังสะใจกับเหตการณ์ตรงหน้า

     

    เพี๊ยะ

     

        มิลร์ปัดมือนั่นออกอย่างไม่ใส่ใจ หันไปมองผู้เป็นพ่อด้วยแววตาแข็งกร้าวเชิดหน้าอย่างท้าทายอารมณ์ริมฝีปากบางนั่นเหยียดยิ้มไปให้คนเป็นพ่อกว้างตาเรียวที่กำลังสะกดกลั้นอารมณ์ จะไม่ให้เห็น ไม่ให้เห็นเด็ดขาด

     

    "เลี้ยงหรอ หึๆทุกคนในงานนี้ฟังให้ดีนะครับว่าสิ่งที่ผมจะพูดออกไปนี้คืออะไร"

     

    "แกจะทำอะไรห่ะ"

     

    "เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ผมใช้นั้นได้มาจากอัมเบอโตไม่ใช่มาจากสิงห์มณี ถ้าผมอายุครบ20ปีผมจะเปลี่ยนไปใช้อัมเบอโตอย่างเต็มตัว บ้านที่ผมอยู่ใช่เป็นของสิงห์มณีแต่ข้าวของทุกอย่างที่ผมใช้เป็นของอัมเบอโตแม้แต่เงินซื้อของต่างๆ ไม่เคยได้จากสิงห์มณีนอกจากที่ซุกหัวนอนเตียงนอนผ้าปูที่นอนโซฟาเฟอร์นิเจอร์กรอบรูปล้วนแต่เป็นของอัมเบอโตข้าวที่ผมกินก็เป็นเงินของอัมเบอโตที่ผมให้เด็กรับใช้ไปอีกที ไหนคุณบอกหน่อยสิว่าอะไรบ้างที่คุณเลี้ยงผมมา"

     

         มิลร์กอดออกอย่างสบายๆ ผู้เป็นพ่อมองเขาตาขวางเขากำลังคิดว่าลูกชายตรงหน้ากำลังทำให้เข้าอับอาย กำลังฉีกหน้าเขาต่องานที่มีแต่แขกคนสำคัญ

     

    "หึตอบไม่ได้ นอกจากคุณจะเอาพวกมันเข้ามาในบ้านทำให้แม่ผมหนีไปแล้วคุณก็ไม่เคยให้อะไรกับผมเลยพอใจมั๊ยครับ"

     

    "ดะเดี๋ยวก่อนสิมิลร์อย่างพะพึ่งไป ฮะฮึกขะขอโทษนะเราขอโทษ"

     

    "หืมไม่ต้องการอ่ะอย่างมาเสแสร้งแกล้งทำถ้ามันไม่ได้ออกมาจากใจแต่ถ้าอยากขอโทษจริงๆเชิญใสหัวออกไปจากที่นี่ซ่ะทำได้มั๊ยละ ถอยไปซ่ะ"

     

        ร่างของไอลงไปกระแทกพื้นเจ้าตัวบีบน้ำตาแกล้งทำเป็นเจ็บ จนคนรอบข้างเริ่มมองมาที่มิลร์อย่างตำหนิและเสียดแทงพร้อมกับคำพูดคำจาด่าทออย่างเจ็บปวดเกินกว่าเด็กอย่างเขาจะรับได้ เจ้าตัวหาได้สนใจไม่กลับเดินขึ้นบ้านไปอย่างเงียบๆพร้อมกับปล่อยให้น้ำตานองหน้า ทำไมเขาจะไม่เจ็บทั้งบีบคางทั้งโดนตบทั้งบิดข้อมือ แต่ที่เจ็บยิ่งกว่าคือใจดวงนี้ที่มันหนาวและเย็นเฉียบ มือเล็กๆเอื้อมมือไปเปิดลูกบิดก่อนจะสอดแทรกตัวเข้ามาในห้องกว้างและกดล็อคสองขาพาร่างกายอันบอบบางไปที่เตียงนอนขนาดใหญ่ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนขดตัวกอดเข่าแน่น แขนขาวๆเอื้อมมือไปคว้ากรอบรูปที่ตั้งอยู่หัวเตียงมากอดแน่นรูปของผู้หญิงคนหนึ่งกับเขาถ่ายด้วยกัน รูปของผู้หญิงที่อบอุ่นที่สุด ผู้หญิงที่รักที่สุด ผู้หญิงที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต ผู้หญิงที่กำลังนอนหายใจโรยรินด้วยเครื่องช่วยหายใจอยู่ที่อเมริกา พ่อไม่เคนรู้ว่าแม่ไปไหนไม่สิไม่คิดจะสนใจ เขาสนใจแต่ครอบครัวแสนสุขของตัวเอง เขาเกลียด เกลียดทุกคนที่ทำให้เขาพรากจากรอยยิ้มของผู้ที่เป็นแม่ สัมผัสที่อบอุ่น อ้อมกอด ทุกสิ่งทุกอย่างของแม่มันทำให้ดวงใจของเขาแข่งแกร่ง แค่เห็นหน้าผ่านรูปถ่ายก็อบอุ่น

     

    "ฮึก ฮึก ฮือๆๆ เขาใจร้ายมากเลยครับ"

     

    "แม่เมื่อไหร่จะกลับมาละครับอย่าทิ้งผมไว้คนเดียว ผมเหงาเหลือเกินหัวใจดวงนี้มันเจ็บช้ำเกินไปที่จะทำอะไรได้แล้ว ผมคิดถึงแม่เค้าตบผมบีบกรามผมแน่นเลย ฮึกฮืออ"

     

         ถ้อยคำต่างๆนาๆที่แสดงออกถึงความเหงาและอ้างว้างของร่างบางดังเข้ามาโนโสตประสาทของร่างสูงที่เอนตัวฟังเงียบๆอยู่ที่ประตู คำพูดคำแล้วคำเล่าแสดงอาการน้อยใจและโหยหาความรักของคนข้างในทำให้พายที่แอบยืนฟังอยู่ถึงกับน้ำตาคลอ เจ็บเหลือเกิน เขารับรู้ได้แค่นี้มันเจ็บและทรมาณ 


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    อาจจะแต่งไม่ได้ดีเท่าไหร่นะค่ะ
    เพราะว่าเราไม่เคยโดนทิ้งแต่เราอยากลองแต่งแบบนี้ดูสักครั้งหนึ่งเราว่ามันท้าทายชีวิตดี
    อาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆคนนะค่ะ
    ไม่รู้ว่าดีพอรึเปล่าแต่เราตั้งใจมากบิวท์อารมณ์ตัวเองอยู่นานจนตัดสินใจจิ้มนิ้วลงบนแป้นพิมพ์
    ถ้าใครมีอะไรเสนอมาก็ได้นะค่ะ เนื้อเรื่องตอนแรกดูขัดๆแต่ต่อไปเธอร้ายแน่ค่ะ
    อย่างหวังว่าจะมีความสุข ยิ่งถ้าอายุครบ20ปีบางที่มิลร์อาจจะมาเทคโอเวอร์บริษัทพ่อตัวเองก็เป็นได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×