ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [สนพ.SENSE BOOK] รักติดเกม ll GAME ADDICTION

    ลำดับตอนที่ #5 : Addict04 ll ยกที่สี่ {อัพ100%}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.87K
      106
      8 ก.พ. 59

    ***สามารถปิดเพลงตอนอ่านได้นะ***
    แต่ถ้าฟังไปด้วยอาจจะอินมากกว่านะ ฮิๆ


    EP04
    ยกที่สี่







                  เคยได้ยินคนพูดกันว่า มนุษย์เราเปลี่ยนไปจากเดิมเพราะ 3 สิ่ง

    หนึ่ง เปลี่ยนเพราะสภาพแวดล้อมที่เป็นไป

    สอง เปลี่ยนเพราะสภาพจิตใจและความรู้สึก

    ส่วนข้อสาม เปลี่ยนไปเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์

    เกร้ง!!

    อ้าว ชนให้โหมดแก้วววววว~” นั่นน่ะเสียงของฉันเอง

    ตอนนี้ฉันได้ยินแต่เสียงตัวเองดังอยู่ในหูกลับทับเสียงเพลงจังหวะสนุกๆ ภายในร้าน ตัวฉันโงนเงนเหมือนคนไม่มีแรง ทรงตัวแทบไม่อยู่ โชคดีที่มีเจ๊ตาลนั่งอยู่ข้างๆ เธอเลยประครองตัวฉันไว้

    เลือดลมในกายสูบฉีดมากกว่าที่เคยเป็น อาการหนาวๆ ร้อนๆ ในตัวทำให้ทุกอย่างรอบตัวตอนนี้ดูสนุกมากกว่าที่เคยเป็น ภาพทุกภาพเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เหมือนฉากในหนังถูกตัดเป็นช็อตๆ เพียงแค่กะพริบตาเดียว ทุกอย่างที่อยู่ตรงนั้นก็เปลี่ยนไป

    มหัศจรรย์ซะจริง!

    ฉันพยายามเพ่งมองหน้าเจ๊ตาล แต่สิ่งที่เห็นคือ ใบหน้าเรียวสวยแบบผู้ใหญ่ซ้อนทับกันนับสิบ พอเห็นแล้วมันก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้

    เจ๊ตาลแยกร่างอ่อ~ นี่เจ๊เป็นนารูโตะหรืองายยยฉันถามอย่างนึกตลก พลางรวบรวมลมปราณจิ้มไปที่ใบหน้าสวยๆ หน้าใดหน้าหนึ่งอย่างจงใจ ก่อนจะถูกเธอปัดมือออกอย่างรวดเร็ว

    เมย์ เจ๊ว่าพากานต์กลับห้องเถอะถึงตาจะมองหลายอย่างพล่าเบลอ แต่ไม่ใช่กับหูซึ่งยังใช้การได้ดี และได้ยินคำพูดของเจ๊ตาลกับเมย์อย่างชัดเจน

    นั่นสิ ฉันว่าพากลับห้องเจ๊เถอะ

    ม่ายยยย!!” ฉันโพล่งเสียงขัดพลางยกแก้วเหล้าบนโต๊ะชูขึ้นเหนือหัว จนน้ำในแก้วกระฉอกลงมา

    อั้ยยะ! ฝนเหล้า~ =w=

    เบาๆ สิกานต์ คนมองกันหมดแล้ว

    คนซอง? ซองอะไรอะ? ซองผ้าป่าเหรอเอิ้กก~ ฉันย้อนกลับไปอย่างไม่เข้าใจ และนั่นทำให้เจ๊ตาลพ่นลมหายใจทิ้งอย่างนึกละเหี่ยใจ พร้อมทั้งดึงฉันให้ลุกขึ้นจากที่นั่ง ส่วนปากก็พูด

    พากานต์กลับห้องก่อนนะ แผนบ้าบออะไรนั่นไม่ต้องทำแล้ว ยัยนี่ไม่ไหวหรอกนี่คือสิ่งที่ฉันได้ยิน ถ้าหากว่าหูไม่เพี้ยนน่ะนะ

    โอเคเจ๊ กลับก็กลับ

    ไม่เอา!” ฉันแย้ง ฉันจะทำตามแผน ไม่เอา ไม่กลับห้องเด็ดขาด!”

    เจ๊ตาลหันมองหน้ากับเมย์ ทั้งคู่ส่ายหน้าคล้ายกับปลงสิ่งที่ฉันเป็น และก่อนที่พวกเธอจะแทรกขัดอะไรออกมา ฉันจึงชิงพูดออกไปก่อน

    ฉันอยากปรับความเข้าใจกับพี่นัท วันนี้ฉันหนีเขากลับเพราะเธอน้าเมย์ ถ้าไม่ได้คุยเราคงต้องโกรธกันต่อไปแน่ๆ อีกอย่างฉันอยากรู้เรื่องที่เขานอกใจ ม่ายต้องนอนด้วยกันตามแผนก็ด้ายยย นะๆ ขอเถอะ ฉ้านอยากปายคุยกับเขาน้าาา~ไม่รู้เพราะฤทธิ์เหล้าหรือเปล่า ฉันถึงได้รัวคำพูดไปแบบนั้น ความรู้สึกมันเหมือนคนอยากจะร้องไห้ เวลาพูดถึงพี่นัทด้วยอารมณ์ที่ไม่คงที่อย่างตอนนี้

    ท่าทางและอาการแบบนี้น่ะ ไม่สมเป็นฉันเลยสักนิด

    ฉันรู้นะว่าแกพยายามตามแผน แต่สภาพแกแบบนี้มัน…”

    พี่นัทไม่ทามอารายฉันหรอก เอิ้ก พี่เขาสุภาพบุรุษจะตาย~ฉันพยายามฝืนความรู้สึกลึกๆ ด้วยการฉีกยิ้มตาหยีใส่เพื่อนรักทั้งสอง และเป็นอีกครั้งที่พวกเธอหันหน้ามองกัน

    เจ๊ตาลกับเมย์ถอนหายใจเบาๆ เมื่อเจอลูกอ้อนและคำขอของฉัน ถึงแม้พวกเธอจะรู้นิสัยพี่นัทไม่ต่างไปจากฉันนัก แต่สุดท้ายเธอก็พูดเตือนสติอยู่ดี

    ถ้าเธอพูดแบบนั้นพวกเราก็เชื่อ แต่เอาจริงๆ เจ๊ไม่อยากให้…”

    หมับ!

    เจ๊ตาลน่าร๊ากที่สู๊ดดดดดดดดดดดดดด~ร่างกายโผเข้ากอดอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติแบบไม่ฟังอะไรต่อ จนเราทั้งคู่เกือบจะเสียหลักล้มลงไปด้วยกัน โชคดีที่ตรงนั้นมีโต๊ะรองรับเอาไว้ เจ๊ตาลจึงรีบใช้มือตีแขนฉันแรงๆ เพื่อให้สร่างเมา แล้วบ่นต่อ

    นี่ อย่าทำแบบนี้อีกนะ!” ฉันได้ยิน แต่เหมือนไม่สนใจ ในหัวมีแต่เสียงจังหวะดนตรีตื๊ดๆ ดังคลออยู่ตลอดเวลา ฉันก็เลยยืนโยกอย่างคนมีความสุขตามจังหวะเพลง

     เพียงแค่หลับตา จู่ๆ เสียงเพลงดังกล่าวก็เงียบลง พอลืมตาขึ้นมาฉันก็ถูกพาขึ้นมาอยู่บนรถแท็กซี่ซะแล้ว

    ตลกดี!

    เมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนั้น ฉันจึงลองหลับตาอีกครั้ง คราวนี้กะพริบถี่ๆ ทุกอย่างเหมือนกับการถ่ายภาพ มาเป็นช่วงๆ ช็อตๆ ราวกับว่าฉันมีพลังเคลื่อนย้ายมวลสาร รู้ตัวอีกทีฉันก็กำลังยืนพิงประตูห้องๆ หนึ่งในสภาพไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่

    ในหูเหมือนจะได้ยินเสียงของใครสักคนพูดโดยมีฉันโต้กลับไปเสียงดังฟังชัด

    ‘ฉันกลับแล้วนะ เธอเข้าห้องพี่นัทเองได้ใช่ไหม? ให้ช่วยเรียกพี่นัทหรือเปล่า?

    ม่ายยยยย ฉันเข้าเองด้ายยยย!

    ฉันส่ายหัวไปมาเบาๆ เพื่อเรียกสติ พยายามหรี่ตามองหมายเลขห้อง ก่อนพบว่าประตูห้องที่ฉันถูกเพื่อนพามาทิ้งไว้คือห้องของพี่นัทจริงๆ

    ปี๊บ! ปี๊บ!

    ยังไม่ทันที่จะทำอะไรไปมากกว่านี้เสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้น ร่างกายตอบสนองเสียงดังกล่าวด้วยการหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาดู พอเห็นชื่อ ที่รักฉันก็รีบเก็บโทรศัพท์ยัดลงกระเป๋ากางเกงทันที

    เขาคงจะส่งมาคุยกับฉันเรื่องวันนี้แน่ๆ 

    คิกๆ รอแป๊บหนึ่งนะคะพี่นัท หนูจะเข้าไปคุยกับพี่ในห้องเดี่ยวนี้แหละ!


    -GAME TALK-

    ถ้าวันหนึ่งกูกับกานต์เลิกกัน กูขออะไรมึงอย่างได้ป้ะ? กูขอให้คนที่กานต์คบต่อจากกูเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่มึง… ได้ปะวะ?

    ตาผมกำลังจ้องตัวละครในเกมส์ออนไลน์ ขณะมือบังคับเม้าส์ให้เดินไปตามเส้นทางใน Map ตามเนื้อเรื่องในเกม ทั้งนี้ก็เพื่อให้คำขอร้องของไอ้นัทเมื่อช่วงบ่ายหยุดดังในหัวผมสักที

    เสียงซาวเอฟเฟ็กและเสียงดนตรีประกอบในเกม ทำผมเหมือนถูกดึงมาสู่อีกโลกหนึ่งที่ไม่ใช่โลกแห่งความเป็นจริง 

    ผมตกอยู่ในสภาวะทิ้งตัว ปิดทุกการรับรู้หรือได้ยินอะไรรอบกาย

    คืนนี้กูจะกลับไปนอนที่บ้าน กูคิดว่ากูจะจบเรื่องรักสามเศร้านี่สักที ยังไงมึงช่วยนอนเฝ้าห้องกูให้ทีนะ กูจะรีบกลับมา…’ ทั้งที่พยายามไม่คิด แต่เสียงของไอ้นัทก็ดังแทรกเข้ามาในหัวอยู่ตลอดเวลา การที่เป็นแบบนั้นมันทำให้ผมรู้ว่า ผมควรเลิกล้อเล่นกับกานต์สักที

    ทว่า

    จู่ๆ ร่างกายผมกลับถูกโอบกอดด้วยวงแขนเล็กของใครคนหนึ่งจากทางด้านหลัง ซึ่งผมไม่รู้ว่าเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตัวเธอคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นของเหล้า ผมพยายามไม่สนใจ ไม่หันไปมอง แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือแรงกอดกระชับที่แน่นมากขึ้นและเสียงหวานยางครางสั้นๆ ว่า

    กอดหนูหน่อย…” ไม่บอกก็รู้ว่าเธอ คือ น้องกานต์

    นอกจากไอ้นัท ตัวผม แล้วก็เธอ คงไม่มีใครมีกุญแจสำหรับไขเข้าห้องนี้อีกแล้วล่ะ

    กอดหนูหน่อยสิคะ~เธอพูดชิดข้างหูพร้อมทั้งพยายามถอดเฮดโฟนที่ผมสวมอยู่ออกไปด้วย มันเลยทำให้ผมได้ยินเสียงเธอชัดมากเข้าไปใหญ่

    ลมหายใจร้อนๆ ของเธอเป่าลงมาข้างหู เมื่อคนตัวเล็กเอียงหน้าจรดริมฝีปากบริเวณกกหู

    หนูขอโทษนะคะ ที่วันนี้ปล่อยให้พี่นัทรอนานน~

    เมาแล้วก็ไปนอนผมพยายามตัดความสนใจเอ่ยไล่เธอ

    พี่นัทโกรธหนูเหรอคะ?แต่เธอก็ยังไม่หยุดพึมพำ

    ดังนั้นผมเลยเลือกที่จะไม่ตอบ เพราะถือว่าประโยคที่น้องกานต์กล่าวมานั้น มันไม่ได้หมายถึงผม อีกทั้งตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมต่อไปอย่างไม่สนใจ 

    ทำเหมือนว่าธรณีนี่นี้มีผมแค่เพียงลำพังแต่

    พี่นัทโกรธหนูเหรอคะ?เธอถามซ้ำอีกครั้ง

    ผมไม่รู้ว่านี่เรียกว่าเป็นวิธีอ้อนระหว่างเธอกับไอ้นัทหรือเปล่า เพราะจู่ๆ น้องกานต์ที่กลิ่นกายตลบไปด้วยเหล้า ก็เริ่มขยับเคลื่อนไหว เธอเดินโซเซมาหย่อนก้นลงบนตักผม

    แรงทิ้งน้ำหนักของเธอทำผมรู้ได้ทันทีว่าเธอในตอนนี้ไม่มีสติหลงเหลืออีกต่อไปแล้ว ผมใช้มือข้างหนึ่งประครองหลังเธอไว้ เมื่อคนตัวเล็กทำท่าจะหงายหลังตกจากตักลงไป

    หนูโกรธพี่ที่พี่นัดเจอคนอื่นแต่เธอดูจะไม่สนอาการขาดสติของตัวเองนัก เพราะน้องกานต์ยังเอาแต่พล่ามไม่หยุด มิหนำซ้ำเธอยังเลื่อนใช้แขนไล่ไต่ขึ้นโอบคล้องรอบคอผมเอาไว้

    น้องกานต์ ตั้งสติครับ พี่ไม่ใช่พี่นัทผมจงใจทำเสียงดุ เพื่อเตือนสติเธอ พยายามแกะฝ่ามือเล็กออกไปพลาง แต่เหมือนว่าคำพูดของผมจะไม่ทะลุเข้าสู่สมองของเธอเลยสักนิด

    คุยกับหนูก่อนสิ นี่หนูกำลังง้อพี่นัทอยู่นะ~

    อ่าบ้าฉิบ ผมเบื่อจริงๆ เวลาต้องคุยกับคนเมาขาดสติแบบนี้

    พี่นัทมีคนอื่นเหรอคะ?ผมพยายามบอกเธอแล้วว่าผมไม่ใช่ไอ้นัท ในเมื่อพูดกันไม่รู้เรื่อง ผมจึงเลือกที่จะไม่สนใจเธออีกต่อไป มือเลื่อนกลับไปประจำที่คีย์บอร์ดและเม้าส์ สายตาจ้องจับไปที่ภาพหน้าจอตรงหน้า

    แต่

    จุ๊บวินาทีนั้นเอง สติผมที่เพ่งไปที่หน้าจอก็ต้องเป็นอันชะงัก เมื่อน้องกานต์จรดริมฝีปากลงมาที่หน้าผากของผมอย่างแผ่วเบา การกระทำดังกล่าวทำผมเลื่อนสายตาจากหน้าจอไปที่ใบหน้าสวยๆ ของเธออย่างห้ามไม่ได้

    แสงไฟสลัวๆ ของหน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งถูกผมลดจนต่ำพอทำให้เห็นใบหน้าเรียวสวยของเธอ แม้ไม่ชัดนัก แต่ผมพอสังเกตได้ว่าแก้มเนียนขาวของเธอกำลังขึ้นสีจัด ไม่ใช่เพราะเธอกำลังเขิน แต่เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป 

    และที่ผมมองหน้าก็เพื่อให้เธอตั้งสติ เห็นว่าผมไม่ใช่คนที่เธอกำลังคิด

    “ดีกันน้าา~ คิกๆ

    สายตาของเธอตอนนี้คงมองเห็นอะไรๆ เป็นไอ้นัทไปหมด กลับกันแม้เธอไม่ได้เอ่ยขานชื่อผมออกมาสักนิด แต่ทุกสัมผัสที่เธอแสดงออกมามันกำลังทำให้ผมหวั่นไหว

    มึงแค่มานอนเฝ้าห้อง อดทนไว้ไอ้เกมส์ ท่องไว้ว่านั่นน่ะแฟนเพื่อน...

    เธอทำพี่ไม่มีสมาธิผมพูดก่อนเบือนสายตาไปจากหน้าเธอ จับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง พยายามตั้งสติและบังคับตัวละครในเกมให้ดำเนินต่อไป

    พี่นัทก็เลิกเล่นเกมก่อนเซ่ คุยกับหนู…” ยิ่งได้ฟังคำขอ ผมยิ่งเข้าใจจุดประสงค์ของเธอ โดยเฉพาะกับร่างกายที่เธอจงใจเลื้อยเสียดสีกับลำตัวของผมคล้ายกับจะออดอ้อนกึ่งยั่วยวน

    “มีอะไรก็รีบพูดให้มันเสร็จๆ สักที หัวเธอมันบังจอ!” และคงเป็นเพราะฤทธิ์เหล้านั่นแหละมั้ง ถึงทำให้เธอใจกล้าบ้าดีเดือดโต้ตอบผมกลับมาเหมือนไม่สนใจ

    ครบ 7 ปีเราก็จะแต่งงานกันแล้ว คืนนี้หนูยอมเป็นของพี่ได้น้าา ถ้ามันจะทำให้ความสัมพันธ์ของเราดีขึ้น…” น้องกานต์ไม่ใช่แค่พูด แต่เธอกลับเริ่มขยับกายใช้หน้าอกถูกไถแผ่นอกเปล่าเปลือยของผมไปด้วย

    หยุดเถอะน้องกานต์พี่ไม่ใช่ไอ้นัทนะคะ

    อื้อ…” วงแขนที่โอบรอบต้นคอเองก็เริ่มกระชับแน่นมากขึ้น ลมหายใจอุ่นๆ เคล้ากลิ่นของแอลกอฮอล์เป่ารดลงมาบนใบหน้า 

    วินาทีที่ผมกลอกตากลับไปมองหน้าเธออีกครั้ง ริมฝีปากอวบอิ่มก็จรดลงทาบลงมาบนปากผมอย่างแผ่วเบา พอให้รู้สึกถึงความนุ่มและความอุ่นร้อนของผิวปากอีกฝ่ายได้ชัดเจน

    เธอจรดริมฝีปากลงมาซ้ำๆ คลอเสียงหัวเราะคิกคัก คล้ายกับรู้สึกสนุกกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ เมื่อรู้สึกว่าระหว่างเราตอนนี้มันดูไม่สมควร ผมจึงตัดสินใจ ผละกายเธอออกห่างทันที

    หยุดค่ะ มีสติได้แล้ว!”

    อ๊ะ!” แผ่นหลังเล็กของน้องกานต์กระแทกเข้ากับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนอีกฝ่ายครวญเสียงออกมาเบาๆ มือของผมยังบีบไหล่เล็กของเธอไว้แน่น จับจ้องสายตาดุดันเพื่อเตือนสติเธอเป็นครั้งสุดท้าย

    ถ้าน้องกานต์ยังไม่หยุดตอนนี้ หนูจะได้รู้ว่าจริงๆ แล้วพี่ไม่ใช่คนดี...คนตัวเล็กมองหน้าผมเหมือนจะเข้าใจ สภาพเธอดูเมามากจนผมไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังพูดจะทำให้เธอเกรงกลัวหรือคืนสติได้มากน้อยแค่ไหน พี่เป็นผู้ชาย พี่ไม่สามารถนิ่งหรือทนแรงกระตุ้นได้ตลอดไปเวลาถูกผู้หญิงรุกนะคะ…”

    แต่ถึงเธอไม่รับรู้หรือปฏิเสธที่จะเข้าใจ ผมก็อยากให้เธอรู้ไว้ว่าตอนนี้เส้นความอดทนผมใกล้จะถึงทางตันแล้วเหมือนกัน

    ถ้าหากว่าเธอไม่หยุด ผมคง...

    เพราะพี่ก็อยาก... เป็นเหมือนกัน

    เธอยิ้มตาปิด มองแล้วโคตรจะน่ารักและพูดออกมาเหมือนไม่ได้สนใจคำขู่ของผมเลยแม้แต่นิดเดียว

    หนูรักพี่นะคะ คิกๆ~”

    น้องกานต์ขยับกายโน้มหน้าเข้ามาคล้ายกับไม่หวาดกลัวคำเตือนดังกล่าว เธอจรดริมฝีปากอิ่มลงมาอีกครั้งเบาๆ พลางกระชับอ้อมแขนโอบรัดรอบคอผมแน่นขึ้น

    ถ้าวันหนึ่งกูกับกานต์เลิกกัน กูขออะไรมึงอย่างได้ป้ะกูขอให้คนที่กานต์คบต่อจากกูเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่มึง… ได้ปะวะ?’

    วินาทีนั้นเหมือนเส้นคั่นบางๆ ของจิตใต้สำนึกของผมขาดผึ่งออกจากกัน แม้ว่าในหัวจะมีเสียงก้องของเพื่อนสนิทดังแว่วเข้ามา แต่ผมหยุดตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

    ผมกดริมฝีปากบดเบียดตอบโต้คนตัวเล็กกลับไปอย่างดุดัน มือสองข้างละออกจากเม้าส์และคีย์บอร์ดประครองรอบเอวเล็กของเธอแน่น เพราะการถูกรุกรานที่ต่างออกไปล่ะมั้ง มันเลยทำให้น้องกานต์ขยับปากออกไปทางอื่น ลมหายใจของเธอเองก็เริ่มปั่นป่วนตามการรุกของผมด้วยเช่นกัน

    อื้อ!” แต่ผมไม่ยอมยังคงดึงดันรุกไล่ริมฝีปากกลับไป 

    ฝ่ามือเล็กเริ่มมีการเคลื่อนไหว เธอพยายามผลักและดันไหล่ผมให้ออกห่าง เสียงอื้ออึงดังขึ้นในลำคอคล้ายกับทรมาน

    วินาทีนี้ผมไม่สนใจอย่างอื่นแล้วนอกจากผู้หญิงที่ผมชอบตรงหน้า แม้จะรู้ดีว่าเธอคือคนรักของเพื่อนสนิท แต่อารมณ์ผมในตอนนี้มันยากเกินไปแล้วที่จะฉุดดึงให้กลับมาเป็นปกติ

    อะ พี่นัท…” เธอพยายามขานชื่อไอ้นัท และนั่นเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากฟังมากที่สุด เลยพยายามทำให้เธอเงียบเสียงลงด้วยการดูดกลืนริมฝีปากบางได้รูปจนบวมเจ่อ

    ลมหายใจหอบหนักๆ ของน้องกานต์บ่งบอกได้ชัดเจนว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์กำลังทำให้เธอเผลอไผลมีอารมณ์ร่วมไปกับการปลุกเร้า เธอพยายามขยับปากหนี สูดรับอากาศเข้าปอด ส่วนผมก็ฉวยโอกาสในช่วงจังหวะนั้นสอดแทรกเรียวลิ้นลิ้มรสความหวานภายในอย่างต้องการ

    กึก!

    เมื่อความอดทนมาถึงขีดสุด ผมจึงขยับตัวลุกจากเก้าอี้ โดยใช้มือประคองร่างของเธอเอาไว้จับขึ้นนั่งบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ ไม่ได้สนว่าร่างกายเธอจะโดนหน้าจอ เม้าส์ คีย์บอร์ดจนเกมส์ออนไลน์ที่ผมเล่นค้างไว้เป็นอันจบเห่หรือไม่ 

    ที่สนใจตอนนี้มีแค่เธอเท่านั้น

    อื้อ…” อีกฝ่ายไม่ได้แสดงทีท่าขัดขืนใดออกมา อาจเพราะเธอคงคิดว่าผมเป็นคนที่เธอมโนอยู่ในหัวล่ะมั้ง 

    ทำยังไงดีล่ะ ผมจะดูเลวเกินไปหรือเปล่าถ้าหากว่าตอนนี้ สติสตังที่มีมันได้หล่นหายไปเพราะริมฝีปากของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    หน้าอกกลมกลึงภายใต้เสื้อยืดตัวบางถูกผมสัมผัสอย่างเต็มมือ แรงคลึงเพียงเบาๆ ทำเอาร่างบางบิดกายเล็กน้อย

    อ่า น่ารักเป็นบ้า

    ผมชอบทุกอย่างที่เป็นเธอ ทั้งรูปร่าง ทั้งนิสัยขี้เหวี่ยงขี้วีนแถมเอาแต่ใจนิดๆ หรือแม้แต่จะหน้าตาที่ทำให้ผมต้องหยุดมองตั้งแรกแรกเห็น

    เลว วลีสั้นๆ ดังก้องขึ้นมาในหัว เหมือนจะเป็นคำตอบสำหรับคำถามที่ไอ้นัทถามค้างเอาไว้

    ถ้าวันหนึ่งกูกับกานต์เลิกกัน กูขออะไรมึงอย่างได้ป้ะกูขอให้คนที่กานต์คบต่อจากกูเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่มึง… ได้ปะวะ?’ และถ้าย้อนกลับไปได้ คำตอบของผมในตอนนั้นอาจจะเป็น ขอโทษทีว่ะ กูก็รักเขาเหมือนกัน

    เพียงไม่นานทั้งผมและน้องกานต์ก็ตกอยู่ในสภาพชุดวันเกิด ผมสามารถมองเห็นเรือนร่างของเธอได้ทุกสัดส่วน เธอกอดผม เรากอดกัน ตั้งแต่บนโต๊ะหน้าคอม จนไปถึงบนเตียงนอนอุ่นๆ ผมจูบเธอ ส่วนเธอก็เป็นฝ่ายตอบรับทุกสัมผัสที่ผมมอบให้

    ภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ มีเพียงเสียงหอบหายใจของเราสลับดังเพียงเท่านั้นขณะร่างกายกำลังสอดประสานรวมเป็นหนึ่ง ดูๆ ไปแล้วเหมือนว่าเรากำลังทรยศผู้เป็นเจ้าของห้องอยู่ยังไงอย่างงั้น

    พี่นัทหนูเจ็บ

    นิดเดียวนะคะ…” ผมพยายามเอ่ยปลอบประโลมลดความเจ็บปวดให้เธอ ด้วยการซุกไซร้ปลายจมูกเพื่อเพิ่มความรู้สึกอื่นให้กับคนตัวเล็กใต้ร่างไปด้วย แม้ว่าชื่อที่เธอขานเรียกออกมานั้นจะไม่ใช่ตัวเองก็ตามที

    พะ พี่นัท…” ผมจูบเธอ เมื่อเธอร้องเรียกหาเพื่อนสนิท

    พี่ชื่อเกมส์ค่ะ ไม่ได้ชื่อนัท และบอกเธอออกไปว่าผมเป็นใคร 

    อาจเป็นเพราะความเมาขาดสติของเธอนั่นแหละ ถึงทำให้น้องกานต์หลุดขานชื่อหนึ่งออกมาสั้นๆ หลังจากนั้น

    อื้อ พะ พี่เกมส์…”


    To Be Continued...

    ปล.เราขออนุญาตปรับเป็น100% ยกยอดไปที่ตอนต่อไปเลยแล้วกันเนอะ

    ไม่รู้ว่าคนอ่านหวังอะไร แต่เราจัดให้แค่นี้เคนะ 

    ฟินไม่ฟินไม่รู้ ที่รู้ๆ คือเขาได้กัน #ตบโต๊ะ!!!

    ตอนหน้ามีคลายปมยิ่งแซ่บบอกเลย ฮ่าๆๆๆ

    ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%

    1เม้น1กำลังใจเนอะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและโหวตดีๆในหน้านิยาย

    ติดแท็กในทวิต

    #รักติดเกม 

    #ฟิคแฟนติดเกม

    #ฟิคเมียหลวงได้เมียน้อย

    จิ้มหน้าพี่เกมส์ไว้รอเจอกันชาร์ปหน้านะเออ
    VVVV
    VV

    { เรื่องอื่นของหนุ่มๆ ในสังกัด }

    ไม่เคยส่องหรือลองอ่านเรื่องไหน จิ้มได้น้า

        








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×