คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #41 : S Fic : Daiya no ace [Misawa] | College life | 2
S Fic : Daiya no ace [Misawa] | College life | 2 [END]
Pairing : Miyuki Kazuya X Sawamura Eijun
Talk : ต้องการให้เป็นเรื่องหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามหาลัยไปแล้ว
เข้ามาแล้ว
ชอบพล็อตแนวแบบหึงๆหวงๆ ส่วนตัวชอบคนหึงโหดๆด้วย ไม่ต้องห่วงว่าทำไมมันซ้ำๆ55
พลัก!
เสียงวัตถุกลมๆสีขาวลอยมากระทบกับถุงมือคู่ใจสีน้ำตาลของแคชเชอร์หนุ่มแว่นดังขึ้นลั่นสนามฝึกซ้อม
อินนิ่งนี้ทีมเขาสามารถทำสไตรค์เอ้าท์3ทีติด ก่อนร่างสูงลุกขึ้นยืน วิ่งไปถอดอุปกรณ์แคชเชอร์ออก และใส่อุปกณ์ป้องกันสำหรับแบตติ้งท์มาแทน
ขายาวๆก้าวขึ้นมาบนสนาม พร้อมๆกับเสียงกรื้ดกร๊าด จากสาวๆในมหาลัยจะดังขึ้น กระหึ่ม
“มิยูกิซาม๊าาา”
“มิยูกิเซมไปปป สู้เขานะค้า”
“แบตเตอร์คนนั้นใครเหรอ?”
“บ้าน่า ไม่รู้จักเหรอ คนๆคือ มิยูกิ คาซึยะไง”
เสียงของสาวๆกรื้ดกร๊าดพูดคุยกันไม่หยุดก่อนที่สนามจะเข้าสู่ความเงียบอีกครั้งเมื่อเกมส์กำลังดำเนินไปถึงจุดสำคัญ
ทูเอ้าท์
แคร้ง!!
เสียงไม้กระทบกับลูกเบสบอลอย่างเฉียบคม พร้อมเสียงเฮดังขึ้นทั้งสนาม แขนแกร่งเหวี่ยงไปสุดแรง
ราวกับระเบิดความโมโหใส่การแบตติ้ง เอาจริงๆ ทุกคนในทีมรู้ว่านั่นมันคือการระเบิดความโมโหอยู่จริงๆ
“มาแล้ว 2runs Homerun มิยูกิ คาซึยะ ตีซาโยนาระโฮมรัน ปิดฉากเกมส์ได้อย่างสวยงามครับท่านผู้ชม”
เสียงเฮดังลั่นสนามหลังจากลูกบอลขาวๆนั่นจะลอยไปถึงอีกฝั่งของรั้ว
ขาสองข้างก็ยังคงวิ่งไปมุ่งหน้าไปโฮมเพื่อให้เกมส์จบจริงๆ ระหว่างกำลังวิ่งไปนั้น
มิยูกิคิดว่าถึงมันจะเป็นเรื่องไม่ดีที่ใช้อารมณ์ในการหวดลูกกลับไป
แต่ถ้าหากเขาไม่ได้ดึงทีมให้ตกต่ำลงมาก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร
ใบหน้าคมหันมองไปทั่วสนาม ยิ่งคิดไปถึงเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลธรรมชาติที่ควรจะมาเชียร์เขาข้างสนามวันนี้
แต่กลับส่งข้อความมา บอกเป็นนัยน์ว่ามาไม่ได้แล้วมันรู้สึกหงุดหงิดชอบกล
[ ขอโทษนะ มิยูกิ ] ซาวามูระ
เอย์จุน
“เฮ้อ นายจะไม่มา มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกนะเอย์จุน”
“ที่มีปัญหามันพวกเพื่อนๆ
นายต่างหาก”
มือหนาเสยผมสีน้ำตาลเข้มของตนเอง ก่อนจะถอนหายใจยาวๆ สองมือถอดเสื้ออันเดอร์เชิร์ตชุ่มเหงื่อที่แนบตัวออก
เผยให้เห็นซิกแพ็คบนหน้าท้องแบนราบนั่น พร้อมกับเดินเข้าห้องอาบน้ำไปท่ามกลางความงุนงงของเพื่อนๆในทีมที่อยู่ในห้องเปลี่ยนชุดนั้น
เรื่องกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นมามันไม่แปลกเลยเพราะยิ่งเข้าทีมระดับนี้แล้วเขาจำเป็นจะต้องสร้างกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มสมรรถภาพในการเล่น
และความแข็งแรงของตัวเขา หลังจากเสร็จการแข่งนี้ เขาหวังจะไปหาเจ้าตัวแสบของเขาที่ไม่ได้เจอกันตั้งแต่เช้า
เพราะว่ามิยูกิไม่อยากจะปลุกเจ้าคนตัวเล็กจากช่วงเวลานิทราที่แสนสุข
หลังจากเตรียมอาหารเช้ากับ ไม่ลืมทิ้งโน้ตไว้บนโต๊ะ เขาเลยออกมาแบบเงียบๆ แต่เขาไม่คิดว่า
เจ้าแฟนตัวดีของเขาจะเบี้ยวนัดมาดูการแข่งของเขาในวันนี้เลยแม้แต่น้อย
เขาพบเจอมาบ่อย ทั้งพวกผู้หญิงที่พยายามจะเข้าหาเขาผ่านทางเอย์จุน
และนั่นก็น่ารำคาญมากเพราะสุดท้ายแล้วซาวามูระจะโกรธเขา แต่ถ้าหากพูดถึงเจ้าพวกผู้ชายที่ส่งสายตาหวานๆใส่ร่างบางนั่น
ไม่ว่าจะหน้าไหนๆก็เหมือนกันหมดทั้งนั้น
เขาไม่คิดเลยว่าซาวามูระจะเนื้อหอมทั้งๆที่ตอนอยู่ชมรมเป็นแค่เจ้าบ้า
ที่ซื่อบื้อ แต่เขาต้องคิดใหม่ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ด้วยความที่คนตัวเล็กของเขาเป็นเหมือนกับศูนย์กลางของผู้คน
คงทำให้ใครหลายๆคนรู้สึกสบายใจเวลาอยู่ด้วย
แต่มิยูกิไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามกับคนของเขา
เมื่อใดก็ตามที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ซาวามูระ เอย์จุน หนุ่มรุ่นน้องคนรักของเขา
มิยูกิเป็นคนฉลาด และรอบคอบ
เขามักจะหาทางกันคนที่พยายามเข้ามาจีบหรือตีสนิทกับร่างบางได้อย่างแนบเนียนแบบไร้ที่ติเสมอ
แต่มันก็จะมีพวกที่ไม่เกรงกลัวเขาแต่อย่างใด และคนเหล่านี้ก็ดูเหมือนไม่มีวี่แววเลยว่าจะเลิกยุ่งกับของๆเขา
น้ำเย็นฉ่ำไหลผ่านร่างกายที่ร้อนรุ่มจากการแข่ง
ผมสีน้ำตาลลู่ลงติดกับใบหน้าคมที่ตอนนี้ไม่ได้สวมแว่นอยู่นั่น
มิยูกิอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมา ออ ลืมบอกไป คุราโมจิ โยอิจิ
ก็เรียนที่เดียวกับเขา และยังอยู่ทีมเดียวกันเหมือนเดิมด้วย
ชายหนุ่มผิวแทนเดินเข้ามาตบหลังเขาดังสนั่น
ก่อนเพื่อนร่วมทีมหลายๆคนจะเดินเข้าคุยกับเขา
ตอนนี้เขาไม่ใช่กัปตันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
“ย๊า เจ้ามิยูกิ ลูกสุดท้ายนั่นทำเอาตกใจหมดเลย
หวดลูกยังกับจะหวดหน้าใครอย่างไงอย่างงั้น”
เจ้าเพื่อนตัวดีกล่าวแซว ก่อนจะโอบไหล่มา
ในระยะที่ชิดกันมาก และเริ่มต้นบทสนทนาที่ได้ยินกันเพียงแค่2คน
“เจ้าซาวามูระ ไปทำอะไรอีกล่ะ?”
ชายหนุ่มกระซิบถามเพื่อนตนเองที่กำลังหยิบแว่นมาใส่
หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว
“...” ไม่มีเสียงตอบรับ คุราโมจิมองตามสายตาของหนุ่มแว่นไป
ที่โทรศัพท์สีเข้มที่มีพวงกุญแจเบสบอลที่เขารู้ดีว่าเป็นของใครให้มา ก่อนที่แคชเชอร์หนุ่มจะได้เช็คโทรศัพท์นั้น
เสียงฮือฮาจากประตูหน้าห้องเปลี่ยนชุดก็ดังขึ้น
พร้อมกับแว่วเสียงโหวกเหวกอันคุ้นเคยแว่วๆมา เขาแทบจะหันกลับไปมองตรงประตูแทบจะไม่ทัน
ปรากฎให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยกำลังทำหน้าลำบากใจอยู่
ท่ามกลางฝูงเพื่อนร่วมทีมของเขา
“ซาวามูระจัง
วันนี้มาดูการแข่งด้วยเหรอ”
“ไหนบอก ไม่อยากเห็นแมชท์ที่ตัวเองไม่ได้เล่นไง
ฮ่าๆๆ”
เสียงทักทายดังขึ้นไม่หยุดหย่อน ซาวามูระเข้ามหาลัยมาด้วยทุนเบสบอลเหมือนเขาก็จริง
แต่เด็กหนุ่มร่างเล็กอยู่คนละสายกับเขา คิ้วเข้มกระตุกอีกครั้ง
เมื่อรู้ว่าไม่รู้เมื่อไหร่ที่เจ้าเพื่อนสนิทอย่างคุราโมจิ วิ่งไปล็อกคอน้องชายตัวดีของเจ้าตัว
ก่อนจะลากมาตามทิศทางที่เขานั่งอยู่
“หวาาา คุราโมจิเซมไปป” ซาวามูระ ร้องเสียงหลงเมื่อทรงตัวไม่ได้
“เอ้า ของขวัญทำโฮมรันวันนี้ได้ ก๊ากๆ”
คุราโมจิว่าพลางผลักเจ้าน้องชายตัวเองให้เข้าไปหาเพื่อนรักที่ทำหน้าแปลกใจ
“เลิกทำหน้าอย่างนั้นได้แล้ว จะแปลกใจอะไรนักหนา ” ชายหนุ่มว่า
พลางหัวเราะตบหลังเจ้าน้องชายก่อนจะเดินไป ที่ล็อกเกอร์ของตนเอง
“มิยูกิ”
เสียงหวานๆเรียกชื่อ ของคนตรงหน้า นัยน์ตากลมโตสบกับตาคมผ่านแว่นตรงหน้า
ก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างๆ
พร้อมชูหมวกที่ตนใช้ใส่ตอนดูการแข่งเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนให้อีกฝ่ายดู
เป็นหลักฐานว่าเจ้าเด็กนี่ไม่ได้เบี้ยวนัดเขา
“........”
เงียบไม่มีเสียงตอบรับมาจากคนตรงหน้า
“เฮ้ๆ
ฉันรู้ว่าฉันมาทันแค่ครึ่งเดียว นี่ฉันรีบจัดการธุระแล้วนา”
“นายไม่เห็นต้องเงียบแบบนี้เลย”
ซาวามูระ เห็นคนตรงหน้าไม่พูดก็รู้สึกผิดขึ้นมา ถึงเขาจะพยายามเคลียร์งานให้เสร็จแล้ววิ่งมาที่สนามของมหาลัยแล้วก็ตาม
เขาไม่ใช่คนชอบผิดนัดเขารู้ดี ความเงียบผ่านไปสักพักก่อนที่ร่างสูงตรงหน้าจะทำลายความเงียบนั้นลง
“นายนี่มัน...”
มิยูกิรู้ว่าซาวามูระถ้าสัญญาแล้วต้องเป็นสัญญา ต่อให้เจ้าเด็กตรงหน้านี่เบี้ยวนัดเขา
เขาก็ไม่โกรธ แต่พอรู้ว่าคนๆนี้
มาดูการแข่งของเขาตามที่บอกไว้ตอนแรกก็อดดีใจไม่ได้ หมอนี่มันน่ารักที่สุด
มือเรียวคว้าคอคนตรงหน้ามาก่อนจะยีผมสีน้ำตาลนุ่มด้วยความหมั่นเขี้ยว
บรรยากาศที่ดูมาคุตอนแรกก็ผ่อนลง จนเพื่อนร่วมทีมรู้สึกได้ อีกมือล็อกคอก่อนจะโอบใบหน้าที่กำลังอึกอักของคนตรงหน้ามาซบกับไหล่เขา
มิยูกิชอบกลิ่นหอมบางๆของซาวามูระ มันทำให้เขาผ่อนคลาย
“ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย มิยูกิ คาซึยะ คนเยอะ”
ซาวามูระโวยวายพลางดันตัวเองออกมา แยกเขี้ยวขู่ฟ่อๆ แต่ใบหน้าแดงเป็นสีมะเขือเทศ
“หะหะ ” มิยูกิหัวเราะแห้งๆสั้นๆ แว่นใสๆสะท้อนแสง กับยิ้มที่กว้างแต่ดูกวนประสาทร่างเล็กตรงหน้า
“งั้นก็ถ้าเป็นที่คนไม่เยอะก็ทำได้ใช่ไหม หืม?” เสียงยียวนกระซิบกับคนตรงหน้าข้างๆหู
ก่อนที่ซาวามูระที่หน้าแดงอยู่แล้ว แทบจะแดงเพิ่มขึ้นไปอีก
“ฮ่าๆ ล้อเล่นน่า รอฉันแปปนึง เก็บของจะเสร็จแล้ว” แคชเชอร์หนุ่มกล่าวก่อนจะลุกขึ้นมาเตรียมตัวเก็บของไป
พร้อมกับคุราโมจิที่เดินเข้ามาสมทบ
“หึหึ” เสียงทุ้มหัวเราะในคอ มองหน้าน้องชายตัวเองที่กำลังทำหน้าไม่ไว้วางใจ
พลางตั้งการ์ดรับมือคนตรงหน้า
“อะไรเล่า” เด็กหนุ่มตัวเล็กกว่าว่า หันไปคุยกับรุ่นพี่ผมดำเหลือบเขียวตรงหน้า
“เปล๊า” พร้อมๆกับเสียงสูงๆที่ดังตอบกลับมา
ไม่นานเจ้าคนที่บอกว่าไปเก็บของเมื่อนาทีก่อนก็เดินเข้ามา
พร้อมกับพูดเป็นเชิงว่าไปกันได้แล้ว พร้อมทำหน้าประมาณว่าเหนื่อย หิวจะแย่
ชีวิตของพวกเขาดำเนินไปเหมือนคนปกติทั่วไปคนส่วนใหญ่ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับซาวามูระ
ด้วยเหตุผลที่ว่าเจ้าตัวขอไว้ไม่อยากให้มันเปิดเผยมากไป
ซาวามูระรู้ว่ามิยูกิฮ็อตขนาดไหน และมีคนชอบมิยูกิมากมายไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงวัยไหน
พูดไปแล้วทั้งการเรียน เบสบอล หน้าตาคนตัวสูงมีทุกอย่างพร้อม
เขารู้ดีแต่ก็อดห่วงไม่ได้ กลัวว่าวันนึงมิยูกิจะเบื่อ และทิ้งเขาไป
ชีวิตประจำวันของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากหลังจากซาวามูระย้ายมาอยู่กับเขา
เพียงแต่มิยูกิ คาซึยะรู้สึกเติมเต็ม จากที่ห้องที่เขาเช่าไว้ใกล้ๆมหาลัยให้ความรู้สึกเย็นเคว้งคว้างไม่น่าอยู่
ตอนนี้เวลาเขากลับมาจะรู้สึกอบอุ่นเสมอ เวลาที่ได้กลับมาที่ห้องที่เป็นเหมือนโลกส่วนตัวของเขากับคนตัวเล็ก
แต่วันนี้มันเป็นอีกวันที่เขารู้สึกว่าห้องมันเย็นเหมือนเดิม
สายตาคมมองไปที่วางรองเท้าที่ปกติจะมีรองเท้าสีขาวคู่โปรดของเจ้าตัวดีของเขา
วันนี้มันว่างเปล่า ตาเหลือบมองนาฬิกา นี่ก็เย็นมากแล้ว ตั้งแต่เขาออกจากห้องเรียนมา
มันก็เย็นมากแล้ว กว่าเขาจะเดินมาถึงห้อง ท้องฟ้าข้างนอกก็แทบจะมืดสนิท
มือเรียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดดูข้อความ
[ไม่มีข้อความ]
ไม่มีแม้แต่สายโทรเข้า หรือข้อความ นั่นทำให้แคชเชอร์หนุ่มเริ่มร้อนใจ
นิ้วเรียวยาวกดเบอร์ที่คุ้นเคยก่อนจะโทรออก ครั้งก็แล้ว สองครั้งก็แล้ว
ก็ยังไม่มีใครรับสาย คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากัน
ก่อนจะเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า
ต่อให้พวกเขาจะรักกันแค่ไหน พื้นที่ส่วนตัวก็เป็นสิ่งจำเป็น
เขาไม่พยายามบีบคั้นซาวามูระให้ทำอะไร และซาวามูระก็ไม่เคยมาวุ่นวายกับชีวิตของเขา
นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาเสมอกัน เขารู้ว่าซาวามูระก็โตแล้ว
พอที่จะดูแลตัวเองได้ แต่ก็แล้วแต่สถานการณ์ละนะ
เสียงเรียกเข้ามือถือของเขาดังขึ้น ทันทีที่เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ
พร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่คลุมร่างกายเอาไว้ นิ้วเรียวยาวกดรับสาย
ก่อนเสียงคุ้นเคยจะดังผ่านสายโทรศัพท์นั่นมา
“มิยูกิ..”
เสียงเพรียกหาชื่อเขาหากแต่เสียงดังๆที่ดังเข้ามาแทรกนั้นดูเหมือนจะอยู่ในร้านอะไรสักอย่าง
ทำให้เขาได้ยินเด็กหนุ่มปลายสายไม่ชัด ก่อนจะมีเสียงโหวกเหวกโวยวาย
“คุราโมจิเซมไป อ๊ะ เฮ๊ย เอาคืนมานะ”
เสียงใสๆโวยวายผ่านหูโทรศัพท์ ซาวามูระมักโดนแย่งโทรศัพท์ไปโดยฝีมือคุราโมจิเสมอ
“โอ่ย มิยูกิ แกอยู่ไหน ไม่มาเหรอ
วันนี้พวกเรานัดฉลองกับทีมไง?”
เสียงทุ้มเป็นเอกลักษณ์ของเพื่อนสนิทเขาดังผ่านสายมา
..ฉลอง.. ก่อนเขาจะนึกขึ้นได้
ก็ว่าแล้วปกติซาวามูระไม่เคยไม่บอกเขาถ้าจะไปไหนดึกๆดื่นๆ
วันนี้ทีมที่มหาลัยนัดเลี้ยงฉลองเด็กรุ่นน้องสมาชิกทีมใหม่
หลังจากที่เลื่อนมาหลายครั้ง
“หนอยแหนะแก เงียบแบบนี้ลืมใช่ไหม ได้ถ้าไม่รีบมาซาวามูระโดนมอมตายแน่
เคี้ยกๆๆ ฮ่าๆ”
“ตื๊ดๆๆ”
ทิ้งระเบิดไว้ก่อนที่จะวางสายไปอย่างหน้าตาเฉย
มิยูกิรู้สึกอยากถีบเพื่อนสนิทก็คราวนี้
ไว้ใจคุราโมจิได้
แต่เจ้าคนตัวเล็กนั่นน่ะน่าเป็นห่วง แม้จะเป็นนักกีฬาแต่ความสามารถในการรองรับแอลกอฮอล์ต่ำกว่าคนปกติ
และถ้าหากคนรอบเชียร์ให้ดื่ม ความที่เป็นซาวามูระหมอนั่นก็จะไม่ยอมแพ้
ดื่มจนไม่ดูลิมิตของตัวเองทุกครั้งไป แถมเจ้าหมอนั่นพอขาดสติแล้วจะทำอะไรก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆถ้าอยู่กับพวกเพื่อนร่วมทีมเขาที่ไม่ใช่คุราโมจิไม่ดีแน่ๆ
เขารู้เรื่องนี้ดีเพราะเขาค้นพบเรื่องนี้ครั้งแรกที่ดื่มเบียร์
และดูหนังด้วยกันที่ห้อง เขายังโล่งใจเลยว่าดีนะที่พวกเขาดื่มกันที่ห้อง
ไม่ใช่ที่สาธารณะที่ไหน
มือหนาคว้าเสื้อผ้ามาใส่อย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมที่จะรีบคว้ากระเป๋าตังมาแล้ว
มุ่งหน้าไปที่ร้านที่เป็นจุดนัดหมาย มองนาฬิกาก็หนักใจ เพราะคงเริ่มดื่มกันไปสักพักใหญ่แล้ว
ในใจก็คิดไปถึงเรื่องราวคืนที่ซาวามูระดื่มเบียร์ครั้งแรก
“ไหนๆ ก็อายุถึงแล้ว ฉันอยากลองดื่มเบียร์ดูหน่อย” ระหว่างทางเดินกลับห้องพิชเชอร์หนุ่มโพล่งขึ้นมา
ก็จริงที่คนข้างๆมาอยู่มหาลัยสักพักแล้วและอายุก็ถึงแล้วด้วย
“ฮ่าๆ นายเนี่ยนะ ยังเร็วไปสิบปี
ไอ้หนู”
“อ่า
แต่นายก็ทำเรื่องเกินอายุกับฉัน ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วนี่ ทั้งนั่น ทั้งนี่ คิคิ”
ใบหน้าหล่อหันมาทำหน้ากวนๆ พูดจาสองแง่สองง่ามใส่คนข้างๆ มุมปากยกยิ้มแบบมีเลศนัยน์
ก่อนจะปิดปากแล้วขำเบาๆ “ฟุฟุ”
“ว่าไงนะ มิยูกิ คนลามก!! หนอยทีนายยังไปเที่ยวสังสรรค์ได้เลย”
เสียงใสๆโวยวาย จิ๊ปาก บ่นพึมพำเบาๆในประโยคสุดท้าย
“หืมม ถ้าอยากขนาดนั้น
คืนนี้แล้วกัน” จบประโยคตาใสๆนั่นก็แวววาวขึ้นมาทันที
มือหนาโอบคนข้างๆเข้ามาให้ชิดตน ก่อนจะจับมือเล็กๆนั่นไว้เพื่อให้อากาศที่หนาวเย็นคลายหนาวลงบ้าง
มิยูกิเป็นคนเข้าสังคมอยู่แล้วตั้งแต่เข้ามหาลัยมา
ความนิยมเขาจึงเพิ่มขึ้นสูงในหนึ่งปีที่ผ่านมา แต่เขาไม่ได้มีเป้าหมายใดๆเพราะว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว
การที่ซาวามูระอยากลองกับเขาก็เป็นสิ่งที่ดี คนตรงหน้าจะได้ผ่อนคลายลงบ้าง
“จริงเหรอ? ฮ่าๆๆ
แล้วนายจะต้องก้มลงแทบเท้าของฉันมิยูกิ ฮ่าๆๆ”
เด็กหนุ่มกล่าวพร้อมกับกอดอกหัวเราะอย่างสะใจ
พลางคิดว่ามิยูกิต้องเมาแล้วสยบแทบเท้าตนเอง
“จ้าๆ แวะซื้ออะไรกินก่อน
กลับห้องก็แล้วกัน”
ร่างสูงว่าพลางแวะเข้าร้านขายของสดแถวใกล้ๆห้องของพวกเขา
ก่อนจะซื้อเบียร์จำนวนหนึ่งติดขึ้นห้องไปด้วย มิยูกิเป็นนักกีฬา
เขาจึงไม่ชอบกินอาหารหรือขนมในร้านสะดวกซื้อเสียเท่าไหร่
อีกอย่างซาวามูระชอบให้เขาทำอาหารให้กิน
เจ้าตัวให้เหตุผลว่าถ้าเขาทำให้จะเติมกี่ครั้งก็ได้ ให้กินแบบแพงๆตามร้าน
หรือปริมาณน้อยแบบร้านสะดวกซื้อในเวลาที่มีมิยูกิอยู่ เขาไม่เอา
“ว้า หนาวๆๆ ”
ซาวามูระวิ่งเข้าห้องอาบน้ำไป ในขณะที่เขาเตรียมอาหาร ตอนนั้นอากาศในช่วงต้นปีมักเย็นมากเสมอ
เสียงแว่วๆจากน้ำในห้องน้ำดังมาเบาๆ
คลอกับเสียงเพลงที่เจ้าเด็กตัวดีของเขาชอบร้องฮึมฮำ
ร้องเป็นอยู่เพลงเดียวหรือยังไง เนไรอุจิ
“น้ำอุ่นพร้อมแล้วนะ” เสียงแว่วๆมาจากห้องน้ำ
เวลาผ่านไปสักพัก เขาเตรียมอาหารเสร็จ
พร้อมๆกับที่ร่างบางในกางเกงบ็อกเซอร์ตัวสั้นกับเสื้อสีขาวเดินออกมา
ผิวใสๆที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูจากการแช่น้ำมานาน
กับผมที่เปียกลู่ไปกับใบหน้าหวานน่ารักนั่น
มองการแต่งตัวแล้วเมื่อกี้บ่นว่าหนาวไม่ใช่หรือไง หรือฮีทเตอร์จะแรงไป
“โฮ่ย ซาวามูระ ไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยสิ”
เสียงทุ้มกล่าวเตือนร่างตรงหน้า
เขาไม่อยากให้ร่างตรงหน้าเป็นหวัด
“กำลังสบายเลยแบบนี้”
ร่างบางว่าพลางเป่าผมตัวเองให้แห้ง
“หรือว่ากำลังยั่วฉันอยู่เหรอ ใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวหลังอาบน้ำขนาดนี้”
ซาวามูระหันมาสบกับสายตาโลมเลียจากหัวจรดเท้า
เป็นสิ่งกระตุ้นให้เจ้าเด็กตัวดีวิ่งกลับห้องนอนไปหยิบกางเกงขายาวมาใส่
ร่างบางหน้าแดงพลางเดินกลับมาพึมพำๆ
“นายคิดเรื่องอื่นเป็นไหม มิยูกิ” ใบหน้าหวานหันมาค้อน หลังจากเป่าผมเสร็จ
“หึหึ เอ้า เสร็จแล้วกินข้าวๆเพราะ คืนนี้ยังอีกยาว”
โดยที่มิยูกิไม่รู้เลยว่า สิ่งที่เขาพูดไปมันจะยาวนานจริงๆ
คืนนั้น..
ไม่รู้ไปๆมาๆ จากที่นั่งดื่มกันอยู่
เจ้าเด็กเสียงนั่นก็เริ่มสงบลงพร้อมกับแสดงอาการแปลกๆ
ราวกับเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แก้มใสๆเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีชมพู
ตาที่เริ่มหยาดเยิ้ม สติที่เริ่มเลอะเลือน
“ร้อนนน” เสียงใสๆครางก่อนมือเล็กๆปลดกางเกงขายาวนั่นออก เผยให้เห็นกางเกงบ็อกเซอร์แนบตัวที่เจ้าตัวใส่ไว้ก่อนหน้านี้
มิยูกินั่งมองภาพนั้น
หากตอนแรกก็รู้สึกขำๆที่เจ้าเด็กนี่กินเบียร์จนเมาได้แต่ที่กินไปก็ไม่ใช่ปริมาณน้อย
เขาเองก็เริ่มรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนๆเหมือนกัน
“เหวอ..”
ก่อนจะรู้สึกตัวตัวเขาก็ถูกแรงดึงไม่ใช่น้อยๆของคนข้างๆก็ดึงให้เขาลุกขึ้นจากที่นอนดูทีวีอยู่
ลุกขึ้นมานั่งดีๆ
ริมฝีปากร้อนๆแทบจะประกบเข้ากับริมฝีปากของคนที่นั่งอยู่แทบจะทันที
ลิ้นร้อนๆแทรกเข้ามาในปากของร่างสูงกว่าลิ้นสากร้อนขยับราวกับควานหาบางอย่างในปากของเขา
มีหรือที่มิยูกิจะไม่ตอบรับจูบสุดอีโรติกตรงหน้า
“ฮื้อ อ๊ะ...” ร่างบางครางในลำคอ
เสียงเฉอะแฉะของของเหลวระหว่างปากของทั้งสองคน ดังขึ้นเป็นจังหว่ะระหว่างจูบ มือหนาดึงคนตรงหน้าให้นั่งคร่อมตักของตน
ก่อนจะบังคับให้คนตรงหน้าเผยอปากมากขึ้น
ลิ้นร้อนไซร้ผ่านปากเจ่อๆของคนที่สติดูท่าจะเลือนรางตรงหน้า
ก่อนจะเลื่อนไปยังต้นคออุ่นๆ จมูกโด่งเป็นสันซุกไซร้
สูดกลิ่นหอมๆที่เขาชอบที่สุดก่อน
“อื้อ อ้ะ..”
ฟันคมขบคอสีขาวๆนั่นประทับตาความเป็นเจ้าของ หลายๆจุด
ทั้งกัดทั้งขบจน คอขาวๆเริ่มมีสีม่วงๆแดงๆเป็นจุดๆ
ช่วงนี้เป็นฤดูหนาวมิยูกิจึงไม่ต้องห่วงเรื่องปกปิดรอยอะไร
เนื่องจากเสื้อที่ใส่ก็รัดกุมพอแล้ว
มิยูกิไม่ได้เปิดฮีทเตอร์แรงขนาดนั้น หากแต่เมื่อครู่เขาได้รับจูบอย่างเร่าร้อนมานั้น ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่ามีไอร้อนออกมาให้เห็น ไอความร้อนของร่างกายพวกเขาทั้งสองคน
น้ำใสๆไหลเยิ้มออกมาจากมุมปากเอิบอิ่มนั่น มิยูกิใช้นิ้วหัวแม้มือปากมันออก
ก่อนจะมองเข้าไปในนัยน์ตาสีน้ำตาลทองตรงหน้า
“ว้าว” มิยูกิผิวปากเบาๆ มองภาพตรงหน้า ปกติเขาไม่ค่อยโดนซาวามูระรุกเสียเท่าไหร่
วันนี้เขาโดนหนักเป็นพิเศษ เหตุผลใต้การกระทำนี้ก็คงจะเป็นเบียร์หลายสิบกระป๋องนั่นล่ะ
ความแข็งขืนระหว่างขาเขาแทบทำเอาเขาสร่างเมา
รู้ตัวอีกทีกางเกงบ็อกเซอร์สั้นๆที่คนตัวเล็กใส่อยู่ก็เริ่มเสียดสีกับกางเกงของเขา
มิยูกิกัดฟัน
ก่อนที่จะลุุกขึ้นถอดกางเกงของตนออกเหลือเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียวเช่นกัน
พร้อมกับปิดทีวีตรงหน้า อุ้มเจ้าเด็กขี้เมาตรงหน้า มุ่งหน้าไปที่ห้องนอน
ก่อนจะวางร่างนั้นเบาๆ ระหว่างที่เขากำลังควานหาถุยา
กับเจลหล่อลื่นในตู้ข้างๆเตียงนั้น ร่างกายร้อนๆที่ขยับเข้ามานัวเนียเขา
ก่อนจะผลักให้เขานั่งลงบนเตียงโดยที่ขาติดพื้นห้อง
ก่อนเขาจะรู้สึกถึงลิ้นร้อนๆที่ลากผ่านเนื้อผ้าใต้สะดือเขา
...ว้าว.
มิยูกิอุทานขึ้นอีกครั้งของวันมองคนข้างล่างที่กำลังพยายามปลุกปั่นความเป็นชายของเขา
มิยูกิไม่ใช่คนที่จะเสร็จง่ายๆกับเรื่องแค่นี้ แต่ว่าน้ำใสๆไหลเยิ้มรอการปลดปล่อย มองจากมุมนี้แล้วเด็กตรงหน้าดูเซ็กซี่เหลือเกิน สัมผัสอันร้อนลุ่มจากข้างล่างนั้น
ยิ่งผ่านไปมิยูกิเริ่มสติกระจัดกระจาย
“อืม.มม” เสียงทุ้มคราวในลำคอเบาๆ ก่อนที่จะรู้สึกถึงอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง ก่อนน้ำสีขาวขุ่นจะเปรอะเปื้อนบ็อกเซอร์ของตนเอง
“แฮ่กๆ”
เสียงลมหายใจหนักๆเหนื่อยหอบจากการปลดปล่อย มาพร้อมกับสายตายิ้มแย้มจากคนข้างล่างมองเขา ยังไม่ทันได้พักแต่อย่างใด
ตอนนี้เจ้าคนตรงหน้าดึงผ้าบางๆที่ปิดส่วนนั้นของเขาไว้อยู่ออกไป
เหลือเพียงแก่นกายของเขาที่ตอนนี้ยังนอนนิ่งสนิท
มือเล็กๆที่ปกติจะเขินอายทำได้แค่เอื้อมมาโอบคอหรือหลังเขาไว้ วันนี้กลับกำลังเริ่มปรนเปรอส่วนที่แสดงความเป็นชายของเขาใหม่อีกครั้ง
คราวนี้ปากนุ่มๆที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนยังคงพร่ำว่าตัวเองคอแข็งนักคอแข็งหนา
กำลังโอบแก่นกายที่กำลังขยายตัวของเขาเข้าไปจนสุด ขยับเข้าขยับออก
จนเริ่มความเป็นชายเริ่มแข็งสู้มืออีกครั้ง
ลิ้นสากร้อนเริ่มไล้เลียตั้งแต่โคนจรดจนปลาย ที่เริ่มมีน้ำใสๆเอ่อ ปากเล็กๆครอบครองส่วนนั้นของเขา ลิ้นเรียวร้อนเลียน้ำนั่นราวกับเป็นน้ำหวาน มือหนาขย้ำผมสีน้ำตาลตรงระหว่างขาตนให้ขยับเร็วและแรงขึ้นพลางกัดปากตนเองเพื่อระงับความรู้สึกต้องการ
เขาอยากจะรู้ว่าซาวามูระจะทำอะไรต่อไป ปากเล็กๆถอนออกมาจากแก่นกายของเขาพร้อมกับน้ำใสๆที่ยืดติดมา
ลิ้นเล็กๆแลบออก มองหน้าเขาราวกับวอนขออะไรบางอย่าง
“มิยูกิเซมไป..”
“คงสลบไปแล้วสินะ” มิยูกิคิดว่าก็ควรจะเป็นอย่างนั้น
เขาค่อยๆจับร่างเล็กๆนั่นอุ้มขึ้นตรงไปที่ห้องน้ำ จัดการทำความสะอาดร่างกายของคนตรงหน้า
ก่อนจะพาไปนอนบนเตียงพร้อมๆกัน
“รักนะ มิยูกิ”เสียงครางบอกรักเขายามหลับยิ่งทำให้เขาอยากจูบคนตรงหน้า
แต่วันนี้คงต้องพอเสียแล้วล่ะ
“ฉันก็รักนาย เอย์จุน”
เสียงทุ้มตอบกลับคนที่ไม่ได้สติก่อนที่แขนแกร่งใช้เป็นหมอนหนุนหัวของรุ่นน้องพิชเชอร์ตรงหน้า
และผลอยหลับตามไป
...ประเด็นอยู่ที่ว่า เช้าวันถัดมา เจ้าบ้านี่จำอะไรไม่ได้สักอย่าง
มีแต่บ่นว่าปวดไปหมดทั้งตัว เจ้าตัวจำไม่ได้ ไม่แม้แต่ตอนที่บอกรักเขา หรืออะไรๆที่พวกเขาทำกันเมื่อคืน
ถึงแม้ว่าจะเป็นเซ็กที่เขาประทับใจที่สุดครั้งหนึ่งก็ตาม จากนั้นมาเขาก็คิดว่าจะไม่ให้ซาวามูระ
เอย์จุนแตะแอลกอฮอล์ต่อหน้าใครเด็ดขาด
กลับมาที่ปัจจุบัน เขาเพิ่งมาถึงหน้าร้านที่นัดเอาไว้ พอเปิดประตูเขาไป
ก็เห็นภาพเจ้าเพื่อนสนิทตัวดีนั่งอยู่ โดยมีคนที่ได้ยศว่าเป็นน้องชายนั่งคร่อมอยู่
โอบคอใกล้ชิดสนิทสนม ใบหน้าหวาน
ดวงตาหยาดเยิ้มสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนั่นเขารู้เลยว่า เมาแล้วแน่นอน..
“นั่นไง ว่าแล้ว”
ขายาวๆรีบสาวเข้าไปประชิดสองคนนั้นก่อนที่เขาจะแยกร่างสองร่างนั่นออก
“มิยูกิเซมไป ชอบนะ” เสียงกระซิบเบาๆข้างหูของหนุ่มกำยำเพื่อนสนิทตัวเอง
กระซิบแต่ก็ดังพอที่เขาจะได้ยิน ...เห้ๆ ตาบอดหรือไง นั่นมันคุราโมจิ ฉันอยู่นี่..
“ชอบที่สุด” ก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มจะช่วงชิงริมฝีปากของคนที่ตนโอบคออยู่
ก็ถูกมือหนาดึงเอาไว้ทัน
“อ้าว เจ้าของมาแล้วเหรอ? เอาคืนไปเลยเฟ้ย ฉันไม่อยากโดนมันปล้ำ”
คุราโมจิว่าพลางส่งคนบนตักคืนคนที่ยืนทำหน้ายักษ์อยู่ แววตาสีน้ำตาลฉายความเย็นชา
และคาดโทษประมาณว่าถ้า มันมาเห็นมากกว่านี้ละก็เขาโดนฆ่าแน่นอน
..คุราโมจิจึงไม่กล้าพูดเรื่องก่อนหน้านี้
กว่าเขาจะดึงเจ้านี่จากการไปนัวเนียคนอื่นๆในทีมมาอยู่กับแค่เขาได้
เหมือนเขาไปวิ่งรอบสนามมาทั้งวันอย่างไงอย่างนั้นเลย
กลิ่นหอมที่เขาคุ้นเคยลอยมาแตะจมูก ซาวามูระลืมตาเล็กน้อย
ก่อนจมองไปที่คนที่ตนเองขี่หลังอยู่ สร่างเมาคงเป็นนิยามของเขาตอนนี้
“มิยูกิ..”
ซาวามูระ เอย์จุนเรียกชื่อแฟนของตนเอง
ในขณะใบหน้าหวานซุกไซร้ไปกับต้นคอคนตรงหน้าแก้มเนียนใส แนบไปกับแก้มของอีกฝ่าย
“รู้สึกตัวแล้วเหรอ เจ้าตัวดี กินไม่ดูตัวเองเลยนะ”
“ถ้าคุราโมจิไม่อยู่ จะเป็นยังไง”
แรงกอดคอเพิ่มขึ้นทำให้มิยูกิแทบหายใจไม่ออก
“อ็อก!”
“ชิ ก็ใครล่ะมาช้าเอง
อย่าบอกนะว่าลืมน่ะ”
..เขาไม่กล้าบอกแฮะเลยว่าลืม..
“เปล่าเสียหน่อย วันนี้เลิกเรียนช้าเลยไปสาย อย่างอนไปเลยนะที่รัก”
“ฮึ่ม” สูดหายใจแรงๆทีนึง
“นายนี่มันน่ารักที่สุดเลย”
แก้มใสๆที่แนบอยู่เปลี่ยนเป็นซบไปที่บ่าของคนตรงหน้าแทนลมหายใจร้อนๆเป่าไปที่ต้นคอของอีกร่างสูง
ก่อนจะส่งเสียงอู้อี้มาว่า หล่อต่างหาก ไม่น่ารักเสียหน่อย
“ก็น่ารักแบบนี้ จะไม่ให้รักได้ไง” ประโยคบอกรักธรรมดา
ที่ทำให้คนตัวเล็กเบิกตากว้าง มิยูกิไม่ค่อยบอกรักเขาเสียเท่าไหร่
เพราะอีกฝ่ายบอกว่ามันเป็นประโยคสำคัญถ้าพูดบ่อยๆมันจะดูธรรมดาไป ถึงอย่างนั้นก็เถอะ
เขาอยากได้ยินอีก ซาวามูระชอบให้มิยูกิบอกว่ารักเขา
บอกว่าเขาเป็นคนเดียวเป็นที่หนึ่งในใจของมิยูกิ
“พูดอีกทีสิ” พิชเชอร์หนุ่มกระซิบเบาๆขณะที่ซุกอยู่กับบ่าของคนตรงหน้า
มิยูกิรู้ดี ว่าพิชเชอร์บนหลังเขาชอบความแน่นอน ชอบความชัดเจน
เพราะเจ้านี่มันซื่อบื้อจนถ้าไม่พูดออกไปจะไม่รุ้เรื่องอะไรกับเขา
ก่อนที่เขาจะพาร่างของคนรักมาถึงห้องพอดี เปิดประตู และปิดลง
“หืมมม พูดอะไรเหรอ?”
“บอกรักฉันไง” พิชเชอร์หนุ่มว่า ขณะกำลังถอดรองเท้า
ก่อนแทบจะสะดุดขาตัวเองตอนได้ยินอีกฝ่ายตอบกลับมา
“พูดด้วยร่างกายได้ไหมละ คิคิ” ก่อนที่ซาวามูระจะเตรียมวิ่งหนี
เสียงกระซิบพร้อมลมหายใจหอบหนักๆ ข้างหูเขาทำให้เขาเข่าอ่อน
ยอมเจ้าทานุกิตรงหน้าอีกจนได้
「。。愛してる。。」
ซาวามูระแพ้ทางคนๆนี้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนๆก็ตาม
เขาน้อมรับทุกสัมผัสที่คนตรงหน้ามอบให้หลังจากนั้นทั้งคืน
....หลังจากผ่านคืนนั้นซาวามูระ ก็ได้ตัดสินใจว่า
จะไม่ดื่มเหล้าต่อหน้าใครอีกเลย....
ความคิดเห็น