ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HaRrY In DaRk

    ลำดับตอนที่ #27 : Dark harry26 (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.63K
      8
      17 ต.ค. 51



    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

    ห้องที่ถูกสร้างขึ้นมาจากหินหลายๆก้อน ดูเก่าแก่ และน่ากลัว กำแพงเปื้อนไปด้วยคราบสีแดง ที่ดูก็รู้ว่าคือ เลือด ภายในห้องประกอบด้วยคบเพลิงสองสามอันทำให้ห้องดูมมืดออกแนวสลัวๆ กลิ่นอับชื้นและความเย็นจากผนังหินกระทบแผ่นหลัง ทำให้ชายชราหนวดขาวฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล

     

    ที่นี่มันที่ไหน แล้วเรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทำไมฉันถูกล่าม อย่างกับเป็นทาสยังงี้ ท่ามกลางความงุนงงของตัวเอง ก็พลันเลือบไปเห็นอีกบุคคลหนึ่งที่ถูกล่ามข้อมือ ข้อเท้า ถูกขึงให้ตึงกับกำแพงเหมือนอย่างตัวเอง

     

    สคริมเจอร์!”  ดัมเบิ้ลดอร์พลั้งปากตะโกนออกไป แต่ก็ไม่สะเทือนคนที่กำลังหลับด้วยฤทธิ์ของยาสลบ

     

    ดัมเบิ้ลดอร์พยายามสังเกตุห้องที่ตกอยู่ในความมืดมิดรอบๆตัว แต่ก็ไม่เห็นอะไรนอกจาก คราบเลือดข้างๆตัว ซึ่งมีกระดูกสีขาวถูกล่ามไว้เหมือนกับตัวเค้าและสคริมเจอร์ ดูจากเสื้อผ้า คงจะเป็นพ่อมดที่มีฐานะพอตัว ดัมเบิ้ลดอร์เลือบไปเห็นสร้อยคอที่ห้อยอยู่บนคอของโครงกระดูก ซึ่งมีจี้ติดอยู่ด้วย

     

    สัญลักษณ์ตระกูลแบล็ก! หรือว่าจะเป็น......

     

    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

    10% แฮะๆ  มาทีมาแค่ 10 เปอร์
    (กำลังย้ายบ้านหลบระเบิดคนอ่าน) เหอๆ
    โอกาศหน้าจะมาต่อให้น้า  T^T

    รักคนอ่านเสมอ จุ๊ฟๆ

     

    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

     

    สัญลักษณ์ตระกูลแบล็ค งั้นที่นี่ก็คือ ภายในห้องต้องประสงค์น่ะสิ ดัมเบิ้ลดอร์พูดขึ้นมาเสียงด้วยท่าทางหวาดกลัว สายตาจับจ้องไปที่โครงกระดูก ส่งผลให้คนที่ถูกล่ามอยู่อีกด้านข้างตัวตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล

     

    อืม.....

     

    เสียงจากการตื่นของบุคคลข้างกาย ทำให้ดัมเบิ้ลดอร์หันกลับมามองด้วยความสนใจ ก่อนจะกลบสีหน้าตื่นกังวลได้อย่างแนบเนียน

     

    สคริมเจอร์ ดับเบิ้ลดอร์เรียกสิ่งมีชีวิตข้างตัว

     

    อา ศาสตรจารย์ใหญ่ สคริมเจอร์เรียกด้วยท่าทางคล้ายคนตื่นนอน ก่อนจะรู้สึกตัวว่ามือและเท้าตัวเองถูกพัธนาการด้วยโซ่เหล็ก เมื่อพยายามจะบิดขี้เกียจ

     

    นี่มันอะไร ชายร่างท้วม ร้องตะโกนอย่างตกใจ หันไปขอความคิดเห็นกับดัมเบิ้ลดอร์

     

    ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน พอตื่นขึ้นมาก็เป็นแบบนี้แล้ว ดัมเบิ้ลดอร์พยายามหาคำตอบอย่างหนักภายในสมอง

    "แล้วโครงกระดูกใกล้ๆศ.นั่นดูคุ้นๆน่ะ นั่นมันสัญลักษณ์ตระกูลแบล็คนิ หรือว่าจะเป็น ซิเรียส แบล็ค นักโทษแหกคุกที่สามารถหนีรอดออกมาได้เมื่อก่อน เพราะเค้าเป็นทายาทคนสุดท้ายจึงมีสร้อยสัญลักษณ์อยู่กับตัว"

    "ผมว่าไม่ใช่หรอกครับ ซิเรียส แบล็คผู้ที่สามารถแหกคุกออกมาได้ จะถูกจับไว้แบบนี้ได้อย่างไร ผมว่าเป็นคนอื่นมากกว่า" ดัมเบิ้ลดอร์พยายามแก้ไขความคิดของท่าน นายกรัฐมนตรี แต่ดูท่าทาง นายกรัฐมนตรีจะไม่ได้ฟังซะแล้ว เพราะสายตาของท่านจับจ้องแต่สร้อยตระกูล แบล็ค ในใจคิดแต่ว่า 'ถ้าเอาไปขายในตลาดมืดจะได้สักเท่าไรกันน่ะ'

    ดัมเบิ้ลดอร์มองอย่างระอาในตัวชายแก่ข้างตัว

    "ตื่นแล้วหรือ" เสียงแหบแห้งน่าขนลุกดังขึ้น 

    ทั้งดัมเบิ้ลดอร์และสคริมเจอร์หันไปทางต้นเสียงทันที.....

    โครงกระดูกจากที่อยู่ข้างตัวศ.ใหญ่ กลายเป็นคนรูปร่างผอม ผมดำยาว ดูยุ่งเหยิง สายตาที่มองมาทางทั้งสองคน มองอย่างเครียดแค้น กระดูกมือและเท้าที่เคยติดอยู่ที่โซ่ล่ามไม่อยู่แล้ว พัธนาการต่างๆที่เคยจองจำร่างกายที่เคยเป็นกระดูกขาวซีด หลุดออกหมดทุกอย่าง ร่างนั้นค่อยๆเดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าคนทั้งสอง พร้อมกับจ้องอย่างอาคาต

     

    ทั้งสองต่างตกใจและขวัญหนีดีฟ่อ จากโครงกระดูกที่ไม่มีชีวิต กลับกลายมาเป็นคนที่มีชีวิต แถมดูท่าทางจะโกรธพวกเค้ามากซะด้วย 

    ติดตามชมตอนต่อไป....

     

    ****** สมองตัน(มากๆๆๆๆ มากจนถึงที่สุด) -*-

     

     ******* ไว้จะมาอัพให้อีกทีน่ะ

     

    ต้องขอโทษจริงๆค่า  T T

     

    แล้วเจอกันในโอกาสหน้าน่ะค่ะ

     

    5 ก.ค. 51

     
    href="file:///C:\Users\ENDLES~1\AppData\Local\Temp\msohtmlclip1\01\clip_filelist.xml" /> href="file:///C:\Users\ENDLES~1\AppData\Local\Temp\msohtmlclip1\01\clip_themedata.thmx" /> href="file:///C:\Users\ENDLES~1\AppData\Local\Temp\msohtmlclip1\01\clip_colorschememapping.xml" />

    รถไฟสายด่วนฮอร์กวอต์กถึงจุดหมายปลายทางที่ชานชลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่ ผู้ปกครองของเด็กๆตั้งแต่ปี1ถึงปีเจ็ดยืนรอรับลูกหลานของตนเองอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อเด็กๆเห็นหน้าผู้ปกครองของตน ก็รีบวิ่งลงจากรถไฟเข้าไปหาและพากันกลับบ้านทันที จากสถานีรถไฟที่เคยเนืองแน่นไปด้วยผู้คนเมื่อหนึ่งชม.ก่อน กลายเป็นสถานที่เงียบสงบลงทันทีเมื่อบัดนี้เหลือแต่คู่รักหนุ่มหล่อหน้าหวานนั่งอยู่บนม้านั่งข้างเสาเพื่อรอผู้ปกครองมารับ

     

    เดรก อาการดีขึ้นแล้วหรือยัง แฮร์รี่ถาม ยืนมือไปกอบกุมแก้มทั้งสองร่างตรงหน้า

     

    ดีขึ้นแล้วล่ะ หลังจากได้นอนบนตักอุ่นๆของนาย ดีขึ้นเยอะเลย เดรโกยกมือขึ้นกุมมือของแฮร์รี่ไว้อีกที พลางส่งสายตาหวานหยดเยิ้มไปให้

     

    ถ้าดีแล้วก็ปล่อยมือจากลูกชั้นได้แล้ว มัลฟอย เสียงทุ้มข้างหลังดังขึ้น พร้อมๆกับเสียงหวานที่ดังขึ้นตามมา

     

    พ่อ

     

    “นายท่าน” เด็กชายหัวบรอซทองกระเด้งตัวขึ้นมาอัตโนมัติ

     

    “ไหนพ่อบอกว่าจะให้ลูกกลับกับลอร์ดมัลฟอยไม่ใช่หรือฮะ” ร่างบางทำหน้างงเข้ามากอดเอวผู้เป็นพ่อ

     

    “ตอนแรกก็ว่างั้น แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไม่รู้น่ะสิ ว่ามีคนกล้าหลอกลูกชายแสนรักของพ่อคนนี้” พูดจบก็อดเขม่นไปทางไอ้หัวทองไม่ได้

     

    เดรโกกลืนน้ำลายเอื้อกพลางหลบสายตา เมื่อรู้สึกถึงรัศมีความเย็นที่แผ่มาจากคนใกล้ตัวร่างบาง

     

    หลังจากแกล้งแฟนลูกชายเสร็จ ก็นำเด็กๆกลับไปยังคฤหาสริดเดิ้ลทันที

     

    -=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

     

     น้อยไปไหมเนี่ย เหอๆ

    ต่อล่ะๆๆ ขอบคุณที่ยังติดตามกันอยู่น่ะค่ะ แม้ว่าคนแต่งจะโดดอยู่หลายครา -.,-**

    />

    -=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

     

    อีกสักพักพ่อเจ้าคงมา เธอไปนั่งเล่นเป็นเพื่อนกับซัลลูกชายข้าก่อนล่ะกัน เดี๋ยวข้าจะไปทำธุระสักหน่อย ดาร์คลอร์ดพูดจบก็เข้าไปหอมแก้มลูกชายก่อนจะฟลูออกไป

     

    คะ..ครับ เดรโกตอบรับอย่างเต็มใจ ถึงในใจจะอิจฉาการกระทำของดาร์คลอร์ดเมื่อตะกี้นิดนึงก็เถอะ

     

    ฮ่าๆ นายไม่เห็นต้องเกร็งขนาดนั้นเลย พ่อฉันไม่ดุขนาดนั้นสักหน่อย ซัลหัวเราะน่ารักใส่เดรโก

     

    ไม่ดุที่ไหนล่ะ ทั้งห่วงทั้งหวงที่รักซะขนาดนี้ พูดจบก็เดินไปคล้องเอวร่างบางดึงเข้ามาหอมซักฟอด

     

    พอเลยเดรก เดี๋ยวฉันขอขึ้นไปอาบน้ำหน่อย เหนียวตัวไปหมดแล้ว ร่างบางพูดจบก็เดินออกไป

     

    ร่างสูงไม่ขัดข้องจึงเตรียมตัวจะไปนั่งรอที่ห้องรับแขก แต่ก็ต้องหยุดเมื่อร่างบางหันมาตะโกนถามว่า...

     

    เดรก นายสนใจ...ไปอาบน้ำมั้ย ซัลตะโกนเสียงดังพอที่ร่างสูงจะได้ยิน

     

    เดรโกหันกลับไปอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง สายตาไปปะทะกับดวงตาสีเขียวมรกตที่ไม่ส่อแววเขินอายหรือตื่นเต้นสักนิด แต่ในดวงตากลับแทนที่ด้วยความซื่อบริสุทธิ์ ทำให้เดรโกต้องถอนหายใจ

     

    ให้มันได้อย่างนี้สิ หลงคิดว่าเป็นคำเชิญชวน...จากซัลสะอีก โธ่...ที่แท้ก็แค่ชวนไปอาบน้ำเฉยๆ เดรโกถอนหายใจอย่างเสียดาย

     

    ตกลงนายจะไปมั้ย ซัลถามเสียงเขียวหลังจากรอคำตอบจากชายตรงหน้ามานาน

     

    ไปจ้า เดรโกรีบเดินไปเคียงข้างร่างบางทันที ในใจก็คิดว่า

     

    เอาว่ะ อย่างน้อยพอเข้าห้องแล้วก็ยังมีเวลาและโอกาสอีกเยอะ ฮ่าๆๆ

     

    *-*-*-*-*-*-*-*

     

                เจ้าคืออัลบัส ดัมเบิ้ลดอร์ใช่หรือไม่ เสียงที่ไม่น่าจะดังมาจากบุรุษที่เคยเป็นโครงกระดูกขาวโพลนดังขึ้น พร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ชายชราผมขาว

     

                และเจ้าก็คือสคริมเจอร์ ฟัดจ์ ใช่หรือไม่ เจ้าของเสียงแหบแห้ง หันมาทางชายร่างท้วมหัวล้าน

     

                ทั้งสองไม่พยักหน้าและไม่ตอบโต้ เพราะยังอยู่ในอาการตกตะลึง และดูท่าทางชายลึกลับก็ไม่ต้องการคำตอบอยู่เหมือนกัน

     

                ใช่ ทั้งหมดนั้นคือพวกแกสองคน ข้าต้องขอบคุณผู้ที่ปลุกข้าขึ้นมา ท่านผู้นั้นช่างใจดีโดยแท้ ซ้ำยังมีอำนาจและพลังอันแกร่งกล้า ซึ่งตรงข้ามกับท่าน ดัมเบิ้ลดอร์....ท่านผู้นั้นได้ปลดปล่อยข้าจากขุมนรกแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่แกยัดเยียดข้ามาที่นี่ด้วยตัวแกเอง ด้วยเลห์กลเยี่ยงโจรชั่ว เสียงที่เปล่งออกมาแสดงถึงความนับถือท่านผู้นั้น และลงท้ายด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นเต็มที่

     

                ไม่ทราบว่าท่าน..คือใคร แล้วทำไมถึง...กล่าวหาดัมเบิ้ลดอร์....เช่นนั้น ความสงสัยของท่านนายกรัฐมนตรีมีมากกว่าความหวาดกลัว ทำให้พลั้งปากพูดออกไป

     

                กล่าวหารึ เจ้าบอกว่าข้ากล่าวหามันผู้นี้รึ การกล่าวหาหรือป้ายความผิดให้คนอื่นเป็นนิสัยเฉพาะกับคนชั่วเท่านั้น สายตาเคียดแค้นตวัดไปทางชายชราหนวดขาว ส่งผลให้ดัมเบิ้ลดอร์สะดุ้งทันที อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังทำอะไร คาถาไร้เสียงไม่สามารถใช้ในที่นี้ได้ เจ้าก็น่าจะรู้ไม่ใช่รึ แน่นอนล่ะ ก็เจ้าเป็นคนติดตั้งมันเองนี่เนอะ ฮ่าๆ เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งส่งผลโดยตรงกับผู้ถูกคุมขังทั้งสองให้รู้สึกถึงความอ่อนแอในตนเอง

     

                สภาพของท่านนายกรัฐมนตรีที่ไม่เคยกลัวใคร บัดนี้ได้แปรเปลี่ยนไป จากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อได้พบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้ ทางด้านดัมเบิลดอร์ถึงแม้จะแสดงถึงความขลาดแต่ก็พอจะคุมสติได้ ภายในสมองอันเฉียบแหลมของชายชรากำลังประมวลผลอย่างหนักเพื่อให้รอดออกไปจากที่นี้

     

    เสียงหัวเราะถูกแทนที่เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงสบายๆแทน

     

                แต่ข้าจะสงเคราะห์ให้ท่านหน่อยล่ะกัน ท่านนายกรัฐมนตรี ข้าจะแสดงให้ดูว่า มันเกิดอะไรขึ้นในห้องนี้บ้างเมื่อ 24 ปีก่อน เมื่อข้ายังคงอยู่ ในฐานะ......เจ้าของฮอร์กวอร์ต

     

    *****

     

    เอาขนมหน่อยไหม หรือเอาชาอุ่นๆดี มีผลไม้ที่นายชอบด้วยน้า นี่ๆช็อคโกแล็ตก็มี โธ่ ซัลเซียยกโทษให้เถอะน้า วันหลังจะไม่ทำอีกแล้ว สัญญาเลย น่ะคนดี เสียงอ้อดอ้อนดังมาจากหลังประตูไม้ที่แกะสลักเป็นรูปงูสองตัวเลื้อยไขว้กัน แต่ที่หน้าแปลกคือประตูบานนี้ไม่มีลูกบิดหรือกลอนประตูเลย

     

    ..........

     

    จากปฏิกิริยาท่าทางและการไม่มีเสียงตอบรับจากร่างบาง ยิ่งทำให้ร่างสูงใจเสียยิ่งขึ้นอีก

     

    ซัล เค้าจะไม่ทำแล้ว สัญญาเลย เดี๋ยวพาไปเที่ยวด้วย เอามั้ย ไปโลกมักเกิ้ลก็ได้ ที่นายบอกว่าอยากไปนะ น่ะๆ ดีกันน่ะ ร่างสูงพยายามทำตาปริบๆ ส่งกระแสความน่าสงสารส่งไปทางร่างบาง

     

    จ่ายทั้งหมด เสียงตอบรับจากร่างบางทำให้เดรโกรู้สึกงง

     

    นายต้องเลี้ยงฉันทั้งหมดตลอดการเดินทาง ไม่มีการยกเว้นใดๆทั้งสิ้น ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเป็นของนายคนเดียว และนายต้องตามใจฉันทุกอย่าง ซัลหันกลับมาพูดด้วยความจริงจังแน่วแน่

     

    แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบตกลงอย่างที่หวังก็ได้แต่หันหลังกลับไปงอนเหมือนเดิม

     

    ฮ่ะๆๆ เดรโกหัวเราะอย่างชอบใจ แต่มันก็ไปสะกิดต่อมอารมณ์ไม่ดีของซัลได้ทันที

     

    นายหัวเราะอะไร ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วก็กลับบ้านนายไปซะ หรือจะต้องให้ฉันไปส่งถึงเตาผิงด้วยห๊ะ ว่าเสร็จก็หันหลังไปนั่งกอดอกอีกครั้ง

     

    เหมือนกระต่ายขี้งอนจริงๆเลยแหะ น่าร้าก หึหึ  เดรโกคิดอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเขยิบเข้าไปใกล้ร่างบาง แล้วกอดจากทางด้านหลัง เอาคางเกยไว้บนไหล่บาง

     

    ตกลง ฉันรับขอเสนอทุกอย่าง นายไม่เห็นต้องงอนเลย เรื่องแค่นี้เล็กน้อย แลกกับความสบายใจของคนที่ฉันรัก ทุกเรื่องสำหรับนาย ฉันยอมได้ทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิต เพราะชีวิตฉัน...เป็นของนาย เสียงกระซิบข้างหูเรียว ทำให้ซัลเซียรู้สึกเขิลเล็กๆ แต่ในใจรู้สึกมันพองโตอย่างไรไม่รู้ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอย่างที่มันควรจะเป็น ตัวร้อนคล้ายจะเป็นไข้ก็ไม่เชิง ร่างกายอ่อนปลวกเปลียกจนต้องพิงอกแกร่ง แต่ก็พยายามควบคุมสติให้กล่าวออกมาว่า

     

    เดร ชีวิตนาย มันก็เป็นของนาย ชีวิตฉันก็เป็นของฉัน ฉันไม่สามารถเป็นเจ้าชีวิตของนายได้หรอก......แต่นายทำให้ฉันรับรู้ได้อย่างหนึ่งว่าตอนนี้...หัวใจของฉันอยู่กับนาย

     

    ซัล...เซีย ฉันอยากจะบอกกับนายว่า หัวใจของฉัน..ก็อยู่ที่นายแล้วเหมือนกันแขนแกร่งทั้งสองข้างของร่างสูงโอบกอดร่างบางอย่างหวงแหน ก้มหน้าซบกับซอกคอขาว

     

    ในตอนนั้น ทั้งสองต่างรับรู้ว่า ทั้งตัวเองและอีกคนหนึ่งต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องคอยดูแลและปกป้อง หัวใจ

     

    *****

     

    ย้อนกลับไปเมื่อ 45 นาทีก่อน ณ หน้าห้องนายน้อยของตระกูลริดเดิ้ล....




    **ต่อตอนหน้าเลยล่ะกันน่ะ** ^3^ จุ๊ฟๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×