ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All Yaoi Fictions

    ลำดับตอนที่ #41 : S Fic : Daiya no ace [Misawa] | College life | 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.85K
      29
      15 เม.ย. 63

    S Fic    : Daiya no ace [Misawa] | College life | 2 [END] 

    Pairing : Miyuki Kazuya X Sawamura Eijun

    Talk :  ต้องการให้เป็นเรื่องหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามหาลัยไปแล้ว เข้ามาแล้ว ชอบพล็อตแนวแบบหึงๆหวงๆ ส่วนตัวชอบคนหึงโหดๆด้วย ไม่ต้องห่วงว่าทำไมมันซ้ำๆ55

     

    พลัก!  

    เสียงวัตถุกลมๆสีขาวลอยมากระทบกับถุงมือคู่ใจสีน้ำตาลของแคชเชอร์หนุ่มแว่นดังขึ้นลั่นสนามฝึกซ้อม อินนิ่งนี้ทีมเขาสามารถทำสไตรค์เอ้าท์3ทีติด ก่อนร่างสูงลุกขึ้นยืน วิ่งไปถอดอุปกรณ์แคชเชอร์ออก และใส่อุปกณ์ป้องกันสำหรับแบตติ้งท์มาแทน ขายาวๆก้าวขึ้นมาบนสนาม พร้อมๆกับเสียงกรื้ดกร๊าด จากสาวๆในมหาลัยจะดังขึ้น กระหึ่ม

    “มิยูกิซาม๊าาา”

    “มิยูกิเซมไปปป สู้เขานะค้า”

    “แบตเตอร์คนนั้นใครเหรอ?”

    “บ้าน่า ไม่รู้จักเหรอ คนๆคือ มิยูกิ คาซึยะไง”

    เสียงของสาวๆกรื้ดกร๊าดพูดคุยกันไม่หยุดก่อนที่สนามจะเข้าสู่ความเงียบอีกครั้งเมื่อเกมส์กำลังดำเนินไปถึงจุดสำคัญ ทูเอ้าท์

     

    แคร้ง!!

     

    เสียงไม้กระทบกับลูกเบสบอลอย่างเฉียบคม พร้อมเสียงเฮดังขึ้นทั้งสนาม แขนแกร่งเหวี่ยงไปสุดแรง ราวกับระเบิดความโมโหใส่การแบตติ้ง เอาจริงๆ ทุกคนในทีมรู้ว่านั่นมันคือการระเบิดความโมโหอยู่จริงๆ

     

    “มาแล้ว 2runs Homerun มิยูกิ คาซึยะ ตีซาโยนาระโฮมรัน ปิดฉากเกมส์ได้อย่างสวยงามครับท่านผู้ชม

    เสียงเฮดังลั่นสนามหลังจากลูกบอลขาวๆนั่นจะลอยไปถึงอีกฝั่งของรั้ว  ขาสองข้างก็ยังคงวิ่งไปมุ่งหน้าไปโฮมเพื่อให้เกมส์จบจริงๆ ระหว่างกำลังวิ่งไปนั้น มิยูกิคิดว่าถึงมันจะเป็นเรื่องไม่ดีที่ใช้อารมณ์ในการหวดลูกกลับไป แต่ถ้าหากเขาไม่ได้ดึงทีมให้ตกต่ำลงมาก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร

                ใบหน้าคมหันมองไปทั่วสนาม ยิ่งคิดไปถึงเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลธรรมชาติที่ควรจะมาเชียร์เขาข้างสนามวันนี้ แต่กลับส่งข้อความมา บอกเป็นนัยน์ว่ามาไม่ได้แล้วมันรู้สึกหงุดหงิดชอบกล

     

    [ ขอโทษนะ มิยูกิ ] ซาวามูระ เอย์จุน

     

    “เฮ้อ นายจะไม่มา มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกนะเอย์จุน”

    “ที่มีปัญหามันพวกเพื่อนๆ นายต่างหาก”

     

                มือหนาเสยผมสีน้ำตาลเข้มของตนเอง ก่อนจะถอนหายใจยาวๆ สองมือถอดเสื้ออันเดอร์เชิร์ตชุ่มเหงื่อที่แนบตัวออก เผยให้เห็นซิกแพ็คบนหน้าท้องแบนราบนั่น พร้อมกับเดินเข้าห้องอาบน้ำไปท่ามกลางความงุนงงของเพื่อนๆในทีมที่อยู่ในห้องเปลี่ยนชุดนั้น

    เรื่องกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นมามันไม่แปลกเลยเพราะยิ่งเข้าทีมระดับนี้แล้วเขาจำเป็นจะต้องสร้างกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มสมรรถภาพในการเล่น และความแข็งแรงของตัวเขา หลังจากเสร็จการแข่งนี้ เขาหวังจะไปหาเจ้าตัวแสบของเขาที่ไม่ได้เจอกันตั้งแต่เช้า เพราะว่ามิยูกิไม่อยากจะปลุกเจ้าคนตัวเล็กจากช่วงเวลานิทราที่แสนสุข หลังจากเตรียมอาหารเช้ากับ ไม่ลืมทิ้งโน้ตไว้บนโต๊ะ เขาเลยออกมาแบบเงียบๆ แต่เขาไม่คิดว่า เจ้าแฟนตัวดีของเขาจะเบี้ยวนัดมาดูการแข่งของเขาในวันนี้เลยแม้แต่น้อย

                เขาพบเจอมาบ่อย ทั้งพวกผู้หญิงที่พยายามจะเข้าหาเขาผ่านทางเอย์จุน และนั่นก็น่ารำคาญมากเพราะสุดท้ายแล้วซาวามูระจะโกรธเขา แต่ถ้าหากพูดถึงเจ้าพวกผู้ชายที่ส่งสายตาหวานๆใส่ร่างบางนั่น ไม่ว่าจะหน้าไหนๆก็เหมือนกันหมดทั้งนั้น

    เขาไม่คิดเลยว่าซาวามูระจะเนื้อหอมทั้งๆที่ตอนอยู่ชมรมเป็นแค่เจ้าบ้า ที่ซื่อบื้อ แต่เขาต้องคิดใหม่ไม่เข้าใจเหมือนกัน ด้วยความที่คนตัวเล็กของเขาเป็นเหมือนกับศูนย์กลางของผู้คน คงทำให้ใครหลายๆคนรู้สึกสบายใจเวลาอยู่ด้วย

                แต่มิยูกิไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามกับคนของเขา เมื่อใดก็ตามที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ซาวามูระ เอย์จุน หนุ่มรุ่นน้องคนรักของเขา มิยูกิเป็นคนฉลาด และรอบคอบ

    เขามักจะหาทางกันคนที่พยายามเข้ามาจีบหรือตีสนิทกับร่างบางได้อย่างแนบเนียนแบบไร้ที่ติเสมอ แต่มันก็จะมีพวกที่ไม่เกรงกลัวเขาแต่อย่างใด และคนเหล่านี้ก็ดูเหมือนไม่มีวี่แววเลยว่าจะเลิกยุ่งกับของๆเขา

                น้ำเย็นฉ่ำไหลผ่านร่างกายที่ร้อนรุ่มจากการแข่ง ผมสีน้ำตาลลู่ลงติดกับใบหน้าคมที่ตอนนี้ไม่ได้สวมแว่นอยู่นั่น มิยูกิอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมา ออ ลืมบอกไป คุราโมจิ โยอิจิ ก็เรียนที่เดียวกับเขา และยังอยู่ทีมเดียวกันเหมือนเดิมด้วย ชายหนุ่มผิวแทนเดินเข้ามาตบหลังเขาดังสนั่น ก่อนเพื่อนร่วมทีมหลายๆคนจะเดินเข้าคุยกับเขา ตอนนี้เขาไม่ใช่กัปตันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

                “ย๊า เจ้ามิยูกิ ลูกสุดท้ายนั่นทำเอาตกใจหมดเลย หวดลูกยังกับจะหวดหน้าใครอย่างไงอย่างงั้น”

                เจ้าเพื่อนตัวดีกล่าวแซว ก่อนจะโอบไหล่มา ในระยะที่ชิดกันมาก และเริ่มต้นบทสนทนาที่ได้ยินกันเพียงแค่2คน

                “เจ้าซาวามูระ ไปทำอะไรอีกล่ะ?”

    ชายหนุ่มกระซิบถามเพื่อนตนเองที่กำลังหยิบแว่นมาใส่ หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว

                “...” ไม่มีเสียงตอบรับ คุราโมจิมองตามสายตาของหนุ่มแว่นไป ที่โทรศัพท์สีเข้มที่มีพวงกุญแจเบสบอลที่เขารู้ดีว่าเป็นของใครให้มา ก่อนที่แคชเชอร์หนุ่มจะได้เช็คโทรศัพท์นั้น เสียงฮือฮาจากประตูหน้าห้องเปลี่ยนชุดก็ดังขึ้น พร้อมกับแว่วเสียงโหวกเหวกอันคุ้นเคยแว่วๆมา เขาแทบจะหันกลับไปมองตรงประตูแทบจะไม่ทัน ปรากฎให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยกำลังทำหน้าลำบากใจอยู่ ท่ามกลางฝูงเพื่อนร่วมทีมของเขา

    “ซาวามูระจัง วันนี้มาดูการแข่งด้วยเหรอ”

    “ไหนบอก ไม่อยากเห็นแมชท์ที่ตัวเองไม่ได้เล่นไง ฮ่าๆๆ”

    เสียงทักทายดังขึ้นไม่หยุดหย่อน ซาวามูระเข้ามหาลัยมาด้วยทุนเบสบอลเหมือนเขาก็จริง  แต่เด็กหนุ่มร่างเล็กอยู่คนละสายกับเขา คิ้วเข้มกระตุกอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าไม่รู้เมื่อไหร่ที่เจ้าเพื่อนสนิทอย่างคุราโมจิ วิ่งไปล็อกคอน้องชายตัวดีของเจ้าตัว ก่อนจะลากมาตามทิศทางที่เขานั่งอยู่

    “หวาาา คุราโมจิเซมไปป ซาวามูระ ร้องเสียงหลงเมื่อทรงตัวไม่ได้

     

    “เอ้า ของขวัญทำโฮมรันวันนี้ได้ ก๊ากๆ”

    คุราโมจิว่าพลางผลักเจ้าน้องชายตัวเองให้เข้าไปหาเพื่อนรักที่ทำหน้าแปลกใจ

     

    “เลิกทำหน้าอย่างนั้นได้แล้ว จะแปลกใจอะไรนักหนา ” ชายหนุ่มว่า พลางหัวเราะตบหลังเจ้าน้องชายก่อนจะเดินไป ที่ล็อกเกอร์ของตนเอง

     

    “มิยูกิ” เสียงหวานๆเรียกชื่อ ของคนตรงหน้า นัยน์ตากลมโตสบกับตาคมผ่านแว่นตรงหน้า ก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างๆ พร้อมชูหมวกที่ตนใช้ใส่ตอนดูการแข่งเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนให้อีกฝ่ายดู เป็นหลักฐานว่าเจ้าเด็กนี่ไม่ได้เบี้ยวนัดเขา

    “........” เงียบไม่มีเสียงตอบรับมาจากคนตรงหน้า

    “เฮ้ๆ ฉันรู้ว่าฉันมาทันแค่ครึ่งเดียว นี่ฉันรีบจัดการธุระแล้วนา”

    “นายไม่เห็นต้องเงียบแบบนี้เลย”

    ซาวามูระ เห็นคนตรงหน้าไม่พูดก็รู้สึกผิดขึ้นมา ถึงเขาจะพยายามเคลียร์งานให้เสร็จแล้ววิ่งมาที่สนามของมหาลัยแล้วก็ตาม เขาไม่ใช่คนชอบผิดนัดเขารู้ดี ความเงียบผ่านไปสักพักก่อนที่ร่างสูงตรงหน้าจะทำลายความเงียบนั้นลง

     

    “นายนี่มัน...” มิยูกิรู้ว่าซาวามูระถ้าสัญญาแล้วต้องเป็นสัญญา ต่อให้เจ้าเด็กตรงหน้านี่เบี้ยวนัดเขา เขาก็ไม่โกรธ แต่พอรู้ว่าคนๆนี้ มาดูการแข่งของเขาตามที่บอกไว้ตอนแรกก็อดดีใจไม่ได้ หมอนี่มันน่ารักที่สุด

                มือเรียวคว้าคอคนตรงหน้ามาก่อนจะยีผมสีน้ำตาลนุ่มด้วยความหมั่นเขี้ยว บรรยากาศที่ดูมาคุตอนแรกก็ผ่อนลง จนเพื่อนร่วมทีมรู้สึกได้ อีกมือล็อกคอก่อนจะโอบใบหน้าที่กำลังอึกอักของคนตรงหน้ามาซบกับไหล่เขา มิยูกิชอบกลิ่นหอมบางๆของซาวามูระ มันทำให้เขาผ่อนคลาย

     

    “ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย มิยูกิ คาซึยะ คนเยอะ” ซาวามูระโวยวายพลางดันตัวเองออกมา แยกเขี้ยวขู่ฟ่อๆ แต่ใบหน้าแดงเป็นสีมะเขือเทศ

    “หะหะ ” มิยูกิหัวเราะแห้งๆสั้นๆ แว่นใสๆสะท้อนแสง กับยิ้มที่กว้างแต่ดูกวนประสาทร่างเล็กตรงหน้า

    “งั้นก็ถ้าเป็นที่คนไม่เยอะก็ทำได้ใช่ไหม หืม?”  เสียงยียวนกระซิบกับคนตรงหน้าข้างๆหู ก่อนที่ซาวามูระที่หน้าแดงอยู่แล้ว แทบจะแดงเพิ่มขึ้นไปอีก

    “ฮ่าๆ ล้อเล่นน่า รอฉันแปปนึง เก็บของจะเสร็จแล้ว” แคชเชอร์หนุ่มกล่าวก่อนจะลุกขึ้นมาเตรียมตัวเก็บของไป พร้อมกับคุราโมจิที่เดินเข้ามาสมทบ

     

    “หึหึ” เสียงทุ้มหัวเราะในคอ มองหน้าน้องชายตัวเองที่กำลังทำหน้าไม่ไว้วางใจ พลางตั้งการ์ดรับมือคนตรงหน้า

    “อะไรเล่า” เด็กหนุ่มตัวเล็กกว่าว่า หันไปคุยกับรุ่นพี่ผมดำเหลือบเขียวตรงหน้า

    “เปล๊า” พร้อมๆกับเสียงสูงๆที่ดังตอบกลับมา

    ไม่นานเจ้าคนที่บอกว่าไปเก็บของเมื่อนาทีก่อนก็เดินเข้ามา พร้อมกับพูดเป็นเชิงว่าไปกันได้แล้ว พร้อมทำหน้าประมาณว่าเหนื่อย หิวจะแย่

    ชีวิตของพวกเขาดำเนินไปเหมือนคนปกติทั่วไปคนส่วนใหญ่ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับซาวามูระ ด้วยเหตุผลที่ว่าเจ้าตัวขอไว้ไม่อยากให้มันเปิดเผยมากไป ซาวามูระรู้ว่ามิยูกิฮ็อตขนาดไหน และมีคนชอบมิยูกิมากมายไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงวัยไหน พูดไปแล้วทั้งการเรียน เบสบอล หน้าตาคนตัวสูงมีทุกอย่างพร้อม เขารู้ดีแต่ก็อดห่วงไม่ได้ กลัวว่าวันนึงมิยูกิจะเบื่อ และทิ้งเขาไป

                 ชีวิตประจำวันของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากหลังจากซาวามูระย้ายมาอยู่กับเขา เพียงแต่มิยูกิ คาซึยะรู้สึกเติมเต็ม จากที่ห้องที่เขาเช่าไว้ใกล้ๆมหาลัยให้ความรู้สึกเย็นเคว้งคว้างไม่น่าอยู่ ตอนนี้เวลาเขากลับมาจะรู้สึกอบอุ่นเสมอ เวลาที่ได้กลับมาที่ห้องที่เป็นเหมือนโลกส่วนตัวของเขากับคนตัวเล็ก

    แต่วันนี้มันเป็นอีกวันที่เขารู้สึกว่าห้องมันเย็นเหมือนเดิม

                สายตาคมมองไปที่วางรองเท้าที่ปกติจะมีรองเท้าสีขาวคู่โปรดของเจ้าตัวดีของเขา วันนี้มันว่างเปล่า ตาเหลือบมองนาฬิกา นี่ก็เย็นมากแล้ว ตั้งแต่เขาออกจากห้องเรียนมา มันก็เย็นมากแล้ว กว่าเขาจะเดินมาถึงห้อง ท้องฟ้าข้างนอกก็แทบจะมืดสนิท มือเรียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดดูข้อความ

     

    [ไม่มีข้อความ]

     

    ไม่มีแม้แต่สายโทรเข้า หรือข้อความ นั่นทำให้แคชเชอร์หนุ่มเริ่มร้อนใจ นิ้วเรียวยาวกดเบอร์ที่คุ้นเคยก่อนจะโทรออก ครั้งก็แล้ว สองครั้งก็แล้ว ก็ยังไม่มีใครรับสาย คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากัน ก่อนจะเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า

    ต่อให้พวกเขาจะรักกันแค่ไหน พื้นที่ส่วนตัวก็เป็นสิ่งจำเป็น เขาไม่พยายามบีบคั้นซาวามูระให้ทำอะไร และซาวามูระก็ไม่เคยมาวุ่นวายกับชีวิตของเขา นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาเสมอกัน เขารู้ว่าซาวามูระก็โตแล้ว พอที่จะดูแลตัวเองได้ แต่ก็แล้วแต่สถานการณ์ละนะ

    เสียงเรียกเข้ามือถือของเขาดังขึ้น ทันทีที่เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่คลุมร่างกายเอาไว้ นิ้วเรียวยาวกดรับสาย ก่อนเสียงคุ้นเคยจะดังผ่านสายโทรศัพท์นั่นมา

    “มิยูกิ..”

    เสียงเพรียกหาชื่อเขาหากแต่เสียงดังๆที่ดังเข้ามาแทรกนั้นดูเหมือนจะอยู่ในร้านอะไรสักอย่าง ทำให้เขาได้ยินเด็กหนุ่มปลายสายไม่ชัด ก่อนจะมีเสียงโหวกเหวกโวยวาย

                “คุราโมจิเซมไป อ๊ะ เฮ๊ย เอาคืนมานะ” เสียงใสๆโวยวายผ่านหูโทรศัพท์ ซาวามูระมักโดนแย่งโทรศัพท์ไปโดยฝีมือคุราโมจิเสมอ

                “โอ่ย มิยูกิ แกอยู่ไหน ไม่มาเหรอ วันนี้พวกเรานัดฉลองกับทีมไง?”

    เสียงทุ้มเป็นเอกลักษณ์ของเพื่อนสนิทเขาดังผ่านสายมา ..ฉลอง.. ก่อนเขาจะนึกขึ้นได้ ก็ว่าแล้วปกติซาวามูระไม่เคยไม่บอกเขาถ้าจะไปไหนดึกๆดื่นๆ วันนี้ทีมที่มหาลัยนัดเลี้ยงฉลองเด็กรุ่นน้องสมาชิกทีมใหม่ หลังจากที่เลื่อนมาหลายครั้ง

                “หนอยแหนะแก เงียบแบบนี้ลืมใช่ไหม ได้ถ้าไม่รีบมาซาวามูระโดนมอมตายแน่ เคี้ยกๆๆ ฮ่าๆ”

     

    “ตื๊ดๆๆ”

    ทิ้งระเบิดไว้ก่อนที่จะวางสายไปอย่างหน้าตาเฉย มิยูกิรู้สึกอยากถีบเพื่อนสนิทก็คราวนี้

    ไว้ใจคุราโมจิได้ แต่เจ้าคนตัวเล็กนั่นน่ะน่าเป็นห่วง แม้จะเป็นนักกีฬาแต่ความสามารถในการรองรับแอลกอฮอล์ต่ำกว่าคนปกติ และถ้าหากคนรอบเชียร์ให้ดื่ม ความที่เป็นซาวามูระหมอนั่นก็จะไม่ยอมแพ้ ดื่มจนไม่ดูลิมิตของตัวเองทุกครั้งไป แถมเจ้าหมอนั่นพอขาดสติแล้วจะทำอะไรก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆถ้าอยู่กับพวกเพื่อนร่วมทีมเขาที่ไม่ใช่คุราโมจิไม่ดีแน่ๆ             เขารู้เรื่องนี้ดีเพราะเขาค้นพบเรื่องนี้ครั้งแรกที่ดื่มเบียร์ และดูหนังด้วยกันที่ห้อง เขายังโล่งใจเลยว่าดีนะที่พวกเขาดื่มกันที่ห้อง ไม่ใช่ที่สาธารณะที่ไหน

                มือหนาคว้าเสื้อผ้ามาใส่อย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมที่จะรีบคว้ากระเป๋าตังมาแล้ว มุ่งหน้าไปที่ร้านที่เป็นจุดนัดหมาย มองนาฬิกาก็หนักใจ เพราะคงเริ่มดื่มกันไปสักพักใหญ่แล้ว

    ในใจก็คิดไปถึงเรื่องราวคืนที่ซาวามูระดื่มเบียร์ครั้งแรก

     

                “ไหนๆ ก็อายุถึงแล้ว ฉันอยากลองดื่มเบียร์ดูหน่อย” ระหว่างทางเดินกลับห้องพิชเชอร์หนุ่มโพล่งขึ้นมา ก็จริงที่คนข้างๆมาอยู่มหาลัยสักพักแล้วและอายุก็ถึงแล้วด้วย

     

    “ฮ่าๆ นายเนี่ยนะ ยังเร็วไปสิบปี ไอ้หนู”

    “อ่า แต่นายก็ทำเรื่องเกินอายุกับฉัน ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วนี่ ทั้งนั่น ทั้งนี่ คิคิ”

                ใบหน้าหล่อหันมาทำหน้ากวนๆ พูดจาสองแง่สองง่ามใส่คนข้างๆ มุมปากยกยิ้มแบบมีเลศนัยน์ ก่อนจะปิดปากแล้วขำเบาๆ “ฟุฟุ”

     

    “ว่าไงนะ มิยูกิ คนลามก!! หนอยทีนายยังไปเที่ยวสังสรรค์ได้เลย”

                เสียงใสๆโวยวาย จิ๊ปาก บ่นพึมพำเบาๆในประโยคสุดท้าย

    “หืมม ถ้าอยากขนาดนั้น คืนนี้แล้วกัน” จบประโยคตาใสๆนั่นก็แวววาวขึ้นมาทันที มือหนาโอบคนข้างๆเข้ามาให้ชิดตน ก่อนจะจับมือเล็กๆนั่นไว้เพื่อให้อากาศที่หนาวเย็นคลายหนาวลงบ้าง

                มิยูกิเป็นคนเข้าสังคมอยู่แล้วตั้งแต่เข้ามหาลัยมา ความนิยมเขาจึงเพิ่มขึ้นสูงในหนึ่งปีที่ผ่านมา แต่เขาไม่ได้มีเป้าหมายใดๆเพราะว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว การที่ซาวามูระอยากลองกับเขาก็เป็นสิ่งที่ดี คนตรงหน้าจะได้ผ่อนคลายลงบ้าง

    “จริงเหรอ? ฮ่าๆๆ แล้วนายจะต้องก้มลงแทบเท้าของฉันมิยูกิ ฮ่าๆๆ”

                เด็กหนุ่มกล่าวพร้อมกับกอดอกหัวเราะอย่างสะใจ พลางคิดว่ามิยูกิต้องเมาแล้วสยบแทบเท้าตนเอง

    “จ้าๆ แวะซื้ออะไรกินก่อน กลับห้องก็แล้วกัน”

                ร่างสูงว่าพลางแวะเข้าร้านขายของสดแถวใกล้ๆห้องของพวกเขา ก่อนจะซื้อเบียร์จำนวนหนึ่งติดขึ้นห้องไปด้วย มิยูกิเป็นนักกีฬา เขาจึงไม่ชอบกินอาหารหรือขนมในร้านสะดวกซื้อเสียเท่าไหร่ อีกอย่างซาวามูระชอบให้เขาทำอาหารให้กิน เจ้าตัวให้เหตุผลว่าถ้าเขาทำให้จะเติมกี่ครั้งก็ได้ ให้กินแบบแพงๆตามร้าน หรือปริมาณน้อยแบบร้านสะดวกซื้อในเวลาที่มีมิยูกิอยู่ เขาไม่เอา

    “ว้า หนาวๆๆ ”

                ซาวามูระวิ่งเข้าห้องอาบน้ำไป ในขณะที่เขาเตรียมอาหาร ตอนนั้นอากาศในช่วงต้นปีมักเย็นมากเสมอ เสียงแว่วๆจากน้ำในห้องน้ำดังมาเบาๆ คลอกับเสียงเพลงที่เจ้าเด็กตัวดีของเขาชอบร้องฮึมฮำ ร้องเป็นอยู่เพลงเดียวหรือยังไง เนไรอุจิ

                “น้ำอุ่นพร้อมแล้วนะ” เสียงแว่วๆมาจากห้องน้ำ

    เวลาผ่านไปสักพัก เขาเตรียมอาหารเสร็จ พร้อมๆกับที่ร่างบางในกางเกงบ็อกเซอร์ตัวสั้นกับเสื้อสีขาวเดินออกมา ผิวใสๆที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูจากการแช่น้ำมานาน กับผมที่เปียกลู่ไปกับใบหน้าหวานน่ารักนั่น มองการแต่งตัวแล้วเมื่อกี้บ่นว่าหนาวไม่ใช่หรือไง หรือฮีทเตอร์จะแรงไป

               

    “โฮ่ย ซาวามูระ ไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยสิ”

    เสียงทุ้มกล่าวเตือนร่างตรงหน้า เขาไม่อยากให้ร่างตรงหน้าเป็นหวัด

    “กำลังสบายเลยแบบนี้” ร่างบางว่าพลางเป่าผมตัวเองให้แห้ง

     

    “หรือว่ากำลังยั่วฉันอยู่เหรอ ใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวหลังอาบน้ำขนาดนี้”

    ซาวามูระหันมาสบกับสายตาโลมเลียจากหัวจรดเท้า เป็นสิ่งกระตุ้นให้เจ้าเด็กตัวดีวิ่งกลับห้องนอนไปหยิบกางเกงขายาวมาใส่ ร่างบางหน้าแดงพลางเดินกลับมาพึมพำๆ

    “นายคิดเรื่องอื่นเป็นไหม มิยูกิ” ใบหน้าหวานหันมาค้อน หลังจากเป่าผมเสร็จ

    “หึหึ เอ้า เสร็จแล้วกินข้าวๆเพราะ คืนนี้ยังอีกยาว”

    โดยที่มิยูกิไม่รู้เลยว่า สิ่งที่เขาพูดไปมันจะยาวนานจริงๆ คืนนั้น..

                ไม่รู้ไปๆมาๆ จากที่นั่งดื่มกันอยู่ เจ้าเด็กเสียงนั่นก็เริ่มสงบลงพร้อมกับแสดงอาการแปลกๆ ราวกับเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แก้มใสๆเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีชมพู ตาที่เริ่มหยาดเยิ้ม สติที่เริ่มเลอะเลือน

                “ร้อนนน” เสียงใสๆครางก่อนมือเล็กๆปลดกางเกงขายาวนั่นออก เผยให้เห็นกางเกงบ็อกเซอร์แนบตัวที่เจ้าตัวใส่ไว้ก่อนหน้านี้ มิยูกินั่งมองภาพนั้น หากตอนแรกก็รู้สึกขำๆที่เจ้าเด็กนี่กินเบียร์จนเมาได้แต่ที่กินไปก็ไม่ใช่ปริมาณน้อย เขาเองก็เริ่มรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนๆเหมือนกัน

    “เหวอ..”

    ก่อนจะรู้สึกตัวตัวเขาก็ถูกแรงดึงไม่ใช่น้อยๆของคนข้างๆก็ดึงให้เขาลุกขึ้นจากที่นอนดูทีวีอยู่ ลุกขึ้นมานั่งดีๆ ริมฝีปากร้อนๆแทบจะประกบเข้ากับริมฝีปากของคนที่นั่งอยู่แทบจะทันที ลิ้นร้อนๆแทรกเข้ามาในปากของร่างสูงกว่าลิ้นสากร้อนขยับราวกับควานหาบางอย่างในปากของเขา มีหรือที่มิยูกิจะไม่ตอบรับจูบสุดอีโรติกตรงหน้า

    “ฮื้อ อ๊ะ...” ร่างบางครางในลำคอ

    เสียงเฉอะแฉะของของเหลวระหว่างปากของทั้งสองคน ดังขึ้นเป็นจังหว่ะระหว่างจูบ มือหนาดึงคนตรงหน้าให้นั่งคร่อมตักของตน ก่อนจะบังคับให้คนตรงหน้าเผยอปากมากขึ้น ลิ้นร้อนไซร้ผ่านปากเจ่อๆของคนที่สติดูท่าจะเลือนรางตรงหน้า ก่อนจะเลื่อนไปยังต้นคออุ่นๆ จมูกโด่งเป็นสันซุกไซร้ สูดกลิ่นหอมๆที่เขาชอบที่สุดก่อน

    “อื้อ อ้ะ..”

                ฟันคมขบคอสีขาวๆนั่นประทับตาความเป็นเจ้าของ หลายๆจุด ทั้งกัดทั้งขบจน คอขาวๆเริ่มมีสีม่วงๆแดงๆเป็นจุดๆ ช่วงนี้เป็นฤดูหนาวมิยูกิจึงไม่ต้องห่วงเรื่องปกปิดรอยอะไร เนื่องจากเสื้อที่ใส่ก็รัดกุมพอแล้ว

    มิยูกิไม่ได้เปิดฮีทเตอร์แรงขนาดนั้น หากแต่เมื่อครู่เขาได้รับจูบอย่างเร่าร้อนมานั้น ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่ามีไอร้อนออกมาให้เห็น ไอความร้อนของร่างกายพวกเขาทั้งสองคน น้ำใสๆไหลเยิ้มออกมาจากมุมปากเอิบอิ่มนั่น มิยูกิใช้นิ้วหัวแม้มือปากมันออก ก่อนจะมองเข้าไปในนัยน์ตาสีน้ำตาลทองตรงหน้า

    “ว้าว” มิยูกิผิวปากเบาๆ มองภาพตรงหน้า ปกติเขาไม่ค่อยโดนซาวามูระรุกเสียเท่าไหร่ วันนี้เขาโดนหนักเป็นพิเศษ เหตุผลใต้การกระทำนี้ก็คงจะเป็นเบียร์หลายสิบกระป๋องนั่นล่ะ ความแข็งขืนระหว่างขาเขาแทบทำเอาเขาสร่างเมา รู้ตัวอีกทีกางเกงบ็อกเซอร์สั้นๆที่คนตัวเล็กใส่อยู่ก็เริ่มเสียดสีกับกางเกงของเขา มิยูกิกัดฟัน ก่อนที่จะลุุกขึ้นถอดกางเกงของตนออกเหลือเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียวเช่นกัน พร้อมกับปิดทีวีตรงหน้า อุ้มเจ้าเด็กขี้เมาตรงหน้า มุ่งหน้าไปที่ห้องนอน ก่อนจะวางร่างนั้นเบาๆ ระหว่างที่เขากำลังควานหาถุยา กับเจลหล่อลื่นในตู้ข้างๆเตียงนั้น ร่างกายร้อนๆที่ขยับเข้ามานัวเนียเขา ก่อนจะผลักให้เขานั่งลงบนเตียงโดยที่ขาติดพื้นห้อง ก่อนเขาจะรู้สึกถึงลิ้นร้อนๆที่ลากผ่านเนื้อผ้าใต้สะดือเขา

    ...ว้าว.

    มิยูกิอุทานขึ้นอีกครั้งของวันมองคนข้างล่างที่กำลังพยายามปลุกปั่นความเป็นชายของเขา มิยูกิไม่ใช่คนที่จะเสร็จง่ายๆกับเรื่องแค่นี้ แต่ว่าน้ำใสๆไหลเยิ้มรอการปลดปล่อย มองจากมุมนี้แล้วเด็กตรงหน้าดูเซ็กซี่เหลือเกิน สัมผัสอันร้อนลุ่มจากข้างล่างนั้น ยิ่งผ่านไปมิยูกิเริ่มสติกระจัดกระจาย

     “อืม.มม” เสียงทุ้มคราวในลำคอเบาๆ ก่อนที่จะรู้สึกถึงอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง ก่อนน้ำสีขาวขุ่นจะเปรอะเปื้อนบ็อกเซอร์ของตนเอง 

    “แฮ่กๆ” เสียงลมหายใจหนักๆเหนื่อยหอบจากการปลดปล่อย มาพร้อมกับสายตายิ้มแย้มจากคนข้างล่างมองเขา ยังไม่ทันได้พักแต่อย่างใด ตอนนี้เจ้าคนตรงหน้าดึงผ้าบางๆที่ปิดส่วนนั้นของเขาไว้อยู่ออกไป เหลือเพียงแก่นกายของเขาที่ตอนนี้ยังนอนนิ่งสนิท

    มือเล็กๆที่ปกติจะเขินอายทำได้แค่เอื้อมมาโอบคอหรือหลังเขาไว้ วันนี้กลับกำลังเริ่มปรนเปรอส่วนที่แสดงความเป็นชายของเขาใหม่อีกครั้ง คราวนี้ปากนุ่มๆที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนยังคงพร่ำว่าตัวเองคอแข็งนักคอแข็งหนา กำลังโอบแก่นกายที่กำลังขยายตัวของเขาเข้าไปจนสุด ขยับเข้าขยับออก จนเริ่มความเป็นชายเริ่มแข็งสู้มืออีกครั้ง ลิ้นสากร้อนเริ่มไล้เลียตั้งแต่โคนจรดจนปลาย ที่เริ่มมีน้ำใสๆเอ่อ ปากเล็กๆครอบครองส่วนนั้นของเขา ลิ้นเรียวร้อนเลียน้ำนั่นราวกับเป็นน้ำหวาน มือหนาขย้ำผมสีน้ำตาลตรงระหว่างขาตนให้ขยับเร็วและแรงขึ้นพลางกัดปากตนเองเพื่อระงับความรู้สึกต้องการ เขาอยากจะรู้ว่าซาวามูระจะทำอะไรต่อไป  ปากเล็กๆถอนออกมาจากแก่นกายของเขาพร้อมกับน้ำใสๆที่ยืดติดมา ลิ้นเล็กๆแลบออก มองหน้าเขาราวกับวอนขออะไรบางอย่าง

    “มิยูกิเซมไป..”



    “คงสลบไปแล้วสินะ” มิยูกิคิดว่าก็ควรจะเป็นอย่างนั้น เขาค่อยๆจับร่างเล็กๆนั่นอุ้มขึ้นตรงไปที่ห้องน้ำ จัดการทำความสะอาดร่างกายของคนตรงหน้า ก่อนจะพาไปนอนบนเตียงพร้อมๆกัน

    “รักนะ มิยูกิ”เสียงครางบอกรักเขายามหลับยิ่งทำให้เขาอยากจูบคนตรงหน้า แต่วันนี้คงต้องพอเสียแล้วล่ะ

    “ฉันก็รักนาย เอย์จุน” เสียงทุ้มตอบกลับคนที่ไม่ได้สติก่อนที่แขนแกร่งใช้เป็นหมอนหนุนหัวของรุ่นน้องพิชเชอร์ตรงหน้า และผลอยหลับตามไป

    ...ประเด็นอยู่ที่ว่า เช้าวันถัดมา เจ้าบ้านี่จำอะไรไม่ได้สักอย่าง มีแต่บ่นว่าปวดไปหมดทั้งตัว เจ้าตัวจำไม่ได้ ไม่แม้แต่ตอนที่บอกรักเขา หรืออะไรๆที่พวกเขาทำกันเมื่อคืน ถึงแม้ว่าจะเป็นเซ็กที่เขาประทับใจที่สุดครั้งหนึ่งก็ตาม จากนั้นมาเขาก็คิดว่าจะไม่ให้ซาวามูระ เอย์จุนแตะแอลกอฮอล์ต่อหน้าใครเด็ดขาด

    กลับมาที่ปัจจุบัน เขาเพิ่งมาถึงหน้าร้านที่นัดเอาไว้ พอเปิดประตูเขาไป ก็เห็นภาพเจ้าเพื่อนสนิทตัวดีนั่งอยู่ โดยมีคนที่ได้ยศว่าเป็นน้องชายนั่งคร่อมอยู่ โอบคอใกล้ชิดสนิทสนม ใบหน้าหวาน ดวงตาหยาดเยิ้มสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนั่นเขารู้เลยว่า เมาแล้วแน่นอน..

    “นั่นไง ว่าแล้ว”

    ขายาวๆรีบสาวเข้าไปประชิดสองคนนั้นก่อนที่เขาจะแยกร่างสองร่างนั่นออก

    “มิยูกิเซมไป ชอบนะ” เสียงกระซิบเบาๆข้างหูของหนุ่มกำยำเพื่อนสนิทตัวเอง กระซิบแต่ก็ดังพอที่เขาจะได้ยิน ...เห้ๆ ตาบอดหรือไง นั่นมันคุราโมจิ ฉันอยู่นี่..

    “ชอบที่สุด” ก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มจะช่วงชิงริมฝีปากของคนที่ตนโอบคออยู่ ก็ถูกมือหนาดึงเอาไว้ทัน

    “อ้าว เจ้าของมาแล้วเหรอ? เอาคืนไปเลยเฟ้ย ฉันไม่อยากโดนมันปล้ำ”

    คุราโมจิว่าพลางส่งคนบนตักคืนคนที่ยืนทำหน้ายักษ์อยู่ แววตาสีน้ำตาลฉายความเย็นชา และคาดโทษประมาณว่าถ้า มันมาเห็นมากกว่านี้ละก็เขาโดนฆ่าแน่นอน ..คุราโมจิจึงไม่กล้าพูดเรื่องก่อนหน้านี้ กว่าเขาจะดึงเจ้านี่จากการไปนัวเนียคนอื่นๆในทีมมาอยู่กับแค่เขาได้ เหมือนเขาไปวิ่งรอบสนามมาทั้งวันอย่างไงอย่างนั้นเลย

    กลิ่นหอมที่เขาคุ้นเคยลอยมาแตะจมูก ซาวามูระลืมตาเล็กน้อย ก่อนจมองไปที่คนที่ตนเองขี่หลังอยู่ สร่างเมาคงเป็นนิยามของเขาตอนนี้

    “มิยูกิ..”

                ซาวามูระ เอย์จุนเรียกชื่อแฟนของตนเอง ในขณะใบหน้าหวานซุกไซร้ไปกับต้นคอคนตรงหน้าแก้มเนียนใส แนบไปกับแก้มของอีกฝ่าย

    “รู้สึกตัวแล้วเหรอ เจ้าตัวดี กินไม่ดูตัวเองเลยนะ”

    “ถ้าคุราโมจิไม่อยู่ จะเป็นยังไง”

    แรงกอดคอเพิ่มขึ้นทำให้มิยูกิแทบหายใจไม่ออก

    “อ็อก!

     “ชิ ก็ใครล่ะมาช้าเอง อย่าบอกนะว่าลืมน่ะ”

    ..เขาไม่กล้าบอกแฮะเลยว่าลืม..

    “เปล่าเสียหน่อย วันนี้เลิกเรียนช้าเลยไปสาย อย่างอนไปเลยนะที่รัก”

    “ฮึ่ม” สูดหายใจแรงๆทีนึง

    “นายนี่มันน่ารักที่สุดเลย”

    แก้มใสๆที่แนบอยู่เปลี่ยนเป็นซบไปที่บ่าของคนตรงหน้าแทนลมหายใจร้อนๆเป่าไปที่ต้นคอของอีกร่างสูง ก่อนจะส่งเสียงอู้อี้มาว่า หล่อต่างหาก ไม่น่ารักเสียหน่อย

    “ก็น่ารักแบบนี้ จะไม่ให้รักได้ไง” ประโยคบอกรักธรรมดา ที่ทำให้คนตัวเล็กเบิกตากว้าง มิยูกิไม่ค่อยบอกรักเขาเสียเท่าไหร่ เพราะอีกฝ่ายบอกว่ามันเป็นประโยคสำคัญถ้าพูดบ่อยๆมันจะดูธรรมดาไป ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เขาอยากได้ยินอีก ซาวามูระชอบให้มิยูกิบอกว่ารักเขา บอกว่าเขาเป็นคนเดียวเป็นที่หนึ่งในใจของมิยูกิ

    “พูดอีกทีสิ” พิชเชอร์หนุ่มกระซิบเบาๆขณะที่ซุกอยู่กับบ่าของคนตรงหน้า

    มิยูกิรู้ดี ว่าพิชเชอร์บนหลังเขาชอบความแน่นอน ชอบความชัดเจน เพราะเจ้านี่มันซื่อบื้อจนถ้าไม่พูดออกไปจะไม่รุ้เรื่องอะไรกับเขา ก่อนที่เขาจะพาร่างของคนรักมาถึงห้องพอดี เปิดประตู และปิดลง

    “หืมมม พูดอะไรเหรอ?”

    “บอกรักฉันไง” พิชเชอร์หนุ่มว่า ขณะกำลังถอดรองเท้า ก่อนแทบจะสะดุดขาตัวเองตอนได้ยินอีกฝ่ายตอบกลับมา

    “พูดด้วยร่างกายได้ไหมละ คิคิ” ก่อนที่ซาวามูระจะเตรียมวิ่งหนี เสียงกระซิบพร้อมลมหายใจหอบหนักๆ ข้างหูเขาทำให้เขาเข่าอ่อน ยอมเจ้าทานุกิตรงหน้าอีกจนได้

     

    「。。愛してる。。」

     

    ซาวามูระแพ้ทางคนๆนี้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนๆก็ตาม เขาน้อมรับทุกสัมผัสที่คนตรงหน้ามอบให้หลังจากนั้นทั้งคืน

    ....หลังจากผ่านคืนนั้นซาวามูระ ก็ได้ตัดสินใจว่า จะไม่ดื่มเหล้าต่อหน้าใครอีกเลย....

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×