ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอสตอนทายาท 3 แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #48 : เจ้าชายจากทริสทอร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.14K
      1
      12 พ.ย. 49

    43

    เจ้าชายจากทริสทอร์

     

                    ไฟสงครามยังไม่มอดดับ....ใครก็ต่างทราบดี

                เพราะตั้งแต่คิงและควีนแห่งคาโนวาลเสด็จกลับจากการประชุมที่เอดินเบิร์ก ทั้งสองพระองค์ก็เสด็จออกทรงงานเคียงข้างกัน ซึ่งงานส่วนใหญ่ที่ว่านี้ก็ได้แก่ทรงบัญชาการเก็บเกี่ยวผลผลิตเข้ายุ้งด้วยพระองค์เอง ทั้งยังมีกระแสรับสั่งให้ซ่อมแซมอาวุธยุทโปกรณ์และประสงค์ให้เริ่มซ้อมรบกันแล้วในทหารบางส่วน

                กระทั่งสมเด็จพระราชินีคนงามก็ได้โอกาสเลิกทรงฉลองพระองค์โดยเน้นความสวยงาม แต่เปลี่ยนมาทรงฉลองพระองค์แบบทหารโดยแท้จริง ซึ่งน่าจะทรงแช่มชื่นมากกว่าแต่งองค์งดงามอยู่แต่ในเขตพระราชฐานเสียอีก

                อย่างวันนี้ ก็ทรงดาบปฐพีซ้อมรบให้กับเหล่าขุนศึก เสียจน....

     

                ท่านแม่ไม่เสด็จกลับมาหรือเพคะ

     

                เจ้าหญิงคลาเอน่าที่ทรงแล่นมารอรับเสด็จพระบิดาพระมารดาถึงประตูวัง โดยจำเป็นต้องมีนางกำนัลตามเสด็จเป็นหางว่าวตามราชประเพณีทูลถามคิงคาโลอย่างแปลกพระทัย แต่คนต้องรับสั่งตอบกลับมาทีท่าหงุดหงิดจนเสด็จนำไปพระองค์แรก จนพระธิดาองค์เล็กย่นพระขนงอย่างไม่เข้าพระทัย

     

                ทูลกระหม่อมเพคะ โน่นต่างหากเพคะพระราชินี

     

                เจ้าหญิงองค์น้อยเหลียวตามเสียงของนางกำนัลทันที ทว่า พระราชินีและเหล่าข้าราชบริพารที่ตามเสด็จกลับมานั้น แทบแยกออกจากกันชัดเจนไม่ได้เลย เนื่องจาก ทั้งหมดต่างมอมแมมจนมีสภาพไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นนายหรือข้าพระบาทก็ตาม

     

                ท่านแม่!!!”

     

                สุรเสียงตกพระทัยเป็นที่ยิ่ง แต่ดวงเนตรสีน้ำตาลสดใสบนดวงพักตร์ราวลูกแมวเพิ่งเกิดนั้นทรงพระสรวลจนยิบหยีมาก่อน

     

                พ่อเค้าโกรธแม่ล่ะ

     

                ควีนเฟรินตรัสสุรเสียงอ่อย ทว่าพระธิดาเองก็เริ่มมีเค้าความฉุนเช่นกัน

     

                ท่านพ่อคงมีกระแสรับสั่งห้ามแล้ว แต่ท่านแม่ก็ยังซ้อมรบให้เหล่าขุนศึกใช่ไหมเพคะ

     

                ก็...พวกขุนศึกอะไรนั่นน่ะ ท่าจะห่างหายจากสงครามมานาน แต่ละคนล่ะลงพุงเชียว แม่ก็เลย...สนุกด้วยหน่อยเดียวเท่านั้นเอง

     

                พระธิดาถอยพระทัยยาว ก่อนมีรับสั่งให้นางกำนัลส่วนพระองค์เชิญเสด็จกลับพระตำหนัก คงเหลือแต่ข้าราชบริพารผู้ตามเสด็จ ซึ่งล้วนแต่เป็นคนสนิทและรู้เรื่องต่างๆในวังเป็นอย่างดี

     

                พวกท่าน...พบพระองค์ใหญ่บ้างไหม

     

                แม้เป็นเพียงพระองค์เล็ก ทว่าสุรเสียงตรัสและแววเนตรล้วนไม่แผกไปจากพระบิดา ดังนั้นทุกคนจึงถวายคำนับอย่างพร้อมเพรียง ก่อนใครคนหนึ่งในจำนวนนั้นจะทูลว่า

     

                ไม่พบเลยพระเจ้าค่ะ

     

                แน่ใจหรือ ว่าหาทั่วแล้ว

     

                นี่ก็เช่นกัน ที่ทรงคาดเค้นได้ไม่แพ้พระองค์ใหญ่

     

                ทั่วแผ่นดินคาโนวาล หม่อมฉันค้นหาตามพระกระแสรับสั่งแล้วพระเจ้าค่ะ แต่ไม่มีใครเห็นพระองค์ใหญ่เลยในหลายๆวันมานี่ แม้แต่ฝ่ายทหารและท่านเสนาเมนิสเองก็ตาม

     

                แน่ล่ะ พระองค์ใหญ่อาจเสด็จขึ้นเหนือล่องใต้ไปทั่วคาโนวาลโดยไม่แจ้งให้ใครรู้ล่วงหน้า ทว่า จะอย่างไรก็ต้องเสด็จกลับมาดูแลฝ่ายทหาร อย่าว่าแต่อยู่ในช่วงกำลังจะเกิดสงครามเช่นนี้เลย ในยามปกติ ก็เสด็จไปชวนขุนศึกประลองดาบแข่งม้าด้วยกันบ่อยๆ และปกติไม่ว่าจะปลอมองค์อยู่ในสถานะใด ก็มักต้องมีสมรู้ร่วมคิดเป็นท่านเสนาฯเมนิสเสมอ

                แต่นี่....ยังกับไม่ประทับอยู่ในคาโนวาลกระนั้น

                เห็นที ต้องทูลถามท่านพ่อเสียแล้ว

     

     

                หลังจากพระราชินีเสด็จเข้าพระที่ ก็ทรงสรงและเปลี่ยนเครื่องทรงจนสะอาดสะอ้าน ก่อนจะตรัสสั่งให้เตรียมเครื่องเสวยรอ จนกว่าพระองค์จะทรง ลากพระสวามีให้มาประทับเสวยด้วยกันได้

                และแน่นอน คิงแห่งคาโนวาลทรงสรงเรียบร้อยก่อนหน้า และกำลังทรงงานอยู่เหนือราชฎีกาสูงหลายนิ้ว แสงชวาลาสว่างจับดวงพักตร์ราวรูปสลัก แม้ภายนอกจะไร้อารมณ์ใดๆแสดงออกมา ทว่ารอบความเหนื่อยล้าและหนักพระทัยยังโอบล้อมอยู่จางๆ อย่างที่คนเป็นพระราชินีรับรู้ได้เสมอ

                ยามบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ฎีกาเหล่านี้ถูกถวายขึ้นมาเพียงเบาบาง ทว่าก็ยังตรวจสอบอย่างละเอียดลออ กระทั่งยามนี้ที่พระราชภาระเพิ่มพูนหลายเท่าตัว ความเอาพระทัยใส่มิได้ลดลงแต่อย่างใด ดังนั้นเมื่อเวลาทรงงานต้องมีมากขึ้น เวลาแสวงหาความสบายพระทัยหรือแม้แต่เวลาบรรทมก็แทบจะไม่มี

                บางครั้ง ลืมเวลาเสวยไปเลยก็เคย

     

            คาโล แม้ควีนเฟรินจะทรงเรียกสุรเสียงก้อง ทว่ามิแม้แต่จะเงยพักตร์ขึ้นทอดพระเนตร

                ยังทรงกริ้วค้างนั่นเอง...

     

                นี่ ฉันหิวแล้วนะ

     

                เงียบ....มีเพียงเสียงพลิกราชฎีกาดังเบาๆเท่านั้น

     

                ใจคอ จะให้ฉันรอนายไปถึงเมื่อไหร่ ไปก็ไปด้วยกัน กลับก็กลับมาด้วยกัน ฝ่าบาทไม่เสวยแล้วใครมันจะกินลง

     

                เนตรสีฟ้าเงยขึ้นมาสบ แล้วก็ก้มลงทรงงานต่อ

     

                โธ่  คาโล นายอย่าโกรธฉันเรื่องไม่เป็นเรื่องเลยน่า นายก็รู้ พอสงครามเกิดขึ้นยังไงฉันก็ต้องรบด้วย เรื่องอะไรจะอยู่โยงเฝ้าวังคนเดียว

     

            คราวนี้พระหัตถ์ที่กำลังเลื่อนฎีกาฉบับใหม่ลงมาทอดพระเนตรกลับชะงักค้าง และพอเนตรเย็นชาเงยขึ้น กระแสรับสั่งเยียบเย็นก็ตามมา

     

            ไม่

     

                ฉันจะรบ พระราชินีทรงสวนขวับแทบในทันทีเช่นกัน เป็นไงเป็นกันล่ะคาโล ถ้าคาเรนต้องดำรงพระยศจอมทัพ ยังไงฉันก็อยู่เฉยๆไม่ได้ ลูกฉันทั้งคน

     

                แน่นอน ยังเป็นลูกของคนเบื้องพักตร์ทั้งคนอีกเช่นกัน

     

                นายเป็นพระราชินี พระราชภาระมากมายที่คนเป็นพระราชินียังต้องกระทำ แม้การอยู่โยงเฝ้าวังก็หมายถึงอยู่เป็นหลักยึดเหนี่ยวทางจิตใจของคนทั้งวังและอาจรวมไปถึงชาวบ้านที่ถูกต้อนเข้ามาในกำแพงเมืองด้วย

     

                ใช่ ฉันเป็นพระราชินี แต่ฉันก็เป็นพระมารดาของลูกด้วย คราวนี้จากชวนมาเข้าที่เสวย กลับกลายมาเป็นถกเถียงกันดังลั่นเสียแล้ว นับแต่มีพระยศเดอะควีนตามหลัง ฉันมั่นใจว่าฉันทำหน้าที่ได้ดีเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว แต่....ฉันไม่เคยทำหน้าที่แม่ให้คาเรนได้อย่างเต็มที่เลย ไม่เคยปกป้องเขาจากอันตรายได้เลย

     

                คาเรนเป็นเจ้าชายแห่งราชวงศ์ เขาจะเติบโตและยิ่งใหญ่เพื่อคาโนวาล ไม่มีใครทำอันตรายเขาได้

     

                ฉันไม่ต้องการให้เขายิ่งใหญ่ ฉันแค่ต้องการให้เขาปลอดภัย เพราะเขตอาคมของนายปกป้องเขาไม่ได้ทุกที่ แม้เวทย์กั้นมนต์ของพ่อปีศาจก็มีวันสูญสลายไปได้ ที่สำคัญ....เขาคือลูกสาวของฉัน ไม่ใช่เจ้าชายแห่งราชวงศ์

     

                แล้วก็สิ้นสุดการเกียงกันไปเถียงกันมาเพียงเท่านั้น เมื่อวรองค์บางหมุนขวับเสด็จออกจากห้องไป

                คิงแห่งคาโนวาลยกหัตถ์ลูบพระพักตร์ ทรงรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นที่ยิ่ง

                ท่ามกลางการรบการเช่นฆ่า พระองค์ส่งลูกรักออกไปสู่สมรภูมิ ท่ามกลางความหวังความศรัทธา พระองค์ปั้นแต่งลูกรักให้กลายเป็นเจ้าชายผู้แข็งแกร่ง แต่ท่ามกลางอันตรายและและความสับสน คาเรนกลับต้องเผชิญหน้าเพียงลำพัง

                พระองค์เพียงทรงทราบว่า บัดนี้พระธิดายอดหทัยไม่ได้อยู่ในคาโนวาลแล้ว แต่ก็ไม่อาจกางเขตอาคมไปได้ไกลทั่วเอเดนเพื่อค้นหาว่าคาเรนทรงประทับอยู่หนใด และจนบัดนี้ก็ไม่อาจหาคำตอบว่าคาเรนไปเจออะไรกันแน่ ถึงได้หนีออกจากวังไปเมื่อวันก่อน กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ยอมกลับมา

                การไม่กลับมาในช่วงนี้....อาจเป็นเรื่องดี

                ทว่า เฟรินกลับกังวลถึงแทบไม่ต้องทำอะไร

                เพราะฉะนั้นจึงต้องซ้อมรบกับเหล่าขุนศึก ด้วยความหวังว่าหากสงครามถึงจุดปะทุ เธอจะได้ต้อนรับ ลูกสาวกลับมา และอาจมีโอกาสได้รบเคียงกันในฐานะจอมทัพแห่งคาโนวาล

                แม่เขาห่วงลูกมาก...คาเรน

                จงปลอดภัยกลับมาเถอะ.....ลูกรัก

               

                แม้จะเพิ่งมีเรื่องถกเถียงกันเมื่อคืน ทว่าทั้งสองพระองค์ก็ยังเสด็จออกทรงงานเคียงกันเป็นปกติ จะผิดปกติก็นิดเดียวก็คือ วันนี้ทรงเสด็จกลับวังตั้งแต่ยังไม่ทันบ่ายด้วยซ้ำ

     

                อาไปเยี่ยมชมการซ้อมรบที่กระทรวงกลาโหมทุกวัน ตอนนี้ท่านเสนาฯเซตคงแน่ใจแล้วว่าสงครามต้องมีขึ้นในเร็วๆนี้

     

                ควีนเฟรินทรงตรัสเปรยกับเจ้าชายออเรียลแห่งทริสทอร์ที่ยังอยู่ช่วยงานบางอย่างในวัง และยังอยู่เป็นเพื่อนคุยหนึ่งเดียวของเจ้าหญิงคลาเอน่า และเมื่อสักครู่ เจ้าหญิงองค์น้อยก็เพิ่งออกไปดูแลเครื่องเสวยตามกระแสรับสั่งของพระมารดา ซึ่งเท่ากับเป็นการกันออกจากการสนทนาเกี่ยวกับแผนการบางอย่างระหว่างสองพระองค์นั่นเอง

     

                ตอนนี้ท่านเสนาฯเซตคงอยากได้ยินพระกระแสรับสั่งแต่งตั้งตัวเองเป็นจอมทัพ

     

            ไอ้ตำแหน่งบ้าๆนี่ใช่ไหม ที่มันต้องการจากคาเรน

     

                กระแสรับสั่งเริ่มดุเดือด ทว่าคนของกระทรวงกลาโหมย่อมไม่อาจแทรกแซงมาถึงเขตพระราชฐานชั้นในได้ เนื่องจากทหารรักษาพระองค์ในวังทั้งหมด พระองค์ใหญ่เป็นผู้เลือกสรรมาเฉพาะผู้จงรักภักดีเท่านั้น

                เพราะอันตราย....มักเริ่มต้นจากคนใกล้เสมอ

     

                ดีที่คาเรนไม่อยู่ในวัง ไม่อย่างนั้นท่านเสนาเซตคงไม่ไว้วางใจง่ายๆ

     

                ออเรียลละที่จะทูลโดยสิ้นเชิงว่า เขากับคาร์ซาร์นั่นเองที่วางแผนจนพระองค์ใหญ่ไม่อยากกลับเข้าวัง จนป่านนี้ก็คงสนุกอยู่กับการเร่ร่อนอย่างสบายพระทัยที่ไหนสักแห่ง เอาเถอะ แม้มันจะรุนแรงไปหน่อย แต่มันก็ได้ผลอย่างคาดไม่ถึง เพราะความไว้ใจที่ออเรียลหมายถึง จะชักนำท่านเสนาฯมาสู่บ่วงที่เตรียมการไว้อย่างดีนี้

     

                คิงคาโลจะเชิญท่านเสนามาหารือเรื่องการทหาร เชื่อเถอะว่าตาแก่นั่นย่อมดีใจว่าตัวเองได้เป็นจอมทัพ  โอ๊ะ จริงสิ ป่านนี้ฝ่าบาทคงเสด็จขึ้นจากอ่างสรง และเปลี่ยนเครื่องทรงเรียบร้อย เรารีบไปรอดูผลงานของเรากันดีกว่า ไป ออเรียล ไปกับอา

     

                แต่คลาเอน่า....

     

                ไฮ้ ปล่อยยัยหนูไปก่อนเถอะน่ะ ขืนรอไปด้วยกัน แน่นอนล่ะว่าไม่ทัน

     

                แต่หม่อมฉันไม่ไปด้วยท่าจะดีกว่านะกระหม่อม

     

                ทำไม?       

     

                ดวงตาสีเขียวมรกตฉายประกายแวววาวน่ามองยิ่ง ท่านเสนาฯน่ะต่อให้วางใจในสถานการณ์ตอนนี้แค่ไหน แต่คงไม่เดินเข้ามาในเขตพระราชฐานคนเดียว ทหารส่วนตัวที่ถืออาวุธมาคงต้องรออยู่ข้างนอก หากเราจะจัดการ ก็ควรไม่มีร่องรอยหลงเหลือสิกระหม่อม

     

                ฉลาด คำชมสั้นทว่าต้องใจคนฟังเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะคำเปรยต่อมา และโหดดี

     

                สองอย่างนี้ควรรวมอยู่ในเจ้าชายทุกพระองค์ คาเรนเองก็คงเป็นอย่างนั้นใช่มั้ย ออเรียล

     

                ที่ต้องตรัสถาม เพราะพระองค์เองก็แน่พระทัย ว่าไม่มีทางรู้จักองค์คาเรนมากไปกว่าพระสหายสนิทของลูกคนนี้แน่นอน

     

                คาเรนสมบูรณ์พร้อมในทุกด้านของผู้ที่ครองอำนาจ หากจะสุขุมและรอบคอบกว่านี้ แต่เมื่อกลับจากการท่องเที่ยวครั้งนี้เมื่อไหร่ พระองค์ใหญ่แห่งคาโนวาลจะทรงเป็นจอมทัพที่เก่งกาจได้

     

                 ควีนเฟรินไม่ทรงเข้าพระทัยนักว่าหมายความถึงอะไร แต่ก็พยักพักตร์รับก่อนย่างบาทเสด็จออก

     

                ไปล่ะ

     

                หม่อมฉันขอส่งเสด็จ

     

     

                ท่านเสนาฯเซตดีใจแทบบอกไม่ถูกเมื่อมีคนของคิงคาโลมาเชิญไปที่วัง เพราะบุรุษผู้ทรงศักดิ์สูงสุดในแผ่นดินมีกระแสรับสั่งมาว่าต้องการปรึกษาเรื่องทางทหาร อันน่าจะเกี่ยวข้องกับการรับศึกทางเหนืออันต้องปะทุในเร็วๆนี้แน่

                พระองค์ใหญ่หายไปจากวังหลายวัน ไม่มีกำหนดเสด็จกลับที่แน่นอน....ตำแหน่งจอมทัพย่อมยังว่าง

                คนมีอำนาจทางการทหารที่สุดคือเขา รองลงไปคือซาฟา

                ยังไงอำนาจก็ไม่ไปไหน

                และในยามสงคราม อำนาจทางการทหารเป็นอำนาจสูงสุด เมื่อถึงเวลานั้นกระทั่งเจ้าชายรัชทายาทก็ต้องฟังคำสั่ง

                แต่ถ้าจะให้ดี...ทูลเชิญเสด็จพระองค์ใหญ่ไปสรวงสวรรค์เลยดีกว่า อย่าได้ลำบากทรงเสด็จกลับเลย

                ไม่รู้ว่าไอ้พวกที่อุตส่าห์จ้างด้วยเงินราคาสูงลิ่ว จะทำงานไปถึงไหนแล้ว....มันไม่รายงานมาสักที

     

                ท่านพ่อ

     

                เมื่อบุตรชายคนเดียวเรียก ท่านเสนาฯกับคนสนิทนับสิบก็มาถึงหน้าประตูเขตพระราชฐานชั้นในพอดี และจากตรงนี้ไปจนถึงที่ประทับของคนในราชวงศ์วาเนบลี รวมถึงห้องทรงงานของคิงคาโล ทหารที่ติดอาวุธทุกคนต้องรออยู่ที่นี่

     

            ลูกจะรอ

     

                ไอ้ลูกคนนี้มันขี้ระแวง แค่พ่ายแพ้พระองค์ใหญ่ครั้งเดียวก็เปลี่ยนเป็นคนขี้ขลาดได้มากขนาดนี้ วันก่อนก็เอาคนไปลอบปลงพระชนม์เจ้าหญิงแห่งอเมซอนไม่สำเร็จไปทีหนึ่งแล้ว แต่ไม่อยากจะโทษมันมากมายหรอก

                อย่างน้อยเหตุการณ์ครั้งนั้น ก็ทำให้พระองค์ใหญ่เสด็จพ้นไปจากคาโนวาลจนได้

                แล้ววันนี้ก็มาถึงสมที่รอคอย...

                ร่างท่านเสนาฯเซตที่ยืดอย่างสง่าผ่าเผยก้าวลงจากหลังม้า แล้วเดินเข้าสู่เขตพระราชฐานชั้นใน จนเมื่อเดินไปได้ครึ่งทาง ยังไม่ทันพ้นสายตาดีด้วยซ้ำ ทหารรักษาพระองค์นับสิบก็ตรงเข้าจับกุมร่างผู้ทรงอำนาจทางทหารเอาไว้

     

                ท่านพ่อ!!!”

     

                ซาฟารีบลงจากหลังม้า ก่อนปราดเข้าไปหาบิดา ทว่าประตูเขตพระราชฐานชั้นในปิดลงก่อน

                ความประมาทนำพาความตายมาสู่เจ้าของเสมอ แต่ต่อให้เป็นซาฟาก็แน่ใจ พลาดครั้งนี้ ไม่มีชีวิตไว้แก้ไขแล้ว

                ปึง....

                เสียงจากด้านหลังดังขึ้น แน่ชัด ประตูที่กั้นระหว่างภายนอกกับเขตพระราชฐานชั้นนอกก็ถูกปิดลงเช่นกัน คนสนิททั้งหมดของเซต อิมรีอา จึงชักดาบออกมาพร้อมกัน โดยมีเสียงของซาฟาตะโกนดัง     

     

                ระวัง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×