killer123
ดู Blog ทั้งหมด

ยูโร 2008 รอบ 8 ทีมสุดท้าย..

เขียนโดย killer123

ฟุตบอลยูโร 2008 เดินทางมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว รอบนี้เป็นนัดพิสูจน์คุณภาพ เรามีวิเคราะห์ทั้ง 4 คู่ให้ชาว MSN ได้ร่วมวิเคราะห์เจาะลึกไปด้วยกัน ทั้ง 8 ทีมนั้นได้แก่การเจอกันของ โปรตุเกส-เยอรมัน, โครเอเชีย-ตุรกี, ฮอลแลนด์-รัสเซีย และสเปน-อิตาลี





ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 6/19/2008 3:26:20 PM

โปรตุเกส-เยอรมัน
วันที่ 19 มิ.ย. เวลา 01.45 น.
สนาม ; เซนต์ จาคอบ เมือง บาเซิล, สวิสเซอร์แลนด์
ผู้ตัดสิน ; ปีเตอร์ ฟอร์สเฟลด์ (สวีเดน)
ถ่ายทอดสด : ช่อง 7 สี
ผู้บรรยาย ; อิสรพงษ์ ผลมั่ง, สุริยะ กุลธำรง, สะสม พบประเสริฐ

 รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดพิสูจน์คุณภาพ โปรตุเกส หนึ่งในทีมที่โชว์ฟอร์มได้ดีในรอบแรก เข้ารอบหลังผ่านสองเกมและเป็นทีมแรก นัดนี้พบกับ เต็งแชมป์อีกทีมหนึ่งที่ผลงานยังไม่เข้าตาสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะสองเกมล่าสุดก่อนจบรอบแรก

 นัดนี้สนาม เซนต์ จาคอบ มีการปูหญ้าใหม่เพื่อให้พร้อมต่อการรองรับเกมอันสนุก ตื่นเต้นระหว่างสองทีมสองสไตล์ ที่มาเจอกันในรอบนอคเอาต์ แน่นอนต้องมีทีมหนึ่งไปต่ออีกหนึ่งทีมกลับบ้านก่อนเวลาอันควร

 โปรตุเกสไม่มีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่น พร้อมมาก ขุมกำลังที่พักในนัดสุดท้ายรอบแรกกลับมาลงเล่นพร้อมหน้าพร้อมตา ในระบบ 4-3-3 ของ หลุยส์ เฟลิเป สโกลารี แนวรับนำโดย ริคาร์โด นายประตู ริคาร์โด คาร์วัลโญ กับเปเป มี แฟร์รารา และ โบซิงวา

 แดนกลาง เจา มูตินโญ กับ เปอตีต์ คอยเล่นเกมรับให้ เดโก เดินหน้ากับ โรนัลโด, นูโน โกเมซ และ ซิเมา ซาโบรซา

 ส่วนทางฝั่งเยอรมันมีปัญหาเรื่องสภาพทีมเหมือนกัน เกมนี้ โยอัคคิม เลิฟ ไม่สามารถยืนบัญชาการข้างสนามได้ เพราะติดโทษจากนัดล่าสุดที่ชนะออสเตรีย เมื่อถูกผู้ตัดสินเชิญขึ้นบนอัฒจันทน์ นัดนี้ ดีเตอร์ ฟลิค อดีตกองหลังบาเยิร์น มิวนิค ในฐานะมือขวาของ เลิฟ จะทำหน้าที่แทน

 ตัวผู้เล่นอาจปรับเปลี่ยนในตำแหน่งฟูลแบ๊กคาดว่า ฟิลิป ลาห์ม ยืนแบ๊กซ้ายต่ออีกหนึ่งเกมส่วน อาร์เน ฟรีดิช เล่นแบ๊กขวา คู่เซนเตอร์ แมร์เตซัคเกอร์ กับ เมตเซลเดอร์ แดนกลาง ฟริงค์ กับ บัลลัค ขณะที่ริมเส้นจะเป็น ลูคัส โพดอลสกี้ กับ เคลเมนต์ ฟริทซ์ หน้าคู่ โกเมซ กับ โคลเซ ที่ฝืดทั้งคู่ในทัวร์นาเม้นต์นี้

 เกมนี้ สูสี กันในแง่ของแทกติก แต่แง่ของเทคนิคตัวผู้เล่นแล้ว โปรตุเกสดูเหนือและพลิ้วกว่า เยอรมันจะชนะส่วนนี้ได้ต้องใช้กลยุทธ์มาช่วย จุดอ่อนของ โปรตุเกสคือ กองหลังมีปัญหากับการป้องกันลูกกลางอากาศ ขณะที่นักเตะดูเหมือนยังชอคกับการลาออกกลางทัวร์นาเม้นต์ของ เฟลิเป สโกลารี เพื่อคุมเชลซี

 ข่าววงในระบุว่านักเตะโปรตุกีส มีทีท่าไม่ยอมรับเรื่องนี้เท่าไหร่ ขณะที่เยอรมัน แม้ฟอร์มไม่เข้าที่ ยังหาฟอร์มเหมือนฟุตบอลโลกไม่เจอ แต่เชื่อว่านัดนี้พวกเขาน่าจะได้โอกาสปล่อยทีเด็ดออกมาเล่นงาน โปรตุเกสได้ หัวใจของเยอรมันยังร้อยเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ โปรตุเกสเองมีจุดอ่อนแนวรับเหมือนเยอรมัน

 ทัศนะ...โปรตุเกส แพ้ เยอรมัน ในการดวลจุดโทษ (หลังเสมอในเวลาปกติ)

โครเอเชีย-ตุรกี
วันที่ 20 มิ.ย.เวลา 01.45 น.
สนาม : แอร์นต์ ฮัปเปิล, เวียนนา
ผู้ตัดสิน ; โรแบร์โต้ โรเซตติ (อิตาลี)
ถ่ายทอดสด ; โมเดิร์น ไนน์ทีวี
ผู้บรรยาย ; สาธิต กรีกุล, สมศักดิ์ สงวนทรัพย์, พิชัย ปิตุวงค์

 เทียบฟอร์มในรอบแรกต้องยอมรับว่าทีมของ สลาเวน บิลิช เหนือกว่า แถมยังไม่เหนื่อยอะไรมากมายในการเล่นทั้งสามเกม ตรงกันข้ามกับตุรกี ที่เข้ารอบมาแบบเหนื่อยทั้งกายและใจโดยเฉพาะเกมนัดชี้ชะตาพวกเขา พลิกชนะ สาธารณรัฐเชกอย่างเหลือเชื่อทั้งที่โดนนำ 2-0 แล้วมาชนะ 3-2 ยิงใน 15 นาทีสุดท้าย

 อย่างไรก็ตามชัยชนะสองเกมหลังสุดของรอบแรกทำให้นักเตะตุรกีมั่นอกมั่นใจมากไม่น้อย และทำให้พวกเขาน่าจะกลายเป็นทีมที่มีโอกาสสร้างความมหัศจรรย์เหมือนกรีซได้ไม่ยาก โดยเฉพาะ โครแอต เองคงหนาวๆร้อนๆแล้วเวลานี้

 อย่าลืมว่ากลยุทธ์ของโครเอเชีย ที่ใช้มาตลอดคือการเล่นรับแล้วโต้ เล่นด้วยวินัยและความอดทน ผสมผสานกับเทคนิคส่วนตัว บีบให้คู่แข่งเล่นพลาดจากนั้นฉวยโอกาสโจมตี แล้วหากพวกเขาขึ้นนำ เกมจะเข้าทางโครแอตมากขึ้น

 แต่นี่ก็คือเกมของตุรกีเหมือนกัน ยิ่งทีมไก่งวงผ่านวิกฤตแบบนี้มาได้แล้วด้วย โครเอเชีย ยังไม่เจอเกมยากเลยสักนัด เข้าใจว่านัดนี้พวกเขาคงถูกบีบให้เดินเข้าหามากกว่าตั้งรับ

 ตัวผู้เล่นของ โครเอเชีย ไร้ปัญหา เปลติโกซ่าเฝ้าเสา แนวรับทั้ง โรเบิร์ต โควัช, โจเซฟ ซิมูนิช นำทีมแนวรับ แดนกลาง ลูกา โมดริช เน้นเกมรุกโดยมี นิโก โควัช ช่วยเกมรับให้ ขณะที่แดนหน้า เปตริช กับ โอลิช ยังเป็นคู่กองหน้าเหมือนเดิม ส่วนทางด้านตุรกี นั้นมีปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายคนโดยเฉพาะแนวรับของพวกเขา เป็นปัญหาให้ ฟาติห์ เตริม คิดหนักเหมือนกัน

 เซติน กับ อาซิค คู่เซนเตอร์ ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกันกับ กอคาน ซานฟูลแบ๊กของพวกเขาไม่ฟิตสมบูรณ์ แถมยังต้องเสียนายประตู เดมิเรล ที่โดนใบแดงพักแข้งสองนัดอีกต่างหาก มองรูปเกมแล้ว สภาพทีมเป็นรองเยอะ แต่ตุรกี คงต้องเล่นด้วยหัวใจแน่นอน พวกเขาเล่นแบบนี้มาสามนัดแล้ว แนวรุกจะมี นิฮัต คาห์เวชี กับตุนชาย ซานลี นำทีม รอเล่นโต้กลับแล้วจังหวะเซตพีซ

 ดูแล้ว โครเอเชีย คงเหนือกว่าในเรื่องของเกมการเล่นและตัวผู้เล่น ตุรกี คงตั้งมั่นเล่นเกมรับอย่างเหนียวแน่น อย่างน้อยรอจังหวะให้โครแอตพลาด ซึ่งเชื่อว่า เมื่อโครเอเชีย ต้องบุกบ้างพวกเขาน่าจะมีปัญหาเหมือนกัน  คงเจาะตุรกีชุดไม่เต็มร้อยยาก  แล้วพวกเขาน่าจะเจอเกมที่เล่นยากถึงขนาดทำพลาดด้วยเช่นกัน

ทัศนะ...โครเอเชีย พลิกลอคแพ้ตุรกี 0-1

ฮอลแลนด์ – รัสเซีย
สนาม : เซนต์ จาคอบ, บาเซิล
ถ่ายทอดสด ; ช่อง 7 สี
ผู้บรรยาย ; วีรศักดิ์ นิลกลัด, อดิสรณ์ พึ่งยา, สุรเดช สันติเลิศประภพ

 นี่คืออีกหนึ่งเกมที่เปี่ยมด้วยประเด็นอันเร้าใจ เมื่อ กุส ฮิดดิงก์ คุมทีมรัสเซีย มาพบกับชาติตัวเอง ฮอลแลนด์  ในฐานะหนึ่งในกุนซือขวัญใจคนฮอลแลนด์ทั้งชาติ ฮิดดิงก์ ต้องปะทะกับกุนซือรุ่นหลานอย่าง ฟาน บาสเท่น คุมชาติอื่นเพื่อล้มชาติตัวเอง...ประเด็นมันอยู่ตรงนี้

 “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ กำลังได้ใจ พวกเขาได้รับคำชมในฐานะมืออาชีพที่เล่นเกมรุกได้สวยงาม ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง แถมยังมีเกมโต้กลับที่รวดเร็วและแม่นยำด้วยเช่นกัน นัดนี้ มาร์โก ฟาน บาสเท่น จะได้นักเตะกำลังสำคัญกลับมาพร้อมหน้า หลังพักในนัดสุดท้าย

 รุด ฟาน นิสเตลรอย นำทีม โดยมี ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท, เวสลีย์ ชไนเดอร์ และ เดิร์ค เคาต์ สนับสนุนเกมรุก ขณะที่มิดฟิลด์คู่กลางจะเป็น ไนเจล เดอ ยองและ เอนเกลาร์ แนวรับของพวกเขามี  อังเดร ออยเยอร์, คาห์ลิด บูลารูซ, มาไธจ์เซน ยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟ และ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ เล่นแบ๊กซ้าย

 รัสเซีย ได้ความมั่นใจมากขึ้นเยอะเมื่อล้มสวีเดน เข้ามาตัดกับ ฮอลแลนด์ โดยเฉพาะการได้ อังเดร อาร์ชาวิน มาเป็นหัวใจในแนวรุก กับ พาฟลิวเชนโก้ ส่วนแดนกลาง เซมชอฟ, ซิริยานอฟ และอีกคนหนึ่งคือ ซาเอนโก น่าจะได้เล่นตัวจริงเกมนี้ โดยมี เซมัค คุมเกมตรงกลาง 4 แนวรับชุดเดิม

 ....เกมนี้ ฮอลแลนด์ ต้องเดินหน้าเข้าหา เพราะรัสเซีย ไม่บุกรอสวนกลับอย่างเดียว นัดนี้เป็นการพิสูจน์ความแม่นในการเล่นเกม และกุนซือทั้งสอง ฮิดดิงก์ ประสบการณ์เหนือกว่า ฟาน บาสเท่น แต่นักเตะ ฮอลแลนด์ เหนือกว่า

 ยังเชื่อในความหลากหลายของแนวรุก ฮอลแลนด์ น่าจะจัดการ รัสเซียได้ แม้ยากลำบากอย่างไรก็ตาม

 สกอร์เหมาะสม ฮอลแลนด์ ชนะ รัสเซีย 2-0

สเปน – อิตาลี
สนาม : แอร์น ฮัปเปิล, เวียนนา
ถ่ายทอดสด ; โมเดิร์น ไนน์ ทีวี
ผู้บรรยาย ; ไพโรจน์ กิ่งแก้ว, นพนันท์ ศรีศร

 ครั้งล่าสุดที่สเปนชนะอิตาลีในเกมทัวร์นาเม้นต์สำคัญคือเมื่อ 88 ปีมาแล้ว นับจากนั้นพวกเขาสะกดคำว่าชนะอิตาลีไม่เป็นเลย แม้ว่าเดือนมีนาคมสเปนจะชนะอิตาลี 1-0 แต่นั่นคือเกมอุ่นเครื่องที่ประลองกำลังเหมือนจะรู้ว่ามีโอกาสพบกัน

 แข่งจริงช่วงหลังมาอิตาลีข่มสเปนมิด พวกเขาเหนือกว่าในแง่ของจิตวิทยา แม้ว่าหนังสือพิมพ์สเปนจะโปรยหัวเล่นสงครามโจมตีอิตาลีว่าเป็นทีมที่เล่นน่าเบื่อ เน้นเกมรับ มีโชค ชอบเล่นตุกติก นอกเกม คิดแต่จะเน้นผลชนะ ไม่มีความสวยงามเลย

 นี่จึงเป็นประเด็นที่เปิดมาให้แฟนบอลทั้งสองชาติได้เกิดความขัดแย้งและส่งผลให้เกมนั้นตึงเครียดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 หลุยส์ อราโกเนส จะเล่นระบบ 4-4-2 เหมือนเดิม ดาวิด บียา กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ข่มขวัญแนวรับอิตาลี โดยมี อีเนียสต้า, ชาบี เอร์นานเดส, เซนนา และ ซิลบา เล่นกลาง ส่วนทางด้านแนวรับ มาร์เชนา จะเล่นกับ ราอูล อัลบิออล ถ้า ปูโยลไม่หาย แบกเซร์คิโอ รามอส กับ คัปเดบีลา

 ทางฝั่งอิตาลีไม่มี กัตตูโซ กับ อันเดรีย ปีร์โล ที่ติดโทษแบนหลังได้ใบเหลืองรอบแรกสองใบ ทำให้ โรแบร์โต้ โดนาโดนี ต้องส่ง มัสซิโม อัมโบรซินี ลงมาเล่นตรงกลางกับ เด รอสซี และ คาโมราเนซี อีกคนหนึ่ง ส่วนแนวรุก แปร์รอตต้า จะยืนสนับสนุน คาสซาโน กับ โทนี เหมือนเดิม แนวรับ ปานุชชี, คิเอลลินี, ซัมบรอตต้า และ กรอสโซ

 ปัญหาของอิตาลีคือแดนกลางที่ขาด ปีร์โล ตัววางบอลยาวและตัวเตะลูกนิ่ง ดูแล้วพวกเขาคงปล่อยให้สเปนบุกเข้าใส่ และหาโอกาสโต้กลับโจมตี คาดว่าเกมรับของอิตาลีคงแน่นจนสเปนเจาะไม่ได้ กลายเป็นเกมที่สูสี เว้นเสียแต่ว่าสเปนจะฮอตทอปฟอร์มจริงๆ

 แต่เชื่อว่าชั่วโมงนี้ อิตาลีเหมือนเสือที่ถูกปล่อยเข้าป่ามาแล้ว พวกเขาน่าจะรัดกุมพอที่จะเบรกเกมรุกสเปนได้ และไม่พลาดเหมือนสวีเดน

 ทัศนะ...เกมเป็นของสเปน แต่เจาะไม่เข้า อิตาลีรับสุดเหนียว สุดท้ายดวลจุดโทษ อิตาลี ดวงแข็งกว่า ชนะ เข้ารอบรองชนะเลิศในที่สุด

บทความโดย "แจ็คกี้" อดิสรณ์ พึ่งยา

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น