[SF-YOOSU] The last song - [SF-YOOSU] The last song นิยาย [SF-YOOSU] The last song : Dek-D.com - Writer

    [SF-YOOSU] The last song

    โดย under wing

    เรื่องนี้เป็นตอนจบของเรื่อง คำที่ไม่ได้เอ่ย หวังว่าคนที่เคยอ่านแล้วจะเข้ามาต่อนะค่ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,211

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    1.21K

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 มิ.ย. 53 / 12:06 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

     จุดสิ้นสุดของความทรมานจากการเฝ้ารอจะเป็นยังไง เมื่อนับวันมีแต่ความท้อแท้จากความสิ้นหวัง

    ชายหนุ่มที่ทำทุกอย่างพังไปครั้งหนึ่งเขาจะสามารถแก้ไขมันได้หรือเปล่า

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      แสงแดดอุ่นๆสาดส่องลงมาในห้องสีขาวสะอาดตา แต่ก็คงขาวเกินไปจนผู้ที่เข้ามาในห้องต้องหรี่ตาลงเล็กน้อยเพื่อทำการปรับสายตาของตน ผ้าม่านสีเดียวกับห้องพริ้วไหวตามสายลมแผ่วบางของฤดูร้อน ที่วนกลับมาเป็นครั้งที่สาม ร่างของจุนซูทอดตัวยาวบนเตียงผู้ป่วยพร้อมสายระโยงยาวทั้งตัว สายที่คอยพยุงให้ร่างเล็กมีชีวิตอยู่ต่อไป
      ยูชอนเดินเข้ามาในห้องพร้อมดอกไม้ในมือเหมือนเคย เขาค่อยๆวางช่อดอกไม้ไว้ที่หัวเตียง และทอดสายตามองไปยังร่างของคนที่เขารักที่สุดที่ยังคงนอนสงบนิ่งอยู่เหมือนเดิม โดยไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาแม้สักนิด มีเพียงร่างกายที่ดูเหมือนจะผอมบางลงไปทุกวันทุกวัน นั่นทำให้การมาเยี่ยมในแต่ละครั้งยิ่งทำร้ายหัวใจของชายหนุ่มไปด้วยทุกที แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงมีความหวัง ว่าสักวัน คนที่นอนอยู่เบื้องหน้า จะลุกขึ้นมาและมอบรอยยิ้มสดใสที่เขาไม่คิดว่าชั่วชีวิตนี้จะเห็นจากคนอื่นได้ ลุกขึ้นมามอบอ้อมกอดอุ่นปลอบโยนเขาเหมือนทุกครั้งเวลาที่เขาท้อใจ และถ้าลุกขึ้นมา คราวนี้เขาจะไม่ลังเลเลยที่จะบอกว่า รัก คำที่เขาพลาดไม่ได้บอกจนวันที่เกิดเรื่อง เหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องสูญเสียคนสำคัญไปพร้อมๆกันถึงสองคน น้องเล็กของวงชางมินที่เสียชีวิตทันที และจุนซูที่เป็นเจ้าชายนิทรามาตลอด
      มือเรียวไล้ไปตามใบหน้าหวานที่ตอนนี้แก้มใสที่เคยนุ่มนิ่มกลับตอบจนสัมผัสได้ถึงโครงที่อยู่ด้านใน นิ้วเรียวไล่ไปถึงริมฝีปากอิ่มที่เคยแดงเหมือนสีเชอรี่ เหลือเพียงสีขาวซีด สุดท้ายเขาคว้าฝ่ามือเล็กขึ้นมาจุมพิตเบาๆก่อนจะดึงขึ้นมาแนบแก้มของตัวเองไว้ มืออีกข้างเอื้อมไปลูบศรีษะทุยอย่างเชื่องช้า
       
      จุนซูไม่เมื่อยเหรอ นายขี้เบื่อจะตาย นอนนานขนาดนี้แล้วไม่รีบลุกมาเดี๋ยวจะแพ้ฉันน้า 
       
      ยูชอน นายนะมันขี้เกียจ วันอากาศดีอย่างนี้ต้องไปแตะบอลดิ เฉื่อยแฉะเป็นตาแก่ไปได้
       
      ตอนนี้นายไม่ต้องลดน้ำหนักแล้ว ผอมกว่าฉันอีก
       
      ยูชอนอย่ามากินล่อดิ นายก็รู้ว่าฉันต้องอดอาหารเย็นอ่ะ ใจร้าย
       
      จุนซู ลุกขึ้นมายิ้มให้ฉันหน่อยนะ ตอนนี้ฉันเหนื่อยมากเลย  
       
      บ้า ก็นายว่าฉันว่าตอนยิ้มตาหยี แก้มป่องทุกทีเลย
       
      ฉันอยากได้ยินเสียงหัวเราะของนายจังเลย
       
      นายชอบล้อเสียงหัวเราะฉันตลอดนี่ ฉันไม่ใช่ปลาโลมานะ
       
      ชายหนุ่มนอนซบลงบนอกที่หายใจแผ่วแต่คงที่ของจุนซู และเอามือเล็กมาวางบนหัวของตัวเอง ภาพและเสียงของจุนซูยังคงวนเวียนเหมือนหนังที่ฉายซ้ำๆในหัวของเขา เขารู้ว่าถ้าพูดยังงี้ ประโยคตอกกลับของจุนซูจะเป็นยังไง แต่ไม่เหมือนกันที่ยูชอนอยากได้ยินก็เสียงแหลมเล็กของเจ้าตัว เสียงที่เขาไม่เคยรู้สึกรำคาญสักครั้ง น้ำตาที่เขาไม่เคยกลั้นได้สักครั้งเวลามาหา เริ่มปริ่มอยู่บริเวณหางตาคู่สวย ริมฝีปากอิ่มเริ่มเม้มเข้าหากันเพื่อกลั้นเสียงร้องไม่ให้รอดออกมา เขากอดร่างที่ยังคงอุ่นของร่างเล็กไว้แน่น  โดยไม่ทันสังเกตุว่าร่างที่นอนอยู่ก็มีน้ำใสๆล้นเอ่อออกมาเหมือนกัน
       
      เห็นไหม นายยังตัวอุ่นขนาดนี้อยู่เลย ลุกขึ้นมาเถอะนะ คนดี ที่รักของฉัน
       
      จุนซู ได้โปรด ฉันคิดถึงนาย คิดถึงจริงๆ จุนซู เสียงทุ่มแหบพร่าสั่นระริก
       
      แอ๊ด ! เสียงเปิดประตูดังขึ้น ยูชอนรีบลุกขึ้นมานั่งตัวตรง และทำท่าทางเหมือนเป็นปกติ และเช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว  ก่อนจะหันไปยิ้มละมัยทักทายผู้ที่เข้ามาใหม่
       
      อ้าว พี่แจจุง กับพี่ยุนโฮไหงวันนี้มาพร้อมกันได้ล่ะ 
       
      เผอิญเจอกันข้างหน้านะเนอะ แจจุงพยักเพยิดหน้ากับยุนโฮ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสองคนนี้มาด้วยกัน ตั้งแต่เกิดเรื่องทั้งสองคนก็พยายามอยู่ห่างกันทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าเขา คงกลัวเขาไม่สบายใจ และคิดมากเรื่องจุนซูอีก (แต่อย่าเลยพี่ ผมไม่อยากให้ต้องมีใครมาเสียใจเหมือนผมอีก) แต่ทำไมไม่รู้เขากลับไม่กล้าที่จะบอกทั้งสองคนตรงๆ  เมื่อยุนโฮเห็นยูชอนเงียบๆไปก็เลยพยายามเปลี่ยนเรื่อง
       
      เออ งานเป็นไงล่ะได้ข่างว่ากำลังไปได้สวยใช่เปล่า นายแต่งเพลงเก่งอยู่แล้วนิ
       
      ก็ครับเรื่อยๆ ผมแต่งเพลงก็นึกถึงเขาเนี่ยแหละ ยูชอนเหลือบมองไปที่ร่างที่นอนนิ่งอยู่อีกครั้ง การกระทำของเขาทำให้คนเป็นพี่ทั้งสองรู้สึกโหวงในใจบอกไม่ถูก
       
      เออพวกพี่มาก็ดี ผมฝากเขาแป๊บหนึ่งนะครับ ผมว่าจะไปเยี่ยมชางมินซะหน่อย พวกพี่ไปกันมารึยัง 
      ไปมาแล้ว ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพวกฉันดูให้ 
      .
      .
      .
      .
      หน้าป้ายหลุมศพที่เงียบสงบ หากแต่มีดอกไม้มากมายวางอยู่ บ่งบอกถึงว่ายังไม่ลืม ผู้คนยังคงไม่ลืมเขา เด็กน้อยฮาร์ดคอ ที่เอ่ยปากพูดทีไร มีคนต้องเจ็บทุกที แต่ก็มีความอบอุ่นเป็นกันเอง และมีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากกว่าตัวเขาหรือจุนซูซะอีก เด็กปากแข็ง ที่อดทนจนวินาทีสุดท้าย
       
      พี่มาเยี่ยมนาย ดอกไม้เต็มเลย รู้งี้ไม่ซื้อมาดีกว่าเปลือง ตอนนี้ฉันมันแค่คนแต่งเพลงตอกต๋อยคนหนึ่งเท่านั้นแหละ   ยูชอนเดินไปวางดอกไม้หน้าแผ่นหินอ่อนที่คงเย็นเหมือนร่างที่นอนอยู่ด้านล่าง เขาค่อยๆยกมือขึ้นปัดรูปภาพด้านหน้าให้สดใสขึ้น
       
      ไง เมื่อไหร่จะคืนคนของพี่สักที นานแล้วนะชางมิน พี่ไม่รู้จะอดทนได้นานเท่านายหรือเปล่า ในระหว่างที่เขายืนอาลัยให้กับน้องชายที่น่ารักอยู่นั้น เสียงๆ หนึ่งก็ปลุกเขาออกมาจากภวังค์ เสียงที่เป็นไปได้เขาภาวนาให้เป็นเรื่องดี
       
      ฮัลโหล ยูชอนพูดครับ
       
      ยูชอนรีบกลับมาเลยจุนซูเขา จุนซูอาการแย่ลงเข้าห้อง ICU ไปแล้ว 
      สิ้นประโยคร่างโปร่งวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต โดยหวังเพียงให้คนรักปลอดภัย
      อย่าเป็นอะไรไปนะจุนซู กลับมาหาฉัน อย่าไปได้โปรด 
      .
      .
      .
      .
      หมอว่าทุกคนทำใจให้ดีนะครับ เขาคงอยู่ไม่พ้นคืนนี้ ถ้ายังไงช่วยตามญาติให้เขาด้วย
       
      ตึง!  ยูชอนปล่อยตัวเองทิ้งลงกับพื้นอย่างไม่อายใคร เขาเริ่มร้องไห้ คร่ำครวญ ร้องในแบบที่ตัวเองอยากร้องมาตลอด โดยไม่ต้องกลั้นเสียงหรือกลัวใครกังวลอีกแล้ว เสียงร้องสะท้อนก้องไปทั่งโถงทางเดิน โดยมีแจจุงยืนกอดกับยุนโฮร้องไห้อยู่แบบไม่มีเสียงอยู่ด้านข้าง
       
      ฮือ ๆๆๆ จุนซูอย่าทิ้งฉันไป ได้โปรด ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าอย่าไป ฉันผิดไปแล้วขอโทษ จุนซู   ยูฮวานที่รู้เรื่องและเร่งมาโรงพยาบาลเมื่อเห็นสภาพพี่ชายเขาก็เดินเข้าไปโอบกอดร่างที่สั่นเทาและเต็มไปด้วยน้ำตาข้างหน้าอย่างไม่รอช้า ยูชอนกอดกลับน้องชายทั้งยังสะอื้นไห้อยู่
       
      ยูฮวาน พี่อดทนแล้ว พี่ ฮึก อึก อดทนมาตลอด แล้วทำไมล่ะ ทำไมจุนซูไม่กลับมา ทำไม สองพี่น้องกอดกันแน่น ยูฮวานได้เพียงแต่ลูบหลังปลอบโยนพี่ชายตนได้แค่นั้นจริงๆ
       
      แล้วคืนนั้นเหตุการณ์ที่ทุกคนสังหรณ์ใจไว้ก็เกิดขึ้นจนได้ ถึงแม้ทุกคนจะพยายามจับตาดูอยู่ขนาดไหน ยูชอนก็หายตัวไป พร้อมกับร่างของจุนซูจนได้
      .
      .
      .
      .
                      บ้านไม้ทาสีฟ้า ตัดกับหาดทรายสีขาวนวลระเอียด บ้านที่ครั้งหนึ่งคนตัวเล็กเคยใฝ่ฝันจะมีให้ได้  บ้านที่ยูชอนพยายามสร้างมันจากจินตนาการที่จุนซูเคยพูดไว้  บ้านที่ตอนนี้เจ้าของที่อยากให้มาเห็นไม่อาจมาอยู่ได้อีกแล้ว  เจ้าของที่ตอนนี้ทอดตัวนอนหลับสนิทอยู่เเต่งตัวด้วยสูทสีขาวสะอาดตา ผูกไทด์หูกระต่ายที่ดูเข้ากับเจ้าตัว เนื้อผ้าอย่างดีกอบกับการตัดเย็บที่ปราณีต ทำให้ ร่างที่ดูซีดเซียวเด่นขึ้นมาทันที ด้านข้างของจุนซูเป็นยูชอนที่แต่งตัวคล้ายกัน แต่เป็นเนคไทด์ยาว เขากำลังดีดแกรนด์เปียโนสีขาว เพลงบรรเลงที่ใช้ในงานแต่งดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งจบ แต่เขายังบรรเลงเพลงต่อไปเพลงที่เขาแต่งขึ้นมาเพื่อบุคคลที่เขารักที่สุด เพลงสุดท้ายที่เขาตั้งใจแต่งขึ้นมา เพลงสุดท้ายที่จะบรรเลงโดนมือเรียวสวยคู่นี้ 
       
                      แสงสว่างในยามเย็นส่องแสงมาที่ทั้งสอง
      ความรู้สึกเริ่มลึกซึ้งมากกว่าแต่ก่อนในส่วนลึกของหัวใจ
      สำหรับในไม่ช้า ฉันเก็บคำโกหกกับตัวเอง
      เป็นสิ่งที่สมควรแล้วที่จะอยู่คนเดียว
      แต่ตอนนี้ คุณ.... ฉันจะไม่ไปไหน


      *
      ไม่ว่าเมื่อไหร่ๆ ฉันจะให้สิ่งที่คุณค้นหา
      ไปด้วยกัน ทำลายความลังเลทุกสิ่ง

      forever love.
      เงาที่ทอดยาวกำลังจะสั้นลง
      ความรู้สึกจากสัมผัสแห่งความรัก
      ด้วยความรัก อย่างนุ่มนวล จากความปรารถนาอย่างมาก
      คุณจิตนาการอนาคตไว้แบบไหน
      ดาวดวงแรก ที่ฉันได้เห็นมันตกลงมา
      เหมือนกับที่ฉันได้จิตนาการถึงตอนที่เจอเธอตอนแรกบนท้องฟ้า
      ตอนนี้ฉันจะให้สิ่งนั้นกับคุณ
      ไม่ว่าเมื่อไหร่ๆ ฉันจะร้องเพลงเพื่อคุณ ที่รักของฉัน
      เป็นสมบัติที่ล้ำค่าในโลกนี้ เชื่อในความรัก
      คุณคือรักเดียว ตลอดไป
      ฉันสามารถสัญญากับคุณ ว่า ฉันจะปกป้องคุณไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
      เมื่อไหร่ที่ฉันจะเอาหนามในหัวใจของเราออกไป
      มาจิตนาการความฝันที่ไม่มีวันสิ้นสุด ในอ้อมกอดของกันและกัน

      ไม่ว่าเมื่อไหร่ๆ ฉันจะให้ทุกสิ่งที่คุณต้องการ
      เพียงคนเดียวในโลก เชื่อในความรัก

      (*)
      พวกเราทั้งสองเริ่มเดินหน้าต่อไปด้วยกัน
      คุณคือรักเดียวตลอดไป...
      หลังจากที่เสียงเพลงจบลง ยูชอนเดินมาสวมแหวนที่นิ้วของจุนซู ก่อนจะอุ้มร่างที่นอนนิ่งขึ้นมาแนบอก และเดินลงไปยังทะเล ที่ซัดสาดอยู่เบื้องหน้า
                      “ไปกันเถอะจุนซู เราจะไปพร้อมกัน คราวนี้ฉันจะไม่ปล่อยนายอีกแล้ว ฉันสัญญา ชายหนุ่มก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากเย็น ก่อนจะค่อยๆ เดินลงไปลึกลงไปเรื่อยๆ
                      ฉันรักนาย จุนซู
                      ฉันก็รักนายที่สุด ยูชอน
      แสงสว่างของเช้าวันใหม่ทอดยาวเรื่อยๆ สะท้อนไปยังเปียโนตัวสวยที่ออกมาตั้งอยู่ด้านหน้าบ้าน พร้อมกับโน๊ตเพลงสุดท้ายที่ปลิวกระจายไปตามสายลมฤดูร้อน

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×