NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (end)「Hunter X Hunter」L’appel Duvide [OC]

    ลำดับตอนที่ #14 : nefas

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.37K
      517
      26 พ.ย. 63


    ‘อร่อยรึเปล่า?’



    บางครั้งเฟย์ตันก็มักจะถามออกไป

    จากนั้นคนที่กินอยู่ก็จะเงยหน้ามายิ้มให้เขาจนตาหยี พยักหน้ารัวเพราะพูดตอนที่อาหารอยู่ในปากไม่ได้ หลังกลืนเสร็จก็จะเอาแก้มมาถู พูดเอาใจเสียงเจื้อยแจ้ว เหมือนกลัวว่าเขาจะไม่แอบเอาอาหารมาให้อีก

    เฟย์ตันไม่เข้าใจ และไม่เคยเข้าใจความชอบของเธอ แต่น่าแปลกที่นอกจากจะไม่ขยะแขยงแล้วเขายังพบว่ารอยยิ้มตอนมีความสุขของใครบางคนก็น่ามองไม่เลว

    บางทีการที่เขายอมลากขยะกลับมาด้วยก็เพราะอยากเห็นแก้มป่องๆ กับดวงตาสดใสที่หยีลงยามยิ้มอีกก็ได้



    “อยากไปหาอะไรกินไหม”



    อย่างน้อย

    เขาก็เกลียดการเปื้อนเลือดน้อยกว่าน้ำตาเด็กดื้อ


    “คนชนะจะมาเลี้ยงได้ไง” เสียงอู้อี้เพราะพูดทั้งที่ยังซุกใบหน้ากับเสื้อ “ตามสัญญา พี่เฟย์อยากได้อะไรล่ะ”

    “เธอให้ไม่ได้หรอก”

    “พี่ดูถูกหนูเหรอ” เด็กอารมณ์เสีย เล็บไม่มีแต่ก็ยังตะกุยเสื้อเขาเหมือนตัวเองเป็นแมว “เงิน สมบัติ หรือเอาเป็นความแข็งแกร่งไร้เทียมทานดี”

    “เธอ...”

    “?”




    “เคยร้องไห้แบบนี้ให้ฉันรึเปล่า?”




    ยัยเด็กดื้อชะงัก

    “แหะ”

    ก่อนจะหลบตา หัวเราะแบบเด็กมีชนักติดหลัง

    แหงล่ะ ทุกวันก็เอาแต่ภาวนาให้คนอื่นเจ็บกลับมาอยู่นั่น พอเจ็บมาจริงๆแทนที่จะร้องไห้หรือโกรธฝ่ายศัตรูกลับขอบคุณ มองคนเจ็บด้วยดวงตาเป็นประกายเหมือนนักล่าเวลาเจอเหยื่อ กินจนสมใจอยาก

    มองมนุษย์เป็นอาหารเสียหมด


    “ฉันไม่ได้บอกว่าจะเล่นเกมด้วย เพราะงั้นก็ถือว่าที่เราเจอกันครั้งนี้ไม่นับ...เกมยังไม่จบ” เขาลูบผมให้อย่างน้อยก็ยุ่งน้อยลง “แต่ถ้าเบื่อจะกลับตอนนี้ก็ได้ คนอื่นไม่โกรธหรอก แล้วค่อยไปเล่นที่งานประมูลด้วยกัน”

    พูดมากกว่าปรกติ

    เฟย์ตันรู้ว่าตัวเองพูดมากกว่าปรกติ รู้ด้วยว่าตอนนี้คงดูแปลกไปกว่าทุกที เด็กดื้อถึงเอียงคอมองเขาตาแป๋ว เอามือมาแปะๆหน้า ดึงแก้มเหมือนกำลังสงสัยว่ามีใครปลอมตัวมาเป็นพี่ชายอยู่หรือเปล่า

    “เลิกดึงได้แล้ว”

    เธอยิ้มแฉ่ง “แหะ พี่เฟย์จริงด้วย”

    “ไหนว่าแค่อยู่ใกล้ก็รู้ไง”

    “ก็รู้...” เสียงค่อย “แต่เมื่อกี้ไม่มั่นใจนิดหน่อย”



    “แล้วอยากมั่นใจหรือเปล่า”



    จำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายเป็นยังไง

    เลือนรางว่าเหมือนจะถูกชวน เป็นเด็กดื้อที่บอกว่าอยากลองกินเขาอีกสักครั้งก่อนสมาชิกจะแยกย้ายกัน


    “กินฉันสิ”


    เรื่องวันนั้นเกิดขึ้นในมุมหนึ่งของห้องนอนเก่าๆ จำได้ว่าสิ่งมีชีวิตน่าเอ็นดูทำตัวเป็นหมาป่าตะกละ ผลักเขาชิดผนัง บดเบียดริมฝีปากอ่อนนุ่มลงมา พยายามทำตามที่เขาสอนแต่ก็เงอะงะไปหมด ได้แต่งับปากอยู่นั่น

    จนสุดท้าย ไม่รู้ว่าหงุดหงิดหรือเปล่าความอดทนที่พยายามมาตลอดถึงได้ขาดผึงดื้อๆ เขาสอนเธออีกครั้ง ลิ้มรสหวานของลูกอมน้ำผึ้งที่ติดมาจางๆจนหมาป่าตะกละกลายเป็นเจ้าก้อนน่ากลืนลงท้อง ข่วนหลังเพราะหายใจไม่ทัน รู้ตัวอีกทีน้องตัวดีที่หวังจะมากินเขาก็สลบไปแล้ว

    แล้วก็แยกไปทั้งๆแบบนั้น

    ตลอดการเดินทางเคยคิดว่าถ้ามีอาหารมาเสนอตัวเข้าปากเธอคงไม่ปฏิเสธแน่ๆ ถึงจะอยู่กับหัวหน้าแต่ก็คงหาทางหนีออกไปกิน เพราะเด็กคนนี้ไม่มีทางพอใจกับรสชาติๆเดียวแน่

    เพราะหัวหน้าก็เป็นอาหาร

    สถานะเท่ากันหมด



    “ตอนนี้ไม่ได้หรอก”



    เคยคิดแบบนั้น



    “หนูกลัวจะถูกเมินกว่าเดิมน่ะ”



    แต่บางสิ่งก็ได้พังทลายลง

    ริมฝีปากถูกกั้นด้วยฝ่ามือ น้องพูดกลั้วหัวเราะแต่เขากลับสัมผัสได้ถึงความฝาดเฝื่อนที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้น ดวงตาที่เคยสดใสเคลือบด้วยหยาดน้ำ แม้จะไม่ได้หยดลงมาแต่ก็ไม่ต่างจากกำลังร้องไห้อยู่

    เหมือนจะรู้ตัวว่ากำลังทำสีหน้าแบบไหนออกมา แขนสองข้างยกขึ้นเช็ดหน้า เพียงพริบตาก็กลับมายิ้มแฉ่งเหมือนตอนยังเป็นเด็กไม่รู้จักอะไรอีกครั้ง



    “เอาแต่ใจไปเยอะก็เลยว่าจะซื้อขนมไปง้อแหละ”



    เคยง้อใครอยู่หรือไง

    กับคนที่เรียกว่าพี่ยังกินจนเกือบตาย



    “หนูไม่เคย...ทำให้ใครขนาดนี้เลย”



    ทนไม่ไหวก็กลับมาสิ



    “รู้สึก...ได้คิดเยอะกว่าแต่ก่อน”

     


    ยิ่งพูดหยดน้ำยิ่งมากขึ้น

    เฟย์ตันเห็นน้องพยายามกลั้นร้องไห้ แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล เสียงสะอื้นดังก้องในหู เด็กที่ตัวเล็กอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งเหมือนตัวเล็กลงกว่าเดิม เธอสะอื้นจนตัวโยน ซุกใบหน้าในอ้อมกอดของเขา อ่อนแอเหมือนลูกนกที่ถูกหักปีก

    'ถ้าเด็กคนนั้นอยากออกไปก็อย่าห้าม’


    “หนูเจ็บ...”



    ‘ทั้งหมดก็เพื่อให้จีได้รู้’



    ฮึก เจ็บเหมือนจะตายเลย”


    ว่าในโลกนี้...’


    ถ้าเป็นแบบนี้


    ‘...ไม่มีใครรักเธอได้เท่าพวกเราอีกแล้ว’


    ขังไว้ตั้งแต่แรกยังจะดีซะกว่า




    (1)

    พี่ชายคนนั้นถึงจะโหดเหี้ยมไปสักหน่อย ทว่ากับน้องแล้วถึงจะไม่ถึงขั้นตามใจเหมือนพี่คนอื่นแต่ก็ใจดีอยู่มาก ทั้งให้ยืมเสื้อเช็ดน้ำตาจนเปียกไปหมด ทั้งโอ๋ๆแบบไร้คำพูด ตอนเข้าไปกอดก็ไม่ได้ผลักออกอย่างปรกติ

    ความใจดีนี้ทำเอาเหลิงขึ้นมา เผลองอแงใส่ไปตั้งเยอะ กว่าจะรู้ตัวว่าการวิ่งหายมาแบบนี้คนอื่นจะเป็นห่วงเอาได้เวลาก็ผ่านมานานโข พอทักไปพี่ชายก็ทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ พึมพำว่าลืมงานไปเสียสนิท

    ทำให้พี่เสียเวลาอีกแล้ว

    พี่เฟย์ทำหน้าแปลกๆตอนที่จีขอโทษ ก่อนจะถามว่า ‘พูดคำนี้บ่อยไปรึเปล่า?’ เหมือนเจอเรื่องไม่น่าเชื่ออย่างไรอย่างนั้น พอลองย้อนมองกลับไปก็เถียงไม่ได้ ตอนนั้นจีเป็นเด็กเอาแต่ใจจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องออกไปหาของกินเองข้างนอก ทำบ่อยจนพวกพี่หน่ายที่จะโกรธ

    รู้ว่าขัดคำสั่ง รู้ว่าทำผิด แต่ถึงรู้ก็ยังจะทำ

    ‘รักมากเลยนะ’

    เพราะสุดท้ายแล้วจะได้รับการให้อภัย

    มาคิดได้ก็บอกกับตัวเองในใจ หลังการเล่นจบลงจะเป็นเด็กดีมากขึ้น อย่างน้อยก็จะขอโทษพวกพี่ให้มากๆ

    ฮื่อ ขอโทษนะคะพี่สาวที่ให้ช่วยล้างเลือดออกจากตัวตลอดเลย ขอบคุณที่ช่วยตัดอาหารเป็นชิ้นให้หนูกินง่ายขึ้น ถ้าเจอของสวยๆจะเอามาให้เป็นค่าตอบแทนแน่นอน ว่างๆก็จะพาไปเที่ยวคฤหาสน์ด้วย

    พี่เฟย์ดูเหนื่อย คงตามหาจีจนเหนื่อย ก่อนจะลากันเขากอดแน่นมาก แน่นจนแทบหายใจไม่ออก ชวนให้นึกถึงพวกพี่สาวที่หลังทำงานเสร็จก็มาฟัดบ่อยๆ บ่นว่าเหนื่อยไม่มีแรง จนต้องจุ๊บให้กำลังใจไป

    พี่เฟย์ก็เหนื่อย

    จีก็เลยจุ๊บพี่เฟย์ด้วย

    รสหวานติดปากกลับมา ถึงการจุ๊บจะอยู่ในวิธีกินเหมือนกันแต่แค่นิดเดียวน้องแมวคงไม่สังเกตเห็นหรอก

    สีหน้าพี่ชายดูดีขึ้นนิดหน่อย อ้อมแขนที่กอดรัดแน่นคลายออกจนพอหายใจได้ ก่อนจะจากกันคุณอาหารล้ำค่าก็จุ๊บแก้มกลับมา ย้ำอีกครั้งว่าถ้าเบื่อก็กลับ เดี๋ยวพี่ชายพี่สาวจะพาไปเล่นแล้วก็ไปเลือกอาหารอร่อยด้วย

    เพราะไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วงที่หายไปนานก็เลยรีบกลับ เลโอลีโอเวลาบ่นน่ากลัวไม่แพ้น้องแมว ขนาดกอร์นยังไม่คิดจะยุ่งด้วย แล้วจีก็อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์เหมือนคุณคู่หมั้นบ้าง

    อย่างน้อยก็อยากจะช่วยสักนิด


    “อ้อ แข่งงัดข้อนั่นน่ะเหรอ ไม่รู้สิ จู่ๆก็เลิกเฉ๊ยย”


    ไม่อยากถูกมองว่าเป็นภาระ

    คำตอบจากคนแถวนั้นทำให้นิ่งงัน จีกะพริบตา มองคนตอบสลับกับพื้นที่ที่เคยใช้เป็นการประมูลเงื่อนไข ตรงนั้นไม่มีกอร์นที่รองัดข้อ ไม่มีเลโอลีโอกับคุณคู่หมั้นที่คอยเรียกลูกค้าเข้ามา แล้วก็...ไม่มีคิรัวร์ด้วย

    รู้สึก


    “เอ จะว่าไปแล้วก็คุ้นๆนา เธอใช่คนที่อยู่กับเด็กผมเงินแล้วจู่ๆก็วิ่งออกมารึเปล่า? พี่น้องกันสินะ?”


    อยากจะตีตัวเองขึ้นมา

    รู้แบบนี้รีบอีกหน่อยก็ดีหรอก

    ก้มหน้าลงมองเท้าตัวเอง ได้แต่กำชายเสื้อสลับกับปล่อยอยู่แบบนั้น ไม่สิ ทำไมถึงได้วิ่งหนีออกมานะ คิรัวร์ก็ไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อย เป็นจีที่ทำตัวเป็นเด็กๆ หวงคุณแมวทั้งที่เขาก็ไม่ใช่ของตัวเอง

    คิรัวร์เป็นอันดับหนึ่งของจี

    แต่จีไม่ใช่อันดับหนึ่งของคิรัวร์


    เป็นอันดับหนึ่งแค่ข้างเดียว


    “เฮ้อ ไม่รู้ว่าทะเลาะอะไรกันหรอกแต่รีบคืนดีกันเถอะ เจ้าเด็กนั่นวิ่งตามไปแต่เธอก็เร็วเกิ๊น----รู้อีกทีก็หายแวบไปแล้ว ถ้าไม่โดนเจ้าเด็กงัดข้อกับลุงลากไปด้วยก็คงยืนหน้าจ๋อยรอเธออยู่นี่แน่”


    แต่อย่างน้อย...ก็ยังไม่ได้ถูกทิ้ง

    แดดช่วงบ่ายร้อนจนเหงื่อหยดเข้าตา จีเช็ดมันออกอย่างลวกๆ ก่อนจะดึงฮู้ดที่หล่นลงเพราะรีบวิ่งให้กลับมาปิดหน้าเหมือนเดิม ย้ายตัวเองออกมาจากที่ตรงนั้น คิดในแง่ดีมีโอกาสอยู่คนเดียวแบบนี้ก็จะได้ซื้อขนมไปเซอร์ไพรส์โดยที่คนอื่นไม่รู้ด้วย

    จะว่าไปแล้ว คุณคู่หมั้นชอบกินอะไรนะ?



    …….



    “หายไปไหนมาเนี่ย!!”


    เลโอลีโอเสียงดังมาแต่ไกล เขาตีหน้าดุ มองยัยหนูที่ดูไม่รู้สึกรู้สาอะไร สองมือเต็มไปด้วยถุงขนม และแทนที่จะสนใจกันสักนิดกลับมองคิรัวร์ตาเป็นประกาย ล็อกเป้าหมายแล้ววิ่งไปยื่นถุงขนมให้ครึ่งหนึ่ง

    เจ้านั่นยังบ่ายเบี่ยงเหมือนตอนเจอยัยหนูครั้งแรก ไม่ยอมรับขนมแทนคำขอโทษไปสักทีจนคนให้เริ่มท้อ กอร์นทำได้แค่ปลอบข้างๆ ส่วนเขาที่รู้เรื่องแค่บางส่วนก็หนักใจ หันไปมองท่าทีเฉยเมยของคู่หมั้นเจ้าคิรัวร์ ก่อนจะตัดสินใจไปช่วยเกลี่ยสถานการณ์ให้มันดีขึ้น

    ตั้งแต่เจอคู่หมั้นเจ้าเด็กนั่นก็แปลกไป เหมือนทั้งสองคนได้ทำข้อตกลงอะไรสักอย่าง และเงื่อนไขคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับยัยหนู เขาพยายามซักถามเผื่อช่วยอะไรได้บ้างแต่ก็ถูกตอกกลับมาว่านี่เป็นเรื่องในตระกูลโซลดิ๊ก

    โว้ยยยย ยุ่งยากจริงเว้ย!

    สุดท้ายเขาก็เป็นคนรับขนมมาแทนเจ้าเด็กงี่เง่า ช่วยกอร์นปลอบใจ ก่อนจะบอกให้ยัยหนูที่ดูเหนื่อยๆไปนอนพักที่ห้องกับมาเบล คู่หมั้นเพียงยิ้มก่อนจะพาเธอออกไป กว่าห้องจะกลับมาไร้บรรยากาศมาคุเลโอลีโอก็เหมือนใช้พลังงานที่มีไปจนหมด ทรุดลงนั่งบนโซฟาอย่างอ่อนแรง

    ตั้งแต่ที่คู่หมั้น---มาเบลรู้ว่าเงินสองพันล้านมาจากยัยหนู เธอก็เงียบตลอด ไม่พูดไม่จา แถมรอบตัวยังมีบรรยากาศไม่น่าเข้าใกล้ต่างจากตอนแรก ลูกค้าก็หายไปไม่น้อย ดูท่าว่าจะไม่ดีเขาก็เลยชิงปิดกิจการก่อน ไหนๆก็จะได้ไปจัดการเรื่องเงินด้วย

    ---พอจะหันไปถามเจ้าของเงินว่าเอามาจากไหน เธอก็ดันหายไปก่อน ไม่พอเจ้าคิรัวร์ที่ก่อนหน้านี้เย็นชาจะเป็นจะตายยังหลุดมาดต่อหน้าคู่หมั้น วิ่งตามยัยหนูแบบไม่คิด แล้วสุดท้ายก็กลับมาหน้าจ๋อยเพราะตามไม่ทัน ถ้าเขากับกอร์นไม่ดึงไปด้วยแล้วบอกว่า ‘เดี๋ยวเธอก็โผล่มาเองนั่นล่ะ’ ก็คงจะไปตามหาทั่วยอร์คชินแหง

    ไม่รู้ว่าก่อนหน้าเกิดอะไรขึ้น

    ถามแล้วก็ได้คำตอบเป็นความเงียบ

    แล้วพอเบี่ยงประเด็นกลับมาเรื่องเงิน เสนอเล่นๆว่าให้ยืมเงินยัยหนูนั่นไปประมูลเกมก่อนก็ถูกขู่ใส่ว่าอย่ายุ่ง สายตาน่ากลัวสมเป็นนักฆ่าจนต้องพับความคิดนั้นลงแล้วกลับมาเดินตามแผนเดิม

    ถอนหายใจยาวเหยียด


    “ขืนทำแบบนี้ต่อไปยัยหนูจะไม่น้อยใจแย่เรอะ?”


    มาง้อทั้งที่ไม่รู้ความผิดด้วยซ้ำ


    หยิบขนมส่วนที่เป็นของเขาเข้าปาก รสหวานกำลังพอดีทำให้อารมณ์ดีขึ้นมา ยัยหนูซื้อขนมมาให้ทุกคน ทั้งกอร์น เขา แล้วก็มาเบล แต่คิรัวร์กับมาเบลจะเยอะหน่อยเท่านั้นเอง ถึงว่าทำไมถุงขนมถึงได้พะรุงพะรังขนาดนั้น

    กอร์นนั่งอยู่บนโซฟาอีกตัว พยักหน้าเห็นด้วยขณะหยิบขนมเข้าปาก “คิรัวร์ยังไม่หายโกรธที่ไอแวบหนีตอนอยู่ที่ลานประลองอีกเหรอ น่าๆ เรื่องมันก็นานแล้วนะ”

    เจ้าซื่อบื้อนี่เข้าใจไปคนละทาง

    ต้นเหตุที่นั่งบนขอบหน้าต่างเงียบไปพักใหญ่



    “ไอน่ะ...ชอบพวกนายมาก”



    ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา

    “อาจจะน้อยกว่าฉัน แต่อย่างน้อยก็คงมากกว่ามนุษย์คนอื่น” เขาเคาะนิ้วบนขอบหน้าต่าง “ไอน่ะเป็นคนพิเศษ แม่ฉันถูกใจเธอ ครอบครัวของฉันก็เหมือนกัน ตำแหน่งคู่หมั้นอะไรนั่นน่ะ---ไร้ค่าไปตั้งนานแล้ว”

    “แต่มาเบลน่ะกุมความลับไว้”

    “ไอยังเด็ก การที่ทั้งเป็นเด็กแล้วก็เป็นคนพิเศษทำให้ครอบครัวฉันมองว่าถ้าออกมาข้างนอกจะวุ่นวาย พวกเขาอยากจะให้อยู่แต่ในบ้านที่เป็นเขตปลอดภัยมากกว่า---ฉันไม่อยากให้ไอถูกขังเป็นตุ๊กตาแบบนั้น”

    “ถึงจะไม่มากแต่ฉันก็อยากช่วย...อยากให้ยืดเวลาออกไปอีกสักนิด พอให้ไอได้อยู่กับพวกนาย ให้พวกนายได้เรียนรู้เธอ ได้กลายเป็นเพื่อนกัน….”


    ถึงจะพอรู้เรื่องมาบ้างแต่เลโอลีโอก็ฟังไม่รู้เรื่องสักนิด ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กหน้าแมวนี่ต้องการสื่อถึงอะไร ครอบครัวอยากจับยัยหนูเป็นตุ๊กตา? ยืดเวลา? มาเบลกุมความลับ?

    แต่เรื่องเพื่อนนี่มันอะไร



    “ฉันกับยัยหนูเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ตอนสอบแล้ว!”

    กอร์นพยักหน้าตาม “อื้ม!”

    “คุราปิก้าก็ต้องพูดแบบนี้แน่!”



    คิรัวร์แค่ยิ้มจาง

    และไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก



    ----------



    “เคยได้ยินชื่อคุโรโร่ ลูซิเฟอร์รึเปล่า?”


    พอเดินมาได้สักระยะก็ถูกคุณคู่หมั้นดึงแขนไปอยู่ในมุมอับ ไร้ผู้คน ก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยถามออกมา

    คู่หมั้นสูงกว่าจีไม่เท่าไหร่ แต่พละกำลังต่างกันมากโข มือที่จับต้นแขนอยู่บีบแน่น จิกเล็บลงมาจะคาดคั้นเอาคำตอบให้ได้ น่ากลัวต่างจากตอนยิ้มให้คนอื่นเหมือนกลายเป็นคนละคน เริ่มเชื่อขึ้นมาแล้วว่าเป็นน้องของพี่สาวปากแดงคนนั้น เพราะสายตาข่มขู่ไม่ต่างกันเลยสักนิด

    “ถามก็ตอบ!”

    อีกฝ่ายออกแรงมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนที่ถูกจับเจ็บจนชา และคิดว่าคงจะเป็นรอยช้ำในอีกไม่นาน จีรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังมือสั่น ถุงขนมที่ถืออยู่จะร่วงหลุดมืออยู่รอมร่อ

    “ฮื่อ” พยักหน้า “เขาเป็น...พี่ชายของจี”

    มาเบลใช้สายตามองตั้งแต่บนจรดล่าง ดูตั้งแต่ผมยุ่งๆ ชุดเปื้อนเหมือนไปคลุกดินที่ไหนมา ท่าทางก็ดูอ่อนแอ...ไม่มีอะไรดีสักอย่าง เทียบกับเธอไม่ได้สักนิด

    ทำไมถึงได้ความรักจากเขา


    “หน้าไม่อาย”


    ทำไมถึงได้ความรักจากคนที่เธอแอบรัก!

    นึกถึงเจ้าของนัยน์ตาสีรัตติกาลกับน้ำเสียงสุขุมแล้วก็กำมือแน่น กัดฟันข่มความอิจฉาลงไป หลายปีก่อนเขามาขอข่าวยัยเด็กนี่จากตระกูลของเธอ ค่าจ้างมากพอจะทำให้ท่านพ่อตาลุกวาว กระตือรืนล้นเพราะสามารถเอาเงินไปจ่ายหนี้พนันที่ติดอยู่ได้

    ท่านพ่อทรยศตระกูลโซลดิ๊ก แค่นั้นก็เพียงพอจะตัดสายสัมพันธ์ ที่สัญญายังดำเนินอยู่เพราะตระกูลนั้นยังเห็นว่ามีประโยชน์ แต่ตั้งแต่เจอยัยเด็กหน้าไม่อายนี่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด สัญญาไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว

    เธอเกลียดมัน!

    แม้แต่ของตายอย่างคิรัวร์ก็ยังทำตามเงื่อนไข ยอมทำตัวเฉยชาไม่สนใจก็เพื่อให้เธอไม่ปล่อยความลับน่ารังเกียจของยัยเด็กนี่ออกไปให้เพื่อนรู้!



    “คิรัวร์น่ะเกลียดเธอ”



    กล้าดียังไงมาแย่งของของเธอ!

    ตำแหน่งผู้เป็นรักของเธอ!



    “หัดเนื้อเจียมตัวซะบ้าง...”



    ยิ้มหวานที่ทำให้คนมากมายตกหลุมรัก คว้าถุงขนมที่อีกฝ่ายซื้อมาให้ก่อนจะปรายตามอง...และทิ้งมันลงกับพื้น เท้าเหยียบซ้ำจนกล่องบี้เสียรูปทรง



    “แล้วของพวกนี้...กินเองก็แล้วกัน”



    …..



    ทุกอย่างเร็วจนตามไม่ทัน

    แต่ที่รู้...คุณคู่หมั้นเหมือนจะเกลียดจีไปแล้ว

    พออีกฝ่ายเดินจากไปแล้วก็ทรุดลงกับพื้นอย่างไร้เรื่ยวแรง แขนกลายเป็นรอยช้ำอย่างที่คิดจริงๆ มันปวดแล้วก็ชาไปหมด ชวนให้นึกถึงอิลูมิ ตอนนั้นเจ้ายักษ์ใจร้ายก็ทำร้ายแบบนี้เหมือนกัน

    เจ็บกว่าการถูกฆ่าให้ตายเยอะเลย


    ‘แล้วของพวกนี้...กินเองก็แล้วกัน’


    ขนมที่ซื้อมาเป็นของง้อเละไปหมด บนถุงยังมีรอยรองเท้าจางๆ พอเปิดออกมาครีมพัฟกับขนมอย่างอื่นด้านในก็บี้ปนกันแทบแยกไม่ออกว่าเป็นอันไหน ที่มีไส้ก็ทะลักออกมา เค้กที่เคยหน้าตาสวยงามกลับกลายเป็นก้อนอะไรสักอย่างมองดูไม่ออก

    มิลกี้เคยหลุดปากด้วยว่าจีมีเซ้นส์ของกิน

    พี่คนรองจอมปากแข็งเคยชมซะที่ไหน


    ตอนนั้นก็เลยดีใจ


    ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่ก็ภูมิใจกับเซ้นส์นั่นมากๆ

    ‘...อาหารห่วยแตก’

    แต่คำพูดก่อนจะจากไปของคุณคู่หมั้นทำให้ความภูมิใจนั่นของจีแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดีเลย


    “...บ้าที่สุด”


    มิลกี้

    ...จีเริ่มท้อแล้วล่ะ




    (2)

    ปลาที่เลโอลีโออยากได้ติดเบ็ดแล้ว

    คนตัวโตสองคนที่มาแข่งงัดข้อแล้วแพ้ให้บัตรที่บอกสถานที่หนึ่งมาให้----งานเริ่มราวๆ 5 โมง งานนี้คุณคู่หมั้นไม่ได้มาด้วยเพราะเห็นบอกว่าติดธุระ ตอนแรกคิรัวร์ก็ห้ามไม่ให้จีไปแต่ก็เถียงสู้คุณลุงไม่ได้ สุดท้ายจีก็เลยติดมาเป็นภาระ

    พรึ่บ!


    “ยินดีต้อนรับทุกๆท่าน---จากนี้ไปจะขอเริ่มการประมูลแล้วนะฮ้า!!”


    นาฬิกาบอกเวลาห้าโมงตรง แสงไฟสาดส่องไปยังพิธีกรแต่งตัวประหลาดที่ยืนอยู่ใจกลางเวทีชั่วคราว


    “เงื่อนไขของการประมูลวันนี้คือการซ่อนหา!!”


    มีคนมาแจกรูปถ่ายให้แขกให้ห้อง

    กอร์นกับเลโอลีโอได้ดูก่อน จีเห็นดวงตาพวกเขาเบิกกว้าง ดูตกใจและสับสนปนกันไปหมด จีไม่รู้ว่ารูปถ่ายที่ว่าเป็นรูปอะไรจนกระทั่งคิรัวร์ที่นั่งอยู่ข้างๆได้มันมา---แล้วพอได้ดูก็เบิกตากว้างตกใจไม่แพ้ทั้งสองคน

    จีก็เลยชะโงกหน้าไปดูบ้าง



    “เป้าหมายที่จะต้องหาให้พบคือชายหญิง 7 คนที่อยู่ในภาพนี้---”



    ภาพถ่ายมีอยู่แปดคน

    เป้าหมายทั้งเจ็ดคือพี่ชายพี่สาว

    ส่วนอีกหนึ่ง



    “----สองพันล้านเจนีต่อหนึ่งเป้าหมาย

    และเด็กผู้หญิงที่อยู่ด้านบนสุดคือรางวัลพิเศษ ถ้าจับได้ก็รับไปเลยห้าพันล้านเจนี!!”




    คือจี




    “เดี๋ยวนะ--เด็กคนนี้มัน!?”

    “จำได้ว่าเห็นเข้ามาในห้องนี้อยู่นะ!!”

    “จำได้แล้ว ผู้หญิงที่มากับเด็กผู้ชายสองคนไง!!”

    “หาเร็ว!!”


    ทั้งห้องชุลมุนวุ่นวายในพริบตา

    คิรัวร์ที่เฉยชามาตลอดดึงจีเข้าไปจนจมอก ใช้แขนบังหน้าให้ ใบหน้าของน้องแมวดูเครียดกว่าเดิม เหงื่อผุดซึมอย่างเห็นได้ชัด กระซิบบอกให้เลโอลีโอกับกอร์นอาศัยความชุลมุนนี้หนีออกไปข้างนอก

    แต่ก็มีคนสังเกตเห็นจนได้



    “อยู่ตรงนั้น!”


    ทุกอย่าง

    พังไปหมด




    -----------




    “ขอคำอธิบายหน่อย”


    พาวาร์ปมาที่โรงแรม

    และพอตั้งสติได้ก็ถูกซักถาม

    เลโอลีโอทำหน้าดุอย่างที่ไม่เคยเห็น น้ำเสียงเข้มขึ้นแล้วก็ดูจริงจังเหมือนนี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างที่ผ่านมา เขากอดอกนั่งบนโซฟา มีกอร์นยืนอยู่ข้างๆ ขณะที่จีคุกเข่าบนพื้น ด้านข้างคือคิรัวร์ที่บีบมือแน่น

    คุณลุงถาม


    “รู้จักกับพวกเงามายาเหรอ?”

    “ฮื่อ”

    “ความสัมพันธ์ระดับไหน”

    “รัก”

    เขาเงียบไป

    “รู้รึเปล่าว่าพวกนั้นทำอะไรกับคุราปิก้า?”


    น้ำเสียงเหมือนกำลังคาดหวัง

    แววตากำลังพูดว่าอยากให้ปฏิเสธ

    ถ้าโกหกไปตอนนี้ความผิดก็คงจะถูกลบล้าง



    “รู้สิ”



    แต่จีก็เลือกที่จะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับพวกเขา

    และตอบไปตามความจริง



    “เรื่องเนตรสีเพลิงก็รู้เหมือนกัน”



    คล้ายได้ยินเสียงบางอย่างที่มองไม่เห็นได้แตกสลาย ดวงตาของกอร์นหม่นลงกว่าเดิมแต่ยังไม่เท่าเลโอลีโอ...จีจำได้ว่าความฝันของลุงคนนี้คือการมีเงินเยอะๆ ที่มาสอบฮันเตอร์ก็เพราะจะได้ยกเว้นค่าเล่าเรียนหมอแพงๆ เพราะเขาอยากเป็นหมอที่รักษาคนจนโดยไม่คิดค่ารักษา

    คุราปิก้ามีคนสำคัญแต่ตายไปแล้ว

    เลโอลีโอก็เหมือนกับเขา

    ถึงได้เข้าใจความรู้สึกของการสูญเสีย


    “ดวงตาสีแดงสวย”


    ‘รักมากนะ’

    ‘เด็กดี...อ้าปากหน่อยสิ’



    “พี่เขาล่า...เพราะหนูพูดว่าอยากกินของใหม่ๆ”



    ‘หนูไม่กินแล้ว’

    ‘มันไม่อร่อยเหรอ?’



    เพี๊ยะ!



    เสียงฝ่ามือกระทบผิวเนื้อ

    มันดังอื้ออยู่ในหู หัวกลวงเปล่า รู้สึกคิดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่ง ผ่านไปถึงได้ยินเสียงร้องห้ามของคิรัวร์

    “อย่าตีน้อง!”

    จีค่อยๆหันใบหน้าที่ชาดิกกลับมา ยกมือสั่นเทาลูบแก้มที่ถูกตบไปเมื่อกี้ ในปากรับรู้รสเค็มปร่าคล้ายสนิมไม่ใช่รสหวานของเค้กที่ได้ลิ้มลองอยู่ตลอด


    เพราะพวกพี่ดูแลดีไปมั้ง

    ครั้งแรกที่โดนตบ

    ถึงได้รู้สึกเจ็บขนาดนี้



    “พอได้แล้วเลโอลีโอ...น้องไม่รู้เรื่องอะไร”



    แผ่นหลังของน้องแมวเด่นชัด

    แขนกางออกปกป้อง หมดซึ่งความเย็นชา

    คุณลุงหัวเราะฝืด หยิบเอกสารที่วางบนโซฟาขึ้นมา เพราะมิลกี้เคยเอาภาพประกอบมาให้ดู จีถึงจำได้ว่าตราประทับบนซองเอกสารเป็นตราของตระกูลเนลสัน

    เขาเทของข้างในออกมา รูปหลายสิบรูปร่วงหล่นกระจัดกระจาย ใบนึงลอยมาตกตรงหน้า เผยภาพศพที่เต็มไปด้วยรอยแผลน่าสยดสยอง ชิ้นส่วนถูกแยกออก คล้ายถูกกินโดยตัวอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์

    นี่คืออาหาร

    แต่เป็นใครก็จำไม่ได้แล้ว เพราะมันเยอะไปหมด


    ‘ถึงจะถูกเกลียดก็ยังมีฉันกับพี่คนอื่น’

    ‘อย่าร้องไห้เลยนะ’


    เลโอลีโอมองมา

    และพูดหนึ่งประโยค



    “เธอ...กลับไปเถอะ”



    ‘เพราะยังเหลือฉันที่รักจี’


    คุโรโร่

    หนูทำพลาดไปตรงไหนเหรอ




    “ช่วงนี้อย่ามาเจอกันเลยดีกว่า”





    ทำไมโลกที่สร้างมา

    ถึงพังได้ง่ายดายขนาดนี้










    --------------------

    nefas : ขัดต่อความถูกต้อง

    : กินคนมันผิดนะ!

    ---------------------


    -หัวข้อ- มิลกี้

    : กำลังใจ




    นักเขียน :

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ มีม จะร้องไห้


    '...เพราะหนูพูดว่าอยากกินของใหม่ๆ'

    : เบื่ออาหารเดิมๆแล้ว พวกพี่ก็เลยไปหาอาหารอันใหม่มาให้

    (อันที่จริงถ้าไม่นับคำหวานหลอกล่อ หัวหน้าก็ยัดเยียดให้กินดีๆนี่เอง(。・ω・。))


    สปอยล์ตอนต่อไป : 55555555555




     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×