ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Shot Fic] Puzzle Rooms ☃[All]

    ลำดับตอนที่ #20 : [SF] You're my baby ::SEOKSOON::{17TEEN}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 65
      0
      26 ม.ค. 57


















    เฮ้ยย !! พวกมึงทำอะไรกันหน่ะ ปล่อยเด็กมันนะเว๊ย


    พะ พี่ซูนยอง


    เจ้าเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ยืนตัวสั่นพลัก ๆ อยู่กลางวงล้อมร้องเรียกชื่อผมออกมาเบา ๆ

     

    ลี ซอกมิน นี่นายอีกแล้วเหรอเนี่ย ?!

     

    กูบอกให้ปล่อยมัน !”


    พวกกูไม่ปล่อย ! มึงจะทำไม


    ทำไมหน่ะเหรอ ?! ก็ทำอย่างนี้ไงหล่ะ


    ว่าแล้วผมก็ไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้าไปหาพวกมันทันที เราทั้งสองกลุ่มกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นานจนในที่สุด ...

     

    ฝ่ายของผมก็เป็นผู้ชนะ


     เหมือนกับที่ผ่าน ๆ มา ….

     

    ขะ ขอบคุณครับ


    เจ้าเด็กนั่นมันยกมือขึ้นไหว้ผมปรก ๆ พร้อมกับใบหน้าหล่อ ๆ ของมันที่ซีดเซียวจนแทบจะเป็นกระดาษ ผมรีบยื่นมือออกไปปัดมือมันทิ้งก่อนจะจ้ำอ้าวออกไปด้านหน้าทันที


    ฉันบอกนายกี่ครั้งแล้วว่าห้ามกลับบ้านคนเดียว รอฉันแค่นิดเดียวจะตายหรือไง


    ผมโผล่งออกมาอย่างหัวเสียทันทีที่รู้สึกถึงร่างสูง ๆ ของอีกคนที่วิ่งเข้ามาเดินดุ่ม ๆ อยู่ข้าง ๆ

     

    ผมไม่ได้โกรธมัน ...


    ใช่ ! ผมแค่เป็นห่วง เป็นห่วงเด็กน้อยที่ไม่มีทางสู้  ที่มีศักดิ์เป็นถึงเพื่อนบ้านกิตติมศักดิ์ของแม่ผม

     

    ผะ ผมขอโทษ


    เลิกพูดคำว่าขอโทษซักที ลี ซอกมิน นายคิดบ้างไหมว่าถ้าวันนี้พวกฉันไม่เดินไปเจอมันจะเกิดอะไรขึ้น นายก็จะโดนพวกมันซ้อมเหมือน

    ที่ผ่าน ๆ มาไง แล้วคนที่ซวยที่สุดจะเป็นใครหล่ะ ถ้าไม่ใช่ฉัน


    ผะ ผมขอโทษครับ


    ฉันบอกแล้วไงหล่ะว่าอย่าพูดคำว่าขอโทษ !!”


    ผมหันไปตวาดเสียงกร้าวใส่มันอย่างเหลืออด  ซอกมินมันสะดุ้งตัวขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับหยดน้ำเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ ไหลลงมาจากดวงตาทั้งสองข้างของมัน ...

     


    อีกแล้วงั้นเหรอ ?


     

    ผะ ผมขอโทษ


    อะ เอ่อ โอเค ๆ ขอโทษก็ขอโทษฉันไม่โกรธนายแล้วน้า


    ผมรีบคว้าตัวมันเข้ามากอดเบา ๆ พร้อมกับยกมือขึ้นไปลูบผมมันเชิงปลอบโยน


     ให้ตายเหอะ !! รุ่นพี่ควอน  ซูนยองสุดมาดแมนแฮนด์ซั่มแห่งโรงเรียนมาซอก ต้องมายืนกอดผู้ชายอยู่กลางถนนแบบนี้


     

    มันใช่ที่ไหนกันเล่า !

     


    เลิกร้องได้แล้วนะ ปะ กลับบ้านกันเหอะ


    ผมรีบผละออกจากมันทันทีที่รู้สึกถึงแรงสะอื้นที่เบาลงจนกลายเป็นศูนย์

     

    อย่าเงยหน้าขึ้นมามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นสิซอกมิน  ฉันไม่ใช่แม่นายนะเฮ้ย

     

    ผมรักพี่ที่สุดเลย


    เจ้าเด็กนั่นมันปล่อยโฮ ก่อนจะกระชากตัวผมเข้าไปกอดอีกที


     

    รักงั้นเหรอ ?  เหอะ เด็กอายุ 13 อย่างนายมันจะรู้จักคำว่ารักได้ยังไงกัน ลี ซอกมิน

     

     

     

     

     

     
     

    งือออ~ ~  ”


    ตื่นแล้วเหรอครับ


    สิ้นเสียงทุ้มหนักที่คุ้นเคยก็คือแรงกดเบา ๆ จากริมฝีปากของใครบางคนที่กดลงมาบนหน้าผากของผม ผมค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาช้า ๆ เพื่อมองหาเจ้าของจุมพิตหวาน ๆ นั่นทันที

     

    ลี ซอกมิน  คงต้องเป็นนายอยู่แล้วสินะ

     

    อะ อื้ม


    พี่ยังไม่ต้องลุกก็ได้ครับ วันนี้ผมคงทานอาหารเช้าไม่ทัน พอดีทางบริษัทเรียกประชุมด่วนหน่ะครับ


    อ้าวเหรอ ทำไมนายถึงไม่รีบปลุกฉันหล่ะ แล้วนี่ไม่ทานข้าวเช้าแล้วนายจะเอาแรงที่ไหนไปประชุม


    ผมเอ่ยดุเด็กน้อย เอ๊ย ไม่ใช่สิ ชายหนุ่มที่กำลังยืนผูกเนคไทอยู่ปลายเตียงเบา ๆ   ซอกมินเงยหน้าขึ้นมาส่งมายิ้มเล็ก ๆ ให้ผมก่อนจะเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับขโมยหอมแก้มนุ่ม ๆ ของผมไปฟอดใหญ่

     


    ให้มันเป็นแบบนี้ทุกทีสิหน่า ไอเด็กบ๊องงง

     


    แค่นี้ผมก็มีแรงแล้ว


    ไม่ตลกนะซอกมิน


    ผมเงยหน้าขึ้นไปส่งสายตาที่แฝงไปด้วยความจริงจังไปให้คนที่ยืนอมยิ้มกริ่มตรงหน้า


     

    นายอ่อนแอแค่ไหน หัดรู้ตัวสะบ้างสิ จะให้ฉันเอาแต่คอยปกป้องนายเหมือนเมื่อก่อน มันเป็นไปได้หรอกนะ

     


    โธ่ พี่ซูนยอง ลี ซอกมินคนนี้โตขึ้นเยอะแล้วนะครับ


    แต่นายก็ยังเด็กกว่าฉันอยู่ดี เด็กต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่มันต้องเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรือไง


    ผมเอ่ยบอกคนตรงหน้าอย่างเป็นต่อก่อนจะค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นไปดึงเนคไทที่ถือคาอยู่ในมือคนชอบโอ้เอ้มากำไว้เบา ๆ


    ไม่ต้องมายิ้มเลย ถ้าขืนปล่อยให้นายผูกเองอยู่แบบนี้ วันนี้ก็ไม่ต้องไปประชุมกันพอดี


    ผมรีบเอ่ยปรามคนที่กำลังส่งรอยยิ้มแปลก ๆ มาให้ผม ซอกมินส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ ผมกับใบหน้าหล่อคมที่ฉายแววแห่งความ
    สุขออกมาได้อย่างชัดเจน

     


    ผมไม่ได้คิดไปเองนะ  ซอกมินมักจะเป็นแบบนี้เวลาอยู่กับผม


    แค่ผมคนเดียวเท่านั้น


     

    วันนี้ผมอยากกินกิมจิชีเกจัง


    อื้ม เดี๋ยวฉันทำไว้ให้


    ต๊อกโบกีด้วย


    .......................


    แล้วก็คีบับ บะมี่ดำ ไก่ตุ๋นโสม .... 


    นี่ ! ฉันไม่ได้เป็นคนใช้นายนะ


    ผมรีบผลักหน้าอกหนา ๆ ของคนชอบกวนประสาทออกไปให้ไกลตัว ซอกมินส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมกับมือหนาที่เลื่อนออกมาโอบรอบเอวของผมเอาไว้อย่างที่เคยเป็น ผมรีบเบือนหน้าหนีเจ้าเด็กขี้แกล้งตรงหน้าทันที


    พี่ไม่ได้เป็นคนใช้ของผมหรอก พี่หน่ะเป็นทุกอย่างของผมต่างหาก


    เหอะ  ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย ไปทำงานได้แล้วไป


    ผมรีบดึงตัวเองออกมาจากอ้อมกอดอุ่น ๆ ของเจ้านั่นก่อนจะเผ่นแนบเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ค่อย ๆ ยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นมาวางทาบลงบนหัวใจที่กำลังเต้นกระหน่ำราวกับเสียงรัวกลอง ผมค่อย ๆ สูดหายใจเข้าไปลึกพร้อมกับความรู้สึกร้อยวูบที่เวียนวนอยู่บนใบหน้าของผม


     

    มันนานเกินไปแล้ว  เวลาที่เราคบกันมันนานเกินกว่าที่ฉันต้องมาเขินนายแบบนี้แล้วใช่ไหม  ลี ซอกมิน

     

     

     

     

     

     

     

    พี่ ซูนยองไอติมครับ


    อื้ม ขอบใจ


    ผมรีบรับไอติมรสวานิลารสโปรดของผมมาจากเด็กตัวน้อยตรงหน้าก่อนจะจัดการโซยมันเข้าปากอย่างรวดเร็ว ซอกมินมันแอบพ่นเสียง
    หัวเราะเบา ๆ ออกมาทันทีที่ผมจัดการซากอาหารในมือจนหายวับไปกับตาเรียบร้อยแล้ว

     


    เหอะ !! ถึงนายจะอดกลั้นมันแค่ไหนฉันก็ได้ยินมันอยู่ดีแหละหน่า ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย !!


     

    หัวเราะอะไร


    เปล่าครับ


    อย่ามาทำตัวเป็นเด็กขี้โกหก นายอายุ 16 แล้วนะรู้ตัวบ้างหรือเปล่า


    ผมหันไปขู่เข็ญไอ้เด็กข้าง ๆ อย่างเอาเรื่อง ซอกมินมันก้มหน้าลงมาผมผมช้า ๆ ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง ๆ ออกมาแทนคำตอบ


     

    เหอะ !! เอะอะก็ยิ้ม เอะอะก็หัวเราะ ชีวิตนายมันคงมีความสุขมากเลยสินะ ลี ซอกมิน !

     


    รู้สิครับ แล้วผมก็รู้ด้วยว่าปีนี้พี่ก็อายุ 18 แล้ว


    ฉันไม่ได้ถาม


    แล้วพี่ก็กำลังเข้าไปเรียนต่อในเมืองแล้วด้วย


    “…………….”


    ถึงวันนั้นพี่จะลืมผมไหม


    ผมค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงซึม ๆ ที่ยืนส่งสายตาจริงจังมาให้ผมอย่างนึกสับสน


     

    ลืมงั้นเหรอ ?  เราสองคนไม่มีอะไรที่จะต้องจำร่วมกันซักหน่อยนี่ เด็กน้อย

     

    ไม่ลืมหรอก เด็กโข่ง ๆ ขี้งองแงแบบนายหน่ะ ฉันจำได้ไปจนวันตายเลยแหละ


    ผมแกล้งส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมกับยกมือขึ้นไปยีหัวทุย ๆ ของคนที่นั่งก้มหน้างุดอยู่ด้านข้าง ซอกมินค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับส่งสายตาแปลก ๆ มาให้ผม

     

    สายตาแบบนั้นหน่ะ  นายควรจะเก็บไว้มองคนที่นายรักดีกว่านะ

     

    น้องชายหน่ะผมไม่อยากเป็นหรอกนะ


    ....................


    ผมอยากเป็นคนที่พี่รักมากกว่า


    เพ้อเจ้อหน่าซอกมิน ปะ กลับบ้านกันเหอะ เย็นแล้ว


    ผมรีบตัดบทคนด้านข้างก่อนจะยันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ซอกมินมันรีบยื่นมือขึ้นมาคว้าข้อมือผมไปกำไว้แน่น

     


    พอ พอซักทีเถอะ นายอย่าทำให้ฉันคิดเข้าข้างตัวเองไปมากกว่านี้เลย ซอกมิน

     


    พี่ไม่เชื่อผมเหรอ


    .................


    ถ้าอย่างนั้นพี่ก็คอยดูแล้วกัน อีก 2 ปีข้างหน้าผมจะสอบเข้ามหาลัยเดียวกับพี่ให้ได้ แล้วถึงตอนนั้นผมจะไปอยู่กับพี่แล้วผมนี่แหละจะ
    ทำให้พี่รักผมให้ได้


    ....................


    หึ ทำให้ได้ก่อนสิ แล้วเราค่อยคุยกัน


    ผมออกแรงสะบัดมือเจ้าเด็กด้านล่างออกเบา ๆ ก่อนจะสาวเท้าออกไปด้านหน้าทันที


     

    ทำให้ได้นะ  เพราะฉันเองก็กำลังรอนายอยู่เหมือนกัน

     

     

     

     

     

     

     

    กริ๊ง ~ กริ๊ง ~ กริ๊ง ~


    งือออ ~


    ผมค่อย ๆ ส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ ทันทีที่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นตามเวลานัดหมาย


     

    5 โมงครึ่ง ได้เวลาออกเดินตลาดแล้วสิ ~

     


    กิมจีชีเก ต๊อกโบกี คีบับ บะมี่ดำ ไก่ตุ๋นโสม แล้วก็ชับเฉะด้วยดีกว่า


    ผมลงมือลิสต์รายการอาหารที่เตรียมจัดทำเอาไว้รอคุณชายคนเก่งกลับบ้านอย่างอารมณ์ดี จัดการอาบน้ำแต่งตัวแล้วมุ่งหน้าไปยังซุปเปอร์มาร์เก๊ตข้าง ๆ คอนโดอย่างที่เคยทำเป็นประจำ

     


    Rrr Rrrr Rrrrr Rrrrrr ~


    หืมมม ? ”


    ทำอะไรอยู่ครับ


    ออกมาซื้อของทำกับข้าวหน่ะ นายจะกลับหรือยัง


    อะ เอ่อ ~ พี่ซูนยองครับ


    ว่าไง


    วันนี้ ... ผมคงกลับไม่ทันข้าวเย็น


    ...................


    พอดีวันนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับพนักงานใหม่หน่ะ ผมก็เลยต้อง ....


    ไม่เป็นไร ๆ นายจะทานเข้ามาเลยใช่ไหม


    ผมรีบส่งเสียงที่แสดงถึงความเข้าใจออกไปอย่างรวดเร็ว


     

    ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ซอกมินจะต้องมีสังคมของตัวเอง


    และเราสองคนรักกัน  รักกันมากซะจนคำว่าหวาดระแวงไม่สามารถทำอะไรกับความรักของเราสองคนได้อีกต่อไปแล้ว

     


    คะ ครับ


    อื้ม ยังไงก็รีบกลับแล้วกันนะ


    ครับ พี่ซุนยอง ...


    หื้ม


    ผมรักพี่นะ


    อื้ม ฉันรู้แล้วหน่า แค่นี้ละกัน ไปทำงานต่อได้แล้วไป


    ผมรีบตัดสายคนปลายสายพร้อมกับอมยิ้มเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ ผุดขึ้นมาบนริมฝีปากของผมอีกครั้ง


     

    เพราะนายเป็นแบบนี้ไง  เพราะนายเป็นคนแบบนี้ ฉันเลยหนีนายไปไหนไม่พ้นซักที ไอ้เด็กบ้าเอ๊ยยย

     

     

     

     

     

     


    ก๊อก !! ก๊อก !! ก๊อก


    ใครครับ


    .......................


     

     

    ก๊อก !! ก๊อก !! ก๊อก


    ใครครับบ


    ........................

     


    ก๊อก!!   ก๊อก!!  .....


    แกร๊ก !!!

     

    ซะ ซอกมิน ! ”


    สวัสดีครับ พี่ซูนยอง


    นะ นายมาที่นี่ได้ยังไง


    ผมรีบส่งเสียงสั่น ๆ ออกไปถามเจ้าของร่างสูง ๆ ที่ยืนอมกริ่มอยู่หน้าห้องด้วยอารามตกใจ  ใบหน้าหล่อ ๆ ที่มองยังไงก็ไม่เหลือเค้าเจ้าเด็กลี ซอกมินขี้แงของผมเลยซักนิด


     

    ซอกมินดูหล่อขึ้นมาก  หลังจากที่เราไม่ได้ติดต่อกันเลยเป็นเวลา 2 ปีเต็ม


     

    พี่ซูนยองของผมนี่ ดูน่ารักไม่เปลื่ยนเลยนะครับ


    ไม่ต้องมาพูดมาก แล้วจะยืนถืออยู่อีกไหม กระเป๋าหน่ะ


    ผมรีบส่งเสียงแข็ง ๆ ออกไปข่มความร้อนบนใบหน้าที่ค่อย ๆ เพิ่มระดับความร้อนขึ้นมาเรื่อย ๆ


     


    ซอกมินที่เป็นแบบนี้  ผมไม่คุ้นเลยแม้แต่น้อย


     

    พี่เป็นอะไรทำไมหน้าแดงจัง


    เจ้าเด็กตัวสูงมันเอ่ยถามผมเบา ๆ พร้อมกับยื่นมือหนา ๆ ของมันมาจับหน้าผมอย่างถือวิสาสะ  ผมรีบเบือนหน้าหนีมันทันที


    กะ ก็ฉันกำลังโกรธนายอยู่ไง


    เรื่อง ?”


    คนที่บอกว่าอย่าลืมมันคือนายไม่ใช่เหรอ แล้วไอ้ 2 ปีที่เงียบไปแบบนั้นมันคืออะไรกันหล่ะ


    ผมเอ่ยถามคนด้านข้างออกไปด้วยน้ำเสียงแฝงไปด้วยความน้อยใจ ซอกมินค่อย ๆ ขยับเข้ามาหาผมก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนมือมากุมฝ่ามือ
    ของผมเอาไว้เบา ๆ


    ถ้าผมมัวแต่เอาเวลาไปติดต่อพี่ แล้วผมจะเข้ามหาลัยเดียวกับพี่อย่างที่ผมเคยบอกได้อย่างไงหล่ะครับ


    “……………..”


    พี่ซูนยอง ตอนนี้ผมทำในสิ่งที่ผมพูดได้หนึ่งอย่างแล้วนะ


    “…………….”


    ต่อไปนี้ก็เหลือแค่ .....


    ถ้านายจะพยายามทำได้ถึงขนาดนี้แล้วหล่ะก็


    ....................


    อีกอย่างนึงหน่ะ ฉันแถมให้ก็ได้นะ


    ผมเอ่ยพูดออกไปเบา ๆ ก่อนที่ร่างทั้งร่างของผมจะถูกจู่โจมด้วยร่างกายหนา ๆ ของคนด้านข้างอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ผมแอบแย้มยิ้มเล็ก
    ๆ ออกมา ทันทีที่รู้สึกว่าจู่ ๆ หัวใจที่เคยเหี่ยวแห้งของตัวเองก็ถูกสูบฉีดให้พองโตขึ้นมาอีกครั้งด้วยฝีมือของใครบางคน



    ลี ซอกมิน คนที่ผมเอาแต่เฝ้ารอ  เขาเดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าของผมแล้วงั้นเหรอ ?


    ไม่อยากจะเชื่อเลย

     

     

     

     

     

     

     

    ก๊อก !! ก๊อก !! ก๊อก !!


    งืออ ~ ”


    ผมค่อย ๆ ส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาช้า ๆ


     

    เที่ยงคืนครึ่ง ? ใครมันมีธุระกับเขาตอนนี้กัน

     


    ก๊อก!!  ก๊อก!!  ก๊อก !!


    ครับ ๆ มาแล้วครับ


    ผมรีบส่งเสียงออกไปด้านนอกพร้อมจะรีบจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อยแล้วพุ่งไปเปิดประตูออกทันที


     


    คิม มินกยู ? แล้วนั่น ลี ซอกมินอย่างนั้นหน่ะเหรอ ?


     

    สวัสดีครับพี่ซูนยอง ผมเอาซอกมินมาส่งครับ


    อะ เอ่อ เอามาไว้นี่สิ


    ผมรีบจัดแจงเดินไปดึงผ้าปูที่นอนให้เรียบก่อนที่หนุ่มรุ่นน้องที่ทำงานในบริษัทเดียวกันกับซอกมินจะค่อย ๆ วางร่างไร้สติของใครบางคน
    ลงบนเตียงของผม


     

    ซอกมินดื่มจนเมาขาดสติขนาดนี้เชียวเหรอ ? เป็นไปได้ยังไงกัน

     


    ขอบใจมากนะมินกยู นายกลับไปงานได้แล้วปะ เดี๋ยวที่เหลือพี่ดูแลเอง


    ครับ ฝากด้วยนะครับ


    เจ้าเด็กนั่นมันหันมายิ้มแห้ง ๆ ให้ผมก่อนจะรีบจรลีออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว  ผมค่อย ๆ ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะรีบไปต้มน้ำอุ่นเพื่อเอามาเช็ดตัวเจ้าเด็กดื้อที่นอนหลับปุ๋ยไม่เป็นท่าอยู่บนเตียง

     


    เผลอไม่ได้เชียวนะ ฮึ่มมม

     


    อะ อื้อพี่ซูนยอง


    อย่าจับ ให้ฉันเช็ดตัวก่อนสิ


    ผมเอ่ยดุคนที่อยู่ดี ๆก็ ยื่นมือขึ้นมารั้งข้อมือของผมที่กำลังทำท่าจะกดลงไปบนลำตัวร้อน ๆ ของตัวเองเอาไว้เบา ๆ   ซอกมินค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ ก่อนจะออกแรงกระชากตัวผมเข้าไปนอนกอดอย่างสบายอารมณ์


    ปล่อยฉันนะ ให้ฉันเช็ดตัวให้นายก่อนสิ นอนทั้งอย่างนี้เดี๋ยวตื่นมาก็แฮ้งค์หรอก


    หืออ พี่จะเช็ดตัวให้ผมทำไมครับ ผมไม่ได้เมาซักหน่อย


    หา ~ ”


    ผมเผลออุทานออกมาเบา ๆ กับคำพูดแปลก ๆ ที่คนด้านล่างส่งออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูยังไงก็ไม่ใช่คนเมาเลยซักนิด


     

    ซอกมินไม่ได้เมางั้นเหรอ  แล้วทำไม ........

     

    นายไม่ได้เมา


    ผมค่อยผละตัวออกมาจากคนขี้แกล้งช้า ๆ ก่อนใช้สายตาจับผิดส่งไปให้คนที่ค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นพิงกับหัวเตียงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม


     

    ลี ซอกมิน นายนี่มัน ......

     


    ก็ใช่ไงครับ


    แล้วทำไมนายถึง ?”


    ที่นั่นหน่ะน่าเบื่อจะตาย ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยซักนิด ไม่เหมือนที่นี่ ...


    ว่าแล้วเจ้านั่นมันเลื่อนมือหนา ๆ ของมันมาโอบเอวผมเอาไว้เบา ๆ ส่งเสียงหัวเราะเล็ก ๆ ออกมาพร้อมกับกดสันจมูกโด่ง ๆ ลงบนลำคอ
    ของผมอย่างถือวิสาสะ ผมรีบสะดุ้งตัวหนีมันทันที


    ซะ ซอกมิน


    ครับ


    อะ เอ่อ ... ฉะ ฉัน ...


    ผมรีบก้มหน้างุดทันทีที่รู้สึกว่าใบหน้าที่เคยอยู่ในอุณหภูมิปรกติของตัวเองจู่ ๆ ก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างน่ากลัว

     

    ซอกมินกำลังจะทำเรื่องน่าอายกับเขาอีกแล้ว ? ให้ตายเหอะ เขาไม่ชอบอะไรที่มันแบบนั้นเลยจริง ๆ

    ถึงแม้ว่าการทำแบบมันจะทำให้เขารู้สึกดีมากก็เถอะ >/////////<

     


    พี่เขินเหรอ ?”


    ปะ เปล่า


    แบบนี้แสดงว่าต้องเขินแน่ ๆ เลย พี่ซูนยองอา เราทำเรื่องแบบนี้กัยกี่ครั้งแล้วพี่ยังไม่ชินอีกหรอครับ หืมม


    เจ้าเด็กนั่นมันค่อย ๆ ขยับเข้ามาหาผมช้า ๆ ก่อนจะระดมจูบลงบนกลุ่มผมของผมอย่างไม่รู้จักพอ


     


    ให้ตายเหอะ  นายรู้ว่าฉันเขิน แต่นายกลับทำแบบนี้กับฉันเนี่ยนะ ลี ซอกมิน


     

    กะ ก็ฉันก็กำลังพยายามอยู่


    ฮ่า ๆ โอเคครับ ไหนพี่ลองเงยหน้าขึ้นมาสิครับ


    เจ้านั่นมันค่อย ๆ ช้อนคางผมขึ้นมาช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ กดจูบลงบนหน้าผากของผมอย่างแผ่วเบา


    แล้วก็หลับตาลง


    หลับตาเหรอ ?”


    ผมส่งเสียงพูดออกมาเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ปิดตาลงช้า ๆ ตามคำสั่งของคนตรงหน้า


    ส่วนที่เหลือ เดี๋ยวผมจะจัดการเองนะครับ


    สิ้นเสียงทุ้มหนักอันแสนคุ้นเคยก็คือความรู้สึกเปียกแฉะจากริมฝีปากของใครบางคนที่ค่อย ๆ วางทาบลงบนริมฝีปากแห้งผาดของผม ความอบอุ่นที่ครุกกรุ่นไปด้วยความหอมหวานมันคือสิ่งที่ทำให้หลงลืมความเป็นตัวเองไปอีกครั้ง


    ซึ่งคนที่สามารถทำให้ผมเป็นแบบนี้ได้ ก็มีแค่เพียงเขาคนเดียว


    แค่เด็กน้อยที่ชื่อลี ซอกมิน ของผม คนเดียวเท่านั้น ......

     








     

     

     

    B B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×