คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : My Captain 14 :: ความเป็นห่วง & เริ่มต้นปีสอง
Chapter 14
การอยู่ในห้องตลอดหนึ่งสัปดาห์เป็นอะไรที่น่าเบื่อมากสำหรับคาร่า เชสเตอร์ไม่ให้เธอช่วยงานที่ร้านเลยจนกว่าเธอจะหายดีหรืออาจจะยาวไปจนถึงวันเปิดเทอมก็ได้
ชิกเก้นตอนนี้หายดีแล้วและกำลังบินซ่าอยู่ในห้องของเธอ
คาร่าก็กลับไปนั่งเล่นที่คาเฟ่ทุกครั้ง อ่านหนังสือ ดื่มชา นั่งคุยกับผู้ส่งสาร และอื่นๆอีกมากมาย
คาร่าเคยขอที่จะฝึกเพื่อพัฒนาศักยภาพเกี่ยวกับพลังของตนเองแต่ก็โดนทั้งสองคนห้าม
เนื่องจากต้องการให้เธอพักฟื้นร่างกายให้กลับมาเป็นปกติเสียก่อน
“เกรงว่าจะไม่ได้นะครับคุณหนู
ผมคิดว่ามันอาจจะอันตรายเกินไปหากฝึกให้คุณหนูทั้งที่สภาพยังไม่เต็มร้อย”พ่อบ้านชราเอ่ยเมื่อพิจารณาสภาพร่างกายของเด็กหญิงตรงหน้า
ก็จริงอยู่ที่ว่าหลายวันที่ผ่านมาอาการของคาร่าก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ
แต่ก็ยังไม่หายสนิทผู้ส่งสารทั้งสองจึงเป็นกังวลว่าหากฝึกเธอในสภาพแบบนี้อาจมีผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดีจากการฝึก
“แต่ว่า…”
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะครับ
หากคุณหนูหายดีเมื่อไหร่พวกกระผมจะฝึกให้คุณหนูและมีห้องฝึกพิเศษให้
แต่มีข้อแลกเปลี่ยนคุณหนูต้องทำงานให้คาเฟ่นะครับ”พ่อบ้านตัวน้อยบอกข้อเสนอ
“ตกลงค่ะ”
และแล้วก็มาถึงวันที่เธอหายดี
ร่างกายเต็มร้อย และพร้อมที่จะได้รับการฝึก คาร่ายืนอยู่ที่เอลิเซียคาเฟ่อีกครั้ง
ดวงตาสีน้ำตาลกวาดสายตาไปรอบๆคาเฟ่น่าแปลกที่ไม่มีใครเข้ามาในคาเฟ่
คาร่าเดินขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อหาหนังสืออ่านก่อนจะเดินมานั่งที่เคาน์เตอร์บาร์
“รับเครื่องดื่มสักแก้วไหมครับคุณหนูคาร่า”พ่อบ้านตัวน้อยเอ่ยอยู่หัลังเคาน์เตอร์
“งั้น โกโก้ร้อนก็แล้วกันค่ะ”พ่อบ้านตัวน้อยพยักหน้ารับ คาร่าเปิดหนังสือที่เธอหยิบมาจากตู้หนังสือ
ไม่นานนักพ่อบ้านตัวน้อยก็เลื่อนแก้วกระเบื้องสีขาวมาไว้ข้างๆเธอ
คาร่าเอ่ยขอบคุณเขาแล้วกลับมาสนใจหนังสือตรงหน้าต่อ
“หวัดดี!”เสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลังทำเอาคาร่าสะดุ้ง
“โทษที
ไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอตกใจ”เด็กผู้หญิงคนนั้นเอ่ย
คาร่าใช้สายตาสำรวจคนตรงหน้า เรือนผมสีบลอนด์ทองยาวถึงสะเอว ดวงตาสีฟ้าดูขี้เล่น
ริมฝีปากบางสีพีช
“เราเคยเจอกันครั้งแรกตอนมาที่นี่แต่ไม่ได้เจอกันครั้งที่สอง
ฉันเทียร่า อลามานเทียร์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”เด็กผู้หญิงที่ชื่อเทียร่ายิ้มกว้าง
“ฉันคาร่า
เอฟเวอร์ตัน ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”คาร่ายิ้มกลับ
“ที่เธอมาอยู่ที่นี่ก็แปลว่าเธอเองก็จบปีหนึ่งเหมือนกันสินะ”เทียร่านั่งลงข้างๆเธอก่อนจะสั่งน้ำผลไม้รวมกับพ่อบ้านตัวน้อย
“ใช่ ก็ประมาณนั้น”คาร่าขยับแว่นขึ้น
เมื่อเห็นว่าเทียร่ามีท่าทางเป็นมิตรคาร่าก็รู้สึกสบายใจ
“ปีหนึ่งของเธอเป็นอย่างไรบ้าง”
“ก็ไม่เลวนะ
มีอะไรให้ทำเยอะแยะอยู่ แล้วเธอล่ะอลามานเทียร์”
“เรียกฉันว่าเทียร่าเถอะ”เทียร่าพูดอย่างเป็นมิตร
คาร่าและเทียร่านั่งคุยกันอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์อย่างเป็นกันเอง
จนกระทั่งมีเด็กชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในคาเฟ่
เขามีผมสีทองและหน้าตาดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่คาร่าลองวิเคราะห์ตัวเด็กชายคนนั้นแต่ตัวของเขาช่างซับซ้อนเสียเหลือเกิน
เขาอาจเป็นพวกสองบุคลิกก็ได้
“หวัดดีเซน”เทียร่าทักเด็กคนนั้น
เด็กที่ชื่อเซนหันมามองเทียร่าแวบเดียวแล้วเดินขึ้นไปชั้นสอง
คาร่าเห็นเขาบ่นพึมพัมอะไรสักอย่างแต่เธอก็ไม่ได้ยิน
แต่เด็กหญิงที่นั่งข้างๆเธอคงจะได้ยินเพราะเทียร่าไหวไหล่เหมือนจะไม่ใส่ใจกับคำพูดของเขา
“เด็กคนนั้นชื่อเซน
จริงๆฉันว่าเขาก็นิสัยดีนะ”คาร่าพยักหน้าตอบรับ
หลังจากเซนเดินขึ้นไปบนชั้นสองก็มีเด็กชายอีกคนเดินเข้ามา
เขามีผมสีดำและทำหน้าเหมือนไม่ค่อยสบอารมณ์อะไรบางอย่างและคาร่าก็พิจารณาเขาอีกครั้ง
ดูเหมือนทั้งสองคนจะมีอะไรบางอย่างคล้ายๆกันนั่นก็คือเข้ากับคนอื่นยาก
“ส่วนเด็กคนนั้นชื่อมิเกล
ฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะว่าทำไมชอบทำหน้าแบบนั้นใส่ฉันน่ะ”
ทั้งสองคนคุยกันอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์สักพักเทียร่าก็ขอตัวขึ้นไปบนชั้นสอง
คาร่ามองตามเด็กหญิงผมทองไปก่อนจะหันกลับมาสนใจหนังสือตรงหน้าต่อ
“อ่านอะไรอยู่หรือครับ?”พ่อบ้านชราถามพร้อมกับเสกโกโก้ที่เหลืออยู่ก้นแก้วให้กลับมาเต็มแก้ว
“หนังสือจิตวิทยาน่ะค่ะ”เด็กหญิงพลิกหน้าปกให้ชายชราดู
“ดูไม่เหมาะกับวัยของคุณหนูเลยนะครับ”เขาหัวเราะเบาๆ
“นั่นสินะคะ”
“แต่ตอนนี้คงต้องขัดจังหวะการอ่านหนังสือของคุณหนูเล็กน้อย
เพราะตอนนี้ใกล้จะได้เวลาฝึกแล้ว”ทันทีที่ผู้ส่งสารผู้จบคาร่าก็ตาลุกวาว
“จริงหรือคะ! ถ้าอย่างนั้นขอไปเก็บหนังสือก่อนนะคะ”คาร่าตั้งท่าจะลุกไปเก็บหนังสือแต่ชายชรากลับยกมือห้าม
“ไม่เป็นไรหรอกครับ
ผมอยากให้คุณหนูได้ไปเห็นเร็วๆ”เขาโบกมือเล็กน้อยจากนั้นหนังสือก็ลอยขึ้นไปที่ชั้นสอง
ชายชรายิ้มให้เด็กหญิงก่อนจะหมุนตัวเดินไป
คาร่าเดินตามชายชราต้อยๆเด็กหญิงเหลือบไปเห็นเทียร่ากับผู้ส่งสารตัวเล็กกำลังคุยกันเกี่ยวกับหนังสือบางอย่าง
เขาเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูไม้บานหนึ่งมือเหี่ยวแห้งที่สวมถุงมือผลักประตูเข้าไป
ภายในนั้นเป็นห้องขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากแต่ก็กว้างกว่าห้องนอนของเธอพอสมควร
ตรงกลางนั้นเป็นพื้นที่โล่ง
ข้างๆกันก็มีตู้หนังสือตู้ใหญ่และโซฟาตัวยาวสีน้ำตาลเข้มไว้สำหรับนั่งพักผ่อน
“นี่จะเป็นห้องฝึกของคุณหนูนะครับ”ผู้ส่งสารเอ่ยก่อนจะเสกให้มีป้ายหน้าประตู
‘ห้องฝึก คาร่า’
“ขอบคุณมากค่ะ”คาร่าเอ่ยอย่างดีใจ
“คุณหนูคงไม่ลืมนะครับว่ามีข้อแลกเปลี่ยน”
“ไม่ลืมหรอกค่ะ”เด็กหญิงหันมายิ้มให้ชายชรา “งั้นเรามาเริ่มฝึกกันดีไหมครับ”
ตลอดช่วงปิดเทอมคาร่าง่วนอยู่กับการฝึกเกี่ยวกับพลังของตัวเองสลับกับการกลับไปที่บ้านเพื่อช่วยงานคุณพ่อของเธอ
คาร่าต้องฝึกเกี่ยวกับการรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของคนอื่นโดยผู้ส่งสารได้จำลองให้ทั้งห้องกลายเป็นเมืองในลอนดอน
ผู้คนคับคั่งมากมาย และหลากหลายอารมณ์
เด็กหญิงตั้งตัวแทบไม่ทันเมื่ออารมณ์ของคนหลายคนประเดประดังเข้ามาภายในสมองของเธอ
ผู้ส่งสารบอกเคล็ดลับกับเธอว่าลองโฟกัสที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง
จากนั้นก็ค่อยๆลดลงให้เหลือคนเดียวจนปิดกั้นไม่ให้รับรู้
คาร่าพยายามทำตามที่เขาบอกแต่ก็ยังทำได้ไม่ดีนัก
เขาจึงให้เธอไปจัดการนำหนังสือเข้าชั้นหนังสือซึ่งนั่นก็คือข้อแลกเปลี่ยนในการฝึก
ระหว่างทำงานเธอก็เห็นเทียร่ากำลังฝึกร่ายคาถาอยู่เช่นกัน ทั้งคู่คุยกันนิดหน่อยจากนั้นจึงแยกย้ายไปฝึก
และแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายของการฝึกในเอลิเซียน
คาเฟ่ ช่วงเช้าคาร่าขออนุญาตผู้ส่งสารไปซื้อของเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันเปิดเรียน
และเธอก็กลับมาที่คาเฟ่ในช่วงบ่าย
คาร่าทักทายเทียร่าเหมือนที่เคยทำอยู่ทุกวันก่อนจะเหลือบไปเห็นเด็กหญิงผมเปียสีน้ำตาลและผูกด้วยริบบิ้นสีฟ้ากำลังคุยอะไรบางอย่างกับผู้ส่งสาร
คาร่าค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เธอคนนั้นก่อนจะ…
หมับ!
“คะ!”เสียงหวานร้องพร้อมสะดุ้งโหยง
“ไง หวัดดีเวโรนิก้า”คาร่าทักเสียงใส
“หวัดดีจ้ะ คาร่า ไม่ค่อยได้คุยกันเลยเนอะ
ขอบคุณที่ช่วยตอบคำถามนะคะ”เวโรนิก้าหันไปขอบคุณผู้ส่งสาร “ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมสอบถามได้เลยนะครับ”
เขาโค้งให้เธอแล้วเดินออกไป
คาร่าชวนเวโรนิก้าไปนั่งที่โซฟาริมหน้าต่างที่เธออ่านหนังสือเมื่อกี้
“เธอดูเปลี่ยนไปแบบไม่น่าเชื่อเลยเวโรนิก้า”ทั้งสองนั่งลงบนโซฟา จากนั้นถ้วยชาของเวโรนิก้าก็ลอยมาตรงหน้าเด็กหญิง
“ใครๆก็พูดแบบนั้นหลังจากที่ฉันกลับจากโรงเรียน
จริงสิเธอจะเรียกฉันว่าเวย์ก็ได้นะ”เวโรนิก้ายิ้มให้คาร่า
เด็กหญิงยิ้มรับก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ
“ใช่
ตอนนี้เธอไม่ก้มหน้าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และนั่นเป็นสิ่งที่ดีมากเลยเวย์”คาร่าพูดอย่างดีใจ เธอชอบที่เวโรนิก้าเป็นแบบนี้มากๆ ไม่ก้มหน้าก้มตา
เวโรนิก้าหัวเราะเบาๆกับตัวเอง
“กว่าจะเลิกทำแบบนั้นได้ก็เล่นเอาแย่เลยล่ะ
แล้วเธอล่ะเป็นยังไงบ้าง?”
“ก็เรื่อยๆล่ะมั้ง
โชคดีบ้าง โชคร้ายบ้างสลับกันไปน่ะ”เด็กหญิงพูดไม่ค่อยเต็มเสียงเท่าไหร่
ช่วงแรกของเทอมก็ตกจากไม้กวาด แถมรูมเมทที่เหลือก็ดูจะไม่ค่อยชอบเธออีก
“งั้นปิดเทอมเธอไปเที่ยวไหนมาบ้าง?”เวโรนิก้าเปลี่ยนคำถามเพื่อหวังว่าคนตรงหน้าจะดีขึ้น
“ไม่เลย
ส่วนใหญ่แล้วก็อยู่บ้านกับที่นี่นั่นแหละ ไม่ค่อยได้ไปไหนไกลนักหรอก”คาร่าตอบเสียงใส
“ทุกคนมานี่หน่อยได้ไหม!? ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย!”เสียงประกาศกร้าวของเทียร่าดังไปทั่วคาเฟ่
บทสนทนาของสองสาวหยุดชะงัก คาร่าและเวโรนิก้าเดินลงมาจากชั้นสอง
เด็กผู้หญิงผมสีเข้มอีกคนก็เดินตามลงมา
เด็กผู้ชายที่ชื่อมิเกลก็ลงมาเช่นกันแถมยังอุ้มแมวซะด้วย แต่ดูเหมือนเซนจะไม่ยอมลงมา
“เวย์
เด็กคนนั้นชื่ออะไรเหรอ”คาร่าชี้ไปที่เด็กหญิงผมสีเข้มที่ห่างออกไปไม่ไกล
“เด็กคนนั้นชื่อเซเลน่า”
“แล้วคนนั้นล่ะ”เธอย้ายนิ้วไปชี้เด็กหญิงผมสีขาวที่ยืนอยู่ข้างๆเทียร่า
“ชื่อเกวนจ้ะ”
ทั้งสองหันไปมองเทียร่าเพื่อดูว่าจะทำอย่างไรกับคนที่ชื่อเซน
คาร่ารู้สึกขนลุกแปลกๆเมื่อเห็นเทียร่ายิ้มเจ้าเล่ห์แบบนั้น
เด็กหญิงผมทองหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาก่อนจะร่ายคาถา
“แอ๊กซิโอ!”เด็กหญิงเรียกเสื้อผ้าของเซนให้ลอยมา
ดังนั้นร่างของเด็กชายผมทองจึงตามลงมาด้วย เขาสบถอย่างหัวเสีย
ต่อให้ไม่ใช้พลังคาร่าก็รู้ว่าเขาหงุดหงิดและโมโหมากแน่ๆ
“ยัยผมทอง! คอยดูเถอะสักวันฉันจะฆ่าเธอ”
“ก็เรียกดีๆแล้วไม่มานี่”เทียร่าไหวไหล่พร้อมกับพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่าเซนจะสาปส่งเธอมากขนาดไหน
เพราะดูเหมือนมันจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
“พอดีฉันได้คุยกับเกวนก็รู้แล้วว่ามีฉันคนเดียวที่อายุมากสุดถ้าเทียบกับช่วงเวลาด้านนอก”คำพูดที่เทียร่านั้นพูดออกมา เป็นไปตามที่คาร่าสันนิษฐานไว้เป๊ะๆ
“ไม่มากสุดหรอก
พวกเราบางคนยังไม่เกิดเสียด้วยซ้ำยายแก่”เด็กที่ชื่อเกวนเอ่ยล้อเลียนเทียร่าจนเจ้าตัวถึงกับถลึงตาใส่
‘ถ้านานขนาดนั้นต้องย้อนไปถึงยุคไหนล่ะเนี่ย’คาร่าคิดในใจ
“ขอบใจยัยหัวขาว
สีผมเธอแก่กว่าฉันอีกนะ”เทียร่าหันไปประชดใส่เกวน “ในยุคของพวกนาย รู้จักคนชื่อ ทอม ริดเดิ้ลไหม”
ทันทีที่ได้ฟังประโยคของเทียร่า
เด็กทุกคนถึงกับหน้าซีด
ไม่มีพ่อมดแม่มดคนไหนไม่รู้จักเขาอีกทั้งวีรกรรมต่างๆที่โหดร้าย
แต่พอมีข่าวเรื่องเด็กชายผู้รอดชีวิตข่าวของเขาคนนั้นก็เงียบหายไป
“เป็นอะไรไป?
ทำไมทุกคนทำหน้าแบบนั้น?”
“ธะ…เธออยู่ไหนยุคเดียวกับคนชื่อ ทอม ริดเดิ้ลหรือ?”เซเลน่าถาม
เทียร่าพยักหน้าก่อนจะบอกว่าตัวเขานั้นเรียนเก่งมาก
“ฉันเลยคิดว่าอนาคตเขาน่าจะเป็นคนมีชื่อเสียง
น่าจะไปในด้านที่ไม่ค่อยดี”
“เขาฆ่าคนเป็นว่าเล่น!”คาร่านึกถึงวีรกรรมของเขา
เธอเคยได้ยินที่คุณพ่อให้ฟังว่าหากใครต่อต้านมีสิ่งเดียวที่เขาคนนั้นจะทำก็คือ ฆ่าทิ้งซะ
เด็กคนอื่นเริ่มพูดถึงเกี่ยวกับคนที่ตุณก็รู้ว่าใคร
“สรุปว่าเป็นคนเลว?”เทียร่าทวน
“เลวมาก!”เด็กทุกคนตอบพร้อมกัน
“เทียร่า
ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดีนะ อย่าไปยุ่งหรือทำอะไรให้คนคนนั้นไม่พอใจจะดีกว่า”เกวนเตือนด้วยความเป็นห่วง
“ฉันเห็นด้วยนะ บางทีเธออาจกลายเป็นศพหลังจากที่เรียนจบหรือทำให้เขาไม่พอใจก็ได้”เวโรนิก้าเสริม ซึ่งคาร่าก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเธอ
“เป็นฉันจะขอบคุณมากถ้าเขาช่วยฆ่าเธอแทนฉัน”เซนพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก
“เซน!”เด็กทุกคนหันไปเรียกชื่อเขาพร้อมกัน
เจ้าตัวไหวไหล่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวก่อนจะเดินกลับไปบนชั้นสอง
เมื่อเห็นว่าไม่มีคำถามอะไรจากเทียร่าแล้วเด็กทุกคนก็แยกย้ายไปทำกิจกรรมของตัวเองต่อ
“ฉันต้องกลับแล้วล่ะ
เอาไว้เจอกันบนรถไฟนะคาร่า”เวโรนิก้าหันมาพูดกับคาร่า
“เช่นกัน
เอาไว้เจอกันบนรถไฟนะเวย์”เด็กหญิงยิ้มให้เธอ จากนั้นผู้ส่งสารตัวน้อยก็เดินมาหาเวโรนิก้าเหมือนกับรู้ความต้องการของเธอ
เขาจับมือเวโรนิก้าก่อนจะหายวับไปกับตา
คาร่าพ่นลมหายใจออกมาแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาข้างหน้าต่างตามเดิม
“ไม่คิดเลยว่าเทียร่าจะอยู่ในยุคเดียวกันกับเขาคนนั้น”คาร่าเอ่ยอย่างเป็นกังวล ดวงตาสีน้ำตาลมองเทียร่าและเกวนที่กำลังคุยกันด้วยความเคร่งเครียด
“ว่าแล้วก็อดห่วงไม่ได้แฮะ”
“เป็นห่วงคุณหนูเทียร่าสินะครับ”เสียงใสของพ่อบ้านตัวเล็กดังขึ้นข้างๆเธอ
คาร่าสะดุ้งด้วยความตกใจไม่คิดว่าเขาจะไปส่งเวโรนิก้าได้เร็วเช่นนี้
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย!?”
“ตั้งแต่แรกเลยครับ”
“ใช่ค่ะ
ฉันเป็นห่วงเทียร่ามาก กังวลว่าเธอจะเป็นอันตรายเพราะอยู่ในยุคของเขาคนนั้น”คาร่าพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
“ผมคิดว่าพวกเราทุกคนในคาเฟ่ก็ต่างเป็นห่วงคุณหนูเทียร่ากันทั้งนั้น
แต่พวกเราไม่สามารถไปก้าวก่ายในมิติเวลาของคนอื่นได้ คุณหนูคงพอเข้าใจนะครับ”
“ค่ะ ฉันเข้าใจดี
ถ้าหากฉันไปก้าวก่ายในมิติเวลาของใครบางคน
เวลาปัจจุบันในยุคของฉันก็อาจเปลี่ยนแปลงได้”
“ตามนั้นครับ
เราคงต้องให้คุณหนูเทียร่าจัดการกับห้วงเวลาของตัวเอง”พ่อบ้านตัวน้อยหันไปมองเด็กหญิงผมทอง
คาร่ามองตามเขา ในใจของเธอตอนนี้ยังเป็นกังวลไม่หาย
“ฉันคงต้องทำปัจจุบันของตัวเองให้ดีที่สุดสินะคะ”คาร่ายิ้ม
“ใช่ครับ
อย่างมากเราก็ทำได้แค่ให้กำลังใจหรือตักเตือนกันได้ที่คาเฟ่เท่านั้น แต่พอออกไปทุกคนก็ต้องจัดการด้วยตัวเองอยู่ดี”
คาร่าคุยกับผู้ส่งสารตัวน้อยสักพักเขาก็ขอแยกตัวออกไปจัดการธุระส่วนตัวของตัวเอง
เด็กคนอื่นๆก็ยังคงกระจัดกระจายตามมุมต่างๆของคาเฟ่
เด็กหญิงมองเทียร่าด้วยสายตาเป็นห่วงแต่เธอก็ทำได้แค่ให้กำลังใจและคอยเตือนในเอลิเซียน
คาเฟ่ เท่านั้น เพราะสถานที่นี้อยู่เหนือกาลเวลา
คาร่าไม่มีสิทธิ์ที่จะไปช่วยเด็กหญิงผมทองในห้วงเวลาข้างนอกได้ ยังไงซะก็คงต้องให้เทียร่าจัดการห้วงเวลาของตัวเอง
“กระเป๋าพร้อมนะ”
“ค่ะ”
“เอาของทุกอย่างครบหมดแล้วใช่ไหม”
“ค่ะพ่อ
หนูเอาทุกอย่างครบหมดแล้วพ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”คาร่าพูดกับคุณพ่อของเธอที่กำลังตรวจเช็กความเรียบร้อยก่อนขึ้นรถไฟ
“พ่อเป็นห่วงนี่
มาๆกอดหน่อย”คาร่าสวมกอดพ่อของเธอ “พ่อล่ะกลัวจริงๆว่าจะมีใครคอยกลั่นแกล้งลูกอีก
พ่อเป็นห่วงลูกมากนะคาร่า”
“ค่ะ
หนูเข้าใจว่าพ่อเป็นห่วงแต่ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะดูแลตัวเองให้ดี รักพ่อค่ะ”เมื่อเอ่ยลากับพ่อของเธอเสร็จเด็กหญิงก็เดินขึ้นรถไฟทันที เมื่อเชสเตอร์เห็นเธอขึ้นรถไฟแล้วเขาจึงเดินทะลุเสาเพื่อออกจากชานชาลา
ระเบียงทางเดินบนรถไฟนั้นช่างเต็มไปด้วยผู้คนที่หนาแน่น
คาร่าต้องใช้ร่างเล็กๆชองเธอให้เป็นประโยชน์ต้องหาช่องว่างระหว่างฝูงชนเพื่อที่จะได้เดินได้อย่างสะดวก
ขณะเดียวกันก็ต้องใช้สายตาสอดส่องว่ามีตู้ไหนว่างบ้างไม่งั้นเธอคงได้นั่งข้างนอกไม่ก็ไปหลบในห้องน้ำแน่ๆ
ครืด
“เวโรนิก้า เอ่อ
โทษทีนะพอดีตู้อื่นเต็มน่ะ ขอนั่งด้วยได้ไหม”คาร่าเลื่อนประตูออก
ยังดีที่ในห้องนี้มีเวโรนิก้านั่งอยู่ด้วย
เด็กหญิงกวาดสายตามองเด็กอีกสองคนที่เธอไม่รู้จัก
“ได้สิ นี่คาเมเลียน้องสาวฉันเองจ้ะ
แล้วก็วิเวียน ครัม”เวโรนิก้าแนะนำเด็กทั้งสองคนให้คาร่ารู้จัก
“คาร่า เอฟเวอร์ตัน
ยินดีที่ได้รู้จักนะ”คาร่าพูดพร้อมนั่งลงข้างๆเด็กที่ชื่อวิเวียน
ดูเหมือนเด็กคนนี้จะเป็นเด็กที่มีความร่าเริงมากๆแถมยังไฮเปอร์อีก
“มีอะไรติดหน้าหนูเหรอคะ”วิเวียนที่นั่งข้างเธอเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคาร่าจ้องมองเธอ
“อ๋อ
ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ”ถึงแม้จะผ่านการฝึกแต่การควบคุมตัวเองไม่ให้รับรู้ความรู้สึกหรือนิสัยของคนอื่นมันก็ยังทำได้ไม่เต็มร้อยนัก
คาร่าหันไปมองเวโรนิก้าและดูเหมือนคนตรงข้ามจะรู้ว่าเธอได้ใช้พลังของตัวเอง
“พวกเธอเป็นเด็กปีหนึ่งสินะ”คาร่าถาม
“ใช่ค่ะ”วิเวียนตอบเสียงใส
“พี่คงเป็นเพื่อนกับพี่เวย์
เล่าให้ฟังหน่อยสิคะว่าตอนอยู่โรงเรียนพี่เวย์เป็นยังไงบ้าง”คราวนี้เป็นคาเมเลียน้องสาวของเวโรนิก้าที่ถาม
“ไม่เอาสิคาเมเลีย”คนเป็นพี่เอ่ยห้ามปราม
“นั่นสินะ พวกเราอยู่คนละบ้านกันพี่ก็เลยไม่ค่อยได้คุยอะไรกับเวย์มาก
แต่ตอนช่วงปีหนึ่งน่ะเวย์เอาแต่ก้มหน้าก้มตาตลอด
แต่พอผ่านไปเรื่อยๆเวย์ก็เริ่มกลับมาสดใสเหมือนตอนนี้ไงล่ะ”
“โห
เป็นอย่างนั้นเองเหรอเนี่ย”
พอผ่านไปได้สักพักคาร่าก็เริ่มสนิทกับเด็กทั้งสองคน
วิเวียนเป็นเด็กช่างพูดและเธอมักจะเริ่มบทสนทนาในทุกๆเรื่องเสมอ
คาเมเลียเองก็เช่นกันที่เริ่มจะสนิทกับวิเวียน
เด็กปีสองทั้งสองคนก็ได้แต่ฟังเด็กน้อยคุยกันอย่างออกรสไปตลอดทางจนถึงสถานีปลายทาง
TALK 15/04/2019
จริงๆน้องคาร่าเนี่ยเป็นที่โค-ตะ-ระ เป็นห่วงคนอื่นมากๆเลยนะคะ สงกรานต์เป็นอย่างไรบ้างคะทุกคน ไรต์ไปเล่นน้ำมาสองวันติดเลย ค้ากกกก มีแต่คนสาดน้ำเย็นใส่ไรต์ ไม่รู้ไปโกรธไรต์แต่ชาติปางไหน สาดเอาๆ บรึ๋ย ใครที่เดินทางกลับวันนี้ก็ขอให้กลับบ้านอย่างปลอดภัยนะคะ รักทุกคน เลิ้ปๆ
#KAZEKUNG
1 เม้น = ล้านกำลังใจ
ความคิดเห็น