ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    4 Kings [HyunChang ft. Stray Kids]

    ลำดับตอนที่ #2 : 4 Kings : Chapter 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 887
      102
      21 เม.ย. 62




    4 K i n g s : I n t r o
    ♣          
    # S K Z 4 K i n g s





    ♔THEORA

         รถเก๋งวีออสสีขาวเคลื่อนตัวเข้าสู่รั้วโรงเรียนอย่างช้าๆ ประตูรั้วขนาดใหญ่ที่ดูแน่นหนาดั่งประตูเรือนจำ ทั้งการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ที่ดูค่อนข้างจะเข้มงวด สวนหย่อมขนาดย่อมเรียงรายไปตามทางก่อนจะเริ่มเป็นตัวตึกต่างๆที่อยู่ห่างกันออกไป ระหว่างที่รถเคลื่อนตัวผ่านตึกต่างๆ ชางบินสังเกตได้ถึงความแตกต่างบางอย่างของแต่ละตึก ระหว่างนั้นรถได้เคลื่อนเข้าสู่วงเวียนใหญ่ซึ่งกลางวงเวียนมีรูปปั้นพระแม่มารีอยู่ตรงกลางโดยมีน้ำพุล้อมรอบ จุดนี้คงจะเป็นใจกลางของโรงเรียนแน่ๆ กำลังคิดสิ่งต่างๆได้เพียงไม่นานรถก็จอดนิ่งหน้าตึกหลังหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นตึกส่วนกลางของโรงเรียน


         ร่างเล็กก้าวเท้าเดินตามคนของบริษัทและพ่อของตนเข้าไปยังตัวตึก พื้นที่ถูกปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ผนังที่ถูกตกแต่งอย่างดี เฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่ดูมีมูลค่า ถ้านึกว่าอยู่โรงแรมหลายดาวก็คงไม่แปลก


         หลังจากจัดการเอกสารและทำการมอบตัวเสร็จ เขาก็ต้องไปยังหอพักของตนทันที ชางบินแปลกใจนิดหน่อยที่โรงเรียนนี้มีการแบ่งการปกครองออกไปเป็น 4 ส่วน ตามทิศหลักทั้ง 4 โดยเขาได้ไปอยู่ที่ทิศตะวันตก ซึ่งต่างจากโรงเรียนทั่วไปเป็นอย่างมาก ทั้งยังเเบ่งนักเรียนเป็น 2 ระดับ โดยเด็กที่เป็นลูกหลานคนมีฐานะหรือที่เรียกกันง่ายๆว่าลูกคนรวย จะอยู่ในระดับ ‘ไฮคลาส’ ส่วนเด็กนักเรียนทุนแบบเขาหรือเรียกว่าเด็กยากจน จะอยู่ในระดับ ‘โลว์คลาส’ ข้อตกลงและระเบียบต่างๆของโรงเรียนเขารู้แค่พอคร่าวๆ ส่วนรายละเอียดต่างๆต้องไปอ่านเพิ่มในเล่มระเบียนที่ทางโรงเรียนได้ให้เขามา


         ระหว่างที่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปได้เพียงไม่นาน รถก็จอดสนิทอีกครั้ง ร่างเล็กเปิดประตูลงพร้อมเดินไปหยิบสัมภาระของตนเองออกจากท้ายรถ ไม่นานนักพ่อของตนก็เดินมายืนข้างๆ


                        “ถึงแล้วนะลูก พ่อส่งได้แค่ตรงนี้ กฏโรงเรียนเขาบอกไม่ให้คนนอกที่ไม่ใช่นักเรียนเข้าไปในส่วนของที่พัก ยังไงก็ดูแลตัวเองดีๆนะลูก” พูดจบก็กอดคนตัวเล็กทันที ชางบินเห็นดังนั้นจึงเริ่มน้ำตาซึมออกมาเล็กน้อย


                        “เอ้าๆ เป็นลูกพ่อกับแม่ต้องเข้มแข็งสิ พ่อมาคอยปลอบลูกไม่ได้แล้วนะ จะมางอแงเป็นเด็กเหมือนตอนอยู่บ้านไม่ได้แล้ว” พูดพลางลูบหัวลูกไปพลาง


                        “ผมแค่..แค่รู้สึกมันเหงาน่ะครับ ปกติจะมีพ่อกับแม่ พอแม่ไม่อยู่ผมก็อยู่แค่กับพ่อ”


                        “ลูกโตแล้วนะ ถ้าคิดถึงพ่อก็โทรมาได้เสมอ รู้มั้ย”


                        “ครับ ผมจะตั้งใจเรียนนะครับ”ร่ำรากันเสร็จ ชางบินก็ได้แต่ยืนมองรถวีออสคันสีขาวค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป ต้องอยู่คนเดียวแล้วสินะ สู้ๆนะชางบิน นายต้องทำได้ นึกให้กำลังใจตนเองเสร็จก็ขนของขึ้นห้องไป


             


                     ห้องสีขาวขนาดกำลังพอดีสำหรับอยู่คนเดียว เตียงเดี่ยวที่ตั้งอยู่ชิดกำแพง โต๊ะเขียนหนังสือกับตู้เสื้อผ้าขนาดพอดีถูกตั้งวางอย่างเป็นระเบียบ ดูๆไปก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย แถมยังมีห้องน้ำภายในตัว ชางบินเดินสำรวจห้องได้สักพักจึงเริ่มจัดของให้เข้าที่ ชุดยูนิฟอร์มสีน้ำตาลเรียบสวยถูกคนตัวเล็กจัดระเบียบไว้ในตู้อย่างดี


                        “SK High School หรอ.. เหมือนฝันเลย”ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว แน่หล่ะ โรงเรียนที่ใครๆก็ต่างเฝ้าฝันที่จะได้เข้ามาเรียน ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาตอนที่ยังเรียนอยู่ นึกไปพลาง เก็บของไปพลาง




                        “โรงเรียนในฝันหรอ.. ชักลุ้นๆแล้วแหะ ต้องไม่เหมือนโรงเรียนทั่วๆไปแน่ๆ”








    4 K i n g s








             เช้าแรกแห่งการเปิดเรียน ยอมรับจากใจเลยว่าเขาคาดหวังกับที่นี่มากๆ ถ้าเพื่อนๆรู้ว่าเขาได้เรียนที่นี่นะ ต้องโทรมาถามกันจนสายไหม้แน่ๆ วันนี้ชางบินตื่นเช้าเป็นพิเศษเนื่องจากเขาต้องรีบไปหาอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อรายงานตัวเข้าห้อง B หรือที่เรียกกันว่า ห้องเด็กเกรดสูง..     

         

         ตลอดทางเดินเริ่มมีเด็กนักเรียนคนอื่นๆเดินสวนไปมาเป็นจำนวนหนึ่ง มีทั้งชุดสีน้ำตาลแบบเขาและชุดสีน้ำเงินที่ดูสง่างาม..  ก็คงไม่แปลกที่เครื่องแบบสีน้ำเงินจะดูดีกว่าสีน้ำตาลพื้นๆแบบเขา ก็นั่นมันชุดของระดับไฮคลาสนี่หน่า ระหว่างที่เขากำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น จู่ๆก็มีแรงกระแทกมาจากข้างหลังของเขาจนทำให้ล้มลงไป


                        “โอ๊ย!”


                        “ขอโทษนะ! เป็นอะไรมั้ย?” ชางบินเงยหน้าขึ้นมองต้นเหตุที่ทำให้เขาล้มลง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อยูนิฟอร์มของคนข้างหน้าเป็นสีที่ต่างออกไป.. ใช่.. นี่มันสีแดงเลือดหมู สีที่บอกถึงความมีอำนาจในที่แห่งนี้ สีที่ในหนังสือและอาจารย์ก็ต่างเตือนไว้ว่า สีที่ชนชั้นต่ำไม่ควรยุ่งเกี่ยว..


                        “นายไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?” เด็กหนุ่มผมสีทอง ใบหน้าที่ออกไปทางลูกครึ่ง ดวงตากลมโต และกระที่ขึ้นเรียงอย่างสวยงาม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขางดงามมาก.. ชางบินมองพิจารณาใบหน้าหวานนั่นอย่างละไม่ได้


                        “นี่! ได้ยินฉันมั้ย?” มือเล็กของคนตรงหน้ายื่นออกมาแตะที่ตัวเขาเบาๆ แต่ก็พอที่จะทำให้ชางบินหลุดออกจากภวังค์ได้ เขาสะดุ้งตัวลุกขึ้นยืนพร้อมกับปัดเสื้อผ้าเบาๆ


                        “อ๋า~ ชุดเลอะหมดเลย ขอโทษจริงๆนะ!” คนตรงหน้ารีบตรงเข้ามาช่วยปัดเสื้อผ้าของเขา


                        “มะ..ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นอะไร”ชางบินถอยหลังหนีออกจากอีกคนเล็กน้อย แต่มือเล็กๆของอีกคนดันคว้าเสื้อเขาไว้ พร้อมกับจ้องที่เสื้อผ้าของเขา


                        “เด็กใหม่หรอ? เด็กทุน?”จู่ๆคนตรงหน้าก็เงยหน้าขึ้นมาถามเขา


                        “อ่า.. ใช่ นายรู้หรอ?”คนตรงหน้ายิ้มอย่างพอใจในคำตอบของเขา พร้อมกับยืนขึ้นอย่างเต็มตัว ทำให้ชางบินได้เห็นส่วนสูงของอีกคนอย่างชัดเจน ร่างบางๆ แต่ก็แอบสูงกว่าเขาอยู่นิดหน่อย ก็แค่นิดหน่อยอ่ะนะ..


                        “ก็เด็กทุนที่นี่ส่วนมากจะไม่ค่อยใส่ยูนิฟอร์มใหม่กันหรอก เนื้อผ้าส่วนมากก็จะเก่า เพราะร้านที่ตัดชุดของที่นี่ได้มีแค่ร้านเดียว นั่นคือร้านของตระกูลยาง เนื้อผ้าก็เลยแตกต่างจากยูนิฟอร์มโรงเรียนอื่น ราคาก็จะแพงเอาเรื่องอยู่ ถึงจะเป็นเนื้อผ้าที่ถูกที่สุดก็เถอะ”ร่างเล็กตรงหน้าพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มหวานๆ เนื้อผ้าถูกที่สุดหรอ.. นี่ถึงขนาดแบ่งชนชั้นกันยันเนื้อผ้าเลยหรอ?


                        “ตกใจใช่มั้ย คงจะคิดอยู่ล่ะสิว่าที่นี่แบ่งชนชั้นกันสุดๆเลยใช่มั้ย?”พูดจบร่างเล็กก็หัวเราะออกมา ชางบินหันไปมองอีกคนพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ แปลกแหะ.. เนื้อคำเหมือนจะพูดดูถูก แต่น้ำเสียงที่อีกฝ่ายใช้กลับเหมือนแค่มาบอกเล่าเฉยๆเลย..


                        “นี่แค่ไม่กี่เรื่องเอง ยังมีอีกเยอะเลย ว่าแต่.. นายชื่ออะไรหรอ?”จู่ๆก็เปลี่ยนเรื่องเฉย ดูร่าเริงดีเหมือนกันแหะ ไม่เห็นจะดูไม่น่ายุ่งด้วยตรงไหนเลย


                        “ฉันซอ ชางบิน เรียกชางบินเฉยๆก็ได้”


                        “ฉันฟีลิกซ์นะ ลี ฟีลิกซ์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” พูดจบฟีลิกซ์ก็ยื่นมือของตนออกมา ร่างเล็กเห็นดังนั้นจึงยื่นมือออกไปจับมือกับอีกคน จู่ๆคนตรงหน้าก็ยิ้มกว้างพร้อมกับมืออีกข้างที่ยื่นออกมาประกบมือของเขาไว้พร้อมกับทำท่าดีใจสุดๆ


                        “ชางบิน! นะ..นายจับมือฉันจริงๆหรอ?! นายยอมจับมือกับฉัน! ฉันดีใจมากๆเลย ปกติทุกคนแค่เห็นฉันก็เอาแต่ถอยหนีพร้อมกับก้มให้อย่างเดียว แถมเวลาไปถามหรือคุยอะไรก็จะเอาแต่หลบสายตาตลอด”เมื่อได้ยินดังนั้นชางบินจึงหันไปมองรอบๆก็พบว่า ทุกคนเดินออกห่างจากจุดนี้กันหมด แถมเวลาผ่านทุกคนก็ก้มให้คนตรงหน้าเขาพร้อมกับสีหน้าที่ตกใจเมื่อเห็นเขา  


                        “พอจะจับก็เอาแต่บอกว่าอย่า ทำไมกัน แค่เป็นคิงแค่นี้เอง รู้อย่างงี้ไม่เข้าแก๊งค์ตามคำชวนของไอ้ปลิงหรอก” คนตรงหน้ายังคงบ่นเสียงแจ้ว แต่ในใจของเขาตอนนี้มันมีแต่คำถามเต็มไปหมด ทำไม? แล้วเขาจะโดนทำโทษมั้ย? แล้วเขาต้องทำยังไง? ระหว่างที่เขากำลังคิดอยู่นั่นเอง ชางบินก็รู้สึกได้ถึงเสียงเรียกของอีกคน


                        “ชางบิน.. ชางบิน! นายเป็นอะไรหรือเปล่า?”


                        “ปะ..เปล่า”


                        “แล้วนี่นายจะไปไหนหรือเปล่า? ต้องไปรายงานตัวที่ห้องอาจารย์ใช่มั้ย?”


                        “ใช่ๆ เห้ย! ลืมเลย!”ส่งเสียงออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับยกนาฬิกาขึ้นมามองเวลา


                        “ฉันไปก่อนนะ”ค่อยๆดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย แต่ยังไม่ทันหลุดดีก็โดนอีกคนดึงรั้งไว้อีกครั้ง


                        “เดี๋ยว! ให้ฉันพาไปได้มั้ย?”


                        “เอ่อ.. นาย.. ฉัน.. เรา..”


                        “ถ้าฉันที่รู้จักสถานที่แห่งนี้ดีพาไปน่าจะเร็วกว่าการที่นายไปงมหาห้องเองนะ” ใจจริงชางบินก็อยากให้คนตรงหน้าพาไปอยู่หรอกนะ แต่ดูจากสถานการณ์ที่คนโดยรอบมองเขาด้วยสายตาแปลกๆแล้ว เกรงว่าอย่าดีกว่า..


                        “ไม่เป็..”


                  ยังไม่ทันที่จะพูดจบ มือเล็กก็กลับมากุมมือเขาไว้อีกครั้งพร้อมกับสายตาที่เว้าวอน..


                        “นายจะปฏิเสธฉันจริงๆหรอชางบิน ฉันอยากเป็นเพื่อนกับนายนะ”ชางบินมองอีกคนนิ่งพร้อมกับกลืนน้ำลายลงไป สีเลือดหมูเป็นสีที่ชนชั้นต่ำอย่างสีน้ำตาลไม่ควรยุ่งเกี่ยว.. ระวังชุดสีเลือดหมูดีๆล่ะ ถ้าเป็นไปได้อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว  ทั้งเสียงของอาจารย์และตัวหนังสือที่อ่านมาลอยไปมาอยู่ในหัว คนตรงหน้าก็ยังทำหน้าอ้อนวอนใส่ แล้วเขาควรทำยังไงดีTT




                        “นายมาเป็นเพื่อนกับฉันเถอะนะชางบิน”












    4 K i n g s










         สุดท้ายก็ได้ฟีลิกซ์พาเดินมาหาอาจาย์ ตลอดทางที่เดินมาด้วยกันอีกฝ่ายพูดคุยนู่นนี่นั่นจนรู้สึกว่าก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร แถมต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำ เพราะเขาเลทไป 5 นาที จนทำให้อาจารย์โมโหนิดหน่อยเมื่อเห็นเขาเข้าไป แต่เมื่ออาจารย์เห็นฟีลิกซ์ก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย หลังจากนั้นจึงกลับมายิ้มแย้มปกติ    

     

                   เมื่อเสร็จธุระ ฟีลิกซ์ก็อาสาออกมาส่งอีกครั้ง เขาก็อยากปฏิเสธอยู่หรอก แต่ก็แพ้ลูกอ้อนของอีกคนเหมือนเดิมเลยเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างทางคนข้างๆเขาก็คอยถามเกี่ยวกับเขา พร้อมกับเล่าเรื่องต่างๆในโรงเรียนให้ฟัง


                        “นายกินข้าวเช้ามาหรือยัง?”อีกฝ่ายหันมาถามด้วยน้ำเสียงสดใส


                        “ยังเลย ปกติฉันไม่กินข้าวเช้าน่ะ”


                        “ทำไมมม นายต้องกินข้าวเช้าสิ สมองจะได้ทำงานได้สดว..”



         ระหว่างที่คนตัวเล็กกำลังพูดอยู่นั้นโทรศัพท์เจ้าตัวก็ดังขึ้น ฟิลิกซ์ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะมองไปที่หน้าจอด้วยหน้าตาที่เปลี่ยนไป


                        “อยู่กับเพื่อน …. ฉันจะมีเพื่อนนอกจากพวกนั้นไม่ได้หรือไง …. อะไร! …. ก็ได้ …. ไม่ต้องมา เดี๋ยวไปหาเอง!” ชางบินมองอีกคนที่กำลังสนทนากับปลายสายด้วยน้ำเสียที่ไม่พอใจสักนิด ไม่นานนักฟีลิกซ์ก็วางสายพร้อมกับหันมาหาเขาด้วยสีหน้าที่ต่างจากเมื่อกี้


                        “ฉันไปก่อนนะ โดนตามอีกแล้วน่าเบื่อ ถ้ามีอะไรให้ช่วยโทรมาหาได้เลยนะ เบอร์ที่ให้ไปเมื่อกี้ โรงเรียนนี้สำหรับนายฉันว่าอันตรายมากๆ ยิ่งเป็นเด็กทุนแล้วมาอยู่ห้อง B ด้วยแล้วล่ะก็ ยังไงก็โทรมาได้นะ ไปละ”พูดออกมาด้วยความรีบร้อน ก่อนจะวิ่งออกไป ดูๆไปก็.. คล้ายๆแมวเลย ว่าแล้วก็อดคิดเรื่องที่อีกคนพูดไม่ได้.. ฮวัง ฮยอนจิน..




    “เสียดายจัง นึกว่าได้อยู่หอตะวันออก อดเลยอ่ะ”


    “ทำไมหรอ นายคุมหอตะวันออกใช่มั้ย?”


    “ใช่ แล้วฉันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะดึงนายมาทำอะไรได้ภายในโรงเรียนนี้แม้ว่าจะแค่มาเดินเล่นถ้าฮยอนจินสั่ง”


    “ฮยอนจิน?”


    “เอ้า ยังไม่ได้อ่านระเบียบหรอ?”


    “ยังอ่านไม่จบเลย พอดีเมื่อวานง่วงก่อน”


    “อ่อ ฮยอนจินน่ะ เป็นคิงฝั่งตะวันตก หรือก็คือเป็นคนคุมกฎของนาย มันจะมีสิทธิ์ในการออกคำสั่งนายทุกอย่างนับตั้งแต่ที่ชื่อนายถูกบรรจุอยู่ในบัญชีรายชื่อเขตการปกครอง แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ฮยอนจินไม่ค่อยสนใจพวกเด็กชุดน้ำตาลหรอก หมอนั่นออกจะเจ้ายศเจ้าอย่าง ดูถูกคนเป็นเล่น ไม่เข้าใจ ตอนเด็กๆคุณป้าสอนมารยาทสังคมให้ ได้จำหรือเปล่า”




                        “คงไม่มีอะไรหรอก ก็เรามันเด็กทุนนี่หน่า เป็นแค่เด็กยากจนคนนึง”พูดออกมาลอยๆพร้อมกับเดินออกไป






    ขอให้การเรียนที่นี่เป็นไปอย่างราบรื่นด้วยเถอะ..








    4 K i n g s



    :Talk:
    มาลงอีกตอนแล้ววว ลงไว้เอาใจก่อน5555 พอใกล้ๆสอบก็จะหายไปยาวววๆๆๆๆๆ
    หวังว่าชางบินจะเรียนที่นี่ได้อย่างราบรื่นด้วยนะคะะ อย่าได้มีอะไรติดขัดด้วยเถอะ สาธุๆๆๆ
    ดีไม่ดียังไงติชมได้นะคะ♥  ถ้ามีอะไรผิดพลาดยังไงต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ
    ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะะ มาหวีด ติชมหรือทวงฟิคได้จากแท็กนี้เลยค่ะ
    #SKZ4Kings





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×