กลิ่นตัว...กลิ่นกาย...
หลายๆ ท่านที่มีปัญหากลิ่นตัว กลิ่นตัวหอมก็ดีไป แต่หากมีกลิ่นที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ ไม่กล้าเข้าใกล้คนอื่น เพราะกลัวว่าคนอื่นรังเกียจ แล้วอยากทราบไหมคะว่าทำไม ตัวของเราถึงมีกลิ่นตัว และกลิ่นตัวของเรามาจากไหน บางคนใช้น้ำหอมก็แล้ว ใฃ้สารส้มก็แล้ว สรรหาวิธีต่างๆ มาใฃ้แล้วก็ยังไม่หาย หรือหายไปแค่ไม่กี่วัน ก็กลับมาเป็นอีก น่ากลุ้มใจใช่ไหมคะ วันนี้ดิฉันมีวิธีลดหรือบรรเทากลิ่นตัวลงสำหรับคนที่มีกลิ่นตัวแรงมาแนะนำให้หลายๆ ท่านลองทำดูค่ะ
กลิ่นตัว (ติดตัวไปตลอดชีวิต) เกิดจากฮอร์โมนในแต่ละบุคคล ซึ่งทุกคนย่อมรู้ว่า ร่างกายของเราจะมีการชับถ่ายทางผิวหนังตามรูขุมขนตลอดเวลา อนึ่ง..ประกอบกับร่างกายของเราต้องเผชิญต่อมลภาวะที่มีในอากาศร้อน การสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่น เสื้อผ้าไม่โปร่งสบาย ผิวหนังของเราก็ย่อมจะมีการหมักหมมของสิ่งสกปรกต่างๆ ไว้ที่ผิวหนัง และเมื่อผสมผสานกับเหงื่อที่ขับออกมาร่วมด้วยตลอดเวลา จากความอับชื้นและแบคทรีเรียเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น จึงเกิดกลิ่นตัวขึ้น
สำหรับคนที่มีกลิ่นตัวน้อย แค่อาบน้ำใช้สารส้มก็คงดีขึ้นนะคะ หรือบางคนก็แค่ใช้โรลออนน์ กลิ่นก็เริ่มจางลง แต่หากเราใช้โรลออนน์ที่มีส่วนผสมของแฮลกอฮอร์ และใช้นานๆ ไป ร่างกายของเราจะมีการดูดซึมของสารเคมีเหล่านั้น อาจจะมีผลข้างเคียงต่อร่างกายของเราคือ อาจจะเป็นมะเร็งได้นะคะ (อ่านจากหนังสือหลายๆ เล่มคะ) แต่สำหรับคนที่มีกลิ่นตัวแรง เอาแบบว่า คนอื่นอยู่ใกล้แล้วต้องยกมือปิดจมูกเลย อย่างนี้ก็ต้องดูแลตัวเองเป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะ
วิธีดูแลตัวเองเมื่อมีกลิ่นตัว
1. อย่างแรกอยากแนะนำว่า ให้สังเกตการดำเนินชีวิตประจำวันจากการใส่เสื้อผ้า ว่าเป็นเสื้อผ้าที่มีการสวมใส่ที่สบาย โปร่ง ระบายอากาศได้ดีหรือไม่ เพราะการใส่เสื้อผ้าที่รัดตัว จนถึงรัดรักแร้ นอกจากจะไม่ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกแล้วยังทำให้เกิดการเสียดสีใต้รักแร้ จนเกิดกลิ่นตัวเร็วขึ้นในระหว่างวัน ถ้าเป็นเช่นนี้..ก็ควรปรับเปลี่ยนนะคะ
2. ในเวลาที่มีสภาพอากาศร้อน สังเกตว่ามีเหงื่อออกมากขนาดไหน ถ้ามีเหงื่อออกมาก ก็ควรพกกระดาษชำระ แป้งเย็น (แนะนำเป็นแป้งโยคี หรือจะเอาไว้ทาหลังอาบน้ำตอนเย็น-ก่อนนอน ช่วยระงับกลิ่นตัว) ไว้ตลอดเวลา เพื่อซับเหงื่อ หรือทำความสะอาดบ่อยขึ้น หรืออาจจะเป็นโรลออนน์ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ (มีส่วนผสมแอลกอฮอร์น้อย)
3. อาหาร ก็ควรทานอาหารที่ไม่มีรสจัดเกินไป หรืออาหารจำพวกที่มีกลิ่นแรง เช่น เนื้อวัว ผักที่มีกลิ่นแรง รสเค็มจัด เพราะอาหารจำพวกนี้นอกจากมีการขับถ่ายในส่วนต่างๆแล้ว ยังจะมีการขับถ่ายออกมาทางผิวหนังด้วยเช่นกัน
4. ดูแลความสะอาดอยู่สม่ำเสมอ ด้วยการอาบน้ำให้สะอาดด้วยการถูขี้ไคล ที่เกิดจากการหมักหมมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย เลือกใช้สบู่ที่มีความเป็นกรดหรือด่าง ให้น้อยที่สุด เพราะถ้าสบู่ที่มีกรดหรือด่างมากเกินไป จะทำลายเซลล์ผิวหนังที่ปกป้องสิ่งสกปรกเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ฟอกสบู่ให้ทั่วถึงทุกส่วน กล่าวคือ ลดการใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมให้น้อยที่สุด
ปัจจุบันทุกคนใส่ใจการดูแลตัวเองมากขึ้น แต่ก็พึ่งกับเทคโนโลยีมากเช่นกัน ด้วยการปรึกษาคุณหมอ (ในกรณีที่มีกลิ่นตัวรุนแรงมากกว่าปกติ) หรือ ใช้ครีมที่ผ่านกรรมวิธีต่างๆ มาใช้ อาจจะได้ผล แต่ก็อาจจะได้ผลแค่ไม่ยืดยาว จนทุกคนลืมไปว่า มีสมุนไพรของบ้านเราที่สามารถรักษาและช่วยลดกลิ่นตัวได้เช่นกัน ก็คือ มะขามเปียก ด้วยการนำมะขามเปียกมาละลายน้ำเพียงเล็กน้อย ใช้ถูใต้รักแร้ หรือทาทั้งตัว ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรืออีกวิธีหนึ่ง ก็นำมะขามเปียก 2 ส่วนที่เป็นน้ำมะขามเปียกเข้มข้น + น้ำผึ้ง 1 ส่วน ถูให้ทั่วทั้งตัวและทิ้งไว้ 10 นาทีเช่นกัน นอกจากจะช่วยให้กลิ่นตัวลดลงแล้วยังช่วยให้ผิวนุ่มสวยได้อีกด้วยค่ะ แต่ที่ลืมไม่ได้ก่อนนอนอย่าลืมทาแป้งเย็น (แป้งโยคีทาใต้รักแร้) ช่วยลดกลิ่นตัวได้อีกทางค่ะ ดิฉันทำวิธีนี้มาได้สักพักแล้วค่ะ ได้ผลและอยากแนะนำให้หลายๆ ท่านได้ลองดูค่ะ
คอนโดแมว , พัดลมมือถือ , หมอนผ้าห่ม , หมอนหัวทุย , เก้าอี้หัดนั่ง
ความคิดเห็น