ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All Yaoi Fictions

    ลำดับตอนที่ #47 : S Fic : Boku no Hero Academia [ Someone has to die ] [Tomura X Izuku]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.69K
      145
      14 เม.ย. 63

    S Fic : Boku no hero academia [ Someone has to die ]

     

    Pairing : Tomura Shigaraki X Midoriya Izuku

     

    Rate : PG-17

     

    Talk : แหวกแนวแปป คือ ตอนนี้ประทับใจกับเดกุด้านมืด คือ น่าตื่นเต้นมาก และมันคงไม่เกิดขึ้นในอนิเมะ เพราะงั้นเลยแต่งขึ้นมา คือ มันรู้สึกตื่นเต้นชอบกล ตรงที่ถ้าเกิดเดกุเปลี่ยนใจไปเป็นพวกผู้ร้าย all for one one for all โลกจบแน่ๆ5555 บาย

     


     

    “เขาบอกว่าผมเป็นฮีโร่ไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าผมเป็นวายร้ายไม่ได้นี่นา”

     

    ____________________________

     

    บาคุโกะ ฉันมีเรื่องอยากจะถามนาย?” เด็กหนุ่มเจ้าของอัตลักษณ์ไฟและน้ำแข็งมองคนตรงหน้า ก่อนจะถามคำถามที่เรียกให้ชายหนุ่มที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ค่อยได้ต้องหยุดฟัง เรื่องที่บาคุโกะ คัตสึกิ ผู้ใช้พลังอัตลักษณ์ระเบิดจากเหงื่อจะหยุดฟังและสนใจ ไม่ใช่เรื่องของใครที่ไหนหรอก ก็มีเพียงแค่เรื่องของเพื่อนสนิทสมัยเด็กคนเดียวเท่านั้นแหละ....มิโดริยะ อิซูกุ....

     

    นายว่า พักนี้มิโดริยะ ดูแปลกๆหรือเปล่า?” นัยน์ตาสองสีมองไปยังโต๊ะด้านหลังคนตรงหน้า คนที่เป็นหัวข้อสนทนาตอนนี้เพิ่งจะหยิบกระเป๋าเดินออกไปได้ไม่นานนี่เอง

    ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียน ปกติแล้ว เด็กหนุ่มผมสีเขียว ใบหน้าหวานที่แต่งแต้มด้วยกระน่ารัก เสียงหวานๆมักจะมาเรียกพวกเขา ให้กลับบ้านพร้อมกัน หากแต่พักนี้มันไม่ใช่แบบนั้นเลย

     

    ...เดกุ เหรอ?...

     

    หา!!! ไอ้เวรเดกุน่ะเหรอ? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?!!

     

    “......”  บาคุโกะมองคนตรงหน้า ที่ไม่โต้ตอบอะไรกับเขา มีเพียงสายตาที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตร แต่ก็เยือกเย็นส่งกลับมา ..แกจะมายุ่งอะไรกับเดกุนักหนา? เขาได้แค่เพียงคิดในใจ ก่อนบรรยากาศจะเงียบต่อไป ก่อนจะถอนหายใจในใจที่ดูท่าจะดังไปหน่อย มันเลยดังออกมาข้างนอกด้วย

     

    "เฮ้อ..​" โทโดริกิมองคนอารมณ์ร้อนที่ดูท่าทางจะใจเย็นลงตรงหน้า

     

    "ฉันไม่รู้ว่านาย ไปรู้อะไรมาหรอกนะ" บาคุโกะมองคนตรงหน้าแข็งๆ ด้วยความหหงุดหงิด

     

    จะว่าไป.. พักนี้เจ้านั่นก็แปลกจริงๆแหละ ชิ"  บาคุโกะสบถ ก่อนจะตอบคำถามนึกไปถึงเจ้าคนตัวเล็กที่เดี๋ยวนี้ทำตัวแปลกๆ ถึงเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็เขาก็สังเกตุได้ว่าเดกุมันแปลกไป

     

             โทโดโรกิจับคางครุ่นคิด ฟังคำตอบของคนตรงหน้าแล้วก็นึกถึงข้อสันนิษฐานของตนเอง เขาสังเกตมิโดริยะมาพักใหญ่แล้ว และมีแค่ช่วงไม่นานมานี้ที่คนที่ตนเองให้ความสนใจมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เขาไม่มั่นใจเท่าไหร่ เลยมาถามคนที่ดูท่าทางจะสนิทกับร่างบางมากที่สุดตรงนี้ ละมั้ง


    กะแล้วเชียว นายว่าเราควรบอกเรื่องนี้กับ ออลไมท์ไหม?”คุณชายไฟน้ำแข็งเสนอแนวทางเรื่องนี้ เขารู้ว่าบาคุโกะก็คงจะร้อนใจไม่น้อยไปกว่าเขาหรอก เผลอๆยิ่งร้อนใจมากกว่าเขาด้วยซ้ำ


    อย่ามาถามฉันน่า!” ชายหนุ่มปัดมือของคนตรงหน้าออก ก่อนจะหยิบกระเป๋าพาดไหล่แล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้คนผมสองสีมองตามอย่างไม่เข้าใจ

     

    ____________________________

     

     “เธอให้เขาแตะต้องตัวเหรอ?” โทมุระช้อนคางมนขึ้นมาให้คนตรงหน้าสบตากับตนเองอย่างช้าๆ มือหยาบแกร่งเลื่อนเป็นโอบใบหน้าหวานที่มีกระเล็กๆตรงหน้าแทน

     

    “..อึก” คนตัวเล็กสั่นเล็กน้อยรับสัมผัสเย็นๆจากมือของคนตรงหน้า หลบตาต่ำลง เขาไม่อยากจะมีเรื่องกับคนที่ยังไงก็ไม่คิดจะฟังเหตุผลของเขาตอนนี้หรอก แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิด เมื่อความรู้สึกเจ็บหน้าแล่นเข้าสู่เส้นประสารท

     

    คนผมสีอ่อนมองคนตรงหน้า หวังเพียงต้องการคำตอบดีๆที่ถูกใจเขา เพราะตอนนี้เขารู้สึกอยากจะฆ่าใครสักคนจริงๆโดยเฉพาะไอ้คนที่มันบังอาจมายุ่งกับของของเขาแบบนี้ ทั้งๆที่เขากำลังโมโหอยู่ขนาดนี้ หากแต่นัยน์ตาสีมรกตก็ยังไม่ยอมสบตากับเขา มือที่สัมผัสดวงหน้าหวานแปรเปลี่ยนเป็นบีบรั้งด้วยแรงมหาศาล แต่ไม่ได้มากมายจนทำให้คนตรงหน้าต้องเสียโฉมหรอก เพียงแค่บีบรั้งกรามสร้างความเจ็บปวดเป็นการบังคับให้เด็กดื้อของเขายอมหันมาสบตากับเขาก็เท่านั้น

     

    “อึก..เจ็บ..” มือเล็กๆที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากพลังอัตลักษณ์ สองมือเลื่อนขึ้นมาจับข้อมือของคนตัวสูงอย่างทรมาน พยายามรั้งดึงมือเขาให้ปลดคนที่กำลังเจ็บปวดให้พ้นจากการบีบรั้งกระดูกกรามใบใบหน้าหวาน

     

    เม็ดน้ำตาใสผุดขึ้นที่หาตา พร้อมใบหน้าเจ็บปวดที่ถูกใจเขามาแต่ไหนแต่ไรยิ่งทำให้เขาตื่นเต้น เขาอยากจะอ่อนโยนกับเจ้ากระต่ายของเขา หากแต่เขาก็ชอบทำให้คนตรงหน้าต้องร้องอ้อนวอนขอความปราณีจากเขา

     

    นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆลืมตาขึ้น เพราะแรงที่บีบอยู่ถูกผ่อนลง เขาเหลือบมองคนตรงหน้า แต่ก็ต้องพบกับรอยยิ้มสยองที่เขาเห็นบ่อยๆก่อนหน้านี้...คนๆนี้มันโรคจิตตัวพ่อจริงๆ...

    รอยยิ้มที่ใครเห็นไม่ว่าจะเป็นลูกน้องหรือใครก็ต้องหวาดหวั่น ร่างเล็กๆสั่นเทา มองรอยยิ้มแสยะโรคจิตไม่สนโลกของคนตรงหน้า

     

    “ชิการากิซัง..” เสียงหวานแหบพล่า น้ำลายที่เหนียวติดกันในคอพยายามเรียกสติคนตรงหน้าที่กำลังอยู่ในโลกของความคิดให้หันมามองเขา

    และมันก็ได้ผล คนตรงหน้าหุบยิ้มก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มของคนปกติ เมื่อคนตัวเล็กยอมเรียกชื่อเขา และมองมาที่เขา

     

    “.....” คนตัวสูงไม่ได้ตอบอะไร มองคนตัวเล็กตรงหน้านิ่งๆ เรื่องมันยังไม่ถูกสะสาง เขาไม่ได้หายโกรธแต่อย่างใด เพียงแค่พร้อมจะรับฟังคนตรงหน้าตอนนี้ก็เท่านั้น

     

    หากแต่สัมผัสอุ่นทาบทับลงมาที่ริมฝีปากของเขาเรียกให้เขามองคนตรงหน้าที่เขาเทรนด์มาอย่างดีในช่วงไม่นานมานี้ ลิ้นเล็กๆไล่เลียริมฝีปากแห้งกรังของเขาอย่างไม่มีทีท่ารังเกียจสักนิด จนมันกลับมาเปียกชุ่มอีกครั้ง ก่อนลิ้นร้อนๆเดียวกันนั่นจะพยายามดุนปากเขาให้เผยออกและแทรกเข้ามากวัดแกว่งภายในโพลงปากร้อนๆของเขา โทมุระยกยิ้ม ก่อนจะรั้งดึงคนที่พยายามจูบเขาให้เข้ามาลึกขึ้น เขาไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปหรอก

     

    ลิ้นร้อนสากกวัดแกว่ง เคล้าเสียงเฉอะแฉะของของเหลว เขาดูดลิ้นเล็กๆที่แลบออกมายั่วให้เขากินนั่น เขาพรมจูบ ดูดคลึงริมฝีปากสีแดงสวยตรงหน้าจนมันเริ่มบวมเจ่อ ก่อนจะยอมถอนจูบออกมาเมื่อขาสองข้างของคนเร่ิมจูบอ่อนระทวยจนเขาต้องโอบเอวประคองไว้

     

    “ว่าไง? ยอมแล้วเหรอ?” คนตัวสูงกว่าผลักคนตรงหน้าให้ชิดกำแพงข้างหลังล็อกตัวไม่ให้คนตัวเล็กได้หลบไปไหน หรือหาข้ออ้างออกไปไหนอีกวันนี้ ร่างเล็กๆสั่นเทิ้ม มือแกร่งโอบรอบคอคนตัวสูงกว่าเข้ามา ซุกใบหน้าไปที่ซอกคนของคนตัวสูง ก่อนเสียงเล็กๆแหบพล่าจะกระซิบคำบางคำที่ทำให้ หัวหน้าวายร้ายหมดความอดทน ลากคนตัวเล็กเข้าห้องนอนไป แล้วไม่ออกมาอีกยันเช้า

     

    คุณก็รู้ว่า ตอนนี้ผมมีแค่คุณ ร่างกายของยังบอกคุณไม่ดีพออีกเหรอครับ?

    ____________________________

     

    “โทมุระซัง ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทิ้งรอยไว้”

     

    “......” เงียบ ไม่มีเสียงตอบกลับ

     

    “ตอนเปลี่ยนชุดภาคสนามเพื่อฝึกซ้อม คนอื่นจะเห็นเอานะครับ”

    คนตัวสูงโอบเอวนอนลูบไล้หน้าท้องแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของคนตัวเล็กกว่า มือหยาบสากลูบไล้สะโพกมนที่เขาทั้งบีบขย้ำมาหลายชั่วโมงด้วยความหมั่นเขี้ยวตรงหน้า ร่องรอยรักบนตัวของคนรัก เขาก็ต้องอยากให้คนอื่นเห็นอยู่แล้ว มันผิดตรงไหน?....

     

    เขานอนบนเตียงมองเด็กหนุ่มที่กำลังบ่นเขาอยู่ด้วยความสงสัย แต่ดูเหมือนสายตาที่ไม่มีมือหรือผมปิดบังจะทำให้คนตัวเล็กหันมามองค้อนใส่ ในขณะที่เขากำลังจะเพิ่มร่องรอยความเป็นเจ้าของนั่นเอง

     

    “มันทำงานลำบากนะครับแบบนี้” อิซุกุมองคนตรงหน้าอย่างเคืองๆ นัยน์ตาสีเขียวสวยเหลือบไปเห็นใบหน้าของคนตรงหน้า รอยเหี่ยวย่นที่อาจจะดูไม่น่าพิสมัย ริมฝีปากแห้งกรังที่บวมจากการระดมจูบเขาตลอดหลายชั่วโมงก่อน ก่อนเด็กหนุ่มจะถอนหายใจ ในขณะที่ยันกายขึ้น นิ้วเรียวยาวเอื้อมไปหยิบกระปุกเล็กๆบริเวณหัวเตียงที่เขาเอามาวางไว้สักพักใหญ่แล้ว หากแต่จำนอนมันไม่ลดลงไปเสียเท่าไหร่ แสดงถึงว่าคนนอนบนเตียงนี้ไม่ค่อยได้ใช้มันเท่าไหร่ นิ้วเรียวยาวป้ายของในกระปุกออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันมาหาคนที่โอบเอวตนอยู่ มือแกร่งอีกข้างดึงให้ร่างแกร่งที่นอนเปลือยเปล่าอยู่ลุกขึ้นมานั่งไม่ต่างจากเขาโดยที่ไม่ยอมคลายพันธนาการที่เอวเขาเลย ...จะโอบอะไรขนาดนั้น เขาจะไปไหนได้เล่า?...

     

    “อืออ” นิ้วเรียวของเด็กหนุ่มทาปิโตเลียมเจลลงบนริมฝีปากแห้งนั่นเบาๆ จนมันกลับมามันเงาสะท้อนแสงอีกครั้ง มิโดริยะยิ้มพอใจกับผลงานตรงหน้า  เขาไม่ได้รังเกียจคนรักของเขา เขาจะทำเรื่องแบบนั้นกับคนที่ตนเองรังเกียจได้อย่างไรกัน เพียงแค่เขาอยากให้เจ้าหัวหน้าองค์กรวายร้ายดูแลตัวเองก็เท่านั้นเอง

     

    นิ้วเรียวคลึงปากร้อนอยู่สักพักก่อนจะรู้สึกถึงลิ้นร้อนๆที่รุกรามมาที่นิ้วเขา พร้อมกับความเสียวสันหลัง รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของช่องทางด้านหลัง และถ้าโดนทำอะไรไปมากกว่านี้เขาคงจะลุกไปเรียนวันนี้ไม่ไหวอย่างแน่นอน เขาชักนิ้วออกอย่างรวดเร็ว ไม่ได้อยากจะเขินอายใดๆแต่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่านั่งหันหน้าเข้าหากันโดยมีคนที่เพิ่งทำเรื่องแบบนั้นบนเตียงหลายชม.โอบเอวอยู่ ไอ้บ้าที่ไหนมันจะไม่อายกันเล่า..

     

    “ผมบอกแล้วไง ในคุณทาลิปมันที่ผมทิ้งไว้ให้ก่อนนอนจะได้ไม่ปากแห้ง” คนตัวเล็กพยายามเปลี่ยนเรื่องให้เร็วที่สุด จะได้ไม่โดนลากเข้ากิจกรรมบนเตียงอีกเป็นยกที่สาม แค่นี้เขาก็ช้ำมากพอแล้ว

     

    “ดูสิ มันยังไม่ลดไปเลย?” นิ้วเรียวคว้ากระปุก เปิดให้ดูถึงปริมานอันมากมายของปิโตรเลียมเจลกระปุกใหญ่ที่เขาอุส่าห์ไปซื้อมาให้จากในเมือง และมาวางให้คนๆนี้ใช้ นอกจากเขาทาให้แล้วมันดูไม่ลดลงเลย ยิ่งคิด คนอย่างเขาก็ยิ่งเคือง ในขณะที่เขากำลังคิดถึงความไม่ใส่ใจของคนตรงหน้า กระปุกนั่นก็ถูกคว้าไปดื้อๆ โดยมือข้างหนึ่งของคนที่โอบเอวเขาอยู่นั่นล่ะ

     

    ....ยังไม่ปล่อยอีก...

     

    “ยังไม่ลดลงจริงๆด้วย” ตาคมมองไปที่เจลในกระปุกด้วยแววตาอ่านไม่ออก ก่อนนิ้วเรียวยาวสองนิ้วจะควักเจลนั่นออกมาทีเดียวครึ่งกระปุก

     

    “เฮ้ยยย ทำอะไ- ร ของคุณน่ะ หวาา! อ๊ะ อึก เจ็บ..” คนโดนผลัก ให้ลงไปนอนบนเตียงอีกครั้งครางเสียงหลง พร้อมศีรษะโดนกดติดกับเตียงนุ่มนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดจากแรงผลักที่ไม่ได้น้อยเลย

     

    “ก็จะพยายามใช้เจลนี่ยังไงล่ะ” คนตัวสูงที่คร่อมร่างเล็กตอบแบบซื่อๆ มองนิ้วเรียวยาวที่โชลมไปด้วยเจลมันวาวสีขุ่น

     

    “เดี๋ยวผมไม่ได้ซื้อมาใช้แบบนี้ แล้วอีกอย่างส่วนผสมมันไม่ได้มีไว้ใช้กับ-อ๊า อ้ะ ฮี๊อส์” ก่อนที่จะได้โวยวายอะไร นิ้วร้อนๆที่ชุ่มไปด้วยเจลเย็นๆ กลิ่นหืนของน้ำมันลอยเข้ามาในจมูกเขา นิ้วเรียวสองนิ้วสอดแทรกเข้าไปในช่องทาร้อนที่บวมแดงจากการกระทำของเขาเมื่อชั่วโมงก่อนยังคงตอดรัดนิ้วของเขา  เขาขยับนิ้วเข้าออกช้าๆ ถอนออกมาลูบวนบริเวรรอบๆ ก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปใหม่ กระตุ้นอารมณ์โดยการลูบแก่นกายขึ้นลงอย่างช้าๆ ผ่านไปสักพักใหญ่ๆจนคนตัวเล็กของเขาเริ่มจะมีอารมณ์อีกครั้ง จากการที่แก่นกายนั่นกลับมาแข็งตัวปริ่มน้ำ และเขาก็หยุดการกระทำบริเวณช่องทางด้านหลังลง ทำให้คนที่ถูกปรนเปรอต้องคิ้วขมวดเข้าหากัน เพราะไม่ถึงฝั่งฝันเสียที จนต้องร้องขอออกมา

     

    “อื้อ อา..มากกว่านี้” ไม่รีรอหรืออะไร เขาทนมาสักพักใหญ่แล้ว ที่จะเข้าไปในตัวของคนรักตน

     

    “เร็วอีกๆ โทมุระซัง อ๊ะๆ อือ” สะโพกเล็กเรียกร้องหาสัมผัสที่มากกว่านี้ พยายามขยับช่วย เพื่อจะได้ถึงจุดปลดปล่อยเสียที เสียงเตียงดังเอื้ดอ๊าด พร้อมกับร่างที่ขยับไปตามแรงกระแทกเป็นจังหวะช้าเร็วสลับกันไป

     

    “...อาา ดีจริงๆที่นายซื้อมา ซื้ดส์ อื้มม อา..” คนตัวเล็กปิดปากครางกระเส่าให้กับแรงกระแทกจากเบื้องล่าง รับน้ำหนักที่ไม่ได้เบาเลยสักนิดจากคนข้างบนที่ดูท่าจะสนุกกับการได้แกล้งเขา


    “อึก อื้ออ อ๊ะๆๆ อ๊าส์” มือเล็กถูกจับให้เปลี่ยนมาเป็นคล้องคอคนที่กำลังบรรเลงบทรักอยู่แทน ทำให้แสงที่พยายามกลั้นดังลั่นห้อง เต็มไปด้วยความเสียวเคล้าคลอ เสียงเนื้ออ่อนกระทบกันสลับกับเสียงเฉอะแฉะ

     

    “ฉันรักเธอนะ ..”

     

    “เพราะฉะนั้นเธอเป็นของฉัน ของฉันคนเดียวเท่านั้น”

             นึกถึงภาพคนตัวเล็กเดินเคียงคู่กับเจ้าเด็กบาคุโกะที่เขาเคยจะทาบทางให้เข้ามาองค์กรวายร้ายของเขา ยิ่งทำให้เขาโมโห มือเรียวจากที่โอบเอวแปรเปลี่ยนเป็นบีบรัดคอระหงส์ของคนที่ ครางกระเส่าจากการกระแทกจุดสวาทภายในช่องทางคับแคบนั่น

    “เธอเป็นของฉัน”

     

    “อ็อก อื้ออ แฮ่ก แค่กๆ” คนที่กำลังถูกระบายอารมณ์ ตอนนี้สติหลุดไปแล้ว ร้องครางด้วยความทรมานจากแรงบีบรัดที่คอระหงส์ กอปรกับความเสียวจากช่องทางด้านหลัง น้ำตาเม็ดใสผุดขึ้น ขอบตาแดงก่ำจากการพยายามหายใจ

    สักพักแรงกระแทกจากข้างล่างจะเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาตอกกระแทกแก่นกายแข็งรัวกับช่องทางร้อน และสะโพกมนเป็นการปิดท้าย ก่อนจะกระตุกปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นพร้อมๆกันกับคนที่ครางเสียงหลงปนทรมานตรงหน้า หากแต่เขาปล่อยมันภายในช่องทางที่ยังคงบีบรัดแก่นกายเขาไม่หยุด ทั้งๆที่เจ้าของร่างกายหมดสติไปนานแล้ว

     

    “เธอเป็นของฉันคนเดียว... มิโดริยะ อิซูกุ....” เขากระซิบถ้อยคำรักไม่หยุด ถอนแก่นกายร้อนชุ่มไปด้วยของเหลวที่ตนปล่อยออกมา เช็ดตัวทำความสะอาดคนที่เขาหลงใหลหมดหัวใจ จนยอมทุกอย่างแม้กระทั่งจะยกองค์กรนี้ให้ โอบกอดร่างอุ่นๆของคนข้างกาย ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราตามไป

    ____________________________


             เสียงประกาศเตือนภัยดังลั่น ผู้คนอพยพหนี ขณะนี้เมืองกำลังถูกโจมตีโดยโนมุ กลุ่มใหญ่ เสียงกรีดร้อง เคล้ากับเสียงปืน และเสียงการต่อสู้ดังสนั่นไปทั่วเมือง เพลิงถูกจุดประทุไปทั่วทุกสารทิศ ขณะที่ทุกคน ฮีโร่ เจ้าหน้าที่กำลังวุ่นวายพยายามจัดการปราบวายร้าย กับปีศาจโนมุนับสิบทั่วเมืองนั้น แต่ทุกอย่างมันดังก้องราวกับเป็นเพียงเสียงไกลๆเท่านั้นสำหรับคนๆนึง เพราะตอนนี้ภาพตรงหน้า คัตสึกิ บาคุโกะ มันทำให้เขาตกอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่งเสียมากกว่า เขามองตามคนผมสีเขียวเข้ม ที่คุ้นเคย ร่างกายเล็กๆนั่นสวมชุดสูทราคาแพง ผูกไทด์สีแดงฉานราวกับเลือดตรงหน้า แสงไฟตึกที่ทำงานผิดปกติกระพริบ มืดสว่างสลับกันทำให้เขาเห็นไม่ชัด

    .....แต่บาคุโกะมั่นใจ คนตรงหน้านั้นคือเพื่อนสมัยเด็กของเขา นี่มันไอ้เวรเดกุแน่นอน.....

     

    “แกทำอะไรของแกอยู่ตรงนั้นน่ะ เดกุ!!” บาคุโกะตะโกนถามด้วยความโมโห คิ้วเรียวขมวดติดกัน ตาสีแดงเพลิงฉายส่อถึงความโกรธ คนตัวเล็กค่อยๆหันมามองด้วยแววตาสงสัย ก็เห็นๆอยู่ว่าเขาทำอะไร...คัตจังออกจะเก่งทำไมยังจะถามอีก...

     

    บาคุโกะมองแววตาสงสัยนั้นก็เข้าใจว่าคนๆกำลังกวนประสารทเขาอยู่


    “ฉันไม่ถามว่าแกทำอะไร ฉันมีตา ฉันมองอยู่ แต่ฉันถามว่าแกทำแบบนี้ทำไม?” คนอารมณืร้อนถามสวนกลับไปด้วยอารมณ์โมโห ถึงขึ้นสุด จนต้องระเบิดรถข้างๆตัวด้วยความโมโห มองการกระทำของคนสำคัญของตน

     

    “คัตจังไม่เคยพูดดีๆกับผมเลยนะ มีแต่โมโหตลอด..” แววตาเย็นชาเปรแปลี่ยนเป็นเจ็บปวดวูบนึง เรียกให้บาคุโกะเสียงอ่อนลง มองคนตรงหน้าที่ทำหน้าเจ็บปวดเพียงเสี้ยววินาที

     

    “นี่จำได้หรือเปล่า ที่นายบอกผมว่า คนอย่างผมมันเป็นฮีโร่ไม่ได้หรอกน่ะ...แต่ว่านะ....”

     

    “เขาบอกว่าผมเป็นฮีโร่ไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าผมเป็นวายร้ายไม่ได้นี่นา”

    นัยน์ตาสีเขียวสวยตอนนี้ไม่ฉายแววสดใสอีกต่อไป มันนด้านชาราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ใบหน้าที่ประดับด้วยกระน่ารักเปรอะเปื้อนเลือดแดงฉาน จนมองแทบไม่ออกเลยว่าคนตรงหน้าคือใคร

     

    “นี่.....ใช่ไหมล่ะ?”

     

    “คัตจัง”


     เสียงใสๆที่เคยดังก้องในหูเขา ดังขึ้นชัดเจนในโสตย์ประสารทเขาอีกครั้ง ณ เวลานี้ คละคลุ้งกับกลิ่นคาวเลือดที่เลือดที่สาดไปทั่วห้อง

     

    “เดกุ..”


     

    END

     

    รอต่อภาคหน้า You can’t save me กับเรื่องราวก่อนเดกุจะเปลี่ยนไปนะจ้ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×