ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Miraculous ladybug มหัศจรรย์ปาฏิหาริย์

    ลำดับตอนที่ #30 : ตอนพิเศษ ความรู้สึกในใจของนาธาน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.3K
      252
      29 ส.ค. 63










    ความลับของผม.....ได้ถูกเปิดเผยเพราะเพื่อนในห้อง
    .
    .
    เรื่องที่ผมได้แอบชอบเธอถูกทุกคนรู้เข้าซะแล้ว



    มันเป็นเวลาไม่กี่ปีที่ผมได้รู้ใจตัวเองว่าได้แอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง...แต่ก็ใช้เวลาไม่กี่ปีเช่นกัน ที่ได้รับรู้ว่าในใจของผู้หญิงคนนั้นมีใครอีกคนจับจองอยู่...

    ตอนที่ผมได้เห็นผู้ชายคนนั้นที่เธอคนนั้นชอบอยู่...

    ก็มีความคิดหนึ่งชวนหดหู่ปรากฎขึ้นมาเลยว่า...[ผมสู้เขาไม่ได้เลย]   เด็กผู้ชายที่ยิ้มทีหนึ่งสามารถทำให้โลกทั้งใบสดใส ทุกคนพลันหยุดนิ่งและจ้องมองเขาด้วยความเขินอาย 

    เขาที่ดูแตกต่างจากทุกคน เป็นจุดศูนย์กลางและเป็นที่รักของใครหลายคน เก่งแม้กระทั่งเรื่องกีฬาหรือเรื่องเรียน เขาคนนั้นดูเพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง 

    ทุกคนต่างก็รักเขา..

    ไม่เว้นแม้แต่เธอคนนั้นก็ได้ถูกขโมยหัวใจไป...มาริเน็ต   

    เด็กผู้หญิงที่ผมแอบชอบอยู่

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหรที่ผมจะชอบมองเธอจนระสายตาไม่ได้...โดยเฉพาะตอนที่เธอหัวเราะ มันเป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นและดูสวยที่สุดที่ผมเคยเห็น

    เธอมีผมสีน้ำเงินเข้มและดวงตากลมโตสีไพลิน ชอบมัดผมแกะสองข้างต่ำๆ

    เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ดูซุ่มซ่ามและตื่นตระหนกได้ง่ายเหมือนกระต่าย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เป็นผู้หญิงที่น่ารักและกล้าหาญ นอกจากนี้เธอยังเป็นคนขี้อายอีกด้วย

    ผมได้ถูกเธอช่วยไว้ในสมัยเด็กที่พวกเราได้เรียนห้องเดียวกัน ผมยังจำวันนั้นได้ไม่ลืม...


    นานมาแล้ว...   มันเริ่มจากเธอคนนั้นได้บังเอิญชนผม พวกเราล้มลง ของกระจัดกระจาย..และผมก็เจ็บ เมื่อก่อนผมโดนแกล้งบ่อยเพราะเป็นที่น่าขัดหูขัดตาจากพวกเด็กเกเรในห้อง ด้วยความที่เป็นเด็กเรียบร้อยเชื่อฟังคุณครูเวลาสอนทำให้ครูต่างเอ็นดู

    แต่มันกับไม่ใช่เรื่องดีเลยเมื่อครูเอาผมไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น ด้วยความที่ตัวเองเป็นเด็กกำพร้าด้วยแล้วทำให้นักเรียนรวยในห้องเกิดหมั่นไส้ขึ้นมา 

    วันนั้นเป็นเวลาหลังเลิกเรียน ผมกำลังเดินกลับบ้านได้ถูกเพื่อนในห้องผลักเข้าไปในห้องเรียนหนึ่ง ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มลงไม้ลงมือ ผมโดนเตะและต่อยเล็กน้อยพอให้พวกเขาสาแก่ใจ

    บาดแผลใต้ร่มผ้าที่ถูกเพื่อนผู้ชายตัวโตในห้องต่อยช่วงท้อง โดนช้ำจากแรงกระแทกของคนที่ชนจนผมจุก 

    ผมเผลอร้องไห้เล็กน้อย..ไม่ใช่เพราะเจ็บตรงนั้น แต่มันคือความเจ็บใจและเสียใจที่ตัวเองเกิดมาอ่อนแอ จึงโดนแกล้งมาตลอด โดนผลักลับหลังครู โดนขัดขาให้ล้มตอนที่เดินผ่าน หรือโดนกระชากผมเพราะสีผมที่แปลกประหลาด 

    พวกครูโรงเรียนเก่าไม่เคยรู้เลย...หรือพวกเขาปิดตาข้างหนึ่งก็ไม่ทราบ เพราะเด็กพวกนั้นมีพ่อแม่ที่มีอิทธิผลพอดู 

    ผมที่เป็นเด็กกำพร้าไม่เคยถูกผู้ใหญ่คนไหนรับไปเลี้ยง ผมที่ได้เรียนหนังสือที่โรงเรียนรัฐบาลใกล้บ้าน เรื่องนี้ดีแค่ไหนแล้วผมจึงไม่ได้เรียกร้องหรือทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต เพราะกลัวว่าผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบผมจะแก้ปัญหาโดยไม่ให้ผมไปโรงเรียน เพราะมันเกิดเรื่องแบบนี้หลายครั้งแล้ว...

    ผมได้แต่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

    ตั้งแต่เกิดมาผมก็มีผมสีเงินแปลกตาแบบนี้มาแต่เด็ก มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่เด็กคนอื่นจะกลัวที่เห็นสีผมของตัวผม 

    ผมคิดว่ามันสวยดี...แต่คนอื่นไม่คิดแบบนั้น  มันทำให้ผมดูแปลกแยก ดูไม่เหมือนเด็กปกติและแตกต่างจากพวกเขา ตัวผมในตอนนั้นตัวเล็กมาก และก็อ่อนแอมากเช่นกัน 

    ผมจึงตอบโต้อะไรพวกเขาไม่ได้ และถึงแม้ทำได้ผมก็คงโดนแกล้งกลับมาหนักกว่าเดิม เพราะเรื่องแบบนี้ผู้ใหญ่ไม่สามารถช่วยอะไรผมได้เลยสักนิด  เชื่อผมสิ...เพราะผมเคยลองมาหลายครั้งแล้ว

    "เป็นอะไรไหม?" 

    เสียงนุ่มที่เอ่ยอย่างเป็นห่วง และดวงตาสีไพลินเหมือนผิวน้ำทะเล มันได้ทำให้ผมเผลอจ้องตาค้างกับความงดงามตรงหน้า ก่อนที่จะถูกมือข้างนั้นดึงขึ้นมาตอนไหนไม่ทราบ มาได้สติก็ตอนที่เธอคนนั้นช่วยเก็บของที่หล่นกระจายให้ 

    แต่ทว่า

    ว้าย! ตุบ

    เสียงร้องกรี๊ดสั้นๆก่อนที่ร่างนั้นจะล้มหงายหล่นลงไปอีกครั้ง เพราะไปสะดุดของที่ทำหล่น จากที่เก็บของที่ตกหล่นเกือบจะครบ กลายเป็นว่าพวกมันได้กลับไปนอนบนพื้นอีกครั้ง โดยมีร่างเด็กสาวตัวเล็กที่นอนแผ่ไปกับพื้นด้วยท่าทางพิลึกเป็นที่สุด

    ผมเงอะงะไปไม่เป็น ไม่กล้ายื่นมือไปให้เธอจับเพราะกลัวโดนตอกกลับ ทว่าเด็กสาวคนนั้นไม่ได้ร้องไห้ง่ายอย่างที่ผมคิด เธอเพียงลุกขึ้นพร้อมกับหัวเข่าที่เลือดชิบ เธอหัวเราะเสียงแห้งเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปลอบผมที่มองอย่างเป็นกังวล

    ในตอนนั้นผมไม่ได้เป็นห่วงเธอแต่อย่างใด เพียงแต่กลัวว่าถ้าเกิดเธอร้องไห้ผมจะมีปัญหาตามมาแน่ แต่ถ้าบอกไปตามตรงก็ไม่ใช่เรื่อง ผมจึงเงียบแล้วปล่อยให้เธอคนนั้นเข้าใจแบบผิดๆต่อไป

    "ฮ่า...โทษทีนะ หล่นอีกแล้ว"  ทำให้ผมอดแปลกใจไม่ได้ที่เธอคนนั้นมองมาอย่างเขินๆก่อนจะหัวเราะกับความโก๊ะของตัวเอง แต่ก็ต้องทำให้ผมชะงักเมื่อเธอที่ลุกขึ้นมาใหม่ได้ ดันก้าวขาไปเหยียบหนังสือเล่มหนึ่งใต้เท้า ทำให้เธอตาโตและหงายล้มอีกครั้ง

    ผมมองเธออึ้งๆที่เห็นภาพสโลว์เช่นนั้น ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกอยากหัวเราะขึ้นมา ....ทำไมถึงได้เป็นคนที่ซุ่มซ่ามจังเลยนะ

    คิก

    "อ๊ะ ยิ้มแล้ว!"

    !?

    ผมยกมือมาปิดปากตัวเองไว้อย่างหวาดกลัว ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมเผลออมยิ้มตามเธอ ปกติผมไม่เคยยิ้มเลย ผมเคยยิ้มครั้งหนึ่งก่อนจะโดนเพื่อนผู้ชายในห้องที่ไม่ชอบผมตีเข้าให้ เพราะผมดันไปทำให้เพื่อนผู้หญิงในห้องคนหนึ่งหน้าแดงขึ้นมาเพราะผมยิ้ม 

    ตลอดมาผมจึงหวาดระแวงว่าจะโดนคนมาแกล้งตอนไหน เลยไม่ยิ้มอีกเลย...แต่ครั้งนั้นผมกลับหัวเราะเล็กๆออกมา มันจึงทำให้ผมหน้าซีดเล็กน้อย ผมก้มหน้าเพื่อให้ผมข้างหน้าปิดหน้าปิดตาไว้

    "ทำไมไม่ยิ้มอีกล่ะ มันดูสวยมากเลยนะ.." เด็กสาวคนนั้นที่ยังไม่รู้ชื่อของผม และอาจจะไม่รู้จักผมด้วยซ้ำ พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงน่าเสียดาย 

    "เธอไม่กลัวเหรอ" 

    "เรื่องอะไร?"

    "สีผมนี้..." 

    ดวงตากลมโตของเธอจับจ้องที่สีผมก่อนจะเอียงคออย่างสงสัย ต่อมาก็ตาโตแล้วนิ่งค้างไป.. มันทำให้ผมหลุบตาลงเพราะคิดว่าเธอคงกลัวแน่ๆ

    ..แต่ผมก็ต้องคิดผิดอีกครั้งเมื่อผู้หญิงคนนั้นยื่นมือมาเปิดผมหน้าม้าที่ปล่อยยาวของผมไว้ ผมตาโตและนิ่งค้างกับการกระทำนั้น 

    "ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหนเลยสวยจะตายไป ยิ่งรอยยิ้มเมื่อกี้นายเหมือนเทวดามากเลยล่ะ!" 

    รอยยิ้ม..

    ผมเห็นเธอยิ้มหวานให้ เหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่ง พร้อมกับหัวใจที่เริ่มเต้นเป็นจังหวะที่เร็วขึ้น ก่อนที่ผมจะได้ตอบโตหรือสงสัยกับอาการตัวเอง ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกผู้ใหญ่คนหนึ่งน่าจะเป็นคุณแม่ของเธอคนนั้นเรียก

    มันเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นเด็กผู้หญิงที่ยิ้มหวานเหมือนดวงตะวันคนนั้นอีก ผมได้แต่เดินกลับมา ณ จุดที่พวกเราเคยเจอกันเมื่อครั้งนั้น แต่ผมก็ไม่เห็นวี่แววเงาของเธออีกเลย...

    จวบจนผมได้เรียนจบ แล้วย้ายไปเรียนไกลบ้านมากขึ้น ผมจึงได้พบเธออีกครั้ง...ในสถานะเพื่อนร่วมห้อง

    ผมดีใจมากและแอบน่าแดงทุกครั้งที่เธอคนนั้นยิ้มหรือหัวเราะ ผมได้มารู้ชื่อเธอก็ตอนที่ทุกคนพากันแนะนำตัว เธอชื่อ 'มาริเน็ต ลูแปง เฉิง' เป็นเด็กลูกครึ่งฝรั่งเศสและจีน เธอเป็นลูกสาวเจ้าของร้านเบเกอรี่กลางกรุงปารีสนี้เอง 

    ผมเคยเดินไปดูมาหลายครั้งแล้ว มันห่างไกลจากเส้นทางกลับบ้านผมนิดหน่อย...จริงๆไม่นิดหรอก แต่มันไกล'มาก' แต่เพราะอยากเห็นเธออีกครั้ง ถึงแม้จะแค่แวบเดียวหรือแค่ประตูบ้านเธอผมก็ต้องเดินผ่านอ้อมทุกครั้ง จนคิดว่าตัวเองจะเป็นโรคจิตไปแล้ว 

    เพียงแค่ได้เห็นรั้วบ้านเขาก็สุขใจอะไรแบบนั้น 


    มันเป็นแค่สนใจ..จากนั้นก็ปรากฎว่าผมจะมองหาเธอทุกครั้งเป็นอันดับแรกที่มาโรงเรียน 

    น่าเสียใจที่เธอจำผมไม่ได้ อาจเพราะมันนานมากๆแล้ว และผมที่ตอนนี้ได้ย้อมผมตัวเองเป็นสีแดงจากผมสีขาวปกติของตัวเอง ดวงตาของผมก็ถูกปิดไว้ใต้ผมยาวๆ ผมพยายามยิ้มบ่อยๆเผื่อมาริเน็ตจะจำผมได้ขึ้นมา

    แต่ก็ต้องผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า เธอดูท่าจะลืมผมไปแล้วจริงๆ เฮ้อ  

    ผ่านมาหลายปี

    ผมยังคงปอดแหกเช่นเดิม..ไม่กล้าไปชวนเธอคุย ไม่กล้าเข้าไปใกล้ในจุดศูนย์กลางของเธอ จนมาริเน็ตมีคนที่แอบมองบ่อยๆนั้นแหละ ผมถึงได้มาเสียใจกับตัวเองว่ารู้งี้น่าจะพยายามชวนเธอคุยให้มากขึ้น ถึงแม้เธอจะไม่เห็นผมก็ตาม 

    ....

    วันนี้ผมได้รู้เรื่องบางอย่าง

    มาริเน็ตแอบชอบเอเดรียน

    ผมมารู้เรื่องนั้นไม่กี่วันก่อนที่จะโดนอาคุม่าสิง มันเป็นเหตุการณ์เดียวที่ผมได้พบกับเลดี้บัคตัวเป็นๆต่อหน้า แล้วยังถูกเธอพาไปส่งที่บ้านให้อีกด้วย 

    นอกจากนั้นยังมีนักเรียนใหม่ที่ตามเอเดรียนย้ายมาใหม่ติดๆ เธอชื่อ ไดอาน่า ซีมัวร์ เพียงได้มองเธอครั้งแรกผมก็ต้องเผลอหยุดค้างกับความงดงามนั้น เธอดูสูงศักดิ์แผ่กลิ่นอายสุภาพสตรีออกมา

    ทุกคนต่างชื่นชมไดอาน่า เพราะเธอเรียนรู้ได้หลายภาษา แถมยังทำงานแล้วเป็นนักร้องและนางแบบเหมือนกับเอเดรียน ท่าทางเงียบสงบดูแตกต่างจากคนอื่นเล็กน้อย 

    ถึงรอยยิ้มสวยนั่นจะดูเป็นมิตรแต่ก็เหมือนเข้าไม่ถึง จะเรียกว่าเหมือนรอยยิ้มนั้นคือเกราะป้องกันที่ทำให้คนอื่นได้แต่แอบมองห่างๆก็ได้มั้ง... 

    ทุกวันหลังเลิกเรียน ผมเดินผ่านจะได้ยินพวกผู้ชายต่างห้องหรือห้องเดียวกัน ที่แอบชอบไดอาน่าห่างๆพากันพูดถึงเธอลับหลัง 

    ผมไม่ได้สนใจเรื่องรักใคร่เหมือนพวกนั้นหรอก ผมสนใจแค่ว่าเธอดันมีผมสีเงินเป็นประกายเช่นเดียวกับตัวผมต่างหาก! ตอนแรกผมนึกว่าเธอย้อมสีผมเอาเพราะเพื่อนๆในห้องก็ย้อมสีผมกันเยอะ 

    ไม่แม้กระทั่งตัวผมเอง 

    ตอนที่ไดอาน่าบอกว่านี้คือสีผมธรรมชาติของเธอ ผมถึงได้ตกใจเป็นอย่างมาก

    แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะมาเป็นน้องสาวฝาแฝดของผม...ไม่เคยคิดเช่นนั้นเลยจริงๆ ตอนที่รู้ข่าวผมถึงได้ตกตะลึงและช็อคอยู่เป็นเวลานาน

    ไม่เคยคิดว่าเรื่องละครน้ำเน่าที่เคยดูสมัยก่อนจะเกิดขึ้นกับตัวเอง... 

    ผมบอกได้เลยว่าไดอาน่านั้นเป็นผู้หญิงที่สวยและน่ารัก..สวยกว่าเพื่อนในห้องและคนอื่น และอาจจะสวยกว่าทุกคนที่ผมเคยเห็นมา เธอดูเหมือนเป็นมิตรเข้ากับคนอื่นง่าย แต่กลับไม่ใช่เช่นนั้น...

    ไดอาน่าคนนั้นน่ะปิดกั้นตัวเองกับคนอื่นไว้มากกว่าที่คิด ขนาดเอเดรียนยังเข้าถึงไม่ได้เลย(แอบสะใจเล็กน้อย) สังเกตได้จากการที่เธอมักชอบอยู่กับผม ทานข้าวหรือเปลี่ยนห้องเรียนเธอก็ชอบขอติดมาด้วยบ่อยๆ 

    ไดอาน่าเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนถึงแม้จะขี้แกล้งไปบ้าง

    อาจจะเพราะเธอเป็นเพื่อนนั่งโต๊ะเดียวกับผมก็ได้มั้ง ผมจึงได้ลำเอียงเห็นความพิเศษที่ใครหลายคนไม่เคยเห็น

    ตอนแรกผมคิดแบบนั้น..

    แต่ไม่คิดว่าไดอาน่าจะมาบอกรักผม...หรือเรียกว่าแกล้งพูดดีล่ะ? ผมดูออกว่าเธอคนนั้นไม่ได้รักใคร่ตัวผมในคำนองชู้สาวหรอก แต่เป็นความรู้สึกที่ดูพิเศษ กึ่งเอ็นดูและดูสนุก?

    เธอมีนิสัยเสียที่ชอบเสี่ยงเรื่องอันตรายและเรื่องที่ผู้หญิงไม่ทำกันเป็นเรื่องสนุกไปซะหมด และยังชอบสังเกตคนรอบข้าง เฝ้ามองอยู่วงนอกและหัวเราะขบขันตอนที่พวกนั้นทำอะไรพลาด..

    เฮ้ เป็นนิสัยที่ไม่ดีเลย ทำไมถึงไม่มีใครรู้นะ ทำไมมีแต่ผมที่รู้???

    ไดอาน่าดูเป็นผู้หญิงอันตราย..เพราะผมไม่สามารถเดาความคิดของเธอคนนั้นออกได้เลยสักครั้ง เหมือนจะเดาการกระทำนั่นได้ แต่ต่อมาก็ต้องมาขบคิดใหม่ว่าเธอทำแบบนั้นเพราะอะไร? 

    ภายนอกไดอาน่าเป็นผู้หญิงยิ้มง่ายเป็นมิตรและดูใจดีอ่อนโยน แต่หลังๆมานี้ผมที่อยู่ด้วยกับเธอบ่อยๆเริ่มได้เห็นธาตุแท้ของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อาจเพราะไดอาน่าเปิดเผยนิสัยจริงๆให้ผมรู้ก็ได้..

    ไดอาน่า ซีมัวร์ ลูกสาวตระกูลโด่งดังที่แสบซนอย่างที่ผมไม่เคยได้พบผู้หญิงคนไหนมาก่อน 

    เธอนิสัยเจ้าเล่ห์และเหลี่ยมจัดเหมือนจิ้งจอกในบางครา แต่บางครั้งก็บื้อได้น่ารักเป็นอย่างมาก จนผมยังแอบหงุดหงิดเลยว่าทำไมเรื่องแบบนี้ถึงได้โง่นัก ทีไอ้เรื่องยากๆที่คนอื่นไม่เข้าใจถึงได้ฉลาดเหลือเกิน

    แถมบางทียังเกียจคร้านเหมือนแมวตัวเล็กๆ และมีอีกมุมหนึ่งที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นและก็ดูอ่อนโยนมากกว่าที่คิด 

    ผมชอบมองเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง และเหมือนครอบครัวมากกว่าตอนที่ยังไม่รู้ว่าเธอคือน้องสาวจริงๆของผม เพราะนิสัยของไดอาน่าบางครั้งกลับซนแสบจนปวดหัวเหมือนเด็กตัวเล็กได้อย่างไม่น่าเชื่อ 

    ทำให้ผมอยากจะเห็นผู้ปกครองของไดอาน่าเหลือเกินว่าเลี้ยงลูกมาแบบไหนทำไมถึงได้ซนเป็นลิงแบบนี้ 

    ว่างๆก็บังเอิญไปเห็นไดอาน่ากำลังปีนต้นไม้ ข้ามกำแพงในขณะที่ใส่กระโปร่ง แต่เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นกลับดูเป็นคนละคนดูเรียบร้อยมาก 

    รู้สึกคันปากคันมือมากๆ แต่ทำอะไรไม่ได้...กังวลจนเหมือนพ่อแก่ทุกทีที่ไม่เห็นลูกสาวในสายตา 

    ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะไปเพ่นพร่านเตร่อยู่ตรอกซอยที่ไหน หรือไปหาเรื่องทะเลาะวิวาทกับนักเลงเจ้าถิ่น(?) ที่กล่าวข้างต้นมานี้ดูเหมือนจะเป็นไปได้ทุกเวลาเลย 

    นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เมื่อเจ้าตัวถามว่า'ลองคบกันไหม?' ผมถึงได้ตอบได้อย่างใจเย็นว่า 'ไม่' 

    ขอโทษนะ  ผมสามารถเป็นพ่อให้เธอได้แต่ไม่สามารถเป็นคู่ชีวิตให้เธอได้จริงๆ(ซับน้ำตา) ไม่งั้นผมต้องหัวล้านเข้าสักวัน รอให้เจ้าบ่าวผู้โชคร้าย(?)มาดูแลเธอทั้งชีวิตต่อเองน่าจะดีกว่า 

    แค่ก นั่นคือส่งที่ผมคิดในตอนนั้น แต่ไม่กล้าพูดออกไป 




    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ 


    ไรท์ : แรกๆดูดราม่านะ.... ไม่รู้ทำไมหลังๆกลายเป็นพื้นที่บ่นของนาธานเกี่ยวกับไดอาน่าไปซะงั้น... 

    กำลังพยายามหาแรงบันดาลใจมาแต่งเรื่องนี้ต่ออยู่ /แต่ก็ติดที่ทำงานหาเงินใช้เหมือนกัน ซับน้ำตา



    .....

    [หลังม่านมุมโต๊ะน้ำชานักเขียน]

    ไรท์ : "คำถามบทความเล็กๆ รู้สึกอย่างไรคะ ที่ได้รู้ผู้สมัครว่าที่เจ้าบ่าวของน้องสาวของคุณ?" 

    **ยื่นไมค์ไปจ่อเด็กหนุ่มผมเงิน 

    นาธาน : "....." ผมไม่ขอตอบคำถามนี้จะได้ไหม? 

    นาธาเนียลที่มารู้ทีหลังว่าผู้สมัครเจ้าบ่าวในอนาคต(ผู้โชคร้าย)เป็นใครนั่น ไม่สามารถยิ้มได้อย่างเต็มปาก....อีกใจหนึ่งก็รู้สึกดีอีกครึ่งก็รู้สึกไม่ดี 

    รู้สึกดีเพราะรู้ว่าเจ้าแมวขี้เรื้อนต้องปวดหัวในอนาคตแน่ๆ(นาธานรู้ นาธานสัมผัสมากับตัว) 

    รู้สึกไม่ดีเพราะนั่นคือน้องสาวตัวเอง!? เฮ้ ถึงเธอจะซนจนน่าปวดหัวไปหน่อย แต่นั้นก็น้องสาวฝาแฝดของเขา!?

    นาธาน : "ความรู้สึกของผมคงเป็น...เหมือนคุณวางปลาตากแห้งเอาไว้ในบ้าน แล้วแมวจรจัดมาคาบไปกิน ความรู้สึกของผมแบบนั้นเลย!" 

    เอเดรียน : "....."  <<<แมวจรจัด

    ไดอาน่า : "....." <<<ปลาตากแห้ง   

    .....

    ไรท์ : รู้สึกอย่างไรที่ได้เห็นความรู้สึกในใจของพี่ชายฝาแฝดของคุณ? **

    ไดอาน่า : "...." พูดไม่ออก... นี่ฉันดูเป็นคนอันตรายเหรอ...

    เฮ้พี่ชาย โปรดรักฉันอีกครั้ง นี้น้องสาวผู้น่ารักของนายเอง จำไม่ได้เหรอ? 


    .....

    ไรท์ : "รู้สึกอย่างไรคะ ที่ต่างคนต่างเห็นอีกฝ่ายเป็นลูกของตัวเอง" 

    ไดอาน่า : "....." ไดอาน่าที่เพิ่งรู้ว่านาธานในสายตาอีกฝ่ายเห็นเธอเป็นลูก!? ฉันแสนดีและสวยพร้อมขนาดนี้เห็นฉันเป็นลูก??

    นาธาเนียล : "......"  ที่เพิ่งรู้ว่าไดอาน่าก็เห็นเขาเป็นลูกตัวเองเหมือนกัน... 


    "นาย/เธอกล้าพูดออกมาได้ยังไงน่ะ???" X2


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×