NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (end)「Hunter X Hunter」L’appel Duvide [OC]

    ลำดับตอนที่ #8 : la curiosité

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.65K
      766
      28 มี.ค. 63


    เพราะต่อรองก็เลยได้เปลี่ยนมาขึ้นหลังแทน

    ถึงตอนแรกจะมีแต่คำว่า ‘ไม่น่าเลย’ วนเวียนในหัว แต่พอลองไปนาน ๆ ก็พบว่าแบบนี้มันก็ไม่เลวเหมือนกัน

    ฉันมีโอกาสแอบกินมากมายโดยที่เขาไม่รู้ เช่น เวลาจับไหล่ก็สามารถบีบ ๆ นวด ๆ สำรวจกล้ามเนื้อเขาได้ เวลาหิวก็ฟุบหน้าลงที่หลังคอเขาเหมือนง่วงนอน ที่จริงคือสูดกลิ่นหวานเข้าจมูก น้ำลายไหลเพราะอยากกินไม่รู้กี่สิบรอบ หรือถ้าหิวจริง ๆ ก็แกล้งนอนละเมอ กัดเขาพอให้น้องน้ำย่อยไม่โวยวายไปสักคำสองคำ...

    กว่าจะถึงทางลง คอของฮิโซกะก็เต็มไปด้วยรอยกัดกับรอยแดงมากมาย ฉันแสร้งลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือตอนที่ถูกปลุก ลงจากหลังอย่างเชื่องช้า(เพราะยังอาลัยที่กินไม่อิ่ม) มองหน้าซื่อ ๆ เหมือนไม่รู้เรื่องของเขาแล้วก็นึกสงสารขึ้นมา ขอโทษนะฮิโซกะที่แอบฉวยโอกาสแบบนี้ ไว้คราวหน้าฉันจะไม่หนีถ้าเจอคุณก็แล้วกัน

    ทั้งที่สามารถฆ่าคนได้ตาไม่กะพริบแต่บางเรื่องก็น่าเป็นห่วงจริง ๆ ไม่ทันใครแบบนี้เกิดทะเล่อทะล่าแล้วไปเจอคนอย่างฉันเข้า เขาจะไม่ถูกกินจนตายเลยเหรอ!

    โฮ อาหารของฉัน ถึงตอนนั้นฉันจะปกป้องคุณเอง!

    พอตั้งปณิธานในใจเสร็จก็ได้มานอนเอื่อยเฉื่อยรอผู้สอบคนอื่น ลุ้นแล้วลุ้นอีก ผ่านไปหลายชั่วโมงกว่าจะมาได้คนนึงจนฉันนึกถอดใจ เปลี่ยนจากนั่งรอเป็นนอนรอ กลิ้งไปมา จากที่ไม่อยากเข้าใกล้ฮิโซกะ ตอนนี้ก็แทบจะหนุนเขาเหมือนเป็นหมอน

    นอนตักหลับยาวไปได้ตื่นหนึ่งก็พบว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะหมดเวลาแล้ว ไม่นานพวกกอร์นกับคิรัวร์ก็คงจะออกมา ฉันหาวหวอด เหยียดแขนอย่างเกียจคร้าน มองตัวตลกที่พังปราสาทไพ่เล่น ท่าทางเขาก็คงเบื่อไม่ต่างกัน


    “ด่านต่อไปมาคู่กันเถอะที่รัก


    จบประโยคฉันได้ยินเสียงสำลักน้ำ

    พอหันไปก็พบหนึ่งในผู้สอบผ่านกุมคอตัวเองไอค่อกแค่ก มองฉันกับฮิโซกะด้วยสายตาเหมือนคนเห็นผี ก่อนจะย้ายตัวเองไปไกลลิ่วเหมือนไม่อยากได้ยินประโยคเมื่อกี้อีก...ไม่ใช่แค่คนเดียว ผู้สอบคนอื่นก็เหมือนกัน ถึงจะไม่ได้สำลักน้ำแต่ก็พากันทำหน้าแสลงหูกันหมด

    “เรียกว่าที่รักมันฟังดูแปลก ๆ นะคะ”

    “หืม? แปลกตรงไหนล่ะ

    มองตัวตลกที่ยังยิ้มระรื่นไม่ได้รับรู้ถึงความผิดปรกติ ฉันลูบคางตัวเอง เริ่มมาคิดอย่างจริงจัง

    ฮิโซกะที่เรียกที่รักเองก็คงไม่ได้คิดอะไรมาก อยากเรียกก็เรียกเท่านั้น ฉันเองก็ถูกเขาเรียกบ่อยจนชิน แต่ฉันชินไม่ได้หมายความว่าคนอื่นต้องชินด้วย ดูจากสีหน้าคนอื่นเมื่อกี้แล้ว พวกเขาคงเข้าใจคำว่าที่รักผิดแหง

    “ที่รัก~

    คำพูดเล่น ๆ ของเขาทำคนสำลักน้ำอีกแล้ว! ฮื่อ แต่จะโทษตัวตลกก็ไม่ได้ เขาไม่รู้เรื่องนี่นาว่าตัวเองทำผิด

    “ไม่อยากให้เรียกว่าที่รักเลยค่ะ” ถึงจะไม่ได้คิดมาก แต่ฉันก็ไม่อยากถูกเจ้าแมวบ่นทีหลังว่าไม่ระวังตัวหรอกนะ “เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหมคะ” หรือถ้ายังไม่ลืม ฉันเองก็มีชื่อเหมือนกันนะ!

    ตัวตลกทำหน้าครุ่นคิด สักพักก่อนจะตอบกลับมา

    “ได้สิ เปลี่ยนก็ได้”

    เขายิ้มจนตาหยี



    “แต่ที่รักก็ต้องเปลี่ยนด้วย



    ฉันชะงักค้าง พอตั้งสติได้ก็ถามอย่างงุนงง “หมายความว่าจะไม่ให้เรียกฮิโซกะเหรอคะ?”

    จะให้เรียกโค้ดเนมแทนเหรอ ตัวตลก? โจ๊กเกอร์? มายากร? ฆาตรกรหน้ายิ้ม? กลัวว่าแทนที่จะดูเท่เหมือนพวกสายลับ มันจะดูตลกมากกว่าน่ะสิ!

    “เรียกฮิโซกะต่อไปนั่นล่ะ” เขาส่ายหน้า ยิ้มลึกลับ “ที่ให้เปลี่ยนน่ะคำแทนตัวต่างหาก

    ฮิโซกะไม่ได้พูดต่อ เหมือนรอให้คิดหาคำตอบเอง ฉันมุ่ยหน้า ด่าตัวตลกในใจไปร้อยคำที่ไม่บอกมาให้จบๆ ก่อนจะนึกย้อนไปว่าเขาอยากให้เปลี่ยนคำแทนตัวว่าอะไร นอกจากคำว่า ‘ฉัน’ แล้วมันก็มีไม่กี่คำ…

    “หนู?”

    รอยยิ้มลึกลับเริ่มบิดเบี้ยว “อือฮึ

    เหมือนได้ยินเสียงปิ๊งป่องในหัว ฉันยิ้มกว้างเมื่อทายถูก คิดในใจว่ามันก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่ ปรกติฉันก็แทนตัวเองแบบนี้กับพวกพี่อยู่แล้ว ถึงฮิโซกะจะไม่ใช่ แต่เขาก็เป็นอาหารที่อร่อยและมีค่าพอจะให้ใช้คำนี้เหมือนกัน

    ตัวตลกดึงฉันไปกอด น้วยเหมือนเห็นเป็นตุ๊กตา รอยยิ้มลึกลับในตอนแรกหายไปและแทนที่ด้วยรอยยิ้มกว้างแบบที่เห็นบ่อย ๆ ในพวกที่ชอบประมูลฉัน ไม่ได้เรียกว่าที่รักอีกแล้ว แต่พูดพึมพำว่า ‘น้องนุ่มนิ่ม’ ซ้ำไปมา

    ฉันกอดกลับ ตบหลังตัวตลกแปะๆ

    “ฮิโซกะ หนูขอกิน---”



    “อย่ามาโรคจิตใส่น้องคนอื่นนะโว้ย!”



    ก่อนวินาทีต่อมาจะโดนกระชากให้ออกห่าง

    คิรัวร์ในสภาพมอมแมมเหมือนแมวไปเล่นซนจนเปื้อนขู่ฟ่อ มือข้างหนึ่งกางเล็บ แขนกางออก กั้นระหว่างฉันกับฮิโซกะที่โดนข่วนไปจิ๊ดนึงตรงแก้ม ถ้าตัวตลกหลบไม่เก่ง เมื่อกี้คงหัวขาดไปแล้ว

    คุราปิก้าถอนหายใจ ดึงฉันให้ออกห่างจากสงครามย่อมๆ “ทำไมถึงไปอยู่กับคนอันตรายแบบนั้นได้ล่ะเนี่ย”

    “บังเอิญเจอน่ะ”

    กอร์นหัวเราะแหะๆ “บังเอิญได้น่ากลัวเกินไปแล้ว”




    “หมดเวลา! การสอบรอบที่3ผู้สอบผ่านทั้งหมด 25 คน(ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคน)!”




    หลังขู่ใส่ตัวตลกไปไม่น้อย คิรัวร์ก็กลับมาขยี้ผมฉันด้วยใบหน้าหงุดหงิด ราวกับว่าอีกนิดจะหมดความอดทน จับฉันมัดเชือกไม่ให้เถลไถลได้อีก “ระวังตัวหน่อยสิ! แล้วหนูเหนอนี่มันอะไร ถูกเจ้าโรคจิตนั่นบังคับเรอะ?!”

    ไม่พอใจ

    น้องแมวดูไม่พอใจมาก ๆ

    เห็นเขาพิโรธผมชี้เหมือนประธานเนเทโล่ฉันก็แทบจะร้องไห้  ไม่อยากนึกเลยว่าถ้าผ่านด่านเร็วกว่านี้อีกสักนิดแล้วมาได้ยินคำว่าที่รักเข้าจะเป็นยังไง

    “คะ...แค่คำเรียกปรกติเองค่ะ” ฉันก้มหน้างุด ตอบอย่างคนสำนึกผิด “คิรัวร์ใจเย็น ๆ ก่อนนะ...”

    โฮๆ อย่าพึ่งงับหัวฉัน!

    “เรียกปรกติเหรอ?! นี่เจ้าโรคจิตมัน---(เซ็นเซอร์)”

    เลโอลีโอวิ่งมาปิดหูฉันไม่ให้ฟังคำด่าฮิโซกะที่หยาบคายขึ้นเรื่อยๆ กอร์นมากันไม่ให้คิรัวร์เปิดศึกกับตัวตลก คุราปิก้าทำหน้าว่างเปล่าข้าง ๆ กอร์น เหมือนถ้าทำได้ก็อยากจะหายตัวออกไปจากความวุ่นวายเสียตอนนี้

    กว่าจะจบ ผู้สอบคนอื่นก็พากันออกไปข้างนอกเกือบหมดแล้ว เลโอลีโอปล่อยมือที่ปิดหูฉันออกเมื่อเห็นว่าน้องแมวพิโรธจนเหนื่อย เรียกคุราปิก้ากับกอร์นที่ห้ามจนหมดแรงออกไปข้างนอก บอกว่าปล่อยให้สองพี่น้องเคลียร์กันเอง...ฮื่อ อย่าทิ้งฉันไว้แบบนี้!

    คิรัวร์ถอนหายใจยืดยาว เหลือบมองมาแวบเดียวก่อนจะเดินไปประตูทางออก ไม่ได้สนใจอะไรฉันอีก

    “คิรัวร์...”

    ดวงตาสีฟ้าหลุบมองมือที่จับชายเสื้อไว้ ไม่ได้สะบัดออก แต่ก็ไม่ได้สนใจ ทำเหมือนฉันเป็นธาตุอากาศ

    ความสัมพันธ์กำลังร้าวฉาน!

    แค่นึกว่าสายใยที่อุตส่าห์ฟูมฟักมาเพื่อขุนอาหารให้อร่อยกำลังจะพังทลายลง น้ำตาก็ปริ่มจะไหลลงมาจนต้องกะพริบปริบ ห้ามมันเอาไว้ ร่างกายห่อเหี่ยวไปกว่าครึ่งแต่ก็ต้องฮึบสู้ ตามตื้อไม่หยุดแม้ว่าจะเป็นธาตุอากาศ ฉันอุตส่าห์บ่มเพาะด้วยความรักจะให้มาจบสิ้นตรงนี้ได้ยังไง!

    ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลากินนะ!

    “อย่าโกรธนะน้องแมว...”

    “อย่าเรียกว่าแมว!” คนที่เมินมาตลอดตอบกลับทันควัน พอรู้ตัวว่าเผลอไปแล้วก็ถอนหายใจ แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิกทำเหมือนฉันไร้ตัวตน

    “ขอโทษ”

    “...”

    “คิรัวร์อย่าโกรธหนูนะ”

    “...”

    “หนูแค่...”

    น้องแมวหันมาด้วยใบหน้าแดงจัดไปถึงหู ท่าทางคล้ายอยากจะหนีแต่ก็ติดมือฉันที่จับเสื้อเขาไว้แน่น สุดท้ายก็แยกเขี้ยวใส่ “ย--ยัยบ้า! หนูเหนออะไรของเธอ!”

    ฉันหลับตาปี๋ เตรียมรับการดุด่าเต็มที่ แต่ทว่าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิรัวร์แค่ถอนหายใจอีกรอบอย่างช่วยไม่ได้ เลิกทำเหมือนฉันไร้ตัวตน ลูบหัวเป็นสัญญาณว่าหายโกรธแล้ว หัวใจฉันพองฟู หายห่อเหี่ยวในพริบตา

    “ทำไมต้องเรียกว่าหนู”

    “เปลี่ยนคำเรียกกันน่ะ ไม่ได้มีอะไรมากหรอก” ฉันตอบหน้าซื่อ ไม่ได้บอกไปว่าก่อนหน้านี้ฮิโซกะเรียกฉันว่าอะไร ไม่อย่างนั้นคงได้เกิดสงครามขนาดย่อมขึ้นมาอีกรอบ “แต่ก่อนหนูก็พูดกับพี่ชายพี่สาวเป็นปรกติ”

    คิรัวร์เลิกคิ้ว “เธอมีพี่ด้วยเหรอ?”

    “อื้อ แต่ไม่ใช่พี่จริงหรอกนะ เป็นคนที่คอยดูแลก็เลยเรียกว่าพี่น่ะ ตอนนี้แยกกันไปเที่ยวอยู่” อันที่จริงถ้าไม่นับเรื่องศัตรูที่มีมากหน้าหลายตาเหลือเกิน ฉันก็อยากจะตามไปอยู่หรอก พวกเขาอร่อยมากเลยนะ!

    “เจ้าฮิโซกะไม่ใช่พี่เธอสักหน่อย”

    “แต่หนูชอบเขา” เพราะรสชาติของเขาแทบจะเทียบเท่ากับพวกพี่เลย “กอร์น คุราปิก้า เลโอลีโอก็ชอบเหมือนกัน ส่วนคิรัวร์น่ะชอบที่สุด สักวันทุกคนก็ต้องโตอยู่แล้ว แต่หนูไม่ใช่ เพราะงั้นพูดได้ไม่มีปัญหาหรอก”

    คิรัวร์ชะงักไป สบตาฉันให้แน่ใจว่าที่พูดไปไม่ได้โกหก พอยืนยันได้แล้วก็เก้ๆกังๆเหมือนไม่รู้จะปลอบยังไง

    สุดท้ายก็ลูบหัว บอกว่าไม่ต้องคิดมากหรอก เป็นน้องมีแต่ดีกับดี เขาเองโตขึ้นก็จะฝึกให้เก่งมาก ๆ จนล้มคนในตระกูลได้ จากนั้นก็จะพาฉันหนีออกจากบ้านไปหาของกินอร่อย ๆ รอบโลก ถึงเจ้าสาวของเขาจะไม่อาจโตเป็นสาวสวยได้ แต่ตัวเล็กนุ่มนิ่มก็ไม่ได้แย่อะไร

    ฉันฟังแล้วก็รู้สึกเหมือนมีอะไรไม่ถูกต้อง แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นอะไรก็โดนเจ้าแมวดันหลังให้เดินก่อน

    ฮืม…


    ถ้าทักเรื่องหน้าแดงไปต้องโดนข่วนแน่ๆเลย



    ………



    “ขอแสดงความยินดีกับพวกคุณที่ผ่านทาวเวอร์ออกมาได้ การสอบที่เหลือก็มีแค่การสอบรอบที่สี่กับการสอบรอบสุดท้าย---การสอบรอบที่สี่จะทำที่เกาะเซบิล”

    ฮันเตอร์ที่เป็นกรรมการสอบแสยะยิ้มไม่น่าไว้ใจ ก่อนจะดีดนิ้ว เรียกให้อีกคนนำกล่องใบเล็กมาวางไว้


    “แต่ก่อนอื่นจะขอให้จับฉลากกันก่อน

    เลือกผู้ล่ากับผู้ถูกล่า”


    ฉันปิดปากหาว

    มองผู้สอบผ่านแต่ละคนเดินออกมาหยิบบัตรเรื่อย ๆ เริ่มจากฮิโซกะเป็นคนแรก ไล่ไปจนถึงพวกกอร์นกับคิรัวร์ ฟังกรรมการอธิบายเรื่องคะแนน ตั้งแต่ต้นจนจบฉันมีหน้าที่แค่ยืนดู โฮๆ นี่แหละคือสิ่งที่รอคอย!

    ชีวิตที่เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย และไม่ต้องออกแรง จากนี้ฉันจะคอยอยู่เฉย ๆ รอพวกอาหารทั้งหลายสอบผ่าน---


    “แล้วเด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงนั้นทำไมไม่ได้จับล่ะ!”


    มีผู้สอบคนหนึ่งทักท้วง ชี้นิ้วมาทางฉัน

    กรรมการสอบหันมามองดูแวบนึง ก่อนจะหันกลับไป เปิดปากอธิบาย

    “เด็กคนนี้เป็นกรณีพิเศษ”

    ได้ยินแบบนั้นฉันก็ยกยิ้ม บัตรฮันเตอร์ฉันก็มี ตาแก่ก็อนุญาต แถมด่านเมื่อกี้จำนวนผู้สอบผ่านยังไม่รวมฉันอีก คิดยังไงฉันก็แค่โชคร้ายที่มาอยู่ผิดที่ผิดทางเท่านั้น ถ้าฉันไม่ลงจากเรือเหาะ ป่านนี้คงกินอิ่มสุขสบายไปแล้ว!

    “...มีคำสั่งจากเบื้องบนให้เลื่อนเป็นผู้ช่วยกรรมการสอบชั่วคราว ดังนั้นการสอบรอบที่สี่จึงขอเพิ่มอีกหนึ่งกติกา

    ป้ายของเด็กคนนี้มีค่า 6 คะแนน”


    เอ๊ะ?

    รอยยิ้มชะงักค้าง เสียงพลุฉลองกลายเป็นบทสวดส่ง น้ำตาปริ่มจะไหลลงมาอีกรอบเมื่อผู้สอบจ้องป้ายฉันตาเป็นมัน เหมือนเห็นเหยื่ออันโอชะที่สามารถทำให้พวกเขาผ่านการสอบรอบนี้ไปได้อย่างง่ายดาย

    ยืนทำใจจนเรือที่จะเดินทางไปเกาะมารับ เห็นบางคนมองมาที่ฉันแล้วมีสีหน้าแช่มชื่นก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมา ไหนความสงบที่ฝันหา ไหนความเรียบง่ายที่อยากมี รอบนี้ต้องวุ่นวายอีกแล้วสินะ โฮๆ

    “เอ้า ไปได้แล้ว”

    ผู้คุมสอบดันหลังฉันที่ยืนทื่อให้ขึ้นเรือ

    “ถึงจะถูกแย่งป้ายไปก็ไม่ได้โดนยึดบัตรฮันเตอร์หรอก แต่ประธานฝากข้อความมา ‘ถ้ายังรักษาป้ายเอาไว้ได้ สอบรอบสุดท้ายจะเตรียมฟูลคอร์สให้’ ว่างั้นน่ะ”

    ที่จริงคุณยังไม่หายแค้นสินะ!

    ถึงจะไม่เห็นหน้าแต่ก็นึกภาพตอนพูดได้ ป่านนี้ตาแก่คงกำลังหัวเราะโฮะโฮะอย่างสะใจอยู่ที่ไหนสักที่ คอยมองฉันออกแรงรับมือคนอื่นเพื่ออาหารอยู่แหง ฮื่อ มาเจอกันตัวต่อตัวเลยสิ แน่จริงอย่าเอาของกินมาล่อแบบนี้!

    ผู้คุมดันหลังฉันแรงขึ้นเหมือนไล่ให้ขึ้นเรือเร็วๆ ปากก็บ่นพึมพำไปด้วยว่าเสียดายที่แตะไม่ได้เพราะประธานห้าม ไม่อย่างนั้นเขาจะจับไปล่ออาชญากรพวกนั้นให้ออกมา แล้วก็จะเอาไปขึ้นค่าหัวให้หมด

    ได้ยินเท่านั้นฉันก็รีบถอยห่างจากผู้คุมเหมือนเป็นของร้อน รีบวิ่งขึ้นเรือโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องไล่ สอดส่องหาพวกคิรัวร์ จากนั้นก็ถลาไปซุกเป็นที่กำบังทันที

    ฮือ เจอศัตรูพวกพี่อีกแล้ว!




    (1)


    “ส่งป้ายมาให้ฉันซะ!”


    พอใกล้หมดเวลา ฉันก็เจอประโยคนี้นับไม่ถ้วน

    คนที่ถูกผู้ล่าแย่งชิงป้ายไปต่างหมายป้ายฉันเป็นสิ่งที่จะทำให้พวกเขาเข้าสอบรอบต่อไปได้ เหมือนเป็นความหวังเดียวที่จะทำให้พวกเขาเข้าใกล้อาชีพฮันเตอร์ไปอีกขั้น

    ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ขณะมองคิรัวร์จัดการอีกฝ่ายจนหมอบ ไม่สามารถลุกขึ้นมาแย่งป้ายได้อีก

    วันที่หนึ่งหลังไปบอกคิรัวร์ว่าถึงถูกแย่งป้ายไปฉันก็ไม่ตก น้องแมวก็ตบบ่าฉันอย่างโล่งใจ วางใจไปเปราะหนึ่งและอนุญาตให้เดินเตร่ไปคนเดียวได้ เพียงแต่ถ้าเจอคนหมายป้ายจนกะสู้ถึงตายก็ให้ทิ้งป้ายแล้วหนีเอาตัวรอดก่อน

    วันที่สอง สาม สี่ไปตามดูกอร์นฝึกแย่งป้ายจากตัวตลก วันที่ห้า หก กลับไปหาน้องแมวที่ได้คะแนนครบแล้ว พากันเดินสำรวจทั่วป่าว่ามีอะไรกินได้บ้าง หาที่พักแล้วนอนยาวจนถึงวันที่เจ็ด รอจนประกาศให้กลับจุดสตาร์ทค่อยออกมา

    “เยอะชะมัด” คิรัวร์บ่น เท้าเขี่ยคนที่มาหาเรื่อง “ตั้งแต่ออกมานี่ก็คนที่เท่าไหร่แล้วนะ ไม่รู้จักจำสักที”

    “หึ ตราบที่ยังไม่ถึงจุดสตาร์ทพวกเราก็จะมาขวางแบบนี้----อั่ก!”

    พูดไม่เข้าหูจนโดนน้องแมวเหยียบแผลเข้าให้

    ฉันหาว เงยหน้ามองท้องฟ้าที่ยังไม่แจ้งดีด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดที่ต้องรีบไปจุดเริ่มให้เร็วที่สุดก็อยากจะนอนอีกรอบ

    เดินไปเกาะคนที่กำลังเกรี้ยวกราดอยู่ เอนหัวพิงเขาเหมือนเป็นหมอน ถึงจะไม่นุ่มนิ่มแต่ก็หอมดีมาก ถ้าสองวันแรกไม่เจอกีตาราเคิลจ้องแทบทะลุ ช่วงหิวมาก ๆ ฉันก็คงแอบหาวิธีฉวยโอกาสชิมเจ้าแมวให้ได้

    ฮื่อ น้องน้ำย่อยไม่ชอบผลไม้นี่นา


    “วาร์ปกันเถอะค่ะคิรัวร์”


    ฟูลคอร์สของฉัน

    ถ้าผิดสัญญาจะโมโหจริงๆด้วย!ヽ(`Д´)ノ



    (2)

    ไส้กรอก แฮมรมควัน เนื้อสัตว์นานาชนิดที่ถูกปรุงแต่งรังสรรค์ให้เกิดรสชาติล้ำลึก สลัด ชีสนุ่มละมุน หรือของหวานเลิศรสอย่างอื่นที่ฉันไม่รู้ ท่านประธานทำตามคำพูดได้ดีมาก ตั้งแต่จบการสอบรอบที่สี่ ฟูลคอร์สในแต่ละวันก็เวียนกันมาเสิร์ฟไม่ซ้ำ ฉันเองก็ได้ลิ้มรสจนอิ่มแปล้

    แต่พอเห็นคนอื่นสู้ น้องน้ำย่อยก็ทำงานอีกครั้ง

    นินจาคนนั้นก็น่ากินพอเป็นอาหารสำรองได้ คุราปิก้าก็เก่ง ฮิโซกะก็ยอดเยี่ยม น่าเสียดายที่ตัวตลกยอมแพ้ไปซะก่อนทั้งคู่ถึงไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก ที่ทำเอาหิวมากที่สุดก็คงเป็นกอร์น ความอดทนของเขาทำฉันต้องปาดน้ำลายไปหลายรอบ หัวใจเต้นรัวตอนเห็นสภาพตอนสะบักสะบอม อยากเข้าไปช่วยรักษาใจจะขาด

    แค่ชิมนิดเดียวเท่านั้น

    กัดนิดหน่อยก็ได้

    แต่โดนฮิโซกะจ้องตลอดเลยนี่สิ ฮื่อ เพราะงั้นไม่แตะต้องก็ได้ เหยื่อของตัวตลก เพื่อนของคิรัวร์ ฉันเองก็รู้ว่าอะไรกินได้กินไม่ได้เหมือนกันนะ ไม่อย่างนั้นพวกพี่ชายพี่สาวคงไม่เหลือแม้แต่กระดูกแล้ว!

    นั่งกินขนมชมการต่อสู้ของอาหารไปได้สักพักก็เกิดปัญหาขึ้น เป็นปัญหาใหญ่จนขนมที่กินเกือบติดคอฉัน

    ในที่สุดน้องแมวก็เจอพี่ชายแล้ว!


    “ไง”


    คุณพี่ชายเลิกเล่นเป็นกีตาราเคิล เผยโฉมหน้าที่แท้จริงเอ่ยทักเสียงเรียบ หน้านิ่งสนิทผิดกับแมวที่เริ่มเหงื่อตก

    จากนั้นก็ถูกดุไปตามระเบียบ

    “พวกนายน่ะเป็นเพื่อนกันอยู่แล้วไม่ใช่รึไง!”

    เถียงไปมาจนถึงเรื่องจะเป็นเพื่อนกับกอร์น ในขณะที่พี่ชายกำลังดุน้องแมวเสียงเหี้ยม เลโอลีโอที่อดกลั้นก็ทนไม่ไหว ตะโกนเถียงกับคุณพี่ชายอย่างไม่กลัวตาย ฉันหลับตาปี๋ไม่รับรู้ ภาวนาในใจให้อาหารคนนี้ไม่ถูกปักเป็นเม่นไปซะก่อน อย่าเพิ่งตายนะคุณลุง!


    “งั้นก็ฆ่ากอร์นทิ้งดีกว่า”


    ฮื่อ นั่นอาหารฉันนะ


    “มือสังหารไม่ต้องมีเพื่อนหรอก กีดมือขวางเท้าเปล่าๆ”


    เห็นฮิโซกะเป็นหอยทากรึไง


    “งั้นก่อนอื่นก็ต้องสอบให้ผ่านก่อน...แล้วค่อยฆ่ากอร์น” ทำเสียงเหมือนเพิ่งคิดได้ “หลังจากนั้นต่อให้ฆ่าทุกคนที่นี่ คุณสมบัติของฉันก็ไม่ถูกเพิกถอนใช่ไหม?”

    “ตามกฎก็ไม่มีปัญหา”


    ตาแก่ใจเหี้ยม!

    ฉันฮึดฮัด แค่คิดว่าชีวิตของอาหารในอนาคตที่สามารถอร่อยได้กว่านี้กำลังจะจบสิ้นก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ในที่สุดก็ปิดสกิลไม่รับรู้ ลืมตาขึ้นมามองฉากปะทะคารมอันดุเดือด เจ้าแมวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เลโอลีโอบ้าไม่กลัวตาย อิลูมิไม่สะทกสะท้าน ส่วนฮิโซกะก็นิ่งเฉยไม่ยุ่ง เจ้าหอยทากไม่ได้เรื่อง!

    ฉันปัดเศษขนมออกจากตัว ปิดกล่องขนมให้แน่นจนแน่ใจว่าจะไม่หลุดหกออกมา จากนั้นสูดหายใจฮึบ

    ปากล่องขนมใส่คุณพี่เต็มแรง!


    “อย่ายุ่งกับน้องแมวนะ!”


    อิลูมิปัดกล่องออกก่อนที่จะมาถึงตัว

    “หืม?”

    กล่องขนมตกลงพื้น ทั้งที่ทำจากเหล็กหนาแต่กลับยุบไปกว่าครึ่ง บิดเบี้ยวจนไม่ต้องบอกเลยว่าขนมข้างในคงแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พี่ชายหันมามองฉันด้วยใบหน้านิ่งสนิท จ้องด้วยดวงตาดำมืดจนฉันใจสั่น

    ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้กินเยอะเกินไป หรือว่าโดนเลโอลีโอปลุกใจกันแน่ ฉันถึงเดินเข้าไปขวางระหว่างน้องแมวที่จ๋อยสนิทกับคุณพี่ชายอย่างไม่กลัวเป็นเม่น กางแขนปกป้องอาหารที่ยังไม่โตเต็มที่ จ้องเขม็งเอาเรื่อง

    “ถ้ายังไม่หยุด หนูจะตีกลับนะ”

    ตาแก่ที่ยืนอยู่ข้างสนามเป่าปากอย่างนึกสนุก เลโอลีโอหน้าซีด ส่วนคุราปิก้าที่ยืนนิ่งก็กวักมือเรียกฉันไปหา ค้นทั่วตัวก่อนจะหยิบขนมแท่งออกมา บอกว่าตรงนั้นอันตราย ออกมากินขนมข้างนอกดีกว่า

    ฉันมองขนมไม่รู้จักชื่อในมือเขา เบือนหน้าหนีอย่างใจแข็งแม้ว่าจะอยากชิมจนน้ำลายสอ จ้องหน้าพี่คนโตต่อ เอาตัวบังคิรัวร์เต็มที่ ขืนทำน้องแมวร้องไห้อีกฉันจะตีแล้วนะ จะตีจริง ๆ แล้วนะ!

    “แม่บ่นคิดถึงเธอใหญ่ เป็นห่วงว่าลูกทูนหัวกับคิลจะใช้ชีวิตข้างนอกยังไง”

    ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะท้านสักนิด คุณพี่ชายไม่ฟังคำขู่เลยแม้แต่น้อย มือวางบนหัวฉันแปะ ๆ


    “ที่บ้านมีขนมรอเธอเยอะเลย”


    กับดัก!

    ฉันสะบัดมือเขาออก กว่าจะห้ามตัวเองไม่ให้ตกไปในหลุมกับดักแล้วดิ่งกลับบ้านได้ก็ใช้พลังใจไปเยอะ

    “กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้มันยากนะคะ” ไหนจะต้องวิ่ง ไหนจะต้องสู้ น้องแมวลำบากแทนฉันตั้งหลายเรื่อง!

    อิลูมิเลิกคิ้ว “โอ้”

    “คุณยอมแพ้ไปซะเถอะ”

    “แต่ฉันต้องได้คุณสมบัติเอาไปทำงานนี่นา” อิลูมิตอบเสียงเรียบ “อีกอย่าง ตอนนี้คิลก็ไม่จำเป็นต้องสอบฮันเตอร์หรอก เธอเองก็ด้วย ถ้าเวลาไหนจำเป็นขึ้นมาฉันจะเป็นคนบอกเอง”

    “อย่ามาสั่งหนู!”

    ขนาดพวกพี่ยังไม่กล้าเลยนะ!

    เสียงเชียร์จากประธานเนเทโล่ข้างสนามทำเอาปวดตุบในหัว ฉันพยายามไม่สนใจตาแก่ที่อยากให้สู้นักหนา ถลึงตาใส่พี่คนโต กางมือจะตีเขาสักแผล ถึงจะไม่มีเล็บเหมือนเจ้าแมวแต่ถ้าโดนก็น่าจะเจ็บอยู่บ้าง

    อิลูมิหลบพ้น ก่อนจะหิ้วแขนสองข้างจนฉันลอยขาไม่ติดพื้น ยกขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา

    ฉันร้องฮึ่ม สองมือตะปบหน้าเขาเต็มแรงจนเลโอลีโอที่อยู่ข้างนอกร้องว้าก แทบจะปีนคนที่ขวางอยู่เข้ามาช่วยถ้าไม่โดนคุราปิก้าดึงเสื้อห้ามไว้ ส่วนเจ้าหอยทากฮิโซกะจะช่วยหรือไม่ก็ช่าง ฉันขอลดระดับคุณไปอยู่ล่างสุดกับตาแก่ไร้ประโยชน์เนเทโล่!

    อิลูมิพึมพำ “นุ่ม..”

    ฉันได้ยินเต็มสองหู ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนโดนท้าทายอำนาจมืด สองมือตะปบหน้าเขาอีกครั้ง คราวนี้ออกแรงจนมือแดงแล้วก็ชาไปหมด ผลที่ได้คือแก้มขาวๆของอิลูมิเป็นรูปรอยมือจางๆ จ--จางจนแทบไม่เห็น!

    อิลูมิถอนหายใจ

    “ที่ฮิโซกะว่าน้องนุ่มนิ่มคงหมายถึงแบบนี้...”

    “เข้าใจแล้วใช่ไหมล่ะ น้องนุ่มนิ่มตีไม่เจ็บหรอก!”

    หุบปากนะฮิโซกะ!

    “คิรัวร์ มีคนโรคจิตใส่น้องนายโว้ยยยยยย!!” เลโอลีโอตะโกนจนหน้าแดง “ออกมาจากตรงนั้นนะยัยหนู!”

    “ก็แค่อยากรู้ว่ามันจริงอย่างที่พูดไหม...” อิลูมิไม่แยแสคุณลุงที่ตะโกนสักนิด มือที่จับแขนฉันบีบๆนวดๆ นิ่งไปเหมือนกำลังคิด “แม่อยากได้มาอยู่ในบ้านถึงขนาดนั้นคงไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ ในอนาคตก็คงต้องเป็นเจ้าสาวของใครสักคน...”

    ทำเสียงอย่างตัดสินใจได้


    “นุ่มนิ่มดี...อืม ฉันเองก็ได้”


    ได้บ้าอะไร!

    ฉันร้องฮึ่ม แก้มพองลมอย่างหงุดหงิด เหวี่ยงแขนไปมาพยายามสะบัดตัวออกจากมืออิลูมิที่แข็งราวคีมคีบ หงุดหงิดยิ่งขึ้นไปอีกตอนได้ยินเสียงหัวเราะโฮะโฮะของตาแก่เนเทโล่ พูดเสียงดังอย่างกับจะกวนประสาทว่าอย่าลืมเชิญไปร่วมงานด้วย

    “ยัยหนู พี่ชายเธอเดินออกไปแล้ว!”

    เลโอลีโอร้องบอก ฉันรีบหันขวับไปมองด้านหลัง ถึงพบว่าน้องแมวที่ปกป้องอยู่เมื่อกี้หายแวบไปแล้ว

    “ปล่อยหนู!”

    “ฮืม...เดี๋ยวเธอก็ไปพาคิลกลับมาน่ะสิ”

    “อิลูมิ ส่งน้องนุ่มนิ่มมาให้ฉันกอดบ้าง


    จะกิน




    จะกินให้หมดเลย!








    ----------------


    la curiosité  : ความอยากรู้อยากเห็น


    ----------------


    -หัวข้อ- ตะปบหน้า

    อิลูมิ : เหมือนอุ้งมือแมว

    ไอ : ....

    ฮิโซกะ : ให้ฉันโดนตะปบบ้าง!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×