ลำดับตอนที่ #20
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : จิ้งจอกมหัศจรรย์ตอนที่18 : Copycat 100%
(ตอนนี้สั้นหน่อยเพราะไรท์เร่งแต่ง)
เอเดรียนก็มาเรียนตามปกติของเขาเช่นกัน พวกเราพูดคุยกันบ้างแต่ฉันพยายามตีตัวออกห่างจากคุณพระเอกเล็กน้อย..
เพราะดูเหมือนเขาจะเริ่มออกหาตัวตนของซิลเวอร์ฟ็อกซ์อย่างจริงจังแล้ว! เขาสงสัยว่าซิลเวอร์อาจจะเป็นฉัน...มีครั้งหนึ่งที่เขามายืนดักรอแล้วแอบถามอ้อมๆว่าฉันเป็นซิลเวอร์ฟ็อกซ์หรือเปล่า?
ใจฉันหล่นไปแทบเท้า ก่อนที่จะกลบเกลื่อนด้วยการแสดงชั้นยอด หัวเราะออกไปเหมือนว่าที่เขาพูดมันน่าตลกสิ้นดี แล้วตอบไปว่าไม่ใช่หรอก
"นั้นสินะ..เธอคงไม่ใช่อยู่แล้ว ซิลเวอร์มีตาสีทองนี่นา แล้วมีปลายผมสีฟ้าด้วย แถมซิลเวอร์ก็ขี้แกล้งคนอื่นแล้วยังเจ้าเล่ห์อีก" เอเดรียนคิดก่อนจะหัวเราะออกมา
ทำให้ฉันที่ร่วมหัวเราะกับเขาคิ้วกระตุก
บางที...คุณพระเอกก็พอฉลาดอยู่นะ ถ้าฉันห้ามใจไม่ได้ไปแกล้งเขากลับจนอายม้วน เจ้าตัวจะสงสัยคิดว่าฉันคือซิลเวอร์ไหม? ก็ในเมื่อฉันตอนเป็นซิลเวอร์รุกเขาหนักมากเลยนี่นา..
แล้วเขาจะมาคิดได้ไงว่าไดอาน่า ซีมัวร์ ที่ถูกเขาแกล้งหยอกล้อตลอดจะมาเป็นจิ้งจอกสาวคนนั้น!
เฮ้อ...กลับมาเข้าเรื่องต่อ ส่วนฮิโร่ที่ต้องออกไปต่อสู้กับอาคุม่าก็ปกป้องเมืองต่อไป โดยที่ไม่ได้เงินเดือนกลับมา แถมยังต้องมาขาดวิชาบางคาบในโรงเรียนอีก
ช่วงนี้ฉันเริ่มถูกมิแรนด้าจับตามองดูแล้วเพราะเป็นคำสั่งจากคุณแม่มาอีกที...โชคดีนะที่นาธานรู้สาเหตุของเรื่องทั้งหมด เขาเลยพยายามช่วยฉันที่ช่วยได้ เธอเลยไม่ขาดเรียนเยอะมากเพราะเขาหาข้ออ้างให้
'พี่ชายฉันน่ารักที่สุด!'
วันนี้เป็นวันเปิดตัวรูปปั้นเลดี้บัคกับแคทนัวร์และก็ฉัน ปารีสให้การยอมรับฮิโร่ของเมืองมานานแล้ว แต่พวกเขาเพิ่งจะมาสร้างรูปปั้นพวกเราเพิ่งเสร็จ
ฉันได้รับข้อความจากนายกเทศมนตรีเรื่องขอเชิญให้เหล่าฮิโร่ของปารีสมาร่วมงานพร้อมกันตอนบ่ายโมง
ย๊าก!
ไฮ่ย!
ผัวะ ผัวะ!
"หัว! ด้านขวา" เสียงหวานเอ่ยขึ้นเสียงดัง ก่อนที่ดาบไม้ในมือจะฟาดลงไปที่หัวคนตรงหน้า
ฮ่าห์!
ผัวะ! ตุบ!
อูยย
ร่างในชุดเกราะสีดำล้มลงบนเสื่อของลานฝึก ทุกคนต่างหันมามองที่ร่างสูงใหญ่กว่า ทว่าล้มลงไปเสียงดังพร้อมดาบไม้หลุดจากมือ
"เม็งอะริ!(หัว) ไดอาน่าชนะ2-0"
"ยังจับไม้ไม่แน่นพอ!" เสียงใสดังขึ้นมา ร่างสีดำเล็กยืนตะง่านอยู่โดดเด่น พร้อมชี้ไม้ไปทางร่างชุดเกราะดำที่ตัวใหญ่กว่าด้วยกัน
"ลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง"
"ไม่เอาแล้ว ขอพักก่อนเถอะ! โหดไปแล้ว" เสียงร้องโอยครวณจากคนข้างล่างพูดขึ้น ทำให้ครูฝึกสอนศิลปะเคนโด้ของญี่ปุ่นในปารีสยกยิ้มขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ
"คำนับ" เด็กสาวและชายหนุ่มโค้งคำนับให้แก่กันเมื่อต่อสู้เสร็จ
"ถ้างั้นเปลี่ยนคู่แล้วกัน ใครจะมาฝึกคู่กับคุณซีมัวร์บ้าง?" สิ้นคำพูดของครูฝึก ทุกคนพร้อมใจกันส่ายหัวพรืดทันที พวกเขารู้จักฝีมือของเด็กสาวดี เพราะทุกคนในห้องเคยฝึกกับไดอาน่ามากันทุกคนแล้ว
ครูฝึกกวาดสายตามองเด็กๆทุกคน ก่อนจะถอนหายใจระอากับลูกศิษย์ของตัวเอง ที่สู้เด็กผู้หญิงตัวเล็กไม่ได้
" เอาล่ะ พัก10นาที อีก10นาทีค่อยมาฝึกใหม่" เสียงทุ่มเอ่ยขึ้นเหมือนสาดแสงส่องลงมาที่ทุกคนบนลานฝึก
"ครับ/ค่ะ!"
'ไดอาน่า'เหลือบสายตามองครูฝึกชื่อ'ไฮเม'เล็กน้อย ก่อนจะขานรับในลำคอ พร้อมกับถอดหมวกเกราะออก เผยให้เห็นเรือนผมสีเงินโดดเด่นและแววตาสีฟ้าครามสดใส
พรึ่บ
มือเรียวยกขึ้นมาดึงผ้าที่คลุมผมออก ทำให้เส้นผมยาวสลวยทิ้งตัวลงมาเหมือนสายธาร แก้มแดงระเรือเล็กน้อยจากการออกแรง ดวงตาสีฟ้าหลุบลงพร้อมหยิบผ้ามาเช็ดเหงื่อข้างขมับตัวเอง
"ฟู่ เหนื่อยจัง" ใบหน้าสวยหวานตรึงสายตาให้รอบข้างหันมองมาด้วยใบหน้าแดงๆ
พวกเขามองหญิงสาวเรือนผมสีเงินด้วยความเคริ้มฝันและชื่นชมอยู่ในใจ ไม่ว่าจะชายหรือหญิงในห้องต่างก็ชื่นชมร่างเล็กตรงหน้า แต่ก็ไม่มีใครเลยที่จะกล้าเข้าไปจีบหรือไปคุย
เพราะหญิงสาวเปรียบเหมือนดอกไม้สดที่มีกลิ่นหอมหวาน แต่ทว่าก็มีหนามแหลมอันตรายคอยปกป้องไว้อยู่
"ฝึกเสร็จแล้วเหรอ" เสียงหนึ่งพูดขึ้นมาทันก่อนที่ร่างบางจะผละตัวเดินออกไปจากห้องฝึกซ้อม
ไดอาน่าหันมามองร่างสูงในชุดเกราะสีดำและเสื้อแขนยาวของญี่ปุ่น และสวมกางเกงฮากาม่าเหมือนตนเอง
พรึบ
เมื่ออีกฝ่ายถอดหมวกเกราะออก..ก็พบเส้นผมสีเงินภายใต้ผ้าสีขาวสะอาดที่คลุมหัวเอาไว้ แววตาสีเขียวทะเลฉายแววอบอุ่นและยกรอยยิ้มขึ้นบางๆ
กริ๊ดดดดด
รอยยิ้มเล็กๆสามารถเรียกเสียงร้องกริ๊ด จากสาวๆที่กำลังฝึกกันรอบๆบริเวณชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี เพราะนานๆทีจะเห็นพี่ชายของซีมัวร์ยิ้มอย่างอ่อนโยนข้างนอก เพราะเวลาเขาเข้าโหมดฝึกซ้อมทีไร ชายหนุ่มจะหน้านิ่งขรึมและแผ่บรรยากาศไม่หน้าเข้าใกล้ทันที
'นาธาเนียล' เดินตามน้องสาวตัวเองออกไปจากลานฝึก เขาไม่ได้รับรู้ถึงสายตารูปหัวใจจากสาวๆรอบข้างเลยสักนิด
"ได้ข่าวว่าวันนี้มีเปิดตัวรูปปั้นของผู้พิทักษ์ปารีสนะ น่าเสียดายจังที่ฉันไปดูพิธีเปิดตัวเธอไม่ได้ เฮ้อ.."
นาธานหยิบขวดน้ำในตู้ล็อคเกอร์ตัวเองขึ้นมากระดกดื่มแก้กระหาย
ฉันหัวเราะขบขันกับความนึกเสียดายของเขา ก็พี่ชายฉันเป็นแฟนคลับเลดี้บัคด้วยนี่นา แต่เขาไปดูไม่ได้เพราะติดตารางเรียนและตารางฝึกของเขา
ก่อนที่จะฉันจะหยิบโทรศัพท์เครื่องสีดำขึ้นมาดูเวลา แล้วก็ต้องตกใจ
"หวา! สายปานนี้แล้วนี้นา แจสเปอร์ออกมาเร็วเข้า" ไดอาน่าพูดพร้อมเปิดกระเป๋าตัวเอง เห็นความิหมาจิ้งจอกสีขาวกำลังนอนหลับปุยได้ทีเลย ก่อนที่ไดอาน่าจะบังคับปลุกให้แจสเปอร์ตื่นขึ้น แล้วเปลี่ยนร่างเป็นซิลเวอร์ฟ็อกซ์ต่อหน้านาธานอีกครั้ง
"ฉันไปด้วยสิ! ฉันอยากไปดูรูปปั้นที่ว่า!" ซอลย่าบินขึ้นมาเกาะเธออย่างตื่นเต้น ฉันเลยพยักหน้าพร้อมเปิดเสื้อกิโมโนให้ซอลย่าเข้ามาซ่อนข้างใน
"ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ" เธอหันไปหาฝาแฝดตัวเองที่ถือหมวกเกราะเอาไว้อยู่ ก่อนที่เขาจะพยักหน้าครั้งหนึ่ง
"ทางนี้ฉันจัดการให้เองไม่ต้องห่วง"
นาธาเนียลโบกมือให้ไดอาน่า ที่หันมามองและพยักหน้าเล็กน้อย เมื่อฝากฝังหาข้ออ้างให้ครูฝึกไฮเมได้แล้ว จิ้งจอกสาวก็ออกจากโรงเรียนฝึกสอนก่อนจะพุ่งตัวไปที่สวนสาธารณะทันที
ฉันยังพอมาทันเวลา เมื่อเห็นแคทนัวร์กำลังโบกมือให้ทุกคนบนฐานรูปปั้นที่ถูกผ้าคลุมเอาไว้อยู่
อา! ซิลเวอร์ฟ็อกซ์นี่!?
ว้าว! ซิลเวอร์!
ฟุบ
ฉันกระโดดลงไปพร้อมกับเสียงเชียร์ร้องจากคนดู เธอเลยอดยกมือมาโบกให้พวกเขาไม่ได้
"บางทีเราน่าจะเริ่มพิธีได้แล้ว เผื่อเลดี้บัคจะมาเร็วขึ้น" ท่านนายกเอ่ยพูดขึ้นมาเมื่อรอตั้งนานแล้วยังไม่เห็นวี่แววของเลดี้บัคเลย แถมคนดูก็เริ่มหายไปทีละเล็กทีละน้อย
"รอก่อนสักนาทีเถอะครับท่านนายกโบรชัวร์ เธอกำลังมาผมแน่ใจ.."
'ธีโอ'ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้ม มัดรวบผมไว้ข้างหลัง พร้อมกับมีนัยน์ตาสีน้ำตาลพูดขึ้น เขามีก้านลูกอมคาไว้อยู่ในปาก
ธีโอคือคนสร้างรูปปั้นพวกนี้ขึ้นมา เขาเป็นจิตกรที่มีชื่อเสียงพอดูและอีกอย่างดูท่าเขาจะตกหลุมเลดี้บัคเข้าจังๆ
ฉันมองแฟนคลับของเลดี้บัคด้วยความสนใจ
เพราะดูเหมือนเธอจะจำตอนนี้ได้นะ..เห รู้สึกว่า..หลังจากนี้ท่านนายกจะเริ่มพิธีโดยไม่มีเลดี้บัคมาเข้าร่วม เพราะเลดี้บัคหรือมาริเน็ตเธอต้องไปทำธุระของเธอเรื่องโทรศัพท์มือถือ
ที่อัลย่าให้มาริเน็ตโทรไปหาเอเดรียนเพื่อชวนไปเดตกัน แต่เหมือนเอเดรียนเขาจะฟันดาบอยู่เลยไม่ได้รับสาย ทำให้คุณนางเอกต้องพูดฝากข้อความไป แต่เพราะความไม่กล้าเลยตัดสายทิ้งเพื่อให้เอเดรียนโทรกลับมาใหม่
เธอจะโวยวายกับอัลย่าและเหมือนมาริเน็ตจะทำผิดพลาดอะไรสักอย่าง ทำให้เผลอส่งข้อความเสียงตัวเองไปด้วย มาริเน็ตเลยต้องวิ่งวุ่นไปหาโทรศัพท์ของเอเดรียนเพื่อไปลบข้อความเสียงนั้น
แล้วเจ้าแมวดำก็มาอยู่นี้ซะแล้ว..เวลานี้คงเป็นช่วงที่มาริเน็ตไปโรงเรียนเพื่อแอบเข้าไปเอาโทรศัพท์ของคุณพระเอกในล็อคเกอร์แน่ๆ
"ปารีสสมควรจะแสดงความเคารพต่อคนที่ปกป้องพวกเราจากอาคุม่า เลดี้บัคกับแคทนัวร์และซิลเวอร์ฟ็อกซ์!"
แปะ แปะ แปะ
เสียงปรบมือดังไปทั่วทิศเมื่อท่านนายกเปิดงานแล้วสั่งให้คนดึงผ้าคลุมออก เผยให้เห็นถึงรูปปั้นบนฐาน มีแคทนัวร์หมอบอยู่ข้างล่างและขึ้นมาหน่อยก็เป็นเลดี้บัคกับซิลเวอร์ บนผ่ามือของฉันมีรูปเปรวไฟด้วย
"สวยจังเลย"
ฉันมองรูปปั้นที่ธีโอตั้งใจและลงแรงสร้าง ฉันชอบมากที่สุดคือเส้นสายลวดของโยโย่ของเลดี้บัคสามารถทำออกมาได้อย่างประนีตมาก แต่ก็ดูเปราะบางเช่นกันบอกได้ถึงความตั้งใจของคนสร้างเป็นอย่างดี
หลังจากนั้นพิธีก็ปิดลง..แต่เลดี้บัคก็ยังไม่มาถึง พวกเขาเลยแยกย้ายกันกลับไปกันหมด เหลือแค่ธีโอที่เหม่อมองรูปปั้นเลดี้บัคคนเดียว
จากนั้นฉันที่เตรียมจะกลับไปหานาธานก็ต้องชะงักเมื่อแคทนัวร์เดินไปพิงไหล่ธีโอแล้วพูดคุยอะไรกันสองคน
ฉันพยายามนึกว่าแคทนัวร์จะทำอะไร ก่อนจะคิดออกและรีบเดินไปใกล้ๆพวกเขาจากข้างหลัง
"ผมแค่อยากให้เธอรู้ว่าผมชอบเธอมากแค่ไหน ให้รู้ทุกอย่างที่ผมใส่ไปที่รูปปั้น ถ้าเธอใช้เวลาทำความรู้จักผมสักนิด เธอจะเห็นว่าพวกเรามีอะไรเหมือนกัน..เพราะพวกเราทุ่มเทให้กับสิ่งที่รัก!"
ธีโอพูดอย่างมั่นใจมากว่าเลดี้บัคจะต้องชอบเขาแน่ถ้าเธอได้ใช้เวลาร่วมกับเขา ดวงตาสีน้ำตาลของเขาเป็นประกายสดใสและมุ่งมั่น
"หืมมม"
แคทนัวร์ที่ยืนฟังข้างๆขมวดคิ้วพร้อมเบะปากเหมือนกับว่าเขาไม่เห็นด้วย ก่อนที่เจ้าตัวจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบให้ธีโอได้ยินเสียงเบา
"นี่...ไม่ได้อยากจะดับฝันหวานหรอกนะ แต่คือว่าเลดี้บัคกับฉันน่ะ..พวกเรากิ๊กกันอยู่" แคทนัวร์พูดเสียงเจ้าเล่ห์พร้อมยกนิ้วไขว้กันเป็นกาบาทข้างๆ
"จริงเหรอ?"
"ช่ายยย"
กึก
ฉันที่ได้ฟังถึงกับหน้าตรึงเมื่อเห็นว่าแคทนัวร์พูดแบบนั้นออกมาจริงๆ...พร้อมกับธีโอที่หน้านิ่งสนิทพอๆกับเธอ ก่อนที่ธีโอเขาจะพลักแคทนัวร์ออกแล้วเดินออกไปอย่างไม่ชอบใจนัก
"เลดี้บัคเห็นอะไรดีในตัวเขา?"เมื่อพายุอารมณ์โกรธของธีโอเดินจากไปไกลแล้ว แคทนัวร์ก็ยกมือปิดปากพร้อมหัวเราะคิกคัก โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีอีกพายุลูกใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างหลังเจ้าตัว..
"ฮ่ะ..! ไม่บอกฉันไม่รู้เลยนะเนี่ย..ว่านายกับเลดี้บัค ..กิ๊กกันอยู่"
ฮึ๊ย!
แคทนัวร์ที่กำลังยิ้มสะใจถึงกับหยุดชะงัก เมื่อได้ยินเสียงใสที่ดูหวานกว่าทุกทีข้างหลังเขา ก่อนที่เขาจะค่อยๆหันมาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดกว่าเดิม
สิ่งแรกที่เห็นคือ..รอยยิ้มเจิดจ้าของซิลเวอร์ที่ไม่เหมือนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนทุกที
มันเป็นรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนสุดๆ แต่ไม่รู้ทำไมแคทนัวร์ถึงรู้สึกหนาวสั่น และอยากได้รอยยิ้มแสยะเหมือนทุกทีของซิลเวอร์มากกว่า...
"มะ มัน เรื่องนี้มัน..ฉันอธิบายได้นะ" แคทนัวร์รีบเดินตามซิลเวอร์ที่เตรียมจะเดินหนี ท่าทางของเจ้าแมวหนุ่มตอนนี้กระวนกระวายต่างจากท่าทียโสแบบเมื่อกี้ลิบลับ
"ฉันไม่อยากจะฟัง" เธอหันหลังให้เขาพร้อมกระโดดบินจากมา
"ซิลเวอร์!" เสียงร้องตะโกนของแคทนัวร์ไม่ได้เข้าหูเธอเลยสักนิด ฉันรีบกลับไปหานาธานด้วยใจที่ว้าวุ่นข้างใน ฉันกำลังผิดหวังและเดือดเล็กน้อย
"ทำไมเขายังทำอย่างนั้น...แมวโง่!" เธอพูดบ่นพึมพึม
ฉันสามารถรู้ได้ว่าแคทนัวร์ชอบฉันน่ะคือของจริง แต่ก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วสิ..เมื่อเขาพูดประโยคเมื่อกี้ออกมา
ตกลงเอเดรียนยังไม่ตัดใจกับเลดี้บัคงั้นเหรอ? แล้วท่าทีที่เขาดูเหมือนชอบเธอมากจริงๆนั้นมันอะไร!
เจ้าคนหลายใจ!
......
อีกฝั่งหนึ่งจากนั้นไม่นานที่คฤหาสน์ของครอบครัวเอเดรียน
"บ้าเอ้ย! ฉันทำให้เธอโกรธซะแล้ว เธอเข้าใจผิดฉันยังไม่ได้อธิบายจุดประสงค์ที่ทำเลย" เอเดรียนบ่นเมื่อเขามาถึงบ้านแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องตัวเอง และเด็กหนุ่มตอนนี้กลับมาอยู่ในชุดเล่นปกติ
"ทำไมนายถึงพูดแบบนั้นกับเลดี้บัคตอนแรกล่ะ" แพล็คนอนลอยมองเด็กหนุ่มที่กำลังทึ้งผมตัวเองพร้อมเดินไปเดินมาอย่างกังวลได้สักพักแล้ว
"ฉันแค่คิดว่าหมอนั้นอายุน้อยกว่าเลดี้บัค...เขาดูไม่เหมาะกับเลดี้บัคฉันก็เลยพูดขัดขวางเขาไปแบบนั้น" เอเดรียนบ่นพึมพำก่อนที่เขาจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
"แต่ฉันไม่ได้ชอบเลดี้บัคแล้วจริงๆนะ!"
"ไปบอกเธอเองเถอะ อ้าม ง้ำ!" แพล็คหยิบชีสขึ้นมากินอย่างไม่สนใจใยดี เอเดรียนมองแพล็คแรงเหมือนถ้าแพล็คตัวพรุนไปด้วยสายตาของเอเดรียนได้เขาก็คงมีหลายรูบนร่างแล้วตอนนี้...
ร่างสูงถอนหายใจทีหนึ่ง ก่อนที่เอเดรียนจะเปิดกระเป๋าหาโทรศัพท์ตัวเอง....
.....
"งี่เง่าเขามันงี่เง่า" ร่างเล็กบนโชฟากำลังพูดขึ้นมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด พร้อมในมือที่กำลังตักไอติมขึ้นมากินอย่างโมโห ข้างๆก็มีความิจิ้งจอกสีเงินกำลังงับลูกเบอรี่เช่นกัน
"หลายใจ" เธอพูดบ่น
"เลว" แจสเปอร์พูดขึ้นตามไล่เลี่ยกันมา
ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งเดินออกมาจากห้องผ่านห้องรับแขก เขาหยุดมองไดอาน่ากับความิบนโซฟา
"เอ่อ..คือว่าฉันจะออกไปข้างนอกสักแปบนะ" นาธาเนียลพูดขึ้นอย่างประหม่าเล็กน้อย เมื่อเขารู้สึกว่าบรรยากาศตรงนี้ดูมืดครึมแปลกๆ
"เกิดอะไรขึ้น?" ไดอาน่าเหมือนได้สติ เธอหันกลับมามองพี่ชายตัวเองที่แต่งตัวเตรียมออกไปข้างนอก
ซอลย่าที่บินอยู่ข้างนาธานเป็นฝ่ายตอบแทน
"โทรศัพท์ของนาธานหาย! พวกเราว่าจะกลับไปดูที่โรงฝึกอีกครั้ง เผื่อเขาลืมไว้ในล็อคเกอร์"
"โทรศัพท์...?" ฉันขมวดคิ้วสงสัย พร้อมจ้องนาธานที่พยักหน้าเบาๆ ก่อนที่ทั้งสองคนจะขอตัวออกไปหามิแรนด้าที่จอดรถรออยู่ที่ข้างล่างคอนโด
"อื้มมม...โทรศัพท์นาธานหายไป.. มันจะใช่อย่างที่ฉันคิดไว้มั้ยนะ?" เธอเอียงคอขบคิดพร้อมกับแจสเปอร์ที่บินมามองฉันอย่างงงๆ เพราะเขาอ่านความคิดเด็กสาวไม่ออก
ทันใดนั้นทีวีที่เธอเปิดค้างไว้อยู่ ก็มีช่องข่าวด่วนแทรกขึ้นมา
"มีข่าวด่วนน่าตกใจค่ะ มีโจรมาขโมยภาพที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ วิดีโอของมือสมัครเล่นถ่ายให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโจรไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากฮิโร่ชื่อดัง..แคทนัวร์"
"ภาพนี้เป็นของแคท! เหมียว!" สิ้นคำแคทนัวร์ก็วิ่งหนีไปพร้อมภาพในมือ
"ฮ่ะ เรื่องตลกอะไรกันเนี่ย" แจสเปอร์พูดขึ้นพร้อมบินไปเกาะทีวีอย่างแปลกใจสุดๆ
ฉันรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น...แคทนัวร์ในทีวีที่กำลังออกข่าวเป็นตัวปลอม เขาคือธีโอที่ถูกอาคุม่าควบคุมอยู่ เพราะเขาผิดหวังจากความรักและอิจฉาริษยาแคทนัวร์ ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นก็อปปี้แคท
ปัญหาคือ...ฉันจะไปช่วยเขาดีมั้ยนะ ในเมื่อเขาทำกับฉันแบบนั้น
"แมวโง่..."
30%
............
.......
..
"ให้ตาย! สุดท้ายฉันก็มา.." เธอพูดกับตัวเองเสียงหงุดหงิด เมื่อเท้ากระโดดลงมาที่หน้า'พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์' อุสาจะพลิกเฉยแล้วนะ แต่ยังไงหน้าที่ของฮิโร่ก็ต้องมาก่อน
"ท่านนายกคะ นี่มันตลกมาก มันต้องมีคำอธิบายแน่นอน" เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งที่คุ้นหู ทำให้เธอเดินเข้าไปหาเมื่อพบว่าเป็นเลดี้บัคที่ยืนอยู่กับท่านนายกปารีส
"แมวอยู่ในกรงแล้วเลดี้บัค" โรเจอร์เดินออกมาด้วยท่าทางไหล่พึงองอาจ เหมือนเขากระทำเรื่องที่น่าภูมิใจ
"อย่าคิดว่าคุณจะขังเขาไว้ได้" เลดี้บัคเตรียมจะเดินเข้าไปแต่โรเจอร์ก็ยื่นแขนมาห้ามเลดี้บัคไว้ก่อน
"ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญเถอะเลดี้บัค" โรเจอร์กล่าวพร้อมยกยิ้มมั่นใจ
ฮึ่ม!
เลดี้บัคดูโมโหที่โรเจอร์ไม่ฟังเธอพูดเลยสักนิด ก่อนที่หญิงสาวจะหันมาขอความช่วยเหลือจากจิ้งจอกสาวที่เพิ่งมาถึง
"เธอช่วยพูดอะไรสักหน่อยสิซิลเวอร์!"
"ฉันคิดว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญไปเถอะเลดี้บัค เขาสมควรโดนแล้ว"
ฉันหลบตาเต่าทองพร้อมพูดเสียงสูงขึ้นจมูก
"ทำไมเธอพูดอย่างนั้น แคทนัวร์เป็นเพื่อนร่วมทีมพวกเรานะ!"
"ของเธอคนเดี่ยวมากกว่า.." ฉันเม้มปากพูดเสียงแข็ง แต่แววตากลับดูสั่นไหวเล็กน้อย ทำให้เลดี้บัคผงะตกใจที่เห็นท่าทางดูน้อยใจของจิ้งจอกสาว
ปกติซิลเวอร์ไม่เป็นเช่นนี้..เต่าทองจึงอดสงสัยไม่ได้
"พวกเธอทะเลาะกั-"
[แคทนัวร์หนีไปแล้ว!]
ก่อนที่เลดี้บัคจะได้ถามหาความจริง นายตำรวจคนเดิมก็กดรับสายก่อนจะได้ยินเสียงวิทยุดังออกมาอย่างตื่นตระหนก
ฉันรีบวิ่งไปดูทันที ตามด้วยเลดี้บัคและโรเจอร์ เมื่อพวกเราเดินลงบันไดมาถึง ก็พบกับพวกFBIที่พากันนอนสิ้นท่าอยู่บนพื้น ส่วนเจ้าแมวเหมียวตัวเอกของเรื่องตอนนี้หนีหายไปแล้ว
"ถ้าเขาบริสุทธิ์จริงทำไมเขาจะต้องหนีด้วยล่ะ" โรเจอร์พูดขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ ก่อนจะหน้าซีดเล็กน้อยเมื่อได้รับสายตาคมของซิลเวอร์และเลดี้บัคที่มองมาอย่างตำหนิ
"ถ้าคุณถูกขังโดยตัวเองไม่ผิด คุณจะไม่หนีเหรอ?" เลดี้บัคพูดเสียงดุ ขณะที่ฉันขมวดคิ้วพร้อมเดินออกมา
ฉันรู้ว่าแคทนัวร์อยู่ที่ไหน เธอจึงคิดจะไปเคลียร์เรื่องทุกอย่างให้มันจบๆ
ตืดติ๊ด
เสียงอินโทนดังออกมาเล็กน้อยพร้อมกับเครื่องมือสื่อสารสั่น เธอหยิบหยกขาวในสาบเสื้อกิโมโนออกมาดูแล้วกดรับ
ติ๊ด
"ต้องการอะไร"
เธอพูดเมื่อภาพวิดีโอเลดี้บัคและแคทนัวร์ปรากฎขึ้นมาพร้อมกัน
"พวกคุณคิดว่าฉันบริสุทธิ์ใช่มั้ย?" แคทกล่าว
แน่นอน นายบริสุทธิ์
"ไม่รู้สิ" เธอพูดเสียงกรุ่นทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่ผิด ก่อนที่จะมีเสียงของเลดี้บัคดังแทรกขึ้นมา
"ทำไมซิลเวอร์ดูเกลียดนายล่ะแคทนัวร์ นายไปทำอะไรเธอไว้?"
แคทจากในวิดีโอทำหน้าหงอย เมื่อเขาเห็นซิลเวอร์ที่ดูหน้าตรึงพร้อมกับเลดี้บัคที่ดูอยากได้คำอธิบายมาก ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
"ฉันขอโทษซิลเวอร์ฟ็อกซ์ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายความรู้สึกคุณ...ยังไงก็ตามฉันจะตามจับคนร้ายเอง ฉันเป็นคนก่อเรื่องก็ต้องเป็นคนเก็บกวาด"
ปิ๊บ
"แคท!?" เลดี้บัคเอ่ยห้ามแคทนัวร์ไม่ทันเมื่อเขาวางสายไป ทำให้มีแค่ฉันกับเลดี้บัคเท่านั้นที่ถือสายอยู่
"อธิบายมาเถอะซิลเวอร์ พวกคุณกัดกันบ่อยฉันไม่ว่าหรอก แต่ตอนนี้แคทนัวร์กำลังลำบากอยู่นะ?"
ฉันถอนหายใจพรืดใส่เครื่องสื่อสาร
"มันไม่ใช่เรื่องปกติน่ะสิเลดี้บัค.. อีกอย่าง มันไม่ใช่เรื่องธุรกิจของคุณ"
ปิ๊บ
เอ่ยจบฉันก็ตัดสาย ก่อนจะกดหาตำแหน่งที่แคทนัวร์น่าจะอยู่
"หาเรื่องให้จริงๆเลยคิตตี้.... หาที่อยู่ของ'ธีโอ'" เธอบ่นจบก็กรอกเสียงลงหยกขาว ก่อนที่แผนที่จะฝุดขึ้นมาให้เธอเห็น ฉันไม่รอช้าตามเครื่องหมายในเครื่องสื่อสารไปทันที
ใช้เวลาไม่นานฉันก็มาถึงที่หมาย ก่อนจะแอบเข้าไปในสตูดิโอเงียบๆ ฉันที่อยู่บนคานไม้จากข้างบนแอบมองคนข้างล่างด้วยความสนใจ เมื่อเธอมาทันตอนที่แคทนัวร์และก็อปปี้แคทอีกคน กำลังคุยโวกันอยู่
ก็อปปี้แคทใช้ไม้พลองเหล็กของเขาขัดขาให้แคทนัวร์ล้มลงทีเผลอ ก่อนที่จะพุ่งตัวทำให้เขาหงายหลังพร้อมขึ้นคร่อมเขาและทำท่าจะถอดแหวนของแคทออก
ถึงฉันจะฟินมากกับท่านั่งของแคทxแคท แต่ถ้าอาคุม่าถอดแหวนของแคทนัวร์ไปได้ก็ยุ่งเลย เธอจึงกระโดดม้วนตัวลงไป
ฟุบ
ก็อปปี้แคทและแคทนัวร์เงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะตกใจเมื่อพบว่าเป็นซิลเวอร์ที่มองพวกเขาสองคนไปมา
"แคทนัวร์...อื้ม เขามีกลิ่นและหน้าตาเหมือนนายเลย" เธอแกล้งพูดเสียงสงสัย แต่กลิ่นน่ะเรื่องจริง ก็อปปี้แคทที่นั่งคร่อมแคทนัวร์บนพื้นมีกลิ่นแบบเขาจริงๆ
และแคทนัวร์ตอนนี้ก็ถูกล่ามโซ่ไว้บนมือและขาทั้งสอง เพราะเขาดันสะเพร่าเดินเข้ามาติดกับดักของก็อปปี้แคทโต้งๆ
"ก็เพราะนั้นคือฉันไงเล่า" แคทนัวร์พูดเสียงอ่อยๆ ดูเหมือนเขาจะยังรู้ตัวถึงความผิดของตัวเองอยู่ จึงไม่ได้พูดตอบเสียงห้าวไป
"ดีใจที่คุณมาซิลเวอร์ อาคุม่าอยู่ในแหวนของเขา ดึงออกมาเลย" ก็อปปี้แคทยื่นมือแคทนัวร์มาให้เธอที่ยืนเค้าเอวมองอยู่
ฉันคุกเข่าข้างหนึ่งก่อนจะจับมือแคทนัวร์ไว้และทำท่าจะดึงออก ก็อปปี้แคททำท่าลุ้นระทึกก่อนจะชะงักเมื่อเธอแสยะยิ้มขึ้นมาพร้อมปิดแหวนของแคทนัวร์ไว้ด้วยผ่ามือเธอ
"ฉันไม่ได้โง่หรอกนะก็อปปี้แคท คุณนั้นแหละตัวปลอม" เธอพูดขึ้นยิ้มๆขัดกับก็อปปี้แคทที่หน้าซีด
ก็ฉันมาถึงก่อนหน้านี้ตั้งนานจึงรู้ว่าใครคือตัวจริงและตัวปลอมนั้นแหละ
"เฮ้ ฉันกะแล้วว่าเธอต้องรักฉันมากจึงแยกฉันออก" แคทนัวร์พูดเสียงทะเล้นทั้งที่เขาถูกอาคุม่ากดไว้กับพื้นอยู่
"อย่ามายิ้มดีใจแคท.. ฉันไม่ได้อยากจะช่วยนายเลยนะ เพราะเขาถูกอาคุม่าเพราะคุณ!" เธอกลอกตาอย่างระอา ก่อนจะคิดอะไรขึ้นมาได้แล้วปล่อยมือเขาออก ทำให้ก็อปปี้แคทที่ระแวงมองอย่างสงสัยกับการกระทำของเธอ
"ฉันยังไม่ลืมเรื่องเมื่อเช้านี้นะ และฉันยังโกรธอยู่ ก็อปปี้แคทอยากได้อะไรก็เอาไปเลย ฉันยกให้" เธอถอยมายืนห่างๆพร้อมแบมือขึ้นสองข้าง
"เฮ้ย ฉันขอโทษซิลเวอร์! ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นตอนที่พูดจริงๆ!"
ตุบ!
เสียงบางอย่างดังขึ้นมาทำให้ฉันหันไปมองก่อนจะพบว่าเป็นเลดี้บัคที่กระโดดลงมา เต่าทองมองแมวสองตัวที่นั่งคร่อมกันอยู่ กับจิ้งจอกหนึ่งที่ยืนนิ่งยกมือค้างไว้
"เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? แล้วอาคุม่าล่ะ?"
เลดี้บัคถามพร้อมมองมาอย่างขอคำตอบ ฉันก็ยกไหล่ก่อนจะตอบเสียงเรียบ "อยู่ในภาพเธอบนกระเป๋าหน้าท้องของเขา"
เสียงปี๊บหรือเสียงแหวนของแคทนัวร์ดังขึ้น ทำให้เลดี้บัคมองแคทที่ถูกล่ามโซ่บนพื้นสงสัย
"เขามีพลังเหมือนคุณด้วยเหรอ?"
"น่าอัศจรรย์ใช่ม้า" ก็อปปี้แคทพูดเสียงเคริ้มเมื่อเห็นเลดี้บัคเดินไปใกล้ๆก่อนจะคุกเข่าลงบนตำแหน่งเดียวกับเธอก่อนหน้านั้น
"แล้วทำยังไงเขาถึงถูกล่ามโซ่ได้?" ดูเหมือนเลดี้บัคจะเริ่มเข้าใจผิดนึกว่าก็อปปี้แคทคือแคทนัวร์ตัวจริง
"ไม่ได้ทำอะไรเลย เขาบ้าเดินเข้ามาติดกับดักเองเลยน่ะสิ" ฉันพูดแดกดันเขาไปทีหนึ่ง
"ขอบคุณ" แคทนัวร์เอ่ยขอบคุณประชดประชันเธอ ฉันจึงเผลอยิ้มขำก่อนจะกล่าวบอกไม่ต้องเกรงใจ อย่าขอบคุณเลยคนกันเอง
"ฉันคิดว่าเมื่อกี้เธอบอกว่ามีภาพในกระเป๋าใช่มั้ย ทำไมในนี้ไม่มี" เลดี้บัคที่เปิดซิบตรงหน้าท้องแคทนัวร์พูดอย่างงงๆ
ก็อปปี้แคทก็ใจดีเหลือเกิน ที่เผลอให้เลดี้บัคค้นหาแบบนั้น
"ฉันไม่ได้บอกเลยนะว่ามันอยู่ในกระเป๋าหมอนั้น?" เมื่อเธอพูดจบ เลดี้บัคก็ถอยออกมายืนข้างหลังพร้อมตั้งท่าเตรียมต่อสู้
"ผมรักคุณเลดี้บัค ผมดีกว่าแมวจรจัดขี้เรือนนี้ตั้งเยอะ!?" ก็อปปี้แคทโมโหเมื่อถูกเปิดเผยแล้ว ก่อนที่เขาจะกระชากแคทนัวร์ขึ้นมาพร้อมพูดสถบอย่างโมโห
"โทษที คนโกหกคือขี้แพ้ ถึงแม้ว่าเขาจะชอบทำตัวน่าหงุดหงิดแต่เขาก็ไม่เคยโกหกฉัน" เลดี้บัคกล่าวยิ้มมั่นใจ
"ขอบคุณสำหรับคำชม..คิดว่านะ?" แคทพูดก่อนจะถีบก็อปปี้แคท กระเด็นถอยออกไปเกือบติดกำแพงโถง
"ถ้าฉันไม่ได้ ก็อย่าคิดว่าจะมีใครได้ Catalysm!" ก็อปปี้แคทใช้พลังหายนะของแคทนัวร์พร้อมวิ่งเข้ามาอย่างไม่รีรออะไรเลย
ฉันมองการเล่นผิดบทของอาคุม่า ทั้งที่ปกติพวกตัวร้ายตอนนี้เขาจะต้องหยุดนิ่งรอจังหวะให้ตัวเอกเตรียมตัวก่อนแท้ๆ
หรือตัวร้ายจะฉลาดขึ้นแล้ว?...แค่ก
"มาจบกันเถอะ! Lucky Charm!" เลดี้บัคก็ดันมาใช้พลังลัคกี้ชาร์ตอนนี้ด้วย...ทำให้เลดี้บัคต้องรอให้ของปรากฎออกมาจากในอากาศก่อน
แต่เมื่อถึงตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าแคทนัวร์จะรอดอยู่ไหม
ฉันที่ยืนมองนิ่งๆเริ่มเหงื่อตกเมื่อก็อปปี้แคทพุ่งตัวเข้าไปหาแคทนัวร์ และใกล้จะถึงเขาแล้ว
อันตราย..!
"โธ่เอ้ย!" เธอสถบก่อนจะเคลื่อนไหวไปข้างหน้าแคทนัวร์ พร้อมหยิบโซ่ที่กุมแขนและขาเขาไว้ขึ้นมา
จริงๆแล้วนี้มันคือบทของเลดี้บัคนะ แต่เหมือนเลดี้บัคจะอยากให้เธอเป็นคนทำมากกว่า และดูจะเชื่อใจมากว่ายังไงเธอจะต้องช่วยแคทนัวร์แน่
"ได้แล้ว!//อ๊ะ!" เสียงเลดี้บัคที่เอ่ยขึ้นพร้อมกับก็อปปี้แคท ก็อปปี้แคทร้องอุทานเพราะไม่คิดว่าเธอที่ยืนนิ่งมานานจะขยับเข้ามาตรงหน้าแคทนัวร์ พร้อมฉวยโอกาสใช้พลังหายนะของเจ้าตัวลงบนโซ่ ทำให้แคทนัวร์ตัวจริงเป็นอิสระ
"ยอดเยี่ยมมากคุณผู้หญิงของผม" แคทนัวร์กล่าวก่อนจะขยับตัวพร้อมต่อยก็อปปี้แคทอย่างแรง เหมือนเขาเก็บกดมานาน ทำให้ก็อปปี้แคทถึงกับกระเด็นไปชนกำแพงข้างหลังเลยทีเดียว
"อย่าขอบคุณฉัน ฉันไม่ได้อยากจะช่วยนาย แต่สถานะการณ์มันพาไป" เธอย่นจมูกพูดเสียงหงุดหงิดกลบเกลื่อน แคทนัวร์ก็ยิ้มขบขันพร้อมทำท่าจะเข้ามาแหย่เธอ
แต่ฉันพลักเขาให้ไปสู้กับก็อปปี้แคทที่ออกมาจากฝุ่นควัน
"ฉันควรเอาช้อนไปทำอะไรดีนะ?" เลดี้บัคไม่ได้สนใจรอบข้าง ยังคงเหม่อมองช้อนในมือตัวเองนิ่ง ก่อนที่เลดี้บัคเหมือนจะนึกออก พร้อมกับฉันที่เดินไปหยิบไม้พลองเหล็กอันหนึ่งที่กระเด็นหลุดออกมาจากการต่อสู้ของแคทกับแคท
"อะนี่" เธอพูดพร้อมยื่นไม้พลองเหล็กและเทปกาวที่เลดี้บัคต้องการไปให้
"ดูเหมือนเธอจะรู้เลยว่าฉันต้องการอะไร"
เลดี้บัคขยิบตาให้เธอ ก่อนจะหยิบไม้พลองเหล็กและเทปกาวเอาไปพันติดกันกับโยโย่ของตัวเอง และช้อนที่ดัดจนมันงอเป็นรูปกระขอร้อยไว้กับเส้นลวดโยโย่
"ได้เวลาตกอาคุม่าแล้ว" เลดี้บัคพูดเสียงสนุก ก่อนจะรอจังหวะเหมาะๆที่แคทนัวร์รอให้ก็อปปี้แคทพุ่งเข้ามา ส่วนฉันก็ยืนหาววอดๆรอเรื่องให้จบๆไป
โอกาสมาถึงเมื่อก็อปปี้แคทพุ่งเข้ามาจริงๆ และแคทนัวร์ที่เอนตัวลงไปข้างหลังก่อนจะตั้งท่าใช้เท้ายกอาคุม่าลอยอยู่ในอากาศนิ่ง
เลดี้บัคเหวี้ยงเบ็ดตกปลาที่สร้างขึ้นมาหมาดๆด้วยกัน ไปตกที่เอวของก็อปปี้แคทพร้อมดึงขึ้นสูง และแคทนัวร์ที่เปิดซิบตรงหน้าท้องหยิบกระดาษอาคุม่าออกมาฉีกเป็นสองส่วน
เมื่อผีเสื้ออาคุม่าลอยออกมาจากกระดาษ เลดี้บัคก็ใช้โยโย่ของเธอชำระล้างผีเสื้อให้ขาวสะอาด พร้อมโยนช้อนขึ้นสู่อากาศเพื่อให้ทุกอย่างกับเข้าที่เดิม
ฉันที่เดินเข้ามาเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย อ้าแขนออกรับธีโอที่หายจากการเป็นก็อปปี้แคทสู่อ้อมแขนเธออย่างพอดี
"โอยย...." ธีโอร้องเบาๆพลางกุมขมับตัวเอง ดูเจ็บปวดทำให้เธออดส่งเสียงถามไม่ได้ทั้งที่ยังไม่ได้วางเขาลง
"เป็นอะไรไหมคะ?" เธอถามเสียงเป็นห่วง ก่อนที่ธีโอจะชะงักและเงยมองเธอ
...?
ฉันเอียงคอสงสัยเมื่ออยู่ๆธีโอก็หน้าแดงและมองเธอนิ่งเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าเขาถูกอุ้มไว้อยู่ ฉันไม่สนใจอาการแปลกๆก่อนจะวางเขาลงพร้อมยิ้มหวานเหมือนทุกทีออกมา
"ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เลดี้บัคอยู่ตรงนั้น คุณควรไปขอลายเซ็นต์เธอนะ พ่อหนุ่มศิลปิน" เธอขยิบตาให้ธีโอทีหนึ่ง ก่อนจะผละออกมาให้เลดี้บัคที่ยื่นกระดาษคืนชายหนุ่มจิตรกรไป
"ซิลเวอร์! ซิลเวอร์!"
เสียงแมวแถวนี้ทำให้ฉันหุบรอยยิ้มลง ก่อนจะรีบก้าวขาสับๆเพื่อหนีแมวข้างหลังที่ไล่ตามมาติดๆ
"เดี๋ยวก่อน! ผมอยากอธิบายให้คุณฟัง มันไม่ใช่อย่างนั้น!" แคทนัวร์คว้าไหล่ของซิลเวอร์ไว้ ก่อนที่จะถูกปัดทิ้งอย่างแรง
เขาจึงเปลี่ยนมาโอบเอวซิลเวอร์ไว้แทนกันเธอบินหนีไปเหมือนเมื่อเช้าอีก
"แล้วทำไมนายต้องพูดอย่างนั้น" เธอขัดขืนพร้อมแกะมือเขาออก แต่มันติดหนึบแกะไม่ออกฉันจึงยกธงขาวยอมแพ้
"เพราะฉันคิดว่าธีโอเด็กเกินไปไม่เหมาะกับเลดี้บัค"
"นายรู้ได้ยังไงว่าเลดี้บัคอายุเท่าไหร่?"
"ไม่รู้หรอก..แต่ แต่ฉันคิดว่ามันเป็นหน้าที่ฉันที่ต้องปกป้องเลดี้บัค ฉันรู้สึกเหมือนเป็นพี่ชายของเธอ"
"ถึงอย่างนั้นวิธีที่นายใช้ก็ไม่ถูก" ฉันพูดเสียงหงุดหงิดทำให้เขายอมลามือ คลายวงแขนออกแล้วเอ่ยเสียงเศร้า
"ฉันขอโทษ เธอจะต่อยฉันก็ได้"
ผัวะ!
เขาอนุญาตเสร็จปุบ ฉันก็ไม่รอช้าต่อยท้องเขาไปจริงๆ(ไม่กล้าต่อยหน้าเดียวเป็นแผล) ทำให้แคทนัวร์ถึงกับสำลักและล้มลงไปกองกับพื้นด้วยความจุก
"ว้าว รู้สึกดีขึ้นเยอะ!" เธอกล่าวขึ้นพร้อมเสยผมด้านหน้าตัวเองไปข้างหลัง พอได้ต่อยเขาก็เหมือนได้ระบายไปแล้ว ทำให้ความรู้สึกหน่วงๆในใจเบาขึ้น
"อ่อก แค่ก!..เอาเถอะ แค่ก!..ความผิดของฉันเอง" แคทนัวร์พูดกระอักกระอ่วน ก่อนที่เสียงปี๊บจากแหวนเขาจะดังขึ้นมาอีกครั้ง ฉันเลยต้องเปลี่ยนไปอุ้มเขาขึ้นพร้อมดีดตัวออกจากสตูดิโอมา
โดยลืมเลดี้บัคและธีโอในสตูดิโอไปซะสนิท..ไม่รู้ว่าพวกเขาเห็นฉากนี้จะคิดอะไรไปไกลบ้าง
ฉันพาแคทนัวร์ที่กลายเป็นเอเดรียนไปส่งเขาที่ห้อง ก่อนจะวางชายหนุ่มที่ดูหมดแรงทำท่าจะหลับไว้บนเตียงกว้าง จากนั้นฉันก็หันหลังเตรียมจะจากไป แต่เอเดรียนก็ดึงชายเสื้อกิโมโนเธอไว้
หมับ
"ฉันขอโทษซิลเวอร์" ดวงตาสีเขียวของเขาเว้าวอนน่าสงสาร ฉันเค้นเคี้ยวฟันตัวเองอย่างอดกลั้น ไม่ใช่เพราะหงุดหงิดแต่เพราะรู้สึกอยากจะก้มไปฟัดเขาต่างหาก!
โอ๊ยพระเจ้า! ทำไมตัวเอกต้องทำหน้าตาน่ารักแบบนั้นด้วย! จิตใจรักเด็กรักสัตว์ของฉันกำลังกำเริบเลย
"หุบปากแล้วนอนพักซะ! ฉันยกโทษให้คุณแล้ว พรุ่งนี้คุณยังต้องตื่นไปโรงเรียนอีก" ฉันปิดตาเอเดรียนไม่ให้เขาส่งสายตาน่าสงสารมาที่เธออีก
"ใครจะรู้กันว่าคุณจะขี้หึงขนาดนั้น" เอเดรียนส่งเสียงหัวเราะเล็กๆขึ้นมาอย่างสุขใจ เขาไม่ได้ดื้อที่จะปัดมือเธอออกแต่นอนนิ่งเอ่ยขึ้นมา ฉันรู้สึกแก้มร้อนพ่าวก่อนจะแย้งกลับไป
"ฉันไม่ได้ขี้หึง!"
"คุณขี้หึง"
"ไม่ใช่!"
"ใช่สิ"
"ไม่"
"ใช่"
"...." ฉันหุบปากเงียบไม่เถียงเขาอีก ฉันเริ่มแน่ใจแล้วล่ะว่าเอเดรียนเป็นพวกไม่ชอบการยอมแพ้ เพราะเขาดื้อดึงสุดๆไปเลย
"ก็ได้ฉันยอมรับ ฉันเป็นคนขี้หึง" เธอถอนหายใจพร้อมกับก้มลงไปจูบหน้าผากเขาไว้ ก่อนที่ฉันจะเดินจากมา ทิ้งไว้แต่ดวงตาสีเขียวที่ลืมขึ้นมามองเธอเขินๆ
"ผมรักคุณจริงๆ" เอเดรียนพูดเสียงกระซิบเมื่อเห็นแผ่นหลังของจิ้งจอกสาวไปแล้ว แต่สัมผัสอุ่นๆตรงกลางหน้าผากยังคงหลงเหลือให้เขานอนหลับฝันดี...
....
วันรุ่งขึ้นมาถึง ฉันเดินมากับนาธานที่ดูเงียบกว่าทุกที
"เอาน่า เดียวนายก็เจอ หรือไม่ก็อาจจะมีคนเอามาคืนเองก็ได้" ฉันพูดปลอบใจแฝดชายตัวเองที่ตอนนี้ก็ยังหาโทรศัพท์ตัวเองไม่พบ ไม่รู้ว่าเขาไปลืมไว้ที่ไหน
"แต่ฉันจำได้ว่าใส่ไว้ในกระเป๋าล็อคเกอร์จริงๆนะ" นาธานเอ่ยเสียงกังวล เขาไม่อยากจะซื้อมือถือเครื่องใหม่เลย เพราะเครื่องนี้ก็ใช้ได้ไม่นานและแถมมันยังแพงสุดๆเพราะไดอาน่าเป็นคนซื้อให้เองกับมือ
ถ้ามันหายละก็เขาคงนึกเสียดายและรู้สึกผิดมากๆ
"เฮ้! ไดอาน่า นาธาเนียล มีเวลาสักครู่คุยกันไหม?" เสียงอัลย่าที่เดินมาพร้อมกับมาริเน็ต ฉันพยักหน้าให้ก่อนที่อัลย่าจะดึงมาริเน็ตเข้ามาพร้อมชักถามฉันกับนาธานสองสามประโยค
ตุบ!
กระเป๋านาธานหล่นลง พร้อมกับโทรศัพท์ของเขา ที่หลุดออกมาจากกระเป๋า นาธานชะงักไปนิดเมื่อเห็นว่ามีบางอย่างกระเด็นออกมา
"เอ๋ ฉันว่าฉันค้นในกระเป๋าเกือบพันรอบแล้วนะ?" ชายหนุ่มจับโทรศัพท์ตัวเองขึ้นดู พร้อมกับเปิดดูเครื่องว่าไม่มีอะไรเสียหายตรงไหน
อ้อ...เป็นอย่างนี้เองสินะ
ฉันเหลือบมองมาริเน็ตที่พยายามยืนนิ่งๆไม่ให้มีพิรุธ เมื่อกี้สายตาเธอทันมองเห็นมาริเน็ตหยิบโทรศัพท์ของนาธานออกมาจากกระเป๋าตัวเอง แล้วหย่อนลงไปในกระเป๋าเป้ของเขาได้
อึ๊ย!
ดวงตาสีไพลินของมาริเน็ตเหลือบมาสบกับนัยน์ตาฟ้าของฉันพอดี เธอเลยส่งยิ้มหวานไปให้ขณะที่มาริเน็ตหน้าซีดยกยิ้มแห้งๆ
"นายคงจะเมากับตารางเรียนมากไปแล้วนาธาน!" ฉันพูดหัวเราะอย่างไม่มีปี่มีขลุยพร้อมตบหลังแฝดชายตัวเองแปะๆ
"คืนนี้เราต้องไปโรงหนังเพื่อพักสมองบ้าง ฉันรู้จักหนังเรื่องหนึ่งเพิ่งเข้ามาใหม่น่าสนุกดี"
"เอ๊ะ ฉันได้ยินใครพูดถึงหนัง พวกเราว่าจะไปดูคืนนี้พอดี" นีโน่พูดพร้อมกอดคอเอเดรียน
"จะเป็นอะไรไหมถ้าพวกเราสี่คนจะขอไปแจมด้วยน่ะ" อันนี้อัลย่ากล่าว และมาริเน็ตที่นิ่งค้างไปเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
"แน่นอน" ฉันหัวเราะเมื่อทุกอย่างมันช่างดูเป็นใจกันเหลือเกิน
++++++++++++++++++++++++100%++++++++++++++++++++++
ฮากาม่า(กางเกงญี่ปุ่นดังในรูป)
เคน แปลว่า ดาบและคำว่า โด้ แปลว่า วิถี เมื่อรวมเป็นเคนโด้ ก็กลายเป็น วิธีแห่งดาบ โดยมีสามองค์ประกอบคือ กาย จิต ดาบ ที่ประสานหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะฉะนั้นเคนโด้ไม่ใช่แค่กีฬา แต่มันยังฝึกฝนจิตวิญญาณอีกด้วย
สถานีต่อไป วาเลนไทร์จ้าา เร่งแต่งตอนที่ชอบเพราะเดียวจะเข้าเนื้อหลังแล้วล่ะ อยากให้ไรท์แต่งตอนไหนเป็นพิเศษไหม ถ้าไรท์ว่างเมื่อไหร่จะมาลงนะเออ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น