อ่าฮ่าเพิ่งผ่านวันพ่อไปได้ไม่นาน รู้สึกว่าบทความเกี่ยวกับพ่อของชาวเด็กดีคงจะมีเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ไม่ว่าจะเป็นทั้งพ่อหลวงแล้วก็พ่อของเราแต่ละคนซะด้วย ยังไงก็ช่างเถอะ คนอย่างไอ้เอไม่มีบทความดี ๆ แบบนั้นมาให้ชาวเด็กดีได้อ่านกันหรอกนะจะบอกให้เหอ ๆ เรื่องที่ผมจะบ่นให้ฟังกันในวันนี้ เป็นเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีใหม่ของเราต่างหากล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ขอเชิญชาวเด็กดีทุกคนรับฟังกันได้เลยนะตัวเองฮิ้ว ๆ ๆ ๆ ( ขอใส่เอฟเฟ็กซักนิดนึงเดี๋ยวมันจะไม่อลังการงานสร้างโฮ่ะ ๆ ๆ )
ผมเชื่อว่าพี่น้องชาวเด็กดีทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่ม คนสาว หรือว่าจะเป็นเหล่าไม้ใกล้ฝั่ง หรือไกลฝั่งก็ตาม ( อันนี้มีแอบด่าใครเปล่าวะมึง ) หลายคนคงจะตั้งหน้าตั้งตารอคอย เกมส์กีฬาที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดในโลก ( ส่วนใครจะชอบด้านไหนของเกมส์กีฬานี้ ผมขอไม่กล่าวถึงละกันนะขอรับ เอาเป็นว่าละไว้ในฐานที่เข้าใจละกัน ) นั่นก็คือศึกบอลโลกหรือ World Cup นั่นเอง ซึ่งช่วงนี้ในหลาย ๆ ประเทศ ก็ได้มีการเริ่มคัดเลือกทีมตามโซนทวีปต่าง ๆ กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะขอรับ อาจจะยังไม่หมดทุกประเทศซะทีเดียวแต่ก็เริ่มแล้วแหละน่าจริงมะ แต่เราไม่ต้องไปสนใจตอนคัดเลือกหรอกครับ เพราะความมันส์ของเกมส์นี้มันยังมาไม่ถึงจนกว่าจะเริ่มแบ่งสายเตะกันนั่นแหละผมว่านะ แต่ยังไงก็ตาม ในช่วงที่ได้มีการคัดเลือกทีมชาติไปบอลโลกในโซนเอเชียบ้านเรา ที่เพิ่งเริ่มเตะไปไม่นานมานี้ผมก็ได้คุยกับเพื่อนผม ที่มันเป็นคอบอลตัวยงซึ่งผมไม่ค่อยได้สนใจกีฬาพวกนี้ซักเท่าไหร่ไม่เหมือนกับไอ้นี่มัน ( แปลกมั้ยล่ะ ไอ้เราก็เป็นผู้ชายแท้ ๆ แต่ดันชอบดูมวยมากกว่าดูบอล แต่ช่างเหอะ ยังไงมันก็เป็นกีฬาลูกผู้ชายเหมือนกันนี่หว่า จะมากลุ้มทำไมวะเนี่ยกู แถมเดี๋ยวนี้ผู้หญิงเค้ามีเรียนมวยกันด้วยซ้ำไป ) มันก็มาเล่าให้ฟังถึงเรื่องนักฟุตบอลและทีมชาติไทยของพวกเรา ตอนแรกผมก็ฟังไปเรื่อย ๆ ไม่ได้สนใจอะไรนักหรอก จนกระทั่งมันได้พูดเรื่องของความประมาทในทีมชาติไทยของเราให้ผมฟัง คราวนี้ผมก็ตาสว่างทันทีเลยเพราะที่ไอ้เพื่อนผมคนนี้มันพูดมาก็จริงอย่างที่แม่งว่าจริง ๆ คือเรื่องมันมีอยู่ว่า...
วันนั้นเพื่อนผมมันนั่งดูข่าวกีฬาผ่านทางทีวีช่องหนึ่ง ซึ่งนักข่าวกำลังสัมภาษณ์โค้ชคนหนึ่งของทีมชาติไทย ชื่ออะไรช่างแม่งเหอะกูขอไม่เอ่ยนามละกันเดี๋ยวจะโดนแฟนบอลแม่งไล่ฆ่าเอา ขณะนั้นทีมชาติไทยซึ่งเป็นเจ้าบ้านซะด้วย กำลังจะเจอกับคู่เตะในรอบคัดเลือกโซนเอเชียประเทศหนึ่งซึ่งเป็นทีมเยือน ขอไม่เอ่ยนามอีกแหละเพราะแค่นี้ผมก็เชื่อแล้วว่าหลายคนคงจะนึกกันออกว่าเป็นทีมไหนถ้าเป็นคอบอลจริง ๆ ในบทสัมภาษณ์นั้นนักข่าวผู้หนึ่งถามว่า
" คุณคิดว่านักฟุตบอลทีมชาติไทยของเราจะสู้นักเตะจากประเทศ...ได้มากน้อยแค่ไหน ? " อะไรประมาณนี้ ทางไอ้โค้ชของไทยผู้นี้ก็ตอบกลับมาประมาณว่าม่างมั่นใจเต็มที่และไม่กลัวโดนเด้งกันเลยทีเดียวว่า
" ไม่ต้องเป็นห่วงครับผมมั่นใจครับว่าทีมชาติของเราชนะแน่นอนชนะแน่ ๆ " คำตอบนี้ออกมาจากปากของ โค้ช !! คนนี้โดยไม่ลังเลกันเลยทีเดียวขอย้ำกันชัด ๆ อีกครั้งนะครับว่าเป็น โค้ช !! หรือตำแหน่งอะไรก็ตามแต่ที่ไม่ใช่นักเตะอย่างแน่นอน ซึ่งแม่งมั่นใจในฝีมือของลูกทีมของแม่งมากจริง ๆ จนถึงกับบอกว่า " ชนะแน่ ๆ " กันเลยทีเดียว
มาถึงตรงนี้ผมก็เริ่มจะเห็นด้วยกับเพื่อนผมคนนี้ไปเลยทีเดียว แต่เพื่อนผมคนนี้มันยังไม่จบเรื่องง่าย ๆ ครับ ทั้ง ๆ ที่เป็นทีมชาติของคนไทยด้วยกันแท้ ๆ มันบอกผมมาว่าอย่างนี้ครับพี่น้อง
" พอกูได้ยินประโยคนี้จากแม่งอ่ะนะ กูแช่งให้แม่งแพ้ไปเลยมึงมั่นใจมากนักใช่มั้ย หึ หึ ถ้ามึงมั่นใจขนาดนี้มึงลองชนะให้กูดูหน่อยเหอะ มึงเป็นใคร ? นักเตะก็ไม่ใช่ แต่เสือกมาบอกว่าชนะแน่ ๆ ทั้ง ๆ ที่นักเตะด้วยกันเองมันยังไม่มั่นใจเท่ามึงเลยนะสาด " พอผมได้ยินคำนี้จากปากมันผมก็เห็นด้วยอย่างที่แม่งว่านั่นแหละ แต่มันยังไม่จบเท่านั้นครับพี่น้องมันยังพูดให้ผมฟังต่อไปอีกว่าอย่างนี้นะเออ...
" มึงคิดดูนะเว้ย... " มันบอกผม " ขนาดแมนยู ฯ เวลาเค้าเจอกับทีมที่อ่อน ๆ โค้ชของม่างยังออกมาแถลงการณ์แค่ว่า " เราจะพยายามเล่นอย่างสุดความสามารถของทีมเราเท่าที่นักเตะของเราจะรับไหว " เลยมึง...แล้วมึงดูทีมชาติเราดินักเตะแม่งก็ไม่ค่อยจะมีความสามารถเท่ากับต่างชาติ แต่ไอ้เหี้ยที่ไหนก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่นักเตะ มายืนลอยหน้าลอยตาพูดอย่างมั่นใจว่าชนะแน่ ๆ ชนะแน่นอน กูเลยแช่งให้แม่งแพ้ซะเลยไอ้เชี่ยเอ้ย " นี่แหละครับคำพูดจากปากของไอ้เพื่อนผมคนนี้ทั้งหมดอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามสถานะภาพทางเคมี แต่ก็ยังคงทุกคำพูดของมันเอาไว้ทั้งสิ้นนะเออ~ สุดท้ายทีมไทยเราก็แพ้จริง ๆ ดังคำแช่งของมันก็ได้แดกไข่ต้มกันไปสองลูกหรือไงเนี่ยแหละเพราะผมไม่ได้ดูถ่ายทอดสด ผมก็ลองเก็บเอามาคิด ๆ ดูว่าที่มันพูดมาก็จริงของมันนั่นแหละครับ ที่ว่ามึงเป็นนักเตะเองก็ไม่ใช่แต่เสือกมายืนพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่าชนะแน่ ๆ ทั้ง ๆ ที่ทีมชาติของเรานักเตะก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรเล้ย ขนาดแข่งกระชับมิตรกันธรรมดา ๆ กับต่างชาติม่างยังไม่เคยจะชนะเลย แล้วจะเอาหลักประกันห่าอะไรมายืนยันฟะว่าทีมม่างชนะแน่ ๆ ไอ้ตัวผมเองนี่ก็ยังไม่เคยเห็นทีมไทยเราจะชนะทีมไหนเลยจริง ๆ นั่นแหละ อย่างดีก็มีแค่เสมอแถมที่เสมอ ๆ นี่เผลอ ๆ คู่แข่งแม่งแอบออมแรงเตะเล่นขำ ๆ ด้วยมั้งเนี่ยดูท่าทาง
แต่ก็อย่างที่ผมคอยบอกอยู่ทุกครั้งที่เขียนเรื่องเสียดสีวงการเหล่านี้อีกแหละครับว่า มันเป็นแค่ความเห็นฝั่งเดียวของคนธรรมดาคนหนึ่งใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยนั่นมันก็อยู่ที่ความคิดวิจารณญาณของแต่ละคนอ่ะแหละนะ ก็แค่อยากจะเตือนเหล่าโค้ชทีมชาติไทยเราแหละนะครับ ไม่ว่าจะเจอกับคู่แข่งไหนก็ตาม ถ้าพวกคุณยังทำตัวงี่เง่าออกมาโอ้อวดสรรพคุณของทีมชาติไทยด้วยความประมาทว่าชนะแน่นอนทีมนั้นทีมนี้หรือทีมไหน ๆ ก็ตาม ผลที่ตามมาก็จะเป็นอย่างนี้แหละครับ จริงอยู่ล่ะนะที่เราเป็นคนไทยต้องเชียร์ทีมชาติไทย ไม่ว่าเราจะชอบทีมไหนของต่างชาติก็ตามต้องไม่ลืมรากเหง้าของตัวเองว่าเป็นคนไทย แต่ถึงกระนั้นก็เหอะถ้าผู้ดูแลทีมชาติของเรายังทำตัวตั้งมั่นอยู่ในความประมาทอย่างนี้ ผมกับเพื่อนผมคนนี้ที่อายุ 20 ต้น ๆ ในตอนนี้คงจะได้เห็นบอลไทยได้ไปบอลโลกก็ตอนอายุ 80-90 โน่นแหละมั้งครับ เผลอ ๆ อาจจะไม่ได้เห็นเลยก็ได้ใครจะไปรู้ถ้าโค้ชม่างยังเป็นแบบนี้อ่ะ อีกอย่างต่อให้บอลไทยได้ไปบอลโลกจริง ๆ ในอนาคต ก็อาจจะเป็นไปได้มั้ยล่ะ ? ที่ต่างชาติเค้าอาจจะมีการเตะบอลอวกาศหรือ Galaxy Cup กันไปแล้วก็ได้ ขณะที่ทีมไทยได้มาในบอลโลกเป็นครั้งแรก มันก็เป็นเรื่องที่น่าคิดในอนาคตเหมือนกันนะว่ามั้ยล่ะพี่น้อง เพราะแค่นี้องค์การ NASA ของอเมริกาก็แทบจะยึดอวกาศรอบ ๆ โลกของเราไปตั้งเยอะแล้วอ่ะถูกมั้ยล่ะ ?
อ้อ!! อีกอย่างนึงผมอยากรู้ว่า ทุกคนยังจำเพลงของพี่แอ๊ดคาราบาวที่แต่งเพลงเกี่ยวกับบอลไทยไปบอลโลกในโฆษณาเบียร์ช้างได้มั้ยครับ ? หวังว่าคงจำได้อ่ะนะทีนี้ผมอยากรู้ว่าเพลงที่ผมกำลังพูดถึงเนี่ยมันเหมาะกับบอลไทยบ้านเรามั้ยอ่ะ ถ้าหากว่ายังมีโค้ชของทีมตั้งมั่นอยู่ในความประมาทขนาดนี้เนี่ย ครั้งแรกที่ผมได้ยินเพลงนี้ในโฆษณาเบียร์ช้างอ่ะนะ แหม~ มันดูน่าภูมิใจยังไงก็ไม่รู้เนอะ แต่พอมาเจอเรื่องที่เพื่อนผมมันเล่าให้ฟังตอนนี้ เพลงนี้แม่งทำให้บอลไทยดูหมดหวังไปเลยอ่ะว่าป่ะ ? ก็พูดให้ฟังเพื่อเตือนความจำเล็ก ๆ น้อย ๆ อ่ะนะครับฟังกันไปเพลิน ๆ ละกันนะตัวเธอเอ้า 1 2 3... " บอลไทยจะไปบอลโลกเอาธงไทยไปโบกให้เต็มสนาม~ น้ำอดน้ำทนให้สมศักดิ์ศรีชาวสยาม~ ให้ชาวโลกเกรงขามให้ชาวไทยไชโย " แล้วก็ปิดท้ายด้วย " กินแล้วภาคภูมิจายยย~ เบียร์คนไทยทามเอง~ " จำกันได้แล้วล่ะสิใช่มะล่าฮิ้ว ๆ ๆ ฮ่า ๆ ๆ
ก็จบลงไปเพียงเท่านี้แหละครับ กับเรื่องราวเกี่ยวกับในวงการกีฬาบ้านเราหลังจากที่ผมพาทุกท่านไปทัวร์วงการอื่น ๆ ของในประเทศและต่างประเทศกันมาพอสมควรแล้ว หวังว่าทุกคนคงจะเฮฮาหรืออาจจะเคร่งเครียดกันไปกับแต่ละเรื่องที่ผมเอามาพูดให้ฟัง ก็ขอบคุณแล้วก็ขอโทษด้วยถ้าผมทำให้คนบางกลุ่มไม่พอใจในแต่ละเรื่องนี้ที่นำมาเสนอนะแจ๊ะอ่ะกิ้วกร๊าว
เลิฟยอลลลลลลลลลลจ้า
ความคิดเห็น