NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (end)「Hunter X Hunter」L’appel Duvide [OC]

    ลำดับตอนที่ #3 : Dulcet

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.34K
      674
      24 ส.ค. 62


    ฮิโซกะเป็นพวกบ้า


    ประโยคนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริงเมื่อลองอาศัยอยู่ด้วยกันไปสักระยะ

    เริ่มแรกก็ดีอยู่หรอก ชีวิตประจำวันของฉันเป็นไปอย่างเรียบง่ายและสบายมาก ตัวตลกคอยทำหน้าที่หาเงิน ส่วนเด็กสาวอย่างฉันก็เอาแต่กินและนอน ปล่อยให้เขาหยอกเล่นบ้าง ถึงบางครั้งจะเจ็บตัว เลือดออกนิดหน่อย แต่ค่าตอบแทนของการเป็นของเล่นให้ตัวตลกมันก็ไม่เลวเลย

    เขายังไม่มีทีท่าว่าอยากจะฆ่าฉันอีกเหมือนตอนที่เจอกันครั้งแรก วัน ๆ ก็เอาแต่แกล้ง กับทำตัวปัญญาอ่อน พอชินกับนิสัยส่วนนี้ของเขาแล้วมันก็กลายเป็นหนึ่งในชีวิตประจำวัน จะเจอหรือไม่ก็ไม่รู้สึกอะไร ความเรียบง่ายนี้ทำเอาฉันหลงคิดไปว่า ‘ความสัมพันธ์เราดีแล้วสินะ’

    ซึ่ง

    คิดผิด



    ‘เอาแต่กินกับนอนจนแก้มล้นไปหมดแล้ว



    ในวันหนึ่ง ฮิโซกะพูดอย่างนั้น

    ถ้าเป็นช่วงที่เจอกันแรก ๆ ฉันคงจะถลึงตาใส่ ในใจเดือดปุด มือไม้สั่นเพราะอยากจะตบคนให้หัวทิ่ม

    แต่ก็อย่างว่า อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ สกิลการไม่รับรู้ของฉันก็ถูกอัพเลเวลเพิ่มมากขึ้น แม้เขาจะกวนประสาทหรือบีบแก้มแล้วยืดออก ฉันก็ยังทำหน้าแบบเด็กดี มองตาใส คิดว่าสักพักเดี๋ยวก็เบื่อจนเลิกเล่นไปเองเหมือนปรกตินั่นล่ะ

    ไม่คิดว่าประโยคนั้นจะเป็นคำเกริ่นก่อนจะเข้าสู่ช่วงจุดประสงค์ที่แท้จริง แทนที่ฮิโซกะจะผละมือออกแล้วบ่น ‘ไม่สนุกเลย’ เขากลับยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม ดวงตาเปล่งประกาย



    ‘ถึงจะนุ่มนิ่มแต่แบบนี้ก็ไม่ดีนะ~~อ๊ะ จริงสิ เค้ามีงานใหม่เข้ามาพอดีเลย ครั้งนี้ขอยืมแรงที่รักหน่อยแล้วกัน



    ถ้ารู้ว่างานที่ว่าคืออะไร ฉันจะตีเขา จะเกาะเตียงแน่น ๆ ชนิดที่ว่าแงะไม่ออกเลย แต่น่าเศร้าที่ฉันไม่รู้ และกว่าจะรู้ก็ถูกอุ้มจนตัวลอยหวือทั้งชุดนอน ขัดขืนไม่ได้สักนิด

    ผลปรากฏว่า



    ฮิโซกะเอาฉันมาประมูลในตลาดมืด!



    ฉันแทบจะร้องไห้เมื่อฮิโซกะเสนอขายฉัน

    ส่วนคุณสมบัติคือ ‘ตุ๊กตายางชั้นเลิศ’


    โอ้โห


    ต่ำตมยิ่งกว่าคือการที่เขาการันตีสินค้าโดยเอามือทะลวงอกฉัน ควักหัวใจที่ยังเต้นตุบ ๆ ออกมาให้เห็น บีบมันจนกลายเป็นเศษเนื้อ พอคนรับซื้อไปประมูลเห็นว่าฉันยังอยู่ดี ไม่มีทีท่าว่าจะตายในเร็ว ๆ นี้ เขาก็ตกลงทันที

    เงินของฮิโซกะถูกบรรจุในกระเป๋าใบใหญ่ แม้จะไม่รู้ว่าเขาขายฉันได้เท่าไหร่ แต่จากขนาดก็น่าจะเยอะพอควร

    พอเสร็จสิ้นการเจรจา ฉันกำลังจะถูกนำไปเปลี่ยนเสื้อให้เหมาะสมกับฐานะตุ๊กตายาง ตัวตลกก็ยกกระเป๋าเงินขึ้น ขยิบตามาให้ด้วยท่าทางกวนประสาท ในตอนนั้นเองที่สกิลไม่รับรู้เหมือนจะไม่ทำงาน ฉันถลึงตาใส่ทันที

    ขอบคุณที่ยังกรุณา ถึงเสื้อที่ให้เปลี่ยนจะเหมือนชุดชั้นในวาบหวิวมาก แต่ฉันก็ทำใจมองข้าม พยายามคิดในแง่ดีว่าอย่างน้อยก็ดีกว่าการเปลือยกายล่อนจ้อนล่ะน่า

    ตอนที่เปิดการประมูล หัวใจฉันถูกบีบอีกรอบเรียกความสนใจให้ผู้ประมูลที่สวมหน้ากากปกปิดหน้าตา จำนวนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และสุดท้ายก็จบลงด้วยราคาที่สูงจนน่าตกใจ

    คนชนะการประมูลฉันคือชายวัยกลางคน หน้ากากปิดแค่ส่วนบน จึงเห็นอีกฝ่ายเลียปากอย่างกระหาย…


    ซวยแล้ว


    และยิ่งทวีความซวยไปอีกตอนที่ถูกพากลับ

    นึกว่าจะกลับบ้าน ฮื่อ ที่ไหนได้...เขาพามาโรงแรม!

    โรงแรมหรูแบบนี้ปรกติฉันคงจะมองตาวาว ลุ้นบริการเสริมว่าจะมีอะไรมาให้ไหม จะเป็นเค้กหรือของกินกันนะ

    ตัดภาพมาที่ตอนนี้ ฉันแทบไม่ได้สนใจเลยว่าโรงแรมมันจะหรูไม่หรู จะมีบริการหรือจะไม่มี แทบทรุดเมื่อเปิดห้องมาแล้วเจออุปกรณ์...ระ เรทมากจนพูดออกมาไม่ได้!

    เรื่องหลังจากนั้นเป็นประสบการณ์ที่แย่มาก

    ตามสเต็ป ถูกผลักลงเตียง มือถูกมัดไว้เหนือหัวเตียง ชุดที่ใส่อยู่แทบไม่มีความจำเป็นเลยในเมื่อมันโปร่งจนมองเห็นข้างในได้ ตุ๊กตายางปรกติต้องคงทนอยู่แล้ว ทว่าฉันถูกแปะป้่ายว่า ‘ตุ๊กตายางพิเศษ’ ดังนั้นก็...อืม ซวย ซวย ซวย

    ว่าแล้วมันแปลก ๆ ที่ราคาประมูลมันสูง


    คนที่อยากได้ฉันมีรสนิยมเข้าใจยากนี่เอง!


    ถามว่ารู้ได้ไงน่ะเหรอ

    มันปิ๊งป่องขึ้นมาตอนที่อีกฝ่ายกดมีดลงบนหน้าท้อง ลากจนเป็นแผลเหวอะหวะ สีแดงเปรอะเปื้อนไปทั้งเตียง ฉันรีบเงยหน้ามองเพดานเมื่อเห็นมันดู...ชอบเครื่องใน? อยากจะลบภาพอะไร ๆ ในหัว ไม่เห็นจริง ๆ ว่าใต้กางเกงมัน…

    ยะ---อย่าเอาถู!

    นี่มัน…

    ขยะแขยงจนทนไม่ไหว



    “งานสำเร็จ



    หัวหลุดออกบ่า

    เลือดสาดกระเซ็น เลอะทั้งผนังและเตียง ฉันกะพริบตาปริบเมื่อสัมผัสได้ถึงของเหลวที่เปรอะแก้มและตัว หันกลับมามองร่างของผู้ประมูลที่กระตุก เลือดทะลักจากรอยแผลที่ถูดตัด ส่วนหัวนั้นหลุดกลิ้งไปตกที่พื้นข้างเตียง

    ฮิโซกะในสภาพเลอะเลือดแย้มยิ้ม กระชากร่างที่ชักอยู่ออกไปกระแทกกับผนังห้องอีกฝั่งอย่างแรงจนเกิดรอยร้าว

    งานสำเร็จ ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ สะบัดมือออกจากเชือกที่มัดติดกับหัวเตียง ยิ่งกว่ารอยเชือกบนข้อมือคือของเหลวสีขาวขุ่นที่ติดอยู่ตรงปากแผลเหวอะหวะที่ท้อง ฉันเบ้หน้า กลั้นใจปาดมันออกก่อนจะรีบรักษาตัวเอง

    “คนที่อยู่ข้างนอกล่ะคะ?”

    คนมีฐานะการมีบอดี้การ์ดย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก ก่อนที่จะปิดประตูห้องฉันก็เหลือบเห็นคนใส่ชุดดำอยู่หลายคน ร่างใหญ่ ดูท่าทางแข็งแรง เฝ้าประตูห้องไว้เผื่อจะเกิดเหตุร้ายกับเจ้านายที่เล่นสนุกกับตุ๊กตายางข้างใน

    ฮิโซกะพยักเพยิดไปทางด้านหลัง “เรียบร้อย

    ฉันมองตาม เห็นกองเลือดอาบทางเดินก็รู้แล้วว่าบอดี้การ์ดพวกนั้นคงไม่รอดเงื้อมมือตัวตลกสักคน

    “มันคงถูกใจที่รักมากเลยแหละ เล่นเหมาทั้งชั้นแบบนี้คงไม่อยากให้ใครรบกวนล่ะมั้ง?” ตัวตลกหัวเราะ “ทางเดินปลอดคนแบบนี้ทำงานง่ายขึ้นเยอะ ช่วยได้มากเลย

    “ฆ่าไปแบบนี้จะไม่เกิดปัญหาเหรอคะ” เขาซื้อฉันไปแล้วแบบนี้เผื่อเกิดการฟ้องขึ้นมาจะทำยังไง

    “มันไม่รับประกันหลังการซื้อนี่นา” ฮิโซกะส่ายหน้า ยิ้มกว้างอย่างน่าหมั่นไส้ “ได้เงินสองต่อแบบนี้มาฉลองกันดีไหม? ค่าตัวที่รักก็เยอะเอาเรื่องอยู่นา

    สองต่อที่ว่าคงหมายถึงเงินที่ขายฉัน กับเงินค่าจ้างมาฆ่าคนที่ประมูล เหอะ ๆ ตัวตลกคนนี้เจ้าเล่ห์ซะเหลือเกิน!

    บาดแผลที่ถูกแทงสมานกันแล้ว ฉันถอนหายใจ โล่งอกไปทีที่ไม่มีอะไรปะปนเข้ามาในร่างกาย ไม่งั้น…

    ช่างเถอะ ยังไงเรื่องก็จบลงด้วยดีนี่นะ?

    “เลี้ยงขนมฉันเลยนะคะ”

    ฉันปาดเลือดที่เปรอะใบหน้าออก คลี่ยิ้มให้ฮิโซกะด้วยใบหน้าของเด็กดีเหมือนทุกครั้ง ไม่โกรธและไม่สนใจแม้ว่าที่เขาแกล้งจะทำให้เจ็บตัวหรือเลือดออกก็ตาม

    รอยยิ้มของตัวตลกลดลงมา


    “ไม่สนุกเลยนะ”


    เพราะอยู่ด้วยกันถึงทำให้รู้

    ว่าคำพูดนั้นหมายถึง ‘แกล้งไม่สำเร็จ’




    (1)


    ฮิโซกะแปลกไป

    หลังเหตุการณ์นั้นช่วงแรกก็ดีอยู่หรอก ฉันกลับสู่ลูปเรียบง่ายและสบายตามเดิม ปล่อยให้ตัวตลกหาเงิน ส่วนตัวเองก็นอนเล่นในที่พัก หิวก็ออกไปหาอะไรกินข้างนอกโดยใช้เงินฮิโซกะ เบื่อก็ซื้อเกมมาเล่น สุขสบายสุด ๆ

    ทว่าช่วงหลังมานี้ฮิโซกะเริ่มเบื่อ

    ตัวตลกหันมาทำตัวไม่ต่างจากฉัน ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา อยู่แต่ในที่พักไม่ได้ออกไปทำงาน จากเดิมที่ฉันจะออกไปซื้อของกินข้างนอกคนเดียวเงียบ ๆ ตอนนี้กลับพ่วงมาอีกหนึ่ง ประเด็นสำคัญคือสีผมของฮิโซกะเดินไปไหนก็กลายเป็นจุดเด่นไปซะทุกที ยังไม่รวมกับท่าทางภายนอกอีก

    ฉันเคยเกือบจะถูกยิงเพราะคู่แค้นของเขาตามมาเจอด้วย! โฮ ต้องหลบแทบตาย เอาชีวิตปรกติคืนมานะ!

    เตียงใหญ่นุ่มนิ่มที่เวลาฮิโซกะออกไปข้างนอกจะกลายเป็นของฉันคนเดียว สามารถกลิ้งหรือนอนขวางได้ตามใจ พอฮิโซกะไม่ไปแล้วเตียงนั้นกลับต้องมานอนแบ่งกัน

    อย่างที่บอกว่าฮิโซกะตัวสูง ส่วนสูงของเขามันจึงเกะกะมาก ๆ เวลามาใช้เตียงเดียวกัน

    เขานอนทีกินพื้นที่ไปเกือบครึ่ง หลายครั้งที่สกิลการไม่รับรู้ของฉันถูกทดสอบเพราะฮิโซกะชอบเอาแขนกับขามาก่าย เหมือนเห็นฉันเป็นหมอนข้าง การนอนแต่ละทีจึงแทบไม่ต่างจากการถูกงูตัวใหญ่รัดพันเลยสักนิด

    ดังนั้นเมื่อฮิโซกะบอกว่า ‘อาจจะไม่อยู่หลายวัน’ ฉันถึงร้องเฮในใจ รีบยิ้มส่ง โบกมือลาก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจ

    ช่วงที่เขาไม่อยู่ฉันกลายเป็นเจ้าของห้องเต็มตัว สามารถนอนกลิ้งบนเตียงได้ตามใจ ตอนออกไปข้างนอกก็ไม่ต้องระแวงว่าจะเจอคู่แค้นของตัวตลกมาไล่ตามฆ่าอีกแล้ว

    มันก็..ดีนั่นแหละ


    [ยินดีด้วย! ผู้เล่นได้รับไอเทมหายาก...]


    วางจอยเกมในมือลงเมื่อจับได้แต่ของซ้ำ ๆ คลานขึ้นเตียงด้วยท่าทางเกียจคร้าน คว้าหมอนกระต่ายที่อยู่ใกล้ ๆ มากอด ยืดหูทั้งสองข้างขึ้นขณะที่นึกถึงหน้าตัวตลก จู่ ๆ กระต่ายตัวนี้ก็ทวีความน่าหมั่นไส้ขึ้นมาพอ ๆ กับเจ้าของ

    ‘เผื่อคิดถึงเค้าจะได้มีอะไรกอดแทนไง

    กอดกระต่ายเจ้าปัญหา เงยหน้ามองเพดานสีขาว ตีขาและเริ่มกลิ้งไปมาบนเตียงอย่างคนไม่มีอะไรจะทำ

    ‘จี ฉัน...’

    อา


    อยากได้อะไรหวาน ๆ จังเลย




    ….




    ผ่านไปไม่กี่วันฮิโซกะก็กลับมาโดยไม่ได้บอก

    มันกะทันหันและรวดเร็วไปหมด คิดภาพตอนที่ฉันอาบน้ำก่อนจะเข้านอนเหมือนทุกวัน จู่ ๆ ประตูห้องน้ำก็เปิดออก ตัวตลกในสภาพเปลือยกายไร้เสื้อผ้าเดินเข้ามาในห้องน้ำสบายใจเฉิบ และพอสังเกตเห็นฉันที่นอนแช่ในอ่าง แทนที่จะออกไปกลับส่งยิ้มมาให้

    “กลับมาแล้ว

    ...แล้วอยู่ต่อ

    ได้โปรดเกรงใจฉันบ้าง!

    อยากจะพูดประโยคนั้นออกไปจังเลย แต่ติดที่ว่าห้องนี้กับค่ากินค่าอยู่ทั้งหมด คนที่จ่ายดันเป็นเขานี่สิ

    เพราะงั้น อืม เปิดสกิลไม่รับรู้แล้วต่างคนต่างอยู่เถอะ ฉันไม่เห็นอะไรของคุณทั้งนั้น ไม่เห็นเลยแม้แต่น้อย!

    ตีน้ำจนขึ้นเป็นฟองฟู หยดน้ำมันหอมที่ช่วยทำให้ผ่อนคลาย นอนแช่ในอ่างอย่างสบายอารมณ์ต่อไป บางครั้งก็เป่าฟองเล่น และบางครั้งก็สูดกลิ่นหอมผ่อนคลาย ความหอมหวานบางอย่างที่ปนมาทำให้เลือดสูบฉีดไปทั่ว…

    ความหอมหวาน?

    ฉันที่กำลังอยู่ในอาการเคลิบเคลิ้มหยุดชะงัก ลุกขึ้นมาเกาะขอบอ่าง ไม่สนแล้วว่าตอนนี้ต่างคนต่างอยู่หรือไม่ พอสกิลไม่รับรู้ถูกปิดไปก็เพิ่งมาสังเกตเห็นความผิดปรกติ

    “บาดเจ็บมาเหรอคะ”

    เลือดหยดตั้งแต่ทางเข้าประตูห้องน้ำ และถูกเจือจางด้วยน้ำที่เปิดจากฝักบัว ถึงอย่างนั้นแอ่งน้ำนั่นก็ยังมีสีแดงเห็นได้ชัด ตั้งแต่เมื่อกี้เลือดคงไหลไม่หยุด อืม บาดเจ็บหนัก? ปกปิดได้แนบเนียนสมเป็นมายากรจริง ๆ

    ฮิโซกะปิดฝักบัว “อือฮึ เจ็บมากเลยล่ะ

    ตัวตลกยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ทำให้มองไม่ออกว่าที่กำลังพูดอยู่เป็นความจริงหรือคำโกหก โดยปรกติสถานการณ์ที่ต้องมาตีความรอยยิ้มกับความหมายในคำพูดของเขาแบบนี้ ฉันมักจะปล่อยเบลอ ไม่สนใจ เพราะการจะเดาใจคนอย่างฮิโซกะมันยากพอ ๆ กับการเดาว่าตัวเองจะตายวันไหน

    กลิ่นหวานแรงขึ้นอีกแล้ว


    “นี่ ฮิโซกะ”


    การแสดงเป็นเด็กดีเริ่มยากเต็มทน

    ฉันคลี่ยิ้มเหมือนไร้เจตนา พยายามห้ามไม่ให้ตัวเองกลืนน้ำลาย เลียปาก หรือแสดงกิริยาว่ากระหายออกไป

    ‘จี...’

    ครั้งสุดท้ายก็นานมาแล้ว



    “มาให้ฉันรักษาสิคะ”



    น่าคิดถึงจริง ๆ




    (1.1)


    ฮิโซกะกำลังโปรดปรานของเล่นตัวใหม่

    ไอเป็นคนที่น่าสนใจ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่เธอไม่ตายทำให้เขารู้สึกพลุ่งพล่าน และยิ่งรู้สึกมากเป็นพิเศษตอนที่ทะลวงเข้าไปในอก กระชากหัวใจที่กำลังเต้นตุบออกมาและบีบจนมันกลายเป็นเศษเนื้อ

    ฮิโซกะไม่ได้ชอบเครื่องในหรืออะไรแหวะ ๆ เขามั่นใจแบบนั้น และมั่นใจด้วยว่าสิ่งที่ตัวเองสนใจมีแค่คนที่มีฝีมือกับเรื่องที่มันน่าสนุก ทว่าไอทำให้เขากลับมาคิดทบทวนใหม่ มีฝีมือเหรอ? ตอนที่โดนไล่ล่ายังวิ่งเตลิดเลย ถ้าอย่างนั้น...น่าสนุก? ฮืม นอกจากเรื่องที่ไม่ตายแล้วคงเป็นตอนที่แกล้งแล้วถูกเธอขู่ฟ่อใส่เหมือนลูกแมวล่ะมั้ง

    น่าเสียดายที่หลัง ๆ มาเริ่มแกล้งไม่สนุก

    บีบแก้มก็จ้องตาแป๋ว ถูกกอดก็ยอมแต่โดยดี ไปกวนเวลาเล่นเกมก็แค่ส่งยิ้มมาให้ ดูเหมือนว่าการแกล้งไปนาน ๆ เข้าจะทำให้เธอเคยชินจนชินชา กับคนอื่นเขาคงจะเบื่อแล้วปล่อยไป แต่กับเธอ...ฮืม น่าหงุดหงิดจังเลยนะ?

    พอดิบพอดีกับมีงานใหม่เข้ามา

    โฮ่ ที่ต้องจัดการคราวนี้เป็นพวกชอบเสพสุขกับเครื่องในแล้วฆ่า? ที่ต้องจัดการไม่เท่าไหร่ แต่ดูท่าจะยุ่งยาก ไม่ใช่งานที่น่าสนใจนี่นา? เงินก็ไม่ได้เยอะอะไร และเหยื่อล่อ---ปิ๊งป่อง! แผนการผุดขึ้นมาพอดี เยี่ยมไปเลย

    จะเงินเท่าไหร่ก็ไม่สนแล้วล่ะ

    ถ้า ‘แกล้ง’ ครั้งนี้สำเร็จก็คุ้มยิ่งกว่าอะไร

    ฮิโซกะแฝงตัวอยู่ในงานประมูล ข้าง ๆ คืออิลูมิที่ว่างงานพอดีจึงติดสอยมาด้วยเพราะอยากเห็นตุ๊กตาตัวโปรดช่วงนี้ของเขา

    เป้าหมายที่ต้องจัดการนั่งอยู่แถวหน้าของการประมูล และเมื่อถึงเปิดประมูลไอ ฮิโซกะก็เห็นตามันวาววับ ยิ่งวาววับไปอีกตอนที่เธอไม่ตายเพราะถูกควักหัวใจ

    ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    อือฮึ ก็เธอเป็นตุ๊กตาที่น่าสนใจนี่นา

    นิสัยของเป้าหมายที่เขารู้มาคือชอบใช้เงินทุ่มสุดตัวเมื่อได้สนใจไปแล้ว และก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ เมื่อมันเพิ่มราคาแข่งเรื่อย ๆ จนคนอื่นถอดใจไปหมด อีกไม่นานก็จะเป็นไปตามแผน สุดท้ายคนที่จะชนะการประมูลก็คือ---

    “ไหนว่าแค่มาดูไง

    อิลูมิยักไหล่ สีหน้ายังคงราบเรียบไม่แสดงอารมณ์แม้ว่าเมื่อกี้จะเพิ่งยกมือขึ้นเกทับราคา “ถ้าได้มาก็คงไม่เลว”

    “ไม่ได้

    “...”


    “ไม่ให้


    ก็ยังไม่ได้ทิ้งสักหน่อย


    เพราะงั้นให้แย่งไม่ได้หรอก




    ….




    เกมจบแล้ว

    ไอที่ถูกมัดบนเตียงแกะเชือกออกอย่างง่ายดาย เรือนผมปล่อยสยายทั่วแผ่นหลัง ใบหน้าน่ารักเบ้ลงตอนที่ใช้มือปาดคราบของเหลวออกไปให้จากแผลเหวอะหวะที่ท้อง สีแดงที่อาบย้อมตัดกับผิวขาวราวหิมะ

    เธอเงยหน้าขึ้นมา ริมฝีปากขยับพูด

    “เลี้ยงขนมฉันเลยนะคะ”

    ก่อนจะคลี่ยิ้ม ภายในดวงตากลมโตไม่มีความรู้สึกอะไรนอกจากความเคยชินเหมือนตอนที่ถูกเขาแกล้ง

    ‘ความหมายของมัน...คือพระเจ้า’

    ความรู้สึกพลุ่งพล่านลดลงมาจนแทบไม่เหลือ


    “ไม่สนุกเลยนะ”


    ไม่เหมือนที่คิดเอาไว้เลย




    (1.2)


    “มาให้ฉันรักษาสิคะ”


    นอกจากไม่ตายแล้วยังมีความสามารถอื่นด้วย

    ความรู้สึกตื่นเต้นนั้นกลับมาอีกครั้งเมื่อเห็นความกระหายที่ปิดไม่มิดในดวงตากลมโต ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่ยิ้มหวาน มือกวักเรียกเขาด้วยท่าทางไร้พิษสง ชวนให้นึกไปถึงนางเงือกที่หลอกล่อผู้คนด้วยความงามและเสียงเพลง ก่อนสุดท้ายจะกัดกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก

    และแม้จะรู้ทั้งรู้ว่าอันตราย แต่เพื่อความสุขชั่วคราวที่เป็นดั่งความฝันนั้นแล้วก็ยอมตกหลุมพรางอย่างโง่งม

    อ่างน้ำแคบลงไปถนัดตา ตุ๊กตาที่มักจะเฉยชาและระวังตัวอยู่เสมอตอนนี้กลับเป็นฝ่ายเข้ามาเข้าก่อน เรือนร่างบอบบางแนบชิดลงมา ฝ่ามือวางบนไหล่ ริมฝีปากกดแนบบนรอยแผลตัดผ่านที่คอจากการเผลอประมาทคู่ต่อสู้

    ไม่ใช่แค่แนบค้าง เขารู้สึกถึงของเหลวถูกดูดกลืนออกไป ทั้งพิษและเลือด เธอเอียงใบหน้า ลิ้นอ่อนนุ่มลากไปตามแนวแผล ผ่านลูกกระเดือกที่ขยับเพราะเผลอกลืนน้ำลาย ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดบนผิว ถ้ามากกว่านี้มันจะเริ่มเลยเถิด เขารู้ รู้ว่าควรจะหยุดตั้งแต่ตอนนี้ แต่เสียงก็ราวกับถูกดูดออกไปเมื่อกลีบปากอ่อนนุ่มดูดดึงผิวกลางคอ

    เสียง ‘จุ๊บ’ ดังชัดเมื่อผละริมฝีปากออกไป

    แก้มของเธอแดงก่ำ ดวงตาฉ่ำน้ำ มุมปากเลอะคราบเลือด ใบหน้าดูเคลิบเคลิ้มยิ่งกว่าตอนได้ทานของหวานหรืออาหารเลิศรสทั้งหมด มือเล็กเลื่อนมาแตะที่ลำคอเขา ปลายนิ้วไล้ตรงส่วนที่เคยเป็นแผลลึกและติดพิษ

    ความเจ็บปวดและทรมานตอนแรกหายไปแล้ว ผิวหนังกลับมาเรียบราวกับบาดแผลไม่เคยมีอยู่

    “ไม่เจ็บแล้วนะคะ”

    น้ำเสียงสั่นพร่า ฮิโซกะเห็นเธอเลียคราบเลือดที่ติดบนมุมปาก ดวงตาหลุบลงซ่อนความกระหายที่ไม่สิ้นสุด

    ไม่พอ

    รั้งแขนเรียวเอาไว้เมื่อเธอจะลุกจากอ่าง ดึงตุ๊กตาบอบบางให้กลับเข้าสู่อ้อมกอด มายากรจุดรอยยิ้มบนใบหน้า ดวงตาสีอำพันเจ้าเล่ห์โค้งหยี แตะนิ้วที่ริมฝีปากของตัวเอง



    “รักษาตรงนี้ด้วยสิ



    ราวกับเชื้อเชิญ

    ดวงตาของเธอเปล่งประกาย ความปรารถนาเด่นชัดจนตัวตลกหลุดหัวเราะ เมื่อเรียวแขนคล้องคอ ใบหน้าทั้งสองก็เอียงเข้าหากัน ริมฝีปากแนบชิด แลกเปลี่ยนอุณหภูมิร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ไล่ต้อนลิ้นเล็ก เกี่ยวกระหวัดและดูดดึง บางอย่างอึดอัดขึ้นมาจนแทบทนไม่ไหว

    ถอนริมฝีปากอออกมาเมื่อลมหายใจของอีกฝ่ายเริ่มขาดห้วง ใบหน้าแดงก่ำเหมือนจะสำลัก เส้นสีใสเชื่อมระหว่างปลายลิ้น รับรู้ถึงรสสนิมในปาก หัวใจของเขาเต้นแรง ยิ่งกว่าการได้เสพสุขที่ราวกับความฝันมันคือความตื่นเต้น

    “ที่รักจูบเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่?”

    ดวงตากะพริบเมื่อได้ยินคำถามนั้น เธอเอียงคอ นิ้วแตะปากราวกำลังครุ่นคิด ดูบริสุทธิ์และไร้เดียงสาเหมือนไม่ใช่คนเดียวกับที่จูบกลับ ขบปากเขาจนเป็นแผลก่อนจะลิ้มรส

    “แต่ก่อนเขาบาดเจ็บบ่อย ๆ น่ะค่ะ” ริมฝีปากแดงฉ่ำแย้มยิ้ม ดวงตาหยีลง “แล้วก็...สัญชาตญาณล่ะมั้ง?”

    “เริ่มหึงขึ้นมาแล้วสิ มีคนอื่นด้วยเหรอเนี่ย” ตัวตลกบีบแก้มนุ่ม ยิ้มตาปิดจนไม่เห็นประกายวาววับที่หลบซ่อนข้างใน “อยากรู้จังนะว่าเป็นใคร ฮืม~บอกใบ้หน่อยสิ~

    เธอหัวเราะแผ่วเบา ก่อนจะบดเบียดร่างเข้ามา มือข้างหนึ่งลากไล้ไปตามแผ่นหลังแกร่ง ก่อนจะจิกลงบนรอยสักปลอม ๆ ที่ลืมดึงออก กรีดจนเกิดรอยเล็บเป็นทางยาว


    “อย่าได้เชิญชวนแบบนั้นอีกนะคะ”

    เธอจูบมุมปากอย่างอ่อนโยน แผ่วเบาราวแมลงปอแตะผิวน้ำ แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนจะผละออกมา

    ใบหน้านั้นยังบริสุทธิ์

    แม้ว่ามืออีกข้างของเธอจะแนบบนอกซ้ายของเขา ปลายเล็บจิกแน่นราวกับอยากจะดึงก้อนเนื้อที่เต้นตุบข้างในออกมา




    “เพราะคราวหน้าฉันจะไม่หยุด...และจะกัดกินจนถึงกระดูกแน่ค่ะ”


    ทั้งเจ็บปวดและตื่นเต้น

    ความรู้สึกพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ...มากขึ้น...และมากขึ้น

    ใกล้...

    ฮิโซะกะกอดตุ๊กตาตัวโปรดแน่น ฝังใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความพึงพอใจบนไหล่เล็ก





    “...อ่า...”

    “ฮิโซกะ!!”








    ★ ☆ ★ ☆ ★ ☆


    ไอ : ไปตายซะฮิโซกะ!*เสียงเบา*


    ★ ☆ ★ ☆ ★ ☆


    Dulcet having a gentle sweetness

    ความอร่อยแบบนุ่มนวล หวานหอม อารมณ์เหมือนตอนทานเค้ก หรือของหวาน


    ლ(◉◞౪◟◉ )ლ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×