![]() |
อย่าลืมว่าทั้งสองทีมมีโปรแกรมแข่งขันหลังทราบผลระหว่าง สโต๊ค กับ ลิเวอร์พูล หากผลเป็นใจให้ “หงส์แดง” ชนะ พวกเขาจะนำ เชลซีเป็น 6 แต้ม และถือว่านี่คือช่องว่างที่ห่างเป็นครั้งแรกในรอบฤดูกาล และนั่นอาจทำให้เกมระหว่างเชลซี นัดบุกผีเกิดความตึงเครียดมากกว่าปกติ
เช่นกันครับ “ปีศาจแดง” ต้องการชนะเพื่อประกาศศักดิ์ศรีของแชมป์เก่า ตัวจริงเสียงจริงอีกทั้งมันยังได้ทำให้พวกเขาคุมสถานการณ์ที่ได้เปรียบเอาไว้ เมื่อมีเกมกลางสัปดาห์พบกับวีแกน หากพวกเขาเก็บ 6 คะแนนได้ในสองนัดนี้
“ปีศาจแดง” จะกดดันลิเวอร์พูล “จ่าฝูง” ได้มากกว่าเดิมเช่นกัน
สำหรับสถิติระหว่างคู่นี้คงต้องบอกว่า แมนฯยูฯ ยังเหนือกว่า เชลซี เมื่อเล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ต้องยกเว้นช่วง 10 ปีหลังสุดนี้ เจ้าบ้านเจอกับงานยากเหมือนกัน หลายปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะยุคของ โชเซ มูรินโญ นั้น แมนฯยูฯ ชนะ เชลซีในบ้านตัวเองไม่ง่าย
บางปีแพ้ขาดเช่นกัน
ยิ่งกว่านั้นปีนี้ เชลซี เล่นนอกบ้านได้น่ากลัวมากพึ่งสะดุดเสมอกับฟูแล่มเท่านั้น ก่อนหน้านี้บุกถล่มแหลกเจ้าบ้าน นี่จึงเป็นตัวเลขที่แฟนผีประมาทไม่ได้เช่นกัน
สถิติตลอดกาล แมนฯยูฯ-เชลซี
แมนฯยูฯ ชนะ | เสมอ | เชลซี ชนะ | |
ลีกสูงสุด | 55 | 41 | 37 |
เอฟเอ คัพ | 8 | 1 | 2 |
ลีก คัพ | 2 | 1 | 1 |
อื่นๆ | 0 | 3 | 1 |
Total | 65 | 46 | 41 |
สถิติล่าสุด ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
| 2007/2008 | ||||
| English Premier | Manchester United | 2-0 | Chelsea | 23-09-2007 |
| 2006/2007 | ||||
| English Premier | Manchester United | 1-1 | Chelsea | 26-11-2006 |
| 2005/2006 | ||||
| English Premier | Manchester United | 1-0 | Chelsea | 06-11-2005 |
| 2004/2005 | ||||
| English Premier | Manchester United | 1-3 | Chelsea | 10-05-2005 |
| 2003/2004 | ||||
| English Premier | Manchester United | 1-1 | Chelsea | 08-05-2004 |
| 2002/2003 | ||||
| English Premier | Manchester United | 2-1 | Chelsea | 18-01-2003 |
| 2001/2002 | ||||
| English Premier | Manchester United | 0-3 | Chelsea | 01-12-2001 |
| 2000/2001 | ||||
| English Premier | Manchester United | 3-3 | Chelsea | 23-09-2000 |
| 1999/2000 | ||||
| English Premier | Manchester United | 3-2 | Chelsea | 24-04-2000 |
“ปีศาจแดงพร้อม”
นัดแพ้ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในช่วงกลางสัปดาห์ต้องยอมรับว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่ค่อยเน้นสักเท่าไหร่ จัดนักเตะชุดสองลงสนามปะปนกับนักเตะชุดใหญ่ แถมยังเล่นเกมไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งส่ง คริสเตียโน โรนัลโด กับ เวย์น รูนีย์ ลงมาเล่นในครึ่งหลัง แต่พวกเขาก็เล่นไปตามเกม ไม่มีอะไรหวือหวา
นั่นหมายความว่าหัวจิตหัวใจของพวกเขาลอยมาอยู่ในเกม ซุปเปอร์ ซันเดย์ กับ เชลซี แล้วนั่นเอง คาดว่าเกมนี้พวกเขาจะขนนักเตะชุดใหญ่ลงเล่นพร้อมหน้าพร้อมตา และนั่นหมายความว่า คาร์ลอส เตเวซ จะต้องเป็นตัวสำรอง
ทั้งสถานะกาณณ์ระหว่างเขากับทีมและแทกติก เตเวซ นั่งดูจากข้างสนาม เพื่อหลีกทางให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนีย์ และ โรนัลโด ส่วนแดนกลาง ไมเคิล คาร์ริค มาประจำการ และน่าจะมีชื่อ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ นักเตะที่ชอบเล่นดีกับเกมใหญ่ลงช่วยงานตรงกลาง ส่วนแนวรับนั้น แกรี เนวิลล์ อาจได้โอกาสเกมใหญ่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ น่าผ่านการทดสอบความฟิตลงสนาม
สิงห์บลู ฟอร์มตก
ต้องยอมรับว่าช่วงเดือนที่ผ่านมา เชลซี ฟอร์มตกจากเดิมเยอะทีเดียว พวกเขาเล่นเกมไม่น่ากลัวเหมือนเมื่อต้นฤดูกาล หลายเกมกว่าจะชนะยากลำบาก ไม่มีฟอร์มที่สวยสดเหมือนช่วงแรกที่ไล่กระหน่ำประตูคู่แข่งขันกระจาย
21 แต้มจาก 7 เกมของพวกเขาทำได้แค่ 10 แต้ม นี่คือเรื่องที่น่าผิดหวังมากๆ
เกมนี้ หลุยส์ เฟลิเป สโกลารี คงมีการปรับแทกติกการเล่นและคุยกับนักเตะตัวเองอย่างเข้มข้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะพื้นที่แดนกลางซึ่ง เชลซี ต้องการปิดเกมรุกของ แมนฯยูฯ เพื่อไม่ให้เดินหน้าไปถึง เบอร์บาตอฟ, โรนัลโด และ รูนีย์
นัดนี้ สโกลารี จะส่ง เดโก, มิเกล, แลมพาร์ด และ โจ โคล ลงเล่นพร้อมกัน ส่วนกรณีของ ดิดีเยร์ ดรอกบา กับ อเนลกา นั้นไม่น่าจะเล่นด้วยกัน ส่วน กาลู และ มาลูดา คงสำรอง เฉพาะรายหลังนั้นอาจหายไม่ทันเกมนี้ด้วยซ้ำ
สูสี น่าออกเสมอ
คู่นี้รู้ทันกันหมด ไม่ว่าจะเป็นโค้ชมาแล้วสองคน นักเตะทั้งสองทีมดีกรีระดับทีมชาติ เล่นเกมตามกลยุทธ์ และเข้าใจแผนของโค้ชดีอยู่แล้ว คงทำให้เล่นเกมกันยาก คงไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้ครองบอลมากกว่ากัน และเหมือนบิ๊กเกมคู่อื่นๆคือ คงจะต้องสู้กันด้วยความผิดพลาด แล้วยิงประตูจากจุดนั้น
พอได้ประตูขึ้นนำสถานการณ์และจังหวะเปลี่ยน จะทำให้เกมของอีกฝั่งเป็นใจ นี่จึงเป็นเกมที่วัดความนิ่งของทั้งสองทีม ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีพอๆกัน
สุดท้ายคงแบ่งแต้มกันตามคาดถ้าแพ้ชนะคงต้องเหนื่อยสุดๆ เป็นสกอร์สูสี แต่ผมเชื่อว่าคู่นี้น่าออกเสมอแบบมีสกอร์เช่นกัน
1-1 ยุติธรรมดี

ความคิดเห็น