[END] Love friend กลุ้มใจนักดันแอบรักเพื่อนสนิท [Yaoi]
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ นิยายวาย Tags : ยังไม่มี
ผู้แต่ง : Sameejaejung (สามีแจจุง)
My.iD :
https://my.dek-d.com/kochinaka/writer/
ตอนที่ 14 : แอบรักครั้งที่ 12 กำราบเมีย!
Part 12#Kin กำราบเมีย!
ผมลงไปตรวจตราความเรียบร้อยของคลับก่อนที่จะเปิดบริการด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน เลยตั้งใจว่าจะขึ้นมาง้อปรับความเข้าใจกับไอ้เด็กคลื่นสักหน่อย ไม่อย่างนั้นทั้งวันผมคงได้อารมณ์เสียใส่ลูกน้องไม่ก็ลูกค้าแน่ๆ
ให้ตายสิ! เจอกันแค่วันเดียวทำไมไอ้เด็กคลื่นมันถึงได้มีอิทธิพลกับผมขนาดนี้วะ?
ก็แค่ร่างกายเข้ากันดีไม่ใช่รึไง? แล้วทำไมมันต้องส่งผลกระทบถึงจิตใจผมด้วยก็ไม่รู้!
แต่จะว่าไปไอ้เด็กคลื่นก็ดูนิสัยน่ารักดีนะ แถมยังตรงๆ ซื่อๆ ไม่ค่อยมีพิษมีภัยอะไร ถึงมันจะกวนตีนไปบ้างก็เถอะ แต่มันก็ไม่น่าจะมีนิสัยชอบฟันใครแล้วทิ้งอย่างที่วินพูดเอาไว้เลย จริงๆ มันเหมือนคนที่ยังซิงทั้งข้างหน้าและข้างหลังเลยด้วยซ้ำ ซึ่งผมก็มั่นใจว่าผมดูคนไม่ผิด ผมว่าบางทีวินอาจจะสื่อสารกับผมผิดเพราะกำลังเสียใจอยู่ก็ได้
เพราะงั้นผมเลยต่อสายเพื่อที่จะโทรถามวินให้มันรู้เรื่องว่าความจริงมันเป็นยังไง แต่วินก็ดันปิดเครื่องไปซะได้ ส่วนแม่กับยายก็ปิดเหมือนกัน ผมเลยคิดว่าบางทีที่นั่นอาจจะไม่ค่อยมีสัญญาณล่ะมั้ง เพราะบ้านหลังนั้นก็อยู่บนดอยซะด้วย
ผมเลยตัดสินใจคิดว่าจะโทรติดต่อวินใหม่วันหลัง แล้วก็เดินขึ้นบันไดมาหาไอ้เด็กคลื่นที่ห้องทันที แต่แล้วผมก็ดันเจอกับภาพบาดตาบาดใจเข้า...
ไอ้เด็กคลื่นอยู่แนบชิดกับธีร์และกำลังจะถอดเสื้อให้กันด้วย!
“ทำอะไรกันนะ?” ผมขมวดคิ้วแล้วมองไปที่ไอ้เด็กคลื่นกับธีร์ตาขวาง ตอนนี้ผมรู้สึกหึงจนข้างในแทบจะร้อนเป็นไฟอยู่แล้ว!
ไอ้เด็กคลื่นเป็นเมียผม มันเป็นของของผมคนเดียว เพราะงั้นมันไม่มีสิทธิ์เข้าไปยั่วผู้ชายคนอื่นแบบนี้!
“นะ...นายครับ คะ...คือว่านี่มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะครับ?” ธีร์พูดอย่างตะกุกตะกักแล้วรีบดึงสูทออกมาจากมือของไอ้เด็กคลื่น ก่อนจะรีบก้าวถอยหลังออกไปพร้อมกับติดกระดุมให้เข้าที่
“ธีร์ ออกไปข้างนอก” ผมสั่งเสียงเข้ม
“แต่นายครับ...”
“ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งรึไง?” ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ขึ้นเสียงใส่ แต่ว่าผมก็จ้องไปที่ธีร์ด้วยสายตาแข็งกร้าวราวกับจะฆ่าให้ตาย
ผมสั่งให้มันมาดูแลไอ้เด็กคลื่นไม่ได้ให้มันมาทำเรื่องแบบนี้! เดี๋ยวต่อไปคงต้องสอบสวนแล้วก็สั่งสอนมันสักหน่อยแล้วล่ะที่ทำอะไรนอกเหนือจากคำสั่งของผม!
“ครับนาย” ธีร์ก้มหัวให้ผมก่อนจะรีบเดินออกไปตามคำสั่ง ผมเลยรีบเดินไปใกล้ไอ้เด็กคลื่น แล้วก็ใช้มือกระชากแขนของมันขึ้นมาทันที
“ฉันไม่อยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมง มันทำให้นายเสี้ยนมากจนต้องหาผู้ชายมาระบายเลยงั้นหรอห้ะ!?” ผมรู้ว่าผมพูดแรงไปหน่อย แต่ว่าผมหึง ผมหวง แล้วผมก็ไม่ชอบให้ไอ้เด็กนี่ไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ผม
เพราะไอ้เด็กคลื่นมันเป็นเมียผม...ของผมคนเดียวเท่านั้น!
“อย่าคิดว่าคนอื่นจะมีนิสัยมักมากในกามเหมือนกับตัวเองสิคุณ” ไอ้เด็กคลื่นเบ้ปากแล้วจ้องมาที่ใบหน้าของผมอย่างไม่เกรงกลัว คำพูดและการกระทำนั้นมันทำให้ผมเบิกตากว้างอย่างวาวโรจน์ แล้วบีบที่ข้อมือของมันแรงขึ้นทันที
“ไม่ต้องมายอกย้อน ฉันเชื่อในสิ่งที่ตาฉันเห็นมากกว่า”
“ถ้างั้นก็เอาที่คุณสบายใจแล้วกัน คำพูดของคนอย่างผมมันก็เชื่อถือไม่ได้อยู่แล้วนี่”
“รู้ตัวก็ดี ทีหลังก็หัดจำใส่สมองเอาไว้ด้วยว่า นายเป็นผู้หญิงของฉัน เป็นเมียฉัน แล้วก็ห้ามไปยุ่งไปอ่อยผู้ชายที่ไหนทั้งนั้นเข้าใจมั้ย!” ถ้าไอ้เด็กคลื่นยอมตกลงรับปากผมก็จะยกโทษให้ แต่ว่ามันกลับสะบัดมือของผมออกไปซะอย่างนั้น
“ไม่เข้าใจ! ผมไม่ได้เป็นผู้หญิงของคุณแล้วก็เมียคุณด้วย! ต่อให้เหลือคุณเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่บนโลกผมก็ไม่มีวันที่จะสนใจคุณ! ส่วนเรื่องเมื่อคืนที่เราสองคนมีอะไรกันมันก็เป็นเพราะว่าคุณบังคับ! ผมไม่ได้เต็มใจเลยด้วยซ้ำรู้เอาไว้ซะด้วย!” เท่านั้นแหละผมก็กำหมัดแน่นจนเส้นเลือดมันปูดขึ้นมาจนเห็นได้ชัด สายตาที่จ้องไปยังไอ้เด็กคลื่นอย่างแข็งกร้าวอยู่แล้ว ก็วาวโรจน์ไปด้วยความโกรธอย่างทวีคูณขึ้นมาทันที
“ที่พูดมาเมื่อกี้หมายความว่าจะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่ฉันใช่มั้ย?” ผมกัดฟันกรอด
“เออ! นายจะเป็นคนสุดท้ายในโลกที่ฉันต้องการ!”
“ได้ ถ้านายจะเอาแบบนั้น...” ผมพูดจบก็ยื่นมือไปจับที่แขนของไอ้เด็กคลื่นเอาไว้ จากนั้นก็ก้มหน้าลงไปใกล้ๆ แล้วพูดขึ้นอีกว่า...
“งั้นฉันจะพานายลงไปเลือกผู้ชายที่อยู่ในคลับข้างล่างเอง...จะเดี่ยว จะคู่ หรือว่าจะเซ็กส์หมู่นายบอกฉันได้ ฉันสามารถหาลูกค้าให้นายได้อย่างถึงใจแน่นอน!” พูดจบผมก็กระชากแขนของไอ้เด็กคลื่นให้เดินตามออกไปจากห้องทันที
ผมลากมันลงมาจนถึงคลับที่อยู่ด้านล่าง โดยไม่สนใจเสียงก่นด่าและการขัดขืนของไอ้เด็กคลื่นเลยแม้แต่น้อย จนเมื่อถึงห้องรับรองที่กำลังจะมีลูกค้า VIP คณะใหญ่เข้ามาใช้บริการ ผมก็จับยัดไอ้เด็กคลื่นเข้าไปข้างใน แล้วออกคำสั่งกับพนักงาน 4 คนที่กำลังยืนรออยู่ในนั้นว่า...
"หายูนิฟอร์มมาให้ไอ้เด็กนี่ใส่ แล้วก็จับตาดูมันเอาไว้ ถ้าหากมันหนีไปได้พวกนายโดนฉันไล่ออกยกเซตแน่!"
"ครับบอส!" ทุกคนรับคำสั่งกันอย่างพร้อมเพรียง พนักงานพวกนี้เป็นเพียงพนักงานเสิร์ฟเท่านั้น ไม่ได้เป็นลูกน้องใกล้ชิดที่ผมเอาไว้สั่งทำงานอื่นเลยจะเรียกผมว่า 'บอส' ไม่ได้เรียกผมว่า 'นาย'
"อ้อ เกือบลืมไป...ช่วยสอนไอ้เด็กนี่ให้เป็นงานด้วยล่ะ" ผมจงใจพูดจาสองแง่สองง่ามให้ไอ้เด็กคลื่นรู้สึกกลัว มันจะได้ไม่กล้าปากดีมาต่อล้อต่อเถียงกับผมอีก ส่วนแขกทั้งหมดที่จะเข้ามาใช้ห้องนี้ 2 ใน 10 คือรุ่นพี่ที่อายุมากกว่าประมาณ 1 ปี แต่ห่างกันแค่นี้ผมเลยไม่นับมันเป็นพี่ พวกมันก็ไม่ซีเรียสด้วยเลยให้ผมคุยกับพวกมันแบบเพื่อนซะเลย ซึ่งทั้งหมดก็แค่เข้ามาประชุมงานกันเท่านั้น ไม่ได้มาสังสรรค์แล้วก็รีเควสท์สาวๆ สวยๆ ให้มาบริการอย่างลูกค้าคณะอื่น
เมื่อสั่งงานเสร็จผมก็เดินออกมาจากห้องรับรองแล้วเดินตรวจตราความเรียบร้อยในคลับ พร้อมทั้งเข้าไปพูดคุยกับลูกค้าบางโต๊ะเพื่อสอบถามความพึงพอใจ
จนกระทั่งเวลาเกือบจะ 2 ทุ่มตรง ที่เป็นเวลาที่ลูกค้า VIP จะมาที่นี่ตามที่ได้นัดหมาย ผมเลยรีบเดินออกไปยังหน้าร้านเพื่อจะดักรอเพื่อนคนนึงที่เป็นหนึ่งในแขก ซึ่งรอไม่นานมันก็เดินทางมาถึง
"ไงไอ้มิน มาตรงเวลาเหมือนเดิมเลยนะมึง" ไอ้มิน หรือรามินทร์ CEO ของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ต้นสังกัดของวินน้องชายของผมนั่นเอง ผมรู้จักกับมันมาหลายปีตั้งแต่ที่อเมริกาแล้ว ขอสารภาพตามตรงเลยว่า ที่ผมเรียนจบปริญญาตรีมาได้ก็เพราะได้มันนี่แหละที่ช่วยติวให้
"อืม ไอ้คิมกับคนอื่นๆ มาแล้วรึยัง?" มันตอบด้วยใบหน้านิ่งๆ ไร้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนเดิม ส่วนไอ้คิมที่ว่าก็คือคิมหันต์ เจ้าของนิตยสารชื่อดังนั่นเอง สองคนนี้เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มหา'ลัย พอไอ้มินรู้ว่าผมกลับมาที่เมืองไทย และเปิดคลับอยู่ที่นี่เลยพาไอ้คิมมาแนะนำให้รู้จักด้วย
ซึ่งงานของไอ้คิมเป็นงานที่ต้องพบปะกับลูกค้าที่จะมาเป็นสปอนเซอร์ให้กับนิตยสาร ห้องรับรองของที่นี่ตอบโจทย์ของมันมาก มันเลยมาที่นี่บ่อยๆ จนผมยกให้เป็นลูกค้า VIP และแน่นอนว่าตอนนี้มันก็สนิทกับผมโคตรๆ
"ยังไม่มีใครมาเลยสักคน" ส่วนคนอื่นๆ ก็เป็นผู้บริหารและสปอนเซอร์ที่สนใจจะร่วมงานกับไอ้มินและไอ้คิม ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่า 2 คนนี้จะมีโปรเจคอะไรร่วมกัน เพราะทำงานในวงการบันเทิงด้วยกันทั้งคู่ซะด้วย ผมรู้แต่ว่าตอนนี้ผมต้องการให้ไอ้มินช่วยอะไรสักอย่างนึง
"วันนี้เมียมึงมาด้วยรึเปล่า?" พอผมถามอย่างนี้ไอ้มินก็หรี่ตาลงมองผมอย่างไม่ไว้ใจทันที
"มึงถามทำไม?"
"กูมีอะไรอยากให้มึงช่วยนิดหน่อย แต่ถ้าเมียมึงมาด้วยกูก็ให้มึงช่วยไม่ได้น่ะสิ" พอผมพูดอย่างนี้ไอ้มินก็คงรู้ทันทีว่าคงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ มันเลยดันแว่นสายตาขึ้นแล้วพูดออกมาว่า...
"วันนี้กูมาคุยงานมาริเลยไม่ได้มาด้วย แต่ถึงอย่างนั้นกูก็ไม่คิดที่จะช่วยมึงอยู่ดี" ไอ้มินพูดจบก็เมินผมแล้วจะเดินเข้าไปข้างใน แต่ว่าผมก็รีบวิ่งไปดักหน้ามันไว้ก่อน
"อย่าพึ่งปฏิเสธสิวะ มึงยังไม่ได้ฟังคำขอของกูเลยนะเว่ย"
"ถึงไม่ต้องฟังมันก็เดาได้ไม่ยากหรอก เวลาที่มึงขอให้ช่วยอะไรมันเป็นเรื่องดีๆ ที่ไหนกันล่ะ" ไอ้มินกลอกตามองบนอย่างเบื่อหน่าย แต่ก็จริงของมันนั่นแหละ คนสีเทาจนเกือบดำมิดอย่างผมจะไปทำเรื่องขาวใสไร้มลทินได้ยังไง ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกัน
"โหยมึงก็...ถึงครั้งนี้มันจะไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่ว่ามึงจะได้ช่วยเด็กตาดำๆ เลยนะเว่ย" ผมพยายามพูดหว่านล้อม พร้อมกับยิ้มกริ่มเมื่อนึกถึงแผนการที่อยู่ในหัว
แผนนี้คนที่ช่วยผมได้และน่าไว้ใจมีแค่ไอ้มินคนเดียวเท่านั้น เพราะมันเป็นคนหน้านิ่งๆ ไม่สนใจใครอื่นและรักเดียวใจเดียวกับเมียมันที่สุด ส่วนไอ้คิมถึงแม้ว่าจะเป็นคนรักเดียวใจเดียวเช่นกัน แต่ว่ามันก็เป็นคนขี้เล่นเกินไป ผมเลยกลัวว่ามันจะทำแผนเสียเข้าซะก่อนน่ะสิ
“ช่วยเด็กตาดำๆ งั้นหรอ? ถ้าเป็นคนอื่นพูดกูคงคิดว่า จะให้ช่วยบริจาคเงินให้กับมูลนิธิที่เกี่ยวกับเด็กยากไร้ แต่สำหรับมึง...คงไม่พ้นเด็กที่กำลังคั่วอยู่สินะ” พอถูกไอ้มินมองได้อย่างทะลุปรุโปร่งแบบนี้ ผมก็ถึงกับอึ้งแล้วก็ไปไม่เป็นเลยน่ะสิ
ยอมจริงๆ พ่อไอน์สไตน์กลับชาติมาเกิด!
“เออ เป็นเด็กที่กูพึ่งเจอเมื่อวาน กำลังติดใจเลยล่ะ แต่ว่าแม่งดื้อฉิบหาย” พูดถึงตรงนี้ผมก็ยิ้มออกมาทันทีที่นึกถึงหน้าไอ้เด็กคลื่น ไม่ว่าจะเป็นดวงตาเรียวเล็กที่จ้องผมอย่างเกลียดชัง หรือริมฝีปากเชิดรั้นที่ดูพยศ แต่ว่าผมกลับชอบแล้วก็อยากครอบครองเอาไว้ไม่อยากให้หลุดมือไปไหนทั้งนั้น
"แล้วมึงจะให้กูช่วยยังไง? บอกไว้ก่อนนะว่าถ้าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายกูจะไม่ช่วยมึงเด็ดขาด"
"มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงแบบนั้นหรอกน่า กูแค่จะให้มึงช่วยปราบพยศเด็กดื้อ แล้วก็ทำให้เด็กมันสำนึกได้ว่า...มีกูเป็นผัวน่ะดีที่สุดในโลกแล้ว!"
...............................................................
..........................................
.....................
ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในห้องรับรองของลูกค้า VIP กว่า 10 คน ที่หนึ่งในนั้นมีไอ้มินกับไอ้คิมเพื่อนผมรวมอยู่ด้วย ทุกคนคุยงานกันไปทานอาหารกันไปด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง ซึ่งผมก็ทำท่าแวะเข้ามาดูเรื่อยๆ เพื่อสอบถามความพึงพอใจและรสชาติอาหาร
แต่นั่นก็แค่บังหน้า อันที่จริงผมตั้งใจเข้ามาดูการทำงานของเมียจอมพยศของผมต่างหากล่ะ!
ไอ้เด็กคลื่นที่อยู่ในชุดสูทสีขาวที่เป็นยูนิฟอร์มของคลับมันช่างเข้ากับคนที่สูงโปร่งอย่างมันจริงๆ สูทที่มิดชิดมันช่างน่าค้นหาจนน่าจับถอดทีละชิ้นเป็นบ้า อา...แทบรอให้แผนการกำราบเมียสำเร็จลุล่วงไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยย
ตอนแรกผมก็แค่เตี๊ยมแผนการนี้กับไอ้มินเอาไว้แค่คนเดียว แต่ไปๆ มาๆ ไอ้คิมที่ดันเข้ามาได้ยินพอดีเลยขอเข้าร่วมแผนการกำราบเมียด้วยซะงั้น มิหนำซ้ำมันยังมีการคิดคาเรคเตอร์ของมันกับไอ้มินเอาไว้ด้วยว่า...
'ของไอ้มินอะเป็นพวกหน้านิ่งๆ แต่ที่จริงแล้วโรคจิตซาดิสม์ยิ่งกว่าอะไร ยิ่งกับเด็กๆ ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะนี่แหละของชอบ...ส่วนกู อืม...ถ้าเป็นคนปกติเด็กมันจะไม่กลัวใช่มั้ย? ถ้างั้นก็บอกไปเลยว่ากูอะชอบเล่นท่ายากกับของเล่นแปลกๆ แล้วก็ชอบเซ็กส์หมู่ด้วย รับรองเลยว่าเด็กของมึงต้องกลัวแล้วก็รีบกลับไปซบอกมึงแน่นอน'
เป็นไงล่ะเพื่อนผม ความคิดบรรเจิดสมกับเป็นเจ้าของนิตยสารเลยใช่มั้ยล่ะ?
"ขอบคุณทุกคนมากๆ เลยนะครับที่ให้เกียรติมาร่วมรับประทานอาหารกับผมในวันนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าต่อไปเราจะได้ทำงานร่วมกันนะครับ" ไอ้มินลุกขึ้นแล้วโค้งขอบคุณทุกคนหลังจากที่ทานอาหารและคุยงานกันเสร็จแล้ว ทั้งหมดเลยลุกขึ้นยืนบ้างแล้วกล่าวขอบคุณไอ้มินก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ เหลือแต่เพียงไอ้มินกับไอ้คิมเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ในห้อง
"คุณรามินทร์กับคุณคิมหันต์ต้องการอะไรเพิ่มรึเปล่าครับผมจะได้จัดการหาให้" ผมค้อมตัวลงเล็กน้อยแล้วพูดอย่างสุภาพ เพื่อไม่ให้ไอ้เด็กคลื่นสงสัยได้ว่าผมกับพวกมันรู้จักกันเป็นการส่วนตัว
"คุยงานมาหนักๆ แล้วมันเครี้ยดเครียด ถ้าผมอยากได้เด็กน่ารักๆ มาคอยเอาใจสักคนคุณวาคินจะช่วยหาให้ผมได้มั้ยครับ" ไอ้คิมพูดขึ้นก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม ไอ้มินก็เช่นกัน
"ไม่มีปัญหาครับ...เอาล่ะเด็กๆ มาช่วยกันเก็บถ้วยจานพวกนี้ออกไปหน่อยเร็ว" ผมหันไปพูดกับพนักงานเสิร์ฟที่อยู่ด้านหลัง ทุกคนจึงรีบตรงเข้ามาที่โต๊ะแล้วเก็บถ้วยจานต่างๆ ตามคำสั่งของผมทันทีไม่เว้นแม้แต่ไอ้เด็กคลื่น
หลังจากที่เก็บกวาดโต๊ะกันเรียบร้อย พนักงานทุกคนจึงค้อมตัวให้ผมแล้วรีบเดินออกไปจากห้อง โดยมีไอ้เด็กคลื่นเดินตามต้อยๆ ออกไปท้ายสุด แต่ว่าผมก็รีบเรียกมันเอาไว้ซะก่อน
"เดี๋ยว นายน่ะอย่าพึ่งไป"
"มีอะไรกับผมมิทราบครับบอส" ไอ้เด็กคลื่นหันมามองหน้าผมอย่างเหวี่ยงๆ แถมยังมีการเรียกผมว่าบอสประชดด้วยเหอะ
"ฉันมีงานให้นายทำ"
"ตอนนี้ผมไม่ว่าง ตาบอดรึไงถึงไม่เห็นว่าผมกำลังถือถ้วยจานจะเอาไปเก็บอยู่" คำพูดนั้นทำเอาไอ้คิมหลุดขำออกมาทันทีจนเกือบกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว ส่วนไอ้มินก็อมยิ้มน้อยๆ อย่างขำๆ ออกมาเช่นกัน นี่ดีนะที่ไอ้เด็กคลื่นหันหลังให้พวกมันเลยไม่เห็นอะไร แต่เรื่องที่ไอ้เด็กคลื่นจงใจหักหน้าผมต่อหน้าเพื่อนนี่ผมยอมไม่ได้เด็ดขาด!
"ฉันไม่ได้ตาบอด แต่นายต่างหากล่ะที่หูหนวก เมื่อกี้ไม่ได้ยินรึไงที่คุณคิมหันต์บอกว่าอยากได้เด็กมาคอยเอาใจ ฉันก็เลยจะส่งนายไปปรนนิบัติน่ะสิ!"
"ห้ะ? เกี่ยวอะไรกับผม? คุณเขาอยากได้เด็กน่ารักๆ ไม่ใช่รึไง?" ไอ้เด็กคลื่นทำหน้าตกใจจนตาเบิกกว้าง หึ! เริ่มกลัวแล้วล่ะสิ!
"ก็นายไงล่ะที่เป็นสเปคของคุณคิมหันต์" ใช่รึเปล่าวะ? หรือว่าไอ้มินกันแน่หว่าที่รับบทเป็นคนชอบกินเด็ก? แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ คนฉลาดๆ อย่างพวกมันเดี๋ยวก็คงไหลตามน้ำไปได้เองล่ะน่า
"จะบ้ารึไงผมเป็นผู้ชายนะ!"
"เออ นั่นแหละของชอบคุณคิมหันต์เลย" เท่านั้นแหละไอ้เด็กคลื่นก็ถึงกับชะงักแล้วเบิกตากว้างยิ่งกว่าเดิมซะอีก ผมจึงรีบใช้โอกาสนี้หยิบถ้วยจานที่มันถืออยู่ไปวางไว้ที่ปลายโต๊ะ แล้วลากมันเข้าไปใกล้ไอ้คิมซะเลย
"คุณคิมหันต์ครับ ถ้าเป็นเด็กคนนี้จะน่ารักถูกใจคุณรึเปล่า?" ผมขยับตาให้ไอ้คิมทั้งๆ ที่ไอ้เด็กคลื่นยังคงตัวแข็งทื่ออยู่
"ความจริงแล้วเด็กๆ เนี่ยมันสเปคของไอ้มินนะไม่ใช่ผม แต่ถ้าเด็กมันจะน่ารักขนาดนี้ผมก็ปฏิเสธไม่ลงหรอกครับ" พอไอ้คิมพูดอย่างนี้ไอ้มินที่นั่งอยู่เงียบๆ มานานเลยเลยพูดขึ้นว่า...
"ได้ยังไงกันวะไอ้คิม เด็กคนนี้กูเล็งตั้งแต่เข้ามาในห้องแล้วนะเว่ย" ไม่พูดเปล่าไอ้มินยังเดินอ้อมมาหาพวกผม แล้วโอบที่ไหล่ของไอ้เด็กคลื่นเอาไว้อย่างหวงแหนอีกต่างหาก
เฮ้ๆ แตะเนื้อต้องตัวเมียกูแบบนี้มันเกินจากข้อตกลงนะเว่ยไอ้มิน!
"ก็ใครใช้มึงเล็งอย่างเดียวเฉยๆ ล่ะ? ตอนนี้คุณวาคินยกเด็กคนนี้ให้กูแล้ว เพราะงั้น...มึงไม่มีสิทธิ์!" ไอ้คิมพูดจบก็ลุกขึ้นมาดึงตัวของไอ้เด็กคลื่นออกไปจากไอ้มิน แล้วโอบไหล่ของไอ้เด็กคลื่นเอาไว้อย่างแนบแน่น
ด้วยเหตุนี้ไอ้มินเลยกระชากแขนของไอ้เด็กคลื่นคืนมา แต่ไอ้คิมก็ไม่ยอมจึงรั้งแขนของไอ้เด็กคลื่นเอาไว้ ก่อนที่พวกมันสองคนจะยื้อแย่งตัวของไอ้เด็กคลื่นกันใหญ่ โดยไม่สนใจหน้าตาที่ตกใจและหวาดกลัวของไอ้เด็กคลื่นเลยสักนิด
นี่พวกมึงจะจริงจังเกินหน้าที่ไปแล้วนะเว่ย!
“ปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะไอ้คิม เด็กคนนี้เป็นของกู!”
“ของมึงที่ไหน คุณวาคินยกให้กูแล้วต่างหาก!”
"นั่นคุณวาคินก็แค่เสนอ ยังไม่ได้ถามความสมัครใจของเด็กคนนี้เลยนี่หว่า มึงกล้าให้เด็กมันเลือกมั้ยล่ะว่าอยากจะไปมึงหรือว่ากับกู?"
เฮ้อออออออ ในที่สุดไอ้มินก็เข้าแผนทันที เมื่อกี้ผมเสียววาบเลยนะเนี่ยเพราะนึกว่าพวกมันจะแย่งไอ้เด็กคลื่นกันจริงๆ ซะแล้ว แม่งจริงจังเกิ้นนนนนนนน
"ก็เอาซี้ เด็กคนนี้ต้องเลือกกูอยู่แล้วเพราะว่ากูท่ายากเยอะ แถมยังชอบใช้ของเล่นหรือพวกเซ็กส์ทอยด้วย รับรองเลยว่าถ้าไปกับกูจะได้สนุกกันทั้งคืนไม่มีเบื่อยันเช้าเลยล่ะ" ไอ้คิมพูดจบก็ใช้มือข้างที่ว่างจะไปเชยคางของไอ้เด็กคลื่นขึ้น แต่ก็ถูกเบี่ยงตัวหลบจากร่างเล็กๆ ที่กำลังกลัวจนตัวสั่นสะท้าน
"กะอีแค่เซ็กส์ทอยมันจะไปสนุกอะไร้ ต้องของเล่น SM สิมันค่อยถึงอกถึงใจมากกว่า ครั้งแรกที่โดนมันอาจจะเจ็บและทรมานจนช็อกไม่ก็สลบ เพราะอาจจะกลัวกับเลือดสดๆ ที่ไหลออกมา แต่พอฟื้นขึ้นมาเท่านั้นแหละร่างกายก็จะเริ่มชิน แทบทุกรายต้องอ้อนวอนร้องขอให้กูทำอีกจนสลบอีกรอบไปเลยล่ะ" ไอ้มินแสยะยิ้มทันทีที่พูดจบ ใบหน้านิ่งๆ แลดูโรคจิตขึ้นทันทีจนผมถึงกับเสียวสันหลังวาบ
ส่วนไอ้เด็กคลื่นน่ะหรอ?
หน้าซีดตัวสั่นจนน้ำตาคลอไปเลยล่ะ!
"เอ้าว่าไงล่ะน้อง เห็นเงียบอยู่นานแล้วตัดสินใจได้รึยัง?" ไอ้คิมหันไปถามไอ้เด็กคลื่น
"คะ...คือ...ผม...ผม...ผมไม่อยากไปกับใครทั้งนั้น..." ไอ้เด็กคลื่นพูดจบก็กระชากแขนทั้ง 2 ข้างให้หลุดออกจากการเกาะกุมของไอ้คิมกับไอ้มิน แล้วเอาไปกอดที่อกของตัวเองแน่นด้วยความหวาดกลัว
นี่ผมเล่นแรงเกินไปรึเปล่าวะ?
ชักรู้สึกผิดขึ้นมาแล้วแฮะ
"ไม่อยากไปกับใคร...หมายความว่าเลือกไม่ได้งั้นหรอ? แหม่ ถ้างั้นก็ไม่บอกตั้งแต่แรก ฉันไม่มีปัญหาหรอกนะถ้าต้องเล่น 3P กับไอ้มิน...ว่าไงมึง? เด็กมันอยากเล่น 3P มึงสนใจรึเปล่า?" ไอ้คิมหันไปถามไอ้มินแล้วยกยิ้มที่มุมปาก
"ก็ได้ไม่มีปัญหา จริงๆ ทั้งท่ายากทั้งของเล่นที่มึงชอบใช้ มันก็เข้ากับกูที่ชอบใช้ของเล่น SM อยู่เหมือนกัน" สิ้นคำพูดของไอ้มินเท่านั้นแหละ น้ำตาของไอ้เด็กคลื่นที่พยายามกักเก็บเอาไว้ก็พังทลายลงมาทันที
"มะ...ไม่เอานะ! ผมไม่ไปกับพวกคุณเด็ดขาด!” ไอ้เด็กคลื่นพูดจบก็รีบโผเข้ากอดผมแน่นอย่างเป็นที่พึ่งสุดท้าย ก่อนจะพูดขึ้นอีกด้วยเสียงอันสั่นเทาว่า...
“ผมขอโทษนะคุณคิน อย่ายกผมให้คนพวกนั้นเลยนะ ผมจะยอมเชื่อฟังคุณทุกอย่างเลย ผมกลัวแล้ว ผมยังไม่อยากตาย ฮือออออออ..." ไอ้เด็กคลื่นปล่อยโฮออกมาดังลั่น ไม่มีมาดของเด็กจอมพยศและอวดดีอย่างที่เคยเป็นเลยสักนิด ตอนนี้ผมรู้สึกผิดและสงสารมันมากจนอยากจะสารภาพและขอโทษ แต่ว่ามาถึงขั้นนี้แล้วผมจะยอมแพ้แล้วถอยกลับหลังไม่ได้ ไม่อย่างนั้นมันก็ได้เกลียดผมเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเลยน่ะสิ
"นายจะยอมเชื่อฟังฉันทุกอย่างเลยงั้นหรอ?” ผมแอบยิ้มเบาๆ เมื่อสมองเริ่มฉายภาพอันยั่วยวนของไอ้เด็กคลื่นเวลาอยู่บนเตียง อย่างนี้สิค่อยคุ้มค่ากับที่ลงทุนคิดแผนการขึ้นมาหน่อย เพราะถ้าเทียบกับไอ้คิมและไอ้มินที่เล่นบทโรคจิตวิตถารแล้ว อย่างผมเนี่ยก็ถือว่าธรรมดาแถมยังอ่อนโยนเลยด้วยซ้ำ
"ใช่แล้ว ผมยอมทุกอย่าง แต่ขออย่างเดียวคุณอย่าส่งผมไปให้คนพวกนั้นเลยนะผมขอร้อง" ไอ้เด็กคลื่นกอดผมแน่นอย่างหวาดกลัว ส่วนเนื้อตัวก็สั่นสะท้าน ในขณะที่น้ำตาก็ยังคงไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ไอ้มินกับไอ้คิมนี่ตีบทแตกจริงๆ
"เอาล่ะๆ หยุดร้องซะ แล้วฉันจะลองคุยกับคุณรามินทร์และคุณคิมหันต์ดูให้" เท่านั้นแหละไอ้เด็กคลื่นก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มทั้งน้ำตาทันที แววตาของมันดูซึ้งใจมากที่ผมยอมทำตามที่มันร้องขอ
ไหนๆ ผมก็ทำคะแนนได้ถึงขนาดนี้แล้ว ผมเลยแสร้งทำตัวเป็นคนดีแล้วเช็ดน้ำตาให้ไอ้เด็กคลื่นด้วยซะเลย ไอ้มินกับไอ้คิมเลยเบ้ปากแล้วกลอกตามองบนขึ้นมาพร้อมกัน
ผมทำเป็นไม่เห็นแล้วบรรจงเช็ดน้ำตาให้ไอ้เด็กคลื่นอย่างอ่อนโยน ตอนนี้ผมคงโดนไอ้มินกับไอ้คิมตราหน้าอยู่ล่ะว่าเป็นคนเลว แต่เรื่องนั้นผมก็ไม่สนใจหรอก แค่ได้รอยยิ้มแรกของไอ้เด็กคลื่นตอบแทนกลับมามันก็คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มแล้ว
ถ้าเป็นคนอื่นผมคงไม่เสียเวลาคิดแผนการที่มันยุ่งยากเพื่อที่จะหลอกเคลมแบบนี้แน่นอน ส่วนอาการที่ดีใจจนแทบเนื้อเต้นเมื่อได้รับแค่รอยยิ้มหวานๆ ตอบแทนกลับมา มันก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่
แต่กับไอ้เด็กคลื่น ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันถึงทำให้ผมเป็นแบบนี้ได้ ถึงแม้มันจะแค่ยิ้มให้ผมอย่างเดียวโดยไม่รับปากว่าจะยอมเชื่อฟังทุกอย่างผมว่ามันยังคุ้มอยู่ดี ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้มีอิทธิพลกับหัวใจของผมขนาดนี้นะ? หรือว่าผมแค่อยากเอาชนะมันอย่างเดียวเท่านั้น?
แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นแค่เมื่อคืนที่ผมได้มันผมก็ต้องพอใจแล้วสิ ไม่เห็นต้องลงทุนคิดแผนการเพื่อที่จะทำให้มันยอมศิริโรราบกับผมแบบนี้เลย หรือถ้าอยากจะสั่งสอนมัน ผมก็แค่เอามันไปเสนอขายให้กับผู้ชายที่มีรสนิยมชอบกินเด็กจริงๆ ไม่ใช่ให้เพื่อนสนิทมาช่วยแกล้งแสดงละครแบบนี้หรอก
แต่อย่าว่าจะให้เอาไอ้เด็กคลื่นไปเสนอขายให้ใครเลย แค่ไอ้มินกับไอ้คิมจับมือถือแขนของมันนอกเหนือจากที่ตกลงกัน มันก็ทำให้ผมหึงจนแทบหน้ามืดและร้อนเป็นไฟขึ้นมาอยู่แล้ว ผมอยากจะเก็บไอ้เด็กคลื่นเอาไว้คนเดียว ไม่อยากให้ใครหน้าไหนมาแตะต้องหรือว่าล่วงเกินทั้งนั้น!
ความรู้สึกหึงหวงจนเกินควบคุมแบบนี้มันคืออะไรกันแน่? ตั้งแต่เกิดมาจนป่านนี้ผมยังไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้ง
ผมว่าผมต้องรีบหาคำตอบให้ได้โดยเร็วซะแล้วล่ะ!
2BC
สวัสดีค่ะรีดเดอร์ที่น่าร้ากทุกคน Love friend ตอนที่ 12 ก็จบลงไปแล้วน้า อ่านตอนนี้จบแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างเอ่ย? สงสารน้องคลื่น? เกลียดพี่คิน? หรือว่ายิ่งกรี๊ดพี่คินหนักมากขึ้นไปอีก?
อยากรู้จริงๆ ว่า #ทีมพี่คินคนหื่น กับ #ทีมน้องคลื่นผู้น่าสงสาร ทีมไหนจะมีเยอะกว่ากันน้อ?
ส่วนตอนนี้ก็มีตัวประกอบสุดหล่ออย่างมินและคิมโผล่มาด้วย ก็ไม่รู้ว่ายังจะจำ 2 คนนี้กันได้อยู่มั้ยโดยเฉพาะคิมที่ไม่มีบทมาแจมเลยนานมากกกกกกกก แต่ถ้าคิดถึงสักนิดเค้าก็จะดีใจมากๆ เลยค่า
แต่ตอนหน้าเรายังไม่แน่ใจเลยว่าจะสามารถอัพให้ได้วันไหน แต่คิดว่าคงไม่เกินวันอังคารหรอกค่ะส่วนใครที่เรียกร้องอยากอ่าน NC อืม...รอลุ้นเอาละกันเนอะ แล้วเจอกันนะคะทุกคน บ๊ายบายค่า
ปล.ขอขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะคะที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้ รวมไปถึงคนที่เข้ามาอ่านใหม่
คนเม้น ไลค์ แล้วก็เข้ามาเม้ามอยกับเราที่แฟนเพจด้วยนะคะ ทุกคอมเมนท์ที่ได้เราทำให้เรามีความสุขมาก ยังไงก็ขอให้ติดตามเรื่องนี้ไปจนจบด้วยนะคะ กอดดดดดดด
ปล.เนื่องจากเรื่องนี้กำลังจะเปิดพรีออเดอร์ เราเลยสอบถามเรื่องการทำ box ใส่นิยายทั้ง 3 เรื่องที่อยู่ในซีรีส์เดียวกัน เพราะงั้นรบกวนช่วยเข้ามาตอบแบบสอบถามในลิงค์นี้กันด้วยนะคะ http://goo.gl/forms/sMaYrm8juqPIgrAu1 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
(30 ก.ค. 59)
คลื่นน่าร๊ากกกกกกกก
#ทีมน้องคลื่นผู้น่าสงสาร
อยากได้น้องแต่ดั้นฟอร์มจัดใช่เรื่องปะพี่คิน นี้ถ้ารู้ว่าคลื่นไม่ได้ทำอะไรวินแถมเป็นคนคอยช่วยวินอีกพี่จะทำอย่างไงคะพี่คิน จะง้อน้องอย่างไงคะ