คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : My Captain 4 :: มีประโยชน์หรือไร้ประโยชน์
Chapter 4
คาบแรกในวิชาคาถานั้นผ่านไปด้วยดี
เนื่องจากคาร่าเสกคาถาได้เป็นคนแรกจึงทำให้ศาสตราจารย์ฟลิตวิกให้คะแนนบ้านเรเวนคลอไปสิบแต้มแถมยังได้รับคำชมจากศาสตราจารย์
คาร่าพูดขอบคุณอย่างเคอะเขินเนื่องจากเธอไม่เคยได้รับคำชมพร้อมกับเสียงปรบมือมาก่อน
คาร่าเดินออกมาจากห้องวิชาคาถาพลันเห็นเวโรนิก้ากับเพื่อนๆของเธอกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะคาร่าเองก็กำลังกังวลว่าเวโรนิก้าจะหาเพื่อนได้หรือเปล่า
คาบต่อไปคือวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์ซึ่งมันดูจะหน้าเบื่อเกินไปสำหรับเด็กคนอื่นๆ ผู้รอดชีวิตสองคนสุดท้ายคือคาร่าและไบรอันทั้งคู่ยังคงจดความรู้ลงในสมุดอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายไบรอันก็พ่ายแพ้ไปเขาฟุบหลับบนโต๊ะด้วยความรวดเร็ว ตำแหน่งผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์จึงตกเป็นของคาร่าไปโดยปริยายแต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้รับรู้และไม่ได้สนใจเท่าไหร่กับการที่มีคนมาตั้งฉายาให้เธอแบบนี้....จริงๆเธอก็ไม่รู้ด้วยแหละ
วันแรกในการเรียนนั้นสิ้นสุดลงเธอรีบตรงไปยังห้องโถงทันที
ระหว่างทางเด็กหญิงหยิบตารางเรียนขึ้นมาจากกระเป๋า
มืออีกข้างหอบหนังสือจำนวนหนึ่งที่ยืมมาจากห้องสมุด พรุ่งนี้ตอนบ่ายมีเรียนวิชาการบินพร้อมกันกับบ้านกริฟฟินดอร์
คาร่าไม่เคยขี่ไม้กวาดเลยสักครั้งในชีวิตอย่างมากก็มีแต่จับไม้กวาดมากวาดเศษใบไม้หน้าบ้านล่ะนะ
ก็แหงล่ะเธออยู่ในโลกมักเกิ้ลมาตลอดชีวิตนี่ขืนขี่ไม้กวาดเล่นในแถบนั้นคงเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
‘ปั่ก’ “โอ๊ย”คาร่าเดินก้มหน้าก้มตาจนเผลอไปชนคนที่เดินสวนมา
เป็นอเล็กซานั่นเอง
“โอ้
ฉันขอโทษทีนะคาร่า พอดีไม่ทันมองน่ะ”อเล็กซาเอ่ยก่อนจะช่วยเก็บของแต่เพื่อนของเธอกลับดึงแขนให้อเล็กซาลุกขึ้นมาก่อน
“ไปกันเถอะอเล็กซา
เดี๋ยวไม่ทันมื้อเย็น”เด็กคนนั้นดึงแขนอเล็กซาแต่เธอขัดขืนพร้อมกับหันมามองคาร่าด้วยความเป็นห่วง
แต่คาร่ากลับส่ายหัว
“ไม่เป็นไรอเล็กซา
ไปกับเพื่อนของเธอเถอะ”
“ได้ยินแล้วนี่
ไปเถอะ”เพื่อนคนนั้นดึงแขนอเล็กซาไป
เด็กหญิงเดินไปอย่างไม่เต็มใจนัก
“ให้ฉันช่วยนะ”เสียงเด็กผู้ชายดังขึ้นอยู่ข้างหน้าเธอ
ดวงตาสีน้ำตาลดูเป็นมิตรนั้นมองมาที่เธอ ผมสีน้ำตาล สวมเสื้อคลุมกริฟฟินดอร์
เขาย่อตัวลงมาช่วยเก็บหนังสือให้เธอ
คาร่ารู้สึกคุ้นมากแต่เธอจำไม่ได้อยู่อย่างหนึ่ง
ชื่ออะไรนะ
“ทีหลังก็อย่าเอาแต่มองตารางเรียนสิ”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง คาร่าสัมผัสได้ว่าเด็กชายคนนี้
นั้นนิสัยดีและเป็นมิตร ดูท่าแล้วคงชอบช่วยเหลือคนอื่นและเป็นห่วงคนรอบข้างอีกด้วย
เขาจับมือให้คาร่าลุกขึ้นยืน
“โอลิเวอร์ไปกันเถอะ!”เพื่อนของเขาตะโกน
คาร่าหยิบหนังสือจากโอลิเวอร์แต่มันก็ดูท่าจะมากเกินไปสำหรับเธอ
เขาจึงจำเป็นต้องช่วยเธอถือ
“แน่ใจเหรอว่าถือไหว”
“ไหวสิ”เธอบอกก่อนจะเอื้อมหยิบหนังสือที่อยู่กับเขา แต่โอลิเวอร์หลบได้
“ฉันจะช่วยถือให้
ตกลงนะ”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
คาร่าขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจนักแต่เขาก็เดินนำหน้าเธอไปจึงทำให้คาร่าต้องเดินตามเขาไปโดยปริยาย
“เธอจะไปที่ห้องโถงใช่ไหม
งั้นให้ฉันไปส่งนะ”
“ตามใจนายก็แล้วกัน
แล้วพวกเพื่อนนายล่ะ”คาร่าถามเด็กหญิงพยายามก้าวตามให้ทันเขาแต่สุดท้ายก็รั้งท้ายอยู่ดี โอลิเวอร์หัวเราะกับการกระทำของเธอ
“อาจจะกลับเข้าหอล่ะมั้ง
อ้อ...ลืมไป ฉันโอลิเวอร์ วู้ด”
“คาร่า เอฟเวอร์ตัน”เธอหันไปบอกเขา
“ชื่อเพราะดีนี่”เขาเลิกคิ้วข้างหนึ่งพร้อมกับยิ้มให้เธอ
คาร่าเสมองไปทางอื่นใบหน้าของเธอนั้นร้อนผ่าว
แต่เด็กหญิงกลับคิดว่าเป็นเพราะอากาศมันร้อนเสียมากกว่า
ภายในห้องโถงคนเริ่มเยอะอยู่พอสมควร
โอลิเวอร์เดินมาส่งเธอที่โต๊ะของบ้านเรเวนคลอพร้อมกับกำชับว่าทีหลังให้ยืมหนังสือทีละเล่มหรือสองเล่มจะได้ไม่ต้องขนลำบาก
คาร่าแอบกลอกตาเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าทำท่าทางเหมือนพ่อของเธอเข้าไปใหญ่
เด็กหญิงพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ เขายิ้มออกมาพร้อมกับกล่าวลาเธอก่อนจะวิ่งออกไปจากห้องโถง
“คนเมื่อกี้ใครอ่ะ”ไบรอันขยับเข้ามานั่งใกล้ๆเธอ
“โอลิเวอร์ วู้ด
บ้านกริฟฟินดอร์”เด็กชายพยักหน้าเข้าใจ
“อ้อ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ
ว่าแต่วิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์มีการบ้านไหม?”คาร่าเลิกคิ้ว
นี่เขาไม่ตั้งใจเรียนแล้วแอบหลับในห้องหรือไง
“นี่นายแอบหลับในห้องเรียนอย่างนั้นหรือ?”
“วิชาประวัติศาสตร์มันออกจะน่าเบื่อ
ฉันอุตส่าห์ถ่างตาสุดฤทธิ์เพื่อไม่ให้ตัวเองหลับเชียวนะ แต่สุดท้ายมันก็อดไม่ได้ที่จะหลับ
วิชานี้น่ะถือเป็นยานอนหลับชั้นดีเลยล่ะ”ไบรอันพูดราวกับภาคภูมิใจในความพยายามที่จะไม่ให้หลับในคาบศาสตราจารย์บินส์
“ยานอนหลับ? หมายความว่ายังไงที่วิชานี้เหมือนยาหนอนหลับ?”ด้วยความซื่อของคาร่าจึงทำให้เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นคืออะไร รู้เพียงแค่ว่าเขาหลับในคาบเท่านั้น
“เธออาจจะตั้งใจเรียนไปหน่อยจนไม่รู้ว่าเพื่อนทั้งห้องแทบจะฟุบกับโต๊ะไปแล้วไม่ก็หันไปสนใจอย่างอื่นมากกว่า”เขาอธิบาย
“มันน่าเบื่อขนาดนั้นเลยหรือ?
ฉันว่ามันก็เหมือนวิชาเรียนทั่วไปนะ”
“ก็ใช่น่ะสิ รู้ไหมว่าคนในห้องตั้งฉายาให้เธอ
‘ผู้พิชิตวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์' เชียวนะ”นั่นยิ่งทำให้คาร่าขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่
ผู้พิชิตงั้นรึ?
ทำอย่างกับว่าเธอไปล่ามังกรอย่างนั้นแหละ
“เธอนี่ซื่อกว่าที่คิดนะ”ไบรอันพูดเมื่อเห็นเธอทำหน้าไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาสื่อออกไป เด็กผู้หญิงตรงหน้าเขาดูท่าว่าจะใสซื่อกว่าที่เขาคิด
“งั้นเหรอ?”คาร่าคิดว่าเสียเวลามามากพอแล้วกับการคุยกับเขา
เด็กหญิงจึงรีบทานมื้อเย็นเพื่อที่จะได้กลับขึ้นหอเร็วๆ เด็กหนุ่มใส่แว่นก็ยังนั่งอยู่ข้างเธอไม่ไปไหน
แถมเจ้าตัวยังเอาหนังสือขึ้นมาอ่านอีก ไบรอันบอกว่าเขาอ่านรอเธอจะได้ขึ้นหอเรเวนคลอพร้อมกัน
ไบรอันเป็นเด็กช่างพูด ตั้งแต่ออกจากห้องโถงมาเขาก็พูดกับเธอไม่หยุดแต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเรียนเสียมากกว่า
ซึ่งคาร่าก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาน่ารำคาญแต่อย่างใดอีกทั้งเธอยังยินดีที่จะตอบคำถามและให้ความรู้กับเขา
คาร่ากลับมาจัดการธุระส่วนตัวที่ห้อง อาบน้ำ จัดกระเป๋าสำหรับเรียนวันพรุ่งนี้ อเล็กซาและรูมเมทของเธอยังไม่ขึ้นมาซึ่งคาร่าก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่
เธอเปิดลิ้นชักออกเพื่อที่จะเก็บของแต่ก็เห็นตราประทับทองคำรูปตัว E ที่คุณผู้ส่งสารได้ให้มา
จากนั้นเธอก็หยิบกระดาษและปากกาขนนกขึ้นมาเขียนจดหมายถึงพวกเขา แต่เงื่อนไขคือต้องปั๊มตราประทับลงไปด้วย
แต่อเล็กซาและผองเพื่อนกลับขึ้นมาในห้องเสียก่อนเธอจึงยังไม่ลงมือ
ความมืดเข้ามาแทนที่แสงสว่าง ไฟถูกดับไปจากห้องหมดแล้ว
คาร่าลงมาจากเตียงโดยไม่ลืมหยิบจดหมายและตราประทับ ดวงตาสีน้ำตาลคอยสอดส่องบริเวณห้องนั่งเล่นเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่และพรีเฟ็คขึ้นไปนอนแล้ว
เธอเดินออกมายังระเบียงทางเดินหน้าหอมีเพียงแสงจันทร์เท่านั้นที่ให้ความสว่าง คาร่ามองให้แน่ใจอีกครั้งเพื่อให้รู้ว่าฟิลซ์หรือคุณนายนอร์ริสอยู่แถวนี้
เมื่อไม่มีใครอยู่เธอจึงจัดการปั๊มตราประทับลงบนซองจดหมาย
คาร่า เอฟเวอร์ตัน
ถึง
ผู้ส่งสาร
จดหมายลอยขึ้นมาจากมือของเธอมันเริ่มทำลายตัวเองโดยการฉีกตัวเองเป็นชิ้นๆราวกับว่ามีคนมาฉีกมันเองด้วยมือ
มันลอยหายไปตามแรงลม เด็กหญิงรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ข้างหลังเธอ ชายชราในชุดคลุมและสวมหมวก
เขาโค้งให้เธอพร้อมกับยื่นมือออกมา
“พร้อมจะไปกันหรือยังครับคุณหนูเอฟเวอร์ตัน”เสียงแหบแห้งนั้นเอ่ย เด็กหญิงพยักหน้าพร้อมวางมือเล็กลงบนมือของเขา ราวกับว่าถูกดูดเข้าไปในหลุมอากาศเป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอทำอย่างนี้
มันมึนหัวเสียจนเธออยากจะขย้อนมื้อเย็นออกมาให้หมดจากกระเพาะ
ภาพตรงหน้านั้นยังเป็นเหมือนเดิมนับตั้งแต่วันที่เธอมาที่เอลิเซียน
คาเฟ่ครั้งแรก น้ำพุที่ตั้งอยู่ตรงกลาง โต๊ะ เก้าอี้ บาร์ และโซฟา ยังถูกจัดอยู่ตามเดิม
เพียงแต่มันดูเงียบเหงา มีเพียงแค่เธอและผู้ส่งสารอีกสองคนเท่านั้น
“คุณมีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือคุณหนูเอฟเวอร์ตัน”ผู้ส่งสารซึ่งเป็นเด็กชายอายุราวๆห้าขวบถามเธอ เขานั่งอยู่บนบาร์ ด้านหลังชายชรากำลังง่วนอยู่กับการเตรียมชาให้เธอ
คาร่าเดินไปนั่งที่เก้าอี้บาร์ชายชราเลื่อนถ้วยชามาไว้ตรงหน้าของเธอ
“เดาว่าคุณคงสงสัยเรื่องพลังของตัวเอง
ดูจากลักษณะแล้วคุณคงเป็นประเภทที่ถ้าไม่มีปัญหาคงไม่มาที่นี่หรอก ใช่ไหมครับ?”คาร่ายกชาขึ้นมาดื่ม
“ใช่ค่ะ หนูไม่เข้าใจพลังของตัวเอง
และไม่เข้าใจว่ามันใช่พลังของหนูหรือเปล่า”
“ไหนคุณลองบอกซิว่ามีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นบ้างหลังจากคุณได้รับพร”ชายชราประสานมือ คาร่าหายใจเข้าลึกๆพร้อมกับหวนนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ
“หนูรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของคนอื่น
และนิสัยของคนคนนั้น แต่หนูว่ามันดูไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรเลยนะคะ”เธอตอบเขา สีหน้าของเด็กหญิงเศร้าหมองลงเมื่อรู้ว่าพลังของตัวเองแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย
“พลังของพวกคุณได้รับมากจากเทพเจ้า
และคุณคงไม่คิดว่าพลังที่เทพเจ้ามอบให้คงไม่ได้มีแค่นี้หรอกนะครับ”เด็กชายผู้ส่งสารเป็นคนเอ่ย
“พลังที่ทุกคนมีอยู่ตอนนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น
แต่ถ้าหากคุณฝึกฝนคุณก็สามารถดึงพลังอันมหาศาลเหล่านั้นมาใช้ได้”เด็กชายลากเก้าอี้ไม้มาตั้งไว้กลางห้อง
‘เป๊าะ!’ชายชราดีดนิ้ว
ทันใดนั้นก็มีสิ่งหนึ่งปรากฏอยู่บนเก้าอี้ ชายร่างท้วมดูท่าทางคุ้มคลั่ง แขนและขาของเขาถูกมัดติดกับเก้าอี้ด้วยโซ่
ผ้าสีขาวถูกมัดปิดปากเขา ดวงตาสีแดงก่ำราวกับสัตว์ป่า เขาดิ้นไปมาและพยายามที่จะทำให้ตัวเองหลุดออกจากโซ่
คาร่ามองชายตรงหน้า
เธอกำลังรู้สึก
หวาดกลัว
“ชายคนนี้คือฆาตกรโรคจิต สิ่งที่คุณต้องทำคือทำให้เขาหยุดคุ้มคลั่ง”เด็กชายเดินตรงไปที่เธอ
“พรของคุณได้มาจากเทพีอโฟรไดท์ คุณลองใช้ความรักของเทพีทำให้เขาหยุดคุ้มคลั่งดูสิ”
คาร่าเดินตรงไปยังชายที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นฆาตกรโรคจิต
เด็กหญิงรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีผู้ส่งสารทั้งสองคนนั้นยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก มือเล็กทั้งสองข้างสัมผัสกับศีรษะของเขาความรู้สึกมากมายไหลเวียนอยู่ในร่างกายของคาร่า
มันดูมากเกินกว่าที่เธอจะรับไหว เด็กหญิงเค้นพลังทั้งหมดที่เธอมีอยู่ตอนนี้ออกมา
“เขากำลังโกรธแค้น”ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเขากำลังโกรธในเรื่องอะไร แต่ความรู้สึกที่เขามีมันกำลังอยู่ในหัวของเธอ
ท่าทีของชายผู้นี้เริ่มอ่อนลง เขาเลิกที่จะส่งเสียงร้อง
“เขากำลังเศร้า ราวกับว่าสูญเสียอะไรบางอย่าง”เหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามหน้าผาก ความรู้สึกของเขามีมากเกินกว่าที่เธอจะรับไหว จู่ๆเธอก็ถูกผลักออกมาจากตัวเขา
คาร่ารู้สึกมึนหัวและเพลียราวกับว่าแรงของเธอทั้งหมดนั่นหายไป ของเหลวสีแดงไหลออกมาจากจมูก
“ผมเกรงว่าพลังของคุณคงมีน้อยเกินไปที่จะทำเช่นนี้”ชายชรายื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับคาร่า
“หนูคิดว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์ ขอให้หนูลองอีกครั้งนะคะ”
“ผมเกรงว่าร่างกายของคุณอาจจะยังไม่พร้อมสำหรับการฝึกนี้”เด็กชายดีดนิ้ว ทันใดนั้นชายผู้คุ้มคลั่งก็หายไป คาร่านั้นมุ่งมั่นที่จะใช้พลังของตนเองให้เป็นประโยชน์
“หากคุณต้องการฝึก คุณสามารถมาหาเราได้ทุกเมื่อนะครับคุณหนูเอฟเวอร์ตัน
แต่ในตอนนี้ผมเกรงว่าผมอาจรบกวนเวลานอนของคุณมามากพอแล้ว”ชายชราดีดนิ้วอีกครั้ง
ตัวของคาร่านั้นลอยไปทางประตูบานยักษ์ก่อนจะโดนดูดลงไป
ดวงตาสีน้ำตาลภายใต้กรอบแว่นกลมนั้นลืมตาขึ้นอีกครั้ง
ระเบียงทางเดินหน้าหอเรเวนคลอนั้นยังคงว่างเปล่า แสงจันทร์สอดส่องลงมาเพื่อให้มองเห็นทางเดิน
คาร่าก้มลงมองมือตัวเองบางทีสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ตอนนี้มันอาจจะเป็นประโยชน์จริงๆก็ได้
“นักเรียนไม่ควรเดินออกมาเพ่นพ่านตอนกลางคืนนะ”เสียงนุ่มเอ่ยอยู่ข้างหลังเธอ หญิงสาวร่างโปร่งใสกำลังลอยมาหาเธอ ทั้งตัวของเธอเป็นสีเทา
ผมยาวถึงสะเอว หลังเหยียดตรง ดวงตาที่ดูหยิ่งในศักดิ์ศรีกำลังมองมาที่เด็กหญิงเชิงตำหนิ
“ขอโทษค่ะ คุณคือ สุภาพสตรีสีเทาใช่ไหมคะ”คาร่าก้มหน้าลง
“ใช่ คนอื่นเขาเรียกฉันว่าอย่างนั้น”เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นเพื่อให้มองเห็นหน้าของเธอได้ชัดๆ หญิงสาวตรงหน้างดงามกว่าที่คาร่าคิด
ถึงแม้เธอจะเสียชีวิตไปนานแล้วแต่ก็ยังคงท่วงท่าที่สง่างามไว้อย่างเมื่อตอนเป็นมนุษย์
“แสดงว่าคุณก็มีชื่อน่ะสิคะ”เด็กหญิงเอ่ยอย่างแปลกใจ
“เราทุกคนล้วนมีชื่อกันทั้งนั้น แต่เธอควรจะบอกชื่อตัวเองก่อนนะ”
“คาร่า เอฟเวอร์ตัน ค่ะ”สุภาพสตรีสีเทาพยักหน้า
“เฮเลน่า เรเวนคลอ”
“งั้นคุณคือลูกสาวของโรเวน่า เรเวนคลอน่ะสิ”คลาร่าเอามือป้องปากอย่างตกใจ เฮเลน่าหลุดขำเล็กน้อยกับกิริยาของเด็กหญิงตรงหน้า
มีคนหลายคนที่ตกใจเมื่อรู้ว่าเธอคือลูกสาวของหนึ่งในผู้ก่อตั้งฮอกวอตส์แต่เด็กคนนี้กลับให้ความรู้สึกที่แปลกออกไป
คาร่าทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับเด็กหญิงอีกคนที่เธอเคยเจอ
“ฉันว่าเธอควรที่จะเข้านอนได้แล้วนะ
ออกมาเพ่นพ่านกลางดึกแบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่”หญิงสาวหันไปมองดวงจันทร์
“นั่นน่ะสิคะ ราตรีสวัสดิ์นะคะเฮเลน่า”
“ราตรีสวัสดิ์จ้ะคาร่า”เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งกลับเข้าหอของตัวเอง
“เธอทำให้ฉันนึกถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนะคาร่า”
TALK 18/10/2018
พระเอกที่ทุกคนเรียกร้องได้ออกมาแล้วนะค้าาาา
เย้....ปิดบ้านฉลอง อุวะฮ่าๆๆๆ หลังจากนี้คงหายหน้าหายตาไปสักพักนะคะ
สำหรับอีกเรื่องตอนนี้ก็กำลังเร่งเขียนอยู่ ช่วยอดทนกันหน่อยนะคะ จะรีบมาน้าาาา
#KAZEKUNG
ความคิดเห็น