คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #47 : S Fic : Boku no Hero Academia [ Someone has to die ] [Tomura X Izuku]
S
Fic : Boku no hero academia [ Someone has to die ]
Pairing : Tomura Shigaraki X Midoriya Izuku
Rate
: PG-17
Talk
: แหวกแนวแปป คือ ตอนนี้ประทับใจกับเดกุด้านมืด คือ น่าตื่นเต้นมาก
และมันคงไม่เกิดขึ้นในอนิเมะ เพราะงั้นเลยแต่งขึ้นมา คือ มันรู้สึกตื่นเต้นชอบกล
ตรงที่ถ้าเกิดเดกุเปลี่ยนใจไปเป็นพวกผู้ร้าย all for one one for all โลกจบแน่ๆ5555 บาย
“เขาบอกว่าผมเป็นฮีโร่ไม่ได้
ไม่ได้แปลว่าผมเป็นวายร้ายไม่ได้นี่นา”
____________________________
“บาคุโกะ ฉันมีเรื่องอยากจะถามนาย?”
เด็กหนุ่มเจ้าของอัตลักษณ์ไฟและน้ำแข็งมองคนตรงหน้า
ก่อนจะถามคำถามที่เรียกให้ชายหนุ่มที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ค่อยได้ต้องหยุดฟัง
เรื่องที่บาคุโกะ คัตสึกิ ผู้ใช้พลังอัตลักษณ์ระเบิดจากเหงื่อจะหยุดฟังและสนใจ
ไม่ใช่เรื่องของใครที่ไหนหรอก
ก็มีเพียงแค่เรื่องของเพื่อนสนิทสมัยเด็กคนเดียวเท่านั้นแหละ....มิโดริยะ
อิซูกุ....
“นายว่า
พักนี้มิโดริยะ ดูแปลกๆหรือเปล่า?” นัยน์ตาสองสีมองไปยังโต๊ะด้านหลังคนตรงหน้า
คนที่เป็นหัวข้อสนทนาตอนนี้เพิ่งจะหยิบกระเป๋าเดินออกไปได้ไม่นานนี่เอง
ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียน
ปกติแล้ว เด็กหนุ่มผมสีเขียว ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มด้วยกระน่ารัก เสียงหวานๆมักจะมาเรียกพวกเขา
ให้กลับบ้านพร้อมกัน หากแต่พักนี้มันไม่ใช่แบบนั้นเลย
...เดกุ เหรอ?...
“หา!!!
ไอ้เวรเดกุน่ะเหรอ? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?!!”
“......”
บาคุโกะมองคนตรงหน้า ที่ไม่โต้ตอบอะไรกับเขา
มีเพียงสายตาที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตร แต่ก็เยือกเย็นส่งกลับมา ..แกจะมายุ่งอะไรกับเดกุนักหนา?
เขาได้แค่เพียงคิดในใจ ก่อนบรรยากาศจะเงียบต่อไป ก่อนจะถอนหายใจในใจที่ดูท่าจะดังไปหน่อย
มันเลยดังออกมาข้างนอกด้วย
"เฮ้อ.."
โทโดริกิมองคนอารมณ์ร้อนที่ดูท่าทางจะใจเย็นลงตรงหน้า
"ฉันไม่รู้ว่านาย
ไปรู้อะไรมาหรอกนะ" บาคุโกะมองคนตรงหน้าแข็งๆ ด้วยความหหงุดหงิด
“จะว่าไป.. พักนี้เจ้านั่นก็แปลกจริงๆแหละ ชิ" บาคุโกะสบถ
ก่อนจะตอบคำถามนึกไปถึงเจ้าคนตัวเล็กที่เดี๋ยวนี้ทำตัวแปลกๆ ถึงเขาจะไม่ได้พูดอะไร
แต่ก็เขาก็สังเกตุได้ว่าเดกุมันแปลกไป
โทโดโรกิจับคางครุ่นคิด ฟังคำตอบของคนตรงหน้าแล้วก็นึกถึงข้อสันนิษฐานของตนเอง
เขาสังเกตมิโดริยะมาพักใหญ่แล้ว และมีแค่ช่วงไม่นานมานี้ที่คนที่ตนเองให้ความสนใจมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป
เขาไม่มั่นใจเท่าไหร่ เลยมาถามคนที่ดูท่าทางจะสนิทกับร่างบางมากที่สุดตรงนี้
ละมั้ง
“กะแล้วเชียว นายว่าเราควรบอกเรื่องนี้กับ ออลไมท์ไหม?”คุณชายไฟน้ำแข็งเสนอแนวทางเรื่องนี้
เขารู้ว่าบาคุโกะก็คงจะร้อนใจไม่น้อยไปกว่าเขาหรอก
เผลอๆยิ่งร้อนใจมากกว่าเขาด้วยซ้ำ
“อย่ามาถามฉันน่า!” ชายหนุ่มปัดมือของคนตรงหน้าออก ก่อนจะหยิบกระเป๋าพาดไหล่แล้วเดินออกจากห้องไป
ทิ้งให้คนผมสองสีมองตามอย่างไม่เข้าใจ
____________________________
“เธอให้เขาแตะต้องตัวเหรอ?” โทมุระช้อนคางมนขึ้นมาให้คนตรงหน้าสบตากับตนเองอย่างช้าๆ มือหยาบแกร่งเลื่อนเป็นโอบใบหน้าหวานที่มีกระเล็กๆตรงหน้าแทน
“..อึก” คนตัวเล็กสั่นเล็กน้อยรับสัมผัสเย็นๆจากมือของคนตรงหน้า
หลบตาต่ำลง เขาไม่อยากจะมีเรื่องกับคนที่ยังไงก็ไม่คิดจะฟังเหตุผลของเขาตอนนี้หรอก
แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิด เมื่อความรู้สึกเจ็บหน้าแล่นเข้าสู่เส้นประสารท
คนผมสีอ่อนมองคนตรงหน้า หวังเพียงต้องการคำตอบดีๆที่ถูกใจเขา
เพราะตอนนี้เขารู้สึกอยากจะฆ่าใครสักคนจริงๆโดยเฉพาะไอ้คนที่มันบังอาจมายุ่งกับของของเขาแบบนี้
ทั้งๆที่เขากำลังโมโหอยู่ขนาดนี้ หากแต่นัยน์ตาสีมรกตก็ยังไม่ยอมสบตากับเขา
มือที่สัมผัสดวงหน้าหวานแปรเปลี่ยนเป็นบีบรั้งด้วยแรงมหาศาล
แต่ไม่ได้มากมายจนทำให้คนตรงหน้าต้องเสียโฉมหรอก
เพียงแค่บีบรั้งกรามสร้างความเจ็บปวดเป็นการบังคับให้เด็กดื้อของเขายอมหันมาสบตากับเขาก็เท่านั้น
“อึก..เจ็บ..” มือเล็กๆที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากพลังอัตลักษณ์
สองมือเลื่อนขึ้นมาจับข้อมือของคนตัวสูงอย่างทรมาน
พยายามรั้งดึงมือเขาให้ปลดคนที่กำลังเจ็บปวดให้พ้นจากการบีบรั้งกระดูกกรามใบใบหน้าหวาน
เม็ดน้ำตาใสผุดขึ้นที่หาตา
พร้อมใบหน้าเจ็บปวดที่ถูกใจเขามาแต่ไหนแต่ไรยิ่งทำให้เขาตื่นเต้น
เขาอยากจะอ่อนโยนกับเจ้ากระต่ายของเขา
หากแต่เขาก็ชอบทำให้คนตรงหน้าต้องร้องอ้อนวอนขอความปราณีจากเขา
นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆลืมตาขึ้น เพราะแรงที่บีบอยู่ถูกผ่อนลง
เขาเหลือบมองคนตรงหน้า
แต่ก็ต้องพบกับรอยยิ้มสยองที่เขาเห็นบ่อยๆก่อนหน้านี้...คนๆนี้มันโรคจิตตัวพ่อจริงๆ...
รอยยิ้มที่ใครเห็นไม่ว่าจะเป็นลูกน้องหรือใครก็ต้องหวาดหวั่น
ร่างเล็กๆสั่นเทา มองรอยยิ้มแสยะโรคจิตไม่สนโลกของคนตรงหน้า
“ชิการากิซัง..” เสียงหวานแหบพล่า น้ำลายที่เหนียวติดกันในคอพยายามเรียกสติคนตรงหน้าที่กำลังอยู่ในโลกของความคิดให้หันมามองเขา
และมันก็ได้ผล
คนตรงหน้าหุบยิ้มก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มของคนปกติ เมื่อคนตัวเล็กยอมเรียกชื่อเขา
และมองมาที่เขา
“.....” คนตัวสูงไม่ได้ตอบอะไร มองคนตัวเล็กตรงหน้านิ่งๆ เรื่องมันยังไม่ถูกสะสาง
เขาไม่ได้หายโกรธแต่อย่างใด เพียงแค่พร้อมจะรับฟังคนตรงหน้าตอนนี้ก็เท่านั้น
หากแต่สัมผัสอุ่นทาบทับลงมาที่ริมฝีปากของเขาเรียกให้เขามองคนตรงหน้าที่เขาเทรนด์มาอย่างดีในช่วงไม่นานมานี้
ลิ้นเล็กๆไล่เลียริมฝีปากแห้งกรังของเขาอย่างไม่มีทีท่ารังเกียจสักนิด จนมันกลับมาเปียกชุ่มอีกครั้ง
ก่อนลิ้นร้อนๆเดียวกันนั่นจะพยายามดุนปากเขาให้เผยออกและแทรกเข้ามากวัดแกว่งภายในโพลงปากร้อนๆของเขา
โทมุระยกยิ้ม ก่อนจะรั้งดึงคนที่พยายามจูบเขาให้เข้ามาลึกขึ้น
เขาไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปหรอก
ลิ้นร้อนสากกวัดแกว่ง เคล้าเสียงเฉอะแฉะของของเหลว
เขาดูดลิ้นเล็กๆที่แลบออกมายั่วให้เขากินนั่น เขาพรมจูบ
ดูดคลึงริมฝีปากสีแดงสวยตรงหน้าจนมันเริ่มบวมเจ่อ
ก่อนจะยอมถอนจูบออกมาเมื่อขาสองข้างของคนเร่ิมจูบอ่อนระทวยจนเขาต้องโอบเอวประคองไว้
“ว่าไง? ยอมแล้วเหรอ?” คนตัวสูงกว่าผลักคนตรงหน้าให้ชิดกำแพงข้างหลังล็อกตัวไม่ให้คนตัวเล็กได้หลบไปไหน
หรือหาข้ออ้างออกไปไหนอีกวันนี้ ร่างเล็กๆสั่นเทิ้ม
มือแกร่งโอบรอบคอคนตัวสูงกว่าเข้ามา ซุกใบหน้าไปที่ซอกคนของคนตัวสูง
ก่อนเสียงเล็กๆแหบพล่าจะกระซิบคำบางคำที่ทำให้ หัวหน้าวายร้ายหมดความอดทน
ลากคนตัวเล็กเข้าห้องนอนไป แล้วไม่ออกมาอีกยันเช้า
「คุณก็รู้ว่า ตอนนี้ผมมีแค่คุณ
ร่างกายของยังบอกคุณไม่ดีพออีกเหรอครับ?」
____________________________
“โทมุระซัง ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทิ้งรอยไว้”
“......” เงียบ ไม่มีเสียงตอบกลับ
“ตอนเปลี่ยนชุดภาคสนามเพื่อฝึกซ้อม คนอื่นจะเห็นเอานะครับ”
คนตัวสูงโอบเอวนอนลูบไล้หน้าท้องแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของคนตัวเล็กกว่า
มือหยาบสากลูบไล้สะโพกมนที่เขาทั้งบีบขย้ำมาหลายชั่วโมงด้วยความหมั่นเขี้ยวตรงหน้า
ร่องรอยรักบนตัวของคนรัก เขาก็ต้องอยากให้คนอื่นเห็นอยู่แล้ว มันผิดตรงไหน?....
เขานอนบนเตียงมองเด็กหนุ่มที่กำลังบ่นเขาอยู่ด้วยความสงสัย
แต่ดูเหมือนสายตาที่ไม่มีมือหรือผมปิดบังจะทำให้คนตัวเล็กหันมามองค้อนใส่
ในขณะที่เขากำลังจะเพิ่มร่องรอยความเป็นเจ้าของนั่นเอง
“มันทำงานลำบากนะครับแบบนี้” อิซุกุมองคนตรงหน้าอย่างเคืองๆ
นัยน์ตาสีเขียวสวยเหลือบไปเห็นใบหน้าของคนตรงหน้า รอยเหี่ยวย่นที่อาจจะดูไม่น่าพิสมัย
ริมฝีปากแห้งกรังที่บวมจากการระดมจูบเขาตลอดหลายชั่วโมงก่อน
ก่อนเด็กหนุ่มจะถอนหายใจ ในขณะที่ยันกายขึ้น นิ้วเรียวยาวเอื้อมไปหยิบกระปุกเล็กๆบริเวณหัวเตียงที่เขาเอามาวางไว้สักพักใหญ่แล้ว
หากแต่จำนอนมันไม่ลดลงไปเสียเท่าไหร่
แสดงถึงว่าคนนอนบนเตียงนี้ไม่ค่อยได้ใช้มันเท่าไหร่ นิ้วเรียวยาวป้ายของในกระปุกออกมาเล็กน้อย
ก่อนจะหันมาหาคนที่โอบเอวตนอยู่
มือแกร่งอีกข้างดึงให้ร่างแกร่งที่นอนเปลือยเปล่าอยู่ลุกขึ้นมานั่งไม่ต่างจากเขาโดยที่ไม่ยอมคลายพันธนาการที่เอวเขาเลย
...จะโอบอะไรขนาดนั้น เขาจะไปไหนได้เล่า?...
“อืออ” นิ้วเรียวของเด็กหนุ่มทาปิโตเลียมเจลลงบนริมฝีปากแห้งนั่นเบาๆ
จนมันกลับมามันเงาสะท้อนแสงอีกครั้ง มิโดริยะยิ้มพอใจกับผลงานตรงหน้า เขาไม่ได้รังเกียจคนรักของเขา
เขาจะทำเรื่องแบบนั้นกับคนที่ตนเองรังเกียจได้อย่างไรกัน เพียงแค่เขาอยากให้เจ้าหัวหน้าองค์กรวายร้ายดูแลตัวเองก็เท่านั้นเอง
นิ้วเรียวคลึงปากร้อนอยู่สักพักก่อนจะรู้สึกถึงลิ้นร้อนๆที่รุกรามมาที่นิ้วเขา
พร้อมกับความเสียวสันหลัง รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของช่องทางด้านหลัง และถ้าโดนทำอะไรไปมากกว่านี้เขาคงจะลุกไปเรียนวันนี้ไม่ไหวอย่างแน่นอน
เขาชักนิ้วออกอย่างรวดเร็ว
ไม่ได้อยากจะเขินอายใดๆแต่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่านั่งหันหน้าเข้าหากันโดยมีคนที่เพิ่งทำเรื่องแบบนั้นบนเตียงหลายชม.โอบเอวอยู่
ไอ้บ้าที่ไหนมันจะไม่อายกันเล่า..
“ผมบอกแล้วไง
ในคุณทาลิปมันที่ผมทิ้งไว้ให้ก่อนนอนจะได้ไม่ปากแห้ง”
คนตัวเล็กพยายามเปลี่ยนเรื่องให้เร็วที่สุด จะได้ไม่โดนลากเข้ากิจกรรมบนเตียงอีกเป็นยกที่สาม
แค่นี้เขาก็ช้ำมากพอแล้ว
“ดูสิ มันยังไม่ลดไปเลย?” นิ้วเรียวคว้ากระปุก เปิดให้ดูถึงปริมานอันมากมายของปิโตรเลียมเจลกระปุกใหญ่ที่เขาอุส่าห์ไปซื้อมาให้จากในเมือง
และมาวางให้คนๆนี้ใช้ นอกจากเขาทาให้แล้วมันดูไม่ลดลงเลย ยิ่งคิด
คนอย่างเขาก็ยิ่งเคือง ในขณะที่เขากำลังคิดถึงความไม่ใส่ใจของคนตรงหน้า
กระปุกนั่นก็ถูกคว้าไปดื้อๆ โดยมือข้างหนึ่งของคนที่โอบเอวเขาอยู่นั่นล่ะ
....ยังไม่ปล่อยอีก...
“ยังไม่ลดลงจริงๆด้วย”
ตาคมมองไปที่เจลในกระปุกด้วยแววตาอ่านไม่ออก ก่อนนิ้วเรียวยาวสองนิ้วจะควักเจลนั่นออกมาทีเดียวครึ่งกระปุก
“เฮ้ยยย ทำอะไ- ร ของคุณน่ะ
หวาา! อ๊ะ อึก เจ็บ..” คนโดนผลัก ให้ลงไปนอนบนเตียงอีกครั้งครางเสียงหลง พร้อมศีรษะโดนกดติดกับเตียงนุ่มนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดจากแรงผลักที่ไม่ได้น้อยเลย
“ก็จะพยายามใช้เจลนี่ยังไงล่ะ”
คนตัวสูงที่คร่อมร่างเล็กตอบแบบซื่อๆ มองนิ้วเรียวยาวที่โชลมไปด้วยเจลมันวาวสีขุ่น
“เดี๋ยวผมไม่ได้ซื้อมาใช้แบบนี้ แล้วอีกอย่างส่วนผสมมันไม่ได้มีไว้ใช้กับ-อ๊า อ้ะ ฮี๊อส์” ก่อนที่จะได้โวยวายอะไร นิ้วร้อนๆที่ชุ่มไปด้วยเจลเย็นๆ กลิ่นหืนของน้ำมันลอยเข้ามาในจมูกเขา
นิ้วเรียวสองนิ้วสอดแทรกเข้าไปในช่องทาร้อนที่บวมแดงจากการกระทำของเขาเมื่อชั่วโมงก่อนยังคงตอดรัดนิ้วของเขา เขาขยับนิ้วเข้าออกช้าๆ
ถอนออกมาลูบวนบริเวรรอบๆ ก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปใหม่ กระตุ้นอารมณ์โดยการลูบแก่นกายขึ้นลงอย่างช้าๆ
ผ่านไปสักพักใหญ่ๆจนคนตัวเล็กของเขาเริ่มจะมีอารมณ์อีกครั้ง
จากการที่แก่นกายนั่นกลับมาแข็งตัวปริ่มน้ำ
และเขาก็หยุดการกระทำบริเวณช่องทางด้านหลังลง ทำให้คนที่ถูกปรนเปรอต้องคิ้วขมวดเข้าหากัน
เพราะไม่ถึงฝั่งฝันเสียที จนต้องร้องขอออกมา
“อื้อ อา..มากกว่านี้” ไม่รีรอหรืออะไร
เขาทนมาสักพักใหญ่แล้ว ที่จะเข้าไปในตัวของคนรักตน
“เร็วอีกๆ โทมุระซัง อ๊ะๆ อือ” สะโพกเล็กเรียกร้องหาสัมผัสที่มากกว่านี้
พยายามขยับช่วย เพื่อจะได้ถึงจุดปลดปล่อยเสียที เสียงเตียงดังเอื้ดอ๊าด
พร้อมกับร่างที่ขยับไปตามแรงกระแทกเป็นจังหวะช้าเร็วสลับกันไป
“...อาา ดีจริงๆที่นายซื้อมา ซื้ดส์ อื้มม อา..”
คนตัวเล็กปิดปากครางกระเส่าให้กับแรงกระแทกจากเบื้องล่าง
รับน้ำหนักที่ไม่ได้เบาเลยสักนิดจากคนข้างบนที่ดูท่าจะสนุกกับการได้แกล้งเขา
“อึก อื้ออ อ๊ะๆๆ อ๊าส์”
มือเล็กถูกจับให้เปลี่ยนมาเป็นคล้องคอคนที่กำลังบรรเลงบทรักอยู่แทน
ทำให้แสงที่พยายามกลั้นดังลั่นห้อง เต็มไปด้วยความเสียวเคล้าคลอ เสียงเนื้ออ่อนกระทบกันสลับกับเสียงเฉอะแฉะ
“ฉันรักเธอนะ ..”
“เพราะฉะนั้นเธอเป็นของฉัน ของฉันคนเดียวเท่านั้น”
นึกถึงภาพคนตัวเล็กเดินเคียงคู่กับเจ้าเด็กบาคุโกะที่เขาเคยจะทาบทางให้เข้ามาองค์กรวายร้ายของเขา
ยิ่งทำให้เขาโมโห มือเรียวจากที่โอบเอวแปรเปลี่ยนเป็นบีบรัดคอระหงส์ของคนที่
ครางกระเส่าจากการกระแทกจุดสวาทภายในช่องทางคับแคบนั่น
“เธอเป็นของฉัน”
“อ็อก อื้ออ แฮ่ก แค่กๆ” คนที่กำลังถูกระบายอารมณ์
ตอนนี้สติหลุดไปแล้ว ร้องครางด้วยความทรมานจากแรงบีบรัดที่คอระหงส์
กอปรกับความเสียวจากช่องทางด้านหลัง น้ำตาเม็ดใสผุดขึ้น
ขอบตาแดงก่ำจากการพยายามหายใจ
สักพักแรงกระแทกจากข้างล่างจะเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ
เขาตอกกระแทกแก่นกายแข็งรัวกับช่องทางร้อน และสะโพกมนเป็นการปิดท้าย ก่อนจะกระตุกปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นพร้อมๆกันกับคนที่ครางเสียงหลงปนทรมานตรงหน้า
หากแต่เขาปล่อยมันภายในช่องทางที่ยังคงบีบรัดแก่นกายเขาไม่หยุด
ทั้งๆที่เจ้าของร่างกายหมดสติไปนานแล้ว
“เธอเป็นของฉันคนเดียว... มิโดริยะ อิซูกุ....”
เขากระซิบถ้อยคำรักไม่หยุด ถอนแก่นกายร้อนชุ่มไปด้วยของเหลวที่ตนปล่อยออกมา
เช็ดตัวทำความสะอาดคนที่เขาหลงใหลหมดหัวใจ
จนยอมทุกอย่างแม้กระทั่งจะยกองค์กรนี้ให้ โอบกอดร่างอุ่นๆของคนข้างกาย
ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราตามไป
____________________________
เสียงประกาศเตือนภัยดังลั่น
ผู้คนอพยพหนี ขณะนี้เมืองกำลังถูกโจมตีโดยโนมุ กลุ่มใหญ่ เสียงกรีดร้อง เคล้ากับเสียงปืน
และเสียงการต่อสู้ดังสนั่นไปทั่วเมือง เพลิงถูกจุดประทุไปทั่วทุกสารทิศ
ขณะที่ทุกคน ฮีโร่ เจ้าหน้าที่กำลังวุ่นวายพยายามจัดการปราบวายร้าย
กับปีศาจโนมุนับสิบทั่วเมืองนั้น แต่ทุกอย่างมันดังก้องราวกับเป็นเพียงเสียงไกลๆเท่านั้นสำหรับคนๆนึง
เพราะตอนนี้ภาพตรงหน้า คัตสึกิ บาคุโกะ มันทำให้เขาตกอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่งเสียมากกว่า
เขามองตามคนผมสีเขียวเข้ม ที่คุ้นเคย ร่างกายเล็กๆนั่นสวมชุดสูทราคาแพง
ผูกไทด์สีแดงฉานราวกับเลือดตรงหน้า แสงไฟตึกที่ทำงานผิดปกติกระพริบ มืดสว่างสลับกันทำให้เขาเห็นไม่ชัด
.....แต่บาคุโกะมั่นใจ
คนตรงหน้านั้นคือเพื่อนสมัยเด็กของเขา นี่มันไอ้เวรเดกุแน่นอน.....
“แกทำอะไรของแกอยู่ตรงนั้นน่ะ เดกุ!!” บาคุโกะตะโกนถามด้วยความโมโห คิ้วเรียวขมวดติดกัน ตาสีแดงเพลิงฉายส่อถึงความโกรธ
คนตัวเล็กค่อยๆหันมามองด้วยแววตาสงสัย
ก็เห็นๆอยู่ว่าเขาทำอะไร...คัตจังออกจะเก่งทำไมยังจะถามอีก...
บาคุโกะมองแววตาสงสัยนั้นก็เข้าใจว่าคนๆกำลังกวนประสารทเขาอยู่
“ฉันไม่ถามว่าแกทำอะไร ฉันมีตา ฉันมองอยู่ แต่ฉันถามว่าแกทำแบบนี้ทำไม?”
คนอารมณืร้อนถามสวนกลับไปด้วยอารมณ์โมโห ถึงขึ้นสุด
จนต้องระเบิดรถข้างๆตัวด้วยความโมโห มองการกระทำของคนสำคัญของตน
“คัตจังไม่เคยพูดดีๆกับผมเลยนะ มีแต่โมโหตลอด..” แววตาเย็นชาเปรแปลี่ยนเป็นเจ็บปวดวูบนึง
เรียกให้บาคุโกะเสียงอ่อนลง มองคนตรงหน้าที่ทำหน้าเจ็บปวดเพียงเสี้ยววินาที
“นี่จำได้หรือเปล่า ที่นายบอกผมว่า
คนอย่างผมมันเป็นฮีโร่ไม่ได้หรอกน่ะ...แต่ว่านะ....”
“เขาบอกว่าผมเป็นฮีโร่ไม่ได้
ไม่ได้แปลว่าผมเป็นวายร้ายไม่ได้นี่นา”
นัยน์ตาสีเขียวสวยตอนนี้ไม่ฉายแววสดใสอีกต่อไป
มันนด้านชาราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ใบหน้าที่ประดับด้วยกระน่ารักเปรอะเปื้อนเลือดแดงฉาน
จนมองแทบไม่ออกเลยว่าคนตรงหน้าคือใคร
“นี่.....ใช่ไหมล่ะ?”
“คัตจัง”
เสียงใสๆที่เคยดังก้องในหูเขา
ดังขึ้นชัดเจนในโสตย์ประสารทเขาอีกครั้ง ณ เวลานี้ คละคลุ้งกับกลิ่นคาวเลือดที่เลือดที่สาดไปทั่วห้อง
“เดกุ..”
END
รอต่อภาคหน้า
You can’t save me กับเรื่องราวก่อนเดกุจะเปลี่ยนไปนะจ้ะ
ความคิดเห็น