คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : EPISODE:32
EPISODE : 32
“เอาคืนมานะ เอาคืนมา!!!” ร่างเด็กชายตัวน้อยเอ่ยด้วยน้ำเสียงแกมสะอื้นดังลั่น ใบหน้าของเด็กน้อยตัวนี้เริ่มมีน้ำตาไหลเปรอะเปลื้อนแว่นตากรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เด็กน้อยตัวนี้ต้องตระโกนออกมานั้นก็เพราะเพื่อนร่วมห้องเดียวกันในชั้นอนุบาลดึงหนังสือภาพร่างกายของมนุษย์ที่บิดาเป็นผู้ซื้อให้ เพราะเพียงอยากจะแกล้งเด็กน้อยผู้น่าหมั้นไส้แบบนี้
“ไม่คืนหรอกไอแว่น! ถ้าอยากได้ก็ร้องไห้เลยสิ ร้องไห้หาพี่แกเลย” เด็กนิสัยไม่ดีหัวโจกของห้องที่เอาหนังสือของเด็กชายผู้สวมแว่น หรือ ‘โอคุมูระ ยูคิโอะ’ กล่าวท้าให้ยูคิโอะนั้นร้องไห้ออกมาและร้องเรียกหาพี่ชายที่ยูคิโอะชื่นชมและคอยปกป้องเสมอมา
“เอาคืนมา!! ขอร้องละครับ…!” ยูคิโอะไม่อยากที่จะต้องร้องเรียกความช่วยเหลือจากพี่เพราะเขาเองก็อยากจะเข้มแข็งให้ได้แบบพี่ หรือ ‘โอคุมูระ ริน’ บ้างไม่ใช่ว่าเขาจะต้องร้องไห้เมื่อมีปัญหาและให้พี่ชายคอยแก้และจัดการให้
ร่างยูคิโอะตัวน้อยเกาะขาเด็กหัวโจกของห้องที่ไม่ยอมคืนหนังสือให้ เป็นหนังสือที่ล้ำค่าสำหรับยูคิโอะ เพราะพ่อเป็นคนซื้อให้ และยังเป็นหนังสือที่ยูคิโอะรักมากที่สุด
“น่ารำคาญชะมัด!!” เมื่อเห็นยูคิโอะตามมารังควานไม่เลิกเด็กหัวโจกตนนั้นจึงเอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์และสะบัดขาตัวเองให้ยูคิโอะหลุดออกจากการรั้งขาเขาไว้ ซึ่งก็เป็นไปอย่างที่คาดยูคิโอะกระเด็นออกมาจากขาของเด็กคนนั้น แต่ก็ยังไม่ยอมที่จะเลิกรา
“เอาคืนมานะครับ!! นั้นมันสำคัญต่อผมมาก..!! ขอแค่เอาคืนมาจะทำอะไรผมก็ได้!”
“อยากได้มันมากใช่ไหม ห๊า? ไอแว่น!” เด็กหัวโจกพร้อมกับพวกต่างมองหน้ากันเหมือนรู้ว่าจะต้องทำอะไร แม้ว่าจะเป็นแค่เด็กอายุ เจ็ดขวบแต่ว่ามีจิตใจที่ย่ำแย่กว่าเจ็ดขวบยิ่งนัก
“ฉันจะคืนให้แกก็ได้!”
“จะ…จริงเหรอครับ!? ขอบคุณมากครับ” ยูคิโอะเงยหน้าจากพื้นพร้อมกับทวนคำพูดด้วยประกายตาสุกใสด้วยความดีใจที่จะได้หนังสือคืน
“แต่แกไม่ได้คืนไปดีๆแน่…!! เอาเลยพวก!”
พอหัวโจกส่งสัญญาณไป ร่างเด็กเจ็ดขวบในแก๊งค์เด็กแย่ของห้องราวๆ สามคนก็จัดการรุมกระทืบร่างยูคิโอะเพียงตัวคนเดียว
ตุ้บ!! ตึ๊บ!!!
แม้ว่ายูคิโอะจะต้องเจอกระทืบจนเจ็บแทบจะร้องไห้ก็ตามแต่เขาก็จะไม่ร้องออกมา เขาจะเข้มแข็งเหมือนรินซึ่งเป็นพี่ชายให้ได้
“อะไรของมัน! ปกติมันน่าจะร้องไห้กลับเรียกหาพี่ไม่ใช่รึไงวะ น่าเบื่อจริงๆๆ!” พอจัดการร่างยูคิโอะไปได้ก็ชักจะเบื่อพวกเขาเลยโยนหนังสือคืนให้กับยูคิโอะแล้วเดินจากไปเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่าเด็กคนอื่นๆในห้องจะเห็นเหตุการณ์อันน่าโหดร้ายแบบนี้แต่ก็ไม่มีใครคิดไปช่วยยูคิโอะเพราะกลัวแก๊งค์เมื่อครู่นี้ โดยคุณครูเองเมื่อเข้าห้องมาหลังจากไปประชุมการเรียนการสอน
“อะ…โอคุมูระคุง!! เกิดอะไรขึ้นจ้ะ” อาจารย์สาวรีบวิ่งไปดูอาการของยูคิโอะตัวน้อยที่กำลังนอนราบกับพื้นด้วยสภาพบาดเจ็บไปทั้งตัว แต่ว่ามือของเขาก็จับหนังสือที่ได้คืนมาแน่นและห่วงยิ่งกว่าร่างตัวเองที่กำลังจะเป็นจะตายและน่าห่วงมากกว่าสิ่งของในมือเสียอีก
“พวกนั้นแกล้งเธออีกแล้วเหรอ…ให้ตายสิ!”
“ป่าวหรอกฮะ ไม่มีอะไร” ยูคิโอะว่าขึ้นพลางหยิบหนังสือกอดในอกแน่นราวกับเป็นสิ่งที่จากเขาไปนาน คุณครูเองก็ยังค้างคาอยู่ที่ยูคิโอะนั้นกลับบอกว่าไม่มีอะไร และยังรู้สึกว่าไม่ร้องไห้เหมือนดังเดิม
-หลังจากนั้น-
ยูคิโอะก็เดินกลับบ้านซึ่งเป็นโบสถ์ที่ตั้งไม่ห่างจากโรงเรียนอนุบาลมากนัก ในมือเขาถือหนังสือแน่น สภาพร่างกายดูสกปรกมอมแมม แว่นตาก็มีรอยขีดข่วนและเหมือนจะแตกอยู่ร่อมร่อ
เมื่อยูคิโอะเปิดประตูเข้าไปในโบสถ์
“กลับมาแล้วครับ”
“โอ้ว่าไงยูคิโอะ…กลับมาแล้วเหรอ! แล้วนั้นไปเจออะไรมาทำไมเนื้อตัวสกปรกแบบนั้น” รินที่กลับบ้านมาไม่นานนัก เมื่อทักน้องชายตัวเองจู่ๆอารมณ์ก็แปรเป็นความตกใจที่เห็นน้องชายตัวเองเต็มไปด้วยแผล
“ไม่มีอะไรหรอกฮะ..ผมก็แค่หกล้ม” ยูคิโอะตอบเลี่ยงๆไม่สบตารินเพราะกลัวว่ารินจะเห็นแววตาอันขี้ขลาดของเขา ที่จริงเขาไม่อยากบอกว่าเจอทำร้ายมา
“ไม่เชื่ออะ..แกถูกพวกนั้นรังแกมาอีกแล้วใช่ไหม!! เดียวฉันจะไปแก้แค้นให้เอง” รินรู้ว่ายูคิโอะโกหก เขารู้ว่ายูคิโอะไม่มีทางหกล้มได้บาดเจ็บทั่วร่างแบบนี้หรอก รินพอจะรู้ว่าใครแกล้ง ก็คือหัวหน้าโจกนักเลงตัวเล็กประจำห้องยูคิโอะนั้นเองที่ชอบมาแกล้งยยูคิโอะเสมอ
“ไม่ใช่นะครับ..ผมหกล้มจริงๆ…ผมไม่เป็นอะไรหรอกฮะ ผมไปก่อนนะ ผมต้องไปอ่านหนังสือภาพเล่มนี้ก่อน”ยูคิโอะรีบเดินเข้าไปในบ้านปล่อยให้รินตัวน้อยที่อายุเดียวกันกับยูคิโอะแต่มีศักดิ์เป็นพี่ให้คิดห่วงยูคิโอะไว้
“แปลกแฮะ..ปกติยูคิโอะมันจะต้องร้องไห้..”
-ห้องนอนของรินกับยูคิโอะ-
ยูคิโอะอ่านหนังสือภาพเรื่องกายของมนุษย์อย่างตั้งใจแม้ว่ามันอาจจะเกินตัวสำหรับเขาแต่ว่ามันเป็นเรื่องที่ยูคิโอะอ่านแล้วเข้าใจและชอบมาก แถมยังเป็นของขวัญจากบิดาอีกด้วย ดังนั้นนี่ก็เลยเป็นหนังสือรักที่ไม่ว่าอ่านเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเบื่อ
“เราจะทนแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กันนะ…ทำไมเราไม่เข้มแข็งแบบพี่นะ” ยูคิโอะที่กำลังนั่งมองหนังสือภาพเองก็รำพึงถึงความอ่อนแอออกมาทับถมตัวเอง ไม่ว่าจะพยายามทำเช่นไรก็ไม่สามารถเป็นเหมือนกับรินได้ ไม่มีทางที่เขาจะไต่เต้าเป็นคนที่เข้มแข็งและฝ่าฟันได้ทุกอย่างนี่คือสิ่งที่ยูคิโอะคิด
“ฮึก…ฮึก…ผมเจ็บจังฮะ พี่…พ่อ”
ยูคิโอะเริ่มรู้สึกว่าใบหน้าน้อยๆของตัวเองเริ่มมีหยาดน้ำตาไหลอาบแก้มลงมา
มือน้อยๆจึงเช็ดออกอย่างไม่ใส่ใจ และคิดจะเปลี่ยนตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น จะไม่ร้องไห้อีกแล้ว จะต้องอดทนและเข้มแข็งแบบพี่ชาย
แอ๊ด…
ประตูถูกเปิดขึ้น เป็นร่างของรินที่เข้ามา ยูคิโอะรีบปาดน้ำตาให้หายจากใบหน้าตัวเองทันที
“แกไม่ต้องพยายามก็ได้ ฉันได้ยินมาหมดแล้วว่าแกเจอแกล้งจริงๆ เมื่อกี้คุณครูโทรมาบอกพ่อน่ะ”รินว่าขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่ง
“พี่ครับ….ผมไม่อยากอ่อนแออีกแล้ว”
“ยูคิโอะ…แกน่ะต้องทำได้อยู่แล้วล่ะ…”
“พี่ครับ….”
“เชื่อมั่นในตัวเองสิว่าแกจะต้องทำได้แน่นอน” ใบหน้ารินยิ้มกว้างให้กำลังใจกับยูคิโอะ ทำให้ยูคิโอะตัวน้อยเริ่มมีกำลังใจที่จะเข้มแข็งให้เหมือนกับรินมากขึ้น
“ยูคิโอะ----!!!!”
“ห๊า…! มะ..มีอะไรเหรอครับ”
ยูคิโอะที่กำลังหลับอยู่บนโต๊ะหนังสือนั้นเมื่อถูกร่างบางเรียกเสียงดังก็สะดุ้งตื่นในบัลดล หลังจากที่ฝันถึงเรื่องตอนเด็กๆที่เป็นเรื่องที่น่าจดจำ
“นี่แกจะสอนฉันทำการบ้านวิชาแกนี่ ไหงหลับไปได้เล่าเจ้าไฝหน้าแว่น!”
“ขะ..ขอโทษครับ พอดีผมเหนื่อยไปหน่อย..งั้นตรงไหนเหรอครับ ที่พี่จะให้ผมสอนน่ะ?” ยูคิโอะแอบรู้สึกเสียดายที่ฝันนั้นจบลงแล้ว แต่ทว่าตอนนี้เขาก็คิดว่าตัวเองคงจะเข้มแข็งขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เท่ารินอยู่ดีนั้นแหละ
ติดลมค่ะ เลยมาอัพต่อเนื่องกันเลย หุๆ ตอนนี้เป็นตอนที่ย้อนความของยูคิโอะค่ะ แบบว่าหัวเริ่มตันแล้วน่ะค่ะ (โฮะๆ) ใช้งานหนักมากเลยค่ะจากโรงเรียน TT^TT ยังไงคนที่ติดตามและคอมเมนต์ก็ขอขอบคุณนะคะ
ความคิดเห็น