ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอสตอนทายาท 3 แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #73 : สิบสองปีหลังสงคราม (เรย์สละบัลลังก์)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.45K
      3
      20 พ.ย. 52

    64

     

    สิบสองปีหลังสงคราม (เรย์สละบัลลังก์)

     

     

     

    เคเรส เรเคน.......

     

     

     

    สุรเสียงหวานเยือกของพระชายาแห่งทริสทอร์ ทำให้เจ้าชายน้อยทั้งสองพระองค์ที่กำลังกวาดพระเนตรสำรวจปราสาทราชมณเฑียรในเขตพระราชฐานของวังคาโนวาลหยุดชะงัก แล้วหันมาทำองค์เรียบร้อยเสียทันควัน

     

     

     

    แม่บอกแล้วใช่มั้ย อย่าซุกซนเชียวนะ

     

     

     

    กระหม่อม...

     

     

     

    แล้วอย่าทูลเล่าหรือทูลถามอะไรประหลาดๆเบื้องพระพักตร์คิงคาเรนเชียวนะ จะหาว่าแม่ไม่เตือน

     

     

     

    แต่ทว่ากระแสรับสั่งของพระมารดาหาประสบความสำเร็จไม่ เพราะเพียงเสด็จต่อได้ไม่กี่ก้าว พระโอรสพระองค์โตก็ทรงปราดเข้าไปกระตุกชายพระภูษาพระมารดา แล้วตรัสถามอย่างไร้เดียงสาว่า

     

     

     

    พระองค์ใหญ่ท่านพระทัยร้ายมั้ยท่านแม่

     

     

     

    พระทัยดีพระชายาคลาเอน่าตรัสตอบ พระทัยดีกับเด็กดี เชื่อฟังท่าน ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น แต่จะพระทัยร้ายกับเด็กดื้อ แม่พูดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมปฏิบัติตาม คอยดูเถอะ แม่จะทูลฟ้องให้ท่านมีพระกระแสรับสั่งจับลูกไปลงโทษ

     

     

     

    หม่อมฉันเป็นเด็กดีนะกระหม่อมเจ้าชายเคเรสทรงชูนิ้วพระหัตถ์เล็กๆนั้นขึ้น รวมทั้งหันไปตรัสสั่งให้พระอนุชาทำตามด้วย เรเคนก็ด้วย

     

     

     

    ดีมาก เพราะฉะนั้นตอนนี้เดินนำหน้าไป ยืดตัวให้มันตรงๆ นั่น ยังงั้น เอ้า เรเคน ทำตามพี่ อย่าให้ผิดเชียวนะ

     

     

     

    แล้วมันก็เป็นภาพที่แสนจะน่ารักเมื่อเจ้าชายทั้งสองพระองค์คอยหันซ้ายหันขวาเพื่อจะมองรอบด้านให้ถ้วนทั่ว เพราะนับแต่พระชนมายุสองพรรษาซึ่งยังไม่รู้ความ ครั้งนี้แหละเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จกลับมาเยือนคาโนวาล เมืองของท่านแม่อีกครั้ง ซึ่งในขณะเดียวกันต้องพยายามเดินให้สง่า สมกับที่ถูกฝึกมาให้เป็นเจ้าชายที่ดี แต่ก็ติดอยู่ตรงที่ว่าความซุกซนทำให้สมาธิที่จะทรงกระทำตามพระกระแสรับสั่งถูกลืมไปอย่างรวดเร็ว

     

     

     

    คลาเอน่า

     

     

     

    เสียงเรียกของบุรุษที่เดินตรงมาทำให้พระชายาคลาเอน่าทรงพระสรวลกว้าง หากพระโอรสทั้งสองทรงถอยกรูดทันควัน

     

     

     

    ท่านพี่คาร์ซาร์ มาทำอะไรที่นี่คะ

     

     

     

    อ้อบุรุษผู้อยู่ในชุดสีดำทั้งตัว หากถือดาบเล่มเรียวยาวราวกับทหารอย่างไม่เกรงใจใคร ทำให้ดวงเนตรสีมรกตเล็กๆสองคู่ที่มองมาตัดสินพระทัยไม่ถูกว่าสมควรจะเกรงกลัวหรือนับถือดี มาทำงานลอบสังหารที่เมืองเอเธนส์นี่ล่ะ เลยมาเยี่ยมคาเรนมันซะหน่อย นี่มาแบบไม่บอกมันเลยใช่ไหมเนี่ย เพราะเมื่อกี้ยังบ่นอยู่เลยว่าคิดถึงเจ้าหญิงเอาแต่พระทัยพระองค์นั้น

     

     

     

    หมายถึงหญิงหรือคะ แหม หญิงน่ะโตขึ้นตั้งเยอะ

     

     

     

    จ้า โตขนาดเหน็บไอ้ตัวเล็กมาได้แล้วนะ เอ้า แล้วนั่นไปทำอะไรข้างหลังล่ะ

     

     

     

    พระชายาแห่งทริสทอร์ทรงเหลียวรอบองค์ทันที แล้วเมื่อพบว่าพระโอรสทั้งสองผลุบกลับไปอยู่เบื้องพระขนอง ริ้วความไม่พอพระทัยก็ปรากฏบนวงพักตร์งามทันที

     

     

     

    เคเรส เรเคน....แม่เคยสอนให้หลบอย่างนั้นด้วยหรือไง

     

     

     

    อ้อ ชื่อเคเรส.....คาร์ซาร์มองไล่ไปทีละคนแต่ไม่พบความแตกต่างระหว่างสองพระองค์ กับเรเคนเรอะ.....ฝาแฝดนี่ ให้ตาย เหมือนกันยังกับแกะ ถอดแบบออเรียลมันมาทั้งคู่เลย

     

     

     

    เคเรส เรเคน นี่ท่านลุงคาร์ซาร์ พระสหายสนิทของท่านพ่อตอนเรียนอยู่เอดินเบิร์ก มานี่ อย่าหลบนะ พระองค์ใหญ่ทรงเห็นท่าทางแบบนี้ต้องไม่พอพระทัยแน่

     

     

     

    แล้วพระมารดาก็คว้าพระพาหาทั้งสองมายืนเบื้องพักตร์ให้ดูสง่า

     

     

     

    พระองค์ใหญ่เรอะ? ทำไมให้ลูกเรียกคาเรนอย่างนั้นล่ะ

     

     

     

    ก็.....ไม่รู้นี่คะ ว่าจะให้เอ่ยแทนพระองค์ว่าท่านลุง หรือท่านป้าดี

     

     

     

    อ้อนักฆ่าแห่งซาเรสหัวร่อขึ้นดังลั่นทันที นั่นสินะ เรียกพระองค์ใหญ่น่ะน่าจะดีกว่าจริงๆด้วย ว่าแต่รีบเข้าไปเถอะ คาเรนมันทั้งคิดถึงน้องหญิง ทั้งคิดถึงหลานเต็มทีแล้ว

     

     

     

    เพราะบนยอดผาน่ะ......ไม่เคยอบอุ่นอยู่แล้ว

     

     

     

     

     

    หือ?”

     

     

     

    พระองค์ใหญ่แห่งคาโนวาลทรงทอดพระเนตรพระนัดดาอย่างพิจารณา แล้วจึงขมวดพระขนงยุ่งเมื่อทรงรู้สึกว่าเจ้าชายน้อยทั้งสองมีท่าทีเกรงจนกลัวพระองค์อย่างไรพิกลอยู่

     

     

     

    ลูกเป็นอะไรหรือคลาเอน่า ทั้งคู่เลย ยุกยิกพิกล

     

     

     

    จะเป็นอะไรล่ะเพคะพระชายาคลาเอน่าทรงพ่นพระปัสสาสะพรืดอย่างทรงหมดความอดทนแล้ว ก็โรคซุกซนแต่ขี้กลัวน่ะสิเพคะ กลัวไปซะหมดทุกอย่าง กลัวคนแปลกหน้า กลัวสถานที่แปลกๆ ช่างไม่สมกับคนในราชวงศ์วาเนบลีเอาเสียเลย

     

     

     

    ว่าเกินไป ลูกอาจแค่ยังเด็กเกินกว่าจะเข้าที่หญิงพูดก็ได้ แล้วไปดุอย่างนั้น

     

     

     

    งั้นจะให้หญิงทำอย่างไรล่ะเพคะ

     

     

     

    ไปขี่ม้ากับพี่ไหม คลาเอน่า แล้วพาเจ้าตัวเล็กสองคนนี่ไปด้วย

     

     

     

    แล้วโดยที่ไม่รอให้มีใครทูลตอบรับ คิงแห่งคาโนวาลก็ทรงปรบพระหัตถ์ แล้วทหารร่างใหญ่ก็ปรากฏกายขึ้นนอกบานพระทวาร

     

     

     

    ไปตามซาฟามาที บอกว่าเราต้องการพบที่กองทหารม้าหลวง

     

     

     

     

     

    เสียงหัวเราะเริงร่าของเจ้าชายทั้งสองดังทั่วทั้งทุ่งหญ้า เมื่อคาเรนทรงนำเจ้าชายเคเรสขึ้นหลังม้า แล้วเจ้าชายเรเคนประทับบนหลังม้าอีตัวพร้อมซาฟา อิมรีอา

     

    แม้จะทรงกลัวอยู่บ้าง ทว่าความอยากรู้อยากเห็นทำให้ทรงลอง ลงท้ายก็สนุกเสียจนลืมเวลา

     

     

     

    เป็นไง สวยมั้ยพระองค์ใหญ่ตรัสถามเมื่อประทับม้ายืนนิ่งบนยอดเนิน แล้วทอดพระเนตรมองลงไปเบื้องล่างซึ่งเป็นภูมิประเทศอันแสนสวยงามของคาโนวาลในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้สีเหลือง ส้ม ไปจนถึงแดง ล้อเลียนกับแสงแดดอ่อนยามเที่ยงวัน ให้บรรยากาศความอบอุ่นสุดท้ายก่อนเข้าสู่ฤดูหนาวที่น่าชมจริงๆ

     

     

     

    สวยกระหม่อม

     

     

     

    นั่นล่ะ แผ่นดินของคาโนวาล

     

     

     

    คำว่า แผ่นดินซึมซาบลงบนหัวใจดวงน้อยๆราวน้ำซึมลงในดิน แล้วโอบอุ้มเอาไว้เนิ่นนาน

     

     

     

    แผ่นดินของฉัน แผ่นดินของคลาเอน่า แผ่นดินของท่านพ่อและท่านแม่

     

     

     

    แผ่นดินของท่านแม่......

     

     

     

                เจ้าชายเคเรสทรงรำพึง

     

     

     

                รู้ไหม เคเรส เจ้าฟ้าน่ะเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ เพราะครองฟ้า ปกป้องดิน เพราะหากไม่มีดินค้ำฟ้า ฟ้าก็ไร้ความหมายนั่นเป็นพระกระแสรับสั่งติดพระโอษฐ์จากพระบิดาที่คาเรนทรงจดจำได้แม่นยำนัก เป็นคนอยู่ที่สูงต้องมองให้ต่ำเข้าไว้ แล้วก็ต้องระวังคนที่ต่ำจะขึ้นมาที่สูง

     

     

     

                ไม่ว่าเจ้าชายน้อยจะทรงแปลความหมายในประโยคนั้นออกหรือไม่ หากทรงจดจำต่อมาได้แม่นยำเช่นกัน

     

                เจ้าชาย.......สิ่งที่ได้รับมาไม่ใช่สายเลือดผู้มีสิทธิ์ครองบัลลังก์

     

                หากได้รับวิธีคิดเอาชนะ......โดยเฉพาะเอาชนะตนเอง เตือนตนเอง ให้ปกป้องแผ่นดินได้อย่างถูกต้อง....จากกษัตริย์รุ่นก่อน

     

            สิ่งที่คาเรนทรงรับมาและทรงถ่ายทอดไป.....มิใช่อำนาจ

     

                เพราะอำนาจเป็นสิ่งที่พระองค์แสวงหามาด้วยความยากลำบากและแลกด้วยอะไรต่อมิอะไรไปมากมาย และแม้เคเรส ในอนาคตหากต้องการเป็นคิงที่แท้จริงย่อมต้องแสวงหามันมาด้วยตนเองเช่นเดียวกัน

     

                สิ่งที่พระองค์รับมาจากพระบิดาและถ่ายทอดให้พระนัดดา.....คือความอุตสาหะ

     

                อุตสาหะเพื่อแผ่นดิน.....มิเช่นนั้นก็ไม่สมควรครองแผ่นดิน

     

     

     

     

     

                คิดดีแล้วหรือ คลาเอน่า

     

                คาเรนตรัสถามพระขนิษฐาด้วยพระสุรเสียงหยั่งรู้ ขณะวรองค์บางในภูษาทรงวิจิตรประทับยืนเบื้องบานพระบัญชร แล้วทอดพระเนตรเลยออกไปยังอุทยานหลวง เห็นพระโอรสทั้งสองพระองค์กำลังวิ่งไล่จับกันอยู่อย่างสนุกสนานนัก

     

     

     

                หญิงอยากให้คาโนวาลมีเจ้าชายรัชทายาท และอยากให้เคเรสเติบโตขึ้นเหมือนท่านพี่เพคะ

     

     

     

                พี่เองก็เคยคิด ว่าจะให้เคเรสอยู่ที่นี่ แล้วให้เรเคนเป็นเจ้าชายรัชทายาทแห่งทริสทอร์ ถ้าหาก.....พี่ชายไม่มีพระโอรสล่ะก็นะ

     

     

     

                ก็ถ้าหากคิงเรย์มีพระโอรสล่ะก็.......เจ้าชายพระองค์นั้นต่างหากจึงจะเป็นเจ้าชายรัชทายาทแห่งทริสทอร์โดยแท้จริง แล้วการจะให้เคเรสมาเป็นเจ้าชายรัชทายาทแห่งคาโนวาล แต่ปล่อยให้พระอนุชาผู้เป็นแฝดผู้น้องอยู่ที่ทริสทอร์ต่อไปในฐานะเจ้าชายธรรมดา ก็ออกจะใจร้ายเกินไปหน่อย

     

     

     

                ถ้าท่านพี่ทรงห่วงเรื่องนั้นล่ะก็ หญิงขอยืนยันว่าไม่เกิดปัญหาแน่นอน

     

     

     

                ทำไมล่ะพระพี่นางทรงเอียงพระศออย่างประหลาดพระทัยนัก พี่ชายไม่มีพระราชินีน่ะพอเข้าใจนะ แต่ต่อไปอาจจะมีก็ได้

     

     

     

                ไม่หรอกเพคะพระชายาแห่งทริสทอร์ก้มพักตร์ซ่อนรอยพระสรวลอันแยบคายเอาไว้ แล้วปล่อยให้คนทอดพระเนตรมองทรงสงสัยต่อไป ไม่มีทาง.......

     

     

     

     

     

                เรเคน.....ดูแลท่านแม่ดีๆนะ

     

     

     

                เจ้าชายน้อย เคเรส เซวาเรส.....ตรัสกับพระอนุชาอย่างเคร่งขรึมเป็นการเป็นงาน แต่พระอัสสุชลกลับไหลพรากเป็นสายพร้อมสูดพระนาสิกดังฟืดฟาด ราวกับกำลังร่ำลากันตลอดกาลก็ไม่ปาน แต่กระนั้นก็ยังคุมองค์เองไว้มั่น ไม่กระทืบบาทโยเยอย่างแต่ก่อนอีก

     

                พระองค์ใหญ่.....จะเป็นท่านลุงหรือท่านป้าก็ช่าง

     

                หากทรงเป็นต้นฉบับที่ดีที่สุด....ต้องดำรงองค์ให้เหมือนให้ได้

     

                เพื่อ......แผ่นดินของท่านแม่

     

     

     

                ท่านพี่......พระอนุชาเองก็อยู่ในสภาพไม่แพ้กัน หากได้พระหัตถ์ท่านแม่ช่วยกระชับความมั่นพระทัย แล้วไปเยี่ยมน้องบ้างนะ ไปสอนน้องขี่ม้าให้ได้นะ....

     

     

     

                อื้ม พี่จะไป.....ไปแน่นอนเลย

     

     

     

                จากนั้นเสียงสะอื้นพร้อมเสียงสูดพระนาสิกก็ยังดังอยู่ต่อไป หากให้ความรู้สึกเอ็นดูแก่ผู้พบเห็นมากกว่าสงสาร

     

                เจ้าชายสองพระองค์ที่ไม่เคยแยกกันเลย...บัดนี้มีพระองค์หนึ่งเสด็จกลับทริสทอร์พร้อมพระมารดา อีกองค์ประทับอยู่ ณ คาโนวาล

     

                คาเรนทรงวางพระหัตถ์อบอุ่นบนพระอังสาน้อยของเจ้าชายเคเรส

     

                เสียงสะอื้นค่อยๆจางลง

     

                เหล่าข้าราชบริพารที่ตามเสด็จ เข้าใจกันโดยไม่ต้องพูด

     

                เจ้าชายเคเรส เซวาเรส.....จะทรงเป็นเจ้าชายรัชทายาทลำดับต่อไป และครองคาโนวาลในฐานะสายโลหิตของราชวงศ์วาเนบลี....เช่นคิงคาเรน

     

     

     

                เสียงปรบพระหัตถ์ดังมาจากห้องทรงพระอักษร ทหารนายหนึ่งจึงเข้าไปกราบบังคมทูล

     

     

     

                มีอะไรหรือกระหม่อม

     

     

     

                ไปตามท่านเสนาเมนิสมาทีซิพระองค์ใหญ่ทรงโบกพระราชฏีกาอยู่ไปมาอย่างรำคาญพระทัย จะเปลี่ยนคนเป็นเสนาบดีกระทรวงการคลังก็ไม่บอก เปลี่ยนเสร็จแล้วถึงเขียนฎีกาส่งมา อ้อ เอาตัวเสนาบดีการคลังคนใหม่มาให้เราตรวจสอบดูที ว่าเหมาะที่จะดูแลเงินพระคลังคาโนวาลรึเปล่า

     

     

     

                รับด้วยเกล้ากระหม่อม

     

     

     

                แล้วด้วยความรวดเร็วจนน่าอัศจรรย์ใจ นายทหารคนเดิมก็กลับมากราบทูลใหม่ว่า

     

     

     

                ท่านเสนาคนใหม่มาถึงแล้วกระหม่อม ส่วนท่านเสนาเมนิส ยังอ้างว่าป่วยอยู่ที่คฤหาสน์ ไม่สามารถมาตามกระแสรับสั่งได้กระหม่อม

     

     

     

                แน่ล่ะ ท่านเสนาตัวดีแค่หาข้ออ้าง เพราะถึงจะแก่ชราลงมาก หากไม่ไร้ความสามารถจนถึงขั้นมาทำงานไม่ได้ อีกทั้งความจำกับสุขภาพก็ยังดีอยู่ แม้จะบ่นว่าปวดเมื่อยตามร่างกายบ่อยๆก็ตาม

     

     

     

                เออ เอาคนใหม่นั่นแหละเข้ามา

     

     

     

                แล้วพอทหารหน้าห้องถอยไป บุรุษร่างสูงในชุดขุนนางก็ก้าวเข้ามา คาเรนทอดพระเนตรผ่านๆแล้วตรัสถาม

     

     

     

                ท่านชื่ออะไร

     

     

     

                เรย์ ไรซากระหม่อม

     

     

     

                ปึก!

     

            พระราชฎีกาที่ทรงเปิดทอดพระเนตรค้างอยู่หลุดจากพระหัตถ์และหล่นลงไปกองกับพื้นทันที

     

     

     

                พี่ชาย....

     

     

     

                เป็นพระกรุณาอย่างยิ่งที่ยังทรงจดจำหม่อมฉันได้ และหม่อมฉันมาแทนท่านเมนิสในตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงการคลังกระหม่อม

     

     

     

                พระพักตร์คร้าม คมสัน แม้พระนิสัยจะขี้เล่น หาความจริงจังไม่ค่อยได้ เป็นพระพักตร์ที่ทรงคุ้นเคยดี เพราะสิบปีที่ทรงครองบัลลังก์ต่อจากพระบิดา บุรุษผู้นี้มีส่วนช่วยหลายอย่าง และตลอดเวลาก็ทรงคำนึงถึงอยู่เสมอ จนมาบัดนี้ แม้ลักษณะการพูดจะเปลี่ยนไป หากคาเรนทรงแน่พระทัย อย่างไรเรย์ ไรซาผู้นี้ก็เห็นพระองค์เป็น....น้องชายอยู่ดี

     

     

     

     

     

                แล้วทริสทอร์.....

     

     

     

                อีกไม่กี่วันคงได้รับพระราชสาสน์ทูลเชิญไปงานราชพิธีราชาพิเษกคิงองค์ใหม่แห่งทริสทอร์

     

     

     

                คิงองค์ใหม่?”

     

     

     

                คาเรนทรงอุทานลั่น หากคนทูลทำหน้าตายอย่างน่าได้รับรางวัลยิ่ง

     

     

     

                เจ้าชายออเรียล เซวาเรสจะกระทำพิธีราชาพิเษก และจะอุปภิเษกอย่างเป็นทางการกับพระชายาคลาเอน่า แต่งตั้งพระขนิษฐาของฝ่าบาทเป็นพระราชินีแห่งทริสทอร์ และแต่งตั้งเจ้าชายเรเคนเป็นเจ้าชายรัชทายาทกระหม่อม

     

     

     

                แล้วพี่ชาย ท่าน....

     

     

     

                หากฝ่าบาทหมายความถึงคิงเรย์ พระองค์สละราชบัลลังก์อย่างเงียบๆ เป็นที่รู้กันภายในเมื่ออาทิตย์ก่อนแล้วกระหม่อม

     

     

     

                อะไรนะ?”

     

     

     

                จากนั้นคาเรนก็ทรงตะโกนเลื่อนลั่นเพื่อเป็นการสดุดีกษัตริย์ผู้สละราชสมบัติแล้ว หากคนรับฟังกลับทำหน้าเฉย ราวกับเรื่องราวเหล่านี้ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเองทั้งสิ้น

     

                ใช่.....เขาเกี่ยวอะไรกับคิงแห่งทริสทอร์พระองค์นั้นเล่า

     

                เขาเป็นข้าราชบริพารรองบาทในคิงแห่งคาโนวาลต่างหาก

     

                รองบาท.....ด้วยเศียรเกล้าและดวงหทัย

     

     

     

     

     

                ท่านไม่เสียดายบ้างหรือ ที่ครองราชย์ได้เพียงสิบสองปี

     

     

     

                หม่อมฉันครองราชย์เมื่อไหร่หรือกระหม่อม

     

     

     

                คนตามเสด็จทูลอย่างไม่รู้เรื่องราว ลงท้ายคนดำเนินเสด็จนำก็กระทืบบาทปึง แล้วถามใหม่

     

     

     

                ท่านคิดว่าคิงเรย์ไม่ทรงเสียดายบ้างหรือ

     

     

     

                หม่อมฉันคิดว่าไม่หรอกฝ่าบาท เพราะตลอดสิบสองปีที่ผ่านมา มีเพียงพระวรกายกระทำหน้าที่เป็นกษัตริย์ หามีพระทัยสำหรับแสวงหาความสุขไม่ จะสละบัลลังก์ก็เพื่อแสวงหาความสุขที่แท้จริงนั้น ก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว

     

     

     

                เป็นกษัตริย์ไม่สมควรเห็นแก่ใครอื่น นอกจากประชาชนของตน

     

     

     

                ข้อนี้หม่อมฉันเองก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหากกษัตริย์ต้องทำเพื่อประชาชน คิงเรย์ก็ไม่ได้ทำผิดที่ตรงไหน เพราะพระอนุชาที่จะทรงครองราชย์ต่อไป เป็นเจ้าชายที่ปรีชาสามารถยิ่ง

     

     

     

                นั่นสิ ออเรียลมันเก่ง และเรเคนก็น่าจะทำได้ดีเท่า ถ้าได้รับการฝึกที่ดีอีกสักหน่อย

     

     

     

            หม่อมฉันก็คิดว่าอย่างนั้นกระหม่อม

     

     

     

                ทั้งสองคุยกัน และเดินไปตามทางเดียวกันเหมือนอดีตที่ผ่านมา.......หากคราวนี้ เรย์ไม่อาจเดินนำเจ้าตัวเล็กของเขาได้อีก แม้เดินเทียบเท่าก็ไม่ได้

     

                ใช่...ทำได้เพียงเดินตามหลัง หากก็ต้องรักษาระยะห่างเกินกว่ามือเอื้อมถึง

     

                คาเรนกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แตะต้องไม่ได้.......แสดงความรู้สึกอื่นใดนอกจากภักดีไม่ได้

     

                หาก.....ไม่เป็นไร

     

                รัก.....อาจสิ้นสุด

     

                แต่ภักดี.....ถวายด้วยชีวิต

     

                คราวนี้ล่ะที่เขาจะถวายชีวิต ไม่ให้เจ้าตัวน้อยของเขาต้องบาดเจ็บอีกเป็นครั้งที่สาม

     

                คมศาตราใด......ต้องผ่านเขาก่อนแตะต้องวรองค์บอบบางนั้น

     

     

     

     

     

                ท่านนี่โง่จริงๆนะ

     

     

     

                คนตามหลังก้มศีรษะรับ หม่อมฉันจะจดจำไว้

     

     

     

                ท่านรู้รึเปล่า ตอนนี้เราเป็นใคร ท่านเป็นใคร

     

     

     

                หม่อมฉันทราบ

     

     

     

                ท่านจะทำอย่างไร

     

     

     

                ไม่ทำอะไรทั้งสิ้นคนทูลตอบแสนจะสงบเหมือนน้ำในสระนัก หม่อมฉันบรรลุสิ่งที่ต้องการแล้ว ไม่ต้องการสิ่งใดอีก

     

     

     

                สิ่งใดที่ท่านบรรลุ

     

     

     

                รับใช้ฝ่าบาท ตามเสด็จไปทั่วทุกที่ ทั้งในสูงสุดสรวงสวรรค์ ทั้งตกต่ำใต้นรกานต์.....ตรงใดย่างบาทประทับ ตรงนั้นหม่อมฉันจะเฝ้าระวังเบื้องพระขนอง

     

     

     

                พระบาทก้าวยาวสะดุดกึก วรองค์มั่นคงคล้ายลืมเคลื่อนไหว

     

     

     

                ท่านแน่ใจ?”

     

     

     

                ยามรับสั่ง ยังไม่หันไปทอดพระเนตร ทว่าทรงทราบ ร่างสูงที่เคยเอนอิงพิงบรรทม ถวายคำนับต่ำยิ่ง

     

     

     

                ด้วยเกียรติ ด้วยเกล้า ด้วยชีวิต.....ด้วยหัวใจ

     

     

     

                ดี...กระแสรับสั่งแผ่วลงคล้ายลมพัดพาหายไปครึ่งหนึ่ง งั้นตามเรามา

     

     

     

                ท่ามกลางความคึกคักไม่เปลี่ยนแปลงของเมืองชายแดนแห่งคาโนวาล วรองค์แบบบางทว่าแข็งแกร่งเสด็จเยี่ยมชมเป็นนิจ ประชาชนจึงต่างเข้าแถวรอรับเสด็จอย่างปลาบปลื้มปรีดา บ้างก็ถวายผลหมากรากไม้ต่างๆ ให้ทหารที่ตามเสด็จเป็นคนขนกลับวัง บ้างก็ถวายดอกไม้สิ่งของต่างๆที่คาดว่าพระองค์ใหญ่น่าจะทรงโปรด จนคนรับหันซ้ายทีขวาทีจนปวดหัว

     

    ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นถึงความรักของประชาชนที่มีต่อกษัตริย์พระองค์นี้อย่างดีทีเดียว

     

    เพราะคาเรนทรงเป็นกษัตริย์ที่ดี หลังจากเป็นเจ้าชายรัชทายาทที่ดีของราชวงศ์มาเนิ่นนาน

     

    เรย์ซึ่งทำหน้าที่จูงม้าทรงจับตามองเจ้าตัวน้อยในอดีตของเขา แล้วอดยิ้มบางให้ตัวเองไม่ได้

     

    ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิด ที่จะแต่งตั้งเจ้าตัวน้อยเป็นพระชายาของเขา พระราชินีแห่งทริสทอร์ แต่เพราะได้ลองคิดหลายทางนั่นแหละ จึงได้รู้ว่าตัวเองไม่มีทางออกที่ดีสักทาง

     

    ดูเถอะ.......ชาวคาโนวาลรักมันแค่ไหน ต้องการมันแค่ไหน

     

    แล้วมันเล่า.......รักคาโนวาลแค่ไหน

     

    มันรักมาก.......มากกว่ารักเขาเสียอีก

     

    การเป็นกษัตริย์ เป็นความปรารถนาและปนิธานอันแรงกล้าของมัน เขาไม่อาจเห็นแก่ตัวให้มันละทิ้งสิ่งนั้นได้ หรือแม้เขาเห็นแก่ตัวได้ มันจะยอมละทิ้งเพื่อเขารึก็เปล่า คาเรนเคยเป็นอย่างไรในอดีตเมื่อเกิดสงคราม ครั้งนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น ไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

     

    เขาต่างหากล่ะ......ที่ควรถามตัวเอง

     

    เขาเป็นกษัตริย์ที่ดี อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง แต่ทริสทอร์ยังมีออเรียล เจ้าชายซึ่งสามารถเป็นกษัตริย์ที่ดีได้เช่นกัน

     

    ที่สำคัญ......คลาเอน่าเป็นเจ้าหญิงสามแผ่นดิน ตำแหน่งพระชายาทำให้ไม่สมพระเกียรติ อย่างน้อยให้เป็นพระราชินีแห่งทริสทอร์ก็ยังดี

     

    ออเรียลมันจะยังไงก็ได้ ถึงไม่อยากเป็นกษัตริย์......ไม่อยากอยู่บนหน้าผาอันสูงส่ง เหงาดาย

     

    แต่หากคลาเอน่ารออยู่ตรงนั้น

     

    ให้ยังไงมันก็ต้องขึ้นไป

     

    เขาก็เช่นกัน คาเรนอยู่ตรงไหน เขาหรือจะไม่อยากอยู่ตรงนั้น

     

    แต่เพราะคาเรนอยู่บนยอดผาในตำแหน่งกษัตริย์ มีสิทธิ์และอำนาจในแผ่นดินเหนือใคร ที่ยืนตรงนั้นจึงมีเพียงมันเท่านั้นที่ ยืนหยัดได้

     

    เขายืนข้างเคียงไม่ได้......ให้ยืนแหงนมองมันจากเบื้องล่างก็ยังดี

     

    แม้ไม่อาจคุ้มครองยามหนาวเหน็บและอ้างว้างได้

     

    หาก......แค่มันมองต่ำลงมา

     

    มันจะเจอเขาเสมอ

     

     

    ที่ตรงนี้ เรากับท่านเจอกันครั้งแรก

     

    คาเรนทรงรำพึง ขณะผู้ฟังคนเดียวของพระองค์จูงม้าตรงไปยังต้นไม้ใหญ่

     

    พระองค์ใหญ่ดำรัสถูกต้อง ตรงนี้ เขาเคยลากเด็กตัวกะเปี๊ยกแต่ตาสวยเอาเรื่องมายืนหอบหลังจากหนีพวกทหารมาหยกๆ ตรงนี้ เขาเคยถามชื่อมันแล้วได้ความว่ามันเป็นเด็กเร่ร่อน เคยอาศัยอยู่ในบ้านท่านเสนาเมนิส  และตรงนี้ ที่มันคุยกับเขาอย่างสนุกสนานถึงการไปทัวร์เดมอสและเมืองต่างๆทั่วเอเดน กระทั่งคุยกันถูกคอในหลายๆเรื่อง

     

    จากตรงนี้ นับแต่นั้นเขาก็เฝ้ามองหามันยามเดินท่อมๆเข้าไปในเมืองหลวงของคาโนวาล

     

    จากตรงนี้ นับแต่นั้นเขาก็อยากเจอมัน อยากให้มันเดินทางไปด้วย  พร้อมสัญญากับตัวเองว่าจะดูแลมันให้ดีที่สุด

     

    จากตรงนั้น เขามีมันมาเติมเต็มความเหงาในชีวิต และเจียนคลั่งยามมันเกือบตาย

     

    แล้วไงอีก......ใช่ จากนั้นทุกอย่างก็ปะดังปะเดเข้ามาในทันทีที่เขาคืนฐานะเจ้าชาย มันกลายเป็นเจ้าหญิงที่กำลังจะได้เป็นกษัตริย์ กลายเป็นคู่ศึกที่ต้องเผชิญหน้ากันในสงคราม และสุดท้าย กลายเป็นคนฆ่าเขาได้ง่ายดายภายในดาบเดียว หาก....

     

    ใช่.....หากมันใจดำเข้าขั้น และออกแรงตอนลงดาบอีกหน่อย

     

    เขาจะได้ไปรอมัน ณ ภพหน้าจริงๆ

     

    แต่กระนั้น น้ำหนักดาบที่ประทานให้ตัวเอง กลับไม่เบาเลย

     

    ไม่เบา......ขนาดที่ตัวเองพร้อมจะตายเมื่อไหร่ก็ได้

     

    ขนาดมนต์รักษายังปฏิเสธได้ลงคอ

     

     

     

    พี่ชาย....

     

    เรย์เงยหน้ามอง เจ้าตัวเล็กในอดีตของเขาบัดนี้กลายเป็นกษัตริย์ หากคำเรียกขานนั้นยังไม่เปลี่ยนไป

     

    คิดอะไรอยู่

     

    ยามนี้ไม่มีทหารรักษาพระองค์รอบด้าน เพราะพระองค์ใหญ่มีกระแสรับสั่งให้ไปรอหน้าปราสาทกลางเมือง เขาจึงกล้าแสดงตนเป็น พี่ชายของมันอย่างแท้จริง

     

    คิดถึงเคเรส

     

    เราก็คิด......

    กระแสรับสั่งทอดถอน หนักพระทัย

    หาก.....

     

    ไม่มีความจริงใดที่ไม่มีตัวตน เคเรสไม่มีตัวตน จึงไม่ใช่ความจริง

     

    เราคือเคเรส หากพี่ชายต้องการ.....

     

    หม่อมฉันไม่ต้องการเรียกร้องอะไรจากฝ่าบาท หม่อมฉันเพียงต้องการรับใช้ใกล้พระบาท ต้องการเห็นพระองค์อยู่ตลอดเวลา

     

    ท่านเป็นกษัตริย์อยู่ดีๆ.....

    เป็นกษัตริย์น่ะไม่ดีหรอกกระหม่อม หากไม่สามารถมีพระราชินีในอุดมคติ ไม่สามารถมียอดหญิงเคียงข้าง

     

    ท่านกำลังแนะนำเราให้มองหาพระราชินีในอุดมคติ หายอดหญิงมาเคียงข้างใช่มั้ย

    ประโยคนั้นทำเอาคนฟังสะดุ้ง ก่อนหันขวับมามองคนตรัสอย่างตะลึงลาน

     

    ฝ่าบาท....

     

    เสียดายที่เรามีไม่ได้ทั้งสองอย่าง เสียดายจริงๆ

     

    เฮอะ.....มันบอกเสียดายทั้งที่ยิ้มตาหยี ตอนนี้น่ะอายุเท่าไหร่แล้วคาเรน ยังทำตัวเป็นเด็กอย่างเคเรสอยู่หรือไง

     

     

     

     

    พี่ชาย....

     

    อย่าทรงตรัสเรียกหม่อมฉันอย่างนั้นเลย เรียกตามชื่อเรย์เถอะกระหม่อม

     

    เสียงถอนปัสสาสะดังมาอีกครา หากนำพาซึ่งไอขาวๆที่ทรงพ่นออกมาด้วย เรย์จึงยกมือขึ้นอัง

     

    ลมหายพระทัยฝ่าบาทอุ่นดี

     

    คาเรนทรงนิ่ง ถลึงตามองเสนาบดีกระทรวงการคลังคนใหม่อย่างงงๆ

     

    ลมหายใจ?

     

    หม่อมฉันสัมผัสได้เพียงลมหายพระทัย สัมผัสองค์ไม่ได้ หากเพียงเท่านี้หม่อมฉันจะวางใจ ทรงอบอุ่นหรือไม่ ทรงสบายดีหรือไม่ ทรงต้องการหม่อมฉันหรือไม่

     

    คาเรนไม่ทรงตอบ หากกระแสรับสั่งดังอยู่ในห้วงคำนึง

     

    เมื่อไหร่ที่เราไม่มีลมหายใจ เมื่อนั้นเราจึงไม่ต้องการท่าน พี่ชาย

     

    ทรงเสด็จกลับเถอะกระหม่อม ลมหนาวพัดมาต้ององค์แล้วจะทรงประชวร

     

    เราไม่ใช่เคเรสของท่าน

     

    ระหว่างดำรัสดึงดัน อาชาทรงถูกลากจูงออกจากใต้ต้นไม้ ไม่เสด็จกลับไม่ได้ล่ะงานนี้

     

    ได้ยินมั้ย เราไม่ใช่เคเรสของท่าน

    เพราะฉะนั้นอย่าทรงดื้อดึง อย่าทรงซุกซน

     

    ท่าน....

     

    กลับไป ทรงอยากประลองดาบมั้ยกระหม่อม หม่อมฉันจะจัดถวาย หรือจะขึ้นทรงงานเลย จะได้ขึ้นที่เสวยตรงเวลา หม่อมฉันจะสั่งให้นางกำนัลจัดน้ำร้อนไว้ถวาย จะได้เข้าบรรทมสบาย ไม่ปวดเมื่อย

     

    ท่านเป็นเสนาบดี ไม่ใช่แม่นม ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น?

     

    กระแสรับสั่ง ประหลาดพระทัยเป็นที่ยิ่ง

    กษัตริย์.......ใช่จะสูงส่งเพราะพระยศ ยังเพราะพระเกียรติด้วย

    หากพี่ชาย.......ลืมเกียรติตนเอง เทิดแต่พระเกียรติของพระองค์

    ทรงรักกันมากไปหน่อยแล้ว……มากไปจริงๆ

     

    ตำแหน่งแม่นมว่างไหมกระหม่อม หม่อมฉันจะสมัคร

     

    ไฮ้ ท่านอย่าเล่นบ้าๆ

     

    เพราะเป็นแม่นมเท่านั้น หม่อมฉันจึงได้เจ้าตัวน้อยที่คิดถึงมานานคืนมา

     

    ไม่ เราไม่ให้ท่านทำเพื่อเราถึงขนาดนั้น

     

    หม่อมฉันประสงค์เช่นนั้นนี่กระหม่อม

     

    เราเป็นกษัตริย์ เราสั่งท่านได้

     

    ก็ลองสั่งดูสิกระหม่อม

     

    นี่ท่านขู่เรา?

     

    ไหนตรัสว่าทรงมีพระกระแสรับสั่งได้ทุกเรื่อง ทำไมหม่อมฉันจะต้องขู่ด้วย

     

    ท่าน.....

     

    ระหว่างที่ม้ายังไม่กลับไปรวมกับบรรดาทหารรักษาพระองค์ คาเรนยังทรงตะคอกได้เรื่อยๆ เรย์ก็ยังทูลตอบสนองอย่างไม่เกรงพระอาญาได้อย่างนั้นเรื่อยๆเช่นกัน แต่หากอยู่ต่อหน้าธารกำนัลเมื่อไหร่ เรย์จะกลายเป็นเพียงขุนนาง ขณะที่คาเรนเป็นถึงกษัตริย์แห่งคาโนวาล

     

    เราพบกันในความฝันตลอดมา.....ครานี้ได้พบกับในความจริงบ้าง

     

    แม้จะแสนสั้น.....หากจะเป็นไรไป

     

    ความสุขไม่ได้อยู่ที่เวลามากน้อย

     

    แต่อยู่ที่ความทนนานตราตรึงในดวงใจต่างหาก

     

    ขอเพียงทรงทราบ หม่อมฉันรักฝ่าบาทยิ่งกว่าสิ่งใด รักยิ่งกว่าบัลลังก์และเกียรติยศกฤติยากรทั้งมวล เพราะทรงเป็นยอดปรารถนา เป็นยอดดวงใจ......ตรงใดย่างพระบาทประทับ ไม่ว่าจะสูงสุดสรวงสวรรค์ ตกต่ำใต้นรกานต์ หม่อมฉันจะตามเฝ้าระวังเบื้องพระขนอง การเสียสละของหม่อมฉันจะคุ้มค่าอย่างที่สุด เพียงฝ่าบาททรงทอดพระเนตรลงมา ยามอ้างว้างเดียวดาย เพราะบนยอดหาใครไม่ แต่หม่อมฉันจะอยู่ตรงนั้นเสมอ ตรงที่ที่ฝ่าบาททรงต้องการ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×