คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : chapter 4 : Suho
SUHO
จนภูติน้อยต้องเหลือบตาไปมองใบหน้าน่ารักที่จ้องไปยังทิศทางตรงหน้าราวกับรอคอยอะไรบางอย่าง
มีเพียงความเงียบที่เกิดขึ้น
ภูติน้อยไม่รู้ว่าเขาควรรู้สึกยังไงกันแน่
ซูโฮเป็นใคร
ทำไมต้องสะกดเขาไว้
จะน่ากลัวแค่ไหนกัน
สีดำ
ซูโฮต้องดูน่ากลัวเหมือนสีดำแน่ๆ
เพราะเขาเองก็ไม่เคยเห็นผู้คนมากนักถึงจะสามารถจินตนาการออกว่า น่ากลัวต้องเป็นยังไง
แว่วเสียงกรุ๊งกริ๊งมาในสายลมพร้อมกับลมเย็นๆที่พัดพาละอองหิมะปลิวว่อนอยู่ในอากาศเหนือขึ้นไป แต่ก็เพียงครู่เท่านั้นเมื่อเสียงกรุ๊งกริ๊งที่แสนไพเราะดังขึ้นอีกครั้ง ละอองหิมะเหล่านั่นก็ร่วงลงมาสู่พื้น
บางส่วนก็ตกลงบนตัวของเขา สองร่างของผู้ที่นั่งอยู่บนเตียงกระโดดลงไปยืนบนพื้น ก่อนจะเอื้อมมือไปจับขอบผนังที่ภูติน้อยสังเกตว่ามันสูงแค่คางของทั้งสองเท่านั้น
เจ้าของดวงตากลมโตค่อยๆยืดตัวขึ้นจนหัวกลมๆโผล่ พ้นจากผนังนั้น
ภูติน้อยได้แต่มองตามท่าทางแปลกๆนั้นก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆดังเข้ามาใกล้
ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆถึงรู้สึกใจเต้นแปลกๆ ราวกับมันอยากจะออกมาจากอกเสียอย่างนั้นแหละ
"เค้าตื่นแล้วล่ะ ซูโฮ" ร่างที่เกาะอยู่กับผนังร้องบอกอย่างดีใจ ก่อนจะถอยกลับมานั่งลงข้างๆเขา ตามด้วยร่างเล็กอีกร่างที่ยังคงยิ้มแป้น
ภูติน้อยทั้งกลัวทั้งอยากเห็น
เจ้าของชื่อซูโฮ จะน่ากลัวไหมนะ
จะฉีกเขาเป็นชิ้นๆรึเปล่า
"ตื่นแล้วเหรอ" เสียงนุ่มๆดังขึ้นพร้อมใบหน้าขนาดใหญ่มหึมาที่ก้มลงมามองเขา ภูติน้อยตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นความใหญ่โตของใบหน้านั้น
ยักษ์ ซูโฮคนนี้เป็นยักษ์แน่ๆ
จุนมยอนเผยรอยยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นท่าทางตื่นตกใจของภูติน้อยตรงหน้า ใบหน้าน่ารักๆขาวซีดเสียยิ่งกว่ากระดาษ ไหนจะดวงตาที่เบิกกว้างอย่างตกใจ นี่ถ้าเขาไม่สะกดภูติน้อยตนนี้ไว้แล้ว คาดว่า ภูติน้อยตรงหน้าคงกระโดดหนีเขาไปแล้วเป็นแน่
คงเพราะยังไม่เคยเห็นมนุษย์ใกล้ๆโดยที่ตัวเองยังอยู่ในร่างเล็กจิ๋วแบบนั้นสินะ
"ไม่ต้องกลัวฉันหรอกนะ" เสียงนุ่มๆ กับรอยยิ้มที่ดูจริงใจและเป็นมิตรทำให้ภูติน้อยรู้สึกปลอดภัยขึ้นอย่างแปลกประหลาด
กระพริบตาปริบๆตอบกลับไป แล้วก็ต้องหลับตาปี๋เมื่ออีกฝ่ายใช้นิ้วขาวๆเอื้อมมาแตะบนหน้าฝากของเขา
ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างอาการเจ็บที่คอก็เริ่มบรรเทาลง อีกทั้งดูเหมือนเขาจะกลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้งนึงแล้ว ภูติน้อยขยับแขนขาของตัวเองอยู่บนเตียงเมื่อเจ้าของมือใหญ่ยักษ์เอานิ้วออกจากหน้าผากของเขา
รู้สึกดีจัง
ภูติน้อยขยับตัวลุกขึ้นนั่งโดยมีความช่วยเหลือจากเจ้าของดวงตาเรียวเล็ก
ใช้สองมือจับสองแขนสองขาตัวเองไปมาราวกับกลัวว่ามันจะใช้การไม่ได้อีก
"ดูเหมือนจะแข็งแรงขึ้นแล้วสินะ"
ซูโฮคนนั้นยังคงเอ่ยต่อไปด้วยรอยยิ้มปากสีแดงสดที่ตัดกับผิวขาวราวหิมะ
สวย
เขารู้สึกว่าคนตรงหน้าสวยเหลือเกิน เหมือนถูกพระเจ้าปั้นแต่งมาเป็นอย่างดี
พระเจ้าเริ่มจะลำเอียงแล้วสิ
ฟันเล็กๆขบลงบนริมฝีปากของตัวเอง ขณะที่เบนสายตากลับมายังมือของเขาที่ถูกจับไว้แน่น
"ตอนซูโฮไปเจอนาย เค้าบอกว่านายเกือบจะหลับไปตลอดกาลแล้วล่ะ ดีที่เขาช่วยนายเอาไว้ได้ทัน แล้วสะกดนายเอาไว้ไม่งั้นป่านนี้นายคงไม่ได้ตื่นขึ้นมาแบบนี้หรอก อ้อ! ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ฉันชื่อแบคฮยอนนะ" รอยยิ้มน่ารักจากแบคฮยอนเรียกรอยยิ้มให้ปรากฎบนหน้าภูติน้อยได้ไม่ยาก
"ส่วนฉันชื่อ คยองซู เป็นน้องของแบคฮยอน" เจ้าของดวงตากลมโตที่บอกว่าชื่อคยองซูพูดขึ้น "แล้วนั่น ชื่อจุนมยอน" นิ้วเล็กๆสั้นๆชี้ไปที่เจ้าของใบหน้าขาว
ภูติน้อยขมวดคิ้วมุ่น
"ล้า .. อื้ม แล้วซูโฮคือตัวอะไรเหรอ" ภูติน้อยพยายามหาเสียงของตัวเองที่หายไป ก่อนจะเอ่ยถามประโยคที่เรียกเสียงหัวเราะจากร่างเล็กๆสองร่างทันที ผิดกับจุนมยอนที่หุบยิ้มฉับ
"คือ จุนมยอนน่ะ เขาเป็นผู้พิทักษ์ภูติอย่างเรา พวกเราเลยเรียกเขาว่าซูโฮ"
"ภูติเหรอ" ภูติน้อยถามเสียงตื่นเต้น ในที่สุดก็เจอภูติที่เหมือนๆกับเขาสักทีทำไมเขาถึงไม่ทันคิดเลยนะว่าทั้งสองเป็นภูติเหมือนกัน คงเพราะมัวแต่ตกใจอยู่ละมั้ง ภูติน้อยคิดเองสรุปเองก่อนจะพยักหน้าน้อยๆกับตัวเอง
"ใช่พวกเราคือภูติแห่งฝันและแสงสว่าง"คยองซูเอ่ยบอก
"แสงสว่างเหรอ นายควบคุมแสงสว่างได้เหรอ"
แบคฮยอนส่งยิ้มมาให้น้อยๆ ก่อนจะแบมือมาตรงหน้าภูติน้อยที่จ้องมองอย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตากลมโตที่ดำขลับจ้องมองอย่างสนใจ ปากเล็กจิ้มลิ้มอ้ากว้าง เมื่อก้อนกลมๆที่ส่องแสงสว่างปรากฏอยู่เหนือฝ่ามือของแบคฮยอน
"ว้าว เก่งจัง" ร้องพลางปรบมือเปาะแปะอย่างดีใจ เรียกรอยยิ้มจากจุนมยอนได้เป็นอย่างดี
แบคฮยอนมองรอยยิ้มกว้างของร่างเล็กตรงหน้า รู้สึกหัวใจของเขาจะเต้นแรงเพราะรอยยิ้มนั้น ที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครชมเขาแบบนี้เลย อำนาจในการควบคุมแสงของเขาไม่ได้พิเศษเหมือนกับความสามารถของคยองซู หรือเทียบไม่ได้เลยกับจุนมยอน
"แต่ฉันไม่รู้เลยว่าฉันทำอะไรบ้าง" ใบหน้าเศร้าๆที่มาแทนที่รอยยิ้ม กับดวงตาที่หลุบลงต่ำทำให้แบคฮยอนต้องเงยหน้าขึ้นไปมองจุนมยอนที่มองมาที่เขาอย่างมีความหมาย
"นายเป็นภูติเกิดใหม่ก็แบบนี้แหละ ต้องใช้เวลากว่าที่เราจะรู้ว่าเราทำอะไรได้" คยองซูพูดขณะที่ยกมือขึ้นลูบหัวภูติน้อยที่นั่งหน้าเศร้าตรงหน้า
เส้นผมสีชาที่นุ่มลื่นทำให้เขารู้สึกดีอย่างแปลกประหลาด ตั้งแต่เด็กมีแต่เขาที่มักถูกลูบหัวแบบนี้เป็นประจำ พอได้ทำกับคนอื่นแบบนี้ เหมือนเขากำลังมีน้องอีกคนเลย
"นี่ เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้วน่า มาดูโชว์พิเศษจากฉันเถอะนะ"
พูดจบแบคฮยอนก็ยื่นมือออกมาตรงหน้าภูติน้อยที่ทำหน้าเศร้า วาดมือไปมาในอากาศ เมื่อนิ้วเล็กๆลากผ่านอากาศก็เกิดเป็นลำแสงสีขาวสีทองเส้นเล็กๆ กระจายอยู่ในอากาศ ทุกเส้นดูเหมือนมีชีวิตชีวาเมื่อมันหมุนวนไปมา แบคฮยอนแบบมือขวาออก เส้นแสงนับร้อยเส้นต่างก็พุ่งมารวมกันอยู่เหนือมือเล็กๆนั้น
ท่ามกลางความตื่นเต้นของเจ้าของแก้มกลม ปากเล็กๆอ้ากว้างเมื่อเส้นสีทองและสีขาวเหล่านั้นรวมตัวกันเป็นก้อนกลมๆ ก่อนจะมีบางส่วนยืดยาวออกมา ภูติน้อยขยับตัวเขาไปใกล้เพื่อจะมองมันให้ชัดขึ้น
เหมือนบางอย่างที่เขาเคยเห็น
หูยาวๆสองอันกับลำตัวกลมๆ ขาทั้งสี่ที่สั้นๆ กับหางกลมๆ
"เจ้าหูยาว"
อุทานออกมาอย่างแปลกใจ เมื่อ เจ้าหูยาวที่เขาเคยเห็นบนพระจันทร์กำลังกระโจนไปมา ตรงหน้าเขา ทันทีที่หลุดคำอุทานนั้นออกไป เจ้าหูยาวที่ว่าก็หันมามองเขา ร่างที่เป็นแสงสีขาวหมุนวนไปมาในอากาศ หูยาวๆที่โดดเด่นลู่ไปตามแรงลม เมื่อร่างนั้นกระโดดอยู่ในกาศ ก่อนจะขยับเข้ามาหาภูติน้อย
มือเล็กยกขึ้นหมายจะเอื้อมไปสัมผัสเจ้าหูยาว แต่ก็คว้าได้เพียงอากาศ ภูติน้อยเบะปากทันทีที่รู้ว่าไม่สามารถสผัสกับเจ้าหูยาวได้
แบคฮยอนมองใบหน้าที่น่ารักเพียงครู่ ก่อนจะบังคับ กระต่ายที่เขาเสกขึ้นมาให้ขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าของภูติน้อย หัวกลมๆของมันซุกอยู่ตรงซอกคอของร่างที่นั่งอยู่
ความอบอุ่น กับสัมผัสแปลกๆทำให้ภูติน้อยหัวเราะออกมาอย่างน่าฟัง
จุนมยอนมองรอยยิ้มที่ระบายบนใบหน้าภูติตัวน้อย ก่อนจะหันไปมองกระถางไฮเดรนเยียที่ค่อยๆออกดอกที่ละนิดๆจากกิ่งเล็กๆ แตกออกเป็นช่อดอก กลีบดอกสีม่วงอมฟ้าค่อยๆบานออก จนมีแต่ดอกบานสะพรั่งเต็มต้น
To be with you
ไม่รู้ว่าเวิ่นเว้ออะไร
เรื่องนี้ไปช้าๆ แบบค่อยเป็นค่อยไปแล้วกันเนอะ
อาจไม่สนุก แต่ขอบคุณทุกคนเลยจริงๆที่ยังอ่านกันอยู่
ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น