คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : _ C H A P T E R 1 6 : ค ว า ม เ ม า เ ป็ น เ ห ตุ (100%)
เช้าวันรุ่งขึ้นฮยอกแจที่ตื่นขึ้นมาก่อนก็ต้องรู้สึกเขินขึ้นมาทันที เมื่อตื่นมาพบว่ามือของเจ้าเพื่อนตัวโตมันย้ายมาอยู่ที่ก้นเขาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ จึงเงยหน้าขึ้นไปกะจะต่อว่าเจ้าเพื่อนตัวโตสักหน่อย แต่เจ้าเพื่อนตัวโตดันตื่นขึ้นมาพอดี เห็นเจ้าเพื่อนตัวเล็กกำลังมองอยู่ก็ตกใจเผลอบีบก้นนิ่มเข้าไปอีกหนึ่งที ตอนนี้ก็เลยได้เขินม้วนกันไปทั้งคู่...
หลังจากที่ฮยอกแจได้ต่อว่าฮันคยองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็พากันมาที่เต๊นท์ของคิบอมที่ตั้งอยู่ข้างๆ พอเข้ามาในเต๊นท์กะจะปลุกชวนเพื่อนอีกสองคนให้ออกไปล้างหน้าแปรงฟันด้วยกันสักหน่อยแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรฮยอกแจก็ต้องร้องออกมาก่อนให้กับภาพที่ได้เห็น
“อ๊าก กกกกกกกก ไอ้บอมบูด ไอ้บอมบ้า มากอดทงเฮทำไม ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ นิสัยไม่ดีๆๆๆ !”ว่าแล้วก็เข้าไปทุบตีคิบอมที่กำลังนอนกอดร่างเล็กอย่างสบายใจ เสียงดังๆบวกกับกำปั้นหนักๆทำให้คิบอมต้องยอมลุกตื่นขึ้นมา
“อื้มมม...อะไรวะ= =” คิบอมลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจก่อนสามครั้ง ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงงัวเงียแบบคนพึ่งตื่นนอน ไม่รู้ว่าไปทำอะไรผิดไอ้เพื่อนตัวขาวมันถึงได้มาโวยวายใส่แต่เช้าแบบนี้
“กอดทงเฮของฉันทำไมTT” ว่าแล้วก็ทุบกำปั้นหนักๆใส่คิบอมไปอีก1ที
“ไม่ได้กอด= =” คิบอมตอบกลับไปตามความเป็นจริง เพราะเท่าที่จำได้เมื่อคืนก่อนจะนอนเขาไม่ได้กอดทงเฮสักหน่อย แต่สิ่งที่ทำคือมากกว่ากอดต่างหาก..
“กอด!” คนตัวขาวยืนยันเสียงแข็ง ก็เห็นอยู่ตำตาว่านอนกอดกันกลมแล้วยังจะมาปฏิเสธกันหน้าด้านๆอีก
ฮันคยองที่ยืนมองอยู่นานแล้วก็อดที่จะยิ้มออกไม่ได้ มองๆไปภาพที่เห็นอย่างกับพี่สาวหวงน้องสาวไม่มีผิด
ในใจนึกสงสารคิบอมเล็กน้อยที่ต้องมาถูกเจ้าเพื่อนตัวเล็กโวยวายใส่ทั้งๆที่ยังไม่รู้ตัวว่าทำอะไรผิดแบบนี้ ความจริงแล้วแค่กอดแค่นี้ไม่เห็นต้องโวยวาย เพราะที่จำได้เมื่อคืนเขากับฮยอกแจก็กอดกันกลมเหมือนกัน..
“อืม ม...”ร่างเล็กลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆเพราะว่าเสียงเอะอะโวยวายของฮยอกแจ ทงเฮในสภาพพึ่งตื่นนอนดูงัวเงียน่ารักอย่างกับเด็กๆ ช่างน่าเอ็นดูจริงๆ
“ทงเฮก็ด้วย ไปยอมให้มันกอดทำไม เอ๊ะ...แล้วปาก??”ฮยอกแจพูดแล้วมองไปที่ปากของทงเฮ กลีบปากที่เคยบางสวยตอนนี้กลับแดงเจ่อขึ้นมาขึ้นมาผิดปกติ
“เอ๋?...” ได้ยินฮยอกแจพูดแล้วก็ยกมือขึ้นมาจับปากของตัวเองทันที พลันนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนก็ต้องหนาแดงออกมาด้วยความเขินอีกรอบ
“หรือว่า...”
“ป่าวนะฮะ..คิบอมไม่ได้ทำอะไรผมนะฮะ” ร่างเล็กรีบปฏิเสธออกมาก่อนทั้งๆที่ฮยอกแจยังไม่ได้ถามอะไร นั่นทำให้ฮยอกแจสงสัยมากขึ้นไปอีก
“มันทำอะไรนายทงเฮ” ฮยอกแจถามเสียงแข็ง
“ป..ป่าวฮะ” มันน่าอายเกินกว่าที่จะบอกใครได้ ร่างเล็กเลยตัดสินใจที่จะไม่บอกดีกว่า
“ไอ้บอม..แกทำอะไรทงเฮ”เมื่อหาคำตอบจากร่างเล็กไม่ได้จึงหันมาถามคิบอมแทนเพราะรู้ว่าคิบอมต้องตอบคำถามแน่ๆ ในใจก็ภาวนาให้คำตอบที่ออกมาอย่าเป็นอย่างที่เค้าคิดเลย
“เฮ้อ อ...ก็จูบอ่ะ= =” ร่างสูงเกาหัวของตัวเองแล้วตอบ น้ำเสียงที่ตอบฟังดูนิ่งๆราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นมนัเป็นเรื่องธรรมดาปกติ
“ว่าไงนะ!!”
“ฉันจูบทงเฮ= =”
“แอ๊ยยยยยย ย ฉันเกลียดแกไอ้บอมTT”ฮยอกแจกรี๊ด(?)ใส่หูคิบอมไปหนึ่งครั้งก่อนจะลุกขึ้นแล้วทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันมาพูดอะไรบางอย่างกับทงเฮ
“ทงเฮ ฉันงอนนายอยู่นะTT”หันไปทำหน้าตาเง้างอนใส่ทงเฮเสร็จแล้วก็เดินออกไป
ตอนนี้จึงเหลือแต่เพียงฮันคยอง ทงเฮ และคิบอมเท่านั้น ร่างเล็กยังคงนอนหน้าแดงอยู่ที่คิบอมพูดออกไปแบบนั้น กับฮยอกแจแล้วยังมีฮันคยองอีกคนด้วยที่ได้ยิน แถมยังพูดได้หน้าตาเฉยอีกต่างหาก
คนบ้า! >< จูบเค้าแล้วยังเอาไปบอกคนอื่นหน้าตาเฉยอีกนะ
“เห้ยบอม ที่แกได้มาอ่ะ First kiss ปะวะ?” ฮันคยองถามแล้ยิ้มกรุ้มกริ่ม คิบอมเองก็ไม่ได้พูดอะไรแต่กลับยักคิ้วให้ฮันคยองสองสามครั้งแทนคำตอบ นั่นทำให้ร่างเล็กเขินมากกว่าเดิมอีก
“เจ๋งว่ะ 55”
“ฮันคยองอ่า~..คิบอมก็ด้วย อย่าพูดเรื่องนี้สิฮะ”
“ก็แค่พูดเรื่องจริง นายจะปากแข็งไปถึงไหน- -“
“ก็...” ยังไม่ทันได้พูดคิบอมก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“เออลืมไป..ปากนายไม่ได้แข็งสักหน่อย”พูดแล้วก็ทำสายตากรุ้มกริ่มมองไปที่ริมฝีปากของร่างเล็ก
คำพูดที่ตรงไปตรงมาของคิบอมทำเอาฮันคยองถึงกับอึ้ง เขากับคิบอมก็รู้จักกันมานาน ก็พอจะรู้ว่าคิบอมเป็นคนที่พูดตรงๆ แต่บางทีเรื่องแบบนี้พูดแบบเลี่ยงๆหน่อยก็ดี เพราะตอนนี้ร่างเล็กที่กำลังลังถูกคิบอมลวนลามทางคำพูดและสายตาคงจะอายจนแทบมุดดินหนีได้อยู่แล้ว
(ต่อ)
หลังจากที่ทุกคนจัดการทำธุระส่วนตัวและกินข้าวเช้ากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็แยกกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัยจนถึงเวลาบ่ายก่อนจะเริ่มกิจกรรมเหมือนกับเมื่อวาน
วันนี้พวกของคิบอมไม่ได้ไปเล่นกันที่น้ำตกเหมือนเมื่อวาน เพราะว่าถ้าเสื้อผ้าเปียกตอนนี้ก็จะไม่มีชุดให้เปลี่ยนแล้ว ทั้ง4คนจึงได้ไปหามุมสงบแล้วนั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย โดยคนที่ชวนคุยส่วนมากก็จะเป็นฮันคยองกับฮยอกแจ ส่วนทงเฮกับคิบอมจะเป็นฝ่ายที่รับฟังซะมากกว่า ซึ่งตอนนี้ฮยอกแจก็คุยกับทงเฮตามปกติ เนื่องจากโกรธคนน่ารักอย่างทงเฮไม่ลงจริงๆ แต่สำหรับคิบอมแล้วฮยอกแจก็ยังคงโกรธเคืองอยู่ จึงยังไม่ยอมที่จะคุยด้วย..
เวลาล่วงเลยมาถึงตอนบ่าย เนื่องจากเมื่อวานกลุ่มของทงเฮได้ทำกิจกรรมภาคปฏิบัติไปแล้ว วันนี้ทั้งวันจึงต้องมานั่งวิทยากรของทางอุทยานบรรยายเรื่องต่างๆให้ฟัง กิจกรรมในวันนี้จึงดำเนินไปด้วยความค่อนข้างน่าเบื่อ...
”นี่ไอ้เซ่อ.. เอาโทรศัพท์นายมาดิ”
“หะ?”
“บอกว่าให้เอาโทรศัพท์มือถือนายมา= =!” เมื่อต้องพูดซ้ำอีกรอบคิบอมจึงพูดเสียงดังใส่ทงเฮ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนตัวเล็กถึงชอบให้พูดซ้ำนักหนา
“ฮะๆ” เมื่อโดนคิบอมดุเข้าหน่อยก็รีบล้วงโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้คิบอมทันที
คิบอมจิ๊ปากอย่างขัดใจเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าลงไปกดมือถือของตัวเองของทงเฮสลับกันไปมาก่อนจะกดขยุกขยิกที่โทรศัพท์ของทงเฮ ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือคืนให้เจ้าตัว...
“อะ..”
“อะไรหรอฮะ?”ทงเฮถามพร้อมมองคิบอมด้วยแววตาสงสัย
“ก็กดดูเอาเองสิ- -“ ดวงตาคู่หวานกระพิบตาปริบๆใส่คิบอม ก่อนจะกดดูตามที่คิบอมบอก..
บนหน้าจอมือถือปรากฎรูปที่เค้าและคิบอมถ่ายด้วยกันที่ร้านอาหารตอนไปดูหนัง รูปที่คิบอมมาหอมแก้มเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ พอได้คิดถึงเรื่องนั้นแล้วก็ยังรู้สึกเขินไม่หาย..
“ยังไม่ลบหรอฮะคิบอม?”
“อือ ..ห้ามเปลี่ยนหน้าจอด้วย ถ้ารู้ว่าเปลี่ยนนายตาย”
“อ่า..” ทงเฮตอบรับเบาๆก่อนจะกดดูรูปอีกครั้งแล้วคลี่ยิ้มออกมา
ใช้หน้าจอมือถือเป็นรูปคู่แบบนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นแฟนกันยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็คงจะไม่ใช่หรอก เพราะเข้ากับคิบอมไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แค่ความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายเป็นอย่างไรก็ยังไม่แน่ใจ จะเรียกว่าแฟนได้ยังไง...
.
.
.
.
.
หลังจากที่กิจกรรมทั้งหมดเสร็จสิ้นลงและกลับมาจากค่ายมาถึงที่โรงเรียนเรียบร้อยแล้ว ฮันคยองกับฮยอกแจก็มายืนรอรถเมล์เพื่อที่จะกลับบ้านเหมือนทุกๆวัน ความจริงแล้วฮยอกแจจะให้คนที่บ้านเอารถยนต์ส่วนตัวมารับก็ได้มารับก็ได้ เพราะที่บ้านของเขาฐานะก็ไม่ได้ดีน้อยไปกว่าคิบอมเลย แต่มันเป็นความต้องการของฮยอกแจที่อยากลองใช้ชีวิตเองดูบ้าง และที่สำคัญการที่เขากลับรถเมล์เขาก็ไม่ได้กลับเองเพียงคนเดียวสักหน่อย ...มีเพื่อนอย่างฮันคยองนั่งไปด้วยทั้งคน
พอมาถึงบ้านร่างสูงก็ตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง โยนกระเป๋าทิ้งไว้ที่พื้นก่อนจะล้มตัวเอนนอนลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า กว่าจะถึงบ้านเวลาก็ปาเข้าไปเกือบจะสามทุ่ม เพราะกว่าจะรอรถเมล์ และกว่ารถเมล์จะมาถึงบ้านก็เสียเวลาไปมากพอสมควร
ก๊อกๆๆ...
“เข้ามาเลยครับป้ามีอา”เสียงทุ้มกล่าวอนุญาติป้ามีอา คนๆเดียวที่อาศัยอยู่กับเขาณ บ้านหลังนี้
“คุณหนูกลับมาเหนื่อยๆทานอะไรมารึยังคะ? ให้ป้าเอาขึ้นมาให้มั้ย?” หญิงสาวมีอายุถามฮันคยองเพราะรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า
“ไม่เป็นไรฮะป้า ผมเหนื่อย..อยากนอนมากกว่า”
“ออ..งั้นป้าไม่รบกวนคุณหนูแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ”
“ป้ามีอา~..ผมบอกป้ากี่ทีแล้วฮะว่าอย่าเรียกผมว่าคุณหนู ผมโตแล้วนะ” ฮันคยองกล่าวแล้วเงยหน้ามองป้ามีอา พร้อมเบ้ปากออกมาน้อยๆเหมือนเด็กๆ
“ป้าเลี้ยงคุณหนูมาตั้งแต่คุณหนูยังเล็ก สำหรับป้ายังไงคุณหนูก็ยังไม่โตหรอกค่ะ^^”
“ป้าอ่ะ~”
“คิกๆ ^^ ผักผ่อนนะคะ” ป้ามีอากล่าวยิ้มๆก่อนจะเดินออกจากห้องไป
หลังจากที่ป้ามีอาออกไปแล้วฮันคยองก็ค่อยๆหลับตาลง...
ตั้งแต่เขาเกิดมาคนที่เขาจำชื่อได้คนแรกก็คงจะเป็นป้ามีอาเนี่ยแหละ อาจเป็นเพราะว่าป้ามีอาเป็นคนที่เลี้ยงดูเขาตั้งแต่เด็กๆ และสนิทกับเขามากกว่าคนที่เป็นพ่อและแม่แท้ๆ เพราะว่าพ่อและแม่ของเขาต้องทำงานบินไปประเทศนู้นประเทศนี้ตลอดเวลา จนบางครั้งมันทำให้เขารู้สึกว่าพ่อและแม่ไม่มีเวลาให้ ยิ่งเวลาผ่านไปนานเข้าเขาก็รู้สึกว่าได้เจอพ่อกับแม่น้อยลง เดือนละครั้ง สามเดือนครั้ง หรือแค่ปีละไม่กี่ครั้ง เจอกันแต่ละครั้งพ่อก็จะพูดแต่เรื่องเกี่ยวกับธุรกิจของครอบครัว พ่อคอยบอกอยู่เสมอว่าเขาจะต้องเป็นคนที่รับช่วงต่อจากพ่อ ซึ่งเรื่องพวกนี้เขาก็ทราบดีอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันเร็วไปที่จะมาพูดเรื่องนี้กับเขา..พอจบม.ต้นจากที่ประเทศจีนเขาจึงตัดสินใจมาต่อม.ปลายที่เกาหลี เพื่อมาลองหาสิ่งใหม่ๆทำดูบ้าง ซึ่งก็มีป้ามีอาซึ่งคอยตามมาดูแลด้วย...
Rr rrrrrrr~..
ในขณะที่ฮันคยองกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนกำลังจะเคลิ้มหลับไปอยู่แล้ว แต่เจ้าโทรศัพท์มันก็ดันสั่นขึ้นมาซะก่อน
“ยอโบเซโย..”
[ฮัลโหลๆ..คุณรู้จักกับเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ใช่มั้ย] เสียงปลายสายตอบกลับมาเคล้ากับเสียงดนตรีที่เปิดดังกระหึ่ม
“หืม?..” ฮันคยองเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู แล้วมองชื่อmiss call ที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอ
‘ฮยอกแจ’
“ร..รู้จักๆ ทำไม มีอะไรหรอ เกิดอะไรขึ้น แล้วคุณเป็นใครแล้ว...” คำถามมากมายหลุดออกมาจากปากของร่างสูงจนปลายสายแทบฟังไม่ทันเลยต้องพูดขัดขึ้นมาก่อน
[เดี๋ยวๆคุณใจเย็นๆ ค่อยๆฟังผมนะ..ผมชื่อชานซอง ตอนนี้ผมอยู่ที่ผับแล้วผมเห็นคุณคนที่เป็นเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้เนี้ยะ เค้าเมามากแล้วกำลังถูกจับไปปล้ำ แล้ว..]
“ห้ะ!!! ปล้ำ!”
[ครับๆ อย่าพึ่งโวยวายสิครับ= = ไอ้คนที่จะปล้ำเนี่ยมันน้องผมเอง แต่ผมดันไปเห็นซะก่อน ตอนนี้คุณรีบมารับเพื่อนคุณได้มั้ย เมาหนักขาดนี้ขืนปล่อยทิ้งไว้ได้ถูกจับปล้ำจริงๆแน่- -]
“เออ ครับๆ..แล้วตอนนี้เพื่อนผมอยู่ที่ไหน?”
[ผับ Blue sky]
“อ่า....ไม่เกิน20นาทีเดี๋ยวผมไปถึง ฝากเพื่อนผมก่อนนะ”
[ครับๆ รีบมาล่ะ] ทันทีที่กดวางสายฮันคยองก็รีบเด้งตัวลุกออกจากโซฟาทันที ความง่วงหรืออ่อนเพลียเมื่อสักครู่หายไปเป็นปลิดทิ้ง กลับกลายเป็นความรู้สึกเป็นห่วงเจ้าเพื่อนตัวเล็กเข้ามาแทน...
“อ้าวคุณหนู ..จะรีบออกไปไหนคะน่ะ?” ป้ามีอาเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าฮันคยองรีบวิ่งลงมาด้านล่างด้วยท่าทางรีบร้อน ทั้งที่เมื่อครู่ยังบ่นว่าเพลียอยากจะนอนอยู่เลย
“ไปข้างนอกแป๊บนึงครับป้า เดี๋ยวรีบกลับ” บอกแล้วฮันคยองก็รีบวิ่งออกไปหน้าบ้านทันทีโดยไม่ลืมคว้ากุญแจรถที่นานๆจะได้ใช้ออกไปด้วย
ขายาวๆรีบก้าวไปเปิดรั้วบ้านก่อนจะวิ่งกลับมาแล้วรีบขับรถออกไปจากบ้านทันที รถคันสีดำแล่นอออกไปตามท้องถนนอย่างรีบร้อน ซึ่งตอนนี้ภายในใจของคนขับอย่างฮันคยองก็คงจะร้อนไม่แพ้กัน
อยากจะรู้นักว่าเรื่องอะไรที่ทำให้เจ้าเพื่อนตัวเล็กกลุ้มถึงขนาดต้องออกไปกินเหล้าจนเมาซะขนาดนั้น เพราะความจริงแล้วเจ้าเพื่อนตัวเล็กเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบดื่มสักเท่าไหร่ ถ้าเกิดไม่มีเรื่องที่ทำให้เครียดหรือกลุ้มใจจริงๆ เจ้าเพื่อนตัวเล็กคงไม่แตะต้องของมึนเมาพรรค์นั้นเป็นแน่...
รถคันสีดำขับอย่างรีบร้อนจนมาถึงผับที่นัดกับชานซองเอาไว้ก่อนเวลาที่นัดหมายซะอีก ฮันคยองเลี้ยวรถเข้ามาจอดอย่างลวกๆเสร็จแล้วจึงวิ่งเข้าไปด้านในของตัวผับทันที
เสียงเพลงดังกระหึ่มบวกกับเสียงพูดคุยของผู้คนมากมายยังคงดังอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในโสตประสาทการรับรู้ของฮันคยองแม้แต่น้อย เพราะจิตใจของฮันคยองตอนนี้คิดอยู่เพียงเรื่องเดียวคือเขาเป็นห่วงเจ้าเพื่อนตัวเล็ก และในขณะนั้น เสียงดังโหวกหวกโวยวายผิดปกติจากมุมๆหนึ่งก็ทำให้ฮันคยองต้องหันไปมอง...
“เห้ย นายตัวเล็กอย่า!!”
ซ่า าาา!~
“อา...เฟลช><!!” คนตัวเล็กผิวขาวดูคุ้นตานำเหยือกน้ำซึ่งภายในบรรจุเหล้าไว้เต็มเหยือกเทใส่ตัวเองไล่ตั้งแต่ศีระษะผ่านเส้นผมไหลมาจนถึงกางเกงสามส่วนตัวเก่งฮันคยองจำมันได้ดีว่ามันเป็นชุดที่ฮยอกแจสวมใส่ในวันนี้..
“เชี่ยเอ้ย = = ชานซองเมื่อไหร่เพื่อนนายตัวเล็กนี่จะมารับวะ เอาใหญ่แล้วนะเนี่ย” พูดแล้วก็มองไปยังร่างเล็กที่ตอนนี้กำลังนั่งยิ้มราวกับคนสติหลุดลอย และยังคงดื่มเหล้าไม่หยุด
“นั่นดิฮยอง ไม่งั้นผมจับปล้ำจริงด้วย เอาให้สร่างเลย หึ...” ไม่พูดเปล่ากลับเลียริมฝีปากของตัวเองแล้วส่งสายตาจ้องมองไปที่คนตัวเล็กอย่างหื่นกระหาย
“อย่านะไอ้จง ไม่ง้นฉันบอกพ่อแน่ว่าแกแอบหนีมาเที่ยวกับฉัน”
“โหย...ล้อเล่นนิดเดียวเองฮยอง- -“
“ฮยอก!!!” ร่างสูงพูดแล้ววิ่งเข้ามาหาเพื่อนของตัวเองทันทีมือหนารีบหยิบแก้วเหล้าออกจากมือของคนตัวเล็กแล้วนำไปวางที่โต๊ะก่อนที่คนตัวเล็กจะดื่มมันเข้าไปอีก
“นี่ไงเพื่อนนายตัวเล็กมาล่ะ โหย..เพื่อนหล่อซะด้วยว่ะ- -“
“เอ่อ ขอบคุณนะครับที่ดูเพื่อนผมให้ ไม่รบกวนแล้วครับ” ฮันคยองกล่าวพร้อมก้มหัวเป็นการขอบคุณ สายตาก็พลันไปเห็นใครคนหนึ่งคับคล้ายคับคลาว่าจะเป็นคนที่อยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะใส่ใจอะไร รีบแบกเจ้าเพื่อนตัวเล็กขึ้นบ่าแล้วพาเดินออกไปทันที เพราะถ้าสภาพนี้ให้เดินไปเองคงไปไหนได้ไม่ไกลแน่ๆ
“เห้ยย แกเปนครายว่ะ!! จะพาช้านไปไหน เอิ๊กก~..ปล่อยนะเว๊ยย” คนตัวเล็กโวยวายพร้อมใช้กำปั้นเล็กๆทุบเข้าที่กลางหลังของฮันคยอง
“โถ่เว้ย ฉันก็ไอ้เกิงเพื่อนแกไง อยู่นิ่งๆหน่อยได้มั้ยวะเนี่ย= =*”
“อ๋อออ อ้ายเกิง....แล้วอ้านเกิงนี่มันเปนครายวะ? ห้า ห้า ห้า~”
“เมาหนักขนาดนี้กลับบ้านไม่ได้แน่เลย...ไปบ้านฉันก่อนแล้วกัน...”
“ป่ะ! ไปไหนก็ไปกันวุ้ยย=3=” ร่างเล็กพึมพำออกมาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ก่อนจะค่อยๆหมดสติลงไปเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ร่างกายที่บอบบางหลับคาไหล่กว้างของร่างสูง สร้างความสบายใจให้ร่างสูงไปได้อีกเปราะหนึ่ง...
“เห้อ..หมดฤทธิ์ซักที= =” ฮันคยองพูดขึ้นมาเบาๆหลังจากที่วางฮยอกแจลงบนเบาะข้างคนขับเรียบร้อยจากนั้นเขาค่อยเดินไปอีกฝั่งของรถ ก้าวขึ้นรถก่อนจะขับรถออกไปอย่างไม่รีบร้อนนัก เพราะตอนนี้เจ้าเพื่อนตัวเล็กก็อยู่กับตัวแล้ว จึงไม่ต้องเป็นห่วงอะไร
แต่ระหว่างทางฮันคยองก็ต้องคอยเหลือบตามองเจ้าเพื่อนตัวเล็กตลอด เพราะกลัวว่าจะตื่นขึ้นมาแล้วแผลงฤทิ์อีก แต่จนแล้วจนรอดมาจนถึงบ้านเจ้าเพื่อนตัวเล็กก็ไม่ได้ลุกขึ้นมาแผลงฤทธิ์หรือว่าอย่างไร
ฮันคยองลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปทางฝั่งของฮยอกแจ เปิดประตูรถออกก่อนจะแบกเจ้าเพื่อนตัวเล็กขึ้นบ่าแล้วพาเข้าไปในบ้าน โชคดีว่าป้ามีอาคงเข้าห้องนอนไปแล้ว ไม่งั้นเขาคงต้องมาคอยตอบคำถามของป้ามีอาให้ยืดยาวอีกเป็นแน่
ร่างสูงพาร่างเล็กขึ้นมาถึงชั้นบนแล้วพาไปยังห้องนอนที่เตียมไว้ให้สำหรับแขกที่มาพัก เมื่อวางเจ้าเพื่อนตัวเล็กลงบนเตียงเรียบร้อยแล้วก็ถึงกับต้องถอนหายใจออกมา เพราะไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับเจ้าคนตัวเล็กที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงดี..
“เอาไงต่อละวะเนี่ย...” ร่างสูงพูดพลางเกาศีรษะของตัวเองไปด้วย สายตาก็มองไปยังร่างเล็ก ที่เสื้อผ้าและผมยังคงเปียกโชกด้วยเหล้าจนกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งออกมา แต่ถ้าจะให้ถอดเสื้อผ้าของร่างเล็กออกก็กลัวตัวจะอดใจไว้ไม่ไหว
...เอาไงดี?...
“เกิง...” ร่างเล็กที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงขยับปากพูดช้าๆ แต่ดวงตาคู่หวานยังคงปิดสนิท
“หืม?..”
“ก...เกิง”
“อะไร?”
“อึก...”
“....???”
“อ้วก กกก” ร่างเล็กเด้งตัวเองขึ้นมานั่งปล่อยจะปล่อยของเหลวสีขาวออกมาเลอะเป็นทางยาวตั้งแต่เสื้อลงไปถึงกางเกง เสร็จแล้วก็ยกมือขึ้นมาเช็ดปากตัวเองหนึ่งครั้งก่อนจะล้มตัวลงไปนอนอีกรอบราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
“ไอ้...เชี่ยฮยอกกกก= =;;” ฮันคยองพูดสบถแล้วยกมือขึ้นมากุมขมับอย่างหัวเสีย เรื่องเก่ายังไม่จบไม่ทันไรคนเมาก็สร้างเรื่องใหม่ให้ฮันคยองได้ปวดหัวเล่นอีกแล้ว ตอนแรกก็กะจะไม่ถอดเสื้อผ้าเจ้าเพื่อนตัวเล็กออกอยู่แล้วเชียว แต่ตอนนี้ถ้าจะให้เจ้าเพื่อนตัวเล็กหลับไปพร้อมกับกลิ่นเหล้าและคราบอาเจียนพวกนี้ก็ดูจะใจร้ายเกินไปหน่อย
เพราะฉะนั้น...
“ขอโทษนะเว่ยไอ้ฮยอก...”
อ่าอัพให้แล้ว10%นะ^^
พรุ่งนี้สอบ5วิชาจะบ่าย3แล้วยังไม่ได้อ่านหนังสือเลยจอร์จ- -
ยอดเยี่ยมจริงๆ!
หลายคนอาจจะงงกับชื่อตอนว่าความเมามันเป็นเหตุยังไง
จะบอกว่ารอครบ100% เดี๋ยวก็รู้กันเอง 555
ไปอ่านหนังสือดีกว่า
อย่าลืมเม้นนะ^^!!! (ยิ้มเฉือดเฉือน)
update : 231209
_______________
แอ่ยยย ย~
อัพครบ100%แล้ว
เห็นมั้ยคะว่าความเมาเป็นเหตุจริงๆ
แต่ไรเตอร์อัพค้างไปมั้ยหว่า?
555 5
แต่ไม่เป็นไรหรอก
หยุดปีใหม่หลายวันเดี๋ยวไรเตอร์อัพให้อยู่แล้ว
มิอยากจะสปอยตอนต่อไป
รออ่านเอาเองละกัน 555 5
ไรเตอร์ไปละ
อย่าลืมเม้นกันล่ะ^^!!
ปล. มีคอมเม้นนึงถามไรเตอร์ว่าอยู่โรงเรียนอะไร
ไรเตอร์อยู่สตรีวิทยา2ค่ะ รั้วขาวแดง : )
แต่ปีหน้าเหมือนไรเตอร์จะไปอยู่เตรียมอ่ะค่ะ โห๊ะๆ XD <<หนังสือยังไม่อ่าน- -*
update : 311209
ความคิดเห็น