ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All Yaoi Fictions

    ลำดับตอนที่ #7 : S Fic : Ajin Nagano Kou x Nagai Kei x Kaito

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.51K
      12
      15 เม.ย. 63

    S Fic:   Ajin

    Paring: Nagano Kou x Nagai Kei x Kaito

    Rate : NC-18

    Talk : พล็อตเรื่องคือได้แรงบันดาลใจมาจากโดจิน กับแฟนอาร์ตผสมๆกันไปหาอ่านไดนะคะอันนั้นฟินกว่าเยอะเลยค่ะ อันนี้จะค่อยมาเติมให้เรื่อยๆ ถ้ามาอ่านใหม่จะรู้ว่ามันชอบเปลี่ยนไป อิอิ

     

                ตั้งแต่รู้ตัวว่าตนเองเองคืออจิน ต่อให้เขาตายมานับครั้งไม่ถ้วน เขาก็ยังกลัวอยู่ดี กลัวความรู้สึกเจ็บ กลัวว่าเขาจะไม่ฟื้นกลับมา ต่างจากนางาอิ เคย์ เด็กหนุ่มผมดำขลับตัดสั้น นัยน์ตาสีเลือด ที่มักจะไม่แสดงความรู้สึกเสียเท่าไหร่ ทั้งๆที่เพิ่งรู้ว่าเป็นอจินเหมือนกันแท้ๆ แต่คนๆนี้กลับสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างสมบูรณ์ วางแผนต่างๆได้เป็นอย่างดี จนกลายเป็นที่พึ่งของหน่วยลับ แต่ว่าเมื่อตัดเรื่องทุกอย่างรอบตัวออกไป ให้เหลือเพียงแค่ตัวเขากับคนตัวเล็ก ทำไมพักหลังเขาถึงรู้สึกว่าคนตรงหน้านับวันยิ่งน่ารักกันนะ

                ย้อนกลับไปที่ช่วงเวลาในป่า ระหว่างที่พวกเขาฝึกใช้พลังกัน ต่อให้นานแค่ไหนเขาก็ยังเรียกเจ้ามวลสีดำนั่นออกมาไม่ได้เสียที ได้แต่เป็นกำลังรบเท่านั้น

                "เฮ้ นางาอิ นายมีวิธีตายแบบไม่เจ็บบ้างไหมอ่ะ?"  เสียงทุ้มแตกหนุ่มถามขึ้นมา ก่อนที่นัยน์ตาสีเลือดจะเหลือบมามองคนตรงหน้าแล้วถอนหายใจ ไม่กี่นาทีต่อมามือเล็กนั้นก็กวัก เรียกให้คนสมองทึบตรงหน้า เดินตามตนเองออกมา ไปหยุดตรงต้นใม้ใญ่ ใกล้ๆตีนเขา นิ้วเรียวยาวชี้ขึ้นไปที่กิ่งไม้ใหญ่  ที่มีเชื่องผูกหนาอยู่ มองดูแล้วน่ากลัวพิลึกราวกับฉากในหนังสยองขวัญยังไงอย่างงั้น

     นากาโน่ โค มองคนตรงหน้าสลับกับเชือกสยองนั่น ก่อนจะย้อนคิดไป ก่อนหน้าที่เคย์เคยจับเขาขังเอาไว้คอย เอาอาหารมาให้ ช่วงเวลานั้นช่างทรมานเหลือเกิน จะตายก็ไม่ได้ จะมีชีวิตก็ไร้จุดหมาย แต่วันที่เจ้าตัวพาเขาออกมา แล้วยอมมากับเขา กำจัดซาโต้ด้วยกัน เขาดีใจมากๆ ราวกับเขาได้เข้าใกล้ร่างเล็กตรงหน้ามากขึ้น

    เสียงหวานเรียกสติเขากลับมาอีกครั้ง

                "ถ้านายตายด้วยวิธีนี้ละก็ มันจะไม่เจ็บเลยล่ะ แล้วก็นายยังสามารถนอนบนนั้นได้ด้วยนะ" นางาอิ เคย์พูดเหมือนติดตลก แต่ในความคิดของคนอย่างโค มันไม่ตลกเลยสักนิด นอนห้อยคอตาย โดยมีเชือกนั่นบดขยี้หลอดลมเขาอยู่เนี่ยนะ เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนช้อนตาพลางมองเชือกบนต้นไม้ที่แขวนอยู่ ดูยังไง ยังไงก็เจ็บแน่นอน

     

                "ฝึกแบบนี้จะได้ผลจริงๆเหรอ?" โคพูดไปพลางหน้าซืด

     

                "ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อย นายจะต้องกลัวอะไรอีก" เคย์ว่าพลางมองนาฬิกาข้อมือตนเอง พลางคิดว่าเขาเองก็ต้องไปฝึกเช่นกัน

     

                "นายไม่กลัวเลยเหรอ นางาอิ มันก็มีโอกาส ที่เราจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลยนะ" หันไปโวยวายกับร่างบางตรงหน้า

               

                "มีบันทึบว่าอจินตนหนึ่งนับจำนวนครั้งมี่ตนเองเองตายแล้วก็นับได้สองพันกว่าครั้งแล้ว ตอนนี้ก็ยังนับต่อไป เห็นไหมละ ไม่มีอะไรน่ากลัวแล้ว"             ร่างเล็กว่าเหลือบมองคนข้างๆที่ตอนนี้หน้าซืด จนเขาอดแอบขำในใจไม่ได้

                นัยน์ตาสีน้ำตาลสวยจ้องใบหน้าหวานที่กำลังตกในภวังค์ความคิดก่อนจะยิ้มกว้าง

    "เห~ นายเองมีมุมแบบนี้ด้วยสินะ น่ารักดีจัง"

                เสียงกวนๆแกมแซวเล่น กระซิบข้างหูเล็กๆของคนตัวเล็กกว่า ก่อนจะโดนสัมผัสจากมือเล็กๆผลักออกมา ในขณะที่ใบหน้าหวานหลบหันไปอีกทาง

     

    "ไปตายซะไป" เสียงหวานกล่าวแบบโมโห ก่อนจะเดินหนีหายเข้าไปในป่าข้างๆ

                นัยน์ตาสีน้ำตาลเปนประกาย ถ้าเขามองไม่ผิดนะ ถ้าเขาไม่เข้าใจอะไรผิดไปจริงๆ แก้มใสๆของคนตัวเล็กเมื่อกี้เปลี่ยนเป็นสีแดงฉานใบหน้าที่มักจะไร้ความรู้สึกนั้น บิดเบี้ยวไปด้วยอาการเขินนั้น น่ารักเป็นบ้า!!

     

    "ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มาสั่งให้ไปตายเนี่ยนะ”

     

    เฮ๊ย นายจะทิ้งฉันให้อยู่คนเดียวจริงๆเหรอ โอ่ย นากาอิ!!"

                นัยน์ตาสีเข้มเต็มไปด้วยความรู้สึกมองตามแผ่นหลังเล็กๆของคนตรงหน้าที่เดินหายเข้าไปในป่า

    __________________________________________________

                ไม่รู้มันเริ่มต้นเมื่อไหร่ ความสัมพันธ์ของเขา กับคนที่กำลังครางเรียกชื่อของเขาด้วยเสียงแหบพล่า นิ้วเรียวยาวปัดป่ายราวกับหาที่ยึดเกาะในขณะที่เล็บคมๆจิกลงที่แผ่นหลังแกร่งเพื่อระบายความเสียวซ่านและความเจ็บปวด

                “ฮ๊ะ อือ ฮืมม..”

                ผมสีดำแผ่กระจายบนหมอนใบนุ่ม เหงื่อเม็ดใสผุดขึ้นทุกส่วนของร่างกาย อากาศหน้าหนาวไม่สามารถทำให้ร่างกายอันเร่าร้อนของคนสองคนบนเตียงเย็นลงได้เลยแม้แต่น้อย นากาโน่ โค ไม่เคยคิดว่าเขากับ นากาอิ เคย์ จะลงเอยกันด้วยเรื่องแบบนี้ โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง คนตรงหน้าช่างดูไร้เดียงสายามอยู่ใต้ร่างของเขา ครางเสียวหวาน ในขณะที่ส่วนร่างนั้นตอดรัดแก่นกายของเขา เชื่อมเขากับนากาอิให้เป็นคนเดียวกัน ในเวลาปกติเจ้าคนที่ทำตัวไม่น่ารัก พูดจาหาเรื่องเขาได้ตลอดเวลา ทำอะไรไม่สนใจใคร อาจจะเพราะเขาเป็นคนไม่หัวไม่ค่อยดีเลยเข้ากับเจ้าคนฉลาดเป็นกรดตรงหน้าไม่ได้ หรือความโง่ของเขาอาจจะสุดทนสำหรับนากาอิ “เป็นคนแบบไหน อ่านไม่ออกเลยจริงๆ”

                แต่พอเป็นเรื่องบนเตียง นัยน์ตาสีแดงนั่นกลับเหมือนหนังสือ ที่เปิดอ่านแล้วเข้าใจทุกอย่าง และไม่สามารถหยุดอ่านมันได้ แล้วตั้งแต่ตอนนั้น เขาก็รู้ตัวแล้วว่า ตนเองตกหลุมรักคนๆนี้เข้าให้แล้ว

                คืนไหนที่คนตัวเล็กหอบร่างมาเคาะประตูห้องนอนเขา เขาจะรู้สึกดีมาก เพราะรู้ว่าคนที่เป็นที่พึ่งทั้งทางกายและใจของคนที่ปิดใจกับทุกๆคนคือเขา และเขาคนเดียวเท่านั้น

                “นากาอิ..?” เสียงทุ้มดังขึ้นงัวเงียๆ ลุกขึ้นกึ่งนั่ง กึ่งนอน เลิกผ้าห่มออก ก่อนจะยื่นมือให้แก่คนตรงหน้า จับมือเขาไว้ พรมจูบมือเล็กๆนั่นอย่างอ่อนโยนดึงครตรงหน้าให้นั่งคร่อมตักตน มือหนาเกลี่ยผมดำขลับให้เห็นใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยน้ำตา

     

    “ว่าไง ฝันร้ายมาเหรอ? คนดี” ริมฝีปากอุ่นพรมจูบซับน้ำตา มือหนาโอบใบหน้าหวานให้มองเข้ามาในตาตนเองเพราะยังคงไม่ได้คำตอบว่าคนตรงหน้าเป็นอะไร

     

    “นายโอเคไหม ที่รัก?”

                ถ้อยคำหวานหยดราวกับน้ำผึ้ง พร้อมๆกับใบหน้าหวานที่ซุกลงกับอกแกร่งพลางส่ายหัวไปมา พร้อมๆ พร้อมเสียงอู้อี้ๆ จับใจความได้ว่า ทำให้เขาลืมทุกอย่างที ลืมความเจ็บปวดนี่

                เขาอยากจะอ่อนโยนกับนากาอิให้มากกว่านี้ หากเขาไม่ทำมัน มันยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง ยามที่เขากอดนากาอิ เคย์ ไม่ใช่แค่กับคนตรงหน้า แต่กับเขาด้วย ราวกลับพวกเขาได้หลบหนีมาอยู่บนโลกที่มีกันแค่เราสองคน

                นากาโน่ โค โอบกอดคนตรงหน้าไว้ พร้อมกับผลักคนบนตัวให้นอนราบลงกับพื้นเตียงนุ่มอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากหนาพรมจูบจากหน้าผาก ไล่ลงมาที่คิ้ว ตา จมูก ก่อนจะมาหยุดลงที่ปากสีชมพูสวย ลิ้นร้อนๆค่อยๆแทรกเข้าไป พร้อมกับกวัดแกว่างหาความหวาน ลิ้นเล็กๆตอบกลับ จนกลายเป็นจูบที่ร้อนแรง พัวพันกันจนต้องถอนออกมาในเวลาต่อมา ลิ้นสากกวาดเลียน้ำใสๆที่ไหลเลอะปาก ก่อนจะขบเบาๆที่ริมฝีปากชมพูที่ตอนนี้กลายเป็นสีออกแดงหลังจากจูบ

           

         “ไม่ต้องอ่อนโยนกับฉัน” ร่างเล็กสบถเบาๆ

     

                “ไม่เอาน่า เคย์ นอนแล้วผ่อนคลายเถอะนะ” มือหนากระชับสะโพกกลมมนให้ชิดกับแก่นกายของตน ยกมันขึ้นก่อนจะปลดกางเกงของคนตรงหน้าออก มือหนาลาบล้วงเข้าไปเล่นกับยอดอกที่เริ่มจะแข็งเป็นไต ก่อนจะค่อยๆถอดเสื้อของร่างเล็กออก

                “อ๊า..” ลิ้นสากไล่เลียทุกส่วนของร่างกาย ปรนเปรอกับหน้าอกที่กระเพื่อมจากการหอบหายใจ ก่อนลิ้นร้อนๆจากลากวน ค่อยๆต่ำลงไปเรื่อยๆ ก่อนนิ้วเรียวยาวจะค่อยๆบีบสารหล่อลื่นที่ตนเกบไว้ที่เก๊ะข้างเตียงนอนตน

                “นั่นมัน..”

            


         หลังจากจัดการทำความสะอาดเช็ดคราบต่างๆด้วยผ้าอุ่นๆ สวมเสื้อผ้าให้กับร่างที่นอนหมดแรงบนเตียง ร่างสูงล้มตัวลงนอนข้างๆร่างข้างๆ   

          “นอนซะนะ คนดี” 

         มือหน้าโอบกอดเอวบางพร้อมจับมือเล็กๆนั่น แขนอีกข้างนึงใช้เป็นหมอนหนุนให้คนตรงหน้า จูบเบาๆที่หน้าผาก ก่อนจะผลอยหลับไปพร้อมกับอากาศที่เย็นขึ้นเรื่อยในยามค่ำคืน

    _______________________________________________________________  

     

    "นากาอิ..." 

     

            ตั้งแต่ไคโตะปรากฏตัวขึ้นมา สิ่งที่เขาเห็นคือ นางาอิ เคย์ เริ่มทำตัวแปลกๆ ความรู้สึกรอบๆตัวของคนตัวเล็กเริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด      

             ใช่..มันชัดเจนขนาดที่คนซื่อบื้อหัวทึบอย่างเขายังรู้สึกได้ถึงบางอย่างความสัมพันธ์ระหว่างนางาอิ เคย์ กับ ไคโตะมันไม่ใช่เพียงแค่เพือนอย่างแน่นอน

                เขาเคยพาดพิงเริ่องไคโตะกับนากาอิในตอนแรกๆที่เจอกัน แต่แค่เห็นสีนั้นนั่น เขาก็รู้ว่าเด็กหนุ่มร่างสูงผมทอง นั้นสำคัญกับร่างบางมากแค่ไหน ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พอเขามาเจอเข้าจริงๆ มันยิ่งตอกย้ำว่าสิ่งที่เขากลัวมันกำลังจะเป็นจริง

                ภาพของเด็กหนุ่มผมดำขลับนอนหลับอยู่บนตักของใครอีกคนพร้อมๆกับมีแขนแกร่งของคนมาใหม่อย่างไคโตะโอบรอบเอวบางๆนั้นไว้ ไอ้คนที่ระวังตัวเองแจ ไม่ลดกำแพงให้ใครอย่างนากาอิ กลับนอนหลับแบบไร้การป้องกันตัว ในห้องรับแขกในอ้อมกอดของชายหนุ่มลุกแบดบอยอย่างไคโตะ


    “อา...” ความรู้สึกนี้เขารู้ดี เขาเคยสัมผัสมันมานับครั้งไม่ถ้วน แต่เขากลับสงสัยว่าทำไม...

     

    “ทำไม?”

     

    "ทำไมมันเจ็บขนาดนี้นะ เจ็บยิ่งกว่าตอนตายเสียอีก"

    เพียงแค่เห็นภาพของสองคนนั้นอยู่ด้วยกัน เห็นภาพของคนตัวเล็กที่แลผ่อนคลายตรงหน้า มีเหรอที่คนใจร้อนอย่างเขาจะทนไหว ขายาวๆสาวเท้าก้าวเข้าไปในห้องที่คนสองคนที่เขายืนมองอยู่ 

     

                "เฮ้ย นากาอิ!" ตะโกนเรียกคนตรงหน้าที่อยุ่ในนิทราด้วยอารมณ์โกรธ ก่อนร่างเล็กจะขยับนิดหน่อย พร้อมกับสายตาคาดโทษของเจ้า ของตักที่คนตัวเล็กหนุนนั้นจะมองช้อนขี้นมา มือหนาพลางลูบหัวร่างบางเบาๆ ก่อนจะกระซิบคำหวาน เบาๆ

                "เคย์ นอนต่อเถอะนะ ไม่มีอะไรหรอก คนดี" พร้อมเสียงครางหวานเบาๆ งึมงำ ขยับตัวซุกเข้าหาความอุ่นตรงหน้าก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราต่อ เขามองภาพนั่นราวกับมืดกำลังแทงเขาอย่างไรอย่างนั้น

     

                "นายน่ะ มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้แล้วกันนะ เคย์ไม่ได้นอนมาหลายคืนแล้ว"  จะว่าไปก็จริง คนตรงหน้าเครียดเรื่องวันก่อนมาหลายวัน ภารกิจล้มเหลว เพื่อนร่วมงานตายหมดทุกคน นากาอิ เคย์เปลี่ยนไปจนน่ากลัว แม้แต่เขาเองยังไม่สามารถเอื้อมถึงได้   จนกระทั่งไคโตะปรากฏตัวขึ้น เคย์ถึงยอมกลับมาที่กบดานลับนี่

               

                เวลาผ่านไปจนเช้าวันใหม่ เขาจะไม่รออีกแล้วเขามุ่งหน้าไปหาคนที่ตนเองหมายจะคุยด้วย


                “นากาอิ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” เสียงทุ้มกล่าวพยายามจะควบคุมอารมณ์

     

                “ไม่ เราไม่มี” เจ้าของผมสีดำสนิทปฏิเสธกลับทันควัน ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

     

                “ไม่ แต่ฉันมี” เริ่มพูดจาไม่ค่อยมีเหตุมีผลสมกับเป็นเจ้างั่งจริงๆ นากาอิ เคย์ตวัดสายตาหงุดหงิดใส่คนตรงหน้า ก่อนที่จะได้พูดอะไร เจ้าคนใจร้อนอย่างนากาโน่ โค พูดไม่หยุดเสียก่อน

               

                “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ เรื่องของนายกับไคโตะนะ”

     

                “หา? พูดอะไรของนาย” ร่างเล็กหันมา ตวาดใส่คนตรงหน้าด้วยความรำคาญ

     

                “นายจะทำแบบนี้ เหมือนเราไม่เคยเป็นอะไรกันเลย แล้วไปกับหมอนั่นใช่ไหม?” คิ้วเรียวเริ่มกระตุกด้วยความโกรธ ก่อนจะโต้กลับไปด้วยเหตุผล

                “อะไรของนาย ไคโตะเป็นเพื่อนของฉัน” ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ คนตรงหน้าก็สวนกลับมาอีกจนน่าโมโห

                “งั้นนายพูดต่อหน้าฉัน และหมอนั่นได้ไหมล่ะว่า ไคโตะเป็นแค่เพื่อน ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ” ก่อนแววดาสีน้ำตาลแดงฉานจะสั่นวูบไปสักพักนึง ยิ่งเห็นอย่างนั้น คนอย่างโค ยิ่งแน่ใจว่ามันมีอะไรจริงๆ

    มือหนาคว้าข้อมือบางเดินไปทางห้องครัวที่ ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีทอง เจาะหูนั่งอ่านหนังสืออยู่

     

                “หมอนี่มีอะไรจะพูดกับนาย เอ้า นากาอิ ไหนพูดให้ดูหน่อยสิ” พร้อมๆกับผลักร่างเล็กตรงหน้าเข้าไป

               

                “ว่าไง เคย์ มีอะไรเหรอ?” ไคโตะพับหนังสือตรงหน้าปิดลง ก่อนที่ถามไถ่คนตัวเล็กตรงหน้า

    นัยน์ตาสีแดงมองเข้าไปที่ตาของคนตรงหน้า เหลือบไปมองคนข้างๆ ร่างกายเขารู้ดีเขาเลือกไม่ได้จริงๆ

     

    “ว่าไงล่ะ ฉันว่าเจ้าหมอนี่รักฉัน และฉันก็รักเขา และฉันว่าหมอนี่ก็รักนาย”

     

    “จริงเหรอ เคย์?”

     

    ถ้าหากไม่เห็นไหล่ที่สั่นไหวนั่นเสียก่อน

                “ไม่เป็นไรนะเคย์ นายพักก่อนเถอะ” มือหนาปลอบประโลมพร้อมลูบหัวคนตรงหน้า ก่อนจะลากคนขี้โวยวายออกมา

         

               “น่าๆให้เวลาเขาหน่อย”

               

               “นี่ ถ้าเกิดว่านะ เคย์เลือกระหว่างเราสองคนไม่ได้จริงๆล่ะ? นายจะทำยังไง?”

    ไคโตะกล่าวถามคนตรงหน้าด้วยแววตาจริงจัง ก่อนจะผ่อนลง

                “หา ก็ไม่รู้หรอก ยังไงมันก็ต้องเลือกไม่ใช่เหรอไง” คนผมน้ำตาลยังคงบ่นไม่เลิก

                “ถ้าเป็นฉัน ฉันโอเคนะที่จะแชร์เคย์กับนาย ฉันดีใจที่เขาก็มีคนที่รักเขาและเขารักเหมือนที่ฉันรักเขา และเขารักฉัน” เอ๊ะ งง ?

     

                “หา?ถ้านายไม่ได้รักนากาอิจริงๆ  นายก็ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”  เขาพึมพำๆ พร้อมกับเสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่มลุคแบดกายตรงหน้า จนแล้วจนเล่าเคย์ก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับให้คำตอบไม่ได้อย่างที่ไคโตะทำนายไว้จริงๆ พวกเขาตกลงคบกันแบบนี้สามคน จบเรื่องราวของซาโต้และอาจิน ทั้งสามย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดตามที่ไคโตะวาดฝันไว้ตั้งแต่เริ่มเรื่อง รับหมาพันธ์ชิบะอินุมาเลี้ยงตัวนึง ชีวิตดำเนินไปมีแต่ความสุข

    ______________________________________________________

     

    Nagai Kei’s view

                กลางดึก นากาอิ เคย์ตื่นขึ้นมา อยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายสองคน เป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว ที่เขาต้องเรียนรู้ที่จะต้องจับมือของคนสองคน มีเซ็กส์พร้อมกับทั้งสองคนนี้ กินข้าวด้วยกัน ทำทุกอย่างด้วยกัน แปลก แต่เขากลับมีความสุขเหลือเกิน และหวังว่าจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป ก่อนร่างเล็กจะเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งในอ้อมกอดของคนรักทั้งสอง

                นัยน์ตาสีแดงเหลือบมองคนข้างๆที่นั่งอยู่ พยายามจะหลบสายตาเขาเต็มที่จนสังเกได้ไม่ยาก เขาสังเกตมาสักพักแล้วว่าโค ทำตัวแปลกๆไป ความจริงเขารู้ว่าสาเหตุมันมาจากอะไร แต่ไม่รู้จะพูดออกไปยังไง มันเริ่มจากการที่เขากับไคเริ่มมีเซ็กส์กันก่อนโดยไม่มีเจ้าตัว ถึงจะแค่นั้นก็เถอะ ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะเข้าใจผิด ว่าเขารักไคมากกว่าเสียนั้น มันก็ช่วยไม่ได้ ก็มันเขินๆนิดหน่อยเวลากับเจ้าบ้านั้น ต่างจากตอนอยู่กับไคลิบลับ บางทีเขาเองก็อาจจะเย็นชากับเจ้าลูกหมานั่นไปนิด

                “เฮ้อ..”  มือเล็กขยี้ผมตัวเองด้วยความเหนื่อยใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหาตัวปัญหา ผลักคนตรงหน้าลงในแนบกับพื้นเสื่อทาทามิ ริมฝีปากหวานทาบทับไป มอบจูบอันร้อนแรงให้แกคนตรงหน้า ลิ้นร้อนๆถอนออกมาก่อนจะพูดความในใจต่อ

                “ฉันไม่เคยมีอะไรกับไคลับหลังนาย รู้ไว้ซะแ ล้วก็..”

                “ฉันรู้ว่านายมันบ้า คิดไม่เป็น แต่หัดใช้สมองนายคิดเรื่องนี้ดีๆสักครั้งนึงเถอะ ว่าฉันจะลำบากเลือกนายกับไคทำไม ถ้าฉันรักไคมากกว่า”

                 “นายสำคัญกับฉัน พอๆกับไคนั่นล่ะ” ใบหน้าหวานแดงซ่าน ในขณะที่พยายามจะพละตัวมือหนาก็รั้งเจ้าตัวไว้อีกครั้ง ดึงลงมาให้ตัวเองกอดแน่นๆ

                “อื้อ ขอโทษนะ เพราะฉะนั้นถ้านายรู้ว่าฉันหัวไม่ดีก็ช่วยพูดให้ฉันเข้าใจทุกครั้งแบบนี้เรื่อยๆไปนะ ที่รัก ” เสียงแหบพล่ากระซิบข้างหู เล็กๆนั่น ก่อนจะโอบกอดคนตรงหน้าไว้เหมือนเป็นสมบัติล้ำค่ายิ่งกว่าชีวิตตน เขาเคยสาบานไว้แล้วว่าไม่ว่าจะเกิดอะไร เขาก็จะปกป้องคนๆนี้ด้วยชีวิตของเขา

    ______________________________________________________

     

            “ฮ่าๆฉันได้ยินเรื่องทุกอย่างจากเคย์หมดแล้วล่ะ” บทสนทนาจากไหนไม่รู้ก็เริ่มขึ้น เมื่อเขาตัดสินใจมานั่งคุยกับชายหนุ่มผมบลอน

                “ฉันว่าแล้วว่าช่วงนี้นายทำตัวแปลกๆ เวลาฉันกับเคย์อยู่ด้วยกัน ฮ่าๆ” ไคโตะพูดแบบแกล้งเล่นไป ขำไป มองคนตรงหน้าที่ทำหน้าตลกๆ

    “เออน่า ฉันรู้ว่าฉันมัน... ซื่อบื้อ” ว่าตัวเองได้เต็มปากเต็มคำ พร้อมทำหน้าตลกๆแบบไร้จุดหมายในชีวิตแบบนั้น ยอมใจจริงๆ

                "นายรู้ไหม? ไม่ใช่แค่นายหรอกที่มีปัญหาของนาย ฉันเองก็มีเหมือนกัน" แววตาของไคโตะค่อยๆฉายแววอ่อนลง มองทอดไปยังวิวสวนของเขา มือนึงลูบหัวลูกหมาตัวโปรดไปพลาง

    "นายเองก็น่าจะรู้สึกตัวนี่ ในเรื่องของการเปิดใจกับความรู้สึกเคย์อาจจะให้ฉันก็จริง แต่ร่างกายของหมอนั่นน่ะ มันตอบสนองกับนายมากกว่า

                “เรื่องนั้นร่างกายนายน่าจะรับรู้ได้ดีกว่าฉันนี่นะ” ไคโตะว่าพลางยิ้มแห้งๆ

               

                "ฉันรู้นะว่าพวกนาย...สนุก...กันมาแค่ไหนน่ะ ก่อนที่ฉันจะมา มันก็ช่วยไม่ได้ นอกจากแอบรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเหมือนกันนะ" นิ้วเรียวยาวยีหัวตัวเองเบาๆแบบช่วยไม่ได้ ก่อนจะหันไปมองคนข้างๆที่ทำหน้าเหมือนจะร้องหายแล้วจะพุ่งเข้ามากอดเขาเสียตอนนั้น ถ้าหากเขาไม่พูดต่อแล้วตบไหล่คนตรงหน้าเบาๆ

                "เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมากไปหรอกนะ ช่องว่างพวกนั้นจะค่อยๆหายไปเอง"

     

                “นายเป็นคนดีจริงๆด้วย” นากาโน่ไม่เคยเจอคนดีขนาดนี้มาก่อน คิดไปพลาง น้ำตาไหลไปพลาง มองคนดีตรงหน้า ก่อนจะลูบหัวคนตรงหน้าเบาๆ

                “หืม.. ฮ่าๆ ” ชายหนุ่มหันมามองเพื่อนของตน พร้อมเลิกคิ้วด้วยความสงสัย บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนเป็นหวานชื่นจนเสียงกระแอม เชิงประชดจากด้านหลังดังขึ้น

     

                “เอิ่ม พวกนาย..” ใบหน้าหวานเหยเก มองคนรักสองคนตรงหน้า ที่ดูเหมือนจะพลอดรักกันเองเสียมากกว่า พร้อมกับลูกหมาตรงหน้า จะว่าพลอดรัก แต่เหมือนมีหมาสองตัวนั่งอยู่กับไคโตะเสียมากกว่า ว่าเข้าไปนั่น

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×