
การต่อสู้ระหว่างแสงกับความมืด!! เกมแอ็คชั่นที่ให้พวกตัวละครในซีรี่ส “FF” ได้มาทำการต่อสู้แบบตัวต่อตัว โดยใช้ชื่อว่า “ดิสซิเดีย FF” ที่ผ่านมานั้น ได้เปิดเผยเรียบร้อยแล้วถึงตัวละครที่มาจาก “FF” ยุคแรก,ภาค “2”, “VIII”, “IX” และก็ “X” จากนั้น ได้มีการเปิดเผยถึงการปรากฏตัวของ เมฆาแห่งความมืด และก็ Onion knight (นักดาบหัวหอม) นอกจากนี้ ยังขอเสนอ รายละเอียดของระบบต่อสู้ พร้อมรายงานการทดลองเล่นจากงาน DK zigma 3713 
Cloud of Darkness (เมฆาแห่งความมืด) (CV: อิเคดะ มาซาโกะ) ปรากฏจากความมืด เพื่อนำทุกสิ่งทุกอย่างสู่ความว่างเปล่า เคลื่อนไหวดุจเมฆและโจมตีด้วยหนวดกับปืนใหญ่คลื่น โดยคุณมิตซึโนริ ทากาฮาชิผู้กำกับดูแลด้านการต่อสู้ได้บอกว่า “เมฆาแห่งความมืดเป็นเจ้าแห่งคลื่นพลังในการโจมตี สามารถโจมตีได้หลากหลายรูปแบบ จึงมีการโจมตี ที่หลากหลายมากที่สุดในบรรดา ตัวละครทั้งหมด” 

สาวสวยผู้ปกคลุมทุกอย่างด้วยความมืด แล้วส่งกลับสู่ความว่างเปล่า 
Onion Knight (นักดาบหัวหอม) (CV: ฟุึุคุยามะ จุน) Onion Knight (นักดาบหัวหอม) ซึ่งประกฎออกมาใน “FF III” เป็นอาชีพหนึ่งในอาชีพในเลือก ส่วนคอนเซ็ปท์การพัฒนา คุณ ทากาฮาชิก็ได้บอก ว่า “ได้ทั้ง เมจิก ออร์ ซอร์ด จึงมีความเป็นเลิศด้านความสมดุลในการโจมตีด้วยดาบกับเวทย์มนต์ แถมระดับความเร็วในการเคลื่อนที่ ก็ถือว่าเร็วสุดยอด และได้สร้างการเคลื่อนไหวโดยใช้โมชั่นการโจมตีที่ดูดีของภาคดั้งเดิมเป็นต้นแบบ” โหมด EX สร้างเอกลักษณ์ในกับตัวละคร !! “โหมด EX” จะเป็นการแปลงร่างโดยใช้ “เกจ EX” ซึ่งพอได้ใช้สิ่งนี้ในการต่อสู้แล้ว จะทำให้ความสามารถเพิ่มขึ้น และพลังกายค่อยๆฟื้นฟู นอกจากนี้ ยังได้รับผลลัพธ์แบบพิเศษซึ่งได้ กำหนดมาให้กับแต่ล่ะตัวละคร อย่างเช่น เพิ่มระดับความเร็วในการเคลื่อนที่ และอื่นๆ 
เกจที่อยู่ทางด้านข้างภาพของตัวละคร ก็คือ เกจ EX และพอใส่คำสั่งในตอนที่เต็ม ก็จะใช้โหมด EX ได้ 

โหมด EX ของ Onion Knight ออกจะพิเศษอยู่นิดหน่อย คือในตอนโจมตีด้วยอาวุธ จะแปลง กายเป็นนินจา ส่วนตอนที่โจมตีด้วยเวทย์มนต์จะเป็นนักปราชญ์ EX บาสต์ ท่าไม้ตายที่ใช้ในขณะที่อยู่ในโหมด EX เป็นท่าใหญ่ที่ใช้พลิกสถานการณ์ได้ในทีเดียวได้! 
EX บาสต์ของ คุจา “ล๊าสท์เรเควียม” (Last requiem) รายงานจากงาน DK zigma 3713 อัศวินหัวหอมมีความโดดเด่นในความใช้ง่ายซึ่งใช้การโจมตีต่อเนื่องที่รู้สึกดีหน่อยๆคว่ำศัตรูได้ และที่อยากเขียนบอกเป็นพิเศษ คือในตอนที่ใช้ EX เบอสท์ เพราะถ้าเป็นนินจา จะมีวินโดว์ คำสั่งโผล่ออกมา และจำเป็นต้องเลือก “ชุริวเค็น” (ดาวกระจาย) จาก “นาเงรุ” (ขว้าง) อีกทีหนึ่ง (มิ หนำซ้ำ ในทุกๆครั้ง ตำแหน่งของดาวกระจาย ก็จะเปลี่ยนไปด้วย!) แถมยังจะได้อมยิ้มไปกับการ กำกับฉากเผด็จศึกศัตรูพร้อมข้อความว่า “แบ็คแอ็คแท็ก!” ในส่วนของนักปราชญ์ก็จะต้องเลือก “โฮลี่” จากคำสั่ง “มาโฮ” (เวทย์มนต์) หากเลือกการ์แลนด์ ตอนที่เจอกับ วอร์ริเออร์ ออฟ ไลท์ จะเป็นปัญหามากๆ เพราะเมื่อเข้าใกล้ได้ก็จะถูกดีดด้วย ชิลด์ ออฟ ไลท์ ในทันที และจบลงด้วยการพ่ายแพ้ แต่ถ้าหากใช้การปรับแต่งทดแทนข้อได้เปรียบเสียเปรียบแล้ว ก็คิดว่า คงกลายเป็นเกมที่มีขอบเขตกว้าง ได้คิดและท้าสู้จนแพ้มาแล้ว!! |
ความคิดเห็น