ลำดับตอนที่ #51
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #51 : ตอนที่ 50 บทสรุปความวุ่นวาย
บทสรุปความวุ่นวาย
" โอ้ พระเจ้าตาย " ( พระเจ้า : บิดาเอ็งสิ )
{{สถิรพงษ์ วิริยะกุล}} (แพนเจีย) (ชาย)
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์ (สัตว์ประหลาด) สายย่อย : เอลฟ์ชั้นสูง
อาชีพ : นักผสานศาสตราเวท อายุ : 19 เลเวล : 750
ตำแหน่ง : รัชทายาทแห่งเอลฟา เจ้าชายแห่งดีลาเอล รัชทายาทแห่งเผ่าพันธุ์
พลังเวท : (ยากต่อการประเมิน) (ผนึก)
พลังโจมตี : (ไม่อยากรู้หรอก) (ผนึก)
พลังป้องกัน : (รับอุกกาบาตได้) (ผนึก)
ความว่องไว : (พอๆกับแสง) (ผนึก)
พลังโจมตีเวท : (เกินกว่าจะวัดได้) (ผนึก)
พลังป้องกันเวท : (เกินกว่าจะวัดได้) (ผนึก)
โชค : (ไม่อยากบอก)
อุปกรณ์สวมใส่ :ชุดคลุมแห่งมายา เสื้อหนังมังกร กางเกงสายลม รองเท้าผ้าใบ กางเกงใน ดาบพงไพรผลาญ ไม้เท้าเปลวดารา
ทักษะ : เข้าใจทุกภาษา กลืนกินสัมบูรณ์ ภูมิคุ้มกันสมบูรณ์ จดจำสมบูรณ์ สัญชาตญาณ อำพราง วางแผน มองเห็นในความมืด ดำรงชีวิตในป่า วางกับดัก
ทำอาหาร คำนวณ วาดภาพ วางผัง มือ เท้า เข่า ศอก พลัง มนุษย์ ฯลฯ
สกิล : ตรวจสอบขั้นสมบูรณ์ ก้าวพริบตา ปรุงยาขั้นสมบูรณ์ ประดิษฐ์ ซ่อมแซม ลบตัวตน ดาบ หอก เคียว ธนู ขวาน มีด อาวุธลับ ฯลฯ
เวทมนตร์ : เวทลมสมบูรณ์ เวทน้ำสมบูรณ์ เวทแสงสมบูรณ์ เวทความมืดสมบูรณ์ เวทไฟสมบูรณ์ เวทดินสมบูรณ์ เวทกาลเวลาสมบูรณ์ เวทมิติสมบูรณ์ เวทมายาสมบูรณ์
เวทเฉพาะตัวสมบูรณ์
สถานะ : ทลายขีดจำกัด ผู้บรรลุศาสตรา ผู้เป็นกลาง ผู้ทำลายล้าง ผู้สังหารมังกร
ผู้ฝึกตน สูงสุดคืนสามัญ โลกา นักวางระเบิด ผู้สังหารเทพ
<เงิน: 82,756,961 P 132,958,479 G 1,396,562 S 100,000 C>
'ขนาดตัวทักษะยังไม่อยากประเมินเลย ขนาดตั้งใจจะเลิกตบมุกกับค่าสถานะตัวเองแล้วนะ แต่ขนาดนี้มัน อ๊ากกกกกกกกก'
ผมที่ได้เห็นค่าสถานะหลังจากสบถคำออกไป ก็ได้แต่มานั่งกรีดร้องโหยหวนในใจคนเดียว ตอนนี้ส่วนบรรดาคนรอบข้างหลังจากที่ได้ยินคำอุทานของผมก็พากันมามอง แต่พอเห็นผมนั่งลงก็หันกลับไปทำหน้านิ่งๆต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอจะทำให้ผมได้มีเวลาอยู่กับตัวเองสักพัก
'ไม่เป็นไรลองดูรายละเอียดของสกิลใหม่ดีกว่า'
<<มือ>>
สูงสุดสู่สามัญ แปรผันตามการใช้ ไร้ซึ่งกระบวนท่า
'เออ ตูอยู่ในบทกำลังภายในหรา'
<<เท้า>>
ท่าเท้าว่องไว พลิกแพลงหลากหลาย
'พอเถอะนะ'
หลังจากนั่งกุมขมับอยู่คนเดียวพร้อมกับตรวจสอบสกิลที่เหลือต่อไปดูเหมือนสกิลที่เกี่ยวกับร่างกายจะอธิบายเป็นกำลังภายในทั้งหมด แต่สิ่งที่ทำให้ผมอยากเป็นไมเกรนเลยก็คือ สองสกิลหลังได้แก่
<<พลัง>>
เพิ่มค่าพลังของเจ้าของไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด (ส่วนจะเพิ่มเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับค่าพลังดั้งเดิมของเจ้าตัว)
'เอาเถอะครับ ผมชินแล้วกับการเจอเรื่องแบบนี้ แต่ทำไมถึงมีน้ำไหลออกมาจากตากันนะ'
<<มนุษย์>>
สกิลที่มอบความสามารถของมนุษย์ที่นิยามด้วยการใช้ภาษา การจัดโครงสร้างสังคมอันซับซ้อนในรูปของกลุ่ม, ชาติ, รัฐ และสถาบัน; และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ซับซ้อน ความแตกต่างทางพฤติกรรมเหล่านี้ของมนุษย์ก่อให้เกิดวัฒนธรรมนับหมื่นนับพันวัฒนธรรม ซึ่งยึดถือความเชื่อ, ตำนาน, พิธีกรรม, คุณค่า และปทัสฐานทางสังคมต่างๆ กันไป รวมไปถึงความตระหนักถึงตนเอง, ความใคร่รู้ และการใคร่ครวญของมนุษย์ ตลอดจนความโดดเด่นกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ ก่อให้เกิดความพยายามที่จะอธิบายธรรมชาติและพัฒนาการของสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ ทั้งในทางวัตถุธรรมและในทางนามธรรม คำอธิบายในทางนามธรรมนั้นจะเน้นมิติทางเจตภาพของชีวิต และอาจรวมถึงความเชื่อในพระเป็นเจ้า, เทพเจ้า หรือสิ่งเหนือธรรมชาติอื่น ๆ ตลอดจนแนวคิดเรื่องวิญญาณ ความพยายามที่จะสะท้อนภาพตัวเองของมนุษย์นั้นเป็นพื้นฐานของความคิดทางด้านปรัชญา และมีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคแรกๆ
'ขอบคุณสำหรับคำนิยามของมนุษย์ที่ดูยิ่งใหญ่ในสกิลของตูครับ ไม่ช่วยให้เข้าใจขึ้นมาได้เลย'
หลังจากตรวจสอบสกิลทั้งหมดเรียบร้อย ซึ่งไปพร้อมกับพลังงานทั้งหมดของที่ถูกดูดไปด้วย ทำตอนนี้เริ่มไม่อยากจะรับรู้สิ่งใดอีกแล้ว ในขณะที่ผมกำลังรู้สึกสูญเสียหลักยึดเหนี่ยวอยู่นั้นเอง ก็มีคนเดินมาเอามือวางไว้บนบ่าของผมก่อนจะพูดออกมา
" เอ็งสุดยอดไปเลยแพน ฝีมือขนาดนี้ไม่จำเป็นต้องทดสอบเลยนิ "
ผมที่หันไปมองลุงอาเธอร์ที่เข้ามาทักด้วยความยินดีในขณะที่ผมอยู่ในสีหน้าซังกะตายอยู่ตอนนี้ ตามมารยาทผมจำเป็นต้องตอบลุงสักหน่อย
" ก็การคัดเลือกต้องผ่านทดสอบไม่ใช่เหรอครับ ผมจึงไปนะ "
" นั่นสินะ ตอนแรกข้าก็ยังไม่รู้ฝีมือเอ็งซะหน่อย " ลุงอาเธอร์ตอบรับกลับมาพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วย แต่พอผ่านไปสักพักลุงอาเธอร์ก็เปลี่ยนสีหน้า ก่อนจะพูดอะไรบ้างอย่างที่เขาพึ่งนึกขึ้นได้ออกมา
" งั้นแสดงว่า ในสนามตอนทดสอบ แกก็ไม่ได้เอาจริงอะไรตอนสู้กับข้าเลยนิ "
ผมมองหน้าลุงแกสักพัก แต่ดูเหมือนคำถามนี้แกต้องการคำตอบรวมถึงคำยืนยันสินะ ผมจึงพยักหน้าช้าๆให้ลุงอาเธอร์เพื่อบอกว่าที่เขาคิดนะถูกต้องแล้ว
'ความจริงคือตอนสู้กับมังกรก็ด้วยเหมือนกัน แต่ถ้าบอกแกคงหัวใจวายยิ่งแก่แล้วด้วย' ( อาเธอร์ : ข้ายังไม่แก่ขนาดนั้นโว๊ย )
หลังจากได้คำตอบลุงอาเธอร์ก็มีสีหน้าอึ้งๆออกมาแต่ก็เหมือนจะทำใจกับความเก่งของผมได้ จึงกลับเป็นเหมือนเดิม จากนั้นผมกับลุงอาเธอร์ก็คุยกันต่ออีกสักพักในระหว่างที่รอทหารเคลียร์พื้นที่หน้าเมือง
ซึ่งเนื้อหาที่คุยก็คงไม่พ้นกองไอเทมของมอนสเตอร์ที่ผมเป็นคนจัดการไป ด้วยความรำคาญกับขี้เกียจจัดของจึงบอกว่ายกทั้งหมดให้แก่เมืองหลวงทั้งหมดเลย พอผมบอกอย่างนี้ลุงอาเธอร์ก็ดูดีใจอยู่ แต่ด้วยความเกรงใจจึงบอกว่าจะเลือกเอาของที่ดีที่สุดมาคืนให้ผม ด้วยความซังกะตายจึงได้แต่พยักหน้าส่งๆไป ก่อนจะขอตัวมุ่งหน้ากลับไปพักผ่อนที่โรงแรมทันที
ทันทีที่ผมมาถึงโรงแรมก็ไม่สนใจอะไรมุ่งขึ้นไปบนห้องของตนโดยไม่ทักทายใครทั้งสิ้นก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงของโรงแรมอย่างหมดแรง แล้วก็หลับไปโดยมีเพียงสิ่งที่อยู่ในหัวก่อนจะหลับไปก็คือ
'เตียงนุ่มๆเนี่ยแหละที่จะฟื้นฟูบาดแผล(?)ได้ดีที่สุด'
.........................................................
ก๊อก ก๊อก
ก๊อกๆๆ
อืม...
ผมที่หลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาเคาะประตูห้องเรียก ผมจึงลืมตาขึ้นก่อนจะเงยหัวขึ้นมาแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างที่ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นดำ แล้วแสดงว่าเข้าช่วงเวลากลางคืนมาได้พอสมควร ผมจึงลุกขึ้นก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องออกมาเพื่อดูตัวต้นของคนที่มาปลุกผมตอนนี้
เมื่อเปิดประตูออกมา คนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็เป็นกลุ่มของสี่สาวเช่นเคยที่พากันส่งยิ้มให้ผมกันอย่างทั่วหน้า จากที่ผมสังเกตุดูแล้วพวกเธอไม่มีบาดแผลจากการไปลุยเท่าไหร่ จึงเริ่มเอ่ยคำถามออกไป
" มีอะไรกันเหรอครับ ถึงมาเคาะห้องของผมตอนนี้ "
" พี่แพนค่ะ พวกเราก็มาตามพี่ลงไปกินข้าวนะสิคะ ตั้งแต่พี่กลับมายังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่เหรอ " เป็นเสียงตอบด้วยความเป็นห่วงจากดาร่า พร้อมกับสีหน้าเป็นห่วงของคนที่เหลือด้วย
" อืม นั่นสินะ งั้นพวกเราลงไปกินข้าวกันเถอะ ไปบอกน้าสเตล่ากับซานเดรียด้วยสิ " ผมที่เห็นสีหน้าเป็นห่วงของทุกคนจึงยิ้มออกมา ก่อนจะถามถึงคนที่เหลือไปด้วย
" คุณแม่กับน้องซานเดรียเข้าลงไปก่อนแล้วค่ะ เหลือแต่แพนที่ยังไม่ลงไป "
" งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ "
จากนั้นพวกเราก็ลงไปกินข้าวเย็นกันที่ด้านล่าง พอลงมาถึงผมก็มองหาโต๊ะที่น้าสเตล่ากับเด็กสาวนั่งอยู่ ซึ่งตั้งอยู่ตรงฝั่งขวาจากเค้าน์เตอร์ ที่ห่างจากบันไดทางเดินของโรงแรมพอสมควร เมื่อพวกผมนั่งลงที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว ก็มีบริกรเดินมารับออเดอร์ที่โต๊ะของผม ผมกับสี่สาวจึงสั่งของกินมาหลายอย่าง เมื่อบริกรรับออร์เดอร์เรียบร้อยจึงผละจากโต๊ะของพวกเราออกไป จึงเริ่มบทสนทนาทันที
" เป็นยังไงวันนี้ได้ของจากการจัดการมอนสเตอร์เยอะมั้ย"
" ก็เยอะนะคะ อย่างของหนูได้ดาบอันใหม่ ของพี่ดาเรียได้คทาเสริมพลังเวท ของพี่เฟียได้มีดสั้นระดับสูง ส่วนของพี่อาเนียเป็นแหวนค่ะ "
" นี่ดาร่า ไม่เห็นต้องแย่งพวกพี่พูดเลย อุตส่าห์จะให้ลุ้นสักหน่อย "
จากนั้นก็เป็นการผลักกันเล่าเรื่องระหว่างเฟียกับดาร่า โดยมีอาเนียกับดาเรียคอยเสริมให้เป็นพักๆ ผมก็นั่งฟังเรื่องที่ทั้งสองเล่าออกมาอย่างมีความสุข เพราะความจริงผมเองก็รู้ว่าพวกเธอเจออะไรมาบ้าง ( จากทักษะของมัน ) แต่การฟังพวกเธอเล่าก็สนุกไปอีกแบบเหมือนกัน
ในขณะที่พวกเรานั่งรออาหารกันอยู่ ก็มีกองทหารอัศวินเดินเข้ามาในโรงแรม ทำเอาทุกคนที่ดื่มกินกันอยู่เงียบเสียงกัน เพื่อดูจุดประสงค์ของการเข้ามาของทหารกลุ่มนี้ เมื่อพวกเขาหันหาคนอยู่สักพัก ก็พากันมาสะดุดสายตาที่โต๊ะของผม ก่อนจะเดินเข้ามาที่โต๊ะของผมทันที
เมื่อกองทหารเดินมาหยุดที่โต๊ะของผม พวกเขาทั้งหมดก็ยกมือขึ้นทำความเคารพผม แล้วคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดก็ยื่นจดหมายที่ถูกปิดผนึกอย่างดี ส่งมาให้ผม ก่อนจะเดินจากไป ทำเอาทุกคนในที่นั้นมองด้วยความสงสัย จึงทำให้หลังจากที่กองทหารจากไปทุกสายตาในร้านจึงมารวมกันที่ผมคนเดียว แต่พอเห็นสีหน้างงๆของผมเช่นกันพวกเขาจึงเลิกสนใจทันที แต่ก็มีบางคนยังคงมาที่โต๊ะของผมอยู่
" มีอะไรหรือค่ะ พี่แพน " ดาเรียถามออกมาด้วยความเป็นกังวล
" แล้วนั่นจดหมายอะไรค่ะ " ตามมาด้วยคำถามจากดาร่าที่มีความอยากรู้อยากเห็นออกมา
" พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ขอดูก่อนนะ "
หลังจากนั้นผมจึงแกะจดหมายออกมาดู หลังจากที่อ่านเนื้อความด้านในแล้วก็ทำเอาพลังงานที่ได้มาจากการนอนถูกสูบออกไปอีกครั้ง ก่อนจะทำเสียงครางพร้อมกับทิ้งหัวลงบนโต๊ะ
" งานเข้าอีกแล้ววววววววววว "
...................................................................................................................
เสร็จแล้วววววววววววววววว ตอนที่ 50
ตอนนี้สั้นไปนิด เพราะอยากเอาเนื้อเรื่องไปบอกตอนหน้า 555
อย่างที่บอกไป ตอนหน้าเราจะได้รู้จักฮาเร็มพระเอกอีกสองคนนนนนนน
เตรียมลุ้นกันได้เลยว่าจะเป็นใคร
เหมือนเดิม มีข้อผิดพลาดตรงไหนโปรดบอกด้วย ครับ
1 Comment = 1 กำลังใจเช่นเคย บายยยยยยยยย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น