คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : _ C H A P T E R 2 4 : ภ า ร กิ จ ข อ ง คิ ม ฮี ช อ ล อิ๊อิ๊ ( : (100%)
ยามค่ำคืน..ท้องฟ้าที่เคยสดใสบัดนี้ได้ถูกความมืดกลืนกินจนกลายเป็นสีดำสนิท...
ทงเฮมาอยู่ที่บ้านฮีชอบตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ จนตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ดึกพอสมควรแล้ว
ตั้งแต่มาถึงฮีชอลก็ชวนคนตัวเล็กทำนู่นทำนี่ไปเรื่อยไม่ว่าจะเป็นทำกับข้าว เล่นเกมส์ เล่นไพ่(2คน- -) ดูทีวี และอีกหลายอย่างที่ฮีชอลสรรหามาให้ทงเฮทำในหลายชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งทงเฮเองก็ดูจะสนุกไปกับฮีชอลด้วย แม้ตลอดเวลาจะยังรู้สึกงงๆอยู่ว่าทำไมตัวเองถึงต้องมาอยู่กับฮีชอล- -
“ห้าววว~” คนตัวเล็กเอามือปิดปาก หาวออกมาเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ดวงตาคู่หวานปรือลงราวกับว่าจะหลับให้ได้เสียตรงนั้น ต่างกับคนสวยข้างๆที่ตอนนี้ตาสว่าง ยังคงจ้องดูทีวีข้างหน้าตาแป๋ว
“ง่วงแล้วหรอ?” ฮีชอลถามแล้วก็เอานิ้วไปจิ้มเข้าที่แก้มใสเบาๆ
ถึงเขากับทงเฮจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ไอ้ท่าทางน่ารักไร้เดียงสาเหมือนเด็กๆนั้นมันก็ทำให้เขาอดที่จะนึกเอ็นดูไม่ได้ ยิ่งตอนนี้คนตัวเล็กอยู่ในชุดนอนสีหวานของเขาความน่ารักที่มีอยู่แล้วจึงทวีคูณเพิ่มมากขึ้นไปอีก
“อือ~ นี่มันก็ดึกมากแล้วนะฮะฮีชอล”
“เออจริงสินะ!! นอนดึกแล้วพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวจะไม่สวย โอ๊ยไม่ได้ๆ! เสียคอนเซปต์ชั้นพอดี- -“ ฮีชอลพูดแล้วทำหน้าตาตื่นทันทีที่นึกขึ้นได้
นิ้วเรียวสวยรีบกดปิดโทรทัศน์และเครื่องเล่นทันทีก่อนจะดึงร่างเล็กให้ลุกขึ้นยืนแล้วพาไปที่เตียงนอนของตัวเอง
ร่างเล็กนั่งตาปรือมองฮีชอลแล้วเกาหัวของตัวเองอย่างงงๆ
การกระทำและอารมณ์รวมถึงนิสัยแปลกๆหลายอย่างของฮีชอลทำเอาร่างเล็กถึงกับตามไม่ทัน
“เอ๊า..มัวนั่งงงอะไรอยู่-.-? นอนได้แล้วๆ” ฮีชอลเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กยังนั่งทำหน้างงอยู่
มือบางของฮีชอลตบลงบนเตียงสองสามครั้งเป็นสัญญาณบอกให้ร่างเล็กนอนลง ซึ่งร่างเล็กก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจก่อนจะซุกตัวลงใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับฮีชอล
ทันทีที่หัวถึงหมอนดวงตาคู่หวานก็หลับพริ้ม ในใจแอบคิดถึงคิบอมที่ตอนนี้คงจะนอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว ...
เพียงแค่ไม่กี่คืนที่ได้นอนข้างกายคิบอม แต่พอไม่ได้นอนด้วยแบบนี้แล้วทงเฮกลับรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ขาดหายไป
ใช่อ้อมกอดที่อบอุ่นของคิบอมรึเปล่านะ....
ฮีชอลจ้องมองใบหน้าหวานยามกระทบกับแสงไฟจากหัวเตียงอย่างเอ็นดู ปากสีแดงบางเป็นกระจับที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นมันช่างดูยั่วยวนจนฮีชอลอยากจะเข้าไปจูบให้รู้แล้วรู้รอดเสียที แต่ฮีชอลก็ต้องอดใจเอาไว้ เพราะขืนทำแบบนั้นจริงๆมีหวังร่างเล็กได้ตกใจกลัวไม่กล้ามาคุยกับเขาไปอีกนานเป็นแน่...
ในเมื่อเขายังไม่กล้าทำการใดกับริมฝีปากบางสวยนั่นจึงตัดสินใจใช้แขนเรียวของตัวเองโอบกอดคนตัวเล็กเอาไว้พร้อมกับกดจมูกโด่งๆลงบนแก้มใสนั่นหนึ่งที
“อ๊ะ!...ฮีชอลอ่ะ><”ร่างเล็กที่ยังหลับไม่สนิทเพราะมัวแต่คิดถึงคิดบอมถึงกับเบิกตาโพลงขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อถูกฮีชอลทำอะไรแปลกๆใส่เข้าให้ ...
ถึงสิ่งที่ฮีชอลทำเมื่อกี้มันจะคล้ายกับสิ่งที่คิบอมทำกับเขาอยู่บ่อยๆ แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ชินสักที
“ทำไมนายน่ารักจังวะเนี่ย><!” ว่าแล้วฮีชอลก็เอามือหยิกเข้าที่แก้มใสที่ตอนนี้เริ่มจะเป็นสีแดงฝาดอย่างมันเขี้ยว “ฉันอยากได้นายมาเป็นน้องชายจังแหะ-.-“
“เราอายุเท่ากันนะฮะฮีชอล - -”
“ แต่ฉันูดูเป็นผู้ใหญ่กว่านายเยอะมากๆๆๆอ่ะ-3-“
“ง่ะ-3-“ ร่างเล็กหว่าแล้วเชิ่ดปากขึ้นอย่างงอนๆ มีอย่างที่ไหนมาหาว่าเขาเหมือนเด็กทั้งๆที่อายุก็เท่ากันแท้ๆ
“แหม่ นี่ถ้าฉันไม่เกรงใจไอ้คิบอมนะ ฉันกะจะขอให้นายมาอยู่ที่นี่อีกซักอาทิตย์นึงนะเนี่ย ตัวเล็กๆหอมๆแบบนี้กอดแล้วรู้สึกดีชะมัดเลยอ่ะ-.- มิน่าล่ะไอ้คิบอมมันถึงได้หวงนักหวงหนา- -“
“อา..เขาไม่ได้หวงผมหรอกฮะ (.///.)” ร่างเล็กพูดพร้อมกับหลุบตาลงต่ำ
คิดไปเองว่าตลอดเวลาที่คิบอมคอยตามเฝ้าไปนู่นไปนี่หรือว่าทำดีๆด้วยก็เพียงเพราะว่านึกสนุกหรือไม่ก็คงอยากแกล้งให้เขาหวั่นไหวด้วยเล่นก็เท่านั้น คงไม่ได้คิดเป็นห่วงจริงจังหรือว่าอะไร
แต่กลับเป็นตัวเขาเอง ที่คิดเป็นจริงเป็นจังไปคนเดียว...
“ถ้าไม่หวงแล้วที่มันคอยตามเฝ้าเช้าถึงเย็นคืออะไรล่ะ?...ยามรึไง- -?”
“เค้าก็แค่แกล้ง ไม่อยากให้ผมไปยุ่งกับใครละมั้งฮะ”
“โอ๊ยยย~ นั่นล่ะจ่ะเค้าเรียกว่าหวง- - นายมันไร้เดียงสาเข้าขั้นโคม่าแล้วนะเนี่ยทงเฮน้อย กี่ขวบแล้วห้ะ- -??” ฮีชอลว่าพร้อมกับดึงจมูกโด่งรั้นของคนตัวเล็กไปมาอย่างมันเขี้ยว
ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่ามันดูเว่อร์เกินไปที่คิบอมหวงทงเฮขนาดนั้น แต่พอมาเห็นทงเฮแสดงท่าทางแบบนี้ฮีชอลก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไม- -
“เค้าคงไม่ได้คิดจริงจังอะไรหรอกฮะ....ฮีชอลอ่า~เลิกพูดถึงคิบอมเถอะ (.///.)”
“แหมๆๆ...เขินล่ะสิ หน้าแดงเชียว หิหิ” ว่าแล้วฮีชอลก็เอานิ้วจิ้มเข้าที่แก้มสีแดงฝาดให้ร่างเล็กได้เขินเล่นอีก
ใบหน้าหวานยามนี้ดูยังไงก็น่ารัก คิดแล้วฮีชอลก็แอบอิจฉาคิบอมที่ได้นอนกอดคนน่ารักนี่ทุกคืน
“ไม่รู้คืนนี้คิบอมมันจะนอนหลับป่าวเนอะ แฟนไม่อยู่ให้กอดทั้งคน-.-“
“ผ...ผมไม่ใช่แฟนคิบอมนะฮะ ไม่ใช่แฟน แหะๆ”
“หา??..ขนาดนี้ยังไม่ใช่แฟนอีกหรอ=[]=”
“ก็คิบอมเขาไม่เคยพูด...ผมจะขี้ตู่พูดเอาเองได้ไงล่ะฮะ(, ,)” ทงเฮพูดแล้วก็มีสีหน้าเศร้าลงไปทันที
ฮีชอลเห็นแบบนั้นแล้วก็อดนึกโมโหคิบอมไม่ได้
เขาพอจะดูออกว่าทั้งทงเฮและคิบอมก็ต่างมีใจให้กันทั้งคู่ แต่กลับไม่มีใครยอมพูดออกมาก่อน ซึ่งเขาคิดว่าในกรณีแบบนี้คนที่ควรพูดก็น่าจะเป็นคิมคิบอม เพราะทงเฮทั้งน่ารักน่าเอ็นดูซะขนาดนี้ก็น่าจะให้เกียรติกันบ้าง
แต่สิ่งที่คิบอมกำลังทำอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่เลย....
นอนบ้านเดียวกัน จูบกัน แสดงอาการหึงหวงกันซะขนาดนั้น
...ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน...
ถ้ามึงปากแข็งนักกูก็จะง้างปากมึงเองไอ้คิมบอม
“ไม่ต้องห่วงนะตัวเล็ก...เดี๋ยวนายต้องได้เป็นแฟนกับไอ้แก้มย้วยนั่นแน่ๆ”
อิ๊อิ๊( :
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เช้าวันรุ่งขึ้น....
บรรยากาศวันกีฬาสีภายในโรงเรียนดูค่อนข้างวุ่นวายแต่ก็คึกคักมากเป็นพิเศษ พวกนักเรียนที่ต้องจัดการเกี่ยวกับขบวนพาจะเหรดกำลังวิ่งไปมากันให้วุ่นเนื่องจากว่าใกล้ถึงเวลาที่จะเริ่มเดินขบวนแล้ว ส่วนนักเรียนคนอื่นต่างก็พากันจับจองที่เพื่อการดูขบวนพาเหรดในครั้งนี้ว่าจะตื่นตาและอลังการเหมือนปีที่ผ่านมาหรือเปล่า...
คิบอม ฮันคยอง และฮยอกแจพากันจับจองที่บริเวณริมสนามเพื่อรอดูลีทงเฮ เพื่อนที่สุดแสนจะน่ารักของพวกเขา
ตอนนี้คิบอมยืนกอดอกแล้วทำหน้าตาเบื่อโลกเสียเต็มประดา เขาเกลียดบรรยากาศที่คนเยอะและวุ่นวายแบบนี้เป็นที่สุด และมากไปกว่านั้นเขายังเบื่อไอ้เพื่อนสองคนที่สร้างโลกส่วนตัวคุยกันกระหนุงกระหนิงสองคนราวกับว่าเขาไม่ได้มีตัวตนอยู่ตรงนั้นด้วย- -
“เห้!”
คิบอมหันไปมองทางต้นเสียง เมื่อพบว่าเป็นใครก็รู้สึกอยากจะเดินออกไปให้พ้นบริเวณนั้นเสียจริง- - “มาสะเออะอะไรแถวนี้ไม่ทราบ?”
“อ้าวๆ...พูดงี้เดี๋ยวพ่อก็จับทงเฮปล้ำซะหรอก - -“ฮีชอลว่าพร้อมกับมองหน้าคนแก้มป่องอย่างเอาเรื่อง
“เห๊อะ...คิดว่าตัวเองทำได้ก็เชิญ- -“
“ดูถูกกันมากเกินไปแล้วมั้งไอ้ย้วย เมื่อคืนฉันนอนกอดทงเฮทั้งคืนด้วยนะจะบอกให้-.-“
“อืม...กอด กอดแล้วไงอ่ะ?” คิบอมพูดตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย..
มากกว่ากอดเก็ทำแล้วยังไม่เห็นอวดเลย-.-
ฮีชอลเห็นคิบอมพูดอย่างนั้นก็อ้าปากกำลังจะเถียงต่อ แต่ยังไม่ทันได้พูดก็ต้องหยุดชะงักเพราะเสียงกลองที่ดังขึ้นเป็นจังหวะพร้อมกับขบวนพาเหรดที่เริ่มเดินกันเข้ามาภายในสนาม...
สามคณะสีแรกเดินผ่านไปแล้วเรียบร้อย...
ความตื่นตาและความอลังการยังคงเรียนเสียงฮือฮาจากบรรดานักเรียนได้เช่นทุกๆปีที่ผ่านมาจนทำให้ฮีชอลเริ่มหวั่นใจว่าคณะสีของตัวเองจะได้ที่หนึ่งแบบที่หวังไว้ในตอนแรกรึเปล่า
เมื่อคณะสีของตัวเองเดินเข้ามาในสนามฮีชอลและคนรอบข้างคิบอมก็เริ่มส่งเสียงเชียร์เสียงดังจนทำให้คิบอมต้องยกมือขึ้นมาปิดหูด้วยความรำคาญแล้วหันไปให้ความสนใจกับขบวนพาเหรดแทน...
ขบวนของคณะสีเดินนำมาด้วยแอมเบอร์ เด็กสาวหน้าหล่อซึ่งเป็นที่อิจฉาของผู้ชายหลายๆคน
ใบหน้าหล่อเหลานั้นถูกแต่งขึ้นมาแบบเข้มๆให้ดูโดดเด่น บวกกับปีกสีฟ้าอ่อนอันใหญ่ที่อยู่ด้านหลังดูยังไงก็สะดุดตาและเป็นที่น่าสนใจ
แต่ดูเหมือนว่าคิบอมจเป็นคนหนึ่งไม่ได้สนใจมันสักนิด...
...เขากำลังสนใจคนตัวเล็กที่อยู่ถัดไปข้างหลังอีกแถวนึงต่างหาก...
ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์เล็กน้อย ดวงตาที่เดิมทีก็กลมโตอยู่แล้วเมื่อถูกเขียนด้วยสโมกกี้อายจึงทำให้มันดูกลมโตมากกว่าเดิมอีก บริเวณรอบๆดวงตาถูกทาด้วยสีฟ้าอ่อนซึ่งดูเข้ากับคอนเซปต์ของปีนี้เป็นอย่างดี
คิบอมมองภาพคนน่ารักตรงหน้าด้วยที่หัวใจที่มันเต้นแรงผิดปกติ...
เดิมทีในสายตาของเขาคนตัวเล็กก็น่ารักอยู่แล้ว แต่พอวันนี้ถูกจับไปแต่งหน้าทำผมเลยดูน่ารักมากเป็นพิเศษ สิ่งที่ขัดใจคิบอมตอนนี้มีเพียงอย่างเดียวคือชุดที่คนตัวเล็กสวมใส่อยู่นั่น..
เขารู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่นักที่คนตัวเล็กต้องเอาผิวขาวสวยนั่นออกมาอวดใครต่อใคร ยิ่งตอนนี้คนรอบข้างเขาไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ต่างพากันเอ่ยชมร่างเล็กไม่ขาดปากมันยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
“ไง...น่ารักมากเลยอะดิ ฝีมือๆ” ฮีชอลว่าแล้วก็เอากำปั้นทุบอกตัวเองอย่างอวดๆ
“อือ...ยกเว้นไอ้ชุดสั้นๆสิ้นคิดนั่นแหละที่ไม่น่ารัก= =”
“โอ๊ยยยพ่อคุณ...แล้วคิวปิดที่ไหนเค้าใส่ชุดยาวลากพื้นบ้างล่ะจ้ะ- -?”
คิบอมถึงกับเถียงไม่ออกจึงไม่ตอบอะไร เลือกที่จะหันหน้าหนีไปทางอื่นแทน
“เห้อ...ฉันก็เข้าใจอะนะวะรักว่าหวง ที่ไม่อยากให้คนอื่นดูนี่คือจะเก็บไว้ดูคนเดียวใช่ปะล่ะ-.-“
“อะไรของเธอ- -“ คิบอมพยายามพูดเฉไฉแล้วหันไปให้ความสนใจร่างเล็กเหมือนเดิม
ตอนนี้ขบวนของคณะสีกำลังเดินผ่านมาด้านหน้า
คิบอมและทงเฮ ทั้งสองกำลังสบตากันโดยไม่พูดอะไรจนคิบอมเป็นฝ่ายที่ยกนิ้วโป้งขึ้นมาแล้วส่งยิ้มไปให้ร่างบาง
ร่างบางพยักหน้าหนึ่งครั้งก่อนจะอมยิ้มแล้วรีบก้มหน้างุดด้วยวามเขิน รอยยิ้มที่หาไม่ได้ง่ายๆของคิบอมทำเอาร่างเล็กรู้สึกใจสั่นหวั่นไหวจนเริ่มทำอะไรไม่ถูก
เมื่อคิบอมเห็นท่าทางน่ารักๆแบบนั้นจึงยิ้มออกมาอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว...
เมื่อการเดินขบวนพาเหรดเสร็จสิ้นลงทั้งหมดแล้ว รายการต่อไปเป็นการประกาศรางวัลแต่ฮันคยองและคิบอมเลือกที่จะเดินออกมาก่อนเพื่อที่จะไปซ้อมบาส เพราะว่าจะต้องลงแข่งในช่วงบ่ายนี่แล้ว
“นี่ไอ้บอม ฉันเห็นนะ แกกับทงเฮเฮเมื่อกี้อ่ะ..อิ๊อิ๊( :” ฮันคยองพูดพร้อมกับเอาศอกกระทุ้งสีข้างเพื่อนอย่างแซวๆ
“อืม...ทำไมล่ะ- -?”
“ทำไมแกไม่คบกับทงเฮแบบจริงจังสักทีล่ะว่ะ ...จะคบกันแบบมึนๆไปถึงเมื่อไหร่?”
“ก็คงพอๆกับที่แกคบกับไอ้ฮยอกคบกันแบบมึนๆมาเกือบสามปีล่ะมั้ง”
“ไม่ต้องมามั่วเลยไอ้บอม มันไม่เหมือนกัน”
“-___-“
“ฉันไม่เคยเห็นใครทำให้แกยิ้มได้เลยนะเว้ย นอกจากทงเฮอ่ะ”
ฮันคยองพูดจบคิบอมก็ถึงกับชะงัก เพราะเขาเองก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกัน
....ว่าเค้ายิ้มด้วยเหตุผลอะไร....
.
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากที่โรงเรียนได้ประกาศรางวัลไปเรียบร้อยแล้วฮีชอลก็ต้องรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ที่คณะสีของตัวเองไม่ได้ที่หนึ่งมาครอบครองอย่างที่หวังเอาไว้ในตอนแรก แต่ก็ไม่ได้นึกเสียใจเลย เพราะอย่างน้อยที่เขาทุ่มเทไปในครั้งนี้มันก็ทำให้เค้าได้มิตรภาพและได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆมากขึ้น รวมถึงเพื่อนที่น่ารักๆอย่างทงเฮ
ฮีชอลสั่งให้กึนซอกและฮงกิไปดูความเรียบร้อยและไปเก็บของที่ห้องคณะสี ส่วนตัวเองก็เดินค่อยๆเดือนเอื่อยๆเรื่อยๆไปที่สนามบาส เพราะการแข่งขันบาสกำลังจะเริ่มขึ้นในช่วงบ่าย ซึ่งก็เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว...
ภายในกลุ่มของคนที่กำลังบาส ฮีชอลมองไปยังร่างสูงโปร่งที่เลี้ยงลูกบาสในมือไปใกล้ๆแป้นบาส ก่อนจะกระโดดแล้วชู๊ตลงห่วงตาข่ายอย่างสวยงาม
เพียงเท่านั้นบรรดาสาวๆหนุ่มๆข้างสนามก็ส่งเสียงกรี๊ดกันดังลั่น แต่ร่างสูงกลับไม่หันมาสนใจสักนิด
“ฮึ่...” ใบหน้าสวยยกยิ้มอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะแสร้งทำเป็นปรบมือชื่นชมร่างสูงแล้วเดินเข้าไปหาช้าๆ
ร่างสูงเห็นฮีชอลยืนทำท่าเรียกร้องความสนใจอยู่อย่างนั้นจึงค่อยๆเดินออกมาหา
มือข้างหนึ่งใช้จับลูกบาสเอาไว้ส่วนอีกข้างก็ปาดเหงื่อบนใบหน้าออกแล้วพูดกับฮีชอลด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูห้วนๆ
“มีอะไร- -“
“ทำไม?...ถ้าฉันไม่มีธุระจะมาหานายไม่ได้เลยรึไงห้ะ- -?”
“อย่ามาโอ้เอ้น่า มีอะไรก็รีบๆพูดมา ฉันจะได้ไปซ้อมบาสต่อ”
“ว๊า...ดูเหมือนนายจะไม่ค่อยอยากรู้เรื่องเท่าไหร่นะเนี่ย งั้นเดี๋ยววัหลังฉันค่อยบอกละกัน นายไปซ้อมบาสต่อเถอะ” ฮีชอลพูดแล้วยิ้มๆก่อนทำท่าจะเดินออกไปตั้งใจจะแกล้งให้คิบอมโมโหเล่น ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผล
ท่าทางน่าหมั่น ไส้แบบนั้นทำให้คิบอมอดนึกหมั่นไส้และหงุดหงิดไม่ได้ แต่มาพูดให้อยากรู้ซะขนาดนี้แล้วคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่อยากจะรู้ต่อไป
“อย่าลีลาดิ๊ - -...จะพูดก็พูดมา”
ความจริงฮีชอลตั้งใจจะบอกอยู่แล้วถ้าร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูน่าฟังกว่านี้ แต่นี่ร่างสูงดันพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ดูแล้วไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่นักสำหรับฮีชอล
“ฮึ่ย...พูดจาแบบนี้มันน่าบอกมั้ยว่ะเนี่ย- -*”
“อย่า ลี ลา” ร่างสูงพูดเน้นชัดทีละคำประกอบกับหน้าตาตอนนี้ที่ดูเอาเรื่องไม่หยอกจึงทำให้ฮีชอลยอมพูดออกมา ไม่งั้นเขาคิดว่าอาจจะถูกร่างสูงตั๊นหน้าเอาได้- -
“เออๆ ก็ เมื่อวันก่อนมันมีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อยน่ะ...เกี่ยวกับทงเฮ”
“แล้วเรื่องอะไรล่ะ?” ร่างสูงดูจะอารมณ์ดีขึ้นและแสดงอาการอยากรู้อยากเห็นทันทีเมื่อได้ยินชื่อของคนที่ฮีชอลเอ่ยถึง
“อ่า...ฉันก็อยากจะบอกนายอ่ะนะ แต่ทงเฮเค้าขอร้องฉันไว้ว่า...”
“ว่า??”
“อย่าบอกคิบอมนะฮะ..ไม่งั้นคิบอมต้องโกรธแน่ๆเลย”
ฮีชอลพูดประกอบกับทำท่าทางน่ารักๆเลียนแบบทงเฮหวังจะให้มันออกมาแล้วดูน่ารัก แต่พอคิบอมได้เห็นท่าทางแบบนั้นแล้วถึงกับทำหน้าเหยเก เพราะท่าทางแบบนั้นมันดูไม่เข้ากับคิมฮีชอลสักนิด หนำซ้ำเห็นแล้วยังรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อๆอีกต่างหาก
“เอ๊า!!..แล้วมันเรื่องอะไร แล้วนายจะมาพูดให้ฉันอยากรู้เพื่ออะไรวะเนี่ย- -!!”
“ก็แล้วถ้าฉันไม่อยากให้นายรู้ฉันจะมาบอกนายทำไมล่ะวะไอ้โง่!!”
“ถ้าจะบอกก็บอกสักทีสิวะ = =*!!”
“ไม่ บอก เว่ย!! อิ๊อิ๊( :”
สองเสียงของฮีชอลกับคิบอมที่ปะทะคารมณ์ตะคอกใส่กันไปมาทำให้คนที่อยู่บริเวณนั้นเริ่มหันมาให้ความสนใจ แต่ดูเหมือนฮีชอลจะไม่สนใจสายตาพวกนั้นสักนิด หนำซ้ำยังทำท่าจะหันไปวีนใส่ต่างหาก ผิดกับคิบอมที่ยอมเงียบเสียงลง
“เอ๊า... อยากรู้ แต่ไม่บอก นายจะสื่ออะไรกับฉันวะเนี่ย- -“
“นายสมควรจะได้รู้ก็ต่อเมื่อนายเป็น แฟน กับทงเฮแล้วเท่านั้นแหละ อิ๊อิ๊( :” พูดแล้วฮีชอลก็ยิ้มออกมาอย่างกวนประสาท
“ห่ะ=[]=” คิบอมดูจะอึ้งไปเล็กน้อย เพราะการที่ฮีชอลพูดอย่างนี้มันก็แปลออกมาได้ความหมายเดียว...
..จะให้เราเป็นแฟนกับทงเฮเนี่ยนะ=[]=...
“แหม่ นายเองก็ชอบทงเฮ จะมัวปากแข็งไปทำไมวะ- -“
“พ..พูดบ้าอะไรขงนาย- -“เมื่อคำพูดของฮีชอลมันแทงเข้าตรงกลางใจคิบอมก็ถึงกับพูดอะไรต่อไม่ถูก ทำได้เพียงเบนสายตามองไปทางอื่นแทน
แต่ก็ไม่อยากจะยอมรับที่ฮีชอลมาพูดว่าเค้าปากแข็งสักเท่าไหร่นัก เพราะความจริงแล้วเค้าไม่ได้ปากแข็ง เป็นคนตรงๆ คิดอะไรก็พูดไปอย่างนั้น แต่สำหรับเรื่องนี้ที่เค้าไม่ยอมพูดคงเป็นเพราะว่าวางฟอร์มมากกว่า
ก็ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยไปขอใครเป็นแฟนสักหน่อย-.-
“ทุกครั้งที่ฉันพูดถึงนายอ่ะทงเฮเค้าเขินทุกครั้งเลยรู้ป่ะ อิ๊อิ๊><”
“นายนั่นก็เขินตลอดเวลาอยู่แล้วนิ- -“
“เวร- -... เออๆ จะคิดยังไงก็เองของนายเถอะ แต่ฉันสงสารทงเฮว่ะที่นายไปล่วงเกินเค้าแบบนั้น ทั้งๆที่นายยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสถานะระหว่างเค้ากับนายคืออะไร”
“ฉันล่วงเกินทงเฮยังไงวะ- -“ คิบอมพูดแล้วทำหน้าตาสงสัย ราวกับว่าไม่เข้าใจสิ่งที่ฮีชอลพูด
ฮีชอลเห็นแบบนั้นจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดขยายความอธิบายให้ร่างสูงเข้าใจ
“ก็ไอ้ที่นายอยู่บ้านเดียวกับเค้า นอนกับเค้า กอดเค้า หวงเค้า หึงเค้า จูบเค้า แต่ว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ได้เรียกล่วงเกินเลยเรอะ!!! แล้วก็อีกหลายๆอย่างด้วมั้งที่ฉันยังไม่รู้อ่ะ นายทำแบบนี้มันไม่เจนเทิลแมนเลยว่ะไอ้คิบอม- -“
“แหม นายก็น่าจะเข้าใจนะ...น่ารักแบบนั้นใครมันะไปอดทนไหววะ-.-“ คิบอมพูดเสียงเบาแล้วเบนสายตาไปทางอื่น ถ้าคิบอมไม่ได้ตาฝาดฮีชอลเห็นว่าแก้มป่องๆนั่นมันขึ้นสีแดงเล็กน้อย
เขินO O!!?!?!?!?
ฮีชอลคิดได้อย่างเดียวแต่ก็ไม่ได้พูดออกไปเพราะคิดว่าถ้าพูดออกไปคงได้เห็นคนเขินทำโมโหกลบเกลื่อนเสียเปล่าๆ
“เออออ ...มันไม่มีใครทนหรอก ขนาฉันยังแอบแต๊ะอั๋งทงเฮออกบ่อย-..-“
“= =”
“ทงเฮน่ารักซะขนาดนั้นใครเห็นก็ต้องชอบกันทั้งนั้นแหละ ถ้านายมัวแต่นั่งบื้อก็ระวังทงเฮจะโดนงาบไปนะเฟ้ย ฉันนี้แหละจะงาบคนแรกเลย จะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ คึคึ -.-“
“นายพูดแบบนี้คิดจะตีฉิ่งหรอ- -“
“ฉิ่งพ่อมึงน่ะสิไอ้คิบอม!! ฉันเป็นผู้ชายนะเว้ย ทงเฮก็ผู้ชาย ที่สำคัญฉันก็แมนครับ แมนมากมากเลยด้วย”
“อ้อเหรออ” คิบอมมองคนตรงหน้าอย่างขำๆ
ถึงฮีชอลจะมีนิสัยห้าวๆและห่ามๆไปบ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงว่าไอ้คิมฮีชอลนี่มันหน้าสวยขนาดไหน การที่มายืดอกแล้วพูดครับๆประกาศปาวๆว่าตัวเองแมนจึงดูตลกไม่ใช่น้อย
“เออดิ!! ...นี่ฉันมาพูดขนาดนี้แล้วถ้านายยังมัวนั่งนิ่งเป็นสากกะเบือฉันก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วนะ-.-“
“- -“
“อีกสักพักทงเฮคงจะมาแหละมั้ง ..งั้นฉันไปดีกว่า ไม่อยากอยู่ขวาง โอ๊ย!! หมั่นไส้จริงจังว่ะ;p”
“เออ ดี...งั้นนายรีบไสหัวไปเลยไป”
“นี่มึงไล่กูหรอ- -?” ฮีชอลพูดแล้วมองหน้าคิบอมอย่างเอาเรื่อง
เขาอุตส่าห์เสียเวลามาพูดด้วยแทนที่จะพูดขอบคุณสักคำ แต่นี่กลับมาพูดจากวนประสาทใส่อีก- -
“เออ ไปไปสักทีเหอะ”
“ชิ”
“เดี๋ยวก่อน”
“ทำไม?...เรียกฉันอีกทำไมล่ะ-3-?”
“ก็...จะให้ฉันเริ่มพูดกับทงเฮว่าไงอ่ะ-.-?”
“หึ...สมองมีไว้แค่กั้นหูรึไงจ้ะ^^” ฮีชอลพูดแล้วใช้นี้เรียวชี้ที่หัวของตัวเองก่อนจะยิ้มมุมปากอย่างนึกสะใจให้คิบอม เห็นร่างสูงยังยืนนิ่ง คงไม่รู้ความหมาย ฮีชอลจึงอาศัยจังหวะนั้นวิ่งหนีไปทันที
‘นี่มึงด่ากูโง่หรอ= =!!’
โฮกกกก ในที่สุดก็หาเวลาว่างว่างมาอัพจนได้ (ถึงจะอัพน้อยมากมากก็เถอะT^T)
คนที่เป็นเด็กวิทย์คณิตเข้าใจต้าใช่มั้ย เปิดเทอมมอสี่ งานรุมเร้าเหลือเกิน
เคมี? ตารางธาตุ? อะไร?? มันคืออะไร?? กุไม่เข้าใจเลยแส่ดดด ฮือออออT^T
ณ จุดจุดนี้คือเหนื่อยมากอ่ะ ไร้อารมณ์สุนทรีในการแต่งฟิคอย่างแรง
ที่แต่งออกมาถึงมันจะนิดเดียวแต่ต้าก็พยายามสุดๆแล้ว ถ้าไม่ชอบหรือว่ามันไม่สนุกก็บอกนะT^T
ส่วนตอนที่ต่อจากนี้ต้าก็แต่งไว้แล้วแหละ แต่งไว้นานแล้วด้วย(ในสมุด)
แต่ไม่มีเวลาจะพิมพ์จริงๆ ที่จริงต้าแต่งตอนนี้เสร็จตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
วันอังคารนั่งพิมพ์ไปได้สักพัก แล้วเพื่อนก็ส่งงานมาให้พิมพ์แทนT^T
ชีวิตมันขมขื่นสุดสุดอ้ะT^T!
ตอนนี้ไม่สามารถบอกได้จริงๆว่าจะมาอัพอีก50%ที่เหลือต่อเมื่อไหร่
เอาเป็นว่าว่างเมื่อไหร่ต้าก็จะมาอัพ
ไปทำการบ้านก่อนล่ะ บ๊ายบาย
เป็นกำลังใจให้ต้าด้วยนะT^T
อย่าลืมเม้นล่ะ อิ๊อิ๊( :
update : 090610
___________________
ดึกแล้ว....
ไม่รู้จะพูดอะไรดี...
ตอนนี้ตีสามครึ่ง...
พรุ่งนี้ไปเรียนพิเศษเจ็ดโมง...
เพราะงั้นต้าไปนอนดีกว่า....(แอบง่วง= =)
อย่าลืมเม้นนะ...
จุ๊บจุบ-3- &อิ๊อิ๊(:
update : 120610
__________________
การบ้านยังไม่ได้ทำเลยว่ะค่ะ-.-
แต่ไม่เป็นไร. รอปั่นตอนเช้าได้ ฮ่าฮ่าฮ่า
ทำไมรู้สึกว่าช่วงนี้ฮีเด่นจังวะ
งงตัวเอง แต่งยังไงเนี่ยกุ- -
แต่ช่างเหอะ ต้ารับรองว่ายังไงตอนหน้าคิเฮเด่นสุด
เจ๊ฮีไม่มีเอี่ยว( :
แล้วเห็นมีคนบอกว่าอยากให้มีวอนซิน
จะเอาป้ะล่ะ? ต้าจัดให้ได้นะ( :
แต่ขอ130เม้นได้มั้ย? เลขกำลังสวย-.-
ถ้าถึงรับลองว่าจัดให้
แต่ไม่รับลองว่าจะไปรอดรึเปล่า
เกรงว่าจะล่มแบบคยูมิน (โผล่มาตอนเดียวแล้วหาย ถ้าไม่ได้กลับไปอ่านซ้ำต้าก็ลืมไปแล้ว ฮ่าฮ่า)
แต่ยังไงต้าก็จะลองดูนะ
ไปทำการบ้าน+อ่านหนังสือล่ะ
บ๊ายบายค่ะ
อย่าลืมเม้นนะ จุ๊บจุ๊บ-3-&อิ๊อิ๊( :
ปล. วันจันทร์หน้าอยากไปเกาะตู้แล้วดูปลาเว้ยแส่ดดดดดดดดดดดดดดดดดด><
คิดฮ่อดลูกสาวอย่างแรงแรงแรง กรี๊ด ดดดดดดดดดดดด><
update : 100615
ความคิดเห็น