ความลับที่ชื่อว่ารัตติกาล(ต่อ)15% - ความลับที่ชื่อว่ารัตติกาล(ต่อ)15% นิยาย ความลับที่ชื่อว่ารัตติกาล(ต่อ)15% : Dek-D.com - Writer

    ความลับที่ชื่อว่ารัตติกาล(ต่อ)15%

    ต่อจากอีกเรื่อง

    ผู้เข้าชมรวม

    47

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    47

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  แฟนตาซี
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 57 / 23:23 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      หลังจากที่ลูเซียเห็นเหตุการที่เพื่อนทั้งสองคนของเธอจะถูกพวกแวมไพร์ดูดเลือดก็ได้ขยับ
       
      ร่างกายมาอัดบุคคลที่จะทำร้ายเพื่อนสนิทที่สุดทั้งสองของเธออย่างรวดเร็ว
       
      'เรลลี่และแฟรี่เป็นเพื่อนที่สนิทกับฉันที่สุดใครคิดทำร้ายสองคนนี้ฉันไม่ให้อภัยแน่!!!'ลูเซีย
       
      คิดพร้อมกับปล่อยจิตสังหารใส่แวมไพร์ทั้งสองที่ถูกอัดไปไกลหลายสิบเมตรอย่างรุนแรง
       
      "เฮือกกก"ขนาดพวกเขาทั้งสองที่เป็นถึงแวมไพร์ที่แข็งแกร่งที่สุดรองลงมาจากแวมไพร์
       
      หนุ่มผมดำ ยังรู้สึกหวาดกลัวเด็กสาวคนนี้แล้วถ้าเป็นมนุษย์ปกติรับจิตสังหารของเด็กสาวทาง
       
      ตรงหรือแม้ทางอ้อมก็คงหมดสติไปเลยแหงแซะ 
       
      'แต่ถ้าทางว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะเก่งกว่าพวกเราทั้งสองคนหลายเท่าเลยนะ คงต้องให้หัวหน้า
       
      จัดการแทนแล้วหล่ะนะ'แวมไพร์ผมส้มคิด
       
      "พวกเธอทั้งสองเข้าไปในหอประชุมเร็วถ้าเธออยู่ในนั้นเธอจะปลอดภัยแน่นอน"ลูเซียกระซิบ
       
      บอกเพื่อนของเธอทั้งสองคน
       
      "แล้วลูเซียล่ะ ด้านนอกอันตรายนะทำไมไม่เข้าไปกับเราหล่ะ"เรลลี่กล่าวค้านคนที่พูดเหมือน
       
      จะไม่ตามเข้าไปด้วยอย่างหัวเสียเพราะเป็นห่วงเพื่อนคนนี้
       
      "ใช่"แฟรี่เสริมอย่างหนักแน่น
       
      "สำหรับมนุษย์คงอันตรายมากเลยอย่างที่พวกเธอบอกหล่ะนะ"ลูเซียบอกทั้งสองคนก่อนจะสูด
       
      หายใจเข้าเหมือนคนที่จะร้องไห้อยู่รอมร่อ
       
      "แต่ฉันไม่ใช่มนุษย์นี่"หลังจากที่เรลลี่และแฟรี่ได้ยินก็ทำหน้างงออกมา
       
      "ขอโทษที่ไม่บอกให้รู้นะว่าฉันน่ะไม่ได้เป็นมนุษย์แต่เป็นจอมเวท"
       
      "จอมเวท?"ทั้งสองเสียงประสานกันพูด
       
       "ใช่ 'จอมเวท' จอมเวทก็เหมือนมนุษย์ปรกติทุกอย่างทางกายภาพ แต่จะงดงามและสูงส่ง
       
      กว่า'มนุษย์ธรรมดา'หลายเท่า พวกเธอได้ยินแบบนี้คงเกลียดฉันที่ไม่ใช่มนุษย์สินะ แต่ไม่
       
      เป็นไรหรอกขอให้พวกเธอปลอดภัยก็พอแล้วหล่ะ"ลูเซียพูดเสียงเศร้าแล้วแสร้งยิ้มให้ดูว่าไม่
       
      เป็นไร แต่ลูเซียคงไม่รู้ว่ารอยยิ้มที่เผยออกมามันแสดงความเจ็บปวดมากมายออกมามาก
       
      ขนาดคนที่มองอยากจะร้องไห้ตาม
       
      "จะบ้าเหรอ ฉันดีใจนะที่มีเพื่อนไม่ธรรมดาแบบนี้ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันตลอดไปอยู่แล้ว  
       
      เนอะ!"แฟรี่กล่าวแล้วหันไปพยักพเยิดกับเรลลี่ที่ดูเหมือนจะภูมิใจที่ได้มีเพื่อนที่ไม่ธรรมดา
       
      อย่างออกนอกหน้า 
       
      ลูเซียพอได้ยินดังนั้นก็เหมือนยกภูเขาออกจากอกเพราะว่าตลอดเวลาที่อยู่กับทั้งสองคนก็
       
      กังวลว่าถ้าทั้งสองรู้ความจริงจะเป็นเพื่อนกับตัวเธออีกไหมแต่พอได้ยินแบบนี้ก็สบายใจ
       
      มากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยหล่ะ
       
      "งั้นพวกเธอก็เข้าไปด้านในได้แล้วนะ อยู่ตรงนี้มันอันตรายมากเลยนะ 
      ถ้าไม่เข้าไปโดนเจ้าสองตัวนั่นจับไปอีกฉันไม่รู้ด้วยน้าาา"พอเห็นทั้งสองทำท่าว่าจะค้านลูเซีย
       
      ก็ต้องรีบเอ่ยขัดขึ้นมาก่อน จนทั้งสองต้องวิ่งเข้าไปด้านในตามที่เพื่อนตนบอกเหลือไว้แต่
       
      ลูเซียให้เพชิญหน้ากับแวมไพร์หนุ่มหน้านิ่งอย่างกับรูปปั้น(แต่คนปั้นนั้นปั้นมาดีมากเลย
       
      หล่ะนะ)
       
      หลังจากทั้งสองเข้าไปแล้ว ลูเซียก็ร่ายเวทสร้างเกราะป้องกันให้ครอบทั้งหอประชุมเพื่อไม่ให้
       
      แวมไพร์ทั้งสามสามารถเข้าไปได้ 
       
      'ฉันจะต้องปกป้องทุกคนให้ได้แม้ต้องแลกด้วยชีวิตจะไม่ให้เหมือนกับตอนนั้นเด็ด
       
      ขาด!!!'ลูเซียคิดอย่างมุ่งมั่น ระหว่างที่คิดแววตาก็ทอประกายเจ็บปวดออกมาแม้จะเพียงน้อย
       
      นิดจนเจ้าของยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซำ
       
      แต่ก็ไม่สามารถปกปิดแวมไพร์หนุ่มที่จับจ้องเด็กสาวตลอดเวลาได้หรอก
      เมื่อแวมไพร์หนุ่มผมดำเห็นความเจ็บปวดที่โผล่ออกมาทางแววตาของลูเซียแม้จะเพียงนิด
       
      เดียวก็ตามก็เลิกคิ้วประหลาดใจในตัวเด็กสาวตรงหน้า
       
      'ความลับเยอะจังนะ คุณจอมเวทสาว'ก่อนจะพินิจดูร่างกายของลูเซียก่อนจะพูดว่า
       
      "ถ้าทางร่างนี้คงจะไม่ใช่ร่างจริงของคุณสินะ"ลูเซียพยักหน้า
       
      "ฉันยังไม่รู้ชื่อคุณเลย ฉันชื่อลูเซีย เอลโนวาโลล์ค่ะ แล้วคุณล่ะ"ลูเซียเอ่ย
       
      "ผมชื่อเลโอ คิวดร้า ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณลูเซีย"เลโอกล่าวพร้อมกับค้อมศีรษะลงเป็น
       
      สัญลักษณ์ว่ายินดีที่ได้รู้จัก 
      ด้านลูเซียก็ค้อมศรีษะเช่นกัน
       
      'ค้อมศีรษะแทนการถอนสายบัว ห้าวน่าดูแฮะ'เลโอคิดในใจ
       
      "ฉันขอไม่ตอบว่า'เช่นกันค่ะ'นะคะคุณเลโอเพราะว่าฉันไม่ค่อยรู้สึกยินดีกับการที่ผู้ติดตาม
       
      ของคุณทักทายกับฝ่ายฉันอย่างสวยหรูสักเท่าไหร่หรอกนะคะ 
      เดี๋ยวนะ อืม... คิวดร้า คิว...ดร้า เอ๊ะ นี่มัน อ้อ...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณเลโอผู้ที่ครองตำแหน่ง
       
      ราชาแวมไพร์ในยุคนี้เป็นเกียรติอย่างสูงค่ะที่ได้พบ"ลูเซียเอ่ยด้วยนำเสียงเรียบนิ่งจนไม่
       
      สามารถรู้ได้ว่าคิดอะไรอยู่
       
      'รู้สึกว่าคำว่าเป็นเกียรติอย่างสูงที่พูดเนี่ยเหมือนประชดเลยแฮะ หรือว่าเราคิดมากไปเอง'เล
       
      โอคิด
       
      "เป็นเกียรติเช่นกัน ที่ได้พบกับจอมเวทผู้เหนือกว่าจอมเวททั้งปวง"เลโอกล่าวเสียงนิ่งไม่แพ้กัน 
       
       พอลูเซียได้ยินจบประโยคหน้าตาก็ทวีความเย็นชายิ่งกว่าเดิมหลายเท่าแถมมีจิตสังหารปน
       
      ออกมาด้วยประปรายทำให้อากาศเย็นลงเหมือนองศาติดลบ
       
      'ถ้าทางจะสืบประวัติเรามาเยอะใช้ได้ สมแล้วที่เป็นราชารอบคอบดีแต่จะรอบคอบพอมั้ยต้อง
       
      คอยดูกันไปก่อน คงต้องระวังตัวมากขึ้นซะแล้ว ต้องห้ามประมาทราชาคนนี้เด็ดขาด'ลูเซียคิด
       
      "ถ้าอยู่ในร่างนี้ก็ปลดปล่อยพลังได้แค่1ใน100เองคงจะร่ายเวทบทนั้นไม่ได้สินะ งั้น
       
      ก็..."ลูเซียพึมพำเบาๆพยายามให้อีกฝ่ายไม่ได้ยิน 
      หลังจากนั้นก็มีแสงสีขาวปรากฎที่ใต้ฝ่าเท้าของลูเซียแล้วเลื่อนระดับขึ้นสูงขึ้นผ่านตัวของ
       
      ลูเซียไป พอแสงหายไปก็ปรากฎหญิงสาวผู้มีหน้าตาสวยงาม ผมสีทองยาวสลวยถึงข้อพับขา
       
      ที่ถูกรวบขึ้นเป็นหางม้าอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีทองสวยงามมีแต่ความลึกลับ ร่างทั้งร่างมี
       
      ละอองสีทองพวยพุ่งออกมาก่อนจะถูกดูดเข้าไปในร่างของหญิงสาวจนหมด หญิงสาวคนนั้น
       
      ใส่ชุดสีขาวที่เป็นชุดกระโปรงยาวจนถึงหัวเข่าแต่กระโปรงผ่าข้างด้านขวาขึ้นไปจนถึงเอวทำ
       
      ให้เห็นว่ามีกางเกงขาสั้นสีดำอยู่ด้านใน แถมที่ขาขวายังมีสายรัดที่ขาที่เหน็บปืน กับ มีดสั้น 7 
       
      เล่ม ทุกเล่มมีลักษณะเหมือนกันคือ เป็นมีดนำแข็งบางเฉียบที่สามารถตัดเหล็กได้สบายๆตรง
       
      กลางมีดทุเล่มจะมีดาวห้าแฉกสีดำอยู่ด้านใน ส่วน ปืนนั้นมีลักษณะเป็นสีเงินทั้งกระบอกรวม
       
      ทั้งที่ตัวกระบอกมีเถาวัลย์กุหลาบสีอำพันตวัดอย่างงดงาม
       
      "นี่คือร่างที่แท้จริงของคุณลูเซียสินะ สมแล้วที่เป็นจอมเวทผู้เหนือกว่าจอมเวททั้งปวง"เลโอ
       
      กล่าวเสียงนิ่ง 
       
      "ก็ ..ใช่ค่ะ"เสียงที่เอ่ยออกมาไพเราะกังวาลดุจดุงเสียงแก้วที่กระทบกัน
       
      'คงต้องถ่วงเวลาให้สามารถร่ายเวทย์บทนั้นจบสินะ แต่หมอนี่ถ้าทางจะรับมือยากเอาการนะ
       
      เนี่ย แถมยังมีตัวแถมสองคนนั้นอีก'ลูเซียคิดอย่างหนักใจ
       
      'ท่านลูเซีย ใช้พวกเราสิเจ้าคะ'มีเสียงสองเสียงดังประสานขึ้นมาในหัว
       
      'จริงด้วย ลืมไปเลยว่าเรามี "ซัน"กับ "มูน"อยู่นี่ขอบใจมากเลยนะ ทั้งสองตัว งั้นก็รบกวน
       
      หน่อยนะ'หลังจากลูเซียคิดก็ร่างเวทย์อันเชิญสัตว์รับใช้ออกมา
       
      "ด้วยนามแห่งข้า ผู้เป็นนายแห่งเจ้า ข้าขออันเชิญพวกเจ้าออกมา เพื่อมาเป็นกำลังให้แก่ข้า 
       
      จงออกมา ซัน มูน"ลูเซียพูดด้วยเสียงก้องกังวาล หลังจากพูดจบก็มีมังกรสองตัวโผล่มาขนาบ
       
      ข้างลูเซียพล้อมเอาหน้ามาคลอเคลียกับลูเซียอย่างรักใคร่
       
      'มีสัตว์รับใช้เป็นมังกรที่เป็นสัตว์สายพันธ์สูงสุดของสัตว์รับใช้แถมเป็นมังกรจันทราและสุริ
       
      ยันต์ที่อยู่เหนือมังกรทั้งปวง ถ้าทางจะเคี้ยวยากกว่าที่คิดมากโขเลยแฮะ'เลโอคิด
       
      "ซัน มูน ฉันว่าใช้ร่างมนุษย์จะสะดวกว่านะ"ลูเซียพูดกับมังกรทั้งสองของเธอ
       
      "ได้ค่ะ นายหญิง"ทั้งสองพูดก่อนจะกลายร่างเป็นหญิงสาวหน้าตางดงาม(แต่ไม่เท่าลูเซีย)ซัน
       
      มีสีผมและสีตาเป็นสีแดงส่วนมูนมีเป็นสีนำเงิน ซันและมูนในร่างมังกรจะมีสีเกล็ดทั้งตัวเป็นสี
       
      เดียวกับผม
       
      "ฝากจัดการสองคนนั้นทีนะ"
       
      "ได้ค่าาา"ซันและมูนขานรับอย่างอารมฌ์ดี
       
      "แหม  ขานรับเสียงใสเลยนะ"
       
      "ก็พวกเราไม่ได้ออกมาด้านนอกนานแล้วนี่นา เนอะ มูน"ซันพูด
       
      "ช่ายๆ ลูเซียไม่ให้พวกเราออกมาตั้งนาน ก็ต้องดีใจเป็นธรรมดา"มูนตอบ
       
      "เอาล่ะ ไปจัดการได้แล้ว ถ้าเสร็จแล้วสัญญาจะซื้อชุดใหม่ให้"ลูเซียพูดอย่างหน่ายใจ
       
      "เย้ สัญญาแล้วน้าาาาา"ซันกับมูนพูดเสร็จก็พุ่งไปสู้กับสองคนด้านนอกทันที
       
      "แล้วพวกคุณมาที่นี่ทำไม"ลูเซียถามเลโอเสียงเย็นประมาณว่าถ้าไม่ตอบแกตายอะไรประมา
       
      ณเนี้ย
       
      "ก็...พาสองคนนั้นมาหา'มนุษย์สายเลือดบริสุทธ์'ก็เท่านั้น"เลโออธิบาย
      มนุษย์สายเลือดบริสุทธ์ที่เลโอพูดถึงก็คือมนุษย์ที่มีเลือดที่บริสุทธ์มากกว่ามนุษย์ทั่วไปที่จะมี
       
      มาแค่100ปีต่อคนเท่านั้น
       
      "พามาสองคน จะให้สองคนนั้นแย่งเลือดคนคนนั้นจนหมดตัวเลยรึไง"ลูเซียถาม
       
      "ไม่ใช่ ยุคนี้เป็นยุคที่รวมสิ่งสุดยอดทั้งหมดเอาไว้ทั้งเธอที่เป็นจอมเวทที่เหนือกว่าจอมเวททั้ง
       
      ปวง ทั้งฉันที่เป็นราชาที่เหนือราชัน ทั้งสองคนนั้นที่เกิดมาเป็นแฝดที่ทรงพลังในตระกูลชั้น
       
      สูงแต่ก็มีพลังน้อยกว่าพวกเราสองคนแต่ก็มากกว่าแวมไพร์ปรกติ ทั้งมังกรจันทราและมังกร
       
      สุริยันที่เป็นสัตว์รับใช้สูงสุด มันก็คงไม่แปลกถ้ามีมนุษย์เลือดบริสุทธ์สองคนหรอกจริงมั้ย"
       
      "แล้วนายรู้เหรอว่าสองคนนั้นเป็นใคร"ลูเซียถาม
       
      "ก็เพื่อนเธอทั้งสองคนนั่นแหละ"เลโอตอบ
       
      "ว่าไงนะ!!! เรลลี่และแฟรี่เป็นมนุษย์เลือดบริสุทธ์"ลูเซียตอบอย่างตกตะลึง
       
      "ใช่ ฉันมาที่นี่เพื่อพาสองคนนั้นไปให้เจ้าแฝดนรกแต่นึกไม่ถึงว่าเธอจะอยู่ที่นี่ แถมยังเป็น
       
      เพื่อนสนิทของสองคนนั้นอีก"เลโอกล่าว
       
      "หึ เพราะงี้นายผู้เป็นถึงราชาต้องถ่อมาเองถึงที่ แต่อย่าคิดนะว่าฉันจะยกเพื่อนทั้งสองให้น่ะ
      ...เพราะงี้ไงล่ะแวมไพร์ถึงเชื่อใจไม่ได้"ลูเซียตอบกลับแต่ประโยคหลังพึมพำเสียงเบาเหมือน
       
      กับพูดกับตนเอง
       
      'ลูเซียไม่เป็นไร อย่าไปคิดถึงผู้ชายคนนั้น ตอนนั้นก็เป็นตอนนั้นตอนนี้ก็เป็นตอนนี้ ตั้งสติๆ 
       
      เราต้องปกป้องเรลและแฟร์(ชือของเรลลี่และแฟรี่) เวทปกป้องมนุษย์ก็สมบูรณ์แล้ว เอาล่ะ'
       
      "เวทย์ปกป้องมนุษย์ทำงาน!!!"หลังจากที่ลูเซียเอ่ยจบบนท้องฟ้าก็ปรากฏวงแหวนเวทย์ขนาด
       
      ยักษ์ที่เคลื่อนที่ผ่านอาเรียทั้งอาเรีย พอผ่านหมดทุดส่วนก็สลายกลายเป็นผงสีทอง
       
      "ซัน มูน เสร็จแล้วยังถ้าเสร็จแล้วก็กลับเข้าแหวนเลย"
       
      "โอเค"หลังจากซันและมูนกลับเข้าแหวนเลโอก็เบิกตากว้างเพราะตัวเขาไม่รู้ตัวเลยแม้แต่
       
      น้อยว่าหญิงสาวตรงหน้าได้สร้างวงแหวนเวทย์เอาไว้ระหว่างตอนที่คุยกัน
       
      "ทำแบบนี้แล้วจะได้ผลอะไร"เลโอกล่าวพร้อมชำเลืองมองแฝดแวมไพร์ที่สลบเหมือดเพราะ
       
      พ่ายแพ้ จากนั้นก็โบกมือแฝดแวมไพร์ก็หายไป
       
      "อ้อ คงยังไม่รู้สินะ เวทย์ปกป้องมนุษย์ก็ตามชื่อของมัน มันจะปกป้อง'มนุษย์'จากแวมไพร์ทำ
       
      ให้แวมไพร์ไม่สามารถแตะต้องมนุษย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เลือดบริสุทธ์เพราะขึ้นชื่อว่า
       
      เป็นมนุษย์ยังไงล่ะ แต่ว่าสำหรับแวมไพร์และมนุษย์ที่รักกันจะเป็นข้อยกเว้น รวมถึงแวม
       
      ไพร์ที่ไม่คิดทำร้ายมนุษย์ด้วย"ลูเซียตอบ
       
      "ปกป้องมนุษย์จากแวมไพร์? ถ้างั้นเธอที่ไม่ใช่มนุษย์ก็ไม่โดนผลของเวทย์นี้น่ะสิ ใช่มั้ย?"เล
       
      โอกล่าวอย่างจับจุดในประโยคที่ลูเซียกล่าวออกมา
       
      "ใช่ ฉันไม่ได้รับผลจากเวทย์นี้เพราะฉันไม่ใช่มนุษย์ แต่ยังไงแวมไพร์ก็ไม่สามารถจับฉันได้
       
      เหมือนกันมันเป็นผลข้างเคียงของผู้ร่ายเวทย์นี้น่ะ ยกเว้นก็แต่..."ลูเซียตอบ
       
      "ยกเว้นก็แต่?"เลโอทวน
       
      "ยกเว้นก็แต่...นายที่เป็นราชาเหนือราชันย์ของแวมไพร์ที่สามารถจับฉันได้ เพราะมีพลังไก
       
      ล้เคียงกับฉัน"หลังจากลูเซียพูดจบก็ทรุดลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นเพราะใช้พลังเวทย์ไปใน
       
      ปริมาณที่มาก อีกไม่นานเธอก็คงจะสลบคาที่ ขนาดเธอที่เป็นจอมเวทเหนือจอมเวทยังสลบ
       
      สำหรับจอมเวทปกติพอใช้เสร็จก็คงลาจากโลกใบนี้ไปทันทีแน่นอนเธอฟันธง
       
      "นี่ เธอไม่กลัวเลยเหรอว่าถ้าเธอสลบ ฉันอาจจะดูดเลือดของเธอจนตายไปเลยนะ"เลโอพูดหยั่ง
       
      เชิง
       
      "หึ ถ้านายทำแบบนั้นฉันจะเป็นผีมาหลอกนายเลยคอยดู" ลูเซียขู่แต่สภาพที่นอนทรุดอยู่กับ
       
      พื้นมันไม่น่ากลัวเลยสักนิด
       
      "หึๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ เธอนี่สุดยอดเลย ฉันสนใจเธอแล้วสิ"เลโอพูดพร้อมหัวเราะ
       
      "ไอ้ราชาบ้าเอ๊ย..."ลูเซียสลบทันทีหลังพูดจบ
       
      "อ้าว หลับไปซะแล้ว น่าสนใจๆ พากลับไปด้วยดีกว่า"เลโอพูดพร้อมอุ้มลูเซียขึ้นมาแล้วหาย
       
      ตัวไปจากตรงนั้น
       
      ณ วังดาร์คโซน ซึ่งเป็นวังของเลโอ
       
      เลโอที่ใช้พลังเคลื่อนย้ายในพริบตาไดมาโผล่ตรงทางเดินที่ปูด้วยพรมสีแดงเลือดหมู ณ ขณะ
       
      นี้เลโอได้อยู่ที่ทางเดินในวังซึ่งมีแสงจากตะเกียงที่ติดอยู่บนกำแพงสีดำสนิทที่แวววาวเหมือน
       
      แบล็คไดม่อน หลังจากเดินได้ไม่นานก็มากหยุดหน้าห้องๆหนึ่งซึ่งมีประตูเป้นประตูไม้สีดำ
       
      สนิทสูงสามเมตรกว้างสองเมตรไม่นานประตูก็เปิดออกเผยให้เห็นภายในห้องที่ถูกจัดแต่ง
       
      ด้วยเฟอร์นิเจอร์อย่างหรูซึ่งจะเป็นโทนสีดำทั้งหมด เลโอเดินไปที่เตียงขนาดคิงไซต์ซึ่งเป็นสิ่ง
       
      ที่เป็นสีขาวพร้อมวางลูเซียที่สลบอยู่ลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล
       
      "อีกประมาณ 1 ชั่วโมงคงจะฟื้น งั้นไปอาบนำก่อนคงจะดีกว่า เพราะตอนนี้ ก็หนึ่งทุ่มแล้ว"
      เลโอกล่าวพร้อมบิดตัวคลายเมื่อย ใช่แล้วห้องๆนีเป็นห้องของเลโอ ที่ระหว่างเลโอเดินมาไม่มี
       
      เสียงอะไรเลยนั้นก็เพราะว่าที่วังไม่มีพวกขุนนางน่ารำคาญ องครักที่เกะกะ และอีกมายมายที่
       
      ในวังนี้นอกจากเลโอแล้ว
       
      เปลือกตาสีงาช้างของลูเซียค่อยๆเปิดขึ้นเผยให้เห็นดวงตาสีอำพันสวย ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆ 
       
      เพื่อปรับสายตา
       
      "ที่นี่ที่ไหนเนี่ย"ลูเซียกล่าวออกมาเมื่อเห็นตัวเองอยู่ที่ห้องที่ตนเองไม่คุ้นเคย
       
      "ที่นี่ห้องฉันในปราสาทเองแหละ"เสียงเลโอดังมาจากหน้าประตูห้องนำทางซ้าย
       
      "อ่อ งั้นเหรอ ... "ลูเซียพูดพร้อมหันไปทางเจ้าของเสียงก่อนจะ...
       
      "เห้ย !!!"ลูเซียอุทานไม่สมหญิงเพราะเจ้าของเสียงที่ตอบนั้นกำลังเปลือยท่อนบนเผยให้เห็น
       
      กายแกร่ง ส่วนท่อนล่างนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวตามตัวมีหยดนำเกาะพราวอยู่ ตอนนี้เลโอกำลัง
       
      เช็ดผมอยู่
       
      "นายทำไม  มะ มะ ไม่ไปใส่เสื้อผ้า"ลูเซียกล่าวเสียงตะกุกตะกัก พร้อมใบหน้าที่แดงฉ่าที่หัน
       
      หน้าหนีจนคอแทบหลุด
       
      "ก็ตู้มันอยู่ด้านนอกก็เลยจะมาเอาเสื้อ"เลโอกล่าวพร้อมหยิบเสื้อและกางเกงสีดำหรูหราออก
       
      มาแล้วเดินเข้าห้องนำไป 
       
      2 นาทีผ่านไป
       
      "เสร็จแล้ว"เลโอที่เดินมาหยุดอยู่ที่ข้างเตียงพูด
       
      "งั้นเหรอ นี่ฉันหลับไปนานเท่าไหร่"ลูเซียถาม ณ ตอนนี้ลูเซียนั่งอยู่บนเตียงไม่ลงมายืน (ที่
       
      ไม่มายืนเพราะไม่มีแรงต่างหากเล่า:ลูเซีย)ทุกก้าวที่เลโอก้าวเข้ามาลูเซียจะขยับออกห่างจน
       
      ตอนนี้เกือบตกเตียงอยู่รอมร่อ เลโอมองท่าทางนั้นอย่างขบขัน
       
      "เธอน่ะหลับไปแค่ครึ่งชั่วโมงเอง ฉันไม่อยากจะเชื่อตอนที่เห็นเธอลุกขึ้นมานั่งแล้ว ฉันนึกว่า
       
      ประมาณหนึ่งชั่วโมงซะอีก เธอเนี่ยทำฉันประหลาดใจอยู่เรื่อย แล้วทำไมถึงไม่ลุกจากเตียง
       
      หล่ะหรือจะชอบเตียงนุ่มๆ"เลโอกล่าวอย่างฉงน
       
      "บ้านนายสิ! ฉันไม่มีแรงต่างหาก ถ้ามีนะฉันจะเข้าไปปาไฟอนันตกาลใส่นายเลยคอยดูสิ 
       
      ฮึ่ม!"ลูเซียพูดอย่างหงุดหงิด พร้อมกอดอก
       
      "แหม เล่นแรงจันนะถึงกับจะใช้ไฟอนันตกาลที่ไม่สามารถดับได้ยกเว้นแต่เจ้าของจะสั่งให้
       
      ดับกับฉันเลยเหรอ แต่คงอีกนานนะเพราะร่างกายเป็นแบบนี้แล้วเธอจะทำยังไงหล่ะ"เลโอถาม
       
      "นายไปนั่งตรงโซฟานู่นไปเดี่ยวโดนลูกหลง"ลูเซียสั่ง
       
      "คร้าบๆ"เลโอกล่าวอย่างล้อเลียนก่อนจะทำตาม
       
      ด้านลูเซียนั้นประกฏไฟสีทองขนาดเท่านิ้วโป้งบนฝ่ามือ 1 2 3 4 มากขึ้นเรื่อยๆจนรอบตัว
       
      ลูเซียมีลูกไฟสีทองมากกว่า1,000,000ดวงอยู่รอบๆ ก่อนลูกไฟทั้งหมดจะเข้าไปในร่างลูเซีย

      10%

      วูบ!!!

      พรึบ!!!

      หลังจากที่แสงทั้งหมดเข้าไปในร่างของลูเซีย ลูเซียก็หมดสติ ร่างกายที่ไม่มีสติของลูเซียจึงล้มตัวลงนอนไปกับเตียงทันที

      "เฮ้อ...นี่เธอจะไว้ใจคนง่ายไปไหม ช่วยรู้สึกหน่อยได้ไหมว่าตัวเองอยู่กับแวมไพร์น่ะ ถ้าเธอไปอยู่กับแวมไพร์ตัวอื่นฉันหล่ะไม่อยากจะคิด"เลโอพูดอย่างเหนื่อยใจพร้อมมองดูสภาพของร่างโปร่งของหญิงสาวที่หลับไปแล้วอย่างอดกลั้น

      'จะไม่ให้อดได้ไงเล่าก็นอนแบบให้เห็นคอชัดขนาดนั้น ถ้าเป็นมนุษย์ปกติอย่าคิดว่าจะอยากดูดเลือดเลย แต่นี่!!ๆ ดูบ้างสิว่าเธอเป็นจอมเวทนะ ซวยแล้ว! เขี้ยวโผล่มาแล้วววว'คิดพร้อมกุมปากที่เขี้ยวเริ่มยาวออกมา

      'วันนี้นอนโซฟาก็ได้ ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศ'
      คิดพร้อมถอนหายใจแล้วล้มตัวลงนอน

      "ราตรีสวัสต์นะ 'ลูเซีย' "

      "ราตรีสวัสต์นะ 'เลโอ' "

      ตอนกลางดึก

      "ฮือ...แม่...แม่คะ พะ.พ่อคะ อย่าทำอะไรพ่อกับแม่นะ...ช่วยด้วย...ได้โปรดอย่าทะ...ฮึก...ทำอะไรพ่อกับแม่หนูเลย...ฮึก...ฮือ..."ตอนนี้ลูเซียได้ฝันร้าย ฝันที่เธอไม่ได้ฝันมันมานานหลายปีแล้วแต่ก็ยังเป็นปมในอดีตของเธอที่เธออยากลืมแต่ก็ลืมไม่ได้เพราะถ้าลืมเธอจะลืมจุดประสงค์ในการใช้ชีวิตไป การใช้ชีวิตสำหรับตัวเธอนั้นไม่ใช่การเที่ยวเล่นไปวันๆ แต่เป็นการใช้ชีวิตเผื่อบุคคลสำคัญของเธอ ที่ไม่ได้มีชีวิตดูโลกนี้ต่อไป

      ตึก...ตึก...ตึก

      "ร้องไห้ทำไมหึ"เลโอกระซิบถามคนที่อยู่ในห้วงฝันที่แสนจะเลวร้าย

      "ไม่เป็นไรนะเธอมีคนที่ยังรักเธออีกมากอย่าง เพื่อนของเธอ...อย่างฉัน"ประโยคสุดท้างเลโอกระซิบเสียงแผ่ว

      'ใครน่ะ...'

      'ไม่เป็นไรนะ ยังมีคนที่รักเธออีกมากอย่างเพื่อนของเธอ...'

      'นั่นสินะ เรายังมีเรลลี่กับแฟรี่อยู่นี่นา'

      "ฟี้..."

      "อ้าว...หลับซะแล้ว...อะ!"หลังจากที่เลโอคิดว่าลูเซียหลับแล้วก็จะไปนอนที่โซฟาแต่ตอนที่ลุกนั้นก็รู้ว่ามีมือของคนที่หลับเกาะอยู่ แถมยังเกาะแน่นด้วย

      "เฮ้อ...ก็ได้ แต่ตอนตื่นขึ้นมาอย่ามาด่ากันก็แล้วกัน"เลโอตัดสินใจสอดตัวลงไปในผ้าห่มพร้อมกับดึงลูเซียเข้ามากอดไว้ ด้วยความที่อากาศเย็นทำให้ลูเซียขยับเข้าซุกเลโอมากขึ้น

       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×