ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Miraculous ladybug มหัศจรรย์ปาฏิหาริย์

    ลำดับตอนที่ #24 : จิ้งจอกมหัศจรรย์ตอนที่22 : สลับเปลี่ยนวิญญาณ 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.36K
      347
      13 ต.ค. 62






    ผ่านไปหลานเดือนหลังจากที่โซโร่ได้ปรากฏตัวครั้งแรก เขามีแฟนคลับเป็นจำนวนเยอะมากและมีฉายาว่าดาวหางสีแดง จากเหตุการณ์ปรามอาคุม่าครั้งแรกของเขาที่จัดการได้อย่างสวยงาม 

    ประชาชนก็เริ่มคุ้นเคยกับฮิโร่จิ้งจอกแดงสมาชิกใหม่ของเมืองปารีสแล้ว  นอกจากนั้นนาธานยังต้องปรับตัวกับตารางงานที่เริ่มเยอะขึ้น ไหนจะไปฝึกร้องเพลงและออกไปต่อสู้กับอาคุม่า แล้วเรื่องเรียนอีกด้วย 

    วันหนึ่งพวกเราจึงได้มาปรึกษาและประชุมกันเรื่องแบ่งเวรลาดตระเวนอีกครั้ง ครั้งนี้พวกเราจะสลับหมุนเวียนกันคืนละสองคน ครั้งแรกฉันกับแคทนัวร์ เลดี้บัคกับโซโร่ ก่อนที่จะเปลี่ยนสลับคู่กัน เลดี้บัคกับแคทนัวร์บ้างหรือฉันกับโซโร่บ้าง

    แล้วรู้อะไรไหม? พี่ชายฉันกับแคทนัวร์ไม่ถูกกันล่ะ มีหลายครั้งที่พวกเขาแดกดันใส่กันตอนทำภารกิจ ฉันถามเอเดรียนอยู่ว่าทำไมนายทำแบบนั้นใส่พี่ชายฉัน เขาบอกว่าฉันมัวแต่ให้ความสนใจแต่โซโร่เขาจึงหึงฉันกับพี่ชาย

    ส่วนโซโล่ที่ไม่ถูกกับแคทนัวร์นั้น ฉันเคยถามนาธานตอนกลับถึงบ้าน เขาบอกว่าแคทนัวร์ดูเป็นคนเจ้าชู้เกินไปเขาจึงไม่ไว้ใจ ให้มาใกล้ชิดกับฉันกลัวถูกล่อลวงแล้วฉันจะมาเสียใจทีหลัง

    แต่พอเป็นเอเดรียน...นาธานกับเชียร์สุดใจบอกให้ฉันรีบๆจีบเอเดรียนซะ ฉันแทบอยากจะหัวเราะออกมาเลยตอนนั้น ถ้าเกิดนาธานรู้ว่าแคทนัวร์คือเอเดรียน...เขาจะยังเชียร์(ศัตรู)อีกไหมนะ? 

    แค่คิดก็...น่าสนุกแล้วจริงๆ


    ก็อกๆ เสียงเคาะหน้าต่างดังอย่างทุกที ฉันก็ลุกไปเปิดด้วยความเคยชิน เป็นแมวดำแถวนี้ที่นานๆมาที่ห้องนี้แล้ว โดยเขาให้เหตุผลว่างานเยอะจึงไม่ค่อยว่างมา

    แต่ฉันรู้นะว่าเขากำลังหลบหน้าฉันอยู่เพราะกำลังอยู่ในช่วงสับสน ส่วนฉันก็ไม่ว่าอะไรเพราะเธอกำลังคิดจะรุกจีบเขาอยู่พอดี แบบฉบับตัวเองน่ะนะ.. เพราะฉะนั้นฉันจึงบอกให้เขามาบ่อยๆ เพื่อจะให้แคทนัวร์ช่วยมาฟังเพลงแล้วชี้จุดผิดให้ด้วย

    'แน่อยู่แล้วล่ะว่าเป็นข้ออ้างน่ะ..' แสยะยิ้มในใจ  

    ในระหว่างที่ฉันกับแคทนัวร์พูดคุยอย่างออกรส อยู่ๆประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับร่างหนึ่งที่พุ่งเข้ามา

    "ไดอาน่า!" เป็นนาธาเนียลที่ได้ยินเสียงแคทนัวร์ในห้องของน้องสาวตัวเอง เจ้าตัวจึงรีบเข้ามาในห้องเพราะกลัวแคทนัวร์ล่อลวงไดอาน่า

    "มีอะไรเหรอพี่ชาย?" เธอหันไปถามงงๆเมื่อเห็นนาธานตีหน้าเครียดมาแต่ไกล ก่อนที่เขาจะยิ้มบางตอนมองมาที่ฉัน

    "ทำไมแคทนัวร์เขามาที่นี่อีกแล้วล่ะ"  นาธานเน้นคำว่า'อีกแล้ว'เป็นพิเศษ ฉันก็อธิบายไปว่าแคทนัวร์เขาเก่งเรื่องแต่งกวีเลยขอให้เจ้าตัวช่วยแต่งคำบางตัวให้หน่อย

    "โอเค...แต่ทีหลังมาถามฉันจะดีกว่านะ มันคงไม่ดีเท่าไหร่ถ้าแฟนเธอรู้ใช่มั้ย ว่ามีผู้ชายคนอื่นอยู่ในห้อง" 

    ควับ

    ฉันหันไปมองนาธาเนียลที่ทิ้งระเบิดมาตรงหน้า 

    "แฟน?..อะไรนะ เธอมีแฟนแล้ว" แคทนัวร์พูดเสียงสูงอย่างตกใจ เขาหันมาจ้องฉันเหมือนว่าทำไมฉันไม่รู้เลย อย่าว่าแต่เขาที่ไม่รู้ฉันยังไม่รู้เลยว่าใครคือแฟนฉันกัน!

    "ใช่ ผู้ชายคนนี้เขาชื่อ'เอเดรียน อเกรซ' เป็นเพื่อนที่โรงเรียนพวกเรา คุณรู้จักใช่มั้ย" สิ้นคำพูดนาธานก็ยิ้มกริ่ม

    ฉันหน้าชาพร้อมอ้าปากพะงาบเมื่อฟังนาธานพูดจบ

    นาธาเนียล! นายพูดบ้าอะไร มาให้ฉันตีก้นคุณเดี๋ยวนี้!

    "จริงเหรอ?" แคทนัวร์ทำหน้าเหมือนไม่รู้ แต่ฉันเห็นว่าเขาแอบกระตุกไปวูบหนึ่ง

    "ใช่-" ก่อนที่นาธานจะได้พูดจบเธอก็รีบร้องแทรกขึ้นมา

    "เขาไม่ใช่แฟนฉัน!" เธอโวยวายกลบเกลื่อนความเขิน 

    แต่เหมือนมันจะไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่เพราะนาธานยิ้มแหย่มา มันยิ่งทำให้แคทนัวร์ที่ตาโตมองฉันสลับกับนาธานค่อยๆหน้าแดงขึ้น

    "มันไม่ตลกนะนาธาน! ออกไปเลย การบ้านนายเสร็จแล้วหรือไง!" ฉันตีแขนแฝดตัวเองพร้อมผลักให้เขาออกจากห้อง ฉันได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากแฝดตัวเองหลังจากที่ปิดประตูลง

    หลังจากที่ความเงียบเข้ามาสักพัก แคทนัวร์ที่แกล้งอะแฮ่มไอก็เริ่มเปิดประเด็น

    "ไม่ยักรู้ว่าเจ้าหญิงชอบผู้ชายผมบลอนด์ตาสีเขียว แบบนี้ฉันก็มีโอกาสสินะ" แคทนัวร์ยิ้มล้อเลียน มันช่างหน้าหมั่นไส้จนฉันอยากจะแกล้งเขาคืนจริงๆ  

    เอ๋ หรือว่าฉันจะลองรุกเขาในร่างไดอาน่าดี?..


    "ว่าแต่ทำไมเหมือนพี่ชายคุณจะไม่ชอบฉันเลยล่ะ"  

    ฉันที่คิดกับตัวเองนานเกินไป แคทนัวร์จึงเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาใหม่ 

    "ทำไมคิดอย่างนั้นละ?"

    "ความรู้สึกมันบอก"

    อื้ม..ความรู้สึกนายมันบอกถูกแล้วล่ะแคทนัวร์ 

    หลังจากนั้นแคทนัวร์ก็ขอตัวกลับเพราะถึงเวลาลาดตระเวนของเขากับซิลเวอร์แล้ว ฉันที่ยิ้มส่งก็เปลี่ยนเป็น'ยิ้มแสยะ'ก่อนจะออกจากห้องไปหานาธาน

    "ฉันล้อเล่นอย่าฆ่าฉันนะ!" นาธานหลบอยู่หลังโซฟาเหมือนกลัวว่าฉันจะพุ่งเข้าไปบีบคอเขาจริงๆ ถ้าเป็นไม่กี่นาทีก่อนฉันก็อยากจะบีบคอเขาด้วยความเขินจริงๆนั้นแหละ

    "อย่าบ้าน่า ฉันแค่จะมาบอกว่าจะออกไปลาดตระเวนแล้ว" พอฉันพูดจบนาธานก็โผล่หัวขึ้นมายิ้มแหะๆให้ อย่าคิดว่าทำตัวน่ารักสู้แล้วฉันจะไม่ลงบัญชีดำนายนะยะ! ชิส์

    หลังจากที่ขู่นาธานเล็กน้อยเธอก็เปลี่ยนเป็นซิลเวอร์ก่อนจะออกไปลาดตระเวนกับแคทนัวร์ ใช้เวลาสักพักใหญ่ถึงกลับมาเข้านอนเพื่อเตรียมไปโรงเรียนต่อพรุ่งนี้


    เฮ้อ...รู้สึกเหนื่อยจัง



    ....



    ตอนเช้ามาถึง ฉันรีบร้อนวิ่งออกจากห้องเพราะปรากฏว่าเวลามันสายแล้ว เธอสุ่มๆหยิบเสื้อแล้วสวมลงไปแบบไม่ได้ดู ก่อนจะรีบไปเคาะประตูห้องนาธาน เจ้าตัวออกมาด้วยสภาพที่ยังไม่ลืมตาตื่นดีด้วยซ้ำ ฉันเลยลากเขาไปเข้าห้องน้ำ แล้วไปห้องครัวทำแซนวิซกินระหว่างเดินทาง

    พอนาธานออกมาจากห้องด้วยสีหน้าสดใสกว่าเดิม แต่ตายังปรือๆแล้วเดินเซไปเซมาอยู่ เธอเลยจูงเขาขึ้นรถแล้วบอกให้มิแรนด้าที่มัวสนใจโทรศัพท์ดูตารางงาน สั่งให้ขับออกไปด้วยความเร็วทันทีเพราะมันจะสายแล้ว

    แล้วก็โชคดีที่ฉันมาทัน!

    "นึกว่าจะสายซะแล้ว!" เสียงหนึ่งที่ดังตามความคิดเธอมาติดๆ ฉันหันไปมองก่อนจะสะดุ้งเล็กๆ เพราะดันไปนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนซะได้ 

    "ไฮ...'เอเดรียน' อรุนสวัสดิ์" เธอตีหน้ายิ้มพูดทักทายไปปกติ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเอเดรียนหันมามองแล้วเลิกคิ้ว 

    "อา...เสื้อสวยดี" เอเดรียนเอ่ยอย่างลังเลขณะที่เขามองเสื้อฉันอย่างสนใจ เธอเลยก้มไปมองอย่างสงสัยก่อนตาจะเบิกกว้าง

    เสื้อที่ฉันหยิบมาเป็นเสื้อยืดสีดำปกติแต่มีตัวอักษรตรงหน้าท้องว่า

    [ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงแสนง่อยที่ทำอะไรไม่เป็นแต่ฉันคือราชีนีผู้จะจัดการพวก***ปี๊บ***เซนเซอร์]

    บร๊ะ! ฉันจำไม่เห็นได้ว่าเคยซื้อเสื้อนี้นะ!?

    "อะไรน่ะ ฉะ ฉันว่าฉันไม่เคยซื้อเสื้อนี่-เอ่อ อ้อ!..นี้มันของแฟนคลับที่ส่งมาให้นี้นา....แม่บ้านต้องเผลอเก็บเข้าตู้เสื้อผ้าฉันแน่ๆ" เธอครำครวณเสียงหนักใจเพราะรู้ว่าเสื้อแบบนี้มันไม่เหมาะใส่มาในสถานศึกษา

    "ฮ่ะๆ ไม่คิดว่าเธอจะซุ่มซ่านได้ขนาดนี้ เอ้านี่" เอเดรียนหัวเราะเสียงใส ก่อนที่เขาจะถอดเนื้อนอกตัวเองยื่นมาให้เธอ ฉันชะงักมองเสื้อนอกสีขาวของเขาก่อนจะรีบส่ายหัวปฏิเสธ

    "มะ ไม่ล่ะขอบคุณนะ ฉันไปขอยืมนาธานก็ได้ เฮ้ นาธา-"

    หายไปแล้ว! นี่เขาทิ้งฉันให้อยู่กับเอเดรียนสองคนเหรอ!? 

    นาธาเนียล!  ฝากไว้ก่อนเถอะ!

    "ขอบคุณ..." เธอค่อยๆหันกลับมาพูดตอบอ้อมแอ้ม ก่อนจะรับเสื้อเขามาสวมใส่ มันตัวใหญ่กว่าที่คิดแฮะ? ฉันก้มติดกระดุมทุกเม็ดจนเรียบร้อย ตรวจดูอีกครั้งว่ามันไม่เห็นเสื้อข้างใน 

    "เหมาะดี เอาล่ะ เข้าห้องเรียนเถอะท่าน'ราชีนี'" เอเดรียนพูดจาหยอกล้อจนฉันมองค้อนเขา เจ้าตัวถึงได้พอใจเดินไปเข้าห้องเรียนพร้อมกัน

    ฮึ๊ย เขาจะทำตัวเหมือนแคทนัวร์มากขึ้นไปทุกทีแล้วนะ รอโอกาสฉันให้แกล้งนายก่อนเถอะ!...

    'แต่ก่อนอื่น..ตอนนี้ฉันว่าฉันมีปัญหาแล้วล่ะค่ะ..'  ฉันลองสูดหายใจรอบข้างก่อนจะหน้าซับสีแดงจางๆ

    กะ กลิ่นของเอเดรียนมัน.. กลิ่นเขามันติดเสื้อเต็มไปหมดเลย! เธอสะบัดหัวไล่ความคิดไม่ดีออกไป ก่อนจะทำใจกล้าก้าวเข้าไปในห้อง แน่นอนอยู่แล้วล่ะว่ามาด้วยกันแบบนี้พวกเราต้องเด่น

    "ฮิ้วว ทำไมเธอใส่เอเดรียนมาได้เนี่ย" นีโน่ร้องทักยิ่งเรียกสายตาสงสัยจากคนในห้องเข้าไปใหญ่

    "ฮันแน่...หรือว่าพวกนาย..สองคนจะ?" นีโน่ปิดปากกลั้นยิ้ม แต่ก่อนที่คนอื่นจะได้คิดไปไกล เอเดรียนก็โบกมือไปมาด้วยหน้าที่แดงก่อนจะพูดเสียงตื่นๆ

    "ไม่ใช่ๆ พอดีว่าเสื้อไดอาน่าเขามีปัญหาน่ะ ฉันเลยให้ยืมเสื้อ" เขารีบแก้ตัวพร้อมกับฉันที่ร่วมพยักหน้าเสริมด้วย แต่ทุกคนก็ยังคงทำสีหน้าไม่เชื่อ ฉันเลยเดินออกมาด้านหน้าเอเดรียน ก่อนทำท่าจะปลดกระดุมเสื้อออก 

    "เฮ้ย จะทำอะไร" เสียงตะโกนเอ่ยขึ้นพร้อมกับอุ้งมือที่มากุมมือเธอให้หยุดแงะกระดุม ฉันหันไปมองเอเดรียนงงๆ

    "จะบอกให้พวกเขารู้ไงว่านายไม่ได้โกหก"

    "นีโน่แค่ล้อเล่นน่ะ ไม่ต้องถอดจริงหรอก" 

    ฉันกำลังจะแย้งแต่โดนเขาดันหลังให้กลับไปนั่งที่กับนาธานก่อน เธอเลยยอมแพ้กลับไปอย่างเชื่อฟัง 

    อะไรกัน ก็แค่จะถอดเสื้อนอกให้ดูเสื้อข้างในเป็นยังไง ไม่เห็นต้องพากันหน้าแดงเลย บ้าหรือเปล่าเนี่ย


    "นาธาน! นายแอบเดินหนีมาก่อนได้ยังไง เจ้าบ้านาธาน" ฉันเขย่าตัวนาธานที่ฟุบหน้าบนโต๊ะอยู่ เขาพึมพำอะไรสักอย่างแล้วก็นอนหลับต่อ 

    'สงสัยยังปรับตัวไม่ได้สินะ' ฉันเปลี่ยนไปลูบหัวเด็กหนุ่มแทนเมื่อเห็นท่าทางอ่อนเพลียของเขา ลืมไปเลยว่านาธานเป็นเด็กผู้ชายปกติมาตลอดนี้นา พอมาทำอะไรแบบนี้หลายอย่างก็ต้องมีเหนื่อยกันบ้าง แต่ฉันมันพวกประเภทอึดเลยไม่เป็นไร เฮ้อ

    "นายทำดีแล้ว" ฉันพึมพำเสียงกระซิบ ก่อนจะหันมาหยิบหนังสือเรียนที่กำลังจะเริ่มชั่วโมงแรกขึ้นมา


    ....


    ชั้นเรียนสุดท้ายจบลง ถัดไปเป็นชั่วโมงพละ พวกเราก็ไปห้องออกกำลังกายกัน เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงต่างแยกย้ายเดินเข้าห้องล็อกเกอร์เพื่อไปเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกายที่เหมาะสม 

    ในขณะที่ฉันถอดเสื้อนอกของเอเดรียนออก เธอก็พับเก็บเข้าตู้ล็อกเกอร์ให้เรียบร้อย ก่อนจะถอดเสื้อสีดำเจ้าปัญหา จนเห็นบราเซียสีน้ำเงินเข้มที่ตัดจากสีผิวที่ขาวผ่องของตัวเอง

    อัลย่าโผล่มาจากไหนไม่รู้เธอวางมือบนไหล่ฉัน ก่อนจะใช้นิ้วชี้จิ้มๆบนเนินอกของเธอจนฉันสะดุ้งเฮือก 

    "อัลย่า!" เธอเอะอะเสียงดังพร้อมเอามือปิดหน้าอกตัวเองอย่างตกใจ


    "ว้าว เธอซ่อนรูปนะไดอาน่า รูปร่างดีมากจนน่าอิจฉาเลย" อัลย่าก้มมองดูหน้าอกฉันและอุทาน ฉันที่หน้าแดงเพราะอัลย่าพูดออกมาโต้งๆจนเรียกความสนใจจากเพื่อนรอบข้าง 

    "ของเธอก็ดีอยู่แล้วจะมาอิจฉาทำไม" ฉันหรี่ตามองหน้าอกของอัลย่า ใช่ว่าเจ้าตัวไม่อึ๋มซะหน่อย ก่อนจะถอนหายใจและเตรียมจะสวมเสื้อต่อ แต่โดนหยุดไว้อีกเมื่อมาริเน็ตโผล่เข้ามา

    "สวัสดีไดอาน่า ไงอัลย่า คุยอะไรกันอยู่?" มาริเน็ตทักทาย เธอเพิ่งกลับมาจากส่งงานให้คุณครูบัสเทียร์เลยมาช้ากว่าเพื่อน  เมื่อเห็นว่าไดอาน่าสาวสวยของห้องยังไม่ได้ออกไปไหน พร้อมข้างๆมีอัลย่าที่ยังไม่ได้สวมเสื้อพละยืนแสยะยิ้มข้างๆ

    "เฮ้ มาริเน็ตมาพอดีเลย เธอคิดว่าระหว่างฉันกับไดอาน่าของใครดีกว่า" อัลย่ากอดไหล่ไดอาน่าที่หันควับมามองเหมือนว่าฉันเอี่ยวอะไรด้วย

    "เห...มันก็..." มาริเน็ตนิ่งไปนิดก่อนจะลดสายตาลงมองหน้าอกของสองสาว ผ่านไปสักพักมาริเน็ตก็ก้มมองหน้าอกตัวเองก่อนจะทำหน้าเสียใจออกมา

    พรึบ

    "พวกเราจะไปเข้าเรียนสายเอานะ!" ฉันอดพูดโพล่งขึ้นมาขัดไม่ได้ "รีบใส่เสื้อได้แล้ว" เธอดุอัลย่ากับมาริเน็ตที่ยังไม่ใส่เสื้อและเปลี่ยนเสื้อสักที จนเธอพูดนั้นแหละพวกเขาถึงได้รีบใส่

    หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อเสร็จพวกเราก็ไปรวมตัวกันที่สนามกีฬา มีโค้ชมายืนรออยู่ก่อนแล้ว

    "วันนี้ฉันจะให้พวกคุณทั้งหมดเริ่มต้นด้วยท่ายืดเส้นยืดสายก่อน" โค้ชกล่าวพร้อมกับเป่าลูกหวีดในมือที่เริ่มส่งเสียงให้สัญาญาแรก 

    คุณครูให้พวกเราแบ่งเป็นกลุ่มกัน ฉันที่ตัวติดกับนาธานถูกดึงให้ไปอยู่กลุ่มอัลย่ากับมาริเน็ต ก่อนที่นีโน่จะลากเอเดรียนมาร่วมกลุ่มกับอัลย่าด้วย 

    ส่วนโคลอี้กับซาบรีน่าจะเดินมาทางนี้อย่างมุ่งมั่น แต่โดนโค้ชจับหมุนให้ไปร่วมกับกลุ่มเพื่อนในห้องที่ยังขาดคนไม่ครบ เมื่อโคลอี้กับซาบรีน่าเข้าไปจึงครบคนพอดี 

    ถือว่าเอเดรียนกับนาธานรอดตัวไป...หือ? นาธานเกี่ยวอะไรด้วยน่ะเหรอ? เหอะๆ.. เพราะช่วงเปิดตัวครั้งล่าสุดนั้นแหละทำให้สาวๆต่างหลงใหลเขามากขึ้น ร่วมถึงโคลอี้ที่ทิ้งท่าทีดูถูกนาธานช่วงแรกเปลี่ยนไปเป็นแฟนคลับแทน 

    ทำเอานาธานผวาทุกครั้งที่ได้ยินชื่อโคลอี้เลย เพราะสำหรับนาธานแล้วโคลอี้เหมือนฝันร้ายของเขา เมื่ออยู่ๆหญิงเจ้าก็เปลี่ยนท่าทีมาทำตัวเขินอายเหมือนอยู่กับเอเดรียนสองต่อสอง เพราะฉะนั้นเธอจึงต้องอยู่ติดกับนาธานไว้ เพราะไม่รู้ว่าตอนไหนที่โคลอี้จะพุ่งเข้ามาครอเครียพี่ชายฉัน

    "เดี๋ยว! เธอทำแบบนั้นได้ยังไงน่ะ" เสียงอัลย่าพูดอย่างตกใจเมื่อเห็นหญิงสาวผมสีเงินทำท่ายืดเส้นยืดสายแบบยากๆขึ้นมา 

    แต่ที่จริงแล้วมันคือท่าออกกำลังกายปกติของไดอาน่า

    "ฉันเรียนยิมนาสติกมา" เธอพูดสบายๆขณะที่หัวอยู่ล่าง ปลายเท้าชี้ฟ้าแล้วโค้งตัวลง ให้ขากับสะโพกเอนไปข้างหน้าจนดูหวาดเสียวว่าตัวจะหัก 

    "สุดยอด! ตัวอ่อนสุดๆเลย!?"

    โรสกับจูเรก้าที่อยู่บริเวณนั้นอุทานเสียงตื่นเต้น ก่อนจะร่วมกันปรบมือแปะๆเมื่อฉันเริ่มเปลี่ยนท่า

    "ไดอาน่าฉันพอเข้าใจ แต่ทำไมมาริเน็ตก็ด้วยล่ะ!?" อัลย่าพูดขึ้นอีกครั้ง เมื่อข้างๆฉันคือมาริเน็ตกำลังเอามือทาบพื้นทรงตัวอยู่ และเอาหัวลงก่อนข้าสองข้างจะชี้บนฟ้า ก่อนที่ขาข้างใดข้างหนึ่งจะแยกออก ก่อนจะให้ขาข้างหนึ่งตกโค้งลงมาจนเกือบถึงหัว 

    ฉันหันไปมองมาริเน็ตที่อยู่ในชุดออกกำลังกายแบบเดียวกัน แต่เปลี่ยนทรงผมจากผมแกะต่ำเป็นผมทรงรวบขึ้นสูงเป็นดังโงะ มันดูแปลกตาดีฉันชอบทรงนี้นะ 

    "อะ เอ่อ" มาริเน็ตยิ้มเหยๆตอบไม่ถูกเมื่ออัลย่ามองมาอย่างสงสัย นีโน่ที่อยู่แถวนั้นก็อุทานออกมาเช่นกันเมื่อหันมาเห็นมาริเน็ตยืดและโค้งตัวได้

    "พวกเธอสองคนมีความยืดหยุ่นขนาดไหนกันเนี่ย!?" 

    "น่าแปลกจัง?" เอเดรียนมองทางสองสาวปริบๆ ขณะที่เขาก็นั่งลงแล้วยืดขาแยกออกสองข้างก่อนจะก้มตัวโค้งลงไปข้างหน้า 

    นีโน่เห็นเอเดรียนโค้งตัวไปเรื่อยๆก็หน้าซีดเรื่อยๆเช่นกัน

    นี่เขาจะโค้งตัวไปถึงไหน!?

    "...เพื่อน...นายไม่เจ็บเหรอ" นีโน่จับไหล่เอเดรียนที่หันข้างมามองงงๆก่อนจะส่ายหัว

    "ไม่นิ? ฉันไม่เจ็บนะ" เอเดรียนตอบซือๆ ทำเอานีโน่อ้าปากเหวอ แต่ขณะที่เขาจะได้พูดอะไร ชายหนุ่มก็เหลือบไปเห็นนาธาเนียลที่นั่งยืดเส้นยืดสายท่าเดียวแบบเอเดรียนเลย

    "...." นาธานยืดขาออกสองข้างก่อนจะนิ่งไปแปบหนึ่ง นีโน่เห็นชายหนุ่มนิ่งไปนานก็เลยคิดว่าเจ้าตัวอาจจะเจ็บก็ได้ ไม่เหมือนเอเดรียนที่มีความยืดหยุ่นเกินไป!?

    ...ฟุบ!

    นาธานที่ค้างท่าเดิม ก่อนครู่ต่อมาเขาจะฟุบหน้าลงกับพื้นแล้วเริ่มกรนเสียงฟี้ออกมา 


    ".....!"

    ตุบ

    เสียงสะดุดอากาศของนีโน่ที่กำลังจะเดินไปหาถึงกับล้มลงเพราะคาดไม่ถึง 

    "ขะ เขาหลับไปแล้ว! เห้ยบ้าน่า! หลับทั้งท่าแบบนั้นเลยเหรอ!? พวกนายสองคนมีความยืดหยุ่นขนาดไหนกันเนี่ย!?" นีโน่โวยวายอย่างตกใจ เพราะเขาแค่ยืดขาแยกออกไม่กี่ช่วงแขนก็ตรึงจนเจ็บแล้ว!

    "เอาล่ะเด็กๆ ต่อไปจะเป็นการจับเวลาวิ่ง เริ่มจากกลุ่มAก่อน" โค้ชพละเดินมาเป่าลูกหวีดเสียงดัง ก่อนที่กลุ่มพวกเราจะเข้าไปเริ่มวิ่งทีละสองคน ฉันหันมาทางนาธานทันทีก่อนจะเดินดุ่มๆไปเขย่าตัวเขา

    "นาธานตื่น! ได้เวลาคู่เราแล้ว! นายต้องทำเวลาดีเพื่อเก็บคะแนนวิชาที่แย่ที่สุดของนายนะ!" 

    "ฉันเหนื่อย..." นาธานพึมพำเสียงเบาขณะที่เขาโดนฉันดึงแขนให้ลุกขึ้นยืน

    "นายควรบอกฉันว่าเหนื่อยจากการลาดตะเวนวันก่อน ฉันจะได้ช่วยมาลาดตะเวนแทน" เธอส่ายหัวปลงๆก่อนจะเอ่ยเสียงเป็นห่วง

    "ขอโทษ" นาธานพูดทั้งที่ยังไม่ลืมตา 

    "พอเลย คืนนี้นายต้องพัก ฉันจะไปแทน"

    "ขอโทษ.." 


    "เลิกพูดแต่ขอโทษแล้วลุกขึ้นมาได้แล้ว!" เธอตะโกนใส่หูเขาจนนาธาเนียลเด้งตัวขึ้นพร้อมเอ่ยเสียงตกใจ

    "ฉันตื่นแล้ว!" 

    หลังจากนั้นฉันกับนาธานก็ได้วิ่งไปร่วมตัวเป็นคู่สุดท้าย เพราะมัวแต่รอให้นาธานตื่นนั้นแหละ แต่ทว่าตอนที่กลุ่มพวกเราเริ่มออกวิ่งนั้น แทบทำเอาคิมที่เป็นตัวแทนนักกีฬาถึงกับมองตาค้าง 

    เมื่อฉันกับนาธานวิ่งผ่านเส้นขาวไปด้วยความรวดเร็วจนโค้ชกับนักเรียนคนอื่นยังอึ้ง พร้อมกับนาธานที่ทำวิชานี้ได้แย่มาตลอดก็อดทึ่งกับฝีเท้าตัวเองไม่ได้

    ฉันได้ที่หนึ่งตามคาด ก่อนจะตามมาด้วยเอเดรียนกับคิม และครู่หนึ่งก็ตามด้วยมาริเน็ตกับนาธาน

    "นายทำได้ดี สมกับที่มาสเตอร์คอยฝึกให้" ฉันเดินไปตบหลังนาธานแปะๆถึงความสำเร็จของเขา ไม่แปลกที่นาธานจะเริ่มออกกำลังกายได้ดี เพราะถูกฝึกอย่างหนักจนกล้ามเนื้อและส่วนสูงเริ่มเพิ่มขึ้นจากเดิมแล้ว ตอนนี้เขาสูงกว่าฉันอีก

    "เยี่ยมมากเลยพวกนาย! พวกเธอวิ่งได้เร็วมากสนใจเข้าร่วมชมรมกีฬากับฉันไหม" เป็นคิมที่เอ่ยขึ้นมาเสียงดังแต่พวกเราสี่คนก็ปฏิเสธไป โดยฉันกับเอเดรียนบอกว่าพวกเรามีตารางฝึกอยู่แล้ว ฉันต้องเข้ายิมนาสติกและเคนโด้ ส่วนเอเดรียนก็อ้างว่าเขามีชมรมฟันดาบกับคาราเต้แล้ว

    "ฉันไม่มีเวลาหรอก ที่บ้านฉันขายของฉันต้องกลับไปช่วย คงไม่ว่างไปซ้อมน่ะ.. แหะๆ" มาริเน็ตเอ่ยเสียงลำบากใจเมื่อคิมหันมามองอย่างคาดหวัง

    "ฉันก็ตารางงานยุ่งมาก โทษทีนะคิม" นาธานเอ่ยขอโทษต่อท้าย คิมทำหน้าผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็กลับมายิ้มดีใจได้ใหม่

    "เอาเถอะถึงอย่างนั้นถ้าอยากเปลี่ยนใจก็มาได้นะ!" คิมเอ่ยทิ้งท้ายก่อนที่โค้ชจะเรียกร่วมมาฟังคะแนนแล้วปล่อยให้นักเรียนไปพักเที่ยง


    ...

    "นายวิ่งได้เร็วกว่านั้นทำไมนายไม่ทำ?" ระหว่างถือถาดอาหารไปที่โต๊ะ ฉันก็เอ่ยถามคำถามกับนาธานที่เดินคู่ถือถาดมาข้างๆ

    "หือ?" นาธานทำหน้างง เธอเลยพูดขยายความ

    "ฉันเห็นนะว่านายจงใจลดฝีเท้าให้อยู่ระดับเดียวกับมาริเน็ตน่ะ" เธอแสยะยิ้มหวานพลางหัวเราะคิกคักกับใบหน้าที่ขึ้นสีแดงของแฝดตัวเอง 

    ถ้านาธานเอาจริงล่ะก็ เขาอาจจะเป็นที่สองหรือที่สามต่อจากเอเดรียนเลยก็ได้ มันเกิดจากการฝึกซ้อมของพวกเราและพลังของมิราเคิลก็มีส่วนเกี่ยวนิดหน่อย เดี่ยวนี้มาสเตอร์บอกว่าพวกเราสี่คนเริ่มปรับตัวซึมซับความสามารถของพลังมหัศจรรย์ได้แล้ว 

    มาสเตอร์ฟูบอกว่ายังไม่รู้สาเหตุของมัน ทำไมพวกเราถึงได้รับการแบ่งพลังบางส่วนของมิเราเคิลมากันแน่? แต่เขาว่ามันก็เป็นข้อดีที่ทำให้พวกเราปกป้องตัวเองได้  

    แต่ก็ใช้ว่าจะไม่มีข้อเสีย...อย่างการที่ได้ยินอะไรดังๆมากไม่ได้นั้นแหละ.. 

    หลังจากที่พวกเราเริ่มทานข้าวจนเสร็จและยกถาดอาหารไปเก็บ ฉันกับนาธานเดินผ่านหน้าห้องก็เจอกลุ่มคนกำลังโต้แย้งคุยอะไรกันอยู่

    "นั้นอะไรน่ะ" เธอถามสงสัย 

    "ไม่รู้สิ" นาธานส่ายหัว ก่อนที่พวกเราสองคนจะฝ่าฝูงคนเข้าไป แล้วพบเอเดรียนกับนีโน่ในวงล้อม

    "เกิดอะไร? มีใครจะบอกได้มั้ย" เธอถามอย่างฉุดงง ก่อนที่อัลย่าจะหันมาเห็นแล้วดึงฉันกับนาธานเข้าไป

    "พวกเรากำลังโต้แย้งเรื่องอัตลักษณ์ของฮิโร่กันอยู่ ฉันคิดว่าเลดี้บัคต้องเป็นนักเรียนเหมือนพวกเรา แต่ฝั่งโน่นก็บอกว่าเลดี้บัคอาจจะอายุเยอะกว่า"

    ฉันยืนนิ่งแอบเหงื่อตก ดูจากสายตาก็รู้เลยว่าต้องเป็นฝั่งเอเดรียนแน่ๆที่บอกว่าเลดี้บัคแก่กว่า 

    "ฉันเห็นด้วยว่าเลดี้บัคอาจจะแก่กว่านะ" อยู่ๆนาธานก็พูดมา นีโน่ยิ้มก่อนจะเดินมาลากนาธานไปฝั่งเดียวกับเอเดรียน ทำเอาอัลย่าหน้ามุ่ยไม่ชอบใจ

    "อย่าลืมเรื่องหนังสือที่เลดี้บัคเคยทำหล่นสิ เธออาจจะเรียนที่เดียวกับพวกเรา!" อัลย่าไม่ยอมแพ้พูดเสริมมาอีก ทำให้มาริเน็ตที่อยู่ข้างๆแอบสะดุ้งอย่างไม่มีใครเห็นยกเว้นฉันที่จับตาดูอยู่

    "ไม่ใช่ว่าเลดี้บัคเคยบอกว่า..อยู่มานานเลยอยากจะอ่านเนื้อหาของเด็กๆหรอกเหรอ" ฉันทำท่าคิดแล้วแย้งไป เพื่อช่วยมาริเน็ตที่หน้าซีดเหงื่อตก อีกสักหน่อยคงเริ่มอยู่ไม่สุข

    "ใช่...! เอ่อ ฉะ ฉันหมายถึง ไดอาน่าน่าจะพูดถูก.." มาริเน็ตที่เผลอหลุดพูดขึ้นมา เธอเลยลนลานแก้ตัวเมื่ออัลย่าหรี่ตามองมาริเน็ต

    "แล้วซิลเวอร์กับโซโร่ล่ะ! พวกเขาคือใคร?" เสียงของใครสักคนในกลุ่มพูดขึ้นมา ทำฉันยกยิ้มบางยืนเงียบๆ


    "พวกเขาต้องเป็นฝาแฝดกัน" อัลย่าพูดให้ทุกคนสงสัย ก่อนที่พวกเขาจะหันมามองที่ฉันกับนาธาน

    "อะไร?" ฉันมองพวกเขาก่อนจะแกล้งถามเหมือนไม่รู้เรื่อง.... ท่าจะไม่ดีแล้ว!

    "พวกเธอมีอะไรจะพูดไหม?" อัลย่าหรี่ตาลง วิญญาณนักสืบเริ่มเข้าสิงเธอ ดูเหมือนเธออยากจะหาตัวตนของพวกฮิโร่ให้ได้จริงๆ

    "โอ้..เดี๋ยวนะ? พวกเธอจะสื่อว่าฉันกับพี่ชายฉันเป็นฮิโร่เหรอ?..พรืด พูดอะไรน่ะน่าตลกจัง ถึงจะใช้จริงแต่พวกเราไม่ว่างขนาดนั้นหรอกนะ" เธอยกมือมาปิดปากอุทานเหมือนมันตลก นาธานก็หัวเราะเล็กๆก่อนจะช่วยพูดเสริม

    "ใช่ อีกอย่างพวกเราไม่ได้มีลักษณะอะไรเหมือนกับพวกเขาเลย" นาธานอ้างไป ทำให้พวกเขานิ่งคิดตามและพยักหน้าเห็นด้วย

    "ฝาแฝดไม่ได้มีแค่พวกเรานะ ถึงจะมีน้อยแต่ในโรงเรียนยังมี และอาจจะมีทุกๆที่ในปารีสด้วย" ฉันพูดข้อเท็งจริง

    "แต่ฝาแฝดที่มีเพศต่างกันนี้มัน..." อัลย่าหยุดพูดเหมือนเธอกำลังสับสนอยู่ 

    "มันค่อนข้างมีน้อย แต่ก็ใช้ว่าจะไม่มีเลย ฉันตรวจพบว่าประมาณ30% มีฝาแฝดคู่ชายหญิงที่นี่ แถมอยู่เกรดเดียวกับเราด้วย" แม็กซ์ถือเครื่องโน๊ตบุ๊คตัวเก่งตัวเองมากดพิมพ์หาอะไรบางอย่าง ก่อนจะชี้ให้ดูว่านอกจากโรงเรียนแล้ว ในเมืองปารีสยังมีคู่ฝาแฝดเยอะกว่านี้ 

    "ไม่แน่อาจจะยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเป็นฝาแฝดกันจริงๆหรือเปล่า ขนาดสีผมพวกเขายังแตกต่างกันเลย ไม่แค่นั้นนะโซโร่กับซิลเวอร์มีสีดวงตาที่ต่างกันด้วย พวกเขาอาจจะสมมติมันขึ้นมาเพื่อปกปิดตัวเองก็ได้"

    "แปลว่าพวกเขาอาจจะไม่ใช่ฝาแฝดแต่เป็นพี่น้องกันก็ได้ใช่มั้ย?" นีโน่ถามอย่างสงสัย

    "มีความเป็นไปได้ พี่น้องที่ไม่เหมือนกันเลยก็มี เพราะเกิดจากการรับยีนส์จากพ่อแม่ไม่เท่ากัน แต่ฝาแฝดที่แตกต่างกันจนเหมือนพี่น้องกันก็มีเช่นกัน..." แม็กซ์ดันแว่นตาตัวเอง เขาพูดออกมาได้ดูน่าเชื่อถือสุดๆ จนเพื่อนๆต่างปรบมือให้

    "แบบนี้ก็คงไม่ใช่พวกเราแล้วล่ะ ก็ฉันกับนาธานพวกเราเป็นฝาแฝดกันจริงๆ ถึงแม้สีตาจะแตกต่างนิดหน่อยแต่หน้าพวกเรากับสีผมก็เหมือนและคล้ายกันอยู่" 

    เธอยักไหล่เหมือนว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับพวกฉัน 

    "อา! ฉันอยากจะคุยเรื่องพวกนี้ต่อนะ แต่ฉันกับนาธานมีเรียนเสริมในอีก10นาที พวกเรายังไม่ได้ไปเอาของที่ล็อกเกอร์เลย" ฉันดูเวลาในห้องก่อนจะเอ่ยขอตัวจากเพื่อนๆ พวกเขาก็แหวกทางให้ฉันกับนาธานอย่างว่าง่าย 


    หลังจากที่พวกเราเข้าห้องล็อกเกอร์ แล้วสำรวจดูว่าไม่มีใครอยู่นอกจากพวกเราแล้ว แจสเปอร์กับซอลย่าก็โผล่ออกมาจากกระเป๋าพวกเรา

    "ฉันคิดว่าจะแย่ซะแล้ว" ซอลย่าพูดพร้อมทำท่าปาดเหงื่อ

    "โชคดีจริงๆที่พวกเธอมีสีผมที่แตกต่างจากปกติ" แจสเปอร์เอ่ยเสียงโล่งอก ฉันยิ้มขำที่พวกเรารอดมาได้ 

    "ปล่อยไปเถอะ หลังจากนี้พวกเขาจะไม่สงสัยพวกเราแล้ว เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้พวกเขาช่วยปิดคดีของเราได้" ฉันพูดยิ้มๆขณะที่หยิบของใส่กระเป๋า

    "ฉันแทบยืนนิ่งๆไม่อยู่แนะตอนที่พวกเขาพูดแล้วมองว่าเป็นพวกเราแน่ๆ เธอดูสงบจนฉันประหลาดใจเลย" นาธานพูดเสียงเหนื่อยใจ เขาคงกลัวว่าความลับจะแตกเหมือนกันสินะ

    "มันเรื่องปกติที่ฉันจะรับมือได้ดีกับสถานการณ์แบบนี้ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่มีข่าวลือแปลกๆและไม่มีมูลเข้ามาโจมตีฉันหรอกนะ หลังจากนี้นายอาจจะได้เจอบ้างก็ได้"

    พอฉันพูดจบนาธานก็เอาหัวชบล็อกเกอร์ทันที เหมือนเขาทำใจไม่ได้ถ้าไม่เกี่ยงว่าหน้าตาเขาต้องทำมาหากินนะ เขาอาจจะโขกหัวกับล็อกเกอร์ไปเลยก็ได้ ฉันทำได้แค่มองไว้อาลัยร่วมกับแจสเปอร์ โดยมีซอลย่าลูบหัวปลอบเขาอย่างเห็นใจ

    "เอาน่า! ถ้ามันเกิดขึ้นจริงฉันจะปกป้องนายเอง" เธอพูดเสียงร่าเริงเพื่อให้นาธานหายซึม 

    "ไม่ เราจะปกป้องกัน"  นาธานถอนหายใจก่อนจะขยี้หัวฉันเหมือนเอาคืน เขาพูดเสียงจริงจังทำให้ฉันรู้สึกดี

    ฉันชอบคำนี้นะ เราจะปกป้องกันและกัน...

    ฉันกับนาธานเล่นหัวกันสักพักก่อนที่พวกเราจะมานึกได้ว่าต้องรีบเข้าเรียนคาบถัดไป จึงรีบวิ่งแข่งกันออกไปทันที 


    ....

    30%

    ฟุบ ฟุบ

    เสียงกระโดดพุ่งผ่านไปสองสามครั้ง ก่อนที่ร่างหนึ่งที่ถูกไล่ต้อนก็จนมุม 

    "ยอมง่ายๆเถอะจะได้ไม่เจ็บตัว" เสียงใสพูดอย่างมีเล่ห์นัย ก่อนจะได้รับการตบมุขมาจากคนที่ไล่ตามมาดักทางหนีไว้อีกแห่ง

    "ทำไมพูดเหมือนตัวร้ายเลย พวกเราเป็นฮิโร่นะ" แคทนัวร์พูดแย้งขึ้นมาเมื่อเห็นจิ้งจอกสาวดูสนุกสนานกับการไล่อาคุม่าครั้งนี้

    "เฮ้ ระวังหน่อย อาคุม่าครั้งนี้มีพลังสามารถสลับเปลี่ยนสิ่งบางอย่างได้นะ" เลดี้บัคที่มาพร้อมโซโร่พูดขึ้นเตือน ก่อนที่สายตาสีไพลินของเลดี้บัค จะจับจ้องอาคุม่าครั้งนี้ที่ดูอันตรายตรงพลังของมันแปลกๆ..

    ไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร? แต่ที่รู้แน่คือสามารถเปลี่ยนบางอย่างได้ อย่างคนผอมกลายเป็นคนอ้วนในพริบตา

    "ส่งมิราคูลัสมา!" อาคุม่าตะโกนขึ้นทั้งที่เขาจนมุมแล้วแท้ๆ พวกเราทั้งสี่คนไม่สนใจก่อนจะพุ่งเข้าไปพร้อมกัน 

    แต่ในขณะที่พวกเราจะเผด็จศึกก็เป็นจังหวะเดียวกับที่อาคุม่ายิงลำแสงมาที่พวกเรา 

    "อุ้ย!" แสงมันทำฉันแยงตาจนต้องยกมือบังแสง 


    "ฮะ! ไม่เห็นอะไรเกิดขึ้นเลย..เอ๋ เดียวนะ ทำไมรู้สึกหนักหน้าอก" แคทนัวร์เอ่ยอย่างตลก ก่อนจะเอะใจพร้อมยื่นมือไปจับหมับ..!

    "เดี๋ยวก่อน!" ฉันอุทานอย่างแตกตื่นเมื่อเห็นร่างตัวเองตรงหน้า แถมฉันมองมือตัวเองก็ตระหนักได้ว่าฉันคือแคทนัวร์!?

    "เอ๊ะ?/เอ๋?" เลดี้บัคกับโซโร่สบตามองกันงงๆ ก่อนที่พวกเขาจะอุทานพร้อมชี้นิ้วใส่ร่างตรงหน้า

    "นี้มันร่างฉัน!?/ทำไมร่างฉันอยู่นี้!?" 

    เลดี้บัคกับโซโร่ยืนค้างนิ่งเหมือนสติพวกเขาหลุดไปแล้ว 

    "เอ๊ะ หมายความว่าซิลเวอร์อยู่ร่างฉันแล้วนี้ ฉันก็..อะ อะ.." แคทนัวร์ก้มมองหน้าอกตัวเองที่เผลอจับอยู่

    ลองขย้ำดูอีกที... 

    สัมผัสมันนุ่มมือมากจนเขาหน้าแดงยืนค้าง 

    เฮ้ย ไม่ใช่ความฝัน!?

    แคทนัวร์สติหลุดหายไปทันใด แต่มาได้สติก็ตอนที่ตัวเขา-เอ้ย ซิลเวอร์ในร่างตัวเองมาเขย่าตัวนั้นแหละ

    "หยุดขยับตัวแล้วแตะอะไรไปทั่วนะ! เจ้าโรคจิต!" ฉันตะโกนโวยวายแคทนัวร์ที่บังอาจมาจับหน้าอกของเธอไปแล้ว ไม่น๊าาาา หน้าอกฉันไม่บริสุทธิ์แล้ว 

    "อ๊ะๆ อย่าโยกฉัน ฉันจะอ้วก!" แคทนัวร์ที่ตัวเล็กลงเขารู้สึกไม่ชินกับมุมมองตรงนี้เลย พอๆกับซิลเวอร์ที่กะพลังตัวเองไม่ถูกจึงลงมือรุนแรงไป

    "ยังไงเธอก็เคยเห็นร่างฉัน-อุ๊บ" แคทนัวร์กำลังจะพูดจบก็โดนซิลเวอร์ในร่างเขาปิดปาก 

    "เงียบซะถ้าไม่อยากจะตาย!" เธอพูดขู่ก่อนที่เสียงปี๊บของแหวนจะดังขึ้นมา

    "ฉันจะคืนร่างแล้ว ทำไมนายต้องรีบใช้พลังของนายด้วย!" เธอมองแสงรูปอุ้งมือแมวบนแหวนของแคทนัวร์ มันเริ่มหายไปหนึ่งจนเหลือแค่สี่ส่วน 

    ถ้ามันหายไปหมดเธอจะกลับคือร่างเดิม...แล้วพวกเขาจะรู้ว่านี้คือเอเดรียน!

    "ขอโทษนะ..ก็ฉันพยายามจะช่วยพวกเรานั้นแหละเลยใช้ไปไง!" แคทนัวร์พูดประชดกลับมา ฉันกับแคทนัวร์เริ่มกัดกันอีกครั้ง

    "พวกเราอย่าทะเลาะกัน!" นาธานพูดก่อนที่เขาจะสะดุดเหยียบโยโย่ จนเกือบจะล้มตกจากตึก ถ้าไม่ได้โซโร่หรือเลดี้บัคในร่างเขามาช่วยรับไว้ล่ะก็

    "โอ้พระเจ้า! ฉันจะทำยังไงดี ฉันไม่รู้วิธีใช้โยโย่ของเลดี้บัคนะ!?" เลดี้บัค..เอ้ยไม่สิ..นาธานหรือโซโร่พูดอย่างตื่นตระหนก เมื่อเขาอยู่ในร่างของเลดี้บัค

    "เดี๋ยว! อาคุม่าหายไปแล้ว พวกเราปล่อยให้เขาหนีไปได้!" เลดี้บัคเอ่ยเสียงตกใจ ก่อนที่พวกเราจะช่วยกันหา แต่ให้ตายสิ! ฉันใกล้จะคืนร่างแล้วนะ!? 

    เมื่อพวกเราแยกกันหามันก็ทำให้พวกเราสลับ เลดี้บัคเลยเสนอให้คู่ตรงข้ามตัวเองจับมือกันไว้ พวกเขาจะได้เรียกชื่อกันถูก

    "แคทนัวร์นายมีชีสเก็บไว้บ้างไหม?" เธอถามร่างตัวเอง เขาหันมามองก่อนจะส่ายหน้าไปมา

    "แพล็คมันแอบกินหมดก่อนที่จะเปลี่ยนร่างแล้วน่ะสิ" แคทนัวร์หรือฉันทำหน้าปลงๆ ซึ่งฉันก็พยักหน้าเข้าใจ

    "อย่างนั้นฉันคงต้องไปซื้อเอา.. ว่าแต่นายพกกระเป๋าเงินมาด้วยไหม?" เธอถามเมื่อนึกได้

    "มันอยู่ในกระเป๋าสตางค์ฉัน ซึ่งอยู่ในร่างคุณ ลองหาในกระเป๋าหลังกางเกงนะ" แคทนัวร์ทำท่าชี้ข้างหลังของเขา 

    ปิ๊บๆ

    "อา..ไม่อยากจะพูดงี้นะ แต่ฉันก็กำลังจะคืนร่างแล้ว" นาธานจับตุ้มหูเลดี้บัคก่อนที่เขาจะเอ่ยบอก

    "ขอร้องล่ะ อย่าดูร่างฉันนะ!" เลดี้บัคเอ่ยบอกโซโร่ ซึ่งเขาก็หันมายิ้มบางๆให้

    "ไม่ต้องห่วงฉันจะไม่ทำอย่างนั้น แล้วความิของเธอชอบกินอะไรล่ะ"

    "คุ๊กกี้.. ทิกกี้ฉันชอบกินคุ๊กกี้มาก หรือไม่ขนมอย่างอื่นก็ได้เธอไม่เกี่ยงหรอก" เลดี้บัคเอ่ยบอกก่อนที่จะถามกลับบ้างว่าความิของโซโร่ชอบกินอะไร เธอเสนอว่าความิของพวกฉันต้องได้พักบ้าง

    "ซอลย่ากับแจสเปอร์ชอบกินบลูเบอรี่ โอ้..พวกนายอย่าลืมพูดคำว่าtails downกับtricks close เพื่อคืนร่าง..อย่าเพิ่งพูดตอนนี้ล่ะ" เธอพูดเตือนพวกเขา 

    ซึ่งเลดี้บัคกับแคทนัวร์ก็พยักหน้ารับทราบ ก่อนจะบอกวิธีคืนร่างให้พวกเรา ฉันที่รู้อยู่แล้วก็แค่พยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่พวกเราจะนัดแนะกันให้มาเจอที่หอไอเฟลใหม่ หลังจากให้ความิพักเติมพลังแล้ว

    "เอาล่ะแยกย้ายกันไป" เลดี้บัคกล่าวก่อนที่พวกเราจะกระจายกันออกไปไกลๆ 


    50%


    ฉันกระโดดลงไปแถวๆร้านที่ขายชีส มันเป็นร้านเดียวกับที่เธอเคยมาซื้อชีสรสนมให้แพล็คครั้งก่อน ฉันคืนร่างแล้วหากระเป๋าเงินของเอเดรียนขึ้นมา เมื่อเจอเธอก็เดินเข้าร้านเพื่อไปเลือกซื้อชีสมาให้แพล็ค

    "ขอโทษที่ต้องลำบากนะซิลเวอร์" แพล็ครับชีสในมือฉันไปงับก่อนจะพูดทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่ เธอเลยยิ้มก่อนจะลูบหัวแพล็ค

    แพล็ครู้ว่าฉันคือ'ไดอาน่า' ใช่เขารู้...แต่เขาไม้ได้บอกเอเดรียนหรอก แพล็คมารู้ก็ตอนเมื่อฉันแวะไปหาเอเดรียนบ่อยๆ มีครั้งหนึ่งที่เอเดรียนเข้านอนแล้วแต่เปิดหน้าต่างเอาไว้ เธอเลยได้เข้าไปเล่นกับแพล็คด้วยร่างตัวเอง 

    แพล็คตกใจเมื่อรู้ว่าฉันคือไดอาน่า คนที่เอเดรียนแอบชอบและยังเป็นคนเดียวกับซิลเวอร์ ที่ตัวเด็กหนุ่มสับสนความรู้สึกตัวเองระหว่างซิลเวอร์กับไดอาน่า

    "เจ้าหมอนั้นมันตาบอด ไม่รู้เลยว่าสองคนที่เขาชอบคือคนเดียวกัน" แพล็คเคี้ยวชีสอย่างหงุดหงิด ดูเวทนาเด็กในปกครองของตัวเองมาก ที่ดันมาปวดหัวทุกวันเพราะรู้สึกผิดที่ดันเผลอชอบคนสองคน

    โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนหญิงสาวปั่นหัวอยู่

    "น่ารักดีออก" เธอพูดชม แต่แพล็ครู้ว่าฉันกำลังสนุกอยู่ เจ้าตัวเลยแสยะยิ้มแล้วไม่ว่าอะไร เพราะแพล็คก็รู้สึกสนุกดีเช่นกันที่เห็นเอเดรียนหัวหมุนไปมา 

    "เอาล่ะฉันพร้อมล่ะ" แพล็คกลืนชีสคำสุดท้ายลงคอ ฉันพยักหน้าก่อนจะยื่นแขนออกไป


    "แพล็ค..Claws out!"


    แสงสว่างสีเขียวชวนแสบตาสว่างโรจท์ชั่ววูบ ก่อนที่เธอจะกลายเป็นแคทนัวร์ตามขั้นตอน หลังจากที่คืนร่างเป็นแคทนัวร์ เธอก็กระโดดขึ้นบนหลังคาก่อนจะไต่แล้ววิ่งตรงไปที่หอไอเฟล

    เมื่อฉันมาถึงฉันก็เจอแคทนัวร์ในร่างฉันเป็นคนแรก เขากำลังยืนพิงราวเหล็กมองออกไปทางบ้านเมือง

    หมับ

    "ซิลเวอร์?" แคทนัวร์เอ่ยเมื่อโดนเธอใช้ร่างเขากอดจากทางด้านหลัง ฉันที่ตัวสูงกว่าเขาใช้คางตัวเองวางบนหัวของเขาก่อนจะพึมพำ

    "รู้หรือยังว่าฉันคือใคร" 

    ฉันถามคำถามที่น่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว เพราะเธอไม่ได้เอ่ยห้ามเหมือนเลดี้บัคที่ไม่ให้เขาดูร่างเธอได้ ฉันเลยคิดว่าเอเดรียนน่าจะใช้โอกาสนี้ค้นหาความจริง เธอเลยเตรียมใจมาก่อนอยู่แล้ว

    "ด้วยความสัจจริง.. ฉันไม่รู้" แคทนัวส่ายหัวก่อนจะเอ่ยตอบ

    กึก

    "ทำไม? นายไม่ได้ดูร่างฉันเหรอว่าฉันคือใคร" ฉันตาโตก่อนจะผละออกมาแล้วถามเสียงแปลกใจ 

    "ฉันไม่ได้ดู ฉันแค่อยากค้นพบด้วยตัวเองมากกว่า ไม่ใช่ตอนที่คุณไม่พร้อม" แคทนัวร์หันมาก่อนจะกุมมือเธอไว้แล้วประสานกัน

    มาพูดอะไรโรแมนติกไม่ดูเวลาตอนนี้เนี้ย... ฉันเกาแก้มเพราะเขินกับคำพูดของเขา สายตาเธอดูนุ่มนวลมากขึ้นก่อนจะกอดเขาเอาไว้

    "ขอบคุณนะเอเดรียน" เธอกระซิบเสียงหวาน ไม่ได้รู้สึกขัดแย้งอะไรกับการที่มากอดตัวเองหรอก

    เอเดรียนเหล่มองก่อนจะหัวเราะขึ้นมา "เอาจริงๆ ฉันก็อยากจะรู้อยู่เหมือนกัน แต่ความิของคุณไม่ยอมให้ทำ"

    "ตกลงประโยคไหนคือพูดจริงกันแน่!" ฉันผละออกมาหยิกแก้มแคทนัวร์ในร่างของฉัน(แต่หยิกเบาๆนะ) 

    "อื้อออง!(ทั้งสอง!)" พอเอเดรียนพูดงึมงำว่าทั้งสองฉันก็หัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู 

    หลังจากที่เล่นกับแคทนัวร์ในร่างตัวเองได้สักครู่ เลดี้บัคกับโซโร่ก็มาถึง พวกเราเลยสอดส่องมองหาอาคุม่าบนยอดหอคอย 

    แต่ในระหว่างนั้นพวกเราต่างคนต่างลองใช้พลังของร่างตัวเองดู ฉันมองโซโร่บัคที่เหวี่ยงโยโย่แต่มันดันย้อนเหวี่ยงมาชนหน้าผากตัวเอง และเลดี้โซโร่ที่ลองจุดไฟในมือ แต่มันได้แค่สเก็ตไฟเล็กๆ

    "โอย..นี้มันไม่ใช่เรื่องที่ดีแล้ว" ฉันมองพวกเขาอย่างหนักใจ ก็เพราะพวกเราไม่ได้มีเวลาเยอะขนาดนั้น เราต้องจัดการอาคุม่าทันที ก่อนที่ครอบครัวเราจะสงสัยว่าพวกเราหายไปไหน แถมจะกลับไปก่อนด้วยสภาพแบบนี้ก็ไม่ได้ด้วย

    "เลดี้โซโร่คุณอุ้มโซโร่บัคเอาไว้ แล้วใช้โยโย่ของตัวเอง พวกเราจะมาเสียเวลาไม่ได้แล้ว!"

    "เอ๊ะ เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าเลดี้โซโร่?" เลดี้บัคหันมามองอย่างแปลกใจ เมื่อฉันไปเปลี่ยนชื่อให้พวกเขา

    "เพื่อไม่ให้สับสน คุณคือเลดี้โซโร่ พี่ชายฉันคือโซโร่บัค ส่วนเขา..แคทเวอร์และฉันซิลแคท!"

    "โอ้! ฟังดูน่ารักดี ฉันชอบชื่อซิลแคท!" แคทนัวร์ที่อยู่ในร่างฉันส่ายหางสีเงินข้างหลังอย่างบ้าครั่งจนฉันเพลียใจต้องลูบขมับตัวเอง 

    เขาคงจะหมายถึง ซิลxแคท ที่มันคือชื่อ(กองอวย)เรือใช่หรือเปล่า?


    "ได้โปรดอย่าทำท่าทางง้องแง้งในร่างของฉัน....ถึงแม้มันจะเข้ากับคุณมากก็ตาม" เธอพูดเสียงเรียบด้วยความอ่อนใจ 

    ไม่รู้ทำไมฉันดันเห็นร่างตัวเองดูน่ารักมากขึ้นเพราะแคทเวอร์ซะได้

    "คุณก็ดูเท่ขรึมไปเลยเมื่ออยู่ในร่างของแคทนัวร์ ฉันรู้สึกไม่ชินตาแปลกๆ" เลดี้โซโร่พูดอย่างกลั้นขำ 

    "ฉันก็ไม่ชิน" เธอขยี้ผมตัวเองอย่างหงุดหงิดโดยมีแคทเวอร์เกาะแขนฉันไว้อยู่ 

    เขาดูเข้ากับร่างฉันได้ดีนะ?

    "เอาล่ะพวกเราต้องรีบตามหาอาคุม่า เจ้าตัวปัญหาแล้วให้มันคืนร่างให้เรา" เลดี้โซโร่เหวี่ยงโยโย่ของตัวเองไปมาอย่างวอร์มร่างกาย ก่อนที่เธอจะเดินไปโอบเอวโซโร่บัคไว้ 

    ฉันแอบเห็นพี่ชายสะดุ้งเฮือกเป็นสาวน้อยไปเลย...จะว่าไปพอเลดี้โซโร่อยู่ในร่างนี้ก็ดูแมนกว่าพี่ชายฉันอีกนะ?

    "แบ่งคู่เป็นขั้วตรงข้ามตัวเอง พวกเราต้องยืมพลังของกันและกัน" เลดี้โซโร่กล่าวอีกครั้ง 

    พวกเราตามหาอาคุม่าจากการฟังเสียง โดยที่แกนหลักคือแคทเวอร์และเลดี้โซโร่ เพราะพวกเขาได้ยินเสียงได้ไกลกว่าพวกเรา

    "ทางนั้น!" ใครสักคนเอ่ย ก่อนที่พวกเราจะมุ่งไปทางเสียงร้อง เมื่อมาถึงก็เห็นฉากที่อาคุม่าเปลี่ยนคู่ชายหญิงให้สลับร่างกัน 

    "หยุดเดี๋ยวนี้นะ!" เลดี้โซโร่ตะโกนก่อนจะเหวี่ยงโยโย่โจมตี แต่อาคุม่าหลบได้พร้อมยิงลำแสงพิลึกนั้นมาที่พวกเราอีกแล้ว

    พวกเรารู้สึกหน้ามืดวูบไปชั่วครู่หนึ่งก่อนจะพากันล้มลงทั้งหมด

    "พวกคุณไม่มีทางชนะฉัน ฮ่ะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!" เจ้านั้นหัวเราะสะใจก่อนจะหนีหายไปอีกครั้ง


    "บ้าชิบ!" ฉันสถบยกมือทุบพื้นอย่างเจ็บใจ ที่ปล่อยให้มันหนีไปได้อีกครั้ง ก่อนจะชะงักเมื่อมองมือตัวเองดีๆ 

    "ฉันกลายเป็นพี่ชาย!" เธอพูดเสียงตกใจ ก่อนวินาทีต่อมาจะเปลี่ยนเป็นดีใจแทน

    เพราะฉันใช้พลังไฟได้แล้ว! แบบนี้เธอก็บินได้ด้วยสินะ!

    "พวกเราสลับร่างอีกแล้ว! ตอนนี้ฉันกลายเป็นเลดี้บัค แต่...อย่างน้อยยังดีที่ไม่ใช่โซโร่" แคทนัวร์หรือแคทบัคพูด ก่อนที่เขาจะถอนหายใจเหมือนโล่งอก เขาเลยได้รับสายตามองแรงจากจิ้งจอกสาวหรือโซเวอร์ทันที

    "ทำไมฉันไม่สุ่มได้ร่างกายตัวเองนะ?" เลดี้บัคพูดบ่น และตอนนี้เธอเป็นเลดี้นัวร์

    "ยังดีที่ฉันยังใช้ไฟได้" เธอจุดไฟในมืออย่างดีใจ นาธานก็คงจะเห็นด้วยกับฉันเหมือนกัน เพราะเขาอยู่ในร่างฉัน

    "ดูท่าพวกเราต้องแบกเขาไป" โซเวอร์ชี้ไปทางแคทบัค 

    "แย่จัง ตอนนี้ฉันอยู่ในสถานการณ์ลำบากซะแล้วสิ" แคทบัคพูดเสียงเศร้า 

    "แล้วมันเป็นยังไง?" เลดี้นัวร์หันมาพูดเสียงรำคาณใส่แคทบัคที่ดูมีปัญหาซะเหลือเกิน

    "ก็ฉันอยากครอเคลียซิลเวอร์นิ! แต่เจ้าหญิงฉันดันกลายเป็นโซโร่ไปซะแล้ว" แคทบัคครำครวณ พร้อมกับฉันที่ได้ยินนาธานหันไปพูดกระซิบรำคาณว่า 

    'ฉันก็ไม่ได้อยากจะอุ้มร่างนายเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่ว่าข้างในนั้นคือเลดี้บัค'  

    ฉันมองพวกเขาอย่างกลั้นเสียงหัวเราะ พวกเขาท่าจะรังเกียจกันรุนแรงมาก ก่อนที่พวกเราจะหันมาแลกเปลี่ยนอาวุธกัน 

    "ไปกันเถอะ" เธอหันไปอุ้มแคทบัคขึ้นก่อนที่จะบินขึ้นท้องฟ้า เพราะพวกเราอยู่บนฟ้าจึงตามหาตัวอาคุม่าได้ง่าย แต่ตอนนี้พวกเรายังหาเขาไม่เจอ

    "เฮ้อ ฉันรู้นะว่าข้างในนั้นคือเจ้าหญิง แต่ฉันไม่อยากจะมองมันเลย" แคทบัคบ่น มันทำให้ฉันรำคาณจนต้องแกล้งโยนเขาขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะคว้าตัวไว้ทันเมื่อเขาทำท่าจะหล่นลงไปข้างล่าง

    "อย่าทำอย่างนั้น!?" แคทบัคตะโกนก่อนที่เขาจะคว้าคอเธอแน่น มันทำให้ฉันหัวเราะสะใจออกมา  

    "ทำไมต้องเกลียดพี่ชายฉันขนาดนั้น หื้ม" เธอพูดเสียงดุ มันทำให้แคทบัคลอบเบะปาก เพราะเขาไม่ชอบเสียงของฉันตอนนี้

    "ไม่รู้จริงเหรอ พี่ชายคุณไม่ชอบฉัน เขาคอยกันท่าเราสองคน!" แคทบัคพูดเสียงเศร้าสร้อยแต่ฉันรู้ว่าเขาแกล้งทำ! อย่างเขาน่ะเหรอจะมาเสียใจจริงๆถ้ามีคนมาห้ามเขาไม่ให้ทำน่ะ!? 

    "พูดความจริงมา!" เธอเริ่มเอะอะเมื่อเห็นเขายังดื้ออยู่ แคทบัคคงกลัวว่าเธอจะโยนเขาลงไปอีก เจ้าตัวเลยจำใจบอก

    "ก็ได้ๆ! พะ เพราะ..พี่ชายของคุณเขาชอบจี้ปมในใจฉัน เขารู้ว่าคุณคือใครเลยชอบมาวางท่าใส่ฉันตลอด มันทำให้ฉันน้อยใจและไม่พอใจที่ไม่รู้ว่าคุณคือใคร" 

    แคทบัคบ่นกระซิบ ขณะที่เขากอดคอเธอแน่นไม่ยอมผละออกมามอง ฉันเลยลูบหัวเขาเบาๆอย่างเอ็นดู วันนี้ฉันอ่อนใจและยิ้มเอ็นดูเขาไปกี่ครั้งแล้วกันนะ?

    "พี่ชายฉันคงไม่ได้ตั้งใจแสดงออกแบบนั้นหรอก คุณแค่กำลังอิจฉา..." 

    "ไม่.. ฉันไม่ได้อิจฉา.." แคทไม่ยอมรับ ฉันเลยคิดอะไรดีๆได้แล้วบอกเขาด้วยน้ำเสียงมีเล่ห์นัย

    "งั้นฉันจะให้คำใบ้เป็นรางวัลที่นายอดทนได้ดีแล้วกัน..." เธอแกล้งพูดเสียงลากยาว เมื่อรู้ว่าแคทบัครอฟังอยู่

    "พูดมาซะที!" แคทบัคเริ่มโมโหเมื่อเธอมัวแต่ลีลา เธอเลยหัวเราะแล้วตอบ

    "ความจริงแล้วสีตาและสีผมนี้ไม่ใช่ของจริงหรอก" 

    กึก

    "อะไรน๊ะ!? นี้คือคำใบ้แล้วใช่มั้ย!? ทำไมฉันเหมือนไม่ได้รู้อะไรเพิ่มเติมเลยล่ะ"  เหมือนจะได้ผลแคทบัคหันกลับมา เขาดูตะลึงจนอ้าปากเหวอและดูเหมือนเขาช็อกจนอยากจะร้องไห้!

    ใช่ เขาใช้ใบหน้าของเลดี้บัคนั้นแหละที่ทำท่าจะร้องไห้

    เฮ้อ


    ทำไมฉันเห็นเขาจะร้องไห้แล้วตัวเองรู้สึกมีความสุขจัง..

    80%


    ครั้งนี้พวกเราเจออาคุม่าแล้ว ฉันลอบมองพี่ชายที่แอบอยู่บนตึก พวกเราพยักหน้าเตรียมพร้อม ก่อนที่จะกระโดดลงไปดักอาคุม่าไว้ตรงกลาง

    "อย่าคิดว่าจะทำอะไรฉันได้!" อาคุม่าเอ่ยพร้อมยิงลำแสงมาที่พวกเรา 

    เปรี๊ยะ 


    ฉันก็ยิงไฟปะทะกลับ ด้วยการร่วมมือของฉันกับพี่ชายพวกเราเลยสามารถไล่ต้อนอาคุม่าได้ 

    "อาคุม่าต้องอยู่ในสร้อยข้อมือมันแน่!" แคทบัคตะโกนบอก 

    ซึ่งเลดี้นัวร์ก็ตัดสินใจใช้พลังหายนะของเธอ ก่อนที่จะโยนโยโย่ให้แคทบัคไปเหวี่ยงเล่นไปพลางๆก่อน?

    "Cataclysm!" เลดี้นัวร์กางกรงเล็บตัวเองออกแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะพุ่งเข้าไปตอนไหน ฉันก็คอยต้านอาคุม่าไม่ให้หนีหรือหาโอกาสมาสลับเปลี่ยนร่างพวกเราอีก 

    ไม่แน่มันอาจจะแย่ยิ่งกว่าเดิม!

    พรึ่บ!

    "อ๊ะ" อาคุม่าอุทานเมื่อโยโย่พุ่งมาจากไหนไม่ทราบมาพันมือเขาไว้ ก่อนจะหันไปมองร่างหนึ่งที่ยืนมองตะลึงมา

    "โอ้! ฉันทำได้จริงด้วย!" แคทบัคร้องว้าวเสียงตื่นเต้น เพราะเขาเริ่มจับเท็จวิธีเล่นโยโย่ได้  แต่ก็ยังดูเป็นมือใหม่อยู่เมื่ออาคุม่าสะบัดมันออกได้

    "อย่าคิดว่าจะกักขังฉันได้เลดี้บัค!" อาคุม่าเอ่ย

    "ที่จริง..ฉันคือแคทนัวร์..แต่ไม่เป็นไร" แคทบัคเหวี่ยงโยโย่ไปอีกครั้ง ทำให้อาคุม่าหลบ ตอนนั้นเองทำให้พี่ชายฉันพุ่งเข้าไปล็อคแขนอาคุม่าไว้

    "เร็วเข้าเลดี้นัวร์ฉันจะต้านไม่อยู่!" โซเวอร์พูด

    "ปล่อยฉันนะซิลเวอร์!" 

    "นั้นโซโร่ต่างหาก!" เลดี้นัวร์เอ่ยแก้ก่อนจะพุ่งเข้าไปแตะสร้อยข้อมือของอาคุม่า 

    "ตกลงใครคือใครกันแน่ฟะ! อ๊ากกก" อาคุม่ากรีดร้องเมื่อกำไลของเขาเริ่มปริแตก


    เปรี๊ยะ..เพร้ง!

    เสียงปริแตกของกำไลที่หล่นกระจาย ก่อนที่ผีเสื้อจะหลุดออกมา 

    ตอนนี้แหละ!?

    พวกเราทั้งสามคนหันไปมองแคทนัวร์ทันที

    "แคทบัค!?" x3

    "อะ อ่อ! ตาฉันแล้วเหรอ?" แคทบัคได้สติ เขาลองหาวิธีเปิดตลับโยโย่ในมืออย่างงงๆ

    "มันเปิดยังไงเนี่ย!?" 

    แคทนัวร์บ่นก่อนที่เลดี้บัคตัวจริงจะพุ่งเข้าไปแล้วจับแขนชายหนุ่มไว้ เลดี้นัวร์จับนิ้วแคทบัคให้เกลี่ยลากยาวจนตลับเปิด

    จากนั้นฉันก็ได้เห็นท่าทางพิลึกของแคทบัคที่โยนโยโย่แล้วตะโกนชำระล้างอาคุม่า เขาดูอับอายกับท่าของเลดี้บัคที่ปกติชอบทำ 

    "หึหึหึ" เสียงหัวเราะต่ำดูสะใจไม่ใช่ใคร โซโร่นั้นเอง....

    หลังจากนั้นพวกเราก็กลับคืนร่างเดิม เมื่อพลังมหัศจรรย์ของเลดี้บัคได้กระจายไปทั่วปารีส

    "ในที่สุด! ฉันรักร่างตัวเองจัง!" เธอกอดตัวเองอย่างดีใจ ทุกคนพร้อมใจกันสำรวจร่างกายตัวเองว่ากลับคืนร่างเดิมแล้วใช่มั้ย 

    "เฮ้อ.."ก่อนที่จะพากันถอนหายใจอย่างโล่งอก

    "ปอดน์!"  พวกเราสี่คนชนหมัดกันเบาๆฉลองที่คืนร่างเดิมได้!

    ปิ๊บๆ

    เสียงตุ้มหูของเลดี้บัคดังขึ้นมา

    "ฉันต้องกลับแล้ว ไว้เจอกันใหม่!" เลดี้บัคพูดก่อนที่จะเหวี่ยงโยโย่แล้วหายไป 

    "พวกเราต้องกลับกันบ้างแล้วล่ะ" โซโร่พูดก่อนที่เขาจะไปยืนรอฉัน 

    เธอหันไปมองเแคทนัวร์ที่อาสาจะพาผู้ชายที่ถูกอาคุม่าสิงคนนี้ไปส่ง 

    เธอเลยบอกให้พี่ชายไปก่อนฉันมีเรื่องจะบอกแคทนัวร์ เขาจึงพยักหน้าแล้วออกไป

    "แคทนัวร์" เธอเรียกชายหนุ่มที่หันมามองงงๆว่าทำไมฉันยังไม่ไป ฉันยื่นหน้าไปกระซิบข้างหูเขาเสียงเบา

    "คำใบ้อีกข้อ...พวกเราอยู่ใกล้กันมากๆ" เธอสบตาสีเขียวของเอเดรียนก่อนจะยื่นหน้าไปหอมแก้มเขา แล้วผละออกมาเอ่ยฝันดีก่อนที่จะกระโดดหายไป






    มันต้องใช้เวลานานแค่ไหนกันนะที่เขาจะหาฉันเจอ :)









     +++++++++++++++++++++100%++++++++++++++++++++++++

    ตอนนี้เหมือนชีวิตในรั้วโรงเรียน...

    จะมาถามว่าตอนนี้อยากได้โมเม้นอะไรไหม ไหนๆก็สลับร่างกัน5555 แอ๊ก //โดนลากไปฆ่าหมก

    **ตอนนี้หลายอารมณ์ดีนะ555


    (นี้คือเหตุการณ์ถ้าพวกเขาเจอกันในอัตลักษณ์ที่แตกต่าง )







    "ตอนที่แคทบัคพยายามเปิดตลับเต่าทอง"

    แคทบัค : มันเปิดใช้งานยังไงเนี่ย!? //พยายามจิ้มไปทั่ว

    ทั้งสามคนX3 : แคท!! รีบเลยอาคุม่ากำลังบินหนีไปแล้ว!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×