คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : 4 Kings : คืนประเพณี [จุดจบ]
ขาเล็กก้าวเดินไปเรื่อยๆ ปากเล็กขยับบ่นพึมพำส่งเสียงใสของมาตลอดทาง โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่า.. คนที่เขาไว้ใจให้ร่วมเดินทางมาด้วยนั้นกำลังพุ่งตรงมาหาเขาในไม่กี่วินาทีข้างหน้า..
“อ๊ะ!” แขนเล็กถูกกระชากอย่างแรงจากคนด้านหลัง ร่างบางถูกเหวี่ยงจนหลังของเขากระแทกเข้ากับอกแกร่ง ลำแขนข้างหนึ่งของอีกฝ่ายได้ยกขึ้นมาล็อคคอของเขาเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็กำข้อมือเล็กทั้งสองไว้อย่างแน่นหนาราวกับโดนเชือกมัดก็ไม่ปาน
“โดยองนายจะทำอะไร!” ร่างเล็กที่ตะโกนถามออกมาอย่างตกใจพร้อมกับออกแรงดิ้นอย่างสุดกำลัง แต่ก็ไม่เป็นผลเนื่องจากขนาดของร่างกายที่แตกต่างกันมากเกินไป
“ผมรู้ว่าคุณแอบดูอยู่รุ่นพี่คิม รุ่นพี่เป็นคนทำลายตัวตัดสัญญาณของผมใช่มั้ย” คนด้านหลังไม่ตอบคำถามเขา แต่กลับตะโกนออกมาราวกับกำลังสนทนากับใครบางคน..
สิ้นเสียงของอีกคนเพียงไม่นาน ร่างแกร่งของใครบางคนที่เขารู้จักเป็นอย่างดีได้กระโดดลงมาจากข้างบน เมื่อจองอินเห็นดังนั้นก็ออกแรงดิ้นอีกครั้งพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง
“พี่อูจิน!! ช่วยจองอินที!!” รุ่นพี่ที่เขาขอความช่วยเหลือพยักหน้าให้เขาก่อนจะหันไปเจรจากับบุคคลที่กำลังจับตัวเขาเอาไว้ “นายต้องการอะไรชเว โดยอง” ถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งต่างจากปรกติ ทำเอาจองอินที่คุ้นเคยกับคนตรงหน้ายังต้องเกรง
“รุ่นพี่นี่ยังเก่งเช่นเคยนะครับ จับได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าผมติดมันเอาไว้”
“หลังจากเริ่มการแข่งขันไม่นานหรอก นายน่ะ.. ยังเข้าใจเทคโนโลยีได้ไม่ดีเท่าที่ควรเลยนะโดยอง” ตอบกลับอีกฝ่ายแทบจะในทันที คิม อูจินดูท่าทีจะไม่กลัวอีกฝ่ายเลยแม้ว่าจะมีควีนเป็นตัวประกันอยู่ก็ตาม เป็นบุคคลที่อันตรายไม่แพ้เหล่าคิงจริงๆ..
“ผมไม่มีธุระกับรุ่นพี่ ผมแค่ขอเจ้าจิ้งจอกไปขัดดอกแค่นั้น”
“เลยจะลักพาตัว? ตัดสัญญาณทุกอย่างไม่ให้ตามตัวได้? พาหนีไปทางที่พ้นจากกล้องวงจรปิด?” อูจินหยุดคำพูดไว้เพียงแค่นั้นก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กน้อย
“พะ..พี่..” จองอินส่งเสียงเรียกคนอายุมากกว่าตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ลำคอเล็กที่ถูกอีกฝ่ายล็อคตอนนี้มันถูกกดลงมาเรื่อยๆจนเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก ใบหน้าที่เคยขาวตอนนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงกระจายซ่านทั่วใบหน้า อูจินที่เห็นปฏิกริยาของคนตัวเล็กจึงเริ่มโมโห ร่างแกร่งเตรียมพุ่งตรงไปยังอีกฝายแต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเจ้าของแขนแกร่งที่กำลังล็อคคอคนตัวเล็กขยับลำแขนเข้าไปแน่นขึ้นพร้อมกล่าวข่มขู่
“ถ้าพี่เข้ามา จิ้งจอกตัวนี้ได้ขึ้นสวรรค์แน่ๆ”
“ทำไมนายต้องลักพาตัวให้ยุ่งยาก แค่นายจับสร้อยนายก็ได้จองอินเป็นทาสแล้ว”
“จองอินไม่ใช่เพียงแค่ควีนในโรงเรียนนี้ แต่ยังเป็นถึงคนโปรดของตระกูลคิม คิดว่าถ้าจองอินโดนลักพาตัวไป คนของตระกูลนั้นจะไม่รีบแจ้นกันเลยหรอ..” กล่าวขึ้นพร้อมกับเหยียดยิ้มออกมาอย่างน่ารังเกียจ
จองอินตอนนี้ที่สติเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ลมหายใจที่เริ่มแผ่วเบาลงเต็มที ในใจตอนนี้คิดแต่เพียงว่าของให้ซึงมินมาให้เร็วที่สุด.. ซึงมินต้องมาช่วยเขา.. เปลือกตาทั้งสองตอนนี้เริ่มปิดลงเต็มที ภาพทุกอย่างเริ่มพร่ามัว
คนขาดอากาศหายใจมันเป็นแบบนี้นี่เอง..
“ปล่อยจองอินซะ ถ้าไม่อยากตาย” ก่อนที่ภาพจะตัดไป นี่คือเสียงสุดท้ายที่เขาได้ยิน เสียงที่เขาคุ้นเคยและชอบรำคาญมันทุกครั้งที่เอ่ยชื่อเขา..
“ซะ..ซึงมิน.. ชะ..ช่ว..ย ด้วย..”
.
และนั่น..
.
เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขารับรู้ได้…
.
ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงไป..
“ถ้ายังไม่ปล่อย ภายในสามวินาที แผ่นหลังของนายจะถูกชำแหละโดยฝีมือของฉันเอง” พูดจบเจ้าตัวก็กดปลายมีดลงที่แผ่นหลังกว้างอย่างเบามือ ซึงมินหยุดการกระทำไว้เพียงแค่นั้นก่อนจะนับถอยหลังเพื่อให้โอกาสคนตรงหน้า
“สาม”
“กฎคือห้ามพกอาวุธไม่ใช่หรอครับคุณคิง..” คนตรงหน้าเขายังคงไม่ปล่อยร่างบาง แต่กลับพูดจายียวนกวนประสาทแทน
“สอง” ซึงมินยังคงนับต่อโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น พร้อมกับมือหนาที่ตอนนี้ค่อยๆเพิ่มแรงกดลงไป “โอ้ย!”
ฟรึ่บ!
ทันทีที่ความเจ็บแปล๊บเเล่นเขายังเส้นประสาทไขสันหลัง โดยองจึงรีบปล่อยคนตัวเล็กออกจากวงแขนทันที เพราะคิงคือบุคคลอันตรายที่ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ทั้งสิ้น.. เขาจึงไม่อยากที่จะเสี่ยงไปมากกว่านี้ ทันทีที่เขาปล่อยคนตัวเล็กลงกับพื้น หัวของเขาก็กระแทกเข้ากับของแข็งบางอย่างจากคิงผู้อยู่ด้านหลัง ยังไม่ทันได้ตกใจอะไรดีหมัดหนักๆถูกอัดเข้าหน้ามาอีกเป็นสิบ.. กลิ่นคาวเลือดคละคุ้งไปทั่ว ความเจ็บที่ได้รับบัดนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นความชาทั่วไปทั้งตัว ตาสองข้างที่เริ่มปิด โลกสีดำเริ่มเข้ามาแทรกแซงจนในสุด.. เขาก็ไม่รับรู้อะไรอีก..
คิม อูจินรีบวิ่งไปรับร่างเล็กที่ร่วงลงไปนอนกองอยู่กับพื้น ก่อนจะจับอีกคนขยับออกมาจากคิงซึงมินที่ตอนนี้กำลังกระหน่ำหมัดหนักๆอย่างบ้าคลั่ง มือหนายื่นไปอังจมูกอีกคนเพื่อวัดการหายใจ เมื่อเช็คว่าควีนทิศใต้ปลอดภัยจึงรีบรุดไปห้ามคิงที่ตอนนี้ยังคงกระหน่ำหมัดไม่หยุด แม้ว่าร่างของคนที่โดนกระทำจะแน่นิ่งไปแล้วก็ตาม
“คิงพอ!”
“ไม่! มันต้องไม่ได้ตายดีแน่!!”
“จองอินปลอดภัยแล้ว!! แล้วถ้าจองอินรู้ว่าคิงทำแบบนี้ต้องไม่พอใจมากแน่ๆ!!” ได้ผล.. ซึงมินชะงักหมัดค้างกลางอากาศก่อนจะซัดหน้าด้วยหมัดหนักๆอีกครั้งเป็นการทิ้งท้าย ร่างสูงรีบลุกขึ้นมาหาคนตัวเล็กที่นอนนี้นอนแน่นิ่งอยู่
“จองอิน!” เอ่ยเรียกเสร็จก็อุ้มอีกคนขึ้นทันที
“ฉันจะพาจองอินไปบ้านซิสเตอร์ก่อน ที่เหลือฝากจัดการด้วย” ออกคำสั่งกับอีกคนเสร็จก็อุ้มร่างบางออกไปในทันที เมื่อเห็นดังนั้นอูจินจึงกลับมาจัดการกับร่างที่มีรอยเลือดเต็มใบหน้า มือหนาล้วงโทรศัพท์พร้อมกับกดโทรออกไปยังเหล่าไนท์เพื่อตามมาเก็บซากสิ่งมีชีวิตไปยังห้องมืดของหอทิศใต้..
♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣『4 K i n g s 』♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣
ทางอีกด้านที่ตอนนี้กำลังวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ขาเจ้ากรรมที่จู่ๆทรุดลงทำคนตัวเล็กไถลไปกับพื้นจนเกิดบาดเเผลขึ้นเล็กน้อย มือเล็กค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นช้าๆก่อนจะค่อยๆเริ่มออกตัววิ่งอีกครั้ง แต่เนื่องจากขาที่เจ็บทำให้เขาวิ่งได้ช้าลงกว่าเดิม
“จะหนีไปไหน!! ฉลาดนักใช่มั้ย!!”
เสียงของอีกฝ่ายที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆทำเอาหัวใจของเขาเต้นรัวราวกับมันกำลังจะระเบิดออกมา สายลมที่จู่ๆพัดเข้ามาอย่างแรงจากอีกด้านหนึ่ง ทำให้ชางบินเปลี่ยนเส้นทางไปทางด้านนั้น ขาเล็กวิ่งไปเรื่อยๆจนเขาเริ่มรู้สึกถึงความเย็นจากสายลมที่พัดเข้ามา ระหว่างที่วิ่งนั้นเขาได้เห็นอะไรบางอย่างจนทำให้เขาต้องชะงักฝีเท้าไว้เพียงแค่นั้น ตากลมจ้องไปยังเงาดำๆด้านหน้าที่ปรากฏขึ้น เหมือนเจ้าของเงานั้นจะรู้ว่าเขามองอยู่ คนคนนั้นค่อยๆยกมือขึ้นก่อนจะชี้ที่อีกด้านเป็นเชิงบอกให้เขาไปเส้นนั้น ระหว่างที่กำลังตัดสินใจว่าจะไปตาามทางที่คนคนนั้นได้ชี้บอกอยู่นั้น เสียงของคนที่กำลังไล่ล่าเขาก็ดังขึ้นมา ชางบินจึงตัดสสินใจวิ่งไปตามทางที่เจ้าของเงาดำนั่นบอกโดยที่เขาไม่ลืมที่จะโค้งเป็นการขอบคุณอีกฝ่าย
“บริเวณนี้ไม่ใช่ที่ที่นายคู่ควร”
เสียงของใครบางคนผ่านไปหูเขาไป เสียงนั้นเบาราวกับสายลม ความหนาวเย็นที่ออกจะทำให้เขาขนลุกพัดมาก่อนจะปรับเป็นอุณหภูมิปรกติ ชางบินเอะใจได้ถึงอะไรบางอย่างจึงหันกลับไปยังที่ที่มีเงาปรากฏอยู่เมื่อครู่ ปรากฏเป็นภาพที่ทำเอาชางบินช็อคจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ภาพที่เขาเห็นคือเงาดำๆนั่นค่อยๆสลายหายไปตามสายลมต่อหน้าต่อตาของเขา..
เขาไม่ได้ตาฝาด..
สติชางบินตอนนี้ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จากที่กำลังวิ่งหนี บัดนี้เขาได้นั่งทรุดอยู่กับพื้น ดวงตาเบิกโตค้างเติ่ง ขาที่แข็งเกินกว่าจะขยับได้ปรกติ รวมถึงหูของเขาที่ตอนนี้อื้ออึงจนไม่ได้ยินเสียงของใครบางคนที่กำลังเข้ามาหาเขา..
ฮยอนจินที่วิ่งตรงมายังตำแหน่งของคนตัวเล็กทันทีที่เขาได้ข้อมูลมาจากไนท์คนสนิทที่คอยดูกล้องหาตำแหน่งของพาร์ทเนอร์ให้ เมื่อเขามาถึงก็ต้องตกใจเมื่อคนตัวเล็กกลับนั่งนิ่งไม่มีการขยับใดๆทั้งสิ้น..
“ชางบิน!! ลุกมาหาฉันเดี๋ยวนี้!!” ไม่ได้ผล.. คนตัวเล็กยังคงไม่มีการขยับใดๆทั้งสิ้น
“โถ่เว้ย!!” ฮยอนจินสบถออกมาด้วยความหัวเสียก่อนจะรีบพุ่งออกไปหาคนตัวเล็กอย่างรวดเร็วก่อนที่คนที่กำลังไล่ล่าพาร์ทเนอร์คนสำคัญของเขาจะได้มีโอกาสเข้าถึงตัวชางบินได้ก่อน
“นะ..นาย.. นาย!!!” ทันทีที่ฮยอนจินเข้าไปกอดคนตัวเล็กไว้ เหมือนอีกคนจะพึ่งรู้สึกตัว เสียงหวานร้องตะโกนขึ้นก่อนจะรีบวาดแขนกอดคนตัวสูงกลับในทันที ใบหน้าเล็กซุกเข้าไปที่อกแกร่ง
“ไม่เป็นไรนะ ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว..” พูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนพร้อมกับมือหนาที่ค่อยๆลูกหัวกลมเบาๆ
“ค..คิง..”
“ฉันให้เวลานาย 5 วินาที รีบไปให้พ้นหน้าฉันซะ แล้วฉันจะไม่คิดบัญชีกับสิ่งที่นายทำกับพาร์ทเนอร์ของฉันในวันนี้” กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวเช่นเคย ยังไม่ทันที่ฮยอนจินจะได้เริ่มนับ จองโมก็รีบวิ่งหนีไปในทันที เจ้าของอ้อมกอดหันกลับมาหาคนตัวเล็กที่ตอนนี้ยังคงกอดเขาแน่น ใบหน้าหวานที่ยังคงจมอกของเขา
“กลัวมากเลยหรอ ฉันขอโทษนะ” กล่าวจบก็ก้มลงจูบที่กลุ่มผมนั่นเบาๆ ก่อนจะเอาคางเกยไว้ที่หัวของอีกคน ทั้งคู่นั่งกอดกันอยู่สักพักหัวทุยก็ขยับเงยหน้าขึ้นมา พร้อมกับส่งเสียงออกมาอย่างดูรีบร้อน
“นะ..นาย! เมื่อกี้! เมื่อกี้ฉะ..ฉะฉันเห็น!” ดวงตาที่เบิกกว้าง ปากเล็กที่ขยับดูติดๆขัด ทำให้คิ้วเข้มของฮยอนจินถึงกับขมวดเข้าหากันแน่น “เห็นอะไร?” เอ่ยถามอีกคนด้วยความสงสัย
“ผะ..ผี! ฉันเห็น! ฉันกลัว!! ไม่เอาแล้วฉันอยากออกไปจากตรงนี้!!” มือเล็กกำเสื้อของเขาเอาไว้ก่อนจะออกแรงเขย่าอย่างเเรง “นายไม่ได้กลัวจองโมหรอ?” ร่างเล็กนิ่งทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น ก่อนจะขยับหัวชะโงกไปมองข้างหลังเขาอย่างกับกระต่ายกำลังดมกลิ่นด้วยความสงสัย
“แล้วหมอนั่นไปไหนแล้วล่ะ” กล่าวถามออกมาเมื่อเห็นว่าไม่มีบุคคลคนนั้นปรากฏอยู่ใกล้ๆบริเวณ
“นายนี่นะ.. เดี๋ยวฉันพาไปพักที่บ้านซิสเตอร์ เอาเสื้อไปใส่ไว้ด้วย” ร่างสูงถอดเสื้อของตนให้คนตัวเล็กใส่ เมื่อชางบินเห็นดังนั้นจึงรีบคว้ามาสวมไว้ในทันที ฮยอนจินค่อยๆโน้มตัวลงช้อนคนตัวเล็กขึ้นมา แต่ก็ต้องรู้สึกขัดใจอีกครั้งที่คนในอ้อมอกของเขากลับดิ้นพล่าน
“ปล่อย! ฉันเดินเองได้หน่า”
“ฉันเดินไม่รอคนเจ็บนะ นายอาจจะโดนฉันทิ้งไว้กลางทางให้อยู่กับคนคนนั้นที่นายเจอก็ได้” ฮยอนจินพูดกรอกใส่หูอีกคนเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ ชางบินที่ได้ยินเช่นนั้น จึงร้องตะโกนออกมาพร้อมกับมือทั้งสองที่เกี่ยวรอบคอแกร่งไว้แน่นราวกับว่ากลัวอีกคนจะหายไป ฮยอนจินขำให้กับท่าทางนั้นก่อนจะเริ่มอุ้มอีกคนออกไปในทันที..
♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣『4 K i n g s 』♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣
“หนักมั้ย ให้ฉันเดินเองก็ได้” ร่างเล็กเอ่ยถามอีกคนที่กำลังอุ้มเขาอยู่ ฮยอนจินก้มลงมามองเขาก่อนจะเงยหน้ามองทางอีกครั้ง เขาไม่ได้ตอบอะไร ชางบินที่ตอนนี้รู้สึกเกรงใจอีกคนเป็นอย่างมากที่ต้องแบกเขาเดินมาตลอดทาง
“นายเคยรู้สึกมีความสุขในสิ่งที่ทุกคนมองว่ามันไม่ได้สำคัญขนาดนั้นมั้ย?” จู่ๆเจ้าของร่างสูงก็เอ่ยถามเขาออกมาด้วยประโยคแปลกๆ ชางบินมองใบหน้าของอีกคนที่เขาไม่สามารถคาดเดาอีกฝ่ายได้ว่าคิดอะไรอยู่
“ฉันน่ะ มีหลายอย่างที่วาดฝันเอาไว้แต่ยังไม่เคยได้ทำแม้สักนิด” ฮยอนจินพูดพร้อมกับค่อยๆวางเขาลง พื้นที่โดยรอบเป็นแนวป่าไม่ปลอดโปร่งไม่ทึบจนเกินไป ด้านหน้าเป็นหน้าผาสูง มองออกไปเห็นดวงจันทร์ที่มีดาวขนาบข้างเรียงกันสวยงามทั่วท้องฟ้า มือหนาจับมือเล็กพร้อมกับค่อยๆดึงอีกคนให้มานั่งลงข้างๆตน
“สวยมั้ย” จู่ๆคนข้างๆก็ถามขึ้นอีกครั้ง ชางบินพยักหน้าตอบอีกคนพร้อมกับสายตาที่จ้องมองไปยังบนท้องฟ้าตามอีกคน
“ถ้าวันไหนได้เข้าป่าช่วงเย็นแล้วไม่มีธุระต่อ ฉันจะชอบมานั่งตรงนี้แหละ เหมือนกับฉันได้ระบายความในใจให้คุณแม่ได้ฟัง” คนตัวเล็กฟังอีกคนที่พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนลงกว่าที่เขาเคยเจอ.. เป็นน้ำเสียงที่ดูเหนื่อยแต่ก็ดูผ่อนคลาย
“ชีวิตฉันมีคนมากมายที่พร้อมจะให้ฉันได้ทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิต ทำให้ในหลายๆครั้งฉันเอาแต่ใจ ไม่เคยห่วงใครแม้แต่นิด” ฮยอนจินหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะกำมือของเขาไว้แน่น
“วันนี้นายเป็นคนแรกนอกจากคนในครอบครัวที่ทำให้ฉันรู้สึกเป็นห่วงอย่างมากจนฉันรู้สึกโทษตัวเองที่ดึงนายเข้ามาทำอะไรแบบนี้” ใบหน้าหวานหันขวับมาทางร่างสูงทันที ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ ซ้ำยังหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะนั่นอีก ไม่ได้นะชางบิน.. นายจะหวั่นไหวไม่ได้นะ..
“ในหลายๆครั้งฉันรู้สึกว่านายไม่ได้ทำเพื่อฉัน แต่นายทำเพื่อพ่อของนาย มันทำให้ฉันได้รู้ว่ายังมีคนที่ไม่ได้พร้อมจะให้ฉันในทุกๆอย่างแบบนั้นอยู่ มันทำให้ฉันรู้สึกอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อให้นายสนใจฉัน มองแค่ฉัน และทำเพื่อฉันบ้าง” พูดจบก็หันมามองใบหน้าที่เหมือนกระต่ายนั่นทันที รอยยิ้มน้อยๆที่ปรากกฏขึ้นบนใบหน้าของอีกคนที่น้อยครั้งจะได้เห็นทำเอาหัวใจชางบินถึงกับกระตุกวูบ นัยน์ตาคมที่จ้องลึกมายังตาของเขาทำเอาเขารู้สึกเหมือนต้องมนต์สะกด..
“เป็นกระต่ายของฉันคนเดียวนะชางบิน”
พูดจบคนตัวสูงก็โน้มใบหน้าลงมาหาใบหน้าเล็ก ชางบินไม่มีทีท่าที่จะถอยหนีอีกคนเช่นทุกครั้ง มือหนายกขึ้นมารั้งท้ายทอยของอีกคนไว้ พร้อมกับริมฝีปากหนาที่เข้ามาประกบริมฝีปากบาง ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปยังในโพรงปากเล็กพร้อมกับควานชิมความหวานรอบโพรงปากอย่างเชื่องช้า ลิ้นทั้งสองเกี่ยวกันไปมาราวกับมันกำลังหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน ร่างกายของคนตัวเล็กที่เริ่มอ่อนระทวยเริ่มทิ้งน้ำหนักลงจนคนตัวสูงรู้สึกได้ แขนแกร่งข้างที่ว่างรีบยกประคองคนร่างเล็กเอาไว้ก่อนจะค่อยๆปล่อยอีกคนให้นอนราบลงพื้นในขณะที่ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงประกบจูบกันอย่างไม่ลดละ..
“ดูท่าคงไม่ต้องเป็นห่วงแล้วมั้งครับคุณหนู” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบาๆข้างใบหูเล็กของคนตัวเล็กที่กำลังแอบดูคิงตะวันตกกับกระต่ายของเขาอยู่ ฟิลิกซ์สะดุ้งขึ้นด้วยความตกใจจนเกือบจะเผลอร้องออกมาแต่ก็มีมือหนาของอูจินมาปิดเอาไว้ก่อน
“ชู่วส์” ฟิลิกซ์มองหน้าอีกคนด้วยความตกใจ อูจินที่ขำกับท่าทางของคุณหนูของตนก็อดขำในความน่าเอ็นดูนั้นไม่ได้ แต่เขาก็ไม่อยากเป็นพวกโรคจิตแอบดูคนสวีทกันเท่าไหร่หรอกนะ นึกได้ดังนั้นจึงทำท่าบอกอีกคนให้ออกจากตรงนี้ ซึ่งคนตัวเล็กก็พยักหน้ารับเป็นเชิงเข้าใจก่อนทั้งคู่จะพากันออกไป..
ชางบินตอนนี้ที่เริ่มหมดอากาศหายใจก็เริ่มส่งเสียงประท้วงออกมา มือเล็กทั้งสองข้างยกขึ้นมาดันอกแกร่งของอีกคน ฮยอนจินจึงผละออกไปก่อนจะมองคนตัวเล็กที่ตอนนี้นอนหอบอยู่ด้านล่างพร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีอย่างมีความสุข
“ก..กลับเถอะ”
“ฉันว่าอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อย”
“อย่ามาทะลึ่ง!” ตะโกนใส่อีกคนพร้อมกับมอบฝ่ามือไปหนึ่งที แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สะทกสะท้านอะไรกลับหัวเราะชอบใจแทนซะงั้น ฮยอนจินขยับตัวขึ้นไปนั่งยองๆพร้อมกับหันมาหาเขา
“มาขี่หลังเร็ว เราต้องเดินอีกไกล”
“แต่ฉันเดินเองได้”
“งั้นฉันไปไม่รอนะ ระวังนาย..”
“ไปๆๆๆ! ไปแล้ว!” ร่างเล็กที่รีบวิ่งมาขึ้นหลังร่างสูงในทันทีทำเอาคนเตรียมแบกเกือบจะล้มเนื่องจากตั้งตัวไม่ทัน ฮยอนจินยกอีกคนขึ้นก่อนจะเริ่มออกเดินอีกครั้ง
“สร้อยนั่น.. ถือว่านายเป็นกระต่ายของฉันแล้วนะ” ชางบินที่ได้ยินดังนั้นจึงยกมือขึ้นมาคลำสร้อยแต่ก็ต้องตกใจเมื่อลักษณะของจี้นั้นเปลี่ยนไป..
“สร้อยนี่มัน.. มงกุฏกับหอกไขว้..
“สัญลักษณ์ของตระกูลฉันเองล่ะ”
♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣『4 K i n g s 』♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣♣
ความคิดเห็น