คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : My Captain 5 :: วันซวยๆ
Chapter 5
เช้าวันใหม่คาร่ายังคงตื่นขึ้นมาเป็นคนแรกเสมอ
รูมเมทสี่คนกำลังหลับใหลดูเหมือนอเล็กซากำลังฝันถึงเรื่องดีๆเธอนอนยิ้มและพึมพัมออกมา
แสงอาทิตย์จากภายนอกยังไม่ทันที่จะส่องได้อย่างทั่วถึง
เด็กหญิงมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อชมทัศนียภาพยามเช้าของฮอกวอตส์ สนามหญ้า
ป่าต้องห้าม ทะเลสาบ
ไม่นานนักก็มีสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งบินมาเกาะขอบหน้าต่างนกฮูกพันธุ์เกรตฮอร์น
หรือเจ้าชิกเก้นนั่นเอง
เด็กหญิงนึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่ได้เขียนจดหมายถึงพ่อของเธอเลย
ลิ้นชักถูกเปิดออกเธอหยิบปากกาขนนกและกระดาษออกมาเขียนเพื่อบอกข่าวสารถึงผู้เป็นพ่อ
แต่เธอไม่ได้เขียนถึงเรื่องที่เกี่ยวกับพลังหรือพรที่ได้รับมาในจดหมาย
เพียงแค่บอกว่ามีเรื่องมากมายในโรงเรียนเท่านั้น
“ฝากทีนะชิกเก้น”มันคาบจดหมายก่อนจะมุ่งหน้าไปยังท้องนภาที่อยู่เบื้องหน้า
คาร่ามองมันจนลับสายตาไป กระเป๋าเป้ถูกสะพายขึ้นบนหลังในมือมีหนังสือสำหรับเรียนตอนเช้าและตารางเรียน
ดวงตาสี เปลือกไม้ลอบมองนาฬิกาข้อมือตอนนี้เพิ่งจะหกโมงครึ่งซึ่งมีเวลาอยู่มากโขก่อนเวลาอาหารเช้าและคาบ
เรียนแรก คาร่ากำลังคิดว่าจะไปอ่านหนังสือที่ห้องนั่งเล่นของบ้านหรือห้องโถงดี
แต่สุดท้ายเธอก็เลือก ห้องนั่งเล่นเนื่องจากไม่อยากไปนั่งทนหิวก่อนเวลาอาหารเช้า
ห้องนั่งเล่นนั้นเงียบสงบยังไม่มีใครลงมา
คาร่าเลือกโซฟาหน้าเตาผิงกระเป๋าเป้ถูกวางไว้ข้างๆตัว หนังสือและตารางเรียนวางไว้โต๊ะด้านหน้า
เธอหยิบหนังสือเล่มเก่าที่อ่านค้างไว้ขึ้นมาอ่านมันเป็นแค่ หนังสืออ่านเล่นเท่านั้น
ถึงมันจะดูหนาเสียจนไม่สามารถเรียกว่าอ่านเล่นได้เต็มปากเต็มคำนักหรอก ดวงตาภายใต้กรอบแว่นกลมไล่มองตัวอักษรไปทีละตัว
ในหัวคิดวิเคราะห์เรื่องที่กำลังอ่านไปด้วยมือเล็กหยิบ ปากกาขนนกขึ้นมาจดส่วนสำคัญในหนังสือ
“ตื่นเช้าจังนะคาร่า”ไบรอันเดินลงมาพลางเอามือป้องปากหาว ไบรอันอยู่ในชุดนอนสีฟ้าลายหมีซึ่งดูจะไม่เข้ากับเขาเลยแม้แต่น้อย
“อรุนณสวัสดิ์ไบรอัน”เธอหันไปทักทายเขาก่อนจะหันกลับมาอ่านหนังสือต่อ
เด็กชายเดินลงมานั่งข้างเธอ ตอนนี้ตาของเขาแทบจะปิดอยู่รอมร่อ
“ชุดนอนนายดูดีนี่”
“ขอบคุณที่ชม ถ้าไม่ติดว่าฉันไม่มีชุดอื่นฉันคงไม่ใส่ชุดนี้หรอกนะ”คาร่าและไบรอันนั่งคุยกันอยู่บนโซฟาจนถึงเวลาเจ็ดโมงเช้า
เด็กชายขอตัวขึ้นไปอาบน้ำส่วนคาร่าก็แยกตัวไปที่ห้องโถงทันที
ภายในห้องโถงนั้นยังคงเหมือนเดิม หลายคนเริ่มทยอยมาทานอาหารกันแล้ว
คาร่าเดินไปนั่งแถวหัวโต๊ะเนื่องจากเห็นว่ามีเด็กรุ่นเดียวกันกับเธอนั่งอยู่
คาร่าคิดว่าตัวเองต้องเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนคนอื่นบ้างแล้วเด็กหญิงเดินไปนั่งใกล้เด็กๆกลุ่มนั้น
แต่พวกเขาก็ดันถอยหนีราวกับว่าเธอเป็นตัวประหลาด
ดูเหมือนวันนี้โชคจะไม่เข้าข้างเธอเสียเท่าไหร่
คาร่าเดินออกมาจากห้องโถงเพื่อจะมาเข้าห้องน้ำ
เธอวางหนังสือและสมุดเล่มเล็กไว้ตรงขอบอ่างล้างมือ
เธอเปิดน้ำเพื่อที่จะได้ล้างหน้าล้างตาแต่มือเธอดันปัดไปโดนสมุดจดจนมันตกลงมาในอ่างที่มีน้ำนองอยู่
คาร่าถอนหายใจออกมาตอนนี้สมุดของเธอมันเปียกเสียจนเขียนไม่ได้แล้ว
แถมยังเป็นของวิชาปรุงยาอีกคลังความรู้ที่เธอสรุปทั้งหมดมันอยู่ในนี้ทั้งนั้น
แถมคาบเช้ายังเป็นวิชาปรุงยาเสียด้วย
ความโชคร้ายยังคงดำเนินต่อไประหว่างทางเดินไปห้องวิชาปรุงยาเธอก็ดันสะดุดขาตัวเองแล้วล้มหน้าคะมำพื้น
ซวยซ้ำสองเพราะตอนนั้นหลายคนเริ่มมาทานอาหารเช้าที่ห้องโถงจึงทำให้ทางเดินคนเยอะเป็นพิเศษ
ใช่...เธอล้มต่อหน้าคนอื่น แถมเยอะเสียด้วย เมื่อเริ่มคาบแรกศาสตราจารย์สเนปก็ให้ศึกษาน้ำยาอะไรสักอย่างจากหนังสือ
และให้นักเรียนแต่ละคนลงมือทำ
คาร่าดันพลาดทำน้ำร้อนที่กำลังเดือดปุดๆหกใส่เสื้อคลุมตัวเอง
ศาสตราจารย์สเนปมองเธอก่อนจะหักคะแนนบ้านสิบแต้มและสั่งให้เธอทำใหม่
สายตาของเด็กบ้านเดียวกันจ้องมองมาที่เธออย่างไม่ชอบใจนัก
คาร่าถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นเพื่อนๆบ้านเดียวกันต่างรู้สึกไม่ชอบเธอเท่าไหร่
ในใจของเด็กหญิงนั้นคิดว่าตัวเองคงหาเพื่อนไม่ได้แน่ๆ เธอถอนหายใจออกมาอีกรอบ
เป็นครั้งที่ร้อยแล้วล่ะมั้งที่เธอถอนหายใจ
คาบบ่ายเป็นวิชาการบินซึ่งเรียนรวมกับกริฟฟินดอร์
คาร่าพยายามเดินช้าที่สุดเพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองสะดุดล้มหรือไม่ให้ทำอะไรที่มันขายหน้าไปกว่านี้อีก
เด็กๆเดินมารวมกันที่สนามหญ้าก็พบว่ามีไม้กวาดมากมายที่เท่ากับจำนวนคนถูกนำมาเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ
“สวัสดีเด็กๆ”เสียงทรงพลังดังขึ้น หญิงสาวในชุดคลุมสีฟ้าพร้อมกับสวมถุงมือสีเหลือง ผมซอยสั้นสีเทาดูดี
ดวงตาสีอำพันเหมือนเหยี่ยว เธอก้าวไปดานหน้าของเหล่านักเรียนอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีมาดามฮูช”
“ขอต้อนรับสู่วิชาการบิน
มัวรออะไรอยู่ เดินมายืนข้างไม้กวาด เร็วๆ”เด็กๆทำตามที่มาดามฮูชสั่งอย่างว่าง่าย
“ยื่นมือขวาออกมาทีนี้ก็พูดคำว่า
ลอย!”
“ลอย!”
“ลอย!”คาร่าพูดกับเจ้าไม้กวาด
แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับและมันยังคงแน่นิ่งอยู่
ต่างจากคนอื่นๆที่ตอนนี้ไม้กวาดเริ่มลอยเข้าใส่มือแล้ว
เด็กหญิงขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์
“ลอย!”มันสั่นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ลอยขึ้นมาตามที่เธอสั่ง
คาร่ากลอกตาจากเดิมที่เป็นคนที่ไม่ค่อยใจร้อนหรืออารมณ์เสียกับอะไร
ตอนนี้หัวเธอเริ่มอุ่นๆแล้ว
“ลอย!” ‘โป๊ก!’
ไม้กวาดเด้งขึ้นมาตีหน้าผากเธอ
เด็กหญิงเอามือกุมหน้าผากพร้อมจ้องมองไม้กวาดที่อยู่บนพื้นด้วยความคับแค้นใจ
เธอสั่งมันเบาๆอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันกลับดูเชื่องมันลอยขึ้นมาหามือเธอก่อนจะสั่นเบาๆ
ราวกับว่ากำลังหัวเราะเยาะเย้ย
“ฮ่าๆๆ”เสียงเด็กชายคนหนึ่งกำลังหัวเราะ
คาร่าเงยหน้าขึ้นมา เป็นโอลิเวอร์นั่นเองดูเหมือนเขาจะรู้ตัว
เขารีบหยุดหัวเราะแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มให้เธอแทน
“เจ็บไหมนั่น”
“เจ็บสิ ถามได้”คาร่าเอามือลูบหน้าผากป้อยๆ โอลิเวอร์ยังคงขำไม่หยุดก่อนจะถูกขัดด้วยเสียงของมาดามฮูชที่บอกให้พวกเขาเตรียมตัวขี่ไม้กวาด
“เมื่อฉันเป่านกหวีด
ขอให้พวกเธอถีบเท้ากับพื้น”ทันใดนั้นเสียงนกหวีดดังขึ้น เด็กคนอื่นต่างถีบเท้าและเริ่มลอยขึ้นไปบนอากาศหนึ่งในนั้นคือโอลิเวอร์
คาร่าเอาเท้าถีบกับพื้นแต่มันก็ไม่มีแววที่จะลอยขึ้นไปเหมือนคนอื่นๆ
“ขอร้องน่า ลอยทีเถอะ”คาร่าเอาเท้าถีบพื้นซ้ำสอง
ขาทั้งสองข้างลอยขึ้นเหนือพื้นไม้กวาดเอาแต่ใจมันพาเธอลอยขึ้นอย่างช้าๆ
ต่างกับเด็กคนอื่นๆที่ตอนนี้ต่างบินว่อนด้วยความสนุกสนาน
“ดีมากเด็กๆ ควบคุมมันไว้และจับให้แน่น”มาดามฮูชสั่งอยู่ด้านล่าง
จู่ๆไม้กวาดของเธอมันก็สั่น
คาร่าพยายามประคองมันไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองตกลงไป
จากนั้นมันก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันสะบัดไปมาราวกับม้าพยศ
มันสะบัดจนแทบจะตกแต่ก็ยังทรงตัวไว้ได้ ตอนนี้ไม่มีใครสนใจเธอด้วยซ้ำหลายคนต่างสนุกกับการขี่ไม้กวาดหรือไม่ก็ขี่แข่งก็เพื่อนตัวเอง
“ใจเย็นๆ
ฉันยังไม่อยากตกตอนนี้หรอกน้าา---!”ไม้กวาดพุ่งไปด้านหน้าด้วยความรวดเร็ว
ฝ่าฝูงเด็กนักเรียนที่ลอยอยู่บนอากาศ
มันพาเธอหมุนไปรอบๆราวกับว่ากำลังเล่นม้าหมุนที่คุณคนบังคับเครื่องกดเพิ่มความเร็วมากกว่าปกติ
และมันก็พุ่งตรงไปข้างหน้าอีกครั้งคาร่าหลับตาปี๋เพราะสิ่งที่เธอเห็นอยู่ข้างหน้านั้นคือกำแพงปราสาท
‘โป๊ก!’ ‘โอ๊ย!’ จู่ๆมันก็หยุดลงกะทันหันพร้อมกับเสียงร้องของเธอและเด็กชายอีกคน
“เธอนี่ขี่ไม้กวาดซิ่งเป็นบ้า”โอลิเวอร์เอามือลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆคาร่าเองก็เช่นกัน
แผลที่เพิ่งถูกเจ้าไม้กวาดตีใส่หน้าผากมาหมาดๆยิ่งมาชนหน้าผากเขามันยิ่งทวีคูณความเจ็บขึ้นไปอีก
“จะถือว่าเป็นคำชมแล้วกันนะ”ไม้กวาดกลับมาสั่นอีกครั้งแต่ไม่นานมันก็หยุดลง
“เธอขี่ไม้กวาดไม่เป็นเหรอ?”
“ใช่ ฉันขี่ไม้กวาดไม่เป็น”
“ถามจริง?”โอลิเวอร์พูดอย่างไม่เชื่อ
“ฉันอยู่ในโลกมักเกิ้ล
ขืนขี่ไม้กวาดแล้วแล้วขึ้นไปบนฟ้าคงเป็นเรื่องที่น่าประหลาดมากสำหรับพวกนั้น”คาร่าหรี่ตามองเขา
“คาร่าระวัง!”เสียงนั่นดังมาจากโอลิเวอร์
‘พลั่ก!’ มีใครบางคนขี่ไม้กวาดพุ่งชนเธออย่างรุนแรง
ตัวของคาร่าลอยคว้างอยู่กลางอากาศไม่มีไม้กวาดมารับ
เด็กหญิงรู้สึกได้ว่าเธอกำลังตกลงมาจากไม้กวาดจากความสูงที่มากอยู่พอควร
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว สมองของเธอประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ทัน
เธอเห็นโอลิเวอร์ดิ่งลงมาช่วยเธอด้วยความรวดเร็ว
‘ตุบ!’ตัวของเธอกระแทกพื้นอย่างรุนแรงโดยเฉพาะที่หัวและแขน
เธอรู้สึกเจ็บที่แขนราวกับว่ากระดูกแตกเป็นเสี่ยงๆเดาว่าเธอคงจะแขนหัก
แว่นตานั้นกระเด็นออกไปไกลจนไม่รู้ว่ามันหายไปไหน สายตาของเธอเริ่มพร่ามัว
คาร่าไม่มีแรงแม้แต่ที่จะส่งเสียงร้องหรือแม้กระทั่งบอกว่าแขนเธอหักออกไปให้
คนอื่นๆได้ยิน
“คาร่า!”เสียงของโอลิเวอร์ดังเข้ามาเรื่อยๆ
“ทุกคนหลีกทาง”มาดามฮูชเร่งฝีเท้ามาหาเด็กหญิง คาร่าอยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก
หัวเธอแตกและแขนหักโดยมีโอลิเวอร์คอยช่วยประคอง ตอนนี้คาร่าไม่รับรู้อะไรอีกแล้วจนสติของเธอเลือนหายไป
“คุณวู้ดช่วยฉันทีนะ”มาดามฮูชบอกโอลิเวอร์ขณะประคองคาร่า
เด็กหญิงลืมตาขึ้นมา
คาร่ายันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆเดาว่าตอนนี้เธอคงอยู่ที่ห้องพยาบาล
ดูจากเตียงหลายเตียง ฉากกั้น และตู้ยา
จะว่าไปตั้งแต่เข้ามาเรียนที่ฮอกวอตส์เธอก็ไม่เคยเข้าห้องพยาบาลมาก่อน
วันนี้คงเป็นวันที่โชคร้ายมากถึงได้เข้าห้องพยาบาล
“โอ้ ฟื้นแล้วคุณเอฟเวอร์ตัน”มาดามพรอมฟีย์เดินออกมาจากประตูห้องทำงาน
ในมือถือถาดที่มีขวดยาและแก้วหนึ่งใบ
เธอรีบวางถาดไว้ที่โต๊ะข้างเคียงก่อนจะเข้ามาดูอาการของคาร่า
“ดื่มนี่ซะ มันจะช่วยให้เธอดีขึ้น”ยาสีเขียวพร้อมกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ถูกเทลงในแก้ว
หญิงสาวยื่น แก้วมาให้คาร่า เด็กหญิงรับมาอย่างไม่เต็มในนัก
มาดามพรอมฟีย์ส่งสายตาดุๆเป็นเชิงบังคับให้ดื่มเข้าไป
ของเหลวสีเขียวจากแก้วไหลลงคอของเธออย่างเชื่องช้า มันให้ความรู้สึก
ขมปี๋!
“ดีมากคุณเอฟเวอร์ตัน”มาดามพรอมฟีย์หยิบแก้วมาวางไว้ที่ถาด
“คุณพอจะจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณบ้าง”
“หนู...เอ่อ”คาร่าอึกอักเล็กน้อยเมื่อเห็นสายตาคาดคั้นจากมาดามพรอมฟีย์
“หนูตกจากไม้กวาด จากนั้นหนูก็สลบไป”เธอพยักหน้า
“หัวของคุณแตกและแขนคุณหักนะคุณเอฟเวอร์ตัน
แต่ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว คงต้องให้คุณพักฟื้นสักสองสามวัน”มาดามพรอมฟีย์เอ่ยอย่างรวดเร็ว
“เข้าใจแล้วค่ะ”คาร่าไม่ค่อยชอบนักกับการที่ต้องขาดเรียนหลายวัน
“ฉันให้คุณพักผ่อนก่อนดีกว่า
มีอะไรก็ตะโกนเรียกนะ”มาดามพรอมฟีย์ทิ้งท้ายก่อนจะยกถาดและเดินกลับไปที่ห้องทำงานอย่างรวดเร็ว
คาร่าถอนหายใจออกมา
วันนี้เป็นวันที่เลวร้ายมากสำหรับเธอ เรื่องการฝึกที่เอลิเซียน
คาเฟ่คงต้องพักไว้ก่อนจนกว่าจะหายสนิท กระเป๋าและหนังสือถูกวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง
คาร่าหยิบมันขึ้นมาเพื่อสำรวจว่ามันยังอยู่ครบถ้วนหรือเปล่า
ตอนนี้ภาพด้านหน้ามันมัวไปหมดก็เธอไม่ได้ใส่แว่นนี่
เธอควานหาแว่นบนโต๊ะซึ่งเอ่อ...มันอยู่ในสภาพไม่สู้ดีเท่าไหร่ ขาแว่นหัก
เลนส์แว่นร้าวอย่างหนัก เรียกได้ว่ามันพังไปแล้วเลยก็ได้
เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจจากคาร่า
เธอหรี่ตามองผู้มาเยือนซึ่งเธอก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร
แต่ดูจากรูปร่างแล้วคงเป็นเด็กผู้ชาย
“ทำหน้าเหมือนป้าเลยนะ”เสียงขี้เล่นนั่นดังขึ้น
“โอลิเวอร์...เหรอ?”ร่างนั้นเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนเธอเห็นได้ชัดเจนว่าคือโอลิเวอร์ วู้ด
“ใช่ ฉันเอง”เขามานั่งบนเตียงข้างเธอ
“หยุดหรี่ตาได้แล้ว
ทำหน้าอย่างกับคนแก่”เขาพูดล้อเลียน
“ก็ฉันมองไม่เห็นนี่”เธอตอบพร้อมยกแว่นพังๆให้เขาดู
“เดี๋ยวฉันจัดการให้”โอลิเวอร์หยิบแว่นมากจากมือเธอก่อนจะหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาจากเสื้อคลุม
“โอคูลัส เรพาโร”เขาใช้ไม้กายสิทธิ์ชี้ไปที่แว่น มันเกิดแสงเล็กน้อย
ขาแว่นเริ่มกลับมาติดกัน รอยร้าวบนเลนส์แว่นนั้นเริ่มหายไป
คาร่ามองสิ่งที่เขาทำอย่างตกตะลึง
“ขอบคุณนะโอลิเวอร์”เธอเอื้อมมือไปหยิบแว่น แต่โอลิเวอร์ชักมือกลับ
“ตอนเธอไม่ใส่แว่นก็น่ารักดีนะ”
โอ้ นักเก็ตไก่ทอด
“เอ่อ...”ใบหน้าของคาร่าเห่อร้อนทันทีเมื่อเด็กชายพูดจบ
โอลิเวอร์หลุดขำเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของเธอ
“พักผ่อนซะ ฉันไม่รบกวนเธอแล้ว”โอลิเวอร์สวมแว่นตาที่อยู่ในสภาพใหม่เอี่ยมให้คาร่า เขาหันมาขยิบตาให้เธอหนึ่งครั้งก่อนจะเดินจากไป
“เอเมสต้า”เสียงเล็กทำให้คนข้างหน้าที่กำลังเดินหยุดกึก
ดวงตาสีน้ำตาลของเจ้าของชื่อหันมามองผู้เรียก ดวงตาสีฟ้าของอเล็กซาสบกับดวงตาของเธอ
ผมยาวปานกลางสีดำขลับปลิวไปตามแรงลม
เด็กหญิงบ้านเดียวกันหันมาพร้อมกับเอียงคอเล็กน้อยเชิงสงสัย
“มีอะไรหรืออเล็กซา?”เอเมสต้าตอบด้วยท่าทีใสซื่อ
“เมื่อตอนบ่ายเป็นฝีมือเธอใช่ไหม?”อเล็กซากลับเข้าประเด็น น้ำเสียงของเด็กหญิงเริ่มแข็งกร้าว
ดวงตาของอีกฝ่ายสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเป็นปกติ
“เธอหมายถึงอะไรหรือ?”เด็กหญิงยังคงรักษาภาพลักษณ์
“ไม้กวาด เด็กบ้านกริฟฟินดอร์คนนั้น
เป็นเธอใช่ไหม?”อเล็กซาถามย้ำ เอเมสต้าเหยียดยิ้มออกมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเธอ
“ก็ไม่รู้สินะ”เอเมสต้าทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป
TALK 28/10/2018
กลับมากับบทส่งท้ายก่อนเปิดเทอมมมม ทำไมน้องคาร่าดวงซวยเช่นนี้ เหล่าเทพเจ้าไม่เป็นใจให้เลยฮ่าๆๆๆ ขออภัยที่มาช้านะคะ ไรต์ผิดไปแล้ว ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ไรต์ทุกๆคนที่ร่วมโปรเจ็คนี้ด้วยนะคะ
#KAZEKUNG
ความคิดเห็น