ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอสตอนทายาท 3 แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #30 : ปีศาจคาโนวาล

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.36K
      2
      27 ก.ย. 49

    26

    ปีศาจคาโนวาล

     

    ขาดคำ ร่างสูงใหญ่โผนพุ่งเข้าปะทะ ดาบหนาถูกฟาดออกมาเบื้องหน้า แหวกอากาศพุ่งตรงลงมาอย่างรวดเร็ว เจ้าชายคาเรนเบี่ยงองค์หลบอย่างเฉียดฉิว ชนิดที่ปลายเกศาสีเงินพลิ้วผ่านซอกคอของอีกฝ่าย ก่อนทรงตวัดดาบปราบมารขึ้นรับ เสียงดาบปะทะดาบแผดลั่นไปในอากาศอันหนาวเย็น แล้วทั้งคู่ก็ผละออกจากกัน

    ซาฟากระชับด้ามดาบในมืออย่างมาดหมาย ก่อนจะวาดออกในแนวนอนเป็นวงกว้าง เกิดเป็นกระแสลมปริศนาพัดเอาหิมะลอยฟุ้งตลบและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งค่อยๆพรางร่างชายหนุ่มให้เลือนหายไป คาเรนเขม้นเนตรงามซึ้งมองอย่างพิจารณา ขณะเหลียวรอบด้านอย่างระแวดระวัง

    ซาฟาหายไป....ไม่ใช่แค่หายไปจากการมองเห็น แต่หายไปจากการรับรู้โดยสิ้นเชิง หายไปกระทั่งรังสีสังหารและจิตวิญญาณเสียด้วยซ้ำ

    แต่แล้วหัตถ์เรียวก็ตวัดวูบขึ้นบังพักตร์ ทันท่วงทีก่อนที่คมของอะไรบางอย่างจะพุ่งตรงมาทำร้าย จึงทำให้เป้าหมายพลาดไปอย่างฉิวเฉียด ทว่าเมื่อรู้องค์อีกที โลหิตสีเข้มก็ไหลซิบอาบปรางค์นวล รอยคมอาวุธเป็นเส้นเล็กๆปรากฏชัดเจนบนพักตร์งาม ราวกับตำหนิอันร้ายกาจที่ไม่อาจลบเลือนไปได้

    คาเรนทรงปาดโลหิตที่ไหลลงเป็นสาย ก่อนทอดพระเนตรนิ่งไปยังหิมะที่หล่นลงมาบนหัตถ์อีกทีหนึ่ง  เมื่อหิมะเหล่านั้นแต่งแต้มกองเลือดบนหัตถ์เป็นจุดๆ ราวกับว่านั่นเป็นสิ่งที่ประหลาดที่สุด

    ความชาแผ่ซ่าน....ทว่ายังไม่ทันเจ็บทั้งแผลทั้งเลือดก็หายไป

    ความเงียบสงบดุจคลื่นในทะเลก่อนเกิดพายุบัดนี้เปลี่ยนแปร แล้วเค้ารอยความพินาศแห่งอารมณ์พระองค์ใหญ่ก็ตามมา เนตรสีสวยตวัดฉับขึ้นมองท้องฟ้า สุรเสียงกราดเกรี้ยวตวาดดังลั่น สั่นสะเทือนไปทั่วอย่างไม่น่าเป็นไปได้

     

    น่ารำคาญ

     

    ซาฟาที่แฝงกายในม่านหิมะมองศัตรูตรงหน้าอย่างสุดฉงน แล้วอดมองตามขึ้นไปยังท้องฟ้าไม่ได้ แต่ก็นั่นล่ะ ท่ามกลางหิมะที่ตกหนักราวกับจะไม่ตกอีกแบบนี้ จะมองเห็นอะไรได้

     

    ก็บอกว่าอยากพิสูจน์ อย่าแส่ไม่เข้าเรื่อง

     

    เสียงลมครางอื้ออึง กรรโชกมาอย่างรุนแรงแทบยืนอยู่ไม่ติด เจ้าชายคาเรนในยามนี้จึงทรงหงุดหงิดเหลือประมาณ หากไม่ติดว่ากำลังต่อสู้ คงขว้างดาบสุดรักสุดหวงแหนเป็นการระบายอารมณ์ให้ปลิวไปทางใดทางหนึ่งแล้วอย่างแน่นอน

    แต่ไม่รู้ทรงหงุดหงิดเอากับใครนี่สิ....ปัญหา

     

    หยุดหิมะบ้าๆนี่เสียทีได้ไหม

     

    ทรงโหวกเหวกอยู่ลำพัง ราวกับลืมการต่อสู้ไปแล้ว

    หรือคนที่ทรงสบถสาปแช่งอยู่นั้น....ประทานหิมะนี้ลงมา

    หิมะทำให้ดาบทวนลมของเขาใช้งานได้ดีขึ้น แต่ย่อมไม่อาจเทียบได้กับความมีเปรียบของเจ้าชายในความเป็นเจ้าหญิงพระองค์นั้น ผู้ซึ่งมีพระประสูติกาลในยามที่หิมะแห่งการอำนวยพรโปรยปรายลงมา จนมีคำกล่าวว่า คาเรนคือราชาแห่งฤดูเหมันต์

    ยามหิมะตก เหมือนเป็นเขตอาคมของพระองค์ใหญ่ผู้ไม่ใช้เวทมนตร์

    ทำไมจึงไม่โปรดให้มีหิมะ....ไม่เข้าใจจริงๆ

     

    ออเรียล

     

    สุรเสียงตวาดก้อง คนกำลังงุนงงจึงสะดุ้งโหยง ลมที่ทวนหิมะขึ้นลงเพื่อพรางตาถึงกับสะดุด แล้วจางหายไปในพริบตา ตอนนี้ซาฟาจึงได้แต่มายืนทำตากลมมองคนตรงหน้าที่กำลังกระฟัดกระเฟียดเต็มที่อย่างที่เรียกได้เต็มปากเต็มคำเป็นครั้งแรกว่า....ทำอะไรไม่ถูก

     

    คลายเขตอาคมเดี๋ยวนี้เลย ได้ยินไหม

     

    โว้ย ไอ้เจ้าชายงี่เง่า

     

    ไอ้บ้า ฉันสั่งให้นายหยุด เข้าใจไหม

     

    นาน นานมากกว่าจะมีเสียงตอบกลับมา หลังจากเจ้าชายคาเรนทรงโวยวายอยู่ตลอดเวลา จนเริ่มหอบถี่ยิ่งกว่าประลองดาบกับเขาในตอนแรกซะอีก

     

    อาคมนี้ไม่ใช่ของฉัน นายก็รู้

     

    ซาฟาตาโตเท่าไข่ห่าน เมื่อได้ยินเสียงพระสหายสนิทของพระองค์ใหญ่ดังมาจริงๆ หากที่ไม่ทราบแน่คือดังมาจากไหน เดาๆจากการที่คาเรนทรงแหงนมองฟ้า ทำให้น่าเชื่อได้ว่าบางทีเจ้าชายจากทริสทอร์คนนั้นอาจอยู่บนฟ้าจริงๆก็ได้

    ไม่แปลกหรอก....หากเขาจะเชื่อแบบนั้น

    เจ้าชายออเรียล.....ทรงกระทำได้ทุกเรื่องที่อาจดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปจนได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายหรือไร้สาระแค่ไหน หากตัดสินพระทัยแน่วแน่ว่าอยากจะกระทำ จะไม่ต้องอาศัยเหตุผลใดอีกเลยในการกระทำสิ่งนั้นจนสำเร็จ

     

    ใช่ฉันรู้ และรู้ว่านายคลายมันได้

     

    คาเรนยังทรงตะโกนกลับ หากพระทัยเย็นลงมาก

     

    เขตอาคมพ่อมดปีศาจแห่งคาโนวาลถือเป็นสุดยอด ฉันจะไปมีปัญญาคลายได้ไง

     

    คลาเอน่า....คลาเอน่าคลายได้

     

    แน่ล่ะ เจ้าหญิงผู้ทรงสิริโฉม หากยังไร้เดียงสาต่อการปกครอง แตกต่างจากพระพี่นางโดยสิ้นเชิงองค์นั้น บัดนี้เสด็จมาเป็นประธานในงานเทศกาลประจำปี และประทับอยู่ใกล้แค่นี้ เรื่องจะเรียกมานั้นไม่ยาก และเมื่อมาแล้วย่อมคลายเขตอาคมได้อย่างไม่ยากยิ่งกว่า

     

    นายแน่ใจ?

     

    เวทย์ของท่านพ่อ ไม่มีเสียล่ะที่คลาเอน่าจะไม่รู้จักดี เขาต้องรู้วิธีคลาย

     

    ฉันหมายถึงว่านายแน่ใจเหรอ ที่จะให้คลาเอน่าคลายให้

     

    ทำไม 

     

    คนบนฟ้าเงียบไป ราวกับต้องการให้ทั้งพระองค์ใหญ่และทั้งซาฟาคิดเองว่าเพราะเหตุใด เจ้าหญิงคลาเอน่าจึงไม่สมควรเสด็จมาที่นี่

    แล้วทั้งสองก็คิดออกพร้อมๆกัน ซาฟาออกจะคิดเร็วกว่าซะด้วยซ้ำ

     

    โธ่เอ๊ย.....หวงน้องสาวขนาดนั้น คงให้มาเผชิญกับอันตรายอยู่หรอก

     

    ซาฟานึกในใจจนอดเลยยิ้มบางไม่ได้ ถูกต้อง...เขาไม่มีทางรู้ว่าตัวเองคิดผิด เพราะสิ่งที่คาเรนทรงดำริได้เมื่อได้รับการเตือนสติ เป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่เขาคิดโดยสิ้นเชิง

    คลาเอน่าไม่ได้น่าเป็นห่วงเท่าไหร่.....เพราะเวทย์ชั้นสูงที่ติดตัวมาแต่กำเนิด เป็นเกราะคุ้มครองอย่างดี

    หากที่ทรงห่วง คือเมื่อพระขนิษฐาเสด็จมาแล้ว จะยอมคลายเขตอาคมให้หรือไม่

    การคลายเขตอาคมหรือการถอด เกราะ ของพระพี่นางออก แล้วเจ้าหญิงจะทรงทำเช่นนั้นไปเพื่ออะไรกัน ไม่ใช่เพื่อแค่ให้พระองค์ใหญ่ได้พิสูจน์ว่าพระองค์สมควรเป็นกษัตริย์หรือไม่หรอก ไม่ใช่เพื่อเรื่องแค่นั้นอย่างเด็ดขาด

    ในความคิดของพระองค์เล็ก....ใครเหมาะสมกับตำแหน่งกษัตริย์มากกว่าพระพี่นาง

    ความเป็นผู้หญิง.....ไม่เกี่ยวข้องกับการครองบัลลังก์

    ท่านพี่เป็นกษัตริย์ได้ เพราะทรงมีพาหาอบอุ่นเหมือนท่านพ่อ มีความปราดเปรื่องเหมือนท่านแม่ และมีน้ำพระทัยเหมือนท่านปู่ ท่านพี่หนุนบัลลังก์ทองด้วยพระชนม์ชีพ เหตุใดจึงไม่มีสิทธิ์ในบัลลังก์นั้น

     

    กลับวังดีกว่า คาเรน ฉันกับคลาเอน่าจะคอย

     

    สุรเสียงพระสหายดังมาอีกครา ซาฟาแทบอยากจะตะโกนออกไปตอนนั้น

                ได้ไงวะ....นึกจะท้าก็มาท้า แต่พอนึกจะไปก็ไปซะเฉยๆ

     

    ไม่

     

    สุรเสียงคาเรนเด็ดขาดไม่หวั่นไหว ตอบให้ทันทีโดยไม่ต้องถามซ้ำ

    ดาบปราบมารถูกยกขึ้นอีกครา ปลายดาบชี้ขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะเหยียดพาหาออกไปจนสุด ประกายดาบสีเงินสว่างอยู่ท่ามกลางม่านสีขาว เดายากยิ่งนักว่าจะเกิดอะไรต่อไป

     

    นายตรองทุกอย่างดีแล้วหรือ

     

    ฉันเชื่อ เนตรใส มองดูเหมือนหล่อเลี้ยงน้ำผึ้งไว้ภายในทอดมองนิ่ง ว่าท่านพ่อจะทรงเมตตาคาเรน ให้คาเรนได้พิสูจน์อีกสักครั้ง แค่ครั้งเดียวก็พอสำหรับการเอาแต่ใจตนเองครั้งนี้ แล้วเมื่อกลับไปถึงวัง จะเข้าไปขอรับพระอาญาจากท่านพ่อด้วยตัวคาเรนเอง....ในฐานะเจ้าชายรัชทายาท

     

    ตอนนั้นเอง ประกายสีเงินจากดาบธรรมดาๆก็สว่างวาบ ก่อนเต้นระริกเหมือนแสงไฟที่ปลายเทียน มองดูคล้ายกับบรรจุพลังบางอย่างไว้ แล้วเตรียมพร้อมสำหรับการทำลายล้างอันจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

     

    ปราบมาร

     

    สิ้นสุรเสียงทรงอำนาจ ดาบถูกเหวี่ยงมาเบื้องหน้า.........

    เสียงเปรี๊ยะดังลั่นราวอากาศธาตุกลายเป็นแก้วแล้วตกลงกระทบพื้น นภาสีหม่นยามหิมะลงหนา เหมือนเป็นแค่ภาพวาดที่ถูกเลื่อนออกไป ก่อนแทนที่ด้วยภาพใหม่ของราตรียามดึกสงัด ความหนาวเย็นหายไปเหมือนกระดาษที่ถูกฉีก แทนที่ด้วยความหนาวเยือกอันเกิดจากสายลมพัดเอื่อย

    เบื้องบน....ดาวนับแสนล้านส่องแสงพร่างพราย

    เสียงของงานเทศกาล....ดังห่างออกไป

    เขตอาคมแห่งหิมะสลายไป พร้อมกับการติดต่อจากเจ้าชายออเรียล และจากการเฝ้ามองของเจ้าหญิงคลาเอน่า

    ศัตรูเบื้องหน้าปรากฏกายในลักษณะยังงุนงงไม่หาย

    การต่อสู้ที่ยังไม่รู้ผล ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

     

     

    ทวนลม!!”

     

    เสียงลมเอื่อย พัดแรงขึ้น ความเย็นของอากาศมีมากเท่าๆกับความเยือกเย็นของทั้งสองฝ่าย ใบไม้สีแดงที่ยังติดอยู่กับต้น และคงไม่ร่วงโรยไปจนกว่าอากาศจะหนาวจัด หรืออาจอยู่ได้จนถึงกลางฤดูหนาว บัดนี้ปลิดปลิวจากต้นแทบหมดสิ้น หากแต่ยังใช้ประโยชน์ได้ เมื่อกระแสลมที่เกิดจากการวาดวิถีดาบ ทำให้ใบไม้ยังคงลอยว่อนในอากาศตามการควบคุม

    เนตรงามจับจ้องการเคลื่อนไหวของใบไม้ พยายามให้ครอบคลุมทุกใบ และพยายามอ่านทิศทางการเคลื่อนไหวทุกจังหวะ

    ใบไม้เหล่านั้นสีแดงสด.....สวยงาม

    ทว่าเหมือนสีเลือด สีแห่งการสูญเสีย ดุจใบไม้ที่จำต้องอำลาจากต้นไปเมื่อเวลาแห่งการร่วงโรยมาถึง

    ใบไม้ที่อยู่ในการควบคุมของดาบทวนลมก็เป็นเช่นนั้น

    อันตรายยิ่ง......

    ขณะนั้น ไม่มีสัญญาณใดๆบอกเตือนให้ระวัง เมื่อกระแสลมจากวิถีดาบเกิดเบี่ยงเบนกะทันหัน ใบไม้ใบหนึ่งพุ่งเข้ามา คาเรนเบี่ยงองค์ไปทางซ้าย และตวัดดาบในหัตถ์ขวารับไว้ ใบไม้จึงขาดเป็นสองท่อน แล้วหล่นลงกับพื้น

    แต่หลังจากนั้นใบที่สอง ที่สาม และใบอื่นก็ตามมา มันพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงราวกับมีชีวิต คาเรนทรงใช้ดาบรับไว้บ้าง ใช้หัตถ์ซ้ายปัดออกไปบ้าง และก้มองค์ลงหลบบ้าง ทว่าเมื่อใบใดพลาดเป้า มันก็จะหมุนวนเข้ามาทำร้ายอีกครั้งเหมือนบูมเมอแรงวิ่งกลับมาหาเจ้าของ ทำให้ต้องเสียเวลาจัดการกับใบไม้จากดาบทวนลมนั่นอยู่เป็นนานทีเดียว

    ขณะนั้น ซาฟาใช่ว่าจะอยู่เฉย เขายังหาโอกาสคอยจู่โจ่มเสมอ แต่ก็นั่นแหละ ขนาดพระองค์ใหญ่ทรงติดพันอยู่กับใบไม้นับร้อยเหล่านั้น วรองค์บางกลับไม่เผยจุดอ่อน อันทำให้ย่ามใจในการบุกเข้าไปเลยแม้แต่น้อย

    ชายหนุ่มจึงต้องยอมรับ...เพลงดาบแห่งเจ้าชายคาเรน งดงามสมบูรณ์แบบจริงๆ

    ทว่าคงไม่รู้....ว่าความสามารถนั่นเกิดจากการประลองกับคาร์ซาร์ แม้ว่าจะไม่เคยเอาชนะอีกฝ่ายได้ก็ตาม

    และก่อนที่ใบไม้ทั้งหมดจะถูกทำลายสิ้น ร่างสูงใหญ่ก็พุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว แน่นอน มันยังไม่ใช่ตำแหน่งการจู่โจมที่หวังผลได้ แต่มันย่อมดีกว่าการเผชิญหน้าโดยตรงแน่นอน

    คาเรนทรงปรายเนตรมามองอย่างทรงรู้องค์ ก่อนทรงวาดดาบขนานกับพื้น ใบไม้สองใบสุดท้ายขาดครึ่งแล้วร่วงหล่นไป ก่อนที่ประกายดาบทวนลมจะวูบเข้ามา พร้อมกับร่างชายหนุ่มที่พุ่งเข้ามาด้วยแรงส่งวูบเดียวของการกระโดดจากปลายเท้า

    เจ้าชายคาโนวาลทรงหมุนองค์หลบ แล้วยกดาบขึ้นกับพระอุระ อันนับว่าทันท่วงทีก่อนที่ปลายดาบทวนลมจะถูกเสือกเข้ามาตรงตำแหน่งพระหทัย อย่างหวังหมายพระชนม์ชีพจริง

    ดาบปราบมารกันเอาไว้ได้ แต่แรงของชายหนุ่มทำให้ทรงเซถอย ขณะปลายดาบสูงฤทธิ์กรีดลงกับผิวดาบทรงค่า ก่อให้เกิดประกายไฟสีขาวสว่าง พร้อมๆกับเสียงการเสียดสีกันดังลั่น สะเทือนจนทั้งสองฝ่ายพลิกดาบตัวเองขึ้นดูอย่างให้แน่ใจว่าไม่ได้หักไปจริงๆ

    ดาบทวนลมเป็นดาบดี แม้ไม่อาจนับว่าเป็นดาบในตำนาน แต่ก็มีความสามรถพิเศษที่ช่วยให้เขามีชัยในการต่อสู้มาจนถึงทุกวันนี้....จะยอมให้หักคามือได้อย่างไร

    องค์คาเรนเองก็ทรงดำริเช่นกัน แม้ดาบในหัตถ์นี้จะเป็นดาบธรรมดาก็จริง แต่ความสำคัญมันอยู่ที่เจ้าของเดิม ซึ่งทรงควงดาบเล่มนี้ร่วมสนามรบมานักต่อนัก แล้วเมื่อทรงประทานมาให้คาเรน คาเรนย่อมต้องรักษาอย่างดีที่สุด เรื่องอะไรจะให้มันหักเพราะเรื่องการพิสูจน์ส่วนพระองค์เช่นนี้

    แต่เมื่อแน่ใจแล้วว่าดาบไม่ได้บิ่นหรือร้าว ทั้งคู่ก็เปิดฉากอวดเพลงดาบตามแบบฉบับของตนอีกครั้ง

    ซาฟาแสดงเพลงดาบเท่าที่มีติดตัวไปจนสุดความสามารถ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่อาจหาช่องว่างเพื่อจู่โจมเจ้าชายคาเรนกลับได้เลย ในขณะที่อีกฝ่ายใช้แรงไปทั้งหมดที่มี แต่ยังไม่คิดใช้เพลงดาบเฉพาะของดาบปราบมารที่พระอัยกาประสิทธิ์วิทยาไว้ให้เลยแม้แต่น้อย

    วรองค์บางเป็นฝ่ายเซถลาอีกครา แล้วทั้งสองก็ถอยไปตั้งหลักอยู่ห่างกัน

    เจ้าหญิงตัวจริงทรงเหน็ดเหนื่อยเพราะไม่เคยชินกับการต่อสู้ที่ถูกถ่วงเวลาไว้นานขนาดนี้ ทั้งยังไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ที่ตึงมือขนาดนี้

    หมอนี่.....ไม่เก่งเท่าคาร์ซาร์

    แต่แรงมันมากเหลือเกิน....อึดเป็นบ้า

    ซาฟาไม่เหนื่อยเท่าผู้เป็นสตรีโดยชาติกำเนิด แต่ก็ยังมีเสียงหอบเหมือนกัน ทว่านั่นก็ยังไม่เท่ากับอาการถอดใจที่รู้ว่าตนใช้เพลงดาบอะไรก็ไม่สามารถฝ่าการป้องกันอันเกิดจากการวาดวิถีดาบที่พลิ้วไหวของดาบปราบมารไปได้

    นี่ถ้าคาเรนเป็นเจ้าชายจริงๆ

    และทรงเป็นนักรบอันแข็งแกร่งจริงๆ

    เขาคงได้ตายใต้คมดาบปราบมารตั้งแต่การปะทะกันครั้งแรกนั่นเอง นี่นับว่ายังเป็นโชคดีอยู่ทีเดียว ที่คิงแห่งคาโนวาลไม่มีพระโอรสไว้สืบทอดบัลลังก์ตามราชประเพณีและสิทธิ์อันชอบธรรม

      แต่ทรงมีพระธิดาโฉมงาม หากดุยิ่งกว่าเสือร้ายพระองค์นี้

     

    กระหม่อมต้องขอประทานอภัยเป็นอย่างยิ่ง ฝ่าบาท เห็นทีกระหม่อมคงไร้ความสามารถ จึงไม่อาจเอื้อมคิดเอาชีวิตเจ้าชายแห่งคาโนวาล ทั้งยังไม่สามารถทำการอุกอาจเช่นนั้นได้ ฝ่าบาทเก่งกาจเกินกว่าที่หม่อมฉันจะหวังชัยชนะได้พระเจ้าค่ะ

     

    เนตรสีน้ำผึ้งสงบนิ่ง ทว่ายังทรงหอบอยู่เหนือดาบยาวที่ปักค้ำบนพื้น

     

    เจ้าก็เก่ง เกินกว่าที่เราจะเอาชนะเจ้าด้วยกำลังได้

     

    รับสั่งเยือกเย็นพลางถอนหายพระทัยลึก

    ตอนนั้นเอง ซาฟาที่คิดว่าตัวเองรอดพ้นจากข้อเสนอแห่งพระองค์ใหญ่ ถึงกับอ้าปากค้าง ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ความหล่อเหลาเท่าที่มีอยู่บ้างจึงหายไปหมดสิ้น เพราะบัดนี้ยมยาวประบ่าที่เจ้าตัวรักและหวงแหนมันน่าดู ถึงกับสั้นข้างยาวข้างได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    เบื้องหลังซาฟา มีดเล่มยาวปักคาดินกว่าครึ่ง เขาเบิ่งตามองมันอย่างหวาดกลัวเป็นครั้งแรกในชีวิต ก่อนความหวาดเสียวจะแล่นเข้ามาในอก เป็นผลให้ถึงกับจุกจนแทบพูดไม่ออก เมื่อหางตารับรู้ถึงคมมีดอีกเล่มที่ถูกปามาอย่างเชี่ยวชาญ ปลายมีดรี่เข้ามาในแนวขนานกับพื้นไม่ขาดไม่เกินสักองศา ก่อนจะฝากรอยยาวบนผิวแก้มเขา แล้วจึงไปปักอยู่บนด้ามของมีดเล่มที่แล้ว และค้างอยู่อย่างนั้นราวกับเป็นประติมากรรมอันงดงาม

    ใครเคยรู้มาก่อนบ้างว่า....แท้จริงคาเรนไม่ได้ทรงเชี่ยวชาญดาบที่สุด

    แต่ทรงเชี่ยวชาญการใช้มีดที่สุด

    เปล่าเลย....ไม่มีใครรู้เลย

    มีดแรก คาเรนตัดผมเขาได้ตรงราวใช้ไม้บรรทัดทาบ และต้องไม่ลืมว่าตำแหน่งของรอยที่ตัดนั้น อยู่ใกล้คอของเขาเพียงไร

    หากมีพระประสงค์ต้องการหัวเขา ก็จะทรงปลิดเองได้อย่างไม่มีที่ติ

     มีดที่สอง ตำแหน่งที่โดนนั้นเป็นที่แก้ม เลยขึ้นไปหน่อยจึงจะเป็นดวงตา หากเจ้าชายคาเรนต้องการเล็งให้โดน มันคงไม่แค่เฉียดฉิวเพื่อเรียกเลือดแค่นั้นหรอก

    ดูจากมีดสองเล่มที่ปักลงอย่างสวยงามทั้งสองด้ามนั่นเอง

    แต่เพราะเหตุใดจึงทรงเลือกใช้ดาบ ทั้งยังทรงปฏิเสธเขตอาคม ทั้งที่มันช่วยลดข้อเสียเปรียบของพระองค์ได้

    อาจเพราะทรงอยากพิสูจน์ จึงได้ต้องการความเท่าเทียมจนถึงที่สุด แล้วก็ไม่ยอมแม้แต่จะให้เกิดการมีเปรียบเสียเปรียบแม้แต่น้อย แม้ว่าตนเองจะมีหนทางพ่ายแพ้ปรากฏอยู่รำไรก็ตาม

    แล้วอย่างนี้....ผลการพิสูจน์ยังไม่ออกมาล่ะหรือ

    เปล่าเลย....ผลการต่อสู้อาจจะจบลงที่การเสมอ แต่ผลการพิสูจน์จบลงที่พระองค์ใหญ่เป็นฝ่ายชนะ

    ชนะ เพราะพระองค์เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นนักรบ กษัตริย์ และกษัตริย์นักรบ

    เขาต่างหากที่พ่ายแพ้

    พ่ายแพ้อย่างยับเยิน

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×