ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BASILISK RASCAL [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #3 : BASILISK - RASCAL :: ผมเกลียดความพ่ายแพ้

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.52K
      9
      23 ต.ค. 57






     [Loading…100%]

      

    - EPS 02 -

    ผมเกลียดความพ่ายแพ้

     

      • โยมิ

     

    ช่วงนี้ผมแม่-ไม่รู้เป็นเห้-ไร?...

     

    มองไปทางไหนก็รู้สึกทุกอย่างดูขวางหูรกตาไปซะหมด

     

    ยกตัวอย่างเช่นวันนี้สนามแข่งรถมหาลัย A ที่ผมดำรงหัวหน้าแก๊งค์อยู่ ถูกจัดขึ้นและได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนจากสนามแข่งใหญ่ๆ ในแถบนี้ ขนาดที่ว่ากว่าจะรู้ผลว่าใครได้เป็นคนจัดงานนี้ไปก็แทบจะฟาดฟันแย่งชิงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

     

    แต่ไม่รู้สิ

     

    ผมก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไมถึงรู้สึกว่ามันโคตรจะแสนน่าเบื่อ!

     

    ไม่มีอะไรใหม่ๆ ให้สนุกตื่นเต้นเอาซะเลย

     

    เท่าที่เห็นพอจัดงานแข่งรถกันทีไรก็มีแต่เหตุการณ์แบบเดิมๆ จำเจซ้ำซาก  

     

    ฝ่ายชนะได้ของรางวัลที่เดิมพัน!

     

    ฝ่ายที่แพ้ต้องเสียรถ เสียเงิน และเสียผู้หญิง!

     

    หรือแม้กระทั่งยอมยกคู่นอนของตัวเองไปปรนเปรอฝ่ายตรงข้ามแบบฟรีๆ และสุดท้ายก็ไม่วายถูกลากให้จบลงด้วยเรื่องอย่างว่า แม้บางครั้งเหยื่อเดิมพันจะไม่เต็มใจเลยก็ตาม

     

    ผมบอกได้แค่ว่าไม่มีอะไรใหม่ๆ ที่จะสามารถกระตุ้นเร้าให้ผมรู้สึกสนใจได้เลย

     

    ผมรู้สึกเหมือนถูกความเฉื่อยชากลืนกิน... และค่อยๆ ถูกกัดแทะจนเว้าแหว่งภายใต้ความมืดมิดโฉดชั่วอันเป็นอุปนิสัยของตัวเอง

     

    ผมไม่อยากแม้แต่จะเอ่ยปากเสวนาพูดคุยกับใคร ดูอย่างขนาดการจัดแข่งสี่ห้ารายการในวันนี้ที่ต้องลง ผมก็โยนให้ไอ้คีรินน้องชายตัวอันตรายจัดการไปทั้งหมด และเหมือนมันจะรู้นิสัยแย่ๆ ของผมดี มันถึงได้ไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายตอแยเฉียดใกล้ผมเลย

     

    ผมอธิบายไม่ถูกว่าตัวเองกำลังรออะไรอยู่กันแน่?

     

    แต่ที่แน่ๆ คือตอนนี้งานจบแล้ว...

     

    รถทุกคันค่อยๆ ทะยานออกจากสนามและหลงเหลือเพียงท้องฟ้ามืดครึ้มที่ดูเกรี้ยวกราดเสียจนคิดจะลงทัณฑ์ใครสักคน

     

    ...และที่ผมสัมผัสได้อย่างชัดเจนคือความว่างเปล่าที่ถูกรายล้อมภายใต้ความมืดมิดอันจืดชืด

     

    ผมยืนพิงผนังตึกสีขาวใหม่เอี่ยมซึ่งเป็นฐานที่มั่นของคนผู้เป็นระดับหัวหน้าแก๊งค์ในสนามของมหาลัย A ด้วยสีหน้าเฉยชาขณะยกบุหรี่ขึ้นสูบและพ่นควันสีขาวเทาออกมาด้วยท่าทางขุ่นมัว

     

    ทุกอย่างแม่-โคตรน่าเบื่อเห้-ๆ!

     

    และคิดว่าถ้ามีอะไรที่ผ่านเข้ามาให้ดูขวางหูรกตาในตอนนี้ มันก็น่าจะถูกทำลายทิ้งไปเสีย

     

    ผมว่าความคิดของผมถูกต้องนะ เพราะแม้กระทั่งท้องฟ้าก็ยังส่งเสียงกรีดร้องเห็นด้วยกับความคิดของผม พร้อมทั้งยืนยันด้วยการส่งฝนห่าใหญ่ให้ซัดสาดลงมา

     

    ชั่วขณะที่ผมกำลังเหม่อและใช้ความคิดอยู่เพลินๆ

     

    สัญชาตญาณในตัวผมพากันกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น เส้นเลือดและประสาทอันคมกริบเหมือนถูกปลุกเร้าให้ตื่นขึ้น

     

    ผมเพ่งมองสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่เผลอหลุดเข้ามาในขอบเขตวงโคจรอันตรายภายใต้สายตาอันคมกริบ

     

    ผมว่าตอนนี้ผมได้เจอกับสิ่งที่สามารถปลุกปั่นสัญชาตญาณอันดิบเถื่อนดุร้ายในตัวผมขึ้นแล้ว

     

    ทันทีที่สบเข้ากับเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเทาเฉดทองกลมโตโฉบเฉี่ยวของเด็กหนุ่มรุ่นน้องที่อายุน่าจะไล่เลี่ยพอๆ กับน้องชายผมอย่างไอ้คีริน รอยยิ้มอันเย็นชืดเฉยชาของผมก็หยัดโค้งขึ้นทันที

     

    เด็กหนุ่มร่างสูงระหงราวร้อยแปดสิบ ดูสวยสมบูรณ์แบบไปด้วยกล้ามเนื้อเพรียวสมส่วน สายตาคมกริบของผมละสายตาจากใบหน้าสวยเฉียบเปลี่ยนมาจ้องตรึงตรงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปียกลู่แนบเนื้อลำตัว โดยเฉพาะยอดอกที่ผลิดันจนดูยั่วน้ำลายให้ลิ้มลอง

     

    แม่- ผู้ชายบ้าอะไรวะเนี่ยโคตรน่าจับฟัดทำเมียชิบ!

     

    แม้อีกฝ่ายจะดูเป็นผู้ชายสูงเท่ไม่เฉียดกรายความหน้าหวานตัวเล็กๆ น่าทะนุถนอมเลยก็ตาม แต่ไอ้หน้าใบหยิ่งยโสโฉบเฉี่ยวที่ดูตอบรับกับเอวคอดบางนั่นกลับสามารถปลุกปั่นอารมณ์ร้อนแรงของผมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

     

    เนื้อกายท่อนล่างของผมแตกตื่นสั่นระริกโดยไม่ทันได้ลงมือปลุกเร้า อย่างที่ผู้ชายผู้หญิงหรือคู่นอนคนไหนไม่เคยสามารถทำได้มาก่อนจนแม้แต่ผมเองก็ต้องตกใจ

     

    ผมว่าร่างสูงระหงเบื้องหน้าต้องเป็นคู่นอนที่เผ็ดร้อนดุเดือดและรับอารมณ์ดิบเถื่อนอันโรคจิตรุนแรงของผมได้มากกว่าใครแน่ๆ

     

    แววตาสีเทาอมม่วงคมกริบของผมคงเผลอจ้องมองฝ่ายตรงข้ามมากไปหน่อย อีกฝ่ายถึงได้เผลอชักสีหน้าด้วยความอึดอัด

     

    หึๆ แต่ใครจะสน ในเมื่อผมนึกสนุกขึ้นมาแล้วตอนนี้

     

    “หืมส์ อะไรกัน...มองฉันด้วยสายตาแบบนั้น กำลังนึกด่าฉันอยู่ในใจหรือไง?”

     

    ผมอดพูดแหย่อีกฝ่ายไม่ได้ ขณะที่ตัวเองยืนปักหลั่นพิงผนังอยู่ไม่ไกลมากนัก และแทบหลุดเสียงหัวเราะขบขันอย่างที่ไม่นึกว่าตัวเองจะมี เมื่อร่างบางระหงเผลอแสดงสีหน้าตกใจราวกับคนร้อนตัวที่ถูกจับผิด

     

    ผมปล่อยให้พวกเราทั่งคู่ตกอยู่ภายใต้บรรยากาศของฝนที่ตกโหมกระหน่ำ

     

    กระทั่งท้องฟ้าส่งเสียงครืนๆ พร้อมกับสายฟ้าแลบปราดเป็นเส้นสีเงิน แต่ทันทีที่ร่างระหงเผลอหลุดสะดุ้ง อารมณ์พลุ่งพล่านที่เย็นไปแล้วเมื่อครู่ ก็ปลุกปั่นให้ผมเริ่มบ้าคลั่งขึ้นมาอีกรอบอย่างควบคุมไม่อยู่

     

    แล้วแม่-ไอ้ความรู้สึกอยากฟัดไอ้คนตัวผอมๆ ตรงหน้านั้นก็มีมากเสียจนแทบเก็บอาการนิ่งๆ ไว้ไม่ไหว มือไม้ที่ถือบุหรี่ในมือเริ่มสั่นเทาระริกเหมือนคนอยากยาขึ้นมาเสียดื้อๆ

     

    ผมโยนบุหรี่ทิ้งลงพื้นแล้วใช้ปลายเท้าบดขยี้ ก่อนจะยืดกายเต็มความสูงและขยับก้าวเดินตามร่างระหงที่เดินเข้าไปหลบฝนด้านใน

     

    สายตาคมกริบของผมจ้องมองสีผิวขาวจ้าที่ตัดกับแสงสะท้อนลางๆ จนแทบทะลุ

     

    ยิ่งมองใกล้ๆ ได้เห็นเนื้อผ้าแนบลู่ลำตัวขับเน้นยอดอกอย่างเร้าอารมณ์มากขึ้นไม่รู้กี่เท่า

     

    อารมณ์ในกายของผมปั่นป่วนพลุ่งพล่านจนแทบฉุดไม่อยู่ กว่าจะรู้ตัวเท้าของผมขยับเข้าไปยืนประชิดตัวอีกฝ่ายเสียแล้ว จนเจ้าของร่างระหงขมวดคิ้วและเงยหน้ามองผมด้วยความสงสัย

     

    นัยน์ตาคมกริบของผมจ้องมองอีกฝ่ายนิ่งด้วยแววตาหื่นกระหายที่พยายามซุกซ่อนไว้จนมิด และสุดท้ายก็อดใจไม่ไหวจนต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแทบทุ้มเย็นๆ

     

     “ไหนๆ ฉันกับนายก็ต่างอยู่ว่างๆ ด้วยกันทั้งคู่ อย่างนั้นลองหาอะไรสนุกๆ ฆ่าเวลาก่อนฝนจะหยุดดีไหม”

     

    พอสิ้นคำพูดของผมเท่านั้นอีกฝ่ายก็เบิกตากว้างอย่างตกตะลึง จนทำให้รอยยิ้มตรงมุมปากของผมเหยียดขึ้น พร้อมกับกวาดไล่สายตาไปทั่วร่างด้วยแววตาจาบจ้วง

     

    ช่วงเวลานี้บอกตรงๆ เลยว่าผมโคตรอยากผสมพันธุ์กับคนตรงหน้าเป็นที่สุด

     

    ถ้าแม่-ไม่เกรงใจที่คิดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายเต็มตัวและน่าจะรุกแต่ผู้หญิงมาตลอดโดยเฉพาะ ผมเอาแม่-คาผนังตรงนี้ให้เดินลากขาไปแล้ว

     

    ผมอธิบายได้แต่เพียงว่า ร่างสูงระหงในตอนนี้โคตรน่าเอาชิบหายวายวอด

     

    “ไอ้โรคจิต! แม่- ในหัวมึงเนี่ยคิดอะไรไม่ได้แล้วนอกจากเรื่องชั่วๆ ใช่ไหม!?”

     

    อีกฝ่ายตวาดด่าทอผมเสียงดังลั่นจนมุมปากของผมขยับรอยยิ้มเย็นตาม และอดที่จะละสายตาออกจากริมฝีปากสีแดงจัดชวนลิ้มลองที่ขยับส่งเสียงด่าทอปาวๆ นั้นไม่ได้

     

    ท่าทางหื่นกระหายที่เหมือนจะขย้ำเหยื่อของผมที่มากเป็นพิเศษนั้น เผลอทำให้อีกฝ่ายผงะถอยหลังหนีด้วยความตื่นกลัว และผมรับรู้ได้ในทันทีตอนนี้เองว่า

     

    ไม่ว่ายังไงในวันนี้... ร่างระหงเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเทาเฉดทองคนนี้ต้องตกเป็นเหยื่อของผม!

     

    และความคิดนี้ก็นับว่าเป็นความท้าทายที่ยั่วยวนใจมากที่สุดในรอบปี

     

    แม้ว่าโดยส่วนตัวแล้วเหยื่อทุกรายของผม...

     

    จะถูกทิ้งหลังจากใช้แค่ครั้งเดียวก็เถอะ!

     

    ผมแสยะรอยยิ้มร้ายกาจคล้ายจะยั่วยุอีกฝ่ายเพื่อลงมือเริ่มเล่นเกม

     

    “บังเอิญว่าเรื่องชั่วๆ ในหัวฉันมันมากเสียด้วย แล้วนายสนใจอยากลองทำดูสักอย่างสองอย่างมั้ยล่ะ?

     

    เริ่มต้นแค่ประโยคเดียวก็นับว่าได้ผลโดยชะงัด เมื่ออีกฝ่ายถูกยั่วยุไปตามเกมที่ผมคาดการณ์ไว้โดยทันที และไม่ผิดจากที่ผมเดา ว่านัยน์ตาสีน้ำตาลเทาเฉดทองที่ทอประกายกล้าอันแสนสวยนั้นเต็มไปด้วยความไม่ยอมแพ้

     

    “หึ มึงมันไอ้โรคจิตวิปริต! นี่มึงบ้าไปแล้วใช่ไหมที่ใช้ถามแบบนี้กับคนไม่รู้จัก!

     

    อีกฝ่ายตวาดใส่หน้าผมดังลั่นด้วยความโมโห

     

    หึ แต่เวลานี้ใครจะสน!

     

    “ฉันก็กำลังเริ่มทำความรู้จักในแบบของฉันอยู่ไง” ผมเอ่ยยั่วยุด้วยน้ำแหบทุ้มที่สะกดกลั้นความกระหายหื่นไว้มิดชิด

     

    เป็นอีกฝ่ายที่โต้ตอบด้วยน้ำเสียงลอดไร

     

    “คนที่อยากทำความรู้จักกันเขามีแต่ถามชื่อ ไม่ใช่แสดงการกระทำต่ำช้าอย่างนี้หรอกแม่-!

     

    ตอนนี้ในหัวผมไม่ได้สนใจสิ่งที่อีกฝ่ายพล่ามเลยสักนิด เพราะสายตาของผมมันเริ่มวกกลับไปกวาดมองแทะโลมรุกไล้ผิวเนื้อที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปียกบางจนแนบลู่นั่นอีกครั้ง

     

    และความรู้สึกกระหายปั่นป่วนรุนแรงของปีศาจร้ายในหัวก็ยั่วยุเป็นการใหญ่ จนทำให้ผมห้ามใจตัวเองไม่อยู่

     

    “หึ ฉันถือว่านายตอบรับคำชวนฉันแล้วนะ หลักฐานคือสายตาท้าทายของนายไง” ผมเอ่ยพร้อมกับก้าวเท้าคุกคามเข้าใกล้

     

    และไวเท่าความคิด ริมฝีปากร้อนจัดของผมก็บดเบียดขยี้รุกเร้าจาบจ้วงริมฝีปากบางเฉียบของอีกฝ่ายลงไป

     

    ลิ้นร้อนเบียดแทรกตวัดรัดเกี่ยวผลักดันให้อีกฝ่ายโอนอ่อนตาม ซึ่งเป็นงานถนัดที่ใช้พังทลายปราการอันหยิ่งยโส แต่ที่น่าตกใจกลับกลายเป็นคนรุกเร้าอย่างผมซะเองที่ร่ำร้องถึงความต้องการ

     

    ผมว่านะ ผมแม่-ต้องได้ผู้ชายคนนี้เดี๋ยวนี้!!!

     

    ผมเผลอส่งเสียงแทบทุ้มคำรามราวกับสัตว์ป่าเมื่อได้ลิ้มรสชาติความหวานอย่างที่ไม่เคยพบเจอ จนอดไม่ได้ที่จะเบียดลำตัวแกร่งกำยำแนบสัมผัสสนิทชิดเชื้อปลุกเร้าความซาบซ่านและดำเนินการขั้นต่อไปอย่างอดใจรอช้าไม่ได้อีก

     

    วินาทีนี้สัญชาตญาณอันดิบเถื่อนดุร้ายของผมแผดร้องดังลั่นว่า รีบขมขื่นแม่-ตอนนี้เลย!

     

    รอยยิ้มชั่วร้ายแสยะขึ้นอย่างที่อีกฝ่ายไม่มีโอกาสได้เห็น และผมเริ่มลงมือเล่นเกมอันโฉดชั่วในแบบฉบับของตัวเองด้วยการส่งยานอนหลับกล่อมประสาทให้อีกฝ่ายทันที!!

     

    และประโยคสุดท้ายที่อีกฝ่ายตอบโต้กลับมาก็คือ

     

    “แม่-! ไอ้สารเลว!

     

    บอกได้คำเดียวว่าน้ำเสียงลอดไรฟันอาฆาตและสายตาไม่ยอมแพ้นั่นโคตรเซ็กซี่อย่างถึงที่สุด

     

    และอีกฝ่ายได้ทำผิดพลาดอย่างมหันต์เข้าแล้ว...

     

    ที่ทำให้ผมเกิดถูกใจ!

     

     

     

    • ผักขม •

     

    ผมว่าเราวกกลับเข้ามายังเหตุการณ์ปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้นกันดีกว่า

     

    ผมขอโวยวายบ้างเถอะ ก็ในเมื่อแม่-ตอนนี้ร่างของผมถูกผมคร่อมทับอยู่ภายใต้ร่างแกร่งกำยำของไอ้คนวิปริตโรคจิต โดยที่ผมกำลังปัดป่ายผลักดันแผ่นอกกว้างให้ออกไปห่างๆ อย่างเอาเป็นเอาตาย

     

    ไอ้เวรนี่แม่-คิดจะปล้ำผม แล้วคิดว่าผมอย่างผมจะยอมทนอยู่เฉยๆ อย่างนั้นเหรอ?

     

    ผมดิ้นพล่านไม่หยุด กระทั่งอีกฝ่ายขยับยิ้มมุมปากพร้อมทิ้งน้ำหนักตัวกดทับผมอย่างจงใจมากขึ้นไปอีก ผมเลยตะโกนด่าทอมันด้วยความโมโหคลุ้มคลั่ง

     

    “แม่- ไอ้โรคจิต! ลุกไปสิวะ!!

     

    ผมตะโกนด่าทอไอ้ร่างยักษ์ด้านบนไม่หยุดปาก เมื่อรับรู้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ชักจะเลยเถิดเกินไปใหญ่

     

    โอ้ย ผมว่าไอ้เวรนี่มันต้องหูตึงหรือไม่ก็โรคจิตเต็มขั้นแน่ๆ อ่ะ!

     

    ผมแสดงตัวว่าไม่เต็มใจขนาดนี้ยังจะทำเฉยหน้าด้านไม่รับรู้อะไรอยู่ได้อีก

     

    ผมพยายามดิ้นรนออกจากร่างกักขฬะหนาๆ ที่คร่อมอยู่ พร้อมทั้งเสยหมัดใส่หน้าฝ่ายตรงข้ามเต็มแรงด้วยความเกรี้ยวกราด แต่เหมือนอีกฝ่ายรู้ทันถึงได้คว้าหมับและบีบแขนผมแน่นจนแขนแทบแตก

     

    และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกโมโหจนแทบบ้านั่นก็คือน้ำเสียงหัวเราะแหบทุ้มที่คุกกรุ่นด้วยอารมณ์รุนแรงเหมือนคนโรคจิตที่เล่นสนุกอยู่กับเหยื่อ

     

    “หึๆ ตอนแรกฉันให้โอกาสนายหนีไปไกลๆ แล้ว แต่นายไม่ทำเอง พอมาถึงตอนนี้คิดจะเปลี่ยนใจ ไม่คิดว่ามันง่ายไปหน่อยเหรอ” อีกฝ่ายว่า

     

    “อย่ามามั่วไอ้สั-! กูไม่เห็นว่ามึงพูดอะไรออกมาสักคำ! แล้วนี่มึงคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ ถึงได้ทำตัวใหญ่โตเหมือนพระเจ้าเที่ยวตัดสินความคิดแทนคนเค้าอื่นหา!!

     

    เวรเอ้ย! พอถึงเวลาเข้าจริงๆ ผมเริ่มรู้สึกไม่อยากเล่นเกมบ้าๆ นี้แล้ว  

     

    พอเห็นไอ้บ้านี่แสดงสีหน้าโรคจิตเต็มขั้นจนแทบจะกลืนกินผมไม่ให้เหลือ ผมก็อยากจะล้มเลิกความคิดท้าทายบ้าๆ พวกนั้นเสียตอนนี้เลย เพราะที่คิดไว้ในหัวผมตอนแรกมันแค่เกมการท้าทายเชือดเฉือนเอาชนะชิงไหวชิงพริบที่พยายามปั่นหัวให้อีกฝ่ายลุ่มหลง ซึ่งอย่างมากก็แค่จูบหรือการปลดเปลื้องภายนอก

     

    ไม่ได้เกินขอบเขตอันตรายอย่างที่ผมสัมผัสได้อย่างตอนนี้!

     

    “รู้มั้ยว่าฉันอยากจะจัดการนายเสียตั้งแต่ตรงผนังตึกด้านล่างนั่นแล้ว แต่ฉันเลือกที่จะทำให้ครั้งแรกระหว่างเรารู้สึกดี”

     

    ผมอ้าปากค้างเบิกตาโตกับคำพูดของไอ้เห้-นี่!

     

    “ไอ้สั-! มึงพูดมั่วอะไร!

     

    รู้สึกดีบ้านพ่อมึงนะสิ!

     

    พอได้ยินที่มันพูดยั่วด้วยน้ำเสียงทุ้มพร่าเท่านั้น ผมก็แทบจนแทบขาดสติ

     

    ริมฝีปากบางของผมกัดเม้มแน่นแล้วส่งเสียงคำรามพร้อมกับง้างหมัดอีกข้างที่ว่างอยู่ตวัดชกต่อยใส่หน้ามันรัวๆ แต่กำปั้มผมเหมือนจะเล็กไปเสียถนัดเมื่อถูกมันรวบไว้ในฝ่ามือหนา

     

    อีกฝ่ายรวบข้อมือทั้งสองข้างของผมไว้เหนือศีรษะไว้ด้วยมือเดียว มันดูง่ายดายจนน่าโมโห ยิ่งผมต่อต้านมากเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ออกแรงกดจนร่างผมอ่อนยวบลงกับที่นอนมากขึ้น

     

    เมื่อการตอบโต้เป็นไปอย่างทุลักทุเลและไม่ได้ผล ผมก็เริ่มหยุดดิ้นเพื่อรอจังหวะให้ไอ้เวรนี่ลดแรงและตายใจลงก่อน

     

    ------CUT------

     





                  *ลงใหม่ 23/10/2557 : 02:05น.

     

    ถึงคนอ่านที่รัก
             ปล.แจ้งคนอ่านที่รอครึ่งหลัง  พอดีคนแต่งแล้วลบแก้ใหม่ๆ แบบมันไม่ถูกใจเลยยังไม่เสร็จจ้า  ขออภัยมากๆ จ้า  
             100per. 22/9/57 ตี3.47น.
              หายไปหลายวันกว่าจะลง ต้องขออภัยด้วยนะจ้า พอดีช่วงนี้งานเยอะจัด การอัพเลยไม่เป็นไปตามตารางที่ตั้ง  
    ส่วนที่เหลือจะแจ้งอัพเดทบอก ยังไงอย่าลืมไปทักทาย แฟนเพจ นะจ้า             แม้คนแต่งจะไม่ค่อยได้ตอบก็เถอะ (ตุ่บตั่บๆ  เสียงโดนบาทากระทืบ T__T) 


           ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจและแอดแฟบเวอร์เรท รักคนอ่านที่ซู๊ดดด จุ๊บๆๆ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×