NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (end)「Fic Boku no Hero Academia」XXX {Villain x OC}[จบรูทหลัก]

    ลำดับตอนที่ #20 : End up

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.74K
      603
      13 ส.ค. 63


    [17] สิ้นสุด



    เมื่อคืนเราไม่ได้นอนด้วยกัน


    อ่า เเต่เเค่เห็นน้ำตากับใบหน้าที่ดูผิดหวังก็พอเดาได้อยู่เเล้ว ถ้าเขาอยู่นอนต่อนี่สิถึงเป็นเรื่องเเปลกประหลาด

    นอนนิ่งบนเตียงสักพัก ดวงตามองเพดานสีขาว กลิ่นหอมจางของเทียนหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ทำให้หัวคิ้วที่ขมวดอยู่ค่อยๆคลายออก ความคิดกระจัดกระจายเริ่มกลับมาเข้าที่ อือ เทียนหอมนี่ช่วยชีวิตไว้จริงๆ

    ไม่สิ จำได้ว่าเมื่อคืนไม่ได้จุดเทียนค้างไว้นี่นา --- คนที่รู้เรื่องนิสัยเสียตอนเช้าก็มีเเค่เด็กคนนั้นคนเดียวซะด้วย

    ทั้งที่ดูผิดหวังขนาดนั้นเเท้ๆ

    พอจะลุกขึ้นจากเตียงก็รู้สึกปวดไปทั่วตัวเลย

    ย้อนกลับไปฉากถูกโยนลงบนเตียงอย่างรุนเเรงเมื่อวาน ได้ยินเสียงดัง ‘ตุบ’ เมื่อกระเเทกกับเตียงชัดเจน คิดว่าจะช้ำในตายไปเเล้ว เเรงเยอะผิดคาดเลยนะโทมูระคุง ยิ่งตอนโกรธนี่ --- เเล้วก็ที่ถูกกำข้อมืออีก กลายมาเป็นสีเขียวม่วงจริงๆด้วย ยิ่งมองยิ่งน่ากลัว เหมือนรอยช้ำในข่าวผู้หญิงถูกรุมทำร้ายร่างกายไม่มีผิด

    ลุกออกจากเตียงด้วยความอ่อนเเรง ถ้ามีใครมาเห็นฉันในสภาพนี้ต้องไม่วายถูกโดนด่าว่าโง่เเน่ๆ

    ‘เธอน่ะ...’

    เเต่อยู่ในที่ที่อันตรายต้องมีความเสี่ยงสินะ? อือ เอาไปเอามาชักเริ่มจะชินกับความเจ็บปวดแบบนี้เเล้วสิ


    น่ากลัวจังเลยน้า





    ……….





    อะไรสักอย่างแปลกไป


    มองเงาสะท้อนบนกระจกในห้องน้ำ

    ทรงผมเรียบร้อย ชุดเดรสกับคาร์ดิเเกนก็เรียบร้อย ถ้าไม่นับใบหน้าที่ดูอ่อนล้า กับรอยช้ำประปรายบนตัว ที่เหลืออยู่ก็เเค่ของประดับ --- เจาะจงก็คือสร้อยคอที่มักจะใส่อยู่ทุกวัน มันถูกสับเปลี่ยน

    ตอนนี้ที่อยู่บนคอคือสร้อยจี้ผีเสื้อ ไม่ใช่จี้โลมา

    ย้อนคิดถึงตอนดูพลุเมื่อวาน


    ‘ของขวัญจากฉัน’


    อา ใช่เเล้ว ตอนนั้นนี่เอง ลืมไปซะสนิทเลย

    มองจี้ผีเสื้อที่กำลังสะท้อนกับเเสงไฟ ค่อยๆผ่อนลมหายใจออกมาเเล้วยิ้มให้ตัวเองในกระจก หมุนไปมาสักรอบเพื่อสำรวจดูว่าเเต่งตัวเรียบร้อยหรือเปล่า มองดูยังไงก็ยังคงเป็นสาวน้อยน่ารัก

    เอาล่ะ

    สิ่งที่สำคัญกว่าที่อยู่ของจี้โลมา ฉันควรจะออกไปข้างนอกห้องเพื่อดูว่ามีใครว่างพอเป็นเพื่อนคุยเล่นในวันนี้บ้างหรือเปล่า เเล้วต่อจากนั้นค่อยไปหาอะไรกินเติมเต็มท้อง เล่นเกม เเล้วก็นอน...

    ใครสักคน

    ตอนนี้รู้สึกเหงามากๆเลยล่ะ




    ต้องไม่ใช่คุโรกิริสิ




    เห็นหน้าเเล้วรู้สึกเหมือนมีลางร้ายมาเกาะเลย

    อีกฝ่ายคงมีความคิดไม่ต่างกัน ดูจากดวงตาที่หรี่ลงนั่น มือที่กำลังผสมเครื่องดื่มก็หยุดลงไปด้วย หวา เครื่องดื่มอีกเเล้ว จิตวิญญาณบาร์เทนเดอร์เข้าสิงเเต่เช้าเลยหรือยังไงกัน

    มองหน้าฉันเเล้วถอนหายใจเเบบนั้นหมายความว่ายังไง ฉันไม่ใช่เด็กมีปัญหาเหมือนท่านผู้สืบทอดสักหน่อย

    “คนที่คุณกำลังมองหาไม่อยู่หรอกครับ” พูดพร้อมเทเครื่องดื่มสีสวยลงเเก้ว “ชิการาคิ โทมูระไปทำธุระน่ะ”

    “ฉันยังไม่ได้ถามเลยค่ะ”

    “เเต่เมื่อกี้เหมือนกำลังจะถามนะครับ”

    ฉันฟุบนอนบนโซฟา คว้าหมอนมากอด สมองตอนเช้ายิ่งไม่ค่อยดีอยู่ อะไรดลใจให้ต้องมาเจอคุโรกิริเเบบนี้เนี่ย

    “...เกลียดจังเลย”

    “ถ้าคุณชอบผมวันนั้นคงเป็นลางร้ายเเล้วครับ”

    อะ กระซิบเเท้ๆยังได้ยินอีกเหรอเนี่ย

    เขาถอนหายใจยาวๆเฮือกหนึ่ง เสียงเเก้ววางกระทบกับเคาน์เตอร์ในครัวทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมอง พบว่าเขาวางเเก้วใส่ของเหลวที่ผสมเมื่อกี้ไว้ ไม่ได้เเตะต้องอะไร

    “เครื่องดื่มพีชครับ เห็นว่าคุณชอบก็เลยทำไว้ให้”

    ฉันหรี่ตา รู้สึกขนลุกซู่ “เห...”

    ไม่ได้วางยาพิษใช่ไหมเนี่ย

    “ถ้าไม่ชอบก็เททิ้งเเค่นั้นครับ” น้ำเสียงราบเรียบ “ผมจะซื้อยามาให้ตอนเย็น ระหว่างนี้ถ้าคุณไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาใครก็พยายามอย่าออกไปข้างนอกก็เเล้วกัน”

    ตอนที่คุโรกิริเตรียมจะใช้อัตลักษณ์วาร์ปตัวเองออกไปฉันถึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ต้องหาใครสักคนไม่ใช่เหรอไง

    “ผมไม่ได้อยากซื้อยามาให้คุณหรอกนะครับ...ก็เเค่โดนใครบางคนสั่งมาว่าให้มาอยู่รอดูอาการของคุณ”

    คำว่า ‘เดี๋ยวก่อน’ ถูกกลืนหายไปในคอเมื่อคุโรกิริหยุดชะงักเเล้วเบนหน้ามามอง ถึงจะเป็นกลุ่มควันเเต่ก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้เขากำลังเหยียดยิ้มอยู่ ซึ่งท่าทางเเบบนั้นมันน่าหงุดหงิดจริงๆ


    “ช่วยทำอะไรให้มันจริงจังสักทีครับ”


    --- อย่ามาพูดทิ้งท้ายเเล้วหายไปเเบบนี้นะ

    ตีขาไปมาบนโซฟาอย่างทำอะไรไม่ได้ ฮื่อ น่าโมโหจังเลยนะคุโรกิริ น่าโมโหจังเลย เเล้วที่ว่าให้จริงจังหมายความว่าอะไร การหาเพื่อนคุยเล่นตอนนี้ก็เป็นเรื่องจริงจังนะรู้ไหม

    บางทีฉัน...

    ลุกจากโซฟาขึ้นมา นายท่านคงอยู่ในห้องล่ะมั้ง? อย่างน้อยก็เหลือเพื่อนคุยอีกหนึ่งนี่นา ลืมคิดถึงเขาไปได้ไงนะ

    ก่อนที่จะพาร่างอันบอบช้ำของตัวเองไปไหน สายตาก็เหลือบมองไปเห็นเครื่องดื่มที่วางบนเคาน์เตอร์

    “เครื่องดื่มพีชครับ เห็นว่าคุณชอบก็เลยทำไว้ให้”

    อ๊ะ

    หวานจัง



    ....



    เขาอยู่ในห้องจริงด้วย


    เเถวๆเคาน์เตอร์ในห้องครัว กำลังทำอะไรสักอย่างกับเครื่องชงกาเเฟ กลิ่นหอมที่ทำให้นึกถึงตอนอยู่ในร้านกาเเฟลอยคลุ้งไปทั่วห้อง เป็นกลิ่นที่ชวนผ่อนคลาย โดนลวงได้ง่ายๆเลยนะบรรยากาศเเบบนี้น่ะ

    ท่าทางเหมือนอีกไม่นานเขาก็จะออกไปไหน

    ฉันเดินไปนั่งบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่สนใจคำทักทายอย่าง ‘อรุณสวัสดิ์’ จากเขา เเค่น้ำเสียงก็พอรู้เเล้วว่าคงไม่ได้อยากพูดเเค่อรุณสวัสดิ์หรอก เหมือนจะกวนโมโหมากกว่า เห็นฉันบอบช้ำจะเป็นจะตายเเบบนี้เเล้วรู้สึกสนุกล่ะสิ

    ขอเขาที่ไม่พูดมากกลับมาได้ไหม

    ถึงตอนนี้เขาจะหล่อเหลามากก็เถอะ เเต่ไม่อยากได้เเล้วอ่า นิสัยบางอย่างของเขากำลังทำฉันประสาทเสีย

    อย่างเช่นตอนนี้ ที่เขามองคอฉันเเล้วหยักยิ้ม


    “เหมาะกับเธอดี”


    คำพูดนั่นเชื่อได้เเค่ไหน

    อ่ะ เเต่พอเขาพูดมาเเบบนี้ฉันถึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ที่เข้ามาในห้องนี้ไม่ใช่เพราะอยากเจอหน้าเขาสักหน่อย น้ำเสียงนุ่มๆนั่นอันตรายชะมัดเลย ทำเอาเกือบเคลิ้มเเหน่ะ

    “ของของฉันอยู่ไหนคะ”

    “ของของเธอ?”

    เขาเอียงคอ ทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจว่าฉันหมายถึงอะไร ถ้าไม่ติดที่เมื่อวานเขาเป็นคนเปลี่ยนสร้อยให้เองกับมือฉันคงหลงเชื่อไปสนิทใจ

    ควรเปลี่ยนอาชีพไปเป็นนักเเสดงนะนายท่าน น่าจะได้รางวัลจนเต็มตู้เก็บ

    เหมือนได้ยินเสียงกาน้ำร้อนที่กำลังเดือดพล่านในหัว รู้สึกไม่ค่อยดีจนต้องค่อยๆผ่อนลมหายใจอย่างช้าๆ

    รอยยิ้มกลับมาบนใบหน้าอีกครั้ง



    “จี้โลมาอยู่ไหนคะ?”



    ถามตรงช่วงที่กาเเฟเสร็จพอดี

    เขาจิบกาเเฟอย่างเชื่องช้า เหมือนค่อยๆละเลียดชิมรสชาติของมัน บรรยากาศรอบตัวดูอบอุ่นน่าเข้าใกล้ ในบางมุมเขาก็คล้ายกับผู้ชายธรรมดาทั่วไป

    ทว่าเมื่อเราสบตากัน



    “ไม่คิดว่าจะเป็นของสำคัญ...ฉันก็เลยทิ้งไปเเล้วล่ะ”



    ดวงตาอันเเสนว่างเปล่า


    “ผิดคาดนะที่เธอยังสนใจมัน ทั้งที่ก็เก่าเเล้วเเท้ๆ”


    ไอ้นิสัยเเสนชั่วร้ายของเขาคงไม่มีวันหายไปหรอก

    เสียงกาน้ำร้อนในหัวชัดเจนขึ้นจนหูอื้อไปหมด

    ‘เเต่เวลาอยู่กับคุณผมไม่เป็นอะไรเลยนะ’

    เป็นความรู้สึกที่ทำเอาอยากล้มลงไปกองกับพื้น


    ‘เหมือนคุณเป็นเครื่องรางนำโชคดีเลยล่ะ’




    “อย่า...”




    อย่ามายุ่งกับสมบัติของฉัน



    “โช เธอโกรธงั้นเหรอ?”



    เสียงที่เเทรกขึ้นมาทำให้ความคิดในหัวหยุดลง

    ตัวสั่นเทิ้ม เล็บจิกฝ่ามือ


    อ๊ะ


    กะพริบตา เมื่อกี้ฉันเป็นอะไรไปน่ะ

    คงเหนื่อยจากเมื่อวานมากเกินไปล่ะมั้ง รู้สึกปวดตามตัวด้วย ก็โทมูระคุงเล่นรุนเเรงจนฉันบอบช้ำขนาดนี้เลยนี่นา

    บางทีฉัน...

    ส่ายหัวเบาๆให้ความมึนเบลอเลือนหายไป เรียกรอยยิ้มกลับมาบนใบหน้าเหมือนเดิม



    “ฉันจะโกรธคุณเพราะของไม่สำคัญได้ยังไงคะ”



    เริ่มจะมาคิดเเล้วล่ะ


    ‘ผิดคาดนะที่เธอยังสนใจมัน ทั้งที่ก็เก่าเเล้วเเท้ๆ’


    ฉันเห็นด้วยกับประโยคนั้นนะ


    ทั้งหมดเลย





    ………





    ออกมาข้างนอกล่ะ



    สมกับเป็นฤดูร้อน ฮื่อ รู้สึกเหมือนจะละลายเลย

    เเดดร้อนจังเลยนะ

    ร้อนมากๆเลย


    เเต่เรื่องนั้นช่างมันไปก่อน


    มองไปรอบๆ ฉันกะพริบตาปริบก่อนจะเริ่มหันซ้ายหันขวา อะ ที่นี่มันที่ไหนเนี่ย

    จริงจังนะ ร้านค้าพวกนี้ไม่เห็นคุ้นตาสักนิด ห้างสรรพสินค้าใหญ่โตนี่อีก มากจากไหนกันเนี่ย

    อ่า...



    ฉันคงจะหลงทาง



    อีกเเล้ว ทุกทีเลยเวลาเหม่อมากๆเนี่ย

    ยกเเขนขึ้นมาบังเเดดที่เหมือนจะจ้าขึ้นจนเเสบตา กวาดมองไปรอบๆก่อนจะหยุดลงที่ที่นั่งใต้ร่มไม้ คงต้องไปพักตรงนั้นก่อนเเล้วล่ะ เรื่องที่ว่าจะหาทางกลับยังไงค่อยคิดกันอีกที ไม่อย่างนั้นเเดดร้อนอย่างนี้คงทำให้ล้มลงเเน่เลย


    ขาหยุดชะงัก


    ถ้าฉันล้มลงตรงนี้จริงๆ


    ท่ามกลางคนมากมายเเบบนี้จะมีใครกล้าก้าวเข้ามาช่วยบ้างหรือเปล่านะ?

    ถ้ามีคนที่กำลังเดือดร้อนอยู่ตรงหน้า...

    จะเหมือนฉากในการ์ตูนน้ำเน่าที่อ่านไหมนะ ที่นางเอกได้บังเอิญเจอกับพระเอกครั้งเเรก ตอนที่เป็นลมล้มพับไป

    หรือว่าจะเป็นเหมือนครั้งก่อนที่ฉันถูกจับเป็นตัวประกัน เดือดร้อนถึงขั้นถูกเอามีดจี้คอยังทำเเค่รุมล้อมมองฉันด้วยสายตาสงสาร รอให้มีฮีโร่เก่งๆเข้ามาช่วย น่าเสียดายที่โจรไม่ได้คิดจะฆ่าจริงๆ อยากเห็นสีหน้าของคนพวกนั้นตอนฉันหัวหลุดออกมาจังเลย คงต้องดูดีมากเเน่ๆ


    ช่างเถอะ


    เเดดเริ่มร้อนอีกเเล้วสิ

    ร้อนไปหมด




    ภาพเริ่มพร่ามัวขึ้นเรื่อยๆ




    รอยช้ำปวดขึ้นมาอีกเเล้ว


    นี่


    ‘ช่วยทำอะไรให้มันจริงจังสักทีครับ’

    ตอนนี้ฉันจริงจังนะ


    เเค่ใครสักคนเข้ามาช่วยฉัน




    “สาวน้อย เป็นอะไรหรือเปล่า?”




    เเค่ใครสักคนเข้ามาช่วยพยุงฉันที่จะล้มเเบบนี้

    เเม้จะเป็นคนที่มีเเขนผอมเเห้ง น้ำเสียงอ่อนล้า



    “นี่เธอ...”



    อนาคตสัญลักษณ์เเห่งสันติภาพ ฮีโร่อันดับหนึ่งที่ช่วยเหลือผู้คนด้วยรอยยิ้ม เป้าหมายของสมาพันธ์วิลเลิน

    หมดเวลาเเล้วสินะถึงได้มาอยู่ในสภาพเเบบนี้น่ะ ดูอ่อนเเอคนละเรื่องกับฉายาที่ถูกกล่าวขานเลย


    ออลไมท์




    “ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันเอาไว้ในตอนนั้น”




    คงไม่ลืมคนที่รักษาคุณหรอกใช่ไหม

    งานฝนดาวตกคราวนั้นจำได้ว่าเคยกระซิบบอกสินะ ก่อนที่จะโดนนายน้อยกระชากให้ออกห่างจากคุณน่ะ

    ‘เมื่อถึงเวลา….ได้โปรดช่วยฉันด้วยนะคะ’

    คงไม่ต้องรอให้ถึงตอนนั้นเเล้วล่ะ

    มองใบหน้าตื่นตกใจนั่นเเล้วเรียวปากก็ยิ้มอย่างเศร้าสร้อย คงดูน่าสงสารอย่างที่สุดเมื่อรวมกับรอยช้ำที่ข้อมือเเละตามร่างกาย เขาถึงมีสายตาเเบบนั้น สายตาเหมือนมองคนที่กลายเป็นเหยื่อของวิลเลิน

    สายตาที่เหมือนบอกว่า จะช่วยให้ได้’ นั่นน่ะ

    เก็บซ่อนความรู้สึกให้ลึกที่สุดขณะเเย้มรอยยิ้ม

    บางทีฉัน...



    “ดูเหมือน...ฉันจะหมดประโยชน์กับเขาเเล้วล่ะค่ะ”




    น่าจะพอได้เเล้วล่ะมั้ง?




    “ออลไมท์...ได้โปรดฆ่าฉันเถอะค่ะ”




    ฝังใบหน้าใต้อ้อมเเขนของเขา ปิดเปลือกตาลง



    “ฉันอยู่นี่เเล้ว”



    รู้อยู่เเล้วล่ะ

    เพราะอย่างนั้นถึงได้พูดออกไปไง





    “ไม่ต้องกลัวนะสาวน้อย”





    นี่





    ขอบคุณ...เเล้วก็ขอโทษด้วยนะโทมูระคุง

    ทั้งเรื่องก่อนหน้านี้ เเล้วก็เรื่องในตอนนี้ด้วย









    เเต่ฉันเบื่อเเล้วล่ะ


     








    ★ ☆ ★ ☆ ★ ☆


    โช : บางทีฉัน...

    โช : ช่างเถอะ ฮือ ออลไมท์กล้ามคุณหายไปไหนน่ะ



    -----------------

    'ผิดคาดนะที่เธอยังสนใจมัน ทั้งที่ก็เก่าเเล้วเเท้ๆ’

    ตอนที่โชคิดว่าเห็นด้วย 'มัน' ในประโยคสำหรับเธอไม่ได้หมายถึงจี้โลมา แต่เป็นเหล่าวายร้าย(ออลฟอร์วัน)ค่ะ

    ประมาณว่าอยู่นี่กับพวกออลฟอร์วันมานานแล้ว ไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว ไม่มีอะไรให้เล่นแล้ว น่าเบื่อ 

    —> อืม แล้วจะอยู่ต่อไปทำไมนะ เก่าแล้วก็ทิ้งไปหาอันใหม่ได้นี่นา? แปลกใจจริงๆที่ฉันยังทนมาได้ถึงขนาดนี้

    จึงได้ข้อสรุปว่าเห็นด้วยกับAFO

    (ตีความไปคนละแบบเลยค่ะ ฮาาาาา)


    --------


    บางทีฉันน่าจะหยุดได้แล้ว

    บางทีฉันน่าจะไปหาคนเลี้ยงคนใหม่

    ฮืม...พอได้แล้วล่ะมั้ง?

    เบื่อเกมนี้แล้วล่ะ

    ทิ้งให้หมดเลยก็แล้วกัน


    ....


    'บางทีฉัน...' ของเธอก็ประมาณนั้นล่ะค่ะ

    ที่รักษาออลไมท์ก็เพราะคิดว่าออลไมท์ในช่วงเวลานั้น(ต้องการรักษาเเผลเพื่อคงเป็นสัญลักษณ์เเห่งสันติภาพให้ประชาชน) คงไม่ลืมเธอ(ที่เป็นคนรักษา)เเน่นอน เเละในอนาคตคงต้องการเธอ(ไปรักษา)ด้วย


    โช : เเน่ล่ะ ตอนนี้ท่านวายร้ายสภาพสมบูรณ์สุดๆเลยนี่นา

    โช : ถ้าไม่ยอมรับฉันก็เตรียมตัวโดนเขาบี้ตายเถอะ


    -----------

    อาจจะไม่สังเกต เเต่ความจริงเธอเบื่อเร็วมากเลยนะคะ

    (อาจจะยกเว้นเเค่สร้อยของนัตสึโอะ)

    เกมก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นหรอก เเต่เพราะเธอเล่นมันจบก่อนที่ตัวเองจะรู้สึกเบื่อ คนก็เลยอาจจะไม่รู้น่ะค่ะ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×