คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #59 : งานประลองสิงห์
51
งานประลองสิงห์
เมื่อคาเรนทรงตื่นบรรทมขึ้นมา เวลาที่เคยหยุดก็เริ่มหมุนอีกครั้ง เนตรคู่งามกะพริบๆอย่างงงงวยเมื่อทอดพระเนตรไปรอบด้าน ราวกับว่าพระองค์หลุดมาอยู่อีกโลกหนึ่ง ในห้องนอนที่หรูหราพอสมควรของใครสักคนหนึ่ง
“ตื่นแล้วเหรอ”
เสียงที่แสนคุ้นดังมาจากด้านหนึ่งของห้อง วรองค์โปร่งจึงแทบลุกพรวดขึ้นประทับนั่งอย่างตกพระทัย
“ออเรียล”
นัยน์ตาสีเขียวมรกตคู่เดิมแต่ทอประกายเฉื่อยชาเหน็ดเหนื่อยผิดจากเดิม ค่อยๆใกล้เข้ามา เมื่อเขาเดินเข้ามาช่วยประคองไปนั่งที่โต๊ะกลางห้อง
“เฮ่ย ฉันแข็งแรงแล้วล่ะน่า แต่ช่วยบอกหน่อย ที่นี่ที่ไหน”
“ทริสทอร์ ในห้องนอนฉัน”
ที่ทรงทำนายไว้ไม่ผิดเลยจริงๆ
“แล้ว....นายเรย์ ที่พาฉันมาถึงนี่ล่ะ”
“ออกไปเที่ยวกันเถอะ” เพื่อนรักกลับพูดปัดไปอีกเรื่องหนึ่งอย่างรวดเร็ว และลุกขึ้นเดินนำไปจากห้อง คาเรนจึงได้แต่ประทับยืนอย่างพิศวง แล้วออเรียลก็หันมาบอกอีกครั้งด้วยแววตาที่คนมองสรุปว่าต่างไปจากทุกครั้งจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อใบหน้านั้นระบายไปด้วยรอยยิ้มเหยียดหยันเย็นชา
“มาเถอะน่า งานประลองสิงห์กำลังเริ่มต้นแล้วนะ”
งานประลองสิงห์?
งานประลองสิงห์ที่จัดต่อหน้าพระที่นั่งของกษัตริย์แห่งทริสทอร์ และพันธมิตรสงคราม.......คิงอาเธอร์ กษัตริย์แห่งซาเรสผู้ครอบครองพยุหแสนยาที่เกรียงไกร และกระหายสงครามเป็นอย่างยิ่งพระองค์นั้น
มันอะไรกัน?
เนตรคู่งามกวาดไปรอบด้านอย่างไม่อยากเชื่อ คบเพลิงสว่างไสวถูกจุดล้อมเป็นวงกว้าง ภายนอกมีทหารร่างใหญ่ยืนขวางระหว่างเขตกั้นกับประชาชนที่มารายล้อมมุงดู เสียงเอะอะจอแจดังมาจากทิศทางหนึ่งเมื่อกรงสิงโตถูกลากมาพร้อมกับล้อเลื่อนด้วยแรงงานคนรับใช้กว่าสิบคนมาหยุดอยู่กลางสนาม พร้อมเสียงประกาศชื่อผู้เข้าประลองคนแรก
เสียงปรบมือดังกึกก้อง เมื่อร่างหนาของชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวออกมา พร้อมกับหอกปลายแหลมในมือ
สิงห์ตัวแรกถูกปล่อย ขาแข็งแรงทั้งสองคู่ส่งร่างใหญ่ทะยานออกจากกรงอย่างรวดเร็ว ขนสีอ่อน พองฟูบดบังส่วนหัวแทบมิด เหลือเพียงดวงตาที่ฉายประกายคึกคะนอง ดุร้าย พร้อมเสียงคำรามสีหนาท ที่บางคนได้ยินแล้วต้องตัวสั่นอย่างหวาดกลัว
การประลองเริ่มต้น.....
ชายผู้นั้นเริ่มต้นหลอกล่อสิงห์สาวอย่างชำนาญ น่าดูชมยิ่ง ทว่าเพียงปลายหอกสะกิดเอาสีข้างของสิงห์จนเลือดไหลโชก สิงห์สาวก็กลับตัวมาตะปบด้วยสัญชาตญาณนักล่า และเมื่อนักสู้สิงห์เสียหลัก เขาก็กลายเป็นเพียงของเล่นชิ้นหนึ่งในปากผู้ล่าที่จะเหวี่ยงไปทางโน้นทีทางนี้ทีตามใจชอบเท่านั้นเอง
เสียงโหวกเหวกโหยหวนทำให้ผู้ชมรอบด้านเวทนา ออเรียลลอบมองเพื่อนรักที่ทรงมองภาพตรงหน้านิ่งอย่างไม่สะดุ้งสะเทือน ด้วยความรู้สึกไม่แปลกใจสักเท่าไหร่
คาเรนมันเหมาะที่จะเป็นกษัตริย์โดยสมบูรณ์ จิตใจมันเข้มแข็งมากพอที่จะมองดูภาพเสียวสยองได้ราวกับเป็นคนประทานให้เอง หรืออาจจะเพราะเคยประทานให้ใครมานักต่อนักก็สุดจะรู้
แต่ขณะที่คาเรนมันนิ่ง ท่านพ่อของเขาบนพระที่นั่งเบื้องบนก็นิ่ง มีเพียงกษัตริย์แห่งซาเรสเท่านั้นที่ทรงพระสรวลร่าอย่างต้องพระทัยยิ่งนัก
“ไอ้พวกทริสทอร์มันเก่ง แต่เคยได้ยินว่างานประลองสิงห์ที่ซาเรสเมื่อหลายปีก่อนน่าตื่นตาตื่นใจกว่า เพราะมีคนอหังการ์จากทริสทอร์นี่แหละที่เคยทำท่านพ่อขายพระพักตร์มาแล้ว”
คิงอาเธอร์จะทรงหมายความถึงอะไร? หากไม่ใช่งานประลองสิงห์ของโร เซวาเรส กษัตริย์คนปัจจุบันแห่งทริสทอร์เคยแสดงเบื้องพระพักตร์คิงกาเบรียล และแทบเอาพระชนม์ชีพไม่รอด หากไม่ได้อดีตเจ้าชายคาโล แห่งคาโนวาล และนักฆ่าชั้นยอดของเอดินเบิร์กช่วยออกมาได้ในคราวนั้น
ประโยคนั้นมีไม่กี่คนที่จะเข้าใจ อย่างมากก็แค่เขากับพี่ชายเท่านั้น
คาเรนเองก็ไม่รู้
ที่แต่รู้.....คาเรนมันกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
เมื่อนักสู้สิงห์ล้มพับลงไปหลายคน พร้อมกับสิงห์หลายตัวที่ได้รับบาดเจ็บหรือถึงกับตาย สุรเสียงห้าว คึกคะนองก็ร้องก้อง
“ปล่อยสิงห์ออกมาให้หมดทั้งกรง นักสู้ทั้งหมดสู้ซะพร้อมกันนั่นแหละ ใครรอดเป็นคนสุดท้ายมีรางวัล เราจะให้มันคุมทัพจากทริสทอร์”
ท่ามกลางความตะลึงลาน เสียงโห่ร้องจากนักสู้ที่เหลือก็ดังขึ้น พร้อมกับพนักงานที่เข้าไปปลดสลักกรง และปล่อยให้สิงห์ทั้งหมดออกมากลางสนาม เสียงคำรามดังประสานกันดังไปทั่วทิศ เหล่าผู้ชมจึงถอยกรูดโดยไม่ได้ตั้งใจ
โอ การเป็นพันธมิตรครั้งนี้ ต้องแลกมาด้วยชีวิตทั้งสิงห์ทั้งคนตั้งเท่าไหร่
คิงโร....ทรงรู้สึกเช่นไรกับการเสียสละทั้งพระเกียรติและพระยศแห่งกษัตริย์ขนาดนี้
แต่ก็นั่นแหละ หากปล่อยให้ทัพซาเรสรุกรานดินแดนเข้ามา ความเสียหายจะประเมินค่ามิได้มากกว่า การสูญเสียแค่นี้จึงนับว่าคุ้มค่า และน่าชื่นชมในการตัดสินพระทัยยิ่งนัก
คาเรนทรงมองพักตร์เรียบสนิทของท่านลุงอย่างยอมรับนับถือ เพราะหากเป็นพระองค์คงทำอย่างที่ทรงทำครั้งนี้ไม่ได้
ยังไงเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งนักรบคาโนวาลก็อยู่เหนือสิ่งอื่นใด
ไม่ว่าจะเป็นโอรสกษัตริย์หรือธิดากษัตริย์ก็ตามที
“ออเรียล ยืมดาบหน่อย”
สุรเสียงพระองค์ใหญ่แห่งคาโนวาลแผ่วเบา ทว่าหนักแน่นอย่างที่ทรงเป็นมาเสมอยามดำรงพระยศนักรบ เพื่อนรักที่ยืนเคียงข้างจึงหันมามองพร้อมรอยยิ้มกริ่ม
“เถอะน่า นายคงไม่ให้ฉันใช้ดาบปราบมารของท่านปู่ในสภาพอย่างนี้หรอกนะ”
ลองคาเรนตรัสอย่างนี้ออกมาแล้วล่ะก็ เรื่องอื่นก็ไม่สนพระทัยแล้วล่ะ
“เป็นไปตามพระกระแสรับสั่งพระเจ้าค่ะ”
เมื่อนักสู้ลงสนามพร้อมกัน ลำดับที่จัดเรียงไว้ก็ถูกโยนทิ้ง จะมีวรองค์เล็กบางแฝงเข้ามาร่วมด้วยตอนไหน ก็คงไม่มีใครทันสังเกต โดยเฉพาะเมื่อการต่อสู้เดิมพันด้วยชีวิตและศักดิ์ศรี ทั้งระหว่างคนกับสิงห์และคนกับคนกันเองเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตอนแรกไม่มีใครทันเห็นเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อสิงห์สามตัวที่เงื้อหมายตะปบกรงเล็บเข้ามา โดนคมดาบซัดไปพร้อมกันจนเสียงคำรามดังลั่น ทุกคนก็หันมามองทางคาเรนทันที
คิงอาเธอร์ทรงทอดพระเนตรจากที่สูงทั้งยังอยูในระยะไกลย่อมไม่ทรงจดจำได้ ดังนั้นสุรเสียงจึงชมลั่น
“ไอ้หนูตัวเล็กนั่นมันเก่ง ดาบมันพลิ้วดี”
และเมื่อคนทั้งสนามมุ่งความสนใจมาที่มัน บางคนที่หวังครองตำแหน่งจอมทัพ ทริสทอร์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกริษยา บางคราคมหอกคมดาบที่พุ่งเข้ามา จึงไม่ได้หมายทำร้ายสิงห์ที่ล้อมรอบด้าน แต่หมายทำร้ายพระองค์โดยแกล้งทำเป็นอุบัติเหตุต่างหาก
ไม่ใช่ว่าคาเรนจะไม่ทรงทราบ แต่สมาธิกำลังจดจ่ออยู่กับการจัดการสิงห์ทั้งหมดให้หมดไป เพื่อให้ความสนพระทัยแห่งกษัตริย์ซาเรสพุ่งลงมาที่พระองค์ แต่จะด้วยจุดประสงค์อย่างไร แม้แต่ออเรียลเองก็ไม่อยากจะคิด
คนอื่นจำไอ้หนูตัวมอมแมมกลางสนามไม่ได้ นั่นล่ะจึงถือเป็นเรื่องดี แต่ในบรรดานักสู้เหล่านั้นย่อมต้องมีใครบางคนจดจำได้
“เคเรส”
เสียงเรียกพระนามปลอมดังลั่น คาเรนทรงมองหารวดเร็วด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าพี่ชายตัวโตนั่นจะมาอยู่ในสนามด้วย
‘ทำไมไม่เห็นตั้งแต่ตอนแรกนะ.....’
“แสนวสันต์”
เสียงตะโกนก้องของเรย์ทำให้คทาด้ามหนึ่งปรากฏตัวลอยอยู่เหนืออากาศ อณูมนต์สีเหลืองเป็นละอองเล็กปลิวกระจายรอบทิศทาง แล้วจึงรวมตัวกันล้อมรอบตรงหัวคทา บันดาลลมร้อนให้เกิดขึ้นจนคนที่อยู่ในสนามสัมผัสได้ถึงพลังงานอันมหาศาลนั้น แล้วแค่ในพริบตาต่อมา ทั้งสิงห์ทั้งนักสู้อื่นใดก็ล้มพับลงกับตา
ยกเว้นคนใช้มนต์กับคนอยู่เหนือมนต์เท่านั้นที่ยังอยู่ในสนาม
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย”
จะอย่างไรเขาก็ยังเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กนั่นอยู่ดี ต่อให้ประจักษ์ฝีมือเชิงดาบของมันเป็นครั้งแรกแล้วก็ตาม
“ไม่” กระแสตอบรับมั่นคง อย่างเลิกคิดที่จะเป็นเด็กน้อยในสายตาเขาสักที
สายตาสองคู่จึงประสานกันราวกับจะเฉลยความลับของต่างฝ่ายที่ต่างต้องแยกทางกันแล้ว ทว่าตอนนั้นเองที่กระแสรับสั่งชื่นชมจากคิงอาเธอร์ เลโอนาท บริสตั้นดังขึ้น
“ยอดเยี่ยม เด็กนั่นใช้ดาบดี ไอ้หนุ่มนั่นใช้เวทย์ดี ”
คาเรนจึงทรงผินพักตร์ไปมองอย่างเดือดดาล เพราะเพิ่งแน่ใจในนาทีนี้เองว่า งานประสิงห์นี้จัดขึ้นได้อย่างไร
สงครามที่ท่านแม่ตรัสประทานว่ามันสิ้นสุดลงแล้ว บัดนี้เปิดฉากสมบูรณ์
ทริสทอร์เลือกเข้าข้างฝ่ายซาเรส พยุหแสนยายิ่งเกรียงไกร กล้าแข็ง พอที่จะเคลื่อนทัพลงไปทำศึกกับคาโนวาล เพื่อยึดครองขยายดินแดน็
ยอมได้เสียที่ไหน.....
แล้วตอนนั้นเอง.....ที่คทาวิเศษประจำทริสทอร์ ทำให้คนมามุงดูจำได้ถึงเจ้าชายรัชทายาทที่ออกไปเร่ร่อนเสียนาน ประชาชนรอบด้านจึงพากันถวายคำนับติดพื้น แล้วประสานเสียงขึ้น
“เรย์ เซวาเรส เดอะปรินซ์ ออฟทริสทอร์”
คาเรนทรงตะลึงลาน พระดำริทบทวนปั่นป่วน สับสน ความว่างเปล่าเข้ามาแทนที่อารมณ์ขุ่นเคืองจนแทบดำรงองค์ตรงต่อไปไม่ได้ กระทั่งเมื่อหันไปสบพระเนตรกับเจ้าของฉายาเดอะปรินซ์เช่นกัน อีกฝ่ายก็ได้แต่มองกลับมาด้วยแววตาโศกเศร้าและยอมรับเท่านั้น
เพราะอย่างนี้ใช่มั้ย เรย์ถึงได้ครอบครองของวิเศษที่มายากรธรรมดาไม่มีวันมีได้ เพราะอย่างนี้ใช่มั้ยจึงทรงคุ้นเคยกับดวงตาสีมรกตที่เหมือนของเพื่อนรักตั้งแต่ทรงพบเขาครั้งแรกที่เมืองชายแดน เพราะอย่างนี้ใช่มั้ย ตลอดการเดินทางที่ผ่านมาจึงมีคนให้ความช่วยเหลือมากมาย และเพราะเหตุนี้ใช่มั้ย เรย์จึงต้องคืนตำแหน่งเจ้าชายรัชทายาทเพื่อดำรงตำแหน่งจอมทัพในสงคราม
สงคราม.....กับคาโนวาล
โทษทีพี่ชาย....งานนี้เราอยู่คนละฝั่งกันแล้วล่ะ
“ขอประทานอภัยฝ่าบาท หม่อมฉันเห็นว่างานประลองครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุด....”
คาเรนหันไปทูลด้วยพระสุรเสียงทรงอำนาจอย่างที่เรย์แน่ใจว่าต้องไม่ใช่เคเรสของเขาแน่ที่เป็นคนพูด ขณะกษัตริย์แห่งซาเรสทรงทอดพระเนตรมองดวงพักตร์มอมแมมแล้วก็ยังนึกไม่ออกว่าทรงเคยทรงพบทรงคุ้นเคยตอนไหน
“เมื่อครู่ ฝ่าบาททรงมีกระแสรับสั่ง ใครรอดคนสุดท้ายจะได้คุมทัพทริสทอร์ นี่เหลือกันสองคน ควรต้องสู้ต่อจนกว่าจะได้คนสุดท้ายจริงๆสิกระหม่อม”
คนนอกสนามถึงกับโห่ร้องขึ้นพร้อมกันอย่างรู้สึกสนับสนุน มีเพียงออเรียลคนเดียวเท่านั้นล่ะที่อ้าปากค้างอย่างตกใจ
เขารู้ว่าคาเรนคิดจะทำอะไร
คาเรนมันแน่ใจ พี่ชายที่ดูแลมันมาตลอดทางจะเป็นจอมทัพจากทริสทอร์ บุกลงไปยึดครองคาโนวาล และมันย่อมรู้จักเวทย์จากคทาแสนวสันต์ที่มันเห็นมาหลายครั้งดี เพราะฉะนั้นจึงยอมไม่ได้ที่จะให้พลังเวทย์นั้นหวนกลับไปทำร้ายบ้านเมืองของท่านพ่อ และประชาชนที่มันปกครองอยู่
มันไม่ลังเลที่จะฆ่าเรย์เลย เพราะถ้าปล่อยไว้จนเขาเป็นจอมทัพ คาโนวาลจะเป็นฝ่ายสูญเสียเอง
ทั้งที่ความจริงมันไม่น่าจะทำลงเสียด้วยซ้ำ
หรือว่า....ความผูกพันตลอดเวลาที่เดินทางด้วยกันมา จะสลายไปทันทีที่มันคืนพระยศเดิม
หรือว่า....มันมีแผนอย่างอื่น
“นั่นสินะ ยังเหลือกันสองคนนี่” คิงอาเธอร์ทรงรำพึงก่อนตัดสินพระทัยรวดเร็ว “เอาก็เอา สองคนสู้กันจนเหลือคนสุดท้ายจริงๆ.....เริ่มได้”
สิ้นกระแสรับสั่ง กลองสัญญาณระรัวขึ้นอีกครา ท่ามกลางการเผชิญหน้าของสองเจ้าชายรัชทายาท....
เรย์เองยังไม่รู้เรื่องนี้ เขาจึงเพียงสงสัยจนถึงขั้นเจ็บปวดใจ เพราะคิดว่าไอ้ตัวเล็กของเขาสนใจตำแหน่งจอมทัพมากกว่าชีวิตของเขา เพราะแม้แต่ต้องสู้กันเองทั้งที่กินนอนด้วยกันมาหลายทิวา มันยังเสนอความคิดนี้หน้าตาเฉย
“ทำไม”
ท่ามกลางเสียงกลองและเสียงโห่ร้อง คนได้ยินมีเพียงคนอยู่ตรงหน้าเท่านั้น
“เพื่อคาโนวาล”
คาเรนทรงตอบได้แค่นี้ และรำลึกขึ้นมาได้ว่าเคยตอบเช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง
ความจริงคำตอบของการกระทำทุกอย่าง ก็ตอบได้แค่คำนี้เท่านั้น
ขอโทษนะ....พี่ชาย
ถ้าเพื่อคาโนวาล ฉันต้องทำทุกอย่างให้ได้ ไม่ว่ามันจะต้องแลกด้วยอะไร
กษัตริย์.......เสียทุกอย่างจนหมดสิ้นได้ ยกเว้นแผ่นดิน
หมดรักทุกอย่างได้ ยกเว้นรักประชาชน
ความคิดเห็น