ปัญหาไม่มี แต่อยากเที่ยวที่อื่น
หลังจากที่ผมได้แบกร่างของดาเนียกับดาร่ามาที่ร้านของคุณมาตี้กลางดึก ซึ่งดูเหมือนทุกคนจะเป็นห่วงทั้งคู่ จึงยันั่งรอฟังข่าวก่อน รวมไปถึงคุณเอลลี่ที่ตอนนี้ตื่นขึ้นมานั่งรอที่หน้า แต่เหมือนเห็นผมแบกร่างของน้องสาวเข้ามาในร้านนั้น สร้างความดีใจให้แก่ทุกคนที่อยู่ในที่นั่นอย่างมาก
ผมที่เดินเข้ามาในร้านจากนั้นก็มุ่งไปที่ห้องนอนของพวกเธอ แล้ววางร่างของทั้งคู่ไว้ที่เตียงก็จะเดินออกมาเพื่อคุยกับคนอื่นๆ ด้านนอก เมื่อผมเดินมาที่โต๊ะรับรองที่อยู่หลังร้าน ผมก็เห็นคุณมาตี้กับคุณเอลลี่ที่นั่งรอผมอยู่ ผมจึงเลื่อนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ออกมาก่อนจะเคลื่อนร่างไปนั่ง แล้วก็พูดคุยกับพวกเธอ
" เป็นยังไง ทุกอย่างเรียบร้อยดีนะจ๊ะ "
" ครับ คุณมาตี้ ดีที่ผมไปทันเวลาที่มันยังไม่ทันได้ทำอะไรพวกเธอ ไม่งั้นผมคงไม่ให้อภัยตัวเองแน่ครับ"
" ใจเย็นนะค่ะ แพน ฉันรู้ว่าคุณต้องจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยอยู่แล้วค่ะ "
หลังจากนั้นพวกเราก็พูดคุยกันต่อ แต่โดยส่วนมากจะเป็นผมที่เป็นฝ่ายเล่าซะมากกว่าเพราะพวกเธอพากันถามในรายละเอียดต่าง ผมที่ตัดสินใจเล่าเรื่องให้ฟังตั้งแต่ต้น หลังจากได้ฟังเรื่องราว พวกเธอก็มีสีหน้าต่างๆกันไป แต่ผมตัดเรื่องที่ทรมานไอ้โลเวลกับการสังหารหมู่ทิ้งไป เพื่อความซอร์ฟของเนื้อเรื่องที่เล่าลง แล้วแก้เป็นมีทหารเข้ามาช่วยแทน จนเวลาเริ่มเข้าสู่ใกล้เที่ยงคืนซะแล้ว ผมจึงเล่าเรื่องทั้งหมดจบเป็นที่เรียบร้อย แล้วผมก็ลุกขึ้นก่อนจะหันไปมองทางคุณเอลลี่
" ผมว่าตอนนี้ดึกเกินกว่าที่คนเจ็บจะมาฟังเรื่องราวนะครับ "
" แม้แค่นี้เอง ปกติฉันนอนดึกกว่านี้อีกนะค่ะ "
" นั้นตอนปกตินิครับ แต่ตอนนี้คุณเจ็บอยู่ ต้องนอนพักผ่อนนะครับ "
" โถ่ ไม่เป็นไรหรอกน๊า "
ผมที่เห็นคุณเอลลี่ทำแก้มป่อง แล้วทำน้ำเสียงอ้อนๆผมออกมา ทำให้ผมเห็นแล้วก็อดขำออกมาไม่ได้ ส่วนคุณมาตี้รายนั้นยิ้มแล้วก็ทำหน้าตาเหมือนมีบางอย่าง
" ไม่ได้ครับ แต่ในเมื่อคนไข้ไม่เชื่อหมอ งั้นสงสัยหมอคงต้องบังคับกันแล้วล่ะ "
" เอ๋ ว๊าย "
ตอนแรกคุณเอลลี่ดูแปลกใจที่ผมเลื่อนเก้าอี้เธอออกมา หลังจากนั้นเธอก็ตกใจเหมือนผมไปอุ้มเธอขึ้นมา ด้วยความตกใจเธอจึงเอามือทั้งสองคว้าคอผมไว้จนดูเหมือนท่าเจ้าบ่าว อุ้มเจ้าสาวเลยแหละ แล้วคุณเอลลี่ก็จ้องตาผมอยู่นาน จนกระทั่งมีเสียงกระแอมนั่งขัดออกมาจากอีกคนที่อยู่ด้วย
" อะแฮ่ม จะจ้องตากันตรงนี้ หรือจะพาคนของเจ๊ไปส่งก่อนจ๊ะ พ่อหนุ่ม "
" ฮ่าๆๆ ผมต้องไปส่งคนป่วยก่อนนะครับ คุณมาตี้ "
" ราตรีสวัสดิ์นะค่ะ มาดาม "
" จ๊ะ ไปพักผ่อน ฝันดีนะจ๊ะคืนนี้ เพราะมีคุณหมอบริการไปส่งถึงห้องเลย แล้วก็คุณหมออย่าไปส่งคนไข้นานล่ะ เดี๋ยวคนไข้จะไม่ได้นอนนะจ๊ะ "
" ครับ"
" โถ่ มาดามค่ะ อย่าแกล้งเอลลี่สิค่ะ"
แล้วจากนั้นผมก็อุ้มเธอไปส่งที่ห้องนอนของเธอ โดยมีคนไข้ที่กำลังเขินมาจากการโดนคนสนิทแหย่มาไม่หาย หลังจากที่ผมวางร่างเธอลงบนเตียงแล้วก็กำลังเดินกลับออกมา ก็มีเสียงเรียกจากที่เตียง
" เออ คุณแพนค่ะ "
" ครับ "
" ขอบคุณนะค่ะที่รักษาให้ฉัน "
" ไม่เป็นไรหรอกครับ เห็นคนเจ็บมายังไงผมก็ต้องช่วยก่อนอยู่แล้ว วันพรุ่งนี้เดี๋ยวผมมาดูแผลให้นะครับ "
" ค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะค่ะ "
" ครับ ราตรีสวัสดิ์เช่นกันครับ "
หลังจากนั้นผมก็เดินออกจากห้องของคุณเอลลี่ออกมาข้างนอก ซึ่งที่ด้านนอกก็มีคุณมาตี้ที่ยืนยิ้มกรุ้มกริ่ม อยู่หน้าห้องฝั่งตรงข้าม ก่อนที่คุณเธอจะแหย่ผมออกมา
" แม้ มีเอลฟ์เยอะขนาดนี้ ยังคิดจะเอาเด็กของฉันไปด้วยอีกเหรอจ๊ะ "
" ผมก็ไม่ได้เอาคุณเอลลี่ไปไหนสักหน่อยนะครับ "
" ใช่แต่ตัวนะ เพราะดูเหมือนหัวใจจะไม่อยู่ด้วยนะ "
" พอเถอะครับคุณมาตี้ แหย่ผมจังเลย แล้วคุณมีอะไรอีกหรือป่าวครับ"
เมื่อได้ยินผมถาม คุณมาตี้ก็เปลี่ยนสีหน้าไปทันที จากเล่นๆเป็นจริงจังขึ้นมา แล้วก่อนจะถามผมออกมา ด้วยคำถามที่ทำเอาผมหน้าเปลี่ยนสีได้เลย
" แล้วเธอเก็บไปทั้งหมดเลยหรือป่าว"
" อะ อะไรเหรอครับ "
" เธอปิดฉันไม่ได้หรอก ถึงเธอจะหลอกพวกสาวๆได้ แต่อย่าลืมสิฉันก็เคยเป็นนักผจญภัยมาก่อน ย่อมต้องรู้อยู่แล้วว่าเธอคงฆ่าพวกเขาไปไม่น้อยเลยสินะ "
" ผมปิดคุณไม่ได้จริงๆด้วย เพียงแต่ผมไม่อยากให้ทุกคนรู้นะครับ เพื่อความสบายใจเลยไม่อยากบอกออกไป "
" ไม่เป็นไรหรอก เจ๊เข้าใจ แล้วเจ๊คงไม่บอกพวกเธอหรอกนะ "
" ครับ ขอบคุณมาก แล้วผมมีอีกอย่างที่จะบอกคุณมาตี้นะครับ "
" เรื่องอะไรล่ะ "
" ผมว่าจะออกจากเมืองนี้ไปเมืองต่อไปนะครับ ก็เลยอยากฝากสาวไว้กับคุณมาตี้นะครับ "
เมื่อคุณมาตี้ก้มหน้าลง เพราะฟังคำข้อร้องของผม ดูเหมือนจะทำให้เธอต้องคิดอยู่พอสมควร ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมาตอบรับผม
" ได้อยู่หรอก เพียงแต่น้องสาวของเธอจะยอมหรือจ๊ะ "
" ผมไม่ได้จะไปวันพรุ่งนี้หรอกครับ คงอีกหลายวันแต่ถ้าไม่เป็นได้จริงๆ ก็คงจะพาสองคนนั้นไปด้วยนะครับ "
" งั้นก็ตามใจจ๊ะ แต่ถ้ามีโอกาสผ่ามาเมืองนี้ก็อย่าลืมมาเยี่ยมเจ๊บางนะ "
" แม้ คุณมาตี้ก็อีกตั้งหลายวันนะครับ ก่อนที่ผมจะไปนะ แล้วก็ราตรีสวัสดิ์ครับ "
" จ๊า ราตรีสวัสดิ์นะจ๊ะ "
แล้วผมก็เดินออกมาจากร้านของคุณมาตี้ แล้วมุ่งหน้ากลับไปยังโรงแรมที่พักของผมที่อีกฝากหนึ่งของเมืองนั่นเอง
เช้าวันถัดมา ผมที่ตื่นมาตอนเช้าก็อาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย แล้วกินอาหารเช้า เรียบร้อยแล้ว จากนั้นผมก็มุ่งตรงไปที่ร้านเสื้อของคุณมาตี้ทันที เพื่อที่จะไปหาน้องสาวของผม และไปดูแผลให้คุณเอลลี่ แต่ในระหว่างทางที่ผมกำลังเดินไปยังจุดหมายนั้น ก็มีคนทักผมจากทางด้านหลัง เมื่อผมหันกลับไปมองก็พบกับสาวร่างเล็กนักผจญภัยระดับ s ชื่อ เอลีนั่นเอง
" นายแพน นั่นนายจะรีบไปไหนแต่เช้านะ "
" ผมจะไปร้านเสื้อของคุณมาตี้ที่ตลาดครับ "
" อะไรกันนายเองก็ชอบสาวเอลฟ์ร้านนั้นด้วยเหรอ ผู้ชายเนี่ยเหมือนกันหมดเลยให้ตายเถอะ ทำไมนะพอมีคนสวยๆอยู่ตรงก็ พากันส่ายหางเดินตามไปหากันหมด ให้ตายเถอะ ระวังไว้เถอะ ฉันได้ข่าวว่าเจ้าของพวกเธอแค่ฝากไว้ร้านนั้นชั่วคราว ถ้าเขากับมาเอาคนของคืนเมื่อไร นายคงได้น้ำตาตกแน่ "
ผมไม่รู้จะทำหน้ายังไงให้เธอ ได้แต่ยิ้มแห้งๆส่งไป ส่วนในหัวอยากบอกเธอสุดๆว่า ไอ้เจ้าของเอลฟ์ที่ว่าก็ผมเนี่ยแหละ แต่ในระหว่างนี้ เธอก็ยังคงบ่นไม่หยุดจนผมต้องยกมือขึ้นเบรคเธอก่อน
" เดี๋ยวครับคุณเอลีน ที่ออกมาบ่นกลับผมขนาดนี้แสดงว่า คุณเอวานหายไปจากกิลด์อีกแล้วใช่มั้ยครับ "
" ก็ใช่นะสิ ตอนนี้ฉันก็กำลังตามหาอยู่เนี่ยไม่รู้ไปอยู่มุมไหน อย่าให้เจอนะ.. "
ผมที่ตอนนี้กำลังยืนฟังเธอบ่นตอนนี้ด้วยความเซ็ง ผมจึงใช้จิตพิภพ แผ่ออกไปคลุมทั้งเมืองเพื่อหาตัวแทนมาจัดการเรื่องนี้ ในที่สุดผมก็พบคุณเอวานที่ตอนนี้กำลังนั่งอ้อนสาวอยู่ในร้านคณิกาแห่งหนึ่งในโซนบันเทิงของเมือง เมื่อรู้แล้วผมจึงหันมายิ้มให้คุณเอลีนยกมือเรียกร้องความสนใจเพื่อให้เธอฟังที่ผมพูด
" เดี๋ยวนะครับคุณเอลีน เมื่อกี้นี้ผมเจอกับคุณเอวาน แล้วเขาชวนผมไปนั่งที่ร้านคณิกาที่อยู่ทางซ้ายมือห่างจากทางเข้าไป 2-3 ร้านครับ แต่ผมปฎิเสธไป ไม่แน่เขาอาจจะอยู่ที่ร้านนั้นก็ได้ครับ "
" จริงเหรอ แล้วทำไมนายไม่บอกฉันแต่แรกปล่อยให้ฉันบ่นอยู่ตั้งนาน งั้นฉันไปจัดการเรื่องฉันต่อนะ แล้วก็ขอบใจมากที่บอก ไอ้พ่อบ้าวันนี้ไม่รอดแน่ "
" ครับ โชคดีนะครับ "
' อโหสิ ให้ผมนะครับคุณเอวาน เพื่อสุขภาพที่ดีของผม คุณช่วยรับเคราะห์แทนไปก่อน เดี๋ยวถ้ายังไง ผมจะทำบุญไปให้นะครับ '
ในที่สุดผมก็มาถึงร้านของมาตี้สักที หลังจากที่ต้องไปฟังคำบ่นอยู่กลางเมือง แต่ก็นะ เมื่อผมเปิดประตูเข้าไปในร้าน ตอนนี้มีสาวๆเอลฟ์คอยยิ้มต้อนรับให้ผมเป็นอย่างดี โดยมีคุณมาตี้ที่วันนี้ลงมาจัดร้านเอง เพราะคุณเอลลี่บาดเจ็บอยู่ ผมจึงทักทายกับเธอเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปดูอาการคุณเอลลี่ที่ห้องของเธอ
เมื่อผมมาถึงหน้าประตูห้องของเธอ ผมก็เคาะเพื่อข้ออนุญาตเข้า เพราะคงไม่อยากเปิดเข้าไปเจอฉากในตำนานเท่าไรนะ หลังจากมีเสียงอนุญาตดังออกมา ผมจึงปิดประตูเข้าไปในห้อง แล้วหันหน้าไปยิ้มให้คนเจ็บนิดหนึ่ง ก่อนจะลงไปนั่งข้างๆเธอ
" เป็นยังไงบ้างครับ เจ็บแผลหรือป่าว"
" ไม่ค่อยเจ็บแล้วคะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ "
" งั้นขอผมตรวจดูหน่อยนะครับ "
" เชิญเลยค่ะ "
หลังจากนั้นผมก็ใช้พลังเวทเข้าไปตรวจดูบาดแผลจากนั้นก็ทำการรักษาให้มันหายสนิทเลย สงสัยว่าทำไมผมไม่ทำตั้งแต่แรก พอดีพึ่งนึกออกเมื่อคืนครับ พอดีตอนแรกเห็นคนเจ็บ ก็เลยรีบรักษาตามความเคยชินจนลืมไปว่าใช้เวทรักษาก็ได้ อย่าว่ากันนะ
เมื่อรักษาคุณเอลลี่เรียบร้อยผมก็นั่งคุยเล่นกับเธอต่ออีกสักพัก ก่อนจะขอตัวไปดูน้องสาวทั้งสองคนที่ห้องของพวกเธอ
" เรียบร้อยแล้วครับ คุณเอลลี่พักผ่อนอีกสักหน่อย พรุ่งนี้ก็หายแล้วล่ะครับ "
" ขอบคุณมากนะค่ะ "
" งั้นผมไปหาน้องสาวก่อนนะครับ "
แล้วเธอ ก็ยิ้มให้้ผม ก่อนที่ผมจะเดินออกจากห้องของเธอไป แล้วไปยังห้องของน้องสาวทั้งสองคนของผมทันที เมื่อเดินมาที่หน้าห้องแล้วผมเคาะประตูเรียกคนในห้อง แต่ไม่มีเสียงใครตอบรับ ผมจึงถือโอกาสเปิดเข้าไปในห้องเลย แต่ปรากฏว่าทั้งสองยังคงหลับอยู่ที่เตียง แต่ผมก็แปลกใจว่าทำไมตอนนี้ทั้งคู่ยังหลับอยู่ เพราะปกติคงลุกขึ้นมาแล้ว แต่พอนึกดีๆ ก็ทำให้ต้องทุบกำปั้นนึกออกมา
' ตูลืมปลดเวทนิทรานี่น่า '
หลังจากนั้น ผมก็ได้ไปปลดเวทออกจากทั้งคู่ พอผ่านไปสักพักทั้งสองคนก็ลืมตาขึ้นมา พอเห็นผมก็ลุกขึ้นมากอดด้วยความดีใจ แถมดาเนียยังมีน้ำตาไหลออกมาอยู่เลย ทำให้ผมต้องลงไปปลอบทั้งคู่ให้สงบก่อน แล้วค่อยเล่าเรื่องราวให้ฟัง แน่นอนว่าต้องตัดส่วนดาร์กไซด์ออกจากเรื่องทันที
" เพราะฉะนั้นเราทั้งคู่ ตอนนี้ก็ปลอดภัยแล้วนะค่ะ "
( ไอ้ซิสค่อนเนี่ย เวลาพูดกับน้องสาวของตัวเองมักจะลงท้ายด้วยค่ะ ขา เหมือนเด็กผู้หญิง ยังมีน่ามาบอกแค่ห่วงญาติ )
" ขอบคุณพี่แพนนะคะ ที่ไปช่วยพวกเราทัน แถมยังตามทหารไปช่วยด้วยอีก "
" ไม่เป็นไรค่ะ เพราะพวกเธอเป็นน้องของพี่นิจ๊ะ "
" ฮือๆๆ ตอนแรกดาร่ากลัวแทบตาย คิดว่าพี่ดาเนียจะถูกทำอะไรสักอีก "
" แม้ เรื่องมันผ่านมาได้ก็โชคดีแล้วล่ะ อย่าลืมไปขอบคุณ คุณเอลลี่เขาด้วยนะค่ะ เพราะเขาถูกทำร้ายแต่ก็ยังฝืนร่างกาย มาบอกพวกพี่ เลยทำให้พี่ไปช่วยพวกเราทันไงค่ะ "
" แน่นอนอยู่แล้วคะ พี่แพน แล้วพี่เขาเป็นอะไรมากมั้ยค่ะ "
" ใกล้หายแล้วล่ะค่ะ พี่เป็นคนลงมือรักษาซะอย่าง "
" งั้นวันนี้หนูกับพี่ดาเนียจะไปเยี่ยมพี่เอลลี่ที่ห้องนะคะ "
" ได้ค่ะ แต่ตอนนี้พี่มีเรื่องจะบอกนะว่า พี่ตัดสินใจจะเดินทางออกจากเมืองนี้ไปนะค่ะ "
" อะไรกันคะ พี่จะออกจากเมืองนี้วันนี้เลยเหรอค่ะ พวกเรายังไม่ได้เตรียมตัวเลย"
" ไม่ใช่ค่ะ ยังอีกหลายวัน เพียงแต่จะถามว่า เราอยากอยู่ที่นี่หรือจะไปกลับพี่ เพราะพี่ไม่บังคับหรอกนะ ถ้าอยากอยู่ที่นี่เพราะอย่างน้อยที่นี่น้องก็คงคุ้นเคยดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเดินทางไปกับพี่คงจะลำบากไม่น้อย พี่เลยมาบอกให้พวกเราตัดสินใจก่อนนะ"
หลังจากนั้น ดาเนียกับดาร่าก็ก้มลงพรางคิดถึงเหตุผลต่างๆเกี่ยวกับทางเลือกนี้ ผมก็ปล่อยให้เวลาพวกเธอได้มีโอกาสคิดเลือกทางของตัวเอง
" ไม่ต้องรีบนะคะ พี่ยังอยู่อีกเป็นสัปดาห์ ไว้ก่อนพี่ไปค่อยให้คำตอบกับพี่ก็ได้นะ"
" ค่ะ ขอบคุณนะค่ะ"
แล้วผมก็ยิ้มให้พวกเธอก่อนที่จะออกจากห้องไปแล้วก็เดินไปยังหน้าร้านก่อนที่ผมจะเรียกสาวๆทั้งหมดมาังเรื่องที่ผมจะบอกคือการออกจากเมือง แต่ก็ไม่ได้บังคับให้ทุกคนตามไปใครที่จะอยู่ที่นี่ก็ได้ ซึ่งก็มีหลายคนที่คิดจะอยู่กับคุณมาตี้ต่อไป แต่ก็มีหลายคนที่ลังเลอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้เร่งเอาคำตอบอะไรนัก ผมจึงบอกว่าอีกห้าวันค่อยมาบอกก็ได้
จากนั้นผมก็เดินออกจากร้านของคุณมาตี้ไป เพื่อไปซื้อของและเตรียมตัวเดินทางไปที่อื่นต่อไป จุดหมายคงเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรนี้นั่นเอง เพราะผมก็อยากไปดูเมืองหลวงเหมือนกันว่ามีสภาพเป็นอย่างไร
หลังจากผ่านมาได้หนึ่งสัปดาห์ตอนนี้ผมที่เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วครับ โดยมีการซื้อรถม้าอย่างดีมาไว้ด้วย โดยข้างในรถม้าผมมลงเวทมิติเอาไว้เพื่อให้มันขยายใหญ่ขึ้นกว่าความจริง เพื่อเก็บของและความสะดวกในการเดินทางที่ต้องเดินทางทั้งวันทั้งคืน ส่วนผลการตัดสินใจก็ออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยเริ่มจากสาวๆก่อน จากสาวเอลฟ์ที่ผมช่วยมาทั้งสิบคนมีคนหนึ่งที่อยากเดินทางไปกับผม ส่วนที่เหลืออยากทำงานที่ร้านคุณมาตี้ต่อ ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะอยากให้พวกเธอเลือกทางของตัวเอง ผมจึงได้โอนกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของทาสให้คุณมาตี้ทันที เพราะอย่างที่รู้ๆกันเมืองนี้เผ่าอื่นต้องเป็นทาสเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมอยากคุยกับท่านเจ้าเมืองในเรื่องนี้มาก
ส่วนน้องสาวของผม ทั้งคู่ตัดสินใจเดินทางไปกับผมเพราะทั้งคู่เองก็อยากเห็นโลกภายนอกเหมือนกันนั่นเอง อ้อ ผมลืมบอกชื่อสาวอีกคนที่จะเดินทางไปกับผมด้วยบอกก็ได้ เธอชื่อเฟียน่า เป็นเอลฟ์สาว ผมสีทองยาว ตาสีเขียว มีอายุมากกว่าดาเนียเล็กน้อย มีโครงหน้ารูปไข่ รูปร่างสูงโปร่ง มองเห็นสัดส่วนชัดเจน เอาเป็นว่านางแบบชิดซ้ายไปเลยทีเดียว เธอตัดสินใจมากับผมเพราะ เธอค่อนข้างจะสนิทกับน้องสาวของผมมากกว่า ก็เลยอยากเดินทางไปด้วยกัน
เพราะเหตุนี้เองทำให้ผมต้องตกแต่งรถม้ากันขนานใหญ่เลย เพราะไหนต้องแบ่งห้อง แบ่งโซนสำหรับรวมกัน หรือเฉพาะสาวๆอีก เล่นเอาเหนื่อยไม่ใช่น้อยเลยแหะ ขณะที่ตอนนี้ทุกคนที่กำลังเตรียมตัวที่จะออกเดินทางรวมทั้งผมด้วย โดยมีคุณมาตี้กับคุณเอลลี่ คุณเอวานกับคุณเอลีน เหล่าสาวๆที่ร้าน ซึ่งไม่รู้ไปได้ข่าวจากไหน ถึงมาส่งผมได้ แต่ก็ช่างมันเถอะ
แล้วเมื่อเตรียมตัวเรียบร้อย พวกผมก็ไปล้ำลากันไปตามลำดับ
" แพน โชคดีนะจ๊ะ เจ๊ขอให้เดินทางปลอดภัยนะ "
" แพน คุณเล่นบอกฉัน วันจะไปเนี่ยไม่ให้เตรียมใจเลยนะคะ "
" นายแพนโชคดีแล้วกัน "
แต่พอถึงตาคุณเอวาน เขากับล็อคคอผมไว้ก่อนจะลากผมให้ออกมาห่างๆ แล้วก็พูดออกมา
" นายเป็นคนบอกที่อยู่ของฉันกับลูกใช่มั้ย "
" แหะ แหะ พอดีผมมีธุระ นะครับก็เลยบอกที่อยู่คุณส่งๆไป ไม่คิดเลยว่ามันจะถูกด้วยนะครับ "
" ช่างมันเถอะ นายมีเป้าหมายจะไปเมืองหลวงสินะ "
" ครับ มีอะไรหรือป่าวครับ "
" จะว่ามีก็ไม่เชิงหรอก คือฉันอยากจะฝากเจ้านี่ไปส่งที่กิลด์หลักในเมืองหลวงสักหน่อยนะ ได้หรือป่าว "
" ไม่มีปัญหาหรอกครับ ยังไงผมก็ต้องแวะไปที่นั้นอยู่แล้วด้วย "
" งั้นฝากจัดการทีนะ มันเป็นของสำคัญแล้วก็อย่าลืมนะ ส่งของนี่ให้แก่มาสเตอร์ของกิลด์หลักเท่านั้น พร้อมกับจดหมายฉบับนี้ เมื่อเขาได้อ่านเขาจะเข้าใจเอง "
" ได้ครับ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว "
" งั้นก็โชคดีแล้วกัน ว่างๆอย่าลืมแวะมาเยี่ยมกันบ้างนะ "
" แน่นอนครับ "
แล้วหลังจากนั้นพวกของผมที่จะเดินทางก็ขึ้นรถม้าไป โดยมีผมเป็นสารถีคอยบังคับม้านั่งอยู่ด้านนอก หลังจากเดินทางมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ผมที่กำลังออกจะออกไปก็ถูกเลือกเอาไว้ด้วยนายทหารประจำด่าน
" มีอะไรหรือป่าวครับ "
" พอดีมีคนอยากพบคุณนะครับ ขอเชิญมาคุยกันก่อนนะครับ"
" ได้ครับ ไม่มีปัญหา "
แล้วผมก็ลงจากรถ มาบอกสาวๆให้นั่งรออยู่ในรถก่อน ที่ผมจะเดินตามทหารคนที่มาตามผมเข้าไปในด่านก่อน เมื่อผมเข้ามาก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่อยากจะคุยกับผมก็คือท่านเจ้าเมืองแน่นอน ก็เพราะเล่นนั่งรออยู่ตรงที่นั่งรับรองเด่นชัดซะขนาดนั้น ผมจึงเดินไปหาเขา แล้วนั่งลง ที่โซฟาฝั่งตรงข้าม ก่อนจะเริ่มการสนทนากัน
" คุณแพนไม่เดินทางไปที่ไหนเหรอ "
" ผมก็คงเดินทางไปเรื่อยๆนั่นแหละครับ "
" งั้นข้าก็ขอให้โชคดี และ ขอบคุณมากเรื่องที่ไว้ชีวิตลูกชายของข้าเอาไว้ "
" ไม่เป็นหรอกครับ เพราะทั้งหมดก็จากคำขอร้องของท่านนี่ครับ "
" แต่ข้าจะขอเตือน ท่านด้วยความหวังดีนะ เพราะเมืองหลวงมีภัยที่อันตรายซ่อนอยู่มาก เพราะมันเป็นแหล่งรวมด้านมืดของอาณาจักรไว้มากที่สุด ระวังตัวด้วยล่ะกัน "
" ขอบคุณครับที่เตือน ผมจะระวังตัวเองเอาไว้ครับ "
" ข้าขอขอบคุณสำหรับทุกอย่างและ ขอให้ท่านโชคดี "
" ครับ ท่านโซรอสก็เช่นกันนะครับ "
หลังจากนั้น เราสองคนก็จับมือกัน ก่อนที่แยกย้ายกันไปตามทางของตน ท่านเจ้าเมืองก็กลับไป ส่วนผมก็เดินทางออกจากเมืองไปแล้วมุ่งหน้าสู่จุดหมายต่อไป เมืองหลวงของเรการ์ด ที่ชื่อ ลาทิเดีย
...................................................................................................................
เสร็จแล้วววววววววว ตอนที่ 30 ความยินดีอันเปี่ยมล้น
หลังจากที่ยามเลิกมาเคาะห้องผมสามเวลาสักที
จนผมเริ่มระแวงแล้ว มันเป็นอันปั่นนิยายสักที
มีเรื่องมาแจ้งครับ ต่อไปผมจะลงนิยายวันละตอนเท่านั้นนะครับ
เนื่องจากการงานที่ตอนนี้มีงานทำแล้ว ทำให้เวลาในการลงนิยายน้อยลงไปด้วย
แต่ขอสัญญาไม่หายแน่นอน เพราะแฟนคลับ(สาวๆ) เรียกร้อง อิ อิ
เหมือนเดิมครับ มีข้อผิดพลาด ก็คอมเม้นท์บอกด้วยนะครับ
1 comment = 1 กำลังใจ ให้ไรท์
แต่ถ้ารักกันมากๆ อย่าลืม share vote ให้นิยายด้วยนะจ๊ะ 55555
แก้ไข ให้บางส่วนแล้วนะครับ ขอบคุณรีดทุกคนที่คอยบอกนะครับ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ที่อะไรๆต่างๆ ที่ผ่านหูผ่านตามาแล้วจะไม่ลืม
ขอบคุณครับ
พวกเรามีคำสั่งมาจากกอง บก. (บากะ) ให้เตรียมพร้อมตัดน้ำและขนถ่านขึ้นไปเรียงไว้หน้าประตูห้องของเป้าหมายได้ รอสัญญาณรมควัน อุเฮะ อุเฮะ
ผันวรรณยุกต์แล้วลองออกเสียงตามก่อนค่ะ
ส่วนสรรพนามแทนตัวของเจ้าเมือง แทนตัวเองว่า "ข้า" แต่ลงท้ายด้วย "ผม"
แก้ไขด้วยค่ะ
ผิดในการใช้ "คะ ค่ะ" โดยเฉพาะ "นะคะ"
"คะ" ออกเสีย ออกเสียงแบบ "โยคะ" เป็นเสียงสูง
"ค่ะ" เป็นเสียงต่ำ ตัวอย่าง "ขอบคุณค่ะ เห็นด้วยค่ะ "