ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอสตอนทายาท 3 แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #25 : เดอะเมจิคเชี่ยนออฟทริสทอร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.29K
      1
      21 ก.ย. 49

    21

    เดอะเมจิคเชี่ยน ออฟทริสทอร์

     

                ปล่อย

     

                คาเรนทรงร้องบอกเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับ แต่กว่าจะสะบัดหลุดจากมือใหญ่ของอีกฝ่ายสำเร็จ ก็เมื่อต่างคนต่างมาหยุดหอบแฮ่กกันนอกเมืองกันแล้วนั่นเอง

                ไอ้หมอนี่.....แรงเยอะจริง

     

                ใครอยากจับเรานักเล่า โวยวายมาตลอดทาง

     

                อีกฝ่ายก็อุตส่าห์เถียงทั้งที่ยังมีเสียงหอบปนเสียงตะคอก ก่อนจะทิ้งตัวลงกับพื้น และเอนหลังพิงต้นไม้อย่างเหนื่อยอ่อน ปล่อยให้วรองค์สูง แต่สูงน้อยกว่าอีกฝ่ายถนัดใจจำต้องยืนเก้ๆกังๆอย่างไม่รู้ควรทำอย่างไร ไอ้เหนื่อยก็เหนื่อย แต่จะให้ประทับนั่งข้างคนบังอาจถือวิสาสะลากพระองค์มาตั้งไกลนั้น ไม่มีทางเสียล่ะ

     

                เอ้า อยากยืนก็ยืน

     

                ดวงตาสีเขียวเหลือบมองขึ้นมาอย่างรู้สึกรำคาญนัก ก่อนหลับตาลงอย่างอยากจะพักผ่อนเต็มทน

                แล้วคาเรนผู้มีพระทัยร้อนแต่มักทรงฟังเหตุผลเสมอ ก็ถึงกับกำหัตถ์กัดทนต์กรอดด้วยความรู้สึกทรงอยากตะบันหน้าคนเบื้องพักตร์นี้ให้โดนจังๆสักหมัด โทษฐานที่บังอาจหลายสถานอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน

                ตอนแรกว่าไงนะ.....

     

                ยืนบื้อมันตรงนั้น เดี๋ยวก็ได้ถูกฟันหัวแบะหรอก

     

            แล้วตอนหลัง....

     

                ใครอยากจับเรานักเล่า โวยวายมาตลอดทาง

     

            หน็อย ใครเขาขอให้ลากมากันล่ะ คนอย่างคาเรน วาเนบลี ไม่เคยขอร้องใคร และไม่เคยหนีใครหน้าไหนทั้งนั้น อย่าว่าแต่เป็นคนที่บังอาจทำอำนาจบาดใหญ่ สร้างความวุ่นวายภายใต้การปกครองของท่านพ่อในคาโนวาลเลย

                แถมยังมาหาว่าบื้อยืนเป็นเป้าล่อดาบอีก...มันเองนั่นแหละที่ก่อเรื่องเอาไว้แล้ววิ่งหนีหน้าตั้งมาทั้งอย่างนี้

                ไอ้บ้าเอ๊ย....อย่าให้อยู่ในฐานะเจ้าชายนะ

                พ่อจะสั่งประหารฐานลบหลู่เบื้องสูงเสียเลย

     

                เอ้า นั่ง นั่ง นั่ง นั่งข้างๆกันนี่แหละ....ฉันอนุญาต

     

                เนตรสีน้ำตาลสวยถึงกับฉายรอยกริ้ววิบวับ แต่คนมองกลับเอียงคอแล้วบอกมาเพียงว่า

     

                ว้าว ไอ้หนู ตาสวยนี่

     

     

                บังอาจ.....

                โอหัง.....

                เจ้าเล่ห์.....

                ขี้ตู่....

                ครบในตัวหมอนี่หมดเลย.....เรย์ ไรซา เดอะเมจิคเชี่ยน ออฟทริสทอร์คนนี้

                เมจิคเชี่ยน ที่ไม่ได้แปลว่านักเวทย์

                แต่แปลว่ามายากร

    โธ่เอ๊ย   แล้วยังทำเป็นแนะนำตัวเสียโก้หรูพลางคุยว่าเดินทางเปิดการแสดงมาแล้วทุกแว่นแคว้น

     

    ว่าแต่เราเถอะ เป็นใคร ชื่ออะไร มาจากไหนล่ะ

     

    คาเรนไม่ทรงอยากจะตรัสตอบสักคำ จึงผินพระพักตร์ไปทางอื่นอย่างไม่ใส่พระทัย ปล่อยให้คนรอฟังกระฟัดกระเฟียดไปตามประสา

     

    เอ้อ ดูแน่ะ ชวนให้นั่งก็ไม่นั่ง พอถามก็ไม่ตอบ

     

    เจ้าชายคนสำคัญของคาโนวาลทำกรรณทวนลมได้อย่างดี ก่อนดำริขึ้นมาได้ว่าท่านเสนาฯและสาวใช้คนสวยป่านนี้คงกำลังหาองค์เองให้วุ่น เพราะตอนเกิดเหตุอลหม่านนั้น ต่างหลงกันไปคนละทางภายในเวลาอันสั้น แล้วธุระอะไรที่พระองค์ต้องมาคุยไร้สาระกับคนต้นเหตุความวุ่นวายอยู่แบบนี้

     

    กลับล่ะ

     

    ว่าแล้วก็หมุนวรองค์จากไป เพียงแต่....เพิ่งเสด็จได้เพียงสองสามก้าว เสียงของคนเบื้องพระขนองก็ลอยมา

     

    เฮ้ย ไอ้หนู เล่นตัวจริง ทำอย่างกับตัวเองเป็นเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ไปได้

     

                เนตรงามแต่ดุจัดอย่างที่เคยใช้กับทุกคนได้ผล ยกเว้นไอ้หมอนี่หันมาสบอีกครั้ง ก่อนย่างบาทสามขุมเข้าไปอย่างทรงเหลืออดเข้าจริงๆ

                แล้ว........

                ทรุดลงประทับนั่งด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้

     

     

                 ถ้า....ตอนนี้พระองค์สามารถประกาศออกมาได้ว่าเป็นเจ้าชายคาเรนแห่งคาโนวาล

                การเสด็จกลับมาครั้งนี้คงไม่ได้ทรงทำเพื่อจะมานั่งคุยด้วย แต่คงทำให้รู้ฤทธิ์ว่าการลบหลู่เบื้องสูงหลายต่อหลายหนนั้นเป็นยังไง

                แต่เอาเถอะ เพื่อรักษาความลับ และเพื่อให้เห็นว่าพระองค์เป็นเพียงเด็กหนุ่มอนาถาคนหนึ่งจริงๆ

                คุยด้วยหน่อยก็ได้

                ไหนๆก็ไหนๆ จะได้ถามเสียเลยว่าคทาสีทองนั่นเป็นของดีจริงใช่หรือเปล่า และไอ้ที่สะกดผู้คนเสียเคลิบเคลิ้มน่ะเป็นเวทมนตร์ ไม่ใช่มายากลอย่างที่พระองค์ทรงสงสัยใช่หรือไม่

            ถ้าใช่ แล้วสนุกตรงไหนที่ต้องคอยทำเป็นวณิพกผู้ยากจนแบบนี้

    หรือจะสนุกจริง?

     

            เอ้า จะบอกได้รึยังว่าเราเป็นใคร ชื่ออะไร มาจากไหน

     

                เคเรส ฟาเรล เดอะวากาบอนด์ ออฟคาโนวาล

     

                ทรงดำรัสสั้นอย่างโกหกแบบขอไปที แต่อีกฝ่ายกลับอุทานอย่างแปลกใจ

     

                ฮ้า นามสกุลดังของท่านเสนาบดีเมนิส แล้วทำไมถึงมาเป็นนักพเนจรร่อนเร่อย่างนี้

     

                พี่ชายรู้จัก? ทรงเผลอถามอย่างไม่คิดว่าคนอย่างหมอนี่จะรู้จักบุคคลสำคัญในคาโนวาล แต่คงไม่เคยเห็นหน้าค่าตาจริงๆ เพราะไม่อย่างนั้นตอนท่านเสนาฯกับซินเดียมาตาม เขาคงเห็นและจับได้แล้วว่าพระองค์ตรัสความเท็จตั้งแต่แรก ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะอีกฝ่ายพยักหน้ากลับมา โธ่เอ๊ย พี่ชาย ฉันน่ะก็แค่ลูกชายของน้องของพี่สาวของแม่นมของบุตรบุญธรรมของท่านเสนาฯเท่านั้นเอง พอดีที่บ้านฉันยากจน เลยฝากต่อๆไปเลี้ยงในบ้านท่านเสนาฯ ท่านก็ใจดีให้ใช้นามสกุลแค่นั้น แต่ฉันมันขี้เกียจ ไม่อยากทำงานเป็นทาส เลยออกมาเร่ร่อน สบายใจกว่า

     

                คราวนี้คนฟังกลับทำตาปริบๆด้วยความงุนงงที่อีกฝ่ายจู่ๆนึกจะพูดดีด้วยก็พูดเองซะเฉยๆ ทั้งที่ตอนแรกล่ะทำถามคำจึงตอบคำ

     

                เออ พูดยาวๆก็เป็นด้วยเหรอเราน่ะ

     

                เจ้าชายคนสำคัญจึงพ่นพระปัสสาสะอย่างไม่สบายพระทัย แต่ก็นั่นล่ะ พระองค์ก็ไม่คิดว่าองค์เองจะตรัสโกหกเลื่อนไหลขนาดนี้ แต่เห็นมายากรผู้นั้นเชื่อเพราะนึกไม่อยากฟังการลำดับญาติก็ค่อยโล่งอุระได้หน่อย

                นี่ทำสนิทด้วย เพราะไม่ต้องการให้ความลับรั่วไหลหรอกน่า

                ก็เลยได้คุยดีๆกับนายเรย์ด้วยประการฉะนี้เอง

     

                ว่าแต่พี่ชายเหอะ ไปทำอะไรเข้าล่ะ ถึงได้ถูกพวกนั้นตามทำร้ายเอา

     

            เรย์หัวเราะ ราวกับคำถามนั้นถูกใจในอะไรบางอย่าง ก่อนจะทำท่ายึกยักมีเลศนัยให้นึกอยากรู้ แต่พอเข้าขั้นมากไป มันก็ทำให้คนความอดทนน้อยเต่เดิม ชักอยากประทานพระบาทาถีบเข้าให้หน่อย

     

                เฮ้ย อย่าเพิ่งทำตาเขียว ตาสวยๆน่ะเขาไม่ให้ทำดุบ่อยๆรู้ไหม

     

                พี่ชายก็บอกมาเร็วๆสิ

     

                รู้แล้วเราอย่าไปบอกใครเข้าล่ะ ไอ้หนู หัวหลุดเชียว

     

                บ๊ะ ถึงขนาดหัวหลุด คราวนี้คนรอคำตอบขยับมาใกล้จนหัวเข่าแทบจะชนกัน บอกมาเร็วน่า ทำไมเรื่องถึงใหญ่โตขนาดถ้าแพร่งพรายออกไปแล้วหัวหลุด

     

                ก็เรื่องนี้น่ะ มันเกี่ยวข้องไปถึงเจ้าชายคาเรนแห่งคาโนวาลนี่น่ะสิ

     

                เนตรสีสวยวาวขึ้นอย่างตื่นเต้น ก่อนหลุดโอษฐ์ถามอย่างยั้งไม่อยู่

     

                พี่ชายเคยเห็นเจ้าชายองค์นี้ด้วย?

     

                จะเคยได้ไง ฉันเพิ่งเข้ามาถึงคาโนวาล เพิ่งได้เปิดการแสดงที่เมืองชายแดนนี่เป็นครั้งแรก ว่าแล้วคนพูดก็ทำหน้ายุ่งเสียเอง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหัวเราะฮาเมื่อได้ฟังคำย้อนของไอ้หนูตรงหน้า

     

                ขนาดเพิ่งเข้ามานะ พี่เล่นหาเรื่องใส่ตัวตั้งแต่ล่วงเข้าเมืองชายแดนเลย ไม่รู้หรือไง ว่าคนเมืองนี้มีนิสัยของนักรบกันทั้งนั้น ไม่ยอมเสียเหลี่ยมเสียคมกันง่ายๆหรอก

     

                ก็นั่นน่ะสิ มิน่ามันถึงได้เหลี่ยมมากคมมากกันเสียจริง ขนาดเจ้าชายรัชทายาท มันยังวางแผนปลงพระชนม์ซะได้    

     

     

    คนฟังทรงนิ่งไป ทว่านัยน์เนตรมีความเปลี่ยนแปลงที่ยากจะอธิบายออกมาว่ารู้สึกอย่างไรกันแน่ อาจจะนับเป็นความเคยชินก็ว่าได้ ที่จะต้องทรงทราบอยู่เสมอว่าใครคิดร้ายกับพระองค์บ้าง ซึ่งบางครั้งมันก็มากกว่าความไม่พอใจจนอาจกลายเป็นอยากวางแผนลอบสังหารให้ตายกันไปข้างหนึ่ง

    ตอนยังเยาว์ด้วยชันษาและความคิด พระองค์เคยไม่เข้าพระทัยและไม่อยากจะยอมรับว่าคนที่เกลียดชังพระองค์จนถึงขนาดอยากจะฆ่านั้นมีอยู่จริง ก็เพราะตอนนั้นพระองค์ไม่ได้ทำอะไรใครให้เดือดร้อนเลย อาจมีบ้างที่ทรงซนไปตามประสา แต่พระองค์ก็รับผิดชอบความผิดของพระองค์ด้วยองค์เองเสมอมาในฐานะเจ้าชายรัชทายาทแห่งราชวงศ์ที่ดี

    ตอนนั้นท่านปู่เคยประทานคำสั่งสอนว่า

     

    เพราะเจ้าเป็นเจ้าชายรัชทายาทที่ดี คาเรน เจ้าจึงถูกปองร้าย และเพราะเจ้าต้องเป็นเจ้าชายที่ดีของราชวงศ์ต่อไป เจ้าจึงต้องทนให้ได้

     

    ตำแหน่งเจ้าชายรัชทายาทจะเป็นความฝันสูงสุดของใครก็ตาม....ย่อมไม่ใช่คาเรน

    เจ้าชายรัชทายาทผู้ไม่อาจได้รับการยอมรับจากทุกคนในคาโนวาล

    ด้วยเหตุผลง่ายๆ แต่อ้างได้ทุกสถานการณ์ กระทั่งใช้อ้างสิทธิ์ในการชิงบัลลังก์

     

    พระองค์เป็นเจ้าหญิงรัชทายาท มิใช่เจ้าชาย มิใช่ตลอดกาล

     

    ทว่าพอเจริญชันษาขึ้นมาด้วยภาระหน้าที่ของเจ้าชายรัชทายาท พระองค์ก็ทรงทราบเพียงว่า ใครภักดีย่อมมีรางวัล ใครเป็นกบฏนั้นต้องได้รับโทษอย่างสาสมพอกัน

    คาเรนทรงเกลียดคนทรยศยิ่งกว่าสิ่งใด....ทรยศองค์เองยังไม่เท่าไหร่ อย่าให้ทรยศคาโนวาลแล้วกัน

    และเพราะเหตุนั้น ใครร้ายมาเท่าไหร่ พระองค์ใหญ่จึงคืนสนองให้หลายเท่าเพื่อให้หลาบจำและจดจารเอาไว้ในหัวใจเสมอว่า อย่าได้คิดอุกอาจก่อการใหญ่เป็นอันขาด

    สิ่งที่พระองค์ใช้พระชนม์ชีพปกป้อง...ย่อมมีค่าเกินกว่าใครจะแย่งชิงไปได้

     

     

    เป็นอะไร เห็นนิ่งไป

     

    เรย์เองก็คงจับความรู้สึกคนอื่นได้เก่งเช่นกัน จึงได้ถามขึ้นในขณะที่เนตรคู่เดิมซึ่งคนมองหมั่นชมว่าสวยสบด้วยตรงๆอย่างเปิดเผย

     

    พี่ชายว่า เจ้าชายองค์นี้น่ะสมควรตายรึเปล่า

     

    คราวนี้ดวงตาสีเขียวขยายกว้างอย่างคงจะตกใจจริงๆ ก่อนจะถลาเข้ามาปิดปากคนพูดเรื่องเสี่ยงได้หน้าตาเฉย แถมยังมองซ้ายมองขวาราวกับกลัวใครนอกจากนี้จะได้ยินอีก

    คาเรนทรงปัดมือนั้นออกด้วยสัญชาตญาณที่ไม่ให้ใครแตะต้ององค์มาก่อน แล้วจึงขยับถอยออกไปเพื่อรักษาระยะห่างระยะพระองค์กับอีกฝ่าย แล้วทรงตรัสย้ำอีกครั้งอย่างจริงจัง

     

    ฉันถามจริงๆ พี่ชาย ตามความคิดเห็นของพี่น่ะ

     

    ถามอะไรให้หวาดเสียวจริงนะ

     

    พี่ว่าเจ้าชายคาเรนน่ะสมควรตายจริงรึเปล่า

     

    เมื่อถูกถามซ้ำ เรย์จึงกลับไปเอนหลังพิงต้นไม้ต่อไป และคราวนี้ตอบให้ด้วยน้ำเสียงเรียบสนิทราวกับจะสั่งสอนอย่างไรอย่างนั้น

     

    ไม่มีใครสมควรตายหรอก น้องชาย ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดา หรือเป็นเจ้าชายบนหอคอยงาช้าง เพราะชีวิตของแต่ละคนนั้นมีเส้นทางของตัวเองที่จะต้องเดินไป ไม่ว่าจะนำไปสู่ความรุ่งโรจน์หรือตกต่ำ ก็ไม่มีใครมีอำนาจพอจะไปตัดสินว่าควรจะหยุดเดินเมื่อไหร่

     

    แต่เจ้าชายองค์นี้ทรงประหารคนมานักต่อนักแล้ว

     

    ความเป็นเจ้าชายน่ะ มีเรื่องเศร้าอยู่เหมือนกันนะ รอยยิ้มอบอุ่นของคนไม่ได้เป็นเจ้าชายส่งมาให้ แล้วส่ายหัวเหมือนเอือมระอาหรือปฏิเสธอะไรบางอย่างกับตัวเอง บางครั้งก็ไม่สามารถนึกถึงอะไรได้เลยนอกจากหน้าที่ที่ต้องกระทำ การประหารหลายชีวิตก็ถือเป็นหน้าที่ของเจ้าชายเพื่อรักษาราชบัลลังก์เหมือนกัน เพราะอำนาจน่ะถือเป็นของร้อน ใครก็อยากได้ แต่มีกี่คนที่ถือมันได้ เจ้าชายคาเรนเองก็คงยอมถือของร้อนนี้ด้วยความรักพระบิดา รักราชวงศ์ และรักคาโนวาลนั่นเอง

     

    เมื่อเห็นคนฟังเงียบไป แต่ยังมีท่าทางสนใจอยู่ คนอายุมากกว่าก็เสริมให้อีกนิดหนึ่งด้วยความเอ็นดู

     

    ฉันน่ะเคยได้ยินหลายคนเขาพูดกัน มันก็ปนเปกันไประหว่างภักดีและหวาดกลัวล่ะน่ะ แต่ไม่ว่าใครจะรู้สึกแตกต่างกันออกไปยังไง สุดท้ายก็จะมีความเห็นอย่างหนึ่งที่ตรงกันเสมอ

     

    สายลมพัดแผ่วเบา ดุจจะหอบเอาคำพูดสุดท้ายลอยไปแสนไกล....คนตั้งใจจึงได้ยินชัดเจน

     

    คาโนวาลโชคดีมากมายจริงๆที่มีพระองค์ใหญ่เป็นเจ้าชายรัชทายาท

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×