คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : crush [Ilumi] ครบ
เพิ่มเฉลยตอนท้ายค่ะ
------
ฮิโซกะบอกว่าของเล่นคนใหม่เป็นเด็กพิเศษ
อิลูมิมองคนที่กำลังกินอาหารเคลือบพิษอย่างไม่รู้สึกรู้สา นอกจากคิ้วที่ขมวดหน่อยๆกับแก้มที่กลมขึ้นเพราะอาหารก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก พิษร้ายที่ใส่ไปไร้ผลอย่างสิ้นเชิง แฮมสเตอร์ของฮิโซกะยังอยู่ดี ไม่หนี แล้วก็ไม่ตาย
เธอบ่นเรื่องรสชาติของพิษที่ห่วยแตก ดูไม่พอใจนักถึงขู่ฟ่อ จากนั้นก็มองเขาด้วยสายตาเหมือนกำลังพิจารณาคุณภาพอาหาร แทบเก็บสีหน้าอยากกินไม่มิด
“ถ้าฉันโมโหหิวจนกินไม่เลือกขึ้นมาจะแย่เอานะ”
อา
ก็เป็นเด็กพิเศษจริงๆนั่นแหละ
(01)
“อย่าให้ถูกแย่งนะ! ต้องเอามาให้ได้นะ!”
“อะไรของแม่เนี่ย!”
“แม่อยากได้จีจังมาเป็นครอบครัวเรา!” แม่ว่าอย่างนั้น ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือกำลังล้อเล่นกันแน่ “ถ้าไม่ใช่เด็กคนนั้นจะใครแม่ก็ไม่เอาทั้งนั้น!”
แม่กับมิลกี้
อิลูมิหยุดฟังด้วยความสนใจ นึกสงสัยว่าในตัวแฮมสเตอร์มีอะไรพิเศษถึงขั้นทำให้แม่ที่หวงลูกชายคนที่สามพูดประโยคแบบนี้ออกมาได้ เท่าที่เห็น นอกจากไม่ตาย กินเก่ง แล้วก็มีความคิดเรื่องอาหารแปลกๆ เธอก็เป็นแค่เด็กธรรมดา ออกจะเอ๋อๆไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ
“จีจังน่ารักที่สุด!”
เขาไม่รู้ว่าแม่นิยามคำว่าน่ารักแบบไหน
แต่ถ้าน่ารักที่ว่าเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ชอบยิ้มตาปิด กินเก่ง แก้มป่องเป็นแฮมสเตอร์ แล้วก็ชอบมองคนเป็นอาหาร---เธอก็คงน่ารักอย่างที่แม่ว่า
“น้องทำอาหารเก่ง แล้วก็มีความสามารถด้วยนะ”
แม่โฆษณาเต็มที่ อิลูมิเห็นมิลกี้ทำหน้าเหมือนกลืนของขมแต่ก็ไม่ได้เถียงอะไรออกมาสักคำ สาเหตุคงเป็นเพราะเมื่อวันก่อนที่ได้เธอมาช่วยทำงาน --- จากการไป(เค้น)ถาม ไม่นานมิลูกิก็พูด(สารภาพ)ออกมาจนหมดเปลือก บอกว่าเธอแค่ชี้เป้าหมายผ่านหน้าจอ จากนั้นก็ตูม ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยภายในเวลาไม่กี่วิ
ง่ายจนน่ากลัว
เพราะอย่างนั้นพอพ่อกับปู่มารู้ความสามารถนี้เข้า เธอก็เลยกลายเป็น ‘เด็กพิเศษ’ ของทั้งตระกูลโซลดิ๊ก
“แต่จะดีจะร้ายเรายังไม่รู้เลย” มิลกี้ฮึดฮัด ดูอยากจะเลี่ยงการถูกจับคู่ “แม่ลืมตระกูลเนลสันไปแล้วรึไง เป็นมิตรกับปู่อยู่ดีๆสุดท้ายตอนนี้เป็นไง ขายเราให้พวกมาเฟียอะไรนั่นเฉ๊ย ไม่กลัวจะซ้ำรอยเดิมเหรอ”
เนลสัน
ถ้ามิลกี้ไม่พูดขึ้นมาอิลูมิก็คงลืมไปแล้ว รู้สึกว่าอดีตหัวหน้าตระกูลนั้นจะเคยเป็นเพื่อนกับปู่ แล้วก็เคยเปรยว่ามีหลานสาว อยากให้หมั้นกัน มีการดูตัว จับคู่ให้เรียบร้อยเสร็จสรรพ แต่ทว่าก็ยังไม่มีการหมั้นอย่างเป็นทางการเพราะเพื่อนปู่ดันตายก่อน เกิดการเปลี่ยนหัวหน้าตระกูลกะทันหัน
และไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือโชคดีที่หัวหน้าตระกูลคนนี้คิดว่าการเข้าทางพวกมาเฟียได้ผลประโยชน์มากกว่าถึงแอบขายข่าวโซลดิ๊กไปให้ฝั่งนั้น
แน่นอนว่าถึงจะพยายามหลบซ่อนยังไงก็เปล่าประโยชน์ จุดจบของการทรยศย่อมออกมาไม่สวย ปู่เองก็หมดความสนใจในตระกูลนั้นแล้ว ที่ตอนนี้ยังไม่ทำอะไรก็เพราะเห็นว่ายังพอมีประโยชน์อยู่ ถ้าใช้จนคุ้มเมื่อไหร่---
“เรื่องตระกูลนั้นไม่ต้องไปสนหรอก”
คนที่แอบฟังอยู่ชะงัก
“ตอนที่พวกลูกยังไม่เกิดพวกเราได้เจอกับแม่ของจีจัง” แม่หัวเราะใต้พัดที่ยกขึ้นมาปิดหน้า “เธอมากับประธานเนเทโล่---มาอวยพรตอนที่คลอดอิลูมิน่ะ ในเรื่องพลังและอำนาจมากจนเราเทียบไม่ได้สักนิด ตอนที่ไปผูกมิตรก็คิดแค่ไม่อยากเป็นศัตรูด้วยเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าเธอจะบอกให้ช่วยดูแลลูกสาวด้วย”
“แต่ถึงจะพูดว่าดูแล...”
ประโยคหยุดลงตรงนั้น แม่พูดกลบเกลื่อนเหมือนเพิ่งรู้ว่าตัวเองพูดมากเกินไป “โฮะโฮะ จะยังไงก็ช่างเถอะ ถ้าไม่ใช่จีจังแม่ไม่ยอมจริงๆด้วย!”
“คำก็จีจัง สองคำก็จีจัง ไม่ใช่ว่าชื่อยัยนั่นคือไอรึไง” มิลกี้มีสีหน้าหงุดหงิด “ตอนอยู่ที่โต๊ะอาหารแม่ก็ยังเรียกว่าไออยู่เลย ไหงจู่ๆถึงเปลี่ยนมาเรียกแบบนี้”
“ก็มันถนัดกว่านี่ แล้วชื่อแต่แรกที่แม่เด็กคนนั้นตั้งให้ก็คือจีด้วย” แม่สะบัดพัด “หลังจากนี้ก็ดีกับจีจังให้มากๆล่ะ อย่าให้แม่รู้นะว่าแอบตีน้องลับหลัง”
“เรื่องอะไรผมต้อง---”
“ถ้าปู่กับพ่อรู้...”
“โธ่เอ๊ย!” มิลูกิกัดฟัน “ทำไมมาบอกแต่ผม นู่น ถ้าบอกไม่ให้สนตระกูลนั้นงั้นพี่กับเจ้าคิลก็ว่างสิ!”
“คิลน่ะถึงปากจะไม่ตรงกับใจแต่ก็เข้ากับจีจังได้ดีอยู่แล้ว ไม่น่าเป็นห่วงหรอก” แม่ทำท่าลำบากใจ “แต่อิลูมิ ลูกก็รู้ว่าพี่เขางานเยอะ ไม่ค่อยมีเวลา ลำพังตัวเองก็ยุ่งอยู่แล้วแม่ก็ไม่อยากบังคับ...”
“กลัวยัยตะกละถูกฆ่าล่ะสิไม่ว่า”
“แหม โฮะโฮะโฮะ”
อิลูมิมองเพดานอย่างคนไม่มีอะไรจะทำ งานทั้งหมดของสัปดาห์นี้ถูกจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วเพราะพ่อบอกให้มาคอยจับตาดูเด็กคนนั้นและระวังไม่ให้มีอะไรไปกระทบจนเกิดความคิดอันตรายต่อตระกูลโซลดิ๊ก
แต่เท่าที่ดูก็ไม่น่าจะมีอะไรน่าเป็นห่วงเพราะตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่คิรัวร์ลากเธอไปเล่นด้วยตลอด
อือ ตลอดนั่นแหละ
“คุณไม่ได้ออกไปไหนเหรอคะ”
อิลูมิหันไปมองคนที่เพิ่งกลับจากการออกไปเล่นที่เขตป่าข้างนอก เด็กดื้อผมยุ่งแล้วก็มีเศษกิ่งไม้ใบไม้ติดเต็มไปหมด ยิ่งกว่านั้นที่เข่ากับมือยังถลอก สภาพแทบดูไม่ได้
ไม่มีหรอกที่ออกไปเล่นแล้วไม่ได้แผลกลับมา จีเป็นเด็กซุ่มซ่าม และป่าที่ตระกูลเขาก็ไม่ใช่ที่เล่นที่ดีเท่าไหร่
“ทำไมถึงได้แผล”
“ดินทรุดตรงที่ยืนพอดีน่ะ” พูดไปก็นวดตัวไป นอกจากที่เข่ากับมือแล้วแขนยังมีรอยช้ำนิดหน่อย
“เจ็บแล้วทำไมไม่บอกคิลให้พากลับ”
เห็นเด็กดื้อท่าทางมีพิรุธเขาถึงรู้ว่าตอนที่เธอถูกถามคงโกหกเหมือนทุกครั้งว่าแผลแค่นี้ไม่ได้เจ็บอะไร
เธอกับคิลเล่นด้วยกันได้ที่ไหน
ถึงบอกให้แยกกันไง
“อ่า ใช่ เกือบลืมถามแน่ะ นอกจากแอปเปิ้ลกระต่ายแล้วคุณชอบของหวานอะไรเป็นพิเศษไหม” แฮมสเตอร์ยิ้มตาปิด แก้มป่องๆมีรอยถูกหนามเกี่ยว
ไม่รู้จักระวัง
“เดี๋ยว อิลูมิ คุณจะพาไปไหน”
“ทายา”
“แผลนิดเดียวเอง คุณไปทำงานเถอะ” จีหัวเราะเหมือนแผลที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ “ถ้ากลับมาจะทำแอปเปิ้ลไว้ให้นะ”
“ไว้ทีหลัง”
อิลูมิถอนหายใจ
“แม่บอกให้ดูแลเธอ”
และท้ายที่สุดก็ยกประโยคเดิมๆมาใช้
เพราะเธอไม่จำเป็นต้องรู้ และมันง่ายกว่าการมานั่งหาคำตอบว่าทำไมเขาถึงได้ยอมทำอะไรเพื่อคนคนหนึ่ง
(02)
เขาจับแฮมสเตอร์ได้ในการสอบรอบสุดท้าย
เธอปากล่องขนมใส่เขาเมื่อเห็นว่าเข็มที่ฝังในหัวคิลเริ่มทำงาน ก้าวเข้ามาบังคนที่ตัวเองเรียกว่า ‘แมว’ กางแขนปกป้องและขู่ฟ่อใส่เขาด้วยใบหน้าที่ไม่น่ากลัวเลยสักนิด
“ถ้ายังไม่หยุดหนูจะตีกลับแล้วนะ!”
ไม่น่ากลัวเลย
นุ่มนิ่มไปหมด
แขนนุ่มนิ่ม เสียงนุ่มนิ่ม มือที่กำลังตะปบหน้าเขาอยู่ก็นุ่มนิ่ม นุ่มนิ่มไปทุกส่วน เป็นแฮมสเตอร์ที่นุ่มนิ่มที่สุด
นุ่มนิ่มจนอิลูมิเริ่มคิดถึงเรื่องที่แม่พูดขึ้นมา ถึงเธอจะมีนิสัยแปลกๆ บางเรื่องก็ซื่อจนน่าเป็นห่วง แต่คงจะดีไม่น้อยถ้าได้มาเป็นของเขา คิดในแง่ผลประโยชน์ การมีสถานะจะทำให้ควบคุมอะไรได้ง่ายกว่า
แต่มันก็เป็นแค่ความคิดเมื่อความจริงไม่ได้ง่ายอย่างนั้น พอพูดออกไปแววตาของฮิโซกะก็เข้มขึ้น ชั่วขณะประธานเนเทโล่ก็หรี่ตามองเขาเหมือนอยากจะกำจัด คำพูดของแม่ไม่ผิดไปเลยแม้แต่น้อย สำหรับประธานแล้วเด็กที่กำลังพองแก้มอย่างหงุดหงิด ดิ้นจะให้หลุดจากการควบคุมของเขาตอนนี้คงป็นคนสำคัญ หากคิดจะหาประโยชน์กับเธอไม่ช้าไม่นานเขาคงเจอปัญหาใหญ่
อิลูมิรู้ขีดจำกัดดี เขารู้ว่าอะไรควรและไม่ควรแตะต้อง ฮิโซกะเป็นเพื่อนที่ดีในด้านผลประโยชน์ และประธานเนเทโล่ก็ไม่ใช่คนที่ควรเป็นศัตรูด้วย
แต่ถึงจะรู้ทั้งรู้อิลูมิก็ยังไม่ปล่อยเธอไป
เขาบอกกับตัวเองว่าเธอมีประโยชน์พอที่จะยอมให้เสี่ยง ไม่ใช่เพราะเหตุผลไร้สาระอย่างตกหลุมรักแน่นอน
(03)
แม่ดูดีใจมากที่เห็นมิลกี้เริ่มทำตัวเป็นพี่ที่ดี
เรื่องมันเริ่มจากพอคิรัวร์ถูกขัง ลูกรักของแม่ที่ถูกกักบริเวณก็เริ่มไม่สดใส มิลกี้ที่รู้เข้าจึงแอบมาหา คงกะว่าจะมาเยาะเย้ยหรือปั่นหัวตามนิสัยเจ้าตัว แต่แม่กลับตีความไปว่าลูกคนรองเป็นห่วง ที่ปฏิเสธก็เพราะปากไม่ตรงกับใจ
ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวล แม่ก็เลยบอกให้มิลกี้พาเธอออกมาเล่นข้างนอก โดยมีจุดประสงค์คืออยากให้เชื่อมความสัมพันธ์---และอีกอย่างคืออยากให้ลูกคนรองลดน้ำหนักจะได้พอมีข้อดีสู้คิลได้สักข้อ
อิลูมิสาบานว่าตอนที่รู้ข่าวเขาไม่ได้รีบจัดการงานที่พ่อสั่งเพราะอยากมาชมสถานการณ์แม้แต่นิดเดียว ไม่ได้อยากรู้ด้วยว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นยังไง หรือทำไมแม่ที่เชียร์คิลมาตลอดถึงเปลี่ยนมาอยู่ข้างมิลกี้แบบนี้
ตอนที่กลับไปถึงก็พบว่าน้องชายเขากลับเข้าบ้านไปหาของกินมาเพิ่ม สาเหตุคงไม่พ้นอาหารที่เตรียมมาถูกกินจนหมด ส่วนตัวการก็ถูกปล่อยให้นั่งรออยู่ใต้ต้นไม้
อิลูมิมองถุงลูกอมที่ซื้อติดมือมา แม่ไม่ได้เข้มงวดเรื่องขนมหวาน แต่ก็ไม่อยากให้จีติดจนเกินไปก็เลยลดลง
อืม งั้นเขาก็น่าจะให้สักสองสามเม็ด
เธอดูต่างไปนิดหน่อยจากที่เจอล่าสุดในการสอบรอบสุดท้าย เช่น ผมไม่ได้ปล่อยยาวแต่รวบไว้สองข้าง---เหมือนแม่จะเรียกว่าทวินเทล? เสื้อผ้าก็เปลี่ยนจากชุดลำลองเป็นชุดกระโปรง ไม่ต้องเดาเลยว่าทั้งหมดคงเป็นฝีมือแม่
พอเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงพึมพำ
แฮมสเตอร์ดูแปลกใจที่เห็นเขา สักพักก็พองแก้มเมื่อถูกบอกว่าดื้อ และพอเขาถามว่าเมื่อกี้บ่นเรื่องอะไร แฮมสเตอร์ก็แทบจะกลายพันธุ์เป็นปลาปักเป้า แก้มพองจนจะแตก บอกว่าไม่ได้บ่น แล้วก็พูดถึงเรื่องพี่กับแม่ขึ้นมา
จีดูมีความสุข
‘คุณมีรึเปล่าอิลูมิ พื้นที่ที่อยู่แล้วรู้สึกปลอดภัย สบายใจแล้วก็อบอุ่น สามารถอ่อนแอหรือเหนื่อยได้ พูดความรู้สึกออกมาได้...หนูมีนะ เวลามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหนูก็จะนึกถึงที่นั่น นึกถึงพวกเขาเป็นอย่างแรกตลอดเลย’
ความสุขที่เขาไม่เข้าใจเท่าไหร่
เธอยิ้ม แต่ดวงตากลับดูเศร้า ไม่เหมือนคนที่ได้ครอบครองทุกอย่าง ไม่เหมือนเด็กที่ได้รับความรักและถูกเอ็นดู ชั่วขณะในแววตาเธอดูว่างเปล่า เหมือนคนที่มีชีวิตอยู่เพราะทำใจทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลังไม่ได้
อิลูมิกะพริบตา และเมื่อจ้องเข้าไปอีกครั้งความว่างเปล่านั้นก็หายไป ถึงจะยังเศร้า แต่ก็ไม่เหมือนคนหมดเป้าหมายในชีวิตอีกแล้ว
‘ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เสียใจหรือมีความสุข พวกเขาจะคอยรับฟัง แล้วก็จะอยู่เคียงข้างเสมอ เป็นคนสำคัญ---เป็นโลกที่หนูรักมากที่สุด ก็เลยอยากอยู่ด้วยกันไปนานๆ’
ข้อความจากพ่อเรียกให้ไปคุยด้วย
เป็นจังหวะเดียวกับที่มิลูกิกลับมาพร้อมเสบียง คงไม่ดีเท่าไหร่ที่จะอยู่ตรงนี้ต่อ เดี๋ยวจะวุ่นวายเปล่าๆ
‘จะเจ็บป่วยแข็งแรง ยากดีมีจน สุขทุกข์เพียงไร จนกว่าความตายจะมาพรากจาก
...สัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป’
มองเด็กที่ตาเป็นประกาย ยิ้มกว้างให้น้องชายผิดกับเมื่อกี้เป็นคนละคน สุดท้ายอิลูมิก็ยกลูกอมให้จีไปทั้งถุง
ไม่ใช่เพราะเธอมักจะมีความสุขเมื่อได้ทานของหวาน ไม่ใช่เพราะเขาคิดว่าใบหน้าเศร้าๆไม่เหมาะกับเธอ ไม่ใช่เพราะเธอเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่า ไม่ใช่------
ไม่ใช่เพราะเขาเริ่มมีความรู้สึกอื่นแน่นอน
(04)
ประธานเนเทโล่ไม่พอใจนัก
เขาตระหนักถึงเรื่องนี้ในตอนที่ต้องรับมือกับปัญหามากมายหลังจบการสอบมาได้ไม่นาน ถึงมันจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่การที่โถมเข้ามาติดๆกันแบบนี้ก็ทำเขาล้าและหงุดหงิดได้เหมือนกัน ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าประธานมาเห็นตอนที่เขายังคิดจะฆ่าเธอ ปัญหาจะทวีความรุนแรงได้ถึงขนาดไหน
กว่าจะจัดการทุกอย่างเสร็จและกลับไปที่บ้านก็ค่ำแล้ว เขานึกอยากจะเห็นใบหน้าของคนที่แม่บอกว่าถูกงดขนมเพราะไปก่อเรื่องก็เลยเลือกที่จะไปหาเธอก่อน
เธอฮึดฮัดบนเตียง กุมท้องแล้วก็กลิ้งไปมา ไม่สนอะไรนอกจากบ่นว่าหิว กระทั่งเขาที่แอบเข้ามาทางหน้าต่างที่ไม่ได้ล็อกก็ยังไม่ทันได้สังเกตด้วยซ้ำ---เขาถอนหายใจ ว่าจะถามเรื่องอยากกินอะไรเป็นพิเศษจะได้เอามาให้ แต่ก็ได้ตัวแข็งทื่อเมื่อคนที่นอนกลิ้งบนเตียงผุดขึ้นมาหาเข้าในระยะประชิด มือปัดป่ายไปทั่วในขณะที่จมูกสูดฟุดฟิดบริเวณคอ เอาแต่พึมพำว่าหวานกับหอม
อิลูมิพยายามทำตัวปรกติ เอ่ยทักไปประโยคหนึ่งคนที่ทำเหมือนเขาเป็นอาหารถึงได้สติ จีกะพริบตา มองเขาก่อนจะทำตัวเป็นแฮมสเตอร์น่าสงสาร มือสองข้างยื่นมาตรงหน้าและแบออก ดวงตากลมวาววับเหมือนกำลังคาดหวัง แทบจะเห็นคำว่าหิวออกมา
อิลูมิมองมือเล็กๆตรงหน้า พอลองบีบดูก็นุ่มนิ่มเหมือนตุ๊กตา จีมุ่ยหน้า ก่อนจะถามถึงขนมอีกรอบ
“ขนม”
“ไม่มี”
เขาโกหก อันที่จริงก็พอมีลูกอมติดตัวอยู่นิดหน่อย แต่เมื่อมองคนที่กำลังพองแก้มแล้วก็พอเข้าใจความรู้สึกของมิลกี้เวลาอยากแกล้งขึ้นมา -- รู้ตัวอีกทีก็เหมือนจะแกล้งเกินไปหน่อยเพราะแฮมสเตอร์เริ่มเม้มปากแล้วก้มหน้าแล้ว
พอจะให้ลูกอมเป็นของปลอบ เด็กที่ก้มหน้าอยู่เมื่อกี้ก็ขยับมาใกล้ สบตากับเขาด้วยดวงตาเหมือนสัตว์ป่าเวลาเจอเหยื่อ
“งั้นคุณก็มาเป็นของหวานให้หนู”
ก่อนจะกดเขาลงบนเตียง
ตุ๊กตามากมายร่วงจากขอบลงไปกองระเกะระกะบนพื้น สัญชาตญาณนักฆ่าทำงานเมื่อถูกจู่โจม เข็มเน็นปักเข้าที่หลังคอกับขมับทว่าเธอกลับไม่เป็นอะไรสักนิด ยังก้มลงมาแนบชิดตรงแอ่งชีพจรบนคอ ลมหายใจร้อนเป่ารด
“สัญญาว่าจะกินไม่เจ็บ”
กว่าจะเข้าใจคำว่ากินก็ตอนที่ถูกกัดจมเขี้ยว
ของเหลวถูกดูดกลืนออกไป เธอทำเหมือนเขาเป็นอาหาร ทั้งกัดแล้วก็ลิ้มรสอย่างกระหาย อิลูมิตาลาย ในหัวกลวงเปล่าไปหมด มือวางสะเปะสะปะ พยายามหยุดด้วยการบีบกับผลักออกแต่ก็เหมือนเรี่ยวแรงหายไปพร้อมกับสติ ริมฝีปากที่ถูกกัดเป็นครั้งแรกทั้งเจ็บแล้วก็ปวดไปหมด โพรงปากคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด รสสนิมเค็มปร่า
‘จะเล่นก็ระวังด้วยล่ะ★’
เธอกินอีกครั้งและอีกครั้ง ตะกละตะกลามยิ่งกว่ามื้ออาหารครั้งไหน ริมฝีปากร้อนนั้นกัดทุกส่วนที่ลากผ่าน ฝากฝังร่องรอยการกินเอาไว้ ตลอดการกินเขาทำได้แค่นอนนิ่งอย่างอาหารที่หมดแรง ผ้าปูเตียงยับยู่เพราะถูกกำแน่นยามเขี้ยวฝังลงมา อิลูมิหอบหายใจ รู้สึกเหมือนจะตายทุกครั้งเวลาเธอแนบริมฝีปากลงมา
‘เดี๋ยวถูกกินไม่รู้ด้วยน้า~◇’
และแล้วก็หยุดลง
พอกินจนอิ่มเธอก็เหมือนจะตั้งสติได้ สัตว์ร้ายเมื่อกี้มองสภาพเขาแล้วเอ่ยขอโทษเสียงสั่น ดวงตากลมโตคลอน้ำ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ทำอะไรไม่ถูกเพราะกลัวความผิด...กลับมาเป็นแฮมสเตอร์อีกครั้ง
ความรู้สึกบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้น มือที่กำผ้าปูเตียงเมื่อกี้เอื้อมไปโน้มคอเธอลงมา ริมฝีปากบดขยี้อย่างที่เธอทำกับเขาหลายต่อหลายครั้ง มืออีกข้างสัมผัสร่างนุ่มนิ่ม ก่อนจะหลุดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อรับรู้ได้ว่าอดีตผู้ล่ากำลังตัวสั่น
เมื่อผละออกริมฝีปากของเธอก็ช้ำไม่ต่างกัน ดวงตาวาววับด้วยหยาดน้ำที่จะหยดลงมาอยู่รอมร่อ อิลูมิลงน้ำหนักปลายนิ้วบนผิวอ่อนนุ่มมากขึ้นขณะสบตากับเด็กที่ชิงครั้งแรกของเขาไป
“กินอีกสิ”
อิลูมิไม่ทำอะไรขาดทุน
เพราะงั้นเธอต้องได้รับผิดชอบอย่างแน่นอน
(5)
[ฉันรออยู่ที่ล็อบบี้ อิลลงมาหาหน่อยสิ]
ตอนที่รับโทรศัพท์จากเบอร์แปลกและได้ยินประโยคแรกที่เสียงปลายสายพูดทักมา อิลูมิก็ได้คำตอบแล้วว่าอะไรที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่าฮิโซกะเวลากวนประสาทหาเรื่องสู้ กับคุโรโร่ที่มาขอน้องสาวคืนกลับรังแมงมุม
อิลูมิรู้ว่าตัวเองมีคู่หมั้นตั้งแต่จำความได้ แต่ก็มักจะถูกบอกอยู่เสมอว่าไม่ต้องไปสนใจ ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปให้ดีที่สุด ดังนั้นถึงอีกฝ่ายจะมีสถานะเป็นคู่หมั้น แต่เขาก็แทบจะไม่ได้ไปยุ่งกับเธอนอกจากเรื่องงานและผลประโยชน์ระหว่างสองตระกูล ยิ่งเมื่อตอนหลังตระกูลเธอคิดทรยศ อิลูมิก็แทบจะลืมไปแล้วว่ามีคู่หมั้นอยู่
เขาพยายามนึก แต่ยังไงก็นึกไม่ออกว่าไปสนิทกับเธอจนถึงขั้นให้เบอร์ส่วนตัวตอนไหน ภาพของอีกฝ่ายคล้ายเลือนรางในความทรงจำ เป็นความรู้สึกแปลกๆแต่เขากลับบอกไม่ได้ว่าแปลกตรงไหน และเมื่อพยายามรื้อฟื้นเหตุการณ์ในอดีตตอนที่ได้เจอกัน เขาก็พบเพียงความว่างเปล่า
[อย่าให้รอนานนะ]
ปลายสายย้ำอีกครั้ง
และในที่สุดอิลูมิก็หยุดขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตเมื่อเห็นว่าไร้ประโยชน์ จัดชุดที่หลุดรุ่ยของจีให้กลับมาเข้าที่ — เรื่องราวมันย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง หลังจัดการงานเล็กๆเสร็จเขาก็บังเอิญเจอเธอที่โรงแรมพอดี เด็กหนีออกจากบ้านดูลุกลนเมื่อเห็นเขา ถึงอย่างนั้นก็หลอกล่อได้ง่ายด้วยอาหารและที่พัก
เขาไม่ได้บอกกับฮิโซกะเรื่องเจอเด็กที่อีกฝ่ายตามหาอยู่ คุยเล่นกับเธอไปสักพัก มั่นใจแล้วว่าแล้วว่าเธอไม่ได้ระมัดระวังตัวเลยเพราะเห็นทุกคนเป็นอาหารที่ไม่สามารถทำอันตรายตัวเองได้ เหมือนถูกพวกแมงมุมจับเลี้ยงไว้ในกรงแสนสวย ให้รู้จักแต่ความสุขอันแสนหอมหวาน และพอออกมาข้างนอก พลังที่เธอมีก็ช่วยกำจัดคนที่คิดร้ายออกไปจนหมด
แต่ถึงจะเป็นพระเจ้าที่ช่วยทำให้ความปรารถนาเป็นจริงได้ หรือทำตัวเป็นผู้ล่าขนาดไหน จีก็ยังเป็นแค่เด็ก กัดเพียงนิดเดียวก็ตัวสั่น และยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรก็ร้องไห้จนหลับไปทั้งๆอย่างนั้น
เขาแทบไม่ได้ออกแรง แต่ที่ขัดขืนไม่ได้เป็นเพราะเธออ่อนแอเกินไป ผิวก็บางจนช้ำได้ง่ายๆแค่บีบนิดหน่อย ถ้าไม่มีพลังเธอก็เป็นแค่เด็กตะกละคนหนึ่งเท่านั้นเอง
เขาไม่ได้อยากเห็นเธอเจ็บ แต่ในฐานะอิลูมิก็ทำได้แค่นี้ ถึงกับคิลเขาจะมั่นใจว่าไม่มีทางทำร้ายเธอ แต่ฮิโซกะเป็นพวกเอาแน่เอานอนไม่ได้ แถมความคิดก็ไม่ปรกติ วันนี้อาจจะสนุกกับการเป็นฝ่ายถูกกิน แต่อนาคตใครจะไปรู้
‘ฉันเป็นอาหาร แต่ก็กินเธอได้เหมือนกัน’
อาหารไม่ได้มีแค่คนไร้พิษภัย อย่างน้อยการทำแบบนี้ก็คงจะช่วยให้เธอระแวงเพิ่มมากขึ้น
อย่างน้อยก็ได้ระวัง
[ฉันรอนานแล้วนะอิล!]
“ไม่ว่าง”
เขาเตรียมจะวางสาย แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคต่อมา
และเขาก็ได้รู้ว่าความโกรธที่ทำให้ฆ่าคนได้เป็นยังไง
[อยากให้คนอื่นรู้ความลับน่ารังเกียจของยัยเด็กนั่นหรือคะ]
(6)
“รู้หรือยังคะว่าเด็กนั่นน่าขยะแขยงขนาดไหน”
ตอนที่มีอาให้ดูรูปอาหารที่ถูกกิน เขาเพียงนิ่งเงียบ
และเมื่อทบทวนความรู้สึก อิลูมิก็พบว่าตัวเองเฉยชากับมันมากกว่าที่คิด แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยเมื่อเทียบกับความหงุดหงิดจากการถูกคู่หมั้นตามเป็นเงาตลอดช่วงที่อยู่ยอร์คชินแบบนี้
(7)
อิลูมิไม่ได้มีความอดทนต่ำ
แต่ความอดทนของเขาที่มีให้ในฐานะคู่หมั้นหมดไปเมื่อรู้ว่าเธอเป็นคนสนับสนุนน้องสาวให้ไปวุ่นวายกับคิลและจี ใช้ความลับบังคับให้ทำตาม นอกจากนั้นยังจ้างฮิโซกะให้คอยบอกที่อยู่เขาและตามมากันไม่ให้ไปเจอเด็กคนนั้น พยายามล้ำเส้นจนน่ารำคาญ
ดังนั้นเมื่อได้รับคำสั่งให้จัดการ เขาจึงไม่ลังเลเลย
มีอากลายเป็นคนสุดท้ายเพราะตลอดการหลบหนีใช้คนอื่นเป็นโล่ ไม่นานก็ถูกต้อนจนจนมุม ไร้ซึ่งหนทางหนี ทว่าแทนที่เธอจะหวาดกลัวกับความตาย หรือเอาแต่กรีดร้องอย่างทุกที อดีตคู่หมั้นกลับเหยียดยิ้ม ดวงตาสีแดงมองมาที่เขา
“พวกเจ้าเห็นค่าอะไรในตัวเด็กคนนั้นกัน?”
ราวกับว่าไม่ใช่เธอ แต่ถูกใครบางคนควบคุมอยู่
“ไม่รู้อะไร ลังเล ทำแต่เรื่องไร้สาระ คนอย่างเจ้าถ้าคิดจะหาต้องเจอคนที่ดีกว่าอยู่แล้ว” เธอก้าวเข้ามา ดวงตากดลง “ทำไมถึงยังสนใจทั้งที่นางก็เอาแต่หนีเจ้าไปหาน้องชาย ไม่มีวันรัก----”
เลือดซึมออกมาจากมุมปาก เธอมองหัวใจที่เต้นตุบในมือเขา ดวงตาสีแดงเบิกกว้างก่อนจะหัวเราะ
“พวกมนุษย์โง่ขลา เลือกได้แย่จริงๆ” คล้ายเย้ยหยันในที “แต่การได้เห็นคนฝ่าฝันอุปสรรคน้ำเน่าก็สนุกไม่น้อย ต้องขอบคุณคนในตระกูลเจ้าที่ยอมร่วมมือ ครั้งต่อไปต้องฝากเนเทโล่นำของขวัญไปให้เสียแล้ว”
และอิลูมิก็รู้ว่าใครคือคนที่กำลังควบคุม
แต่พอจะพูด เสียงก็ขาดหายไป
บางอย่างบังคับให้ต้องหลับตาลง
“...ขอบคุณที่ช่วยดูแลลูกข้า...”
(8)
“น้องนุ่มนิ่มอยู่กับหัวหน้าแน่ะ♣”
ตอนที่กลับมา ฮิโซกะบอกแบบนั้น
“เฮ้อ สุดท้ายก็ไม่ทรยศสินะ?” ทั้งๆที่ตอนแรกยังไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยไปง่ายๆ แต่ตอนนี้กลับต่างไปอย่างสิ้นเชิง “ถึงจะน่าเสียดาย แต่คงต้องหาของเล่นใหม่แล้วล่ะ หัวหน้าก็ถูกโซ่ฝังจนใช้เน็นไม่ได้ด้วย แย่จัง♧”
ฮิโซกะเป็นพวกเอาแน่เอานอนไม่ได้
ถึงจะเป็นของรัก แต่ถ้าเบื่อก็ทิ้งได้ในชั่วพริบตา
หมดปัญหาเรื่องขัดกับฮิโซกะ เหลือก็แต่รอเธอกลับมา ถ้าเธอเหนื่อยจนอยากพักเขาก็จะพากลับบ้าน อย่างน้อยที่นั่นก็มีขนมอร่อยๆ และแม่คงไม่ปล่อยให้ลูกทูนหัวเศร้าไปตลอดแน่ๆ คงหาซักทางที่จะทำให้จีกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม
และบางทีเขา---------
(9)
-----------------
-----------------
----RESET----
-----------------
-----------------
(10)
ในกล่องสมบัติของอิลูมิมีแหวนวงหนึ่ง
เป็นแหวนสีเงินเกลี้ยงเกลาที่เขาสั่งทำเมื่อนานมาแล้วเพื่อเมื่อถึงเวลาจะมอบให้คนคนหนึ่ง แต่เพราะคนคนนั้นไม่ชอบใส่เครื่องประดับ ทั้งยังบอกว่าเกะกะเวลากิน สุดท้ายเขาก็เลยเก็บมันไว้ มอบให้เพียงคำสัญญา
‘จะเจ็บป่วยแข็งแรง ยากดีมีจน สุขทุกข์เพียงไร จนกว่าความตายจะมาพรากจาก
...สัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป’
แม้สุดท้ายจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้ คนที่เขารักก็คือเธอ
มีแค่เธอเพียงคนเดียว
----------------------------------
ฮีล ฮีล ฮีล !
สุดท้ายก็ฮีลแล้วล่ะ โฮฮฮฮฮ!
----------------------------------
“have a crush on (someone)”
crush ในสำนวนนี้หมายถึงหลงใหลหรือหลงรักใครสักคน
----------------------------------
(7)ก่อนที่จะตาย คนที่เข้าร่างมีอา(คู่หมั้นอิลูมิ)คือท่านแม่ค่ะ
ตอนนี้เป็นตอนที่เราอธิบายเหตุผลที่คุณคิเคียว(แม่ของสามหนุ่มโซลดิ๊ก)อยากได้จีมาเป็นลูกสะใภ้+เชียร์ให้สามหนุ่มแย่งน้อง(จะใครก็ได้ ขอให้ได้น้องมาเป็นพอ)
(เชียร์คิลมากที่สุด มิลกี้รองลงมา ที่ไม่คาดคิดคืออิลูมิจะลงด้วย เพราะตอนแรกเห็นอิลอยากจะฆ่าจี(เห็นน้องเป็นตัวอันตรายต่อตระกูลอยู่ตลอด))
ท่านแม่ตั้งชื่อแต่แรกคือจี
ส่วนตอนname ที่น้องบอกให้ฮิโซกะเรียกตัวเองว่าไอ คืออยากจะประชด+ไม่อยากข้องเกี่ยวกับของที่ท่านแม่มอบให้ อารมณ์ประมาณรักนะ แต่หนูก็เกลียดคุณ
(ไอ ความหมายคือความรัก ค่อนข้างจะออกแนวประชดท่านแม่ เพราะน้องถูกสร้างขึ้นมาเป็นตัวแทน(aka ของเล่น)ของพี่สาวที่ท่านแม่โปรดปรานที่สุด ความรักที่ได้รับมาก็ไม่ใช่ของตัวเอง)
(จี ย่อมาจากGodที่แปลว่าพระเจ้า ก่อนที่จะทิ้ง ท่านแม่ให้ทุกสิ่งกับน้องมากพอแล้ว ยังมีประธานเนเทโล่คอยเป็นแบ็คให้อีก น้องไม่ชอบชื่อนี้เพราะไม่ได้อยากเป็นพระเจ้า แต่ก็รับไว้เพราะอยากให้ท่านแม่เอ็นดูตัวเองเหมือนพี่สาวบ้าง พอถูกทิ้งก็เลยเกลียด(แต่ก็ยังรักนั่นแหละ))
จีถูกทิ้งชาติแรก และแม้ชาติต่อมาแม้จะลืมทุกอย่างไปหมด แต่สิ่งเดียวที่จำได้คือตอนที่ตัวเองถูกท่านแม่ทิ้ง
**ว่าง่ายๆ จะชาติไหน จะวนลูปสักกี่ครั้ง น้องก็ยังมีความทรงจำตอนที่อยู่กับท่านแม่+ถูกทิ้งอยู่ดี**
*เนเทโล่เป็นอีกคนนึงที่ทุกการresetโลกหลังน้องตายยังมีความทรงจำเหลืออยู่*
(เพราะอย่างนั้นก็เลยสงสาร+เอ็นดูเด็กคนนี้มากๆ แอบสนับสนุนน้องทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ในโลกใบนี้เพราะตัวเองก็สู้ท่านแม่ของน้องไม่ได้)
ท่านแม่มาป่วนตั้งแต่อิลูมิเกิด
มาอวยพร+ทำความรู้จักกับตระกูลโซลดิ๊กและคุณคิเคียว
(บังคับประธานเนเทโล่พามา)(ประธานไม่ได้บอกจีว่าแม่แอบมา(ถูกบังคับให้ปิดเงียบ) น้องก็เลยไม่รู้)
ท่านแม่แนะนำลูก
คงประมาณ
“เป็นเด็กหัวดื้อ แล้วก็ออกจะแปลกๆสักหน่อย”
“ชอบกินเอามากๆ”
“เหมือน....อืม แฮมสเตอร์?”
บ้านโซลดิ๊กก็เลยรู้จักน้องตั้งแต่ตอนนั้น
ท่านแม่ฝากให้ดูแลด้วย(ถ้าเผื่อลูปนี้เจอน้อง)
คุณคิเคียวก็เลยเปรยว่าดูเป็นเด็กน่ารักดีนะ อยากให้มาเป็นสะใภ้บ้านนี้จริงๆเลย
ท่านแม่ก็เลยนึกสนุก
อยากให้พวกโซลดิ๊กเล่นเกมด้วย
เป็นเกมจับแต่งงาน
จับสามหนุ่มโซลดิ๊กเป็นคู่หมั้นกับบ้านเนลสัน(ของเล่นที่ท่านแม่สร้างมา เซ็ทให้เป็นบ้านหาข่าว สร้างสองสาวพี่น้องที่นิสัยตัวร้าย)
อืม บอกแล้วไงคะว่าคนนี้โคตรเมพ โคตรแมรี่ซู สร้างคนเหรอ? ของแค่นี้สบ๊าย
“ตอนจบ จะให้ตายไปก็ไม่มีปัญหาหรอก”
“ยังไงก็เป็นแค่หุ่นอยู่แล้ว”
(ให้ค่าตอบแทนเป็นเงินมหาศาล+ของวิเศษ แล้วก็ถือว่าเธอติดหนี้โซลดิ๊กครั้งหนึ่ง)
(ข้อหลังนี่สำหรับบ้านโซลดิ๊กแล้วสำคัญกว่าเงินหรือของวิเศษเสียอีก เพราะเหมือนได้มิตรที่โคตรแข็งแกร่ง)
ท่านแม่แค่อยากเห็นว่าถ้าน้องเกิดตกหลุมรักหนึ่งในสามหนุ่มเข้า แล้วเผอิญว่าอีกฝ่ายมีคู่หมั้นร้ายกาจ จี/คนที่น้องรักจะทำยังไง
...แค่อยากชมมหากาพย์รักน้ำเน่า(+อยากเห็นลูกที่ไม่เคยร้องไห้เพราะกลัวแม่ไม่รัก ร้องไห้สักครั้ง)
ก็แค่นั้นแหละ
เหตุผลไร้สาระมากๆ แต่ก็นั่นแหละ เธออยากได้ ใครจะกล้าขัดใจ
เพราะงั้นคุณคิเคียวเลยบอก 'แต่ถึงจะพูดว่าดูแล...'
ความหมายคือ ; แต่ถึงจะพูดว่าดูแล มันก็แปลกๆ
เรียกว่าเป็นเกมมากกว่า
สิ่งเดียวที่ต้องทำถ้าอยากชนะคือ---ห้ามปล่อยให้ปีศาจ(หุ่นพวกเนลสันที่ท่านแม่สร้าง) มาทำให้เจ้าหญิง(จี) อยากฆ่าตัวตายเด็ดขาด
ขอแค่อัศวินทั้งสาม(อิลูมิ คิรัวร์ มิลกี้) ใครสักคนปกป้องจีได้ และสุดท้ายจีเลือกจะมีชีวิตอยู่ไปพร้อมกับเขาคนนั้น เกมก็จะจบ
ตระกูลโซลดิ๊กก็จะชนะ ส่วนท่านแม่แพ้
(คุณคิเคียวเลยพยายามบอกให้ลูกๆ ไม่ต้องไปสนใจตระกูลเนลสัน)
ทว่าเรื่องมันก็จบแบบเดิมอยู่ดี
เพราะหุ่น(ลูกสาว)ที่เธอสร้างขึ้นมา ไม่มีใครหนีชะตากรรมที่จบชีวิตตัวเองได้เลยสักคน
+แกล้งคุโรโร่ (อยากได้ลูกชั้นเหรอ? เอาไปสิ แต่เธอจะเอาหรือไม่ก็อีกเรื่องนึงนะ)(คู่หมั้นตัวร้ายเริ่มแกล้งลูกชั้นแล้ว! เจ้าคนอยากเป็นพระเอกรีบทำอะไรสักอย่างสิ!)
มาเบล(คู่หมั้นคิรัวร์+หุ่นตัวประกอบที่ท่านแม่สร้างมา)ตกหลุมรักคุโรโร่---ใช่ค่ะ รัก ท่านแม่เซ็ทให้หล่อนรักคุโรโร่แต่แรกเห็น
พอรู้ว่าคุโรโร่รักน้องจะได้เกลียด+ไปแกล้ง
(โอ้ ทั้งเป็นคู่หมั้นคนที่จีรัก ทั้งนิสัยตัวร้าย นี่มันครบสูตรนิยายน้ำเน่า)
ตอนที่เห็นจีถูกแกล้งแล้วร้องไห้ เธอสนุกมากๆ
แต่ก็เบื่อมากๆ
(ทำไมเจ้าลูกโง่ไม่ตบกลับไปบ้างห๊ะ แล้วเจ้าพระเอกนี่มันอะไร? คิรัวร์สินะ? ทำไมไม่ฆ่าคู่หมั้นไปซะให้สิ้นเรื่อง!)
เธอหงุดหงิด เพราะอันที่จริงทุกอย่างมันจบได้ง่ายมาก
ถ้าไม่มีแผนของคุโรโร่
(ที่ให้ของขวัญวันเกิดจีเป็นดวงตาของเผ่าคุราปิก้า ถึงคิลจะรักกับจียังไง แต่ก็มีปัญหาเรื่องนี้ คุราปิก้าให้อภัยจีได้ แต่จีไม่ให้อภัยตัวเอง)
(ถ้าจีไม่รักฉัน ก็ไม่อยากให้ไปรักคนอื่น
by คุโรโร่)
เจ้ามนุษย์แผนสูง!
ท่านแม่ค่อนข้างพอใจกับการกระทำของอิลูมิ(ถึงเธอจะปากไม่ตรงกับใจก็ตาม)
แอบเชียร์ให้ไปแย่งจากน้องชายที่ไม่ได้เรื่อง(ในสายตาเธอ)
แต่จีก็ฆ่าตัวตายก่อน
-------------
+ ตอนพิเศษ กรณีพี่สาวทั้งสองมาเจอโดนแกล้งแบบจี
หลิง(เรื่องระบบส่งมอบความสุข) : เอาคืนให้เจ็บยิ่งกว่าตาย/ตบมาต่อยกลับ/ให้ตายแน่ๆเพราะขี้เกียจมาตามเก็บปัญหาทีหลัง แต่คงต้องให้ทรมานกับนรกบนดินก่อน
“คิดว่าตัวเองเป็นใคร”
“อย่าได้ใจให้มันมากนัก”
โช(ฟิคmy hero xxx) : คนนี้คงไม่เจ็บอะไรเลย เพราะเล่นงานอีกฝ่ายก่อนที่ตัวเองจะโดนเล่นงาน
เป็นพวกรักสนุก แต่ไม่ค่อยสนใจอะไร เพราะงั้นถ้าถูกหาเรื่องเพราะเรื่องผู้ชายคงจะมองอีกฝ่ายด้วยสายตามองคนปัญญาอ่อน ตอบยิ้มๆสุภาพแต่ข้างในถอนหายใจไปร้อยรอบ และถ้ารำคาญมากคงทำให้อีกฝ่ายหายๆไปซะ
สรุป ไม่ว่าจะพี่สาวคนไหนก็ให้ตายเพราะตัดปัญหา
ถ้าเปลี่ยนตัวเอกของเรื่องจากจีเป็นสักคนในสองคนนี้ บรรยากาศของเรื่องก็คงเปลี่ยนเหมือนกันค่ะ55555555ไม่55555555555555สดใส55555555555แน่ๆ55555555555555555
ความคิดเห็น