ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    OS / SF Story Love

    ลำดับตอนที่ #20 : [OS : VICTON] แอบชอบ :: SEUNGWOO x SEUNGSIK

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.24K
      14
      17 เม.ย. 60






    OS : แอบชอบ

    การที่แอบชอบใครคนหนึ่งมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เรามักจะมีอาการอย่างสัมผัส อยากจับต้องคนพิเศษคนนั้น แต่ถ้าสัมผัสทางกายไม่ได้ การใช้สายตาสัมผัสก็ถือเป็นวิธีอย่างหนึ่งที่คนเรามักใช้กัน


    รวมถึงใครคนนั้นด้วยที่กำลังใช้สายตามองเพื่อนสนิทของตัวเองแบบที่คนนอกถ้าจับสังเกตไม่ได้ จะไม่มีทางรู้เลยว่าอีกคนคิดอะไรอยู่


    แล้วทำไมต้องเป็นเขาด้วยที่ต้องมารับรู้ว่าตัวเองแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้ก้าวกับคนๆ นั้นที่ชอบเพื่อนสนิทของตัวเอง..


    สายตากลมมองนิ่งกับแผ่นหลังหนาด้านหน้าประตูห้องเรียนที่กำลังกดยิ้มลงมุมปาก สายตาคมที่ทอดมองคนตัวเล็กอีกคนตรงหน้าดูเศร้าแต่ก็ถูกกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มหล่อเสียทุกครั้งไป มือเล็กลดกล่องนมที่ถือคาปากไว้โยนลงถังขยะใกล้ตัวก่อนจะขยับก้มหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายบนไหล่


    หงุดหงิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้


    ยืนรอไม่นานคนที่คุยกันอยู่หน้าห้องเรียนก็ผละตัวแยกออกจากกัน คนตัวสูงหันหลังเดินกลับมานั่งที่โต๊ะเรียนด้านหลัง มือก็กวาดของบนโต๊ะลงกระเป๋า แต่ยังไม่ทันได้ลุกยืนเจ้าของร่างบางตัวเล็กที่มาพร้อมรอยยิ้มสดใสแต่เห็นทีไรก็หงุดหงิดทุกทีนั่นกลับเดินมานั่งลงบนโต๊ะเรียนด้านหน้า


    เป็นการดักทางออกที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบจริงๆ


    " สเต็ปการมองยังไม่เปลี่ยนนะ ซึงอู "

    " แล้วทำไมฉันต้องเปลี่ยน " เจ้าของรูปร่างสูงใหญ่เหลือบสายตามามองคนตัวเล็กด้านหน้าที่กำลังเอี้ยวใบหน้ามาส่งยิ้มให้พร้อมกับเอนตัวโน้มไปทางด้านหลังพลางยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหู

    " ฉันก็แค่หงุดหงิดเวลาเห็นนายทำสายตาเศร้าน่ะ "

    " ขอบใจที่หงุดหงิดแทนฉัน แต่วันหลังไม่ต้อง " เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยบอกพร้อมขยับตัวถอยห่าง มุมปากนิ่มกดยิ้มแผ่วเบาแล้วขยับตัวกลับไปนั่งหลังตรงตามเดิม

    " เย็นชาเป็นบ้าเลย "

    " แค่กับนาย ซึงซิก "

    " รู้สึกพิเศษจริงๆ " รอยยิ้มถูกยกขึ้นประดับบนหน้าแต่ภายในใจกลับปวดหนึบขึ้นมาทันทีที่อีกคนตอบกลับ ถึงจะโดนพูดจาเย็นชาใส่แบบนี้มาหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังทำใจให้ชินไม่ได้สักที

    " แล้วแต่นายจะคิด ฉันไปล่ะ " ซึงอูปรายสายตาคมมองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโต๊ะเรียนของตัวเองอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป เสียงหัวเราะดังขึ้นแผ่วเบาพร้อมกับใบหน้าหวานที่เชิดขึ้น


    ไม่ต้องมีใครมาบอกก็อยากจะสมน้ำหน้าตัวเองวันละร้อยรอบ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพาตัวเองไปเข้าใกล้ให้อีกคนหงุดหงิดใส่ทุกครั้ง เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะได้เข้าใกล้ฮันซึงอู


    " เป็นพวกชอบความเจ็บปวดรึไง "

    " ไม่ใช่ซักหน่อย "

    " ก็รู้ว่าถ้าทำแบบนั้นซึงอูมันจะตอบกลับแบบไหนก็ยังทำ แบบนี้ไม่ใช่พวกชอบความเจ็บปวดแล้วจะให้ฉันเรียกว่าอะไร "

    " บ่นอีกแล้วเซจุน กลับหอกันเถอะ " ซึงซิกว่าขึ้นแล้วโดดลงจากโต๊ะเรียน เดินตรงไปกอดคอเพื่อนสนิทที่กำลังบุ้ยปากมาให้


    ทำไมซึงซิกจะไม่รู้ว่าเซจุนห่วงเค้าขนาดไหน แต่จะให้ทำยังไงได้ ในเมื่อเค้ามันเป็นคนแบบนี้ อะไรที่ทำแล้วสามารถเข้าใกล้คนที่ชอบได้ ต่อให้ต้องถูกเกลียดก็ดีกว่าเค้ามองไม่เห็นเราในสายตาเลยก็แล้วกัน














    เสียงไขกุญแจด้านหน้าประตูห้องดังขึ้นแผ่วเบา มือเล็กยกขึ้นโบกไปมาให้เพื่อนสนิทที่อยู่เลยขึ้นไปอีกสองชั้นของหอที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้รวมถึงจัดการเรื่องเพื่อนร่วมห้องให้ด้วย ซึงซิกก้มมองรองเท้าผ้าใบสีขาวที่วางไว้ข้างประตูจัดการเตะให้เข้าไปอยู่มุมด้านในแล้วถอดของตัวเองวางคู่กัน


    ใบหน้าหวานกวาดสายตามองไปรอบห้องนั่งเล่นที่มีแค่หน้าจอโทรทัศน์กำลังฉายรายการเพลงเปิดทิ้งค้างเอาไว้ ก่อนจะปรายสายตาไปมองประตูห้องนอนอีกห้องที่เปิดค้างเอาไว้เช่นกัน เสียงถอนหายใจดังขึ้นแผ่วเบาแล้วถึงเดินไปปลดล็อคห้องนอนของตัวเอง จัดการปิดประตูให้เงียบที่สุด


    ถ้าเซจุนรู้ว่ารูมเมทคนใหม่ของซึงซิกเป็นใคร เค้ามั่นใจได้เลยว่าไม่เกินครึ่งชั่วโมงเพื่อนบ้านั่นต้องขนเสื้อผ้าหอบมานอนกับเค้าที่นี่แน่ๆ


    เหตุเพราะไม่ได้กลัวรูมเมทคนใหม่จะปล้ำเพื่อนหรืออะไร แต่กลัวว่าจะโดนฆ่าตายซะก่อนในเมื่อรูมเมทคนใหม่ของซึงซิกคือคนที่ชอบฟาดปากใส่กันด้วยคำพูดร้ายๆ ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน


    " กลับมาแล้วทำไมไม่บอก ซึงซิก "

    " เพิ่งรู้ว่ามีกฏที่ต้องบอกเพื่อนร่วมห้องด้วยว่าตัวเองกลับมาตอนไหน " เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมองคนที่ถือโอกาสเปิดประตูห้องคนอื่นเข้ามาแบบไม่ขออนุญาต


    ซึงอูกดสายตามองคนตัวเล็กที่กำลังวางกระเป๋านักเรียนลงบนโต๊ะเขียนหนังสือ ท่อนแขนเล็กยกขึ้นกอดอกแล้วเอนตัวพิงกับขอบโต๊ะเอาไว้ สายตากลมมองจ้องมานิ่งจนอีกคนเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน


    " นายยั่วโมโหฉันตั้งแต่ที่โรงเรียนแล้วนะ "

    " ฉันทำแบบนั้นเหรอ จำไม่เห็นได้ " ซึงซิกกดยิ้มลงมุมปาก ขยับตัวเดินไปหยุดยืนด้านข้างพร้อมกับปรายสายตามองคนตัวสูง

    " ฉันไม่ใช่ซูบินนี่ที่จะทำอะไรก็ถูกใจนายไปซะหมดน่ะ ฮันซึงอู "

    " คังซึงซิก!! "


    ท่อนแขนเล็กถูกกระชากแรงเข้ามาใกล้ ใบหน้าหวานถลึงตาขึ้นมองพร้อมกับพยายามดึงแขนของตัวเองออกจากการคุกคามของคนตรงหน้า แต่ยิ่งออกแรงดึงมากเท่าไหร่คนตัวสูงก็ยิ่งบีบแขนเอาไว้แน่น ใบหน้าคมโน้มเข้าหาจ้องนิ่งกับสายตาของซึงซิกที่มองตอบแบบไม่มีใครยอมใคร


    " อย่าเอาชื่อซูบินมาพูดเล่น "

    " ฉันแค่พูดความจริง หรือว่านายจะบอกว่าฉันพูดไม่จริงล่ะ "

    " ฉันขอเตือนนายว่าอย่ายุ่งกับซูบิน "

    " จะรับฟังแล้วกัน " รอยยิ้มหยันถูกส่งไปให้ ซึงอูจ้องสายตานิ่งกับคนตัวเล็กก่อนจะผลักอีกคนให้ถอยหลังชนกับโต๊ะเขียนหนังสือจนเกือบจะล้มลงกับพื้นแต่มือหนาก็ฉวยข้อแขนดึงขึ้นมาแล้วจัดการเบียดตัวเองเข้ากลางหว่างขาเล็ก โน้มตัวเข้าหาจนแผ่นหลังบางแทบจะลงนอนไปกับโต๊ะ

    " ฉันรู้ว่านายชอบฉันซึงซิก และถ้าอยากให้ฉันชอบตอบก็ช่วยทำตัวดีๆ น่ารักเหมือนซูบินหน่อย เผื่อฉันจะเมตตาแล้วรับนายไว้พิจารณา "

    " ใครบอกนายว่าฉันชอบนาย อย่าสำคัญตัวผิด " ริมฝีปากอิ่มขบเม้มเข้าหากัน ใบหน้าหวานถลึงตาขึ้นมองคนพูดที่ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้น แล้วไหนจะสายตาจ้องจับผิดกับรอยกดยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ที่มองมาจนตัวเองต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาออกไปแทน

    " ปากแข็งดีนะ น่าสนใจดีนี่ " มือหนาจับปลายคางมนให้หันกลับมา สายตาคมกวาดมองทั่วโครงหน้าสวยที่กำลังตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด


    เหมือนลูกแมวตัวน้อยที่กำลังหวาดกลัวแต่ก็ยังพร้อมสู้ เป็นคนที่น่าสนใจมากจริงๆ คังซึงซิก


    " ออกไปห่างๆ " เสียงหวานเอ่ยบอกนิ่ง มือเล็กกำเข้าหากันแน่น แต่คนตรงหน้ายังไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวออกห่างไปไหน ซ้ำยังเพิ่มแรงโน้มตัวเข้ามามากขึ้นจนข้อศอกแตะลงกับพื้นโต๊ะ

    " ทำไมล่ะ ทั้งๆ ที่นายก็อยากให้ฉันสัมผัสนายไม่ใช่เหรอ " สายตาคมมองไล่ตั้งแต่โครงหน้าสวยที่กำลังขบเม้มริมฝีปากอิ่มเข้าหากันแน่น ดวงตากลมที่กำลังสั่นไหวแต่ก็ยังจ้องสายตากลับมา ยิ่งดูก็ยิ่งน่าหลงใหล..

    " ฉันบอกให้ออกไปห่างๆ ไงฮันซึงอู!!! " ซึงซิกรวบแรงเฮือกสุดท้ายผลักอกคนตัวสูงจนกระเด็นออกไปไกล พร้อมกับโดดลงมายืนกับพื้นห้อง มือเล็กกำเข้าหากันแน่นยกขึ้นเตรียมฟาดหมัดเข้าใส่หน้าคนที่ยืนยิ้มเยาะส่งมาให้แต่ก็โดนซึงอูรวบแขนเอาไว้แล้วกระชากเข้าไปกอดเอาไว้ทั้งตัว


    ใบหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้แต่ซึงซิกรีบยกมือขึ้นดันหน้าเอาไว้พร้อมกับต่อยเข้าที่ไหล่แรงหลายครั้งจนคนที่กอดเอวตัวเองไว้ยอมปล่อยออก เจ้าตัวถึงรีบขยับตัวหนีวิ่งไปเปิดประตูห้องนอน กระชากออกแรงจนแทบจะหลุดติดมือออกไปด้วย


    เสียงหอบหายใจดังขึ้นถี่แล้วไหนจะสายตาที่มองมาด้วยความไม่เป็นมิตรนั่นอีก ยิ่งดูก็ยิ่งน่าสนใจ


    " น่าสนใจกว่าที่คิด " ซึงอูพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนของเพื่อนร่วมห้องออกไปด้านนอก ซึงซิกรีบเหวี่ยงบานประตูปิดแรงแล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้นห้องนอนของตัวเองทันที














    เสียงออดหมดคาบเรียนในภาคเช้าดังขึ้น ซึงซิกก้มเก็บหนังสือลงใต้โต๊ะกระชับเสื้อสเวตเตอร์ของตัวเองให้เข้าที่แล้วนั่งรอเซจุนที่กำลังโกยของลงใต้โต๊ะไม่ต่างกัน สายตากลมหันมองตามแผ่นหลังหนาที่เดินไปหยุดยืนหน้าห้องก่อนจะเดินตามคนตัวเล็กออกไป


    " วันนี้ดูแปลกกว่าทุกวันนะซึงซิก "

    " ยังไง ? "

    " ปกตินายจะมองซึงอูด้วยสายตาเศร้าๆ แต่วันนี้นายมองหมอนั่นด้วยสายตาหวาดๆ ไปโดนนายนั่นทำอะไรมารึเปล่า บอกได้นะเดี๋ยวฉันให้บยองชานไปจัดการให้ " เสียงหัวเราะดังขึ้นแผ่วเบาก่อนจะตามด้วยก้อนกลมของมือเล็กที่เขกลงบนหัวของเพื่อนสนิททันที

    " บ้าแล้ว ฉันก็เป็นฉันแบบเดิมนี่แหล่ะ ไปกินข้าวกันเถอะป่านนี้แฟนนายรอนานแล้ว "

    " ให้หมอนั่นรอบ้างเถอะ ฉันรอบ่อยแล้ว "

    " งอนกันมาอีกแล้วสิ "


    เซจุนบุ้ยปากส่งกลับไปให้เป็นสัญญาณว่าที่ซึงซิกเดานั้นไม่ผิด รอยยิ้มน่ารักถูกยกขึ้นประดับบนใบหน้าหวานจนคนทั่วไปที่แอบชำเลืองสายตามองต้องเผลอมองค้าง ถ้าบอกว่าฮันซึงอูคือผู้ชายที่คนทั้งโรงเรียนอยากเดตด้วย คังซึงซิกก็เป็นอีกคนที่คนทั้งโรงเรียนอยากจะเป็นเจ้าของรอยยิ้มสดใสนั่นเหมือนกัน


    " มองอะไรน่ะซึงอู " คนถูกถามรีบหันหน้ากลับมาหาคนตัวเล็กตรงหน้าทันที ซูบินเอียงคอมองตามสายตาเพื่อสนิทตัวสูงที่มองจ้องไปทางหน้าประตูทางเข้าโรงอาหารที่กำลังมีคนเดินเข้าออกกันอย่างพลุกพล่าน

    " เปล่าหรอก นายจะกินอะไรซูบิน ชานด้วย "

    " ไม่รู้อ่ะ ขอเดินดูก่อน ไปกันเถอะซูบิน " ซูบินพยักหน้ากลับไปให้แฟนหนุ่มของตัวเองก่อนจะหันมามองซึงอูที่กำลังมองมาอยู่เช่นกัน แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดอะไรคนตัวสูงก็ชิงพูดขึ้นซะก่อน

    " เดี๋ยวฉันเฝ้าโต๊ะเอง "

    " เดี๋ยวพวกเรารีบมา " ชานยกมือขึ้นตบไหล่เพื่อนตัวสูงอีกครั้งก่อนจะเดินจับมือซูบินออกไป


    ใบหน้าคมมองตามคนตัวเล็กทั้งสองคนที่กำลังจับมือพากันเดินห่างออกไปจากโต๊ะแล้วก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้


    ซึงอู ซูบิน ชาน เป็นเพื่อนสนิท 3 คนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่อนุบาล พอขึ้นมัธยมก็ตัดสินใจมาเรียนที่โรงเรียนนี้ด้วยกันโดยที่ซึงอูรู้มาตลอดว่าชานน่ะชอบซูบินมาตั้งนานแล้ว แต่แค่อีกฝ่ายไม่รู้ว่าตัวเค้าเองก็ชอบซูบินเหมือนกัน


    พอต้องมาอยู่หอยังไม่ทันที่ซึงอูจะได้บอกขออยู่ห้องเดียวกับซูบิน ชานก็เป็นฝ่ายเอ่ยขอก่อนแล้วทำไมตอนนั้นตัวเองถึงยอมให้ก็ไม่รู้เหมือนกัน และพอรูมเมทรุ่นพี่เรียนจบออกไปซึงอูก็ต้องอยู่คนเดียวมาร่วมเดือน จนคนคุมหอมาบอกให้เค้าย้ายไปอยู่อีกห้องที่มีคนอาศัยอยู่คนเดียวเหมือนกัน


    แต่ก็ไม่คิดว่าเพื่อนร่วมห้องคนใหม่ของซึงอูจะเป็นคนใกล้ตัวขนาดที่ว่าเรียนห้องเดียวกันแถมยังเป็นคนเดียวที่ชอบมาพูดจายั่วโมโหทำเหมือนตัวเองรู้ดีว่าความลับที่มันควรจะเป็นความลับของเค้านั้น มันจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป


    แต่ก็ยังมีความลับอีกอย่างที่เพื่อนร่วมห้องอย่างคังซึงซิกไม่เคยรู้เลยว่าจริงๆแล้วฮันซึงอูคิดอะไรอยู่กันแน่ ไม่เคยรู้อะไรเลยด้วยซ้ำว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน สายตาของเค้ามองไปที่ใคร..


    " คิดอะไรอยู่ซึงอู ฉันเรียกนายตั้งนานแล้วนะ "

    " อ่า.. ขอโทษทีว่ะชาน แล้วซูบินไปไหนล่ะ "

    " ไปซื้อขนม นายไปซื้อข้าวได้แล้วไป เดี๋ยวฉันเฝ้าโต๊ะเอง " ซึงอูพยักหน้ากลับไปให้แล้วลุกขึ้นยืนเดินไปสำรวจร้านอาหารใกล้ๆ แล้วจบลงที่ร้านอาหารแบบตักราดแทน

    " อ๊ะ! ขอโทษค่ะพี่ซึงอู "

    " ไม่เป็นไรครับ " เสียงทุ้มเอ่ยบอก มือหนายกสะบัดคราบน้ำแดงที่หกเลอะต้นแขนตัวเองจนเสื้อสีแขนกลายเป็นสีแดงวงกว้าง

    " เดี๋ยวนาอึนพาไปล้างนะคะ " มือขาวถือโอกาสยกขึ้นจับมือแกร่งออกแรงลากคนตัวสูงออกไปด้านนอกโรงอาหารท่ามกลางสายตาคนมองนับสิบ


    ซึงซิกมองตามทั้งสองคนเดินหายออกไปจนพ้นบานประตูโรงอาหารแล้วถึงหันกลับมาจ้องจานข้าวในมือตัวเอง มือเล็กเผลอกำด้ามช้อนแน่นจนคนที่นั่งข้างกันต้องยกมือขึ้นบีบไหล่บางเอาไว้


    " ใจเย็นๆ "

    " ก็เย็นอยู่นะ แค่ไม่คิดว่านาอึนจะรุกไวขนาดนี้ เพิ่งได้ข่าวเมื่อวานเองว่าจะจีบซึงอู "

    " ของแบบนี้มันต้องไว " บยองชานพูดขึ้น คิ้วหนายกขึ้นพร้อมส่งยิ้มไปให้

    " เดี๋ยวฉันมานะ " ซึงซิกเอ่ยบอกแล้วลุกขึ้นยืนหยิบจานข้าวไปเก็บตรงชั้นวาง สองมือเล็กเดินล้วงกระเป๋ากางเกงไปจนถึงห้องน้ำด้านข้างที่มีคนสองคนกำลังต่อบทสนทนากันอยู่

    " ขอโทษจริงๆ ค่ะพี่ซึงอู ถ้ายังไงเดี๋ยวนาอึนเอากลับไปซักให้นะคะ "

    " ไม่เป็นไรครับ "

    " แต่ว่า... "

    " ขอทางหน่อยสิ จะล้างมือ " เสียงคนมาใหม่พูดแทรกขึ้น ทำเอาสองคนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ต้องเงียบเสียงลงแล้วหันมองคนมาใหม่แทน


    ซึงซิกปรายสายตามองซึงอูอีกครั้งก่อนจะเดินแทรกกลางเข้าไปหาทำให้หญิงสาวต้องรีบปล่อยมือออกจากแขนเสื้อคนพี่แล้วขยับถอยห่างออกไป นาอึนหันมองซึงซิกที่ส่งยิ้มเยาะมาให้ก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งเหมือนเดิมยามที่มองสบตากับคนตัวสูงด้านข้าง


    " พี่ซึงอูคะ ถอดเสื้อออกดีกว่าค่ะเดี๋ยวฉันเอาไปซักให้ ปล่อยไว้นานมันจะซักยาก "

    " ไม่เป็นไรครับ พี่มีคนซักให้อยู่แล้ว "

    " หืมม แม่บ้านเหรอคะ ? " คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ซึงอูอมยิ้มออกมาแล้วเหลือบสายตามองคนตัวเล็กที่ชะงักไปทันทีที่อีกคนพูดจบ แผ่นหลังบางยืนนิ่งพร้อมๆ กับมือที่ตอนแรกถูไปมาอย่างแรงก็นิ่งไปด้วยเช่นกัน

    " ไม่เชิงครับ แค่ทำทุกอย่างเก่งมากก็แค่นั้น "


    ซึงซิกหันเสี้ยวหน้ามองคนพูดอีกครั้งก่อนจะกำมือตัวเองแน่น แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยพูดอะไรออกมาคนตัวสูงตรงหน้าก็ขยับตัวมาหยุดยืนด้านข้าง มือหนายกขึ้นจับท่อนแขนเล็กเอาไว้ทันทีที่อีกคนทำท่าจะเดินหนี


    " พี่ซึงซิก ? " นาอึนขมวดคิ้วมองทั้งสองคนสลับไปมา

    " ขอตัวก่อนนะครับ " ซึงอูไม่ตอบอะไรกลับไปแต่เลือกที่จะดึงข้อมือของซึงซิกให้เดินตามออกมาแทน


    คนตัวเล็กพยายามขืนมือของตัวเองออกจากการลากของคนตรงหน้า ใบหน้าหวานหันมองซ้ายขวาที่ตลอดทางมีแต่คนหยุดยืนมองอาการยื้อยุดฉุดกระชากกันของทั้งสองคนตลอดทางไปจนถึงหอพักนักเรียน จนมาถึงห้องซึงอูถึงได้ห้องผลักอีกคนเข้ามาด้านในแล้วปิดประตูห้องซ้ำ


    " อะไรของนายเนี่ย! "

    " ซักเสื้อให้หน่อย " ซึงซิกขมวดคิ้วมองอีกคนทันที

    " แล้วทำไมฉันต้องทำ "

    " เพราะฉันจะให้นายทำ " ซึงอูขยับตัวเดินเข้าใกล้ แต่อีกคนกลับขยับขาถอยหลังหนีเช่นกัน

    " ฉันไม่ทำ ถอยไป ฉันจะกลับไปเรียนแล้ว "

    " ฉันอุตส่าห์ให้สิทธิพิเศษนี้กับนายเลยนะ ไม่สนเหรอ คนที่ชอบฉันหลายคนยังไม่ได้รับโอกาสนี้เลยนะซึงซิก  " มือเล็กกำเข้าหากันแน่นแล้วตวัดสายตามองอีกคนนิ่ง

    " ฉันไม่ต้องการ แล้วก็เลิกหลงตัวเองบอกว่าฉันชอบนายได้แล้ว "

    " ถ้านายไม่ได้ชอบฉันแล้วจะแอบมองฉันทำไมทุกวัน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้สิซึงซิก ว่านายคิดอะไรอยู่ "


    เหมือนถูกต้อนให้จนมุมทุกคำพูด..


    ซึงซิกยืนนิ่งอยู่กับที่มือเล็กกำเข้าหากันแน่น ยิ่งได้สบตามองคนตรงหน้าที่ส่งสายตาเหนือกว่ามาให้ก็ยิ่งอยากจะประเคนหมัดไปให้แทน ริมฝีปากอิ่มขบเม้มเข้าหากันแน่นจนแทบจะเป็นเส้นตรงต่างกับอีกคนที่ยังส่งยิ้มกวนประสาทมาให้ไม่หยุด


    ถ้าคิดว่าตัวเองเหนือกว่าเพราะว่าเค้าชอบ ขอบอกว่าคิดผิด! ในเมื่อตั้งแต่ต้นซึงซิกเป็นคนคุมเกมส์นี้มันก็จะต้องเป็นแบบเดิม จะไม่มีทางให้ซึงอูเป็นคนคุมเกมส์นี้เด็ดขาด


    " ถ้าว่างขนาดนั้นก็เอาเวลาไปแย่งซูบินมาจากชานเถอะซึงอู หรือว่านายไม่มีปัญญาแย่งมาถึงได้ขยันมายุ่งกับฉันขนาดนี้ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าถ้าจะใช้ฉันเพื่อให้ซูบินหึงนายล่ะก.. "

    " ซึงซิก! "

    " โอ๊ย!! มันเจ็บนะ!!!! " คนตัวเล็กตวาดขึ้นเสียงดัง มือบางพยายามดึงแขนตัวเองออกจากแรงบีบของคนตรงหน้า ซึงอูยิ่งเพิ่มแรงบีบที่ต้นแขนเล็กมากขึ้นจนใบหน้าหวานเริ่มบูดเบี้ยวเพราะความเจ็บที่แล่นขึ้นจนร้าวไปทั้งแขน

    " ฉันเคยบอกนายแล้วนะว่าอย่าเอาซูบินมาล้อเล่น "

    " ปล่อย! ฮึกก.. ปล่อยฉัน มันเจ็บนะ!! "

    " แล้วทำไมพูดไปถึงไม่เคยฟัง นายอยากให้ฉันชอบนายไม่ใช่เหรอแล้วทำไมเรื่องแค่นี้นายทำให้ฉันไม่ได้ห๊ะซึงซิก! หัดจำใส่สมองของนายไว้บ้างว่านายกับซูบินมันไม่เหมือนกัน อย่าลากซูบินมาเกี่ยวอีก!! " ซึงซิกสะดุ้งสุดตัวขึ้นมาทันทีที่โดนอีกคนตะคอกใส่ คนตัวเล็กแทบทรุดลงนั่งกับพื้นทั้งที่แขนยังโดนอีกคนบีบเอาไว้แน่นคล้ายช่วยรั้งร่างเอาไว้ไม่ให้ทรุดลงไป


    มือเล็กกำเข้าหากันแน่นจนร่างทั้งร่างสั่นไปหมด แค่คังซึงซิกชอบฮันซึงอู มันถึงกับทำให้เค้าต้องเจอกับอะไรแบบนี้ใช่ไหม ถ้าเป็นแบบนั้นเค้าก็จะไม่ขอชอบอีก จะขออยู่ให้ไกลจากคนใจร้ายแบบนี้!!


    " ปล่อยย!! ฉันจะไม่ชอบนายแล้ว!! ฮึก.. กก ฉันจะเกลียดนายฮันซึงอู!!! " ซึงซิกตะโกนลั่นห้อง มือเล็กพยายามยื้อตัวเองให้ออกห่าง ทั้งกระชากทั้งเตะขาคนตรงหน้าไปหลายครั้งจนอีกคนที่ละแขนออกข้างพอดีที่คนตัวเล็กจะรีบฉวยโอกาสกระชากแขนอีกข้างของตัวเองออกแล้วฟาดมือเข้าใส่หน้าอีกคนจนหันค้าง





    เพี๊ยะ!!!! 



                ซึงซิกยืนหอบนิ่งอยู่กับที่ทันที ใบหน้าหวานหันมองคนตรงหน้าด้วยสายตาตื่น ซึงอูยืนนิ่งไม่ยอมพูดอะไรออกมา เอาแต่ยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองข้างที่โดนตบจนรอยริ้วแดงขึ้นเป็นปื้นเห็นชัด


    " ซึง.. ซึงอู ฉัน.. "

    " ฉันจะไม่กลับห้องซักพัก " คนตัวสูงพูดจบก็หันหลังเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป รอไม่นานคนตัวสูงก็ออกมาใหม่พร้อมกระเป๋าเป้ ไม่มีการมองหน้าคู่กรณีอีกครั้งแต่อีกคนกลับเดินออกจากห้องไปทันทีปล่อยให้อีกคนค่อยทรุดลงนั่งกับพื้นห้อง

    " ทำลงไปจนได้.. " ซึงซึกพูดขึ้นเสียงเบา สายตากลมกดจ้องมือตัวเองแล้วกำเข้าหากันแน่น มือเล็กอีกข้างจัดการล้วงเข้ากระเป๋ากางเกงควักเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเซจุนบอกให้อีกคนเอากระเป๋ากลับมาให้ที่ห้องแล้วถึงวางสายไป


    เสียงออดหน้าห้องดังขึ้นช่วยปลุกคนนอนหลับอยู่กลางห้องให้ต้องลืมตาตื่น มือเล็กช่วยยันลำตัวให้ลุกยืนแม้จะปวดร้าวไปทั้งแขนแต่ก็ยังสามารถเปิดประตูห้องนอนตัวเองออกได้ เซจุนกับบยองชานหันมองหน้ากันเองก่อนจะดันไหล่เพื่อนให้เดินเข้าไปด้านในห้องแล้วพาตัวเองเดินเข้ามาตาม


    ถึงสภาพห้องจะไม่ได้ดูเละเทะอะไร แต่ดูจากสภาพคนอาศัยแล้วไม่น่าจะมีเรื่องดีเหมือนกัน


    " เกิดอะไรขึ้นซึงซิก นายหายไปตั้งแต่ตอนบ่ายแล้วทำไมมาอยู่ในสภาพนี้ได้เนี่ย " เซจุนถามขึ้น มือขาวยื่นมาจับไหล่เพื่อนแต่อีกคนกลับร้องออกมาแล้วรีบเบี่ยงตัวเองหลบไปอีกทาง

    " เป็นอะไร! "

    " เปล่า "

    " ซึงซิก เราเป็นเพื่อนกันนะ มาใกล้ๆ ให้ฉันดูเดี๋ยวนี้เลย " ซึงซิกนั่งนิ่งบนโซฟาตัวยาวพลางหันมองใบหน้าเพื่อนที่แทบจะกลายร่างพ่นไฟใส่อยู่แล้วถ้าขืนเค้ายังดื้อไม่ขยับตัวไปหา


    เสื้อสเวตเตอร์ถูกถอดออกวางด้านข้าง ก่อนที่เซจุนจะเริ่มปลดกระดุมเสื้อนักเรียนเพื่อนออกมองไล่สายตาตามรอยจ้ำแดงที่แขนทั้งสองข้าง คนตัวเล็กนั่งก้มหน้านิ่งไม่ยอมพูดอะไรจนเซจุนจับเสื้อถกขึ้นให้เหมือนเดิม


    " ใครทำ "

    " นายอย่ารู้เลย "

    " ถ้างั้นเปลี่ยนคำถาม ใครเป็นรูมเมทนายซึงซิกบอกฉันมาเดี๋ยวนี้ "

    " นายอย่า... "

    " ฮันซึงอูใช่ไหมซึงซิกนายอย่ามาปิดฉัน อย่าคิดว่าที่ฉันไม่ถามไม่ได้แปลว่าฉันไม่รู้ ฉันคิดว่าการที่นายได้อยู่ใกล้ซึงอูมันจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ไปในทางที่ดีได้แล้วนี่มันอะไร ? นายปล่อยให้เค้าทำร้ายนายแบบนี้เหรอซึงซิก!! " เซจุนตะคอกใส่อีกคนเสียงดังจนบยองชานที่นั่งอยู่ด้วยต้องรีบดึงแฟนตัวเองให้นั่งลงจัดการลูบหลังปลอบให้อีกคนใจเย็นลงมากกว่านี้

    " มันเป็นอุบัติเหตุเซจุน ใจเย็นๆ "

    " ฉันใจเย็นอยู่แล้ว นายอธิบายมาเลย " เซจุนตวัดสายตาขึ้นมองเพื่อนอีกครั้ง ซึงซิกเหลือบสายตาขึ้นมองตอบแล้วถอนหายใจออกมา

    " ฉัน.... เผลอตบหน้าซึงอูไป " เซจุนยกมือขึ้นปิดปากตัวเองทันที ใบหน้าหวานของเพื่อนหันมองแล้วส่งยิ้มอ่อนไปให้ก่อนจะหันไปนั่งก้มหน้ามองมือตัวเองอีกครั้ง

    " การที่ฉันชอบเค้ามันทำให้ฉันเจ็บปวด ตอนที่เค้าอยู่กับซูบินมันดีมาก ดีมากจนหัวใจฉันเต้นแรงทุกครั้ง ทั้งสายตาทั้งการกระทำมันดูอ่อนโยนไปหมดทุกอย่างแต่ทำไมเวลาที่เค้ากลับมาที่ห้อง มาเจอฉัน เค้ามักจะแสดงด้านร้ายๆ ออกมาเสมอ "

    " ส่วนหนึ่งมันเป็นเพราะนายชอบไปยั่วโมโหเค้าไม่ใช่เหรอซึงซิก "

    " ฉันรู้ข้อนั้นว่าฉันผิด แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะยั่วโมโหซึงอู แต่พอเห็นหน้าเค้าทีไรมันมักจะมีภาพของทั้งสองคนขึ้นซ้อนทับจนปวดใจไปหมด ฉันพยายามจะพูดดีๆ ด้วยแล้วแต่มันทำได้ไม่ดีพอ ยิ่งซึงอูมองฉันด้วยสายตาไม่เป็นมิตรมากเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งอยากทำให้เค้าให้เจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น.. " ซึงซิกบีบมือเข้าหากันแน่น เซจุนรีบขยับตัวมากุมมือบางของเพื่อนเอาไว้ มืออีกข้างก็วางลงลูบหลังปลอบอีกคนไปพร้อมกัน

    " ............ แต่ครั้งนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจจะตบหน้าเค้า.. ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะเซจุน "

    " ฉันรู้แล้วซึงซิก ฉันรู้แล้ว " เซจุนว่าแล้วดึงเพื่อนหน้าหวานเข้ามากอดแน่น มือเล็กลูบผมนิ่มไปมาช้าๆ ปล่อยให้อีกคนซุกหน้าเข้ากับไหล่แล้วกอดเอาไว้แน่นไม่ต่างกัน


    เกือบครึ่งชั่วโมงที่ซึงซิกกอดเซจุนเอาไว้แน่น ไม่มีเสียงสะอื้นออกมาให้ได้ยินมีแต่แรงสั่นจากลำตัวบางเท่านั้นที่สัมผัสได้ว่าอีกคนกำลังพยายามอดกลั้นความรู้สึกผิดนี้แค่ไหน เซจุนจับแขนเพื่อนให้ขยับตัวออก มือเล็กยกขึ้นจับแก้มทั้งสองข้างของซึงซิกเอาไว้


    " ฟัง และคิดตามนะ "

    " ชอบฮันซึงอูไหม "

    " ม.. "

    " บอกให้คิดแล้วค่อยตอบไง " ซึงซิกเม้มริมฝีปากเข้าหากันทันที ใบหน้าหวานค่อยลดลงแล้วพยักหน้าตอบกลับไป

    " ไม่ชอบใช่ไหมที่เห็นเค้าอยู่กับคนอื่นแล้วดูมีความสุข ต่างกับตัวเองที่อยู่ด้วยกันก็มีแต่เรื่องให้ต้องทะเลาะกัน " ซึงซิกพยักหน้าขึ้นลงอีกครั้ง

    " ซึงอูก็เหมือนกัน หมอนั่นก็ไม่ชอบที่ต้องทะเลาะกับนายทุกวัน " ซึงซิกเงยหน้าขึ้นขมวดคิ้วมองเพื่อนตัวเองทันที

    " ฉันมีบางอย่างอยากจะบอกนายนะซึงซิก แต่จะทำยังไงต่อไป นายต้องเป็นคนตัดสินใจเอง "

    " ฮันซึงอูชอบนายนะ หมอนั่นไม่เคยบอกแต่นายก็ไม่เคยรู้เหมือนกัน ฉันเชื่อในเซ้นของตัวเองแล้วถึงไปถามกับนายนั่นแบบตรงๆ ตอนแรกซึงอูก็ไม่ตอบ ตื๊ออยู่นานกว่าหมอนั่นจะยอมพูดออกมา "

    " เค้าแค่ตัดรำคาญนายรึเปล่าเซจุน "

    " ถ้าฟังแค่คำพูดนายจะคิดแบบนั้นก็ไม่แปลก แต่สายตาและน้ำเสียงของซึงอูที่บอกว่าชอบนายฉันเชื่อว่าเค้าพูด
    จริง " ซึงซิกนิ่งไปทันทีที่เพื่อนพูดจบ เซจุนหันมองหน้าบยองชานที่พยักหน้ากลับมาให้ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นหยิบกระเป๋ามาถือไว้


    " คิดดูแล้วกัน วันนี้ฉันกับบยองชานต้องกลับแล้ว ถ้าคิดออกว่าตัวเองควรทำยังไงก็รีบไปทำตามหัวใจตัวเองซะนะ "

    " ขอบใจนะเซจุน บยองชาน "

    " อย่าคิดมากล่ะ หรือนายจะให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนไหม ? "

    " ไม่เป็นไร ขอฉันอยู่คนเดียวดีกว่า " ซึงซิกส่งยิ้มไปให้อีกครั้ง เซจุนกับบยองชานหันมองหน้ากันก่อนจะพากันเดินออกไปนอกห้องโดยที่ไม่ลืมล็อคประตูให้คนด้านในด้วยเหมือนกัน


    ซึงซิกถอนหายใจออกมาอีกรอบพร้อมกับยกมือขึ้นกุมขมับตัวเอง ในสมองกำลังประมวลคำพูดของเซจุนไปมาอยู่หลายครั้งแต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่มีข้อไหนพิสูจน์ได้เลยว่าซึงอูจะเปลี่ยนใจจากซูบินมาชอบเค้าแทน เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะพูดจาดีๆ ใส่กันมีแต่กวนประสาทกันไปมา..














    1 สัปดาห์เต็มๆ ที่ซึงอูหายออกไปจากห้องจะเจอก็แค่ที่ห้องเรียนเท่านั้น แต่อีกคนกลับทำเหมือนซึงซิกไม่มีตัวตนอยู่ในห้อง ไม่มีการพูดคุย มองสบตาหรือเดินเข้าใกล้ คนตัวเล็กเผลอกำมือตัวเองเข้าหากันแน่นยามที่มองคนตัวสูงตรงหน้ากำลังยืนลูบหัวส่งเสียงหัวเราะสดใสอยู่กับซูบิน โดยที่ข้างกันก็มีชานยืนอยู่ด้วย


    " ไปโรงยิมได้แล้วซึงซิก "

    " อ่า อืมม " เจ้าของชื่อพยักหน้าไปให้ แล้วรีบเดินตามเซจุนออกไปนอกห้อง

    " ปล่อยไว้แบบนี้จะดี ? " ชานเอ่ยถามขึ้นแล้วมองหน้าเพื่อนตัวสูงที่ตอนนี้กำลังเบนสายตาจากแผ่นหลังเล็กที่เดินไปไกลให้กลับมามองพวกเค้าแทน

    " ก็ต้องดัดนิสัยกันบ้าง "

    " ไม่สงสารหัวใจตัวเองก็สงสารซึงซิกบ้างนะ หัวใจคนเรามันไม่ได้แข็งแรงขนาดทนเจ็บได้นานๆ หรอกนะ เชื่อฉันสิ "

    " พูดมากจริงๆ เลยซูบิน ฉันไปโรงยิมก่อนแล้วกัน เจอกันตอนเย็นบอกฮันเซด้วยว่าให้รอไม่งั้นคืนนี้จะกระชากปลั๊กเกมส์มันทิ้ง " ชานหัวเราะออกมาจนตัวโยนก่อนจะโบกมือลาให้เพื่อนรีบเดินออกไป

    " ฉันควรไปคุยกับซึงซิกไหมชาน จะได้เข้าใจกันสักที "

    " ไม่ต้องหรอก เรื่องของคนสองคน มันไม่ควรมีคนที่สามสี่เข้าไปเกี่ยวนะ " ซูบินพยักหน้าตอบรับกลับไปก่อนจะเดินตามคนรักของตัวเองกลับมาที่ห้องเรียนตามเดิม


    เสียงเดาะลูกบาสดังไปทั่วโรงยิมพร้อมกับเสียงกรี๊ดเบาๆ จากกลุ่มคนอื่นที่ไม่ได้มีเรียนคาบนี้แต่กลับเลือกที่จะมานั่งดูคนเล่นแทน ซึงอูเดาะลูกบาสวิ่งวนไปรอบสนามซ้อมอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ตอนนี้แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มเท่าๆ กัน ก่อนจะโดนเรียกรวมให้จับฉลากแข่งกันเองภายในห้อง ทีมไหนชนะจะได้คะแนนเต็มไปในวิชานี้แล้วทีมไหนแพ้จะให้คะแนนครึ่งเดียวพร้อมกับให้ทำความสะอาดโรงยิมด้วยเหมือนกัน


    " ไหวนะซึงซิก ? "

    " ทำไมจะไม่ไหวล่ะ แค่เล่นบาส "

    " หมายถึงคนนั้น " ซึงซิกพยักหน้ากลับไปให้ มือเล็กยกขึ้นตบแก้มตัวเองเพื่อเรียกสติก่อนจะวิ่งลงสนามไปยืนอยู่ด้านข้างของวง โดยที่เซนเตอร์ตรงกลางเป็นซึงอูกับบยองชานที่ต้องกระโดดแย่งลูกบาสกัน


    เสียงเฮจากฝั่งซึงอูดังขึ้นกันติดๆ เพราะเล่นชู๊ต 3 แต้มลงห่วงติดกันหลายรอบ คนตัวเล็กยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่หน้าออกแล้วรีบวิ่งแซงขึ้นหน้าไปกระโดดรับลูกบาสที่เซจุนส่งมาให้ กำลังหมุนตัวเตรียมจะส่งต่อให้บยองชานที่รอรับอยู่ด้านข้างก็ต้องสะดุดร่างของเพื่อนตัวหนาล้มลงกระแทกกับพื้นสนามเสียงดังทำให้ลูกบาสหลุดมือไปยังฝั่งตรงข้ามทันที


    " โอ๊ย!! " ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นพยายามดันตัวเองลุกขึ้นยืนแต่ก็ต้องล้มลงนั่งอีกครั้ง ความปวดแล่นจากข้อเท้าขึ้นมาจนหางตาคลอไปด้วยหยาดน้ำใส แต่ก่อนที่จะได้ร้องไห้ออกมาเพราะความเจ็บผ้าขนหนูผืนสีขาวก็ถูกโยนลงมาปิดหน้าเอาไว้ แล้วไหนจะท่อนแขนแกร่งที่สอดเข้าใต้ต้นขากับรั้งเอวยกตัวซึงซิกขึ้นลอยนั่นอีก

    " ขออนุญาตพาคนเจ็บไปห้องพยาบาลครับ "

    " ดูแลเพื่อนด้วยล่ะซึงอู "


    ไม่มีเสียงต่อบทสนทนาออกมาอีก ซึงอูกระชับตัวคนในอ้อมแขนให้มากขึ้นแล้วเดินออกมาจากโรงยิมทันที คนตัวเล็กนั่งนิ่งไม่มีการดีดดิ้นออกมาเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้ ซึงอูพาคนเจ็บมาจนถึงห้องพยาบาล ใบหน้าคมหันมองรอบห้องก็ไม่เจออาจารย์ประจำห้องพยาบาลอยู่จึงถือวิสาสะอุ้มคนตัวเล็กไปวางบนเตียงคนป่วยแทน


    " เจ็บตรงไหน "

    " ไม่เป็นไร นายกลับไปเรียนเถอะ "

    " ฉันถามว่าเจ็บตรงไหน " เจ้าของเสียงทุ้มถามย้ำอีกครั้ง ซึงซิกนั่งก้มหน้านิ่งมือบางบีบเข้าหากันแน่นก่อนจะเอ่ยบอกอีกคนเสียงเบา

    " ข้อ.. ข้อเท้า "


    ซึงอูไม่ตอบบทสนทนาต่อแต่กลับเดินไปรื้อตู้ยาด้านข้างหยิบเอายาทาแก้ปวดออกมาพร้อมกับผ้าพันขาสีครีมที่วางลงข้างตัวคนเจ็บ ลำตัวหนานั่งลงกับพื้น ค่อยๆ ถอดรองเท้าออกให้แต่คนเจ็บกลับรีบชักข้อขาตัวเองออกจนคนหวังดีต้องเหลือบสายตาขึ้นมองนิ่ง


    " คนเจ็บไม่มีสิทธิ์ขัดขืน นั่งเฉยๆ "

    " รออาจารย์ห้องพยาบาลมาก่อนก็ได้ นายไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้ "

    " ฉันพานายมา ฉันก็ต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุด " ซึงซิกกัดปากตัวเองเข้าหากันทันทีที่อีกคนพูดจบ มือเล็กบีบเข้าหากันแน่นขึ้นก่อนจะตวัดสายตามองไปทางอื่น ปล่อยให้คนขี้สงสารคนอื่นหยิบยามาทาให้ไม่พอยังนวดให้เพิ่มแล้วถึงเริ่มพันผ้าเข้ากับข้อเท้าให้จนเสร็จ

    " คงเดินไม่สะดวกสัก 2 – 3 วัน ช่วงนั้นก็ให้พวกเซจุนดูแลแล้วกัน "

    " ขอบใจ "

    " พูดดีๆ กว่านี้หน่อยสิ ฉันเป็นคนอุ้มนายมานะ "

    " ขอบใจแล้วกันที่อุตส่าห์พามา นายจะไปไหนก็ไปเถอะ " คนตัวเล็กพูดขึ้นแต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาคนถามสักครั้ง ซึงอูแอบถอนหายใจออกมาเสียงเบาแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้จับไหล่บางเอาไว้ให้อีกคนยอมเงยหน้าขึ้นมามอง

    " มองหน้าฉันตอนพูดด้วยซึงซิก "

    " แต่ฉันยังไม่อยากเห็นหน้านายตอนนี้ "

    " อย่างนั้นเหรอ... งั้นฉันจะย้ายออกจากห้องนั้นเอง นายจะได้สบายใจ " ซึงอูพูดเสียงเบาในประโยคหลัง ใบหน้าคมกดยิ้มลงมุมปากอย่างที่ชอบทำประจำก่อนจะปล่อยมือออกจากไหล่บาง ขยับขาถอยหลังออกแล้วเดินไปทางประตูหน้าห้องแทน

    " ไม่ไม่ใช่แบบนั้นนะซึงอู " ซึงซิกตะโกนเสียงดัง เจ้าของลำตัวหนาหยุดยืนแล้วหันมองเสี้ยวหน้าคนพูด ใบหน้าหวานดูตื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มือเล็กกำขอบเตียงไว้แน่น

    " นั่งอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวฉันจะไปตามเซจุนกับบยองชานให้มารับ "

    " ซึงอู!!  โอ๊ยย!!!! "

    " ซึงซิก!! " เสียงโครมดังขึ้นด้านในพร้อมกับร่างของซึงซิกที่ล้มลงนั่งอยู่กับพื้นห้อง คนตัวเล็กพยายามดันตัวลุกขึ้นยืนจะเดินตามคนตัวสูงออกไปแต่อีกคนกลับเดินตีหน้านิ่งเข้ามาหา จัดการสอดแขนกอดเข้ารอบเอวเล็กดึงซึงซิกขึ้นนั่งบนเตียงพยาบาลอีกครั้ง


    ซึงอูเท้าแขนลงคร่อมกับเตียงกักบริเวณการขยับตัวของซึงซิกเอาไว้ ใบหน้าคมอยู่ห่างแค่คืบกับคนตรงหน้าจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อนที่ขยับเข้าออกแบบติดขัดนั่นเป็นอย่างดี ซึงซิกเม้มปากตัวเองแน่นไม่กล้าขยับตัวหนีออกห่างแล้วก็ไม่กล้าขยับใบหน้าเงยขึ้นมองสบตาอีกคนด้วยเช่นกัน


    " ถ้าไม่พูด ฉันไปแล้วนะ "

    " ด.. เดี๋ยว ซึงอู " มือเล็กยกขึ้นจับต้นแขนแกร่งเอาไว้ ปากอิ่มขบเม้มกันจนเกือบจะเป็นเส้นตรง

    " ว่ามา ฉันฟังอยู่ "

    " คือ.. เรื่องห้องนายไม่จำเป็นต้องย้ายออกก็ได้ "

    " แล้วจะให้ฉันอยู่กับคนที่เกลียดฉันอย่างนั้นน่ะเหรอ "

    " ฉัน... ฉันไม่ได้เกลียดนาย.. " รอยยิ้มหล่อถูกกดลงมุมปากแบบที่คนตัวเล็กตรงหน้าไม่มีทางได้เห็น มือบางเริ่มสั่นมากขึ้นพร้อมกับจิกเล็บลงบนต้นแขนแกร่งแรง


    บรรยากาศรอบตัวเงียบลงทันทีที่ซึงซิกพูดจบ เสียงลมพัดใบไม้จากข้างหน้าต่างดังลอดเข้ามาให้ได้ยินแล้วไหนจะเสียงลมหายใจเข้าออกของตัวเองกับคนตรงหน้าที่ผสานเข้ากันอย่างลงตัวจนแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน มือเล็กยกขึ้นบีบต้นแขนแกร่งแรงมากขึ้นแต่อีกคนก็ยังยืนนิ่ง


    " มีแค่นี้ใช่ไหมที่จะพูด "

    " ฉันมีเรื่องอยากถามนายอีกอย่าง " คราวนี้ซึงซิกเงยหน้าขึ้นมองสบตาซึงอูที่มองมาพอดี สายตาคมกดนิ่งจนลมหายใจแทบสะดุด แต่สุดท้ายก็กลั้นใจถามคำถามที่กวนใจตัวเองมาตลอด 1 สัปดาห์ออกไป

    " ที่นายบอกกับเซจุนว่าชอบฉัน เป็นเรื่องจริงใช่ไหม.. "

    " ทำไมถึงอยากรู้ "

    " ฉันไม่อยากคิดอะไรไปคนเดียวอีกแล้ว "

    " นายคิดอะไร บอกฉันสิ " เสียงทุ้มเอ่ยถาม ซึงซิกกดสายตามองต่ำจ้องมือตัวเองแต่ก็โดนมือหนาของคนตรงหน้าจับปลายคางให้เงยขึ้นมองสบตาตัวเองอีกครั้ง

    " คิดอะไรอยู่ บอกฉัน " คนตัวเล็กเผลอหลบสายตาคมอีกครั้ง ซึงอูกดยิ้มลงพร้อมกับรวบเอวคนตรงหน้าเข้ามากอดแนบอกเอาไว้

    " ถ้านายไม่พูด ฉันจะพูดเองนะซึงซิก " คนตัวเล็กยังคงนิ่ง ซึงอูดันไหล่บางให้ขยับตัวออก ย่อลงกดสายตาประสานกับอีกคนเอาไว้

    " ที่ฉันบอกกับเซจุนว่าฉันชอบนายคือเรื่องจริง นายอาจจะไม่เคยรู้เพราะเอาแต่คิดว่าฉันชอบซูบินตลอดเวลา แต่การชอบใครสักคนที่รู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางสมหวัง สมองของมนุษย์มันมักจะสั่งให้เราตัดใจและมองหาสิ่งใหม่มารักษาหัวใจตัวเองอยู่แล้ว และจะแปลกอะไรถ้าฉันจะเปลี่ยนใจ "

    " แต่.. แต่ว่านาย.. "

    " เพราะนายไม่เคยพูดจาดีๆ กับฉันแล้วทำไมฉันต้องพูดจาดีๆ กับนายด้วย แต่มันก็ทำให้ฉันชอบตัวเองเวลาที่อยู่กับนายอยู่ดี มันดูมีสีสันแบบที่คนอย่างฉันไม่คิดว่าจะได้เป็น "

    " ฉัน.. ฉันขอโทษนะซึงอู.. "

    " นายจะขอโทษฉันเรื่องไหน "

    " ทุกเรื่องที่ผ่านมา ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดจาไม่ดีกับนาย ฉันแค่ไม่ชอบนายเวลาอยู่กับซูบินแค่นั้น.. " ซึงอูพยักหน้ากลับไปให้ มือเล็กยื่นมาจับแขนดึงเอาไว้แล้วช้อนสายตาคลอหยาดน้ำใสมองคนตรงหน้า มือหนายกขึ้นเกลี่ยน้ำตาออกให้แผ่วเบาพร้อมจับประคองแก้มเนียนเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง

    " ฉันชอบนายนะซึงอู ชอบมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน แล้วฉันไม่รู้ว่ามันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน แต่ตลอดเวลาที่ฉันเห็นนายอยู่กับซูบินฉันอิจฉาเค้าตลอด เค้าได้รอยยิ้มได้เสียงหัวเราะจากนายไปแล้วทำไมถึงมีแค่ฉันที่นายไม่เคยยิ้มให้เลยสักครั้งเดียว.. "

    " ที่ฉันตบหน้านายวันนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฉันแค่น้อยใจว่าทำไมจะต้องเป็นแค่กับฉันที่โดนนายทำร้ายจิตใจตลอดเวลา "

    " ฉัน ซูบินแล้วก็ชานเราเป็นเพื่อนคลานตามกันออกมา แล้วชานก็คบกับซูบินตั้งแต่ขึ้นมัธยมต้นใหม่ๆ จนตอนนี้จะจบมัธยมปลายแล้วคงไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหม ว่าต่อให้ฉันชอบซูบินมากแค่ไหนพวกเราก็เป็นได้แค่เพื่อนกัน " ซึงซิกพยักหน้ากลับไปให้ ปากอิ่มขบเม้มเข้าหากัน

    " ฉันไม่รู้ว่าฉันชอบนายตอนไหน มารู้ตัวอีกทีในสายตาฉันก็มีแค่นายตลอดเวลาแล้วซึงซิก " ใบหน้าหวานก้มลงยกมือขึ้นปิดปากตัวเองกลั้นสะอื้นเอาไว้ ซึงอูโน้มตัวเข้าหาจับมือเล็กดึงออกแล้วโอบไหล่บางเข้าหาจับใบหน้าซุกเข้ากับอกของตัวเองอีกครั้ง

    " ถ้าจะร้องไห้ ฉันให้นายร้องไห้แค่กับอกฉันคนเดียวเท่านั้น "

    " ฉันไม่ได้.. ฮึก..กก ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น.. "

    " ฉันเป็นคนพูดจาห้วนๆ นายอาจไม่รู้ข้อนี้ กับเพื่อนฉันก็พูดแบบนี้แต่ถ้านายบอกว่ามันคือการพูดไม่ดีฉันจะปรับตัวใหม่ "

    " ไม่  ไม่ต้อง นายเป็นตัวของตัวเองน่ะดีแล้ว " ซึงซิกพูดขึ้น สองแขนเล็กยกขึ้นกอดรอบเอวหนาตอบ

    " รับได้เหรอกับผู้ชายแบบฉัน พูดจาก็ไม่ดีแถมยังชอบทำให้นายเจ็บตัวอีก "

    " แค่ต่อไปนายสัญญาว่าจะไม่ทำอีก ฉันจะลืมทุกอย่างที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ " ใบหน้าหวานช้อนขึ้นมองคนตัวสูง ซึงอูกดสายตามองอีกคนนิ่งก่อนจะโน้มใบหน้าลงจูบที่หน้าผากแผ่วเบา มือหนาประคองแก้มนิ่มให้อีกคนเงยหน้าขึ้น

    " ต่อไปจะไม่ทำอีก ที่ผ่านมาขอโทษ "

    " อือ.. แค่นี้ก็พอแล้ว "


    ท่อนแขนแกร่งกอดรัดรอบเอวเล็กเข้ามาชิดมากขึ้น ใบหน้าหวานซุกเข้ากับอกกว้างพยายามกอดร่างตรงหน้าเอาไว้ ซึงอูกดริมฝีปากลงจูบที่ข้างขมับคนในอ้อมกอดตัวเองอีกหลายครั้งก่อนจะยกตัวซึงซิกขึ้นอุ้ม เดินออกมาจากห้องพยาบาลสวนทางกับพวกเซจุนที่กำลังเดินมาดูเพื่อน


    ซึงอูส่งยิ้มให้เซจุนกับบยองชานก่อนจะเดินอุ้มคนที่ซุกหน้าตัวเองอยู่กับคอแกร่งออกไปตามทางเดินตึกด้านล่าง ทั้งสองคนหันมองหน้ากันก่อนจะเปลี่ยนใจหมุนตัวเองเดินกลับไปทางห้องเรียนตามเดิม เดี๋ยวรอเวลาเลิกเรียนค่อยเอากระเป๋าของซึงอูกับซึงซิกไปส่งที่ห้องก็แล้วกัน














    เสียงบานประตูปิดลงล็อคอย่างดีตั้งแต่หน้าห้อง ท่อนแขนแกร่งจัดการวางคนตัวเล็กลงบนปลายเตียง ซึงอูค่อยนั่งลงกับพื้นห้องจับข้อขาของซึงซิกขึ้นมาพลิกดูอีกรอบก่อนจะลุกขึ้นยืน


    " หิวอะไรไหม "

    " ไม่อ่ะ นายหิวเหรอ ฉันจะได้ทำอะไรให้กิน "

    " ถ้าหิวตอนนี้ก็มีอยู่อย่างเดียวคือหิวนาย ให้ฉันกินได้ไหม " ซึงซิกหน้าขึ้นสีแดงทันที ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น


    ซึงอูกดยิ้มลงมุมปากขยับตัวเดินมาหยุดยืนด้านหน้าพร้อมกับนั่งคุกเข่าวางแขนคร่อมลงบนเตียงมองคนตัวเล็กที่ยังนั่งนิ่ง มีแค่อาการแก้มแดงออกมาเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าอีกคนกำลังเขินมากแค่ไหน


    ซึงซิกไม่ตอบแต่กลับยกมือขึ้นโอบรอบคอแกร่งให้ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้นจนริมฝีปากแนบสนิทเข้าหากัน รอยยิ้มจากคนตัวสูงยามที่มองคนตัวเล็กกดริมฝีปากลงมายังติดอยู่ในความทรงจำของซึงซิกได้เป็นอย่างดี


    เรียวลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าเก็บเกี่ยวความหวานด้านในก่อนจะดันคนตัวเล็กให้นอนราบลงไปกับเตียงนุ่ม ท่อนแขนแกร่งเกี่ยวขาเล็กขยับออกกว้างให้พอที่จะแทรกตัวลงไปได้ มือบางปัดป่ายไปทั่วแผ่นหลังหนาจับเสื้อยึดเอาไว้จนยับย่น พลางเบียดซุกร่างกายเข้าหาคนตัวสูงมากขึ้นจนแผ่นอกเสียดสีกับอกแกร่ง  ริมฝีปากอิ่มถูกเละเล็มจากปากนิ่มจนเสียงครางฮื่อดังออกมาไม่หยุด ซึงอูกระชับข้อมือคนตัวเล็กด้านล่างกดลงกับเตียงเอาไว้แน่นขึ้น พลางล้วงมือเข้าใต้เสื้อเล่นบาสที่อีกคนสวมอยู่จัดการดึงออกโยนลงกับพื้นห้อง


    ซึงซิกปรือตาหวานขึ้นมองสบตาคมที่มองจ้องมา ริมฝีปากนิ่มกดลงจูบซับที่ข้างแก้มไล่วนไปจนถึงหน้าผากเนียนแล้วไล้สันจมูกลงมากดลงที่คอขาวอีกครั้ง ร่างเปลือยเปล่าของคนด้านใต้สั่นเทาไปด้วยความต้องการที่ซึงอูตั้งใจปลุกมันขึ้นมา ยิ่งมองก็ยิ่งอยากครอบครองให้ซึงซิกเป็นของตัวเองเร็วๆ


    ซึงอูกดจูบลงบนปากอิ่มอีกครั้งก่อนจะเริ่มไล้ฝ่ามือหนาลากผ่านตามลำตัวขาวที่นอนสั่นเทาด้วยแรงกระสันอยู่ด้านล่างที่ไม่ว่าจะแตะมือผ่านไปตรงส่วนใด ร่างขาวก็แอ่นตัวเข้าหามือร้อนตามแรงอารมณ์ที่ถูกปั่นขึ้นเท่านั้น มือหนาจับเสื้อผ้าตัวเองถอดออกก่อนจะโน้มตัวเข้าหาคนตัวเล็กที่ยกมือขึ้นโอบรอบคอซึงอูเอาไว้


    เสียงครางสั่นดังไปทั่วห้องนอนพร้อมเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังเคล้าไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง มือเล็กจิกเล็บลงบนท่อนแขนแกร่งยึดเอาไว้แน่น ขยับขาเกี่ยวเอวหนาให้อีกคนสอดแทรกเข้ามาได้มากขึ้น จนไม่อยากนับว่ากี่รอบที่พากันเสร็จแล้วเริ่มต้นใหม่อีกหลายครั้ง


    เสียงหอบหายใจดังขึ้นถี่พร้อมกับแรงเฮือกสุดท้ายจากคนตัวสูงด้านหลังที่โถมตัวเข้าใส่จนอีกคนซุกหน้าลงหอบกับเตียงนุ่ม มือเล็กยันตัวเองขยับนอนราบลงไปกับเตียงไม่ต่างจากคนตัวสูงด้านหลังที่ล้มตัวลงนอนด้านข้างจัดการคว้าร่างเปลือยของอีกคนเข้าไปกอดไว้แนบอก


    " ต่อจากนี้ไปนายเป็นของฉัน รวมถึงรอยยิ้มของนายก็เป็นของฉันเหมือนกัน จำเอาไว้นะคังซึงซิก "

    " นายก็เป็นของฉันเหมือนกัน ฮันซึงอู "

     

     






     

    END






     




    =======================================

    Hello Hello เทสสสสสสสสสสสสสส
    สวัสดีครับผมเพื่อนพ้องน้องพี่ วันนี้ขออนุญาตอัพตัว OS เนอะ
    เรื่องยาวยังไปไม่ถึงครึ่งเลย TT^TT รอก่อน  มกราคมปีหน้ามาแน่นอน ลงรูปเรียกน้ำจิ้มแล้ว(?) 55555


    อ่ะๆๆๆ มาที่เรื่องนี้กันดีกว่า
    ตอนนี้กำลังแอบติ่งน้องๆ วงนี้อยู่ แพ้ในความสดใสพระอาทิตย์ยิ้มแฉ่งของน้องซิกมากจริง  #หัวใจรวดร้าวม๊ากกก
    จึงขอเรียนเชิญเพื่อนๆ ลงเรือ #WooSik คุณกัปตันกับออมม่าของวิคตันกันเถอะ
    #กำเสากระโดงเรือให้มั่นแล้วเราจะออกไปแตะขอบฟ้ากัน 

    ขอฝาก OS เรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจเพื่อนๆ ด้วยนะครับ รวมถึงฝากน้องๆ VICTON ด้วยเช่นกัน
    เดี๋ยวเจอกันใหม่ตอนหน้านะ >.,<  (จะเขียนคู่นี้ให้ได้อ่านกันเยอะๆ หรืออยากรีเควสคู่ไหน จัดมาโลดดดดดด)
    =====================================================================

    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×