ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KrisLay] มายชิง ~☆❤

    ลำดับตอนที่ #8 : มายชิง ตอน 08 ::: โต้คลื่น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 757
      8
      26 เม.ย. 57


    [Fic] มายชิง

    ตอน 8: โต้คลื่น

    Fiction by 2nd Admin

     

     


    .

     

    .

     

    .

     

     

    วันนี้เป็นวันแรกที่คริสต้องลงสนามซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ นอกจากสองแสบแฝดมังกรที่เป็นตัวจริง กับอีกสองคนในแก๊งค์ที่ลงเป็นตัวสำรองแล้ว ยังมีคิมวอนซิกจากห้องสอง และคิมกวังยอนรุ่นน้องปีหนึ่ง ซึ่งรายหลังนี้ได้รับคัดเลือกเพราะเคยร่วมทีมกับแชมป์บาสเก็ตบอลระดับมัธยมต้น ดูเหมือนว่าข่าวที่คริสสามารถเอาชนะต้าหลงในเกมส์คัดเลือกได้นั้นจะแพร่ออกไปทั่วทั้งโรงเรียนอย่างรวดเร็วในเวลาวันเดียว เมื่อเช้าตอนที่คริสมาเรียนก็เห็นหลายๆ คนยืนจับกลุ่มคุยกัน พอเขาเดินผ่านก็หันมองมาด้วยสายตาแปลกๆ และเมื่อคริสเดินเข้ามาในโรงยิมเย็นนี้ บนสแตนด์ก็มีคนอื่นๆ อยู่เยอะจนน่าแปลกใจ แต่คนพวกนั้นจะมาทำไม คริสไม่สนหรอก

     

    “นายมาสาย” กับเสียงค่อนขอดจากแฝดผู้พี่ที่เป็นคู่ปรับ เขาก็ไม่สนเช่นกัน

    “แค่ช้า ไม่ได้สาย” เพราะคนอื่นๆ มาที่โรงยิมทันทีหลังเลิกเรียน แต่คริสต้องหาอะไรให้เจ้าตัวเล็กของเขารองท้องก่อน ก็เลยตามมาทีหลัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ได้เริ่มซ้อมกันเสียหน่อย “ฉันต้องทำธุระส่วนตัวก่อน”

    “ธุระส่วนตัว ชิ!” คริสทำเมินเสียงพ่นลมขึ้นจมูกของแฝดผู้น้องแล้วเดินไปที่ที่พักนักกีฬา พยักหน้าแล้วยิ้มให้จุนมยอนที่กำลังจดอะไรลงชาร์ทแล้วก็วางกระเป๋าสะพายลงบนเก้าอี้พร้อมย่อตัวลงนั่ง มองซ้ายมองขวาดีแล้วถึงค่อยล้วงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อ กอบเอาก้อนนุ่มนิ่มเข้ามาไว้ในมือแล้วย้ายไปวางไว้บนกระเป๋า จัดสายที่ห้อยให้เจ้าตัวเล็กนั่งทับไว้เรียบร้อยดีแล้วก็กระซิบบอกเบาๆ

    “นั่งอยู่ตรงนี้นะ อย่าไปซนที่ไหน ถ้าเห็นท่าไม่ดีต้องรีบโดดลงกระเป๋าเลยนะ”

    ชิงน้อยเหล่ตามองแล้วยักคิ้วสองทีแทนคำตอบรับ เล่นเป็นตุ๊กตาห้อยกระเป๋าจะขยับตัวไม่ได้ พูดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะอดดูคริสเล่นบาสฯ เจ้าตัวเล็กจำได้แม่นทุกคำและทำตามเป๊ะๆ จนเด็กหนุ่มตัวโตคลี่ยิ้มด้วยความเอ็นดู ใช้นิ้วปัดหูยาวเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าไปในสนาม

     

    ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่อาจารย์พละศึกษาชั้นปีที่สามเดินเข้ามาในโรงยิมพอดี

    “ครบมั้ยจุนมยอน?”

    “ครบครับ ผมได้คนที่คิดว่าจะลงเป็นตัวจริงได้มาให้อาจารย์เลือก แล้วก็ตัวสำรองอีกสี่คน”

    “โอเค เดี๋ยวมาดูกัน” อาจารย์หนุ่มว่าแล้วหันไปทางสนาม ยกนกหวีดที่ห้อยคอขึ้นมาเป่าสั้นๆ สองครั้ง “เอาล่ะหนุ่มๆ มาเข้าแถวกันได้แล้ว”

    ลูกทีมทั้งหมดเข้ามายืนเรียงแถวกันเป็นหน้ากระดานอยู่ตรงหน้าอาจารย์ตัวสูง พร้อมเพรียงกันดีแล้วถึงได้เอ่ยทักทายอาจารย์พละ

    “สวัสดีครับอาจารย์ซึงฮวาน”

    “สวัสดี ต่อไปนี้ฉันจะเป็นคนมาดูแลการซ้อมให้พวกนาย อยู่ในสนามให้เรียกฉันว่าโค้ช เข้าใจนะ?”

    “เข้าใจครับ”

    “ทำเสียงให้มันแข็งแรงหน่อย!

    “เข้าใจครับ!

    “ดี! ตอนนี้ฉันยังไม่รู้จักพวกนายดีพอ บางคนอาจมีพื้นฐานมาบ้าง บางคนก็มีแค่พรสวรรค์ คงต้องฝึกหนักกันหน่อย แต่เรามีเวลาฝึกซ้อมกันแค่เดือนเดียว ฉันจะยังไม่วางตำแหน่งพวกนายจนกว่าจะสองอาทิตย์หลังจากนี้ ระหว่างนี้พวกนายจะต้องฝึกซ้อมตามตารางอย่างเข้มงวด เริ่มจากวันนี้ก่อนเลย” ซึงฮวานหันไปพยักหน้าให้จุนมยอนซึ่งรับหน้าที่ผู้ช่วยให้ลากลูกกรงใส่ลูกบาสเอาไปไว้ที่กลางสนาม ก่อนจะหันมาสั่งลูกทีมด้วยน้ำเสียงเข้มงวด “เริ่มจากวิ่งรอบสนามคนละห้ารอบ! แล้วมารับลูกบาสไปเลี้ยงรอบสนามอีกสามรอบ ชู้ตใต้แป้นคนละยี่สิบลูก ชู้ตในเขตหัวกะโหลกคนละยี่สิบ แล้วชู้ตสามแต้มคนละสิบลูก ปฏิบัติ!

    “ครับ!

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

                    “ฮ้า~ เหนื่อยจังเลย~” เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงนอนแผ่กางแขนขาบนพื้นหญ้าริมสนามฟุตบอลในสภาพที่แทบหมดแรง แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าหล่อใสก็ยังฉาบไว้ด้วยรอยยิ้มบาง เย็นมากแล้ว นักเรียนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรก็กลับบ้านกันหมด แม้แต่สมาชิกทีมฟุตบอลก็เลิกซ้อมกันหมดแล้ว คริสก็เลยไม่ต้องคอยระแวงว่าใครจะมาเห็นตอนที่เขาพูดคนเดียว พอล้มตัวลงนอน เจ้าตัวเล็กก็คลานออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เอียงคอมองทำตาปริบๆ

                    “คริสเหนื่อยเหรอ?”

                    คริสไม่ตอบ แต่กลับกอบมืออุ้มเจ้าตัวนิ่มมาวางไว้กลางอกแทน

                    “มานี่มา” ลูบปลายนิ้วกับใบหูนุ่มเบาๆ “ชิงสนุกมั้ย?”

                    “สนุกกกก~

                    “ชิงสนุกฉันก็สนุก แต่ฉันต้องซ้อมอีกเป็นเดือน นายต้องเล่นเป็นตุ๊กตาไปอีกนานเลยนะ”

                    “เราชอบเล่นเป็นตุ๊กตา สนุกดี” โคลงหัวด๊อกแด๊กอย่างอารมณ์ดีแล้วก็ถัดก้นเล็กๆ ถอยหลังดุ๊กๆ ไปเรื่อยๆ จนถึงพุงของเด็กหนุ่ม คริสผงกหัวขึ้นมองแล้วเลิกคิ้วเมื่อจู่ๆ เจ้าตัวเล็กก็ทิ้งตัวลงนอนคว่ำหน้ากับพุงของเขา พอคริสหายใจเข้าก็ได้ยินเสียงประหลาด พอหายใจออก สองขาเล็กจ้อยก็ตีรัวๆ บนหน้าท้องเขาแล้วหัวเราะร่า

                    “บู่ววว~ ฮะๆๆๆ บู่ววว~ ฮะๆๆๆ”

                    “เล่นอะไรน่ะ?”

                    “โต้คลื่นไง บู่ววว~ ฮะๆๆๆ” ดูเอาเถอะ เห็นพุงเขาเป็นฟองคลื่นในอ่างอาบน้ำไปซะแล้ว คริสหัวเราะจนพุงยิ่งกระเพื่อม พับสองแขนเอามือรองศีรษะเพื่อจะมองเจ้าตัวขาวช่างคิดเล่นโต้คลื่นอยู่บนพุงให้ถนัด

                    “ชิงรู้มั้ย ฉันรู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลย คุณพ่อเป็นคนสอนฉันเล่นบาส นายจำคุณพ่อได้มั้ย คนที่พานายมาให้ฉันไง”

                    “จำได้สิ คุณพ่อใจดีของคริส”

                    “ใช่ คุณพ่อใจดีมาก ถึงจะไม่ค่อยมีเวลา แต่ท่านชอบพาฉันออกไปวิ่งจ้อกกิ้งตอนเย็นๆ แล้วทุกวันอาทิตย์เราก็จะเล่นบาสด้วยกัน คุณแม่ก็จะนั่งเชียร์อยู่ข้างๆ สนาม เหมือนกับนายเปี๊ยบเลย แต่คุณแม่จะมีขนมแล้วก็น้ำหวานเตรียมไว้ให้นะ ส่วนนายนี่ฉันต้องหาของหวานให้กินให้อิ่ม ไม่งั้นก็จะงอแงๆ” บอกแล้วก็ปัดปลายนิ้วกับใบหูสีชมพูไปมาเบาๆ อย่างมันเขี้ยว เห็นชิงน้อยเงยหน้าขึ้นจากการโต้คลื่นเหมือนมีเรื่องที่น่าสนใจกว่า รีบคลานดุ๊กๆ กลับขึ้นมาบนอกจนคริสต้องผงกหัวขึ้นมอง เจ้าตัวเล็กทำตาวาวใส่เขา บอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

                    “นี่คริส”

                    “หืม?”

                    “เราอยากกินเค้กอ่ะ” นั่นไงล่ะ พูดเรื่องขนมก็นึกถึงเค้กขึ้นมาเชียว

                    “แต่เมื่อวานเพิ่งจะกินไปเองนะ”

                    “ก็วันนี้อยากกินอีกอ่ะ นะๆๆ น้า~” ทำตาวิบวับแล้วมือเล็กจ้อยก็ดึงอกเสื้อเขาไปมา ท่าทางเอาแต่ใจแต่คริสคิดว่าคงแค่อยากจะอ้อน ชิงน้อยไม่ใช่กระต่ายเรียบร้อยขี้กลัว แต่เป็นตัวดื้อแสนซน เพราะอย่างนั้นถึงเวลาที่จะอ้อนขออะไรก็จะดูน่ามันเขี้ยวมากกว่าน่าสงสาร คริสก็เลยชอบแกล้ง เหมือนอย่างตอนนี้ที่เขากระตุกยิ้มแล้วลุกพรวดขึ้นนั่งจนเจ้าตัวกลมกลิ้งหลุนๆ ลงจากอกแล้วหล่นตุ้บลงบนมือใหญ่ที่รอรับ หูยาวที่พับยุ่งเหยิงกับท่าทางหัวเสียของชิงน้อยทำให้คริสต้องกลั้นขำ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วจับเจ้าตัวนิ่มหย่อนลงกระเป๋าเสื้อ

    “แย่จริง นึกขึ้นได้ว่าการบ้านเยอะ ต้องรีบกลับไปแล้วทำแล้วล่ะ”

    “ฮึ่ย! เราอยากกินเค้กกกก!!”   

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

    “คลื่นมาแล้วววว”

     

    “.....”

     

    “คลื่นมาแล้ว บู่ววว~ ฮะๆๆๆ”

     

    “.....”

     

    “คลื่นมาแล้ว คลื่นมาแล้ววว บู่ววว~ ฮะๆๆๆ”

     

    “ชิง”

    “หือ?”

    “ฉันทำการบ้านอยู่นะ”

    “ก็ทำไปสิ เราไม่ได้กวนซักหน่อย” ว่าแล้วก็เหยียดแขนไถพุงไปกับแท่งดินสอที่หมุนกึกๆ อยู่บนโต๊ะหนังสือที่คริสกำลังนั่งทำการบ้านอยู่นั่นแหละ ทำอย่างนี้มาได้ซักสิบนาทีแล้ว กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนดินสอ ตอนแรกก็เล่นอยู่ห่างๆ แต่ตอนนี้ดินสอมันเริ่มกลิ้งเข้ามาใกล้ๆ สมุดการบ้านละ แบบนี้อ่ะนะที่เรียกว่าไม่รบกวน? อ้อ ต้องบอกว่าเรียกร้องความสนใจถึงจะถูกสินะ “บู่ววว~ ฮะๆๆๆ”

    “แต่นายเสียงดัง กลิ้งไปกลิ้งมาแบบนี้ฉันไม่มีสมาธิเลยนะ” เจ้าตัวเล็กหยุดหัวเราะแล้วหันมาทำปากยื่นใส่ ทิ้งดินสอแล้วก็ลุกขึ้น เดินขึ้นมาบนสมุดการบ้านที่คริสเปิดค้างอยู่ ทิ้งทั้งตัวลงนั่งขัดสมาธิแล้วกอดอกท่าทางขึงขัง

    “งั้นก็ให้เรากินเค้ก” นี่ขู่กัน? ดูเอาเถอะ ร้ายกาจขึ้นทุกวันแล้วนะเจ้าตัวเล็ก!

    “บอกแล้วไง ให้ฉันทำการบ้านให้เสร็จก่อน”

    “แต่เราหิวนี่นา...” แล้วจู่ๆ ก็เสียงอ่อน เอามือลูบพุงแล้วก็ทำหูตกคอตก เดี๋ยวนะ ได้ข่าวว่าเพิ่งกินลูกอมไปเมื่อเย็น คริสถอนใจแต่ก็อดจะขำไม่ได้ ขอแค่ได้กินเค้กนี่ยอมทำทุกอย่างเลยใช่มั้ย “นะคริส~ เราไม่กวนก็ได้ คริสทำการบ้านก็ได้ แต่เอาเค้กให้เรากินหน่อยน้า~

    “กินมากๆ จะอ้วนนะ” คอตกอีกละ คราวนี้ดึงหูลงมาปิดหน้าด้วย แหย่มากๆ คริสเองก็เริ่มจะสงสาร ถึงจะไม่อยากให้กินเค้กเยอะเพราะไม่รู้ว่าพุงน้อยๆ ของเจ้าตัวเล็กนั้นจะจุขนมหวานได้มากแค่ไหน แต่เห็นท่าทางหงอยๆ แล้วก็อดจะตามใจไม่ได้ “โอเค ก็ได้ ก็ได้”

    “จริงนะ? เย้! ว้าวๆๆ”

    “แต่ตกลงกันก่อน ให้กินแค่นิดเดียวพอนะ ห้ามงอแงอีก โอเคมั้ย?”

    “โอเคเล้ยยย!

     

     

    ดีนะที่เมื่อวานคริสซื้อเค้กหิ้วกลับบ้านมาด้วย แช่ตู้เย็นไว้น่าจะอยู่ได้ซักสามสี่วัน เขาตักบลูเบอรี่ชีสเค้กชิ้นเล็กๆ ใส่จานมาวางบนโต๊ะให้ ชิงน้อยก็ดีใจกระโดดโลดเต้น ร้องว้าวๆ กับเค้กที่หน้าตาแปลกไปจากที่เคยได้เห็น วนซ้ายวนขวาหาที่เหมาะๆ ก่อนจะนั่งลงแล้วจัดการกับเค้กคนเดียวแบบเงียบๆ ...อันที่จริงก็ไม่เงียบเท่าไหร่ มีเสียงอู้หูอ้าหาด้วยความฟินดังมาเป็นระยะ แต่นั่นก็ทำให้คริสอารมณ์ดีมากกว่าจะหงุดหงิด นั่งทำการบ้านไป มองเจ้าตัวเล็กเล่นกับซอสบลูเบอรี่ไปแล้วก็ยิ้มไป ชิงน้อยหันมาชวนให้เขากินด้วยกันอยู่หลายครั้ง แต่คริสบอกว่าไม่อยากแย่ง จนการบ้านเสร็จหมดแล้ว เค้กชิ้นเล็กก็ถูกฟาดเรียบหมดทันกันพอดี แถมด้วยสภาพมอมแมมของกระต่ายขาวจิ้มซอสบลูเบอรี่แบบที่คริสเห็นแล้วก็ต้องส่ายหน้าทั้งที่หัวเราะขำ

     

    จับอาบน้ำอีกรอบแล้วคริสก็อุ้มชิงน้อยออกมาให้เช็ดตัวแต่งตัวบนเตียง ส่วนตัวเองก็เข้าไปแปรงฟันเตรียมตัวเข้านอน กลับออกมาอีกทีเจ้าตัวเล็กในชุดนอนลายหมีก็นั่งรออยู่บนหมอนแล้ว มองเสื้อผ้าตุ๊กตาชุดที่เขาเป็นคนเลือกให้กับมือแล้วคริสก็อมยิ้ม ซื้อให้ตั้งหลายชุดแต่ชิงน้อยชอบใส่แค่เสื้อฮู้ดแขนสั้นสีม่วงอ่อนกับกางเกงผ้านิ่มขายาวสีฟ้าเข้ม ส่วนชุดนอนตัวเก่งก็ตัวนี้นี่แหละ ไม่รู้ว่าเพราะคริสเลือกเก่งหรือชุดเล็กๆ พวกนี้เข้ากันกับเจ้าตัวเล็กได้ดี เพราะชิงน้อยใส่อะไรก็ดูน่ารักไปซะหมด

     

    คริสเดินเลยไปปิดสวิตช์ไฟกลางห้องให้เหลือเพียงแสงสว่างจากโคมไฟหัวเตียง ถอดแว่นออกวางไว้บนโต๊ะแล้วก็ล้มตัวลงนอน เจ้าตัวเล็กก็กลิ้งลงจากหมอนแล้วปีนเข้าไปอยู่ในตะกร้าของตัวเอง สองมือเล็กจ้อยเกาะขอบตะกร้าแล้วโผล่แค่หน้ากลมๆ กับหูยาวๆ ออกมามอง ตาคู่เล็กเป็นประกายวิบวับแม้แสงในห้องจะสลัวลง ชิงน้อยเหมือนจะเข้าใจว่าต้องรอให้คริสบอกราตรีสวัสดิ์ก่อนถึงจะเข้านอนได้ แต่คืนนี้คริสยังไม่ง่วงเท่าไหร่ ก็เลยพลิกตัวหันข้าง ชวนเจ้าตัวเล็กคุยไปเรื่อยๆ

                    “นี่ชิง”

                    “หือ?”

                    “เสียงบู่วๆ เนี่ย อะไรเหรอ?”

                    “เสียงคลื่นไง บู่ววว บู่ววว”

                    “คลื่นที่ไหนเสียงแบบนั้น?”

                    “คลื่นทะเลไง มาก้อนใหญ่ๆ แล้วก็บู่ววว บู่ววว” มีซาวน์เอฟเฟคแล้วก็ท่าทางกางแขนกว้างๆ ประกอบพร้อม คริสหรี่ตามองอย่างนึกมันเขี้ยวปากแดงๆ เล็กๆ จู๋ๆ นั่น

                    “รู้จักทะเลด้วย?”

                    “อื้อ เคยเห็นในทีวี” เพยิดหน้ารัวๆ หน้าตาจริงจัง

                    “แล้วอยากเห็นของจริงมั้ย?”

                    “มีด้วยเหรอ?” หูยาวกระดิกน้อยๆ อย่างตื่นเต้น

                    “มีสิ ฉันพาไปได้นะ อยากไปมั้ยล่ะ ไปเล่นน้ำทะเล แล้วก็โต้คลื่นทะเลจริงๆ ไง”

                    “อืม... แล้วทะเลกว้างมากมั้ย?”

                    “กว้างสิ ทะเลน่ะกว้างมากเลย”

                    “กว้างกว่าอ่างอาบน้ำของคริสมั้ย?”

                    “กว้างกว่าเยอะเลยล่ะ นายขี่เป็ดลอยตุ๊บป่องทั้งวันทั้งคืนก็ยังไม่ทั่วทั้งทะเลเลยนะ”

                    “อืม... งั้นเราไม่อยากไปแล้วดีกว่า ทะเลมันกว้างขนาดนั้น ถ้าเราลงไปเล่นน้ำแล้วหาคริสไม่เจอล่ะ”

                    คริสยิ้มแล้วเอื้อมมือไปหา ลูบปลายนิ้วกับใบหูนิ่มเบาๆ

                    “เจอสิ ฉันจะอยู่ใกล้ๆ นาย ไม่ปล่อยให้นายลอยหายไปไหนอยู่แล้ว”

                    “จริงๆ นะ?”

                    “อื้ม ฉันสัญญาเลย จะไม่ปล่อยให้นายหายไปไหนแน่ๆ เราต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป”

                    เจ้าตัวเล็กยิ้มกว้าง แก้มนิ่มคลอเคลียกับปลายนิ้วใหญ่เมื่อดวงหน้าน่ารักเอียงเข้าหา

                    “งั้นเราอยากไปทะเลก็ได้”

                    “ได้เลย เอาไว้ฉันจะพานายไป แต่ตอนนี้ต้องนอนก่อนนะ ฉันเพลียมากเลยล่ะ”

                    “ได้เลย นอนๆ”

                    “เดี๋ยว มานี่ก่อน” ชิงน้อยที่ผลุบลงตะกร้าแล้วต้องเด้งกลับขึ้นมาใหม่ เห็นเด็กหนุ่มพยักหน้าเรียกก็เลยปีนออกจากตะกร้า ยังไม่ทันได้ปีนหมอนขึ้นไปหา ตัวนุ่มนิ่มก็ถูกอุ้งมือใหญ่อุ้มไป เจ้าตัวเล็กหัวเราะคิกคักเมื่อปลายจมูกโด่งชนเข้าที่พุง “ฝันดีนะ”

    คริสแตะริมฝีปากเบาๆ อีกครั้ง เจ้าตัวเล็กก็ดิ้นปัดๆ หัวเราะร่วน

    “จั๊กจี้อ่ะ”

    “เส้นตื้น” ย่นจมูกใส่แล้วคริสก็วางชิงน้อยลงในตะกร้าตามเดิม เด็กหนุ่มยังเฝ้ามองจนกระต่ายน้อยล้มตัวลงนอนและดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเอง ขยับยุกยิกอยู่ครู่หนึ่งก็ค่อยหลับตาลง เขาผ่อนลมหายใจพร้อมรอยยิ้มบาง นึกถึงครั้งสุดท้ายที่ได้ไปเที่ยวทะเลก็ตอนที่คุณพ่อกับคุณแม่ยังอยู่ ทั้งที่มีหลายๆ สิ่งที่เขาไม่อยากทำ ไม่อยากไปแตะต้องเพราะกลัวว่าจะทำให้ภาพความทรงจำในวัยเด็กเหล่านั้นเลือนหาย แต่เป็นเพราะชิงน้อย คริสถึงอยากหวนกลับไปสู่ช่วงเวลาเหล่านั้นอีกครั้ง ชิงน้อยที่เป็นกระต่ายคือของขวัญที่ดีที่สุดที่คุณพ่อมอบให้ เป็นเพื่อนเล่นเพียงคนเดียวของเขาในโลกสีเทา แต่ชิงน้อยตัวเล็กๆ ที่คอยเจื้อยแจ้วอยู่ใกล้ๆ นี้ ...ชิงน้อยที่มาจากคำอธิษฐานของเขาในวันเกิดครบรอบสิบแปดปี เจ้าตัวเล็กที่พระเจ้าประทานมาให้เข้ามาทำให้ชีวิตของคริสเริ่มมีสีสัน คริสขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้เขามีเพื่อนเล่นที่แสนน่ารักอยู่ด้วยกันในทุกวันนี้

     

    เด็กหนุ่มเฝ้ามองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มจนแน่ใจแล้วว่าเพื่อนเล่นตัวเล็กหลับสนิทแล้วถึงได้พลิกตัวลงนอนบ้าง ถอนหายใจบางเบาแล้วเปลือกตาก็ปิดลง ใบหน้าหล่อใสยังระบายยิ้มเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆ ครางออกมาจากตะกร้า

     

                    “อือ... ฝันดีนะคริส”

     

     

     

     

     





     


     

    TBC.



     

     

      

     

     

    คนรอง: เดินเรื่องช้าและมาแบบสั้นๆ อย่างนี้ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ จะโตเมื่อไหร่ยังไม่รู้ ฮะๆๆๆ

    รักชิงน้อยนิดๆ แต่ขอให้รักนานๆ นะจ๊ะ ><

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×