ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tale of Another world ตำนานบทใหม่ที่ต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #37 : ตัดสินใจเดินทางสู่เมืองราธีเดีย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.06K
      33
      21 ก.พ. 59

    ตัดสินใจเดินทางสู่เมืองราธีเดีย




                หลังจากผมปิดบัญชีขั้นต้นออกมาแล้วถึงเวลาต้องไปแก้ปัญหาขั้นต่อไป เพราะเดี๋ยวอีกไม่นาน ยังไงพวกขุนนางนั้นก็ต้องรู้อยู่ดี แล้วคงต้องส่งคนมาตามราวีสองแม่ลูกอีกแน่ เพราะฉะนั้นคงต้องให้ย้ายไปที่อื่น แต่ที่ไหนดีล่ะ ลองสอบถามข้อมูลอีกนิดจากคุณสเตล่า เพราะตอนนี้ผมเองก็ยืนอยู่หน้าบ้านของทั้งคู่ แล้วผมจึงเดินเข้าไปในบ้านก็พบกับคุณสเตล่าที่นอนอยู่บนเตียงโดยมีอาเนียคอยดูแลอยู่ 

                " อาเนียฟื้นแล้วเหรอ เป็นยังไง ไม่มีอาการบาดเจ็บตรงไหนใช่มั้ย "

               " ไม่เป็นไรหรอก ขอบคุณนายมากนะ ถ้านายมาช้ากว่านี้ฉันกับแม่คง... "

              " ช่างมันเถอะ ไม่ต้องไปนึกถึงมันหรอก แค่ปลอดภัยก็ดีแล้ว แต่ฉันมีเรื่องจะคุยกับแม่ของเธอหน่อยได้หรือป่าว "

              " ได้สิ งั้นฉันจะออกไปรอข้างนอกก่อน "

              " ไม่ต้องหรอกอยู่ฟังด้วยกันนี่แหละ เพราะมันเกี่ยวกับเธอด้วย "

             หลังจากผมห้ามอาเนียที่กำลังเดินออกไปแล้ว มานั่งใกล้กับเตียงของคนป่วย ที่คุณสเตล่านอนอยู่ ผมใช้เวทย์ตรวจสอบร่างกายของเธออีกครั้ง ดูเหมือนอาการสูญเสียพลังเวทย์จะลดลงแล้ว เพียงแต่พลังเวทย์ยังไม่ฟื้นฟูมากพอที่จะใช้ได้ ผมจึงหยิบเอายาฟื้นพลังเวทย์ออกมาแล้วป้อนให้คุณสเตล่า พอเธอดื่มจนหมดอาการและสีหน้าของเธอก็ดีขึ้น เธอจึงหันมาขอบคุณ

               " ขอบคุณเธอมากนะ ที่ช่วยเหลือพวกเรา "

               " ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นหมอ ยังไงก็ต้องช่วยคนให้ถึงที่สุดอย่างบอก "

               " ว่าแต่ยาที่นายเอาให้แม่ของฉันดื่มนะมันคืออะไรเหรอ พอแม่ดื่มแล้วอาการก็ดีขึ้นมาก ฉันจะได้ซื้อมาให้แม่บ้าง นายมีอีกก็ขายให้ฉันเถอะนะ"

               " ฮ่าๆๆ มันก็คือ ยาฟื้นฟูพลังเวทย์นั่นแหละ "

            " ว่าไงนะ ยาฟื้นฟูพลังเวทย์ เธอเอาของมีค่าขนาดนั้นมาให้ฉันดื่มง่ายๆ เลยเหรอ "

               คุณสเตล่าแสดงสีหน้าตกใจออกมาหลังจากรู้ว่ายาที่ตัวเองดื่มเข้าไปเป็นน้ำยาฟื้นพลังเวทย์ ทำเอาสีหน้าสงสัยจากผมและอาเนียได้เป็นอย่างดี แล้วอาเนียจึงถามแม่ของตนออกมา

                " ทำไมเหรอค่ะ แม่มันแพงขนาดนั้นเลยเหรอ ยาฟื้นพลังเวทย์เนี่ย "

               " แพงหรือไม่ แม่ไม่รู้หรอก แม่รู้แค่ว่าเป็นของที่มีมูลค่ามาก มีใช้กันในเชื้อพระวงศ์ของแต่ละประเทศเท่านั้น เพราะขั้นตอนการผลิตนั้นยากมาก ทำให้มีจำนวนน้อยเมื่อออกสู่ตลาด ทำให้ยาชนิดนี้ออกจะมีมูลค่าที่สูงทีเดียว "

               " นี่นายมีของแบบนั้นได้ แสดงว่านายต้องเป็นเชื้อพระวงศ์นะสิ "

               " เออก็นะ จะพูดว่าไงดี จะบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่เชิงนะ "

              " ดิฉันขอประทานอภัยเพค่ะ ที่เสียมารยาทมิยอมคุกเข่าให้พระองค์ "

              ผมเห็นคุณสเตล่าที่เปลี่ยนท่าที และคำพูดในการคุยกับผมในตอนนี้ เล่นเอาผมเครียดเลย แล้วอย่างนี้ผมจะคุยกับเธอสบายๆได้ยังไงเนี่ย สงสัยคงปรับให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อน 

              " คุณสเตล่าครับ ไม่ต้องคุกเข่าเปลี่ยนคำพูดหรอกครับ เพราะผมไม่ได้เชื้อพระวงศ์ที่ไหนครับ ยาพวกนี้ผมทำขึ้นมาเองครับ "

              " เออ คุณแพน ทำยาฟื้นฟูขึ้นเองเหรอค่ะ มันทำยากใช่มั้ยค่ะ ถ้ายังไงฉันจะจ่ายค่ายาให้ไม่ทราบว่าเหรียญทองค่ะ "

              " นั่นสินะครับ ผมเองก็ไม่เคยขายเสียด้วย เลยไม่รู้ราคา งั้นเอาเป็นว่า... "

              หลังจากนั้นผมก็ก้มหน้าลงครุ่นคิด แต่ความจริงกำลังแอบมองสีหน้าของอาเนียที่ได้ยินคำพูดของแม่ ที่ตอนนี้กำลังรอนรนอยู่ ราวกับผมจะคิดแพงแน่ๆ ซึ่งมันดูน่ารัก น่ามองอย่างประหลาด จนตอนนี้ผมเลิกแกล้งเธอแล้วจึงได้เงยหน้าขึ้นมาบอกราคากับคุณสเตล่าว่า

               " ไม่คิดเงินครับ "

               " คุณแพนว่าเท่าไหร่นะคะ ฉันฟังไม่ชัดเท่าไหร่ "

              ดูเหมือนคุณสเตล่าจะไม่เชื่อหู ตัวเองในคำที่ผมพูดออกไป จึงให้เอ่ยย้ำอีกทีหนึ่ง ส่วนอาเนียเองก็มีท่าทางประหลาดใจเช่นเดียวกัน

               " ไม่คิดเงินครับ มันก็แค่ยา ถ้าได้ใช้รักษาคน ก็พอแล้วครับ "

               " ตะ แต่ว่ามันแพงมาก แถมมีจำนวนน้อยดูไม่ใช่เหรอครับ "

               ผมจึงไม่พูดอะไร แค่ยิ้มออกมาก่อนจะหยิบเอาขวดยาฟื้นพลังเวทย์ออกมาอีกหลายสิบขวดแล้ววางกองไว้ตรงหน้าพวกเธอ พอพวกเธอเห็นก็ถึงกลับตกตะลึงในทีเดียว เพราะมีจำนวนมากเกินกว่าที่ใครคนหนึ่งจะมีได้ ถึงจะทำขึ้นมาเองก็เถอะ แล้วก็ตามด้วยคำพูดของผม

               " ผมยังมีอีกมากเลยครับ และผมก็ไม่สนใจเรื่องราคาของมันด้วย เพราะมันไม่ใช่ของที่ทำยากอะไรเลยครับ วัตถุดิบแทบจะหาได้ตามทางเลย แค่คนที่ทำได้ไม่บอกคนอื่นเท่านั้นเองครับ "

               " หมายความว่า ยาฟื้นพลังเวทย์ เป็นยาที่ทำได้ทั่วไปเหรอค่ะ "

              " ก็ประมาณนั้นครับ เพียงแต่ต้องใช้พลังเวทย์เป็นส่วนประกอบนิดหน่อยด้วย "

              พวกเธอเมื่อได้ฟังก็พยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อออกไปให้พวกเธอ เพราะความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่ เพียงแต่ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่า ตอนนี้เราออกประเด็นหลักมากไปเยอะแล้ว ผมจึงเอ่ยเข้าประเด็นสำคัญที่ผมต้องถามในตอนแรก

              " คุณสเตล่าครับ ผมคิดว่าตอนนี้ ที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับพวกคุณสักเท่าไหร่ พวกคุณจำเป็นต้องไปที่อื่นก่อนนะครับ "

              " ทำไมเหรอจ๊ะ แพนมีอะไรเกิดขึ้นเหรอ "

              หลังจากที่คุณสเตล่าถามออกมา ผมจึงจำเป็นต้องเล่าเรื่องที่รู้ให้พวกเธอได้ฟังเกือบทั้งหมด ยกเว้นเรื่องที่อาเนียถูกหลอกไว้ เพื่อไม่ให้อาเนียรู้สึกจากการกระทำของตนเอง แล้วก็ปล่อยให้สองแม่ลูกได้ใช้ความคิดกันสักหน่อย โดยผมยังยืนรอการตัดสินใจของพวกเธออยู่ จนในที่สุดคุณสเตล่าก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองมาที่ผม 

               " ขอบคุณนะคะ ที่เล่าให้พวกเราฟัง ยังงั้นฉันกับลูกจะย้ายไปอยู่หมู่บ้านหรือเมืองอื่นค่ะ "

               " คุณสเตล่าไม่มีญาติที่อื่นอีกเหรอครับ "

               " ฉันไม่มีหรอกค่ะ เพราะพวกเขาได้ตายไปหมดแล้ว จะเหลือก็แต่ญาติของสามี แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาจะช่วยหรือไม่ คงได้แต่เร่ร่อนไปเรื่อยๆค่ะ "

              " งั้นเอาแบบนี้มั้ยครับ ผมจะเดินทางไปเมืองหลวงอยู่แล้ว ผมจะจัดการปัญหาทั้งหลายให้ เพื่อให้คุณกับอาเนียอยู่ได้อย่างปลอดภัยต่อไปครับ "

             " แต่แบบนั้นมันจะลำบากคุณแพนเกินไปค่ะ แล้วอีกอย่างคุณไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือพวกเรา แม่ลูกขนาดนี้เลย "

            " ที่ผมจะช่วยเพราะอยากช่วยครับ แล้วอีกอย่างผมไม่อยากเห็นใบหน้าแบบนั้นอีกแล้ว "

            'ใบหน้าที่มีแต่น้ำตาของเธอ ทั้งที่เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะคนอื่นแท้ๆ'

             ผมได้บอกคุณสเตล่าไป โดยในช่วงท้ายก็เบาเสียงจนเหมือนแค่พึมพัมออกมา โดยมองใบหน้าของอาเนียไปด้วย ก่อนจะพูดขึ้นมาอีกรอบ

             " ไม่ต้องห่วงครับ อยู่กับผมพวกคุณจะปลอดภัย แล้วอีกอย่างการช่วยคนก็เป็นสิ่งที่ผมชอบครับ "

             เมื่อคุณสเตล่าได้เห็นความตั้งใจของผมในการยืนยัน ปกป้องพวกเธอ ก็ทำเอาพวกเธอปฏิเสธไม่ออกเลย จึงได้พยักหน้าตกลง เมื่อพวกเธอตกลงแล้วผมจึงยิ้มออกมา พร้อมกับจะนัดแนะวันเวลาที่จะเดินทาง

              " งั้น พวกคุณรีบเก็บของเถอะครับ เดี๋ยวอีกสองสามวันผมจะมารับ ส่วนยาพวกนี้คุณสเตล่าเอาไปดื่มประคองอาการก่อนนะครับ ผมคิดว่าอีกไม่เกินอาทิตย์คุณสเตล่าคงไม่จำเป็นต้องใช้แล้วครับ ผมไปก่อนนะครับ "

             " เดี๋ยวก่อน นายจะรีบ..... "

               ผมที่เมื่อได้คำตอบที่ต้องการแล้ว ผมจึงออกไปเตรียมตัวข้างนอกทันทีจนไม่ได้ฟังคำพูดทีอาเนียเรียกเอาไว้ แล้ววิ่งกลับหมู่บ้านทันที 

             
                ตอนนี้ผมกลับมาอยู่ที่โรงแรมแล้ว และเมื่อผมเข้าไปด้านในของโรงแรมที่พัก ก็เจอกับโต๊ะของน้องสาวทั้งสามคนของผมที่กำลังทานอาหารเที่ยงกันอยู่ พอผมเดินเข้ามา ดาร่าก็โบกมือให้ผมรัวๆ ผมจึงหันไปมองแล้วก็เดินไปยังโต๊ะที่พวกเธอนั่งกันอยู่ ก็จะเดินเข้าไปนั่งทันที แล้วสั่งอาหารจากคุณป้าเจ้าของโรงแรม โดยในระหว่างรอผมก็เริ่มอธิบายแผนการณ์ต่อไปให้พวกเธอฟัง

                 " เอาล่ะ ตอนนี้พี่จะบอกจุดมุ่งหมายต่อไปของเราที่เมืองหลวง โดยตลอดเส้นทางไปเมืองหลวงพี่จะยังคงฝึกพวกเราเพิ่มขึ้นอีกหน่อย "

                 " ห๊า จะฝึกเพิ่มอีกเหรอแค่นี้หนูก็ไม่ไหวแล้วนะพี่แพน "

                 " เดี๋ยวก่อนสิ ดาร่าอย่าพึ่งขัดพี่แพนเขาสิ ให้เขาพูดให้จบก่อน "

                " ได้คะพี่ดาเนีย "

                " ที่นี้พี่ต้องการให้พวกเราไปสมัครเป็นนักผจญภัยเพื่อเป็นการเก็บประสบการณ์นะ แล้วเราจะไปช่วยพี่น้องกัน "

                เมื่อผมพูดมาถึงตรงนี้ก็เรียกสีหน้าตกใจให้กับพวกเธอได้แล้ว ก่อนที่การพูดคุยจะหยุดลงสักครู่เมื่ออาหารของผมมาถึง แล้วผมก็เริ่มจัดการอาหารทันที โดยปล่อยให้พวกเธอได้แต่สงสัยในคำพูดของผม แต่ก็ไม่อยากขัดจังหวะการกินของผม จึงรอจนกระทั่งผมกินเสร็จแล้ว พวกเธอจึงกำลังจะเอ่ยปากถามออกมา แต่ผมยกมือขึ้นห้ามไว้ก่อนแล้วส่งสัญญาณให้ไปคุยกันที่ห้อง เพราะตรงนี้คนเยอะเกินไป

               หลังจากที่พวกเราเดินขึ้นมารวมที่ห้องพักของผม แล้วปิดประตูเรียบร้อยแล้วจึงเริ่มเล่าข่าวที่ได้มาจากคุณฟราน ให้พวกสาวๆฟัง เมื่อเล่าทุกอย่างให้ฟังเรียบร้อยแล้ว ผมก็ปล่อยให้พวกเธอได้ใช้ความคิดสักพัก ก่อนที่เฟียจะถามออกมาก่อนเป็นลำดับแรก

               " พี่แพนค่ะ แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวยังไงกับการที่พี่จะฝึกพวกเรามากขึ้นด้วยล่ะคะ "

               " งั้นพี่จะบอกให้ฟัง พี่คิดจะปักหลักที่เมืองหลวงสักพัก และแน่นอนการเป็นขุนนางอาจทำให้พี่เคลื่อนไหวเองไม่สะดวกเหมือนเคย พี่อาจจะส่งพวกเราออกไปแทนพี่ แล้วก็ยังเป็นการช่วยพี่ดูแลคนอื่นๆที่จะเข้ามาด้วย เพราะน้องก็รู้ว่าเรื่องการเมืองอาจมีการแทงกันข้างหลังตลอดเวลา พี่จะได้ไม่ต้องคอยพะวงพวกเรามากนัก เข้าใจหรือยัง "

               " อืม พวกเราเข้าใจแล้วค่ะ แล้วธุระของพี่ที่นี่เสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอค่ะ "

              " อ้อ เรื่องนั้นเหรอ พี่จะอธิบายให้ฟังนะ คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้...... "

              หลังจากนั้นผมก็เล่าเรื่องตั้งแต่งานเทศกาลของหมู่บ้านไปจนถึงเรื่องของอาเนียและคุณสเตล่า แต่จะไม่เล่าเรื่องการจัดการให้โจรชุดคลุมเท่าแหละ แค่บอกว่าไล่มันไปไกลๆเท่านั้น ( ไรท์ : ที่ไม่พิมพ์อธิบายเรื่องในบทพูด ก็เพราะ ความขี้เกลียดล้วนๆ )

              " แล้วพี่ก็เลยตัดสินใจจะช่วยสองคนนั้นเหรอค่ะ "

             " ทำไมล่ะ มีคนเดือดร้อนพี่ก็ต้องช่วยเป็นธรรมดาอยู่แล้ว "

             " พี่ค่ะ ไม่คิดว่า พวกเขาจะหลอกพี่บ้างหรือคะ "

            " ฮ่าๆๆ หลอกพี่ หลอกไปเลย เพราะถ้าไม่จริงอย่าคิดสิว่าพี่จะปล่อยให้รอดไปได้ น้องลืมไปหรือป่าวว่า พี่คนนี้เป็นอย่างไร "

            " ค่ะ พี่คนเก่งผู้รักพี่น้อง แต่เกลียดการหลอกลวงที่สุด "

            " แต่พี่ก็มั่นใจนะ ว่าพวกเธอไม่หลอกพี่หรอก "

            " ทำไมล่ะคะ อะไรทำให้พี่มั่นใจขนาดนั้น "

            " เพราะเวลาคนที่พยายามจนสุดกำลังที่จะมีชีวิตรอดจนร้องไห้ออกมา น้องคิดว่าเขาจะโกหกมั้ยล่ะ "

            หลังจากผมพูดเสร็จผมก็ลุกไปยืนมองด้านนอกที่หน้าต่างพร้อมกับมองไปยังท้องฟ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา ที่กำลังมีเมฆเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆอยู่ น้องสาวของผมก็ได้แต่ดูอาการของผมอย่างเงียบๆ ไม่พูดถามอะไรเพราะต่อให้ไม่เข้าใจความรู้สึกของผม เพราะไม่รู้ถึงสิ่งที่ผมเคยผ่านมา แต่ผมก็ไม่ปล่อยให้ความเงียบอยู่นานนัก ผมก็เอ่ยกับพวกเธอ

            " เอาล่ะ พี่ว่าพวกเธอมีอะไรต้องทำก็ไปทำนะ เพราะอีกสองสามวันเราจะเดินทางไปเมืองลาธีเดียกัน แล้วไปรับคุณสเตล่ากับอาเนียที่บ้านด้วยตอนออกเดินทาง "

           " ค่ะ พี่แพนอย่าลืมพักผ่อนนะค่ะ "

           แล้วจากนั้นพวกเธอก็เดินออกจากห้องของผมไปแล้วไปยังห้องของตัวเอง โดยปล่อยผมที่ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่ พลางคิดว่า

           'พ่อครับ แม่ครับ ทำไมชีวิตของผมมันไม่เหงาแล้วครับ เพราะผมไม่ได้อยู่คนเดียวอีกแล้ว และพ่อดาอัส กับแม่ฟีเลียครับผมจะใช้ชีวิตทำในสิ่งที่ทั้งสองสอนมาไม่ให้เสียเปล่าแน่นอนครับ '

           ใช่ครับหลังจากนี้ ถึงผมจะเจอเรื่องวุ่นวายแค่ไหนแต่มันก็เป็นเพราะผมตัดสินใจจะทำเอง โดยไม่รู้เลยว่าชีวิตต่อจากนี้ของผมจะวุ่นวายอีกมากเลยทีเดียว แต่ผมก็ไม่เคยเสียใจกับมันแน่ ( ไรท์ก็จัดให้อีกเยอะแน่ ฮึ ฮึ )



    ............................................................................................................................................


    เสร็จแล้วครับ สำหรับตอนที่ 36 อ่ะฮ้าา ฟิน เหมือนได้เริ่มอัพเกรดไปอีกขั้น

    ส่วนวันนี้มีสองตอนครับ ฉลองให้แก่วันเกิดของไรท์ 555555

    ส่วนเรื่องอายุเท่าไหร่ ขอไม่บอกแล้วกัน 555 เดี๋ยวว่าไรท์แก่ กันอีก

    เหมือนเดิมครับ มีข้อผิดพลาดอะไร คอมเม้นท์บอกในตอนด้วยครับ 

    ถ้าชอบมากๆๆ ฝากแชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยครับ 

     1 Comment = 1 กำลังใจเช่นเคยยยยยยยยย

    ส่วนอีกตอนคงมาดึกๆหน่อย ไรท์จะพยาบาล เอ๊ย พยายามครับ
             
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×