ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] To Be With You

    ลำดับตอนที่ #9 : chapter 8 : The thief?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 184
      2
      19 ม.ค. 57



    The thief?


    ร่างสูงประคองกระถางไฮเดรนเยียที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งไว้ในมือข้างหนึ่ง ใช้มืออีกข้างควานหากุญแจห้องในกระเป๋ากางเกงแล้วจัดแจงไขประตูห้องด้วยมือข้างเดียว

     

     เวลาเกือบสามนาทีที่ใช้ไปกับการเปิดประตูห้องทำให้เขาได้แต่ส่งเสียงในลำคออย่างขัดใจกับมือที่เหมือนไร้กระดูกของตัวเอง

     

     คงเพราะเขาดื่มเข้าไปเยอะ

     

    แต่ก็ยังมีสติพอที่จะพาร่างตัวเองเดินขึ้นบันไดอพาร์ทเม้นมาถึงสี่ชั้นได้

     

     ใช้นิ้วเรียวคลำหาสวิตช์ไฟอย่างสะเปะสะปะทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในห้องได้สำเร็จ แต่แล้วก็คว้าน้ำเหลว สุดท้ายเลยตัดสินใจวางกระถางต้นไม้ที่เขาสู้อุตส่าห์แบกมันกลับมาจากปาร์ตี้วันเกิดเอาไว้ข้างประตูและคงเป็นเพราะในห้องที่มืดเกินไป เสียงกระถางดินเผาที่กระทบกับพื้นห้องเลยออกจะดังไปสักหน่อย จนคนวางถึงกับสะดุ้ง หลังจากจัดที่จัดทางให้กับกระถางเรียบร้อยแล้วก็เดินคลำทางในความมืด อาศัยความเคยชินที่อยู่ที่นี่มาเกือบสามปีพาตัวเองไปที่เตียง

     

     หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวันบวกกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มมาจากปาร์ตี้วันเกิดมันพาลจะทำให้เขารู้สึกว่าโลกหมุน ตอนนี้เขาคิดถึงแต่หมอนนุ่มๆกับเตียงอุ่นๆ จัดแจงถอดถุงเท้าออกก่อนค่อยๆทิ้งตัวลงบนเตียงนอน เปลือกตาที่รู้สึกว่ามันหนักขึ้นทำให้เขาไม่แม้แต่จะคิดลุกขึ้นไปอาบน้ำ อาการโลกหมุนดูจะทุเลาลงเมื่อหัวถึงหมอน พร้อมกับเปลือกตาทั้งสองข้างค่อยๆปิดลงทีละนิดพร้อมกับสมองของเขาที่ทำงานช้าลงเรื่อยๆ

     

    และก่อนที่เปลือกตาจะปิดสนิท อะไรบางอย่างก็เคลื่อนเข้ามาอยู่ในมุมมองสายตา

     

     บางอย่างที่ดูขาวๆกลมๆ

     

     กับตาคู่โตที่กระพริบปริบๆอยู่ตรงหน้า

     

    จะเป็นอะไรก็ช่างมันก่อนละกัน

     

     เพราะตอนนี้เขาง่วงเกินกว่าจะคิดอะไรแล้ว

     

     

     

    To be with you

     

     

    เสียงลมหายใจสม่ำเสมอจากร่างสูงที่นอนแผ่ทำให้ร่างที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนเตียงยู่ปากด้วยความขัดใจ นิ้วเล็กแตะลงบนขนตายาวๆของคนที่กำลังนอนหลับอย่างเบามือ

     

    "ขนตายาวจัง" ไม่พูดเปล่าแต่ภูติตัวเล็กกลับก้มลงมาจนใบหน้าชิดกับใบหน้าหวานของอีกคน ปากกลมเป่าลมอุ่นๆไปที่ขนตายาวๆนั้น ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างน่าฟังเมื่อคนที่นอนอยู่บนเตียงขมวดคิ้วมุ่น พลางพลิกตัวหนี

     

    "ขอบคุณนะคุณเจ้าของ ที่ทำให้ฉันกลับมาตัวโตได้อีกแบบนี้" มือเล็กๆเอื้อมไปแตะแก้มนุ่มของคนที่นอนหลับก่อนจะจรดริมฝีปากนุ่มตามลงไป

     

    "นายตัวไม่หอมเหมือนซูโฮเลย" ยกมือน้อยๆของตัวเองขึ้นมาบีบจมูก พลางใช้นิ้วเล็กๆเขี่ยแก้มนุ่มของอีกฝ่าย ดวงตาคู่กลมจับจ้องไปยังใบหน้าของคนตรงหน้า แม้จะมืดมากแต่ภาพใบหน้าของคนผู้นี้กลับปรากฏชัดในสมองของเขา

     

    "นายรู้ไหมคุณเจ้าของ ว่าภูติร้องไห้ไม่ได้ ภูติไม่มีน้ำตา แต่พอเจอนายครั้งแรกนายก็ทำให้ฉันอยากร้องไห้ จนถึงตอนนี้ก็เหมือนกันแล้วความรู้สึกนี้มันทรมานมากๆเลยนะ มันเจ็บตรงนี้" นิ้วเล็กๆจิ้มลงบนหน้าอกข้างซ้ายของคนที่นอนหลับตรงตำแหน่งของหัวใจ ก่อนจะหมุนปลายนิ้วเล่นเป็นวงบนเสื้อเชิ้ตเนื้อดี

     

    "เจ็บจนบอกไม่ถูกเลยล่ะ รู้แค่ว่ามันคิดถึง คิดถึงมากๆ นายน่ะเป็นใครกันแน่นะ ถึงทำให้ฉันเป็นแบบนี้ รู้ไหมตอนฉันเกิดมาบนโลกนี้ มันเหงามากเลยนะ ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครมองเห็นฉันเลย มีแค่เจ้าหนอนตัวเดียวที่อยู่เป็นเพื่อนกัน จนได้มาเจอกับซูโฮล่ะ"

     

    ภูติน้อยค่อยๆขยับตัวลงไปนอนลงไปนอนข้างๆคนที่ถูกบ่นว่าตัวไม่หอม "ซูโฮเป็นเทพด้วยล่ะ ชื่อว่าจุนมยอน แล้วฉันก็มีเพื่อนน่ารักอีกสองตน ชื่อคยองซูล่ะ คยองซูเป็นภูติแห่งความฝัน แบคฮยอนเป็นภูติแห่งแสง พวกเขาเหมือนเป็นครอบครัวของฉันเลยนะ ตอนนี้นายก็เป็นครอบครัวของฉันด้วยเหมือนกัน เรื่องของฉันมันก็มีแค่นี้แหละ ไว้วันหลังนายเล่าเรื่องของนายให้ฉันฟังบ้างนะ สัญญานะ" เอื้อมมือเล็กๆไปคว้ามือของอีกคนขึ้นมาก่อนจะทำการเกี่ยวก้อยสัญญา

     

    "รีบๆตื่นนะ ฉันอยากให้นายมองเห็นฉันเร็วๆจัง"

     

     

     

    ******* ******* *******

     

    เสียงกุกกัก เหมือนกับใครกำลังรื้อของทำให้ผมสะดุ้งตื่น พอดึงมือถือออกมาดูเวลา ตอนนี้ก็ปาเข้าไปตีสามแล้ว

     

     ตุ้บ!!!!

     

     เสียงอะไรบางอย่างตกพื้น ทำให้ผมได้สติ เหมือนผมได้ยินเสียงกุกกักดังมาสักพักก่อนที่ผมจะสะดุ้งตื่น แล้วเมื่อกี๊นี้มันเหมือนมีอะไรตกอีก

     

     ผมหรี่ตาเพื่อมองให้ชัดขึ้นในความมืด ตอนนี้มีเพียงแสงไฟจากเสาไฟด้านนอกเท่านั้นที่ส่องแสงสว่างผ่านช่องผ้าม่านเข้ามาในห้อง

     

     ผมเอื้อมมือไปหยิบไม้เบสบอลจากใต้เตียง อาวุธคู่ห้องอย่างเดียวที่พอจะหาได้ในเวลานี้ ผมเคลื่อนตัวลงจะเตียงให้เบาที่สุด ก่อนจะเผ่นไปยืนชิดฝาผนัง เสียงกุกักยังคงดังมาเป็นระยะๆจากในห้องครัว

     

    ถ้าผมจำไม่ผิดถึงผมจะเมามากแต่ก็ไม่ลืมที่จะล็อคประตูก่อนทุกครั้ง

     

     บางทีอาจเป็นไอ้พวกย่องเบาที่แอบเข้ามาขโมยของล่ะมั้ง

     

     ผมขยับเข้าไปใกล้ห้องครัว ถึงแม้อากาศจะเย็นแต่มือที่กำไม้เบสบอลเอาไว้กลับชื้นไปด้วยเหงื่อ บวกกับหัวใจที่เต้นรัว ไม่อยากจะยอมรับนักหรอกว่ากำลังกลัว เพราะถึงผมจะเป็นผู้ชายแมนๆ แต่เชื่อเถอะเกิดมาผมยังไม่เคยเผชิญหน้ากับพวกย่องเบาแบบนี้เลย

     

     ฟังดูจากเสียงมันคงมีคนเดียว ถ้ารับมือคงทำได้ไม่ยาก

     

     แต่ถ้ามันมีปืนนี่สิคงลำบาก

     

     ไม้รึจะไปสู้ปืนได้

     

     ผมค่อยๆชะโงกหน้าเข้าไปในครัว มันมืดมากกว่าในห้องนอนของผม แต่มันก็ไม่ยากเกินไปที่ผมจะมองเห็นเงาตะคุ้มๆของไอ้หัวขโมยเพราะชุดสีขาวที่มันใส่อยู่ ผมก้าวเท้าให้เบาที่สุดจนเข้าไปอยู่ในระยะที่พร้อมจะฟาดมัน

     

    "เฮ้ย หยุดนะ/อะ..."

     

     โดยไม่รีรอผมฉวยโอกาสที่ไอ้หัวขโมยกำลังหันมา รัวฟาดไม้เบสบอลลงไปที่ขาของมัน ตามด้วยที่ไหล่ กลางหลัง ผมง้างมือจะฟาดที่หัวของมันแต่เปลี่ยนใจเมื่อเห็นมันทรุดลงไปนอนกองอยู่บนพื้น แล้วส่งเสียงร้องโอดโอยที่ฟังดูน่าสงสาร

     

     แหง๋ล่ะ ก็ผมฟาดมันไปสุดแรงเกิดเลย

     

     ผมใช้เท้าเขี่ยมันที่นอนกองอยู่บนพื้น พอแน่ใจว่ามันสิ้นฤทธิ์แล้ว ผมเลยค่อยๆถอยหลังออกมา ใช้มือควานหาสวิตซ์ ก่อนจะกดเปิดไฟ เพื่อดูหน้าไอ้หัวขโมยที่เข้ามางัดห้องผม

     

     แต่ทันทีที่ไฟในครัวสว่าง มันกลับไร้วี่แววของไอ้หัวขโมยนั่น

     

     บ้าน่า

     

     ก็ผมมองมันอยู่ตลอดเวลา

     

     แล้วในครัวก็ไม่มีที่พอจะให้มันซ่อนด้วย ผมหันหลังแล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอน บางทีมันอาจใช้ช่วงที่ผมเผลอวิ่งหนีมาจากห้องครัว ผมเปิดสวิตซ์ไฟ แต่ในห้องกลับว่างเปล่า

     

     ใต้เตียง....

     

    ผมก้มลงมองดูที่ใต้เตียง ในมือยังกำไม้เบสบอลไว้แน่น ถ้าเผื่อมันอยู่ใต้เตียงจริง ผมก็พร้อมจะฟาดมันให้หัวแตกแน่

     

     แต่สิ่งที่พบกับเป็นเพียงความว่างเปล่า ผมลุกขึ้นแล้วตรงไปยังตู้เสื้อผ้า กระชากมันเปิดออก แต่ก็ไม่มีร่างของหัวขโมยนั่น ผมวิ่งออกจากห้องนอนแล้วตรงไปยังประตูหน้าห้อง ลองหมุนลูกบิดประตูดู แต่จนถึงเมื่อกี๊ประตูก็ยังล็อคอยู่ ผมเปิดไฟทุกดวงภายในห้องพัก หาทุกซอกทุกมุม แต่ก็ไร้วี่แววของหัวขโมยนั่น หน้าต่างในห้องนอนก็ปิดสนิทไม่มีรอยงัดแงะ ผมทิ้งตัวลงบนโซฟาสีน้ำตาล ก่อนจะโยนไม้เบสบอลไปยังโซฟาอีกตัว

     

    มันจะเป็นไปได้ยังไง

     

     ที่คนๆนึงจะหายไปจากห้องของผมอย่างไร้ร่องรอย

     

     

    To be with you

     

     

    "แกเมา แล้วตาฝาดแล้วแหละ" ชานยอลแสดงความคิดเห็นหลังจากที่นั่งเงียบๆฟังผมเล่าเหตุการณ์ประหลาดเมื่อคืนนี้ ก่อนจะโยนขวดน้ำพลาสติกมาส่งให้ผม ยังดีที่ผมคว้ามันไว้ได้ทันก่อนที่มันจะฟาดหน้าผม "อ่ะ กินซะ เผื่อจะได้สร่างเมา"

     

     "เมาบ้าอะไรวะ ฉันเห็นเต็มๆสองตาเลยนะ" ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้เมาจนเห็นภาพหลอนไปเอง

     

    "ละเมอรึเปล่าวะ มันมีนะ ที่แบบละเมอแล้วคิดว่าเป็นเรื่องจริง" แล้วผมก็มั่นใจว่าผมไม่ได้ละเมอด้วย

     

    ผมหันไปทำหน้าเบื่อใส่จงอินก่อนจะหมุนฝาขวดแล้วกรอกน้ำเย็นๆลงคอ รู้สึกหงุดหงิดที่จับขโมยไม่ได้แล้วจู่ๆมันยังหายไปอีก

     

    "รึจะเป็นผีวะ" ชานยอลยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม ก่อนจะทำตาโต ซึ่งปกติมันก็โตอยู่แล้วพอทำแบบนี้ ผมว่ามันน่ากลัวเหมือนผีจริงๆ

     

    "ไอ้บ้า" ผมว่าเข้าให้ แล้วใช้น้ำที่เหลือในขวดสาดใส่หน้าเขา จนไอ้เพื่อนหูกางร้องโวยวายแล้วยอมถอยกลับไปนั่งดีๆเหมือนเดิมนั่นแหละ

     

    "เออ ก็เป็นไปนะได้" จงอินที่เพิ่งหยุดหัวเราะเอ่ยขึ้น "แกบอกว่าในห้องไม่มีรอยงัดแงะ แล้วของก็ไม่มีอะไรหาย เป็นไปได้ไหมวะ ว่าไอ้ที่แกเห็นเมื่อคืนมันไม่ใช่คน"

     

    สีหน้าจริงจังของจงอินทำให้ผมหยุดคิยังมีบางเรื่องที่ผมยังไม่ได้เล่าให้เพื่อนสองคนฟัง

     

    เมื่อคืนบนพื้นในห้องครัวมีดอกไม้สีม่วงอ่อนร่วงอยู่ ดอกไม้ที่ผมจำได้ว่าผมแบกมันขึ้นมาบนห้อง

     

     ดอกไฮเดรนเยีย

     

    to be continued





    อยากรู้กันสินะคะว่าคุณเจ้าของเป็นใคร

    เก็บไว้รู้พร้อมภูติน้อยละกันนะคะ แต่เดาไม่ยากเลยจริงๆนะ

    แล้วจะรีบมาต่อนะคะ คือช่วงนี้รู้สึกภาษามันไม่ลื่นเลย

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
    :-Daisy ✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×