ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic reborn (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #67 : ผลสรุป

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.04K
      9
      18 เม.ย. 58

    ที่บริเวณประตูคฤหาสน์ รีบอร์นนั่งจิบชา รอเหล่าคู่หมั้น ที่เขาคาดว่าพวกนั้นคงกลับมาถึงคฤหาสน์ก่อนพวกสึนะแน่นอน

     

    ตรู๊ด ตรู๊ด

     

    เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น แทรกความเงียบและความมืดยามค่ำคืน ทำให้รีบอร์นกดรับ

     

    “เป็นไงบ้างแล้ว”รีบอร์นถามปลายสาย

     

    “ก็เรียบร้อยดี ได้ผลการทดลองดีมาก มากจนเรียกได้ว่าเกินคาดเลยเชียวล่ะ ทั้งความเร็ว ความทนทาน ระยะเวลาก็นานขึ้น ขนาดทำให้พวกวองโกเล่ต้องเผ่นลูกเดียว”ปลายสายตอบเรียบๆ

     

    “งั้นเหรอถ้างั้น ก็ดี ขอบใจมากนะ”รีบอร์นบอกพร้อมรอยยิ้ม

     

    “ไม่เป็นไร ทางนี้ก็สนุกมากเหมือนกัน”

     

    “โอเค งั้นก็เตรียมพร้อมไว้อีกนะ เผื่อชั้นจะเรียกใช้บริการอีก”รีบอร์นบอก

     

    “ได้ แล้วอย่าลืมนะ ว่ามอสก้า น่าจะเหลือพลังงานอีกสักสิบนาทีได้ แค่นั้นคงพอใช้มั้ย”ปลายสายถามมาอีก

     

    “เหลือเฟือ ขอบใจมากสปาน่า ฝากขอบใจโชอิจิด้วย”รีบอร์นพูดก่อนจะวางสาย

     

    มอสก้าที่โพล่ออกมาไล่พวกสึนะในคราวนี้ เป็นผลงานของสปาน่า กับโชอิจิ ที่ตอนนนี้กำลังหัวไวมือขึ้นกับเรื่องมอสก้ามาก รีบอร์นเลยโทรศัพท์ไปขอยืมใช้ โดยบอกว่าเป็นการทดลองทดสอบไปในตัว ซึ่งทั้งสองคนก็ตอบตกลง(กำลังหาคนทดลองอยู่พอดี)แต่ถึงสองคนนั้นจะห้าม รีบอร์นก็หาทางเอามาใช้ได้อยู่ดี

     

    “ผู้ช่วยเจ้ามีกี่คน กันแน่อัลโกบาเล่โน่อรุณ”ท่านจ๊อตโต้ที่ทดสอบคาสึกิเสร็จ แวะข้างทางออกมากัด ครูพิเศษตัวดี

     

    “ก็นะ”ครูพิเศษตอบยิ้มๆ

     

    “ที่เห็นนั่นก็ มีแมงป่องพิษ พ่วงคาบัคโรเน่แฟมิลี่ แถมยังมีพวกนักวิจัยเครื่องกลอีกรึ”จ๊อตโต้ถาม

     

    “หูย ชั้นหาคนมาเป็นของเล่นได้ไม่ยากหรอกน่า ท่านไม่ต้องกังวล ท่านได้แกล้งหลานของท่านอีกนานแน่นอน”รีบอร์นย้ำ

     

    “ฮึ...ดูเหมือนจะมาแล้ว”แล้วท่านจ๊อตโต้ก็หายตัวไป พร้อมกับคนแรกที่มาปรากฏตัวที่หน้าคฤหาสน์

     

    “โอ้ นายมาเป็นเลยนะ ฮานากาวะ ยูคิ”รีบอร์นเอ่ยทักคนที่วิ่งมาที่หน้าคฤหาสน์

     

    “คนแรก? ยังไม่มีคนอื่นมาเลยเหรอ?”ยูคิที่มายืนตรงหน้าถาม พร้อมกับอาการหอบน้อยๆ

     

    “น่าๆ อีกเดี๋ยวก็คงมา จิบน้ำชา ให้หายเหนื่อยก่อนเถอะ”รีบอร์นชวน พร้อมกับเทน้ำชา ยื่นให้ยูคิ ซึ่งอีกคนก็รับมา แต่ยังไม่ยอมกิน มองไปทางป่า อย่างเป็นห่วงคนอื่นๆ

     

    “ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่ต้องห่วงขนาดนั้นก็ได้....นั่นมาอีกคนล่ะ”รีบอร์นเอ่ย เมื่อเห็นสายตาของยูคิ แต่พออีกฝ่ายได้ยินประโยคสุดท้าย ก็รีบวางถ้วยชา แล้ววิ่งไปหาคนที่กำลังวิ่งมาทางคฤหาสน์

     

    “คาสึกิ ปลอยภัยใช่มั้ย ไม่เจ็บตรงไหนนะ”

     

    “อือ ยูคิก็ไม่เป็นไรสินะ”คาสึกิตอบ แต่ละฝ่ายก็มองกันอย่างหายห่วง อย่างน้อยเพื่อนเขาก็น่าจะครบ 32 กลับมาทุกคนล่ะนะ

     

    “เอ้าๆ ถามแค่นั้นก็พอแล้วมั้ง มาดื่มชา พักกันสักนิดก่อนเถอะ”รีบอร์นว่า พลางยื่นถ้วยชาให้แก้วให้คาสึกิ

     

    คาสึกิรับถ้วยชามา แล้วไปนั่งพักเหนื่อยกับยูคิตรงโต๊ะที่จัดไว้ให้ รออีกไม่นานเท่าไรคนอื่นๆก็เริ่มทยอยกลับมา คนต่อไปก็เป็น ยูกิ เรียว โทโมกิ ฮิคารุ สุดท้ายจึงเป็นนาโอยะ

     

    เมื่อคนที่กลับมาก่อนเห็นสภาพนาโอยะ ก็ร้องแทบเสียงหลง

     

    ถึงจะไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่สภาพก็แย่ที่สุดในบรรดาพวกเขาเลย ทั้งเศษดิน ฝุ่น ผมเผ้าก็ยุ่งเยิง เสื้อผ้ามีรอยขาดเล็กน้อย

     

    “แหม จีจัดหนักเหมือนกันแฮะ”รีบอร์ว่า พร้อมยื่นถ้วยชา ถ้วยสุดท้ายให้

     

    หลังจากที่ถามกันจนแน่นอนแล้วว่าไม่มีใครเป็นอะไรมาก สีหน้าแต่ละคนก็เริ่มวิตกลงเล็กน้อย

     

    มีแต่พวกเขาที่กลับมา

     

    .....................

     

    .........แล้วคนที่เหลือล่ะ




     

    “ไม่ต้องทำหน้ากันอย่างนั้นก็ได้น่า ไม่ต้องห่วง พวกนั้น ยังไงก็ครบ 32 อยู่แล้ว”รีบอร์นเอ่ย เมื่อเห็นสีหน้าพวกเขาแต่ละคน

     

    “ใครเป็นห่วงกัน”นาโอยะรีบแทรกทันที

     

    “เอาน่าๆ พวกนายเองก็ใช้ไฟดับเครื่องชนได้แล้วสินะ”รีบอร์นถาม

     

    พวกคาสึกิไม่มีใครตอบ แต่ก็พยักหน้ากัน

     

    “งั้นก็แสดงให้ดูหน่อย”รีบอร์นว่า เมื่ออีกฝ่ายยังคงนิ่งๆกันอยู่ จึงส่งกระสุนออกไปทักทาย สองสามนัด ยังไงก็ต้องทำตามที่รีบอร์นสั่งอยู่ดี

     

    คาสึกิ ชักปืนออกมาหนึ่งกระบอก ปลดเซฟปืน รวบรวมสมาธิและความรู้สึกตอนที่จุดไฟติดได้ เป้าหมายของเขา คือ กิ่งไม้ที่อยู่ห่างออกไป ราว 12 เมตรได้ ที่ปลายปืนเริ่มไอจางสีส้ม ก่อนที่กระสุนไฟดับเครื่องชนจะถูกยิงออกไป โดนตรงกิ่งไม้ขนาดไม่ใหญ่เท่าไร หักลงจากต้น

     

    นาโอยะชักดาบของตนออกจากฝัก มือซ้ายแตะที่ใบดาบเบาๆหลับตาลงทำสมาธิ ไม่นานเกินรอ ไฟสีแดงเพลิงก็ลุกขึ้นมา ติดตามใบดาบทั้งหมด

     

    ยูคิม้วนโซ่ไว้ที่มือซ้ายสัก 4-5 รอบ ปลายโซ่อีกด้านที่มีตะขออยู่ ก็ถือไว้ด้วยมือขวา หลับตา ทำสมาธิ พยายามปัดเรื่องคุณปู่สุดเนียนออกไป สักพักไฟสีฟ้าก็ติดขึ้นมา ไล่ตามความยาวของโซ่จากด้านนึง ไปจนสุดอีกด้านนึง

     

    ยูกิชักดาบคู่ของตน มาประสานไขว้กันไว้ตรงหน้า นึกถึงตอนสายฟ้าของเขาปะทะกับคุณปู่ ก็พลันปรากฎไฟสีเขียวที่ วิ่งไปมาบนมีดสั้นคู่นั้น

     

    เรียวใส่สนับมือข้างนึงที่มือขวา แล้วตั้งการ์ดไว้ ออกแรงชกอากาศอยู่ 3-4 ครั้ง ก็มีไฟสีเหลืองสวย ปรากฎบนมือที่สวมสนับมือไว้

     

    ฮิคารุดึงแส้ของตนออกมา วาดไปมาบนอากาศนิดหน่อย แล้วทิ้งปลายแส้ลงกับพื้น ตั้งสติ รวบรวมความคิดอยู่พักนึง ไฟสีม่วงก็ปรากฏที่ปลายแส้

     

    โทโมกิกำมือซ้ายของตนไว้ หลับตาลง แล้วลืมตา มือของเขาก็ปรากฏไฟสีฟ้าคราม แล้วมันก็รวมตัวกัน จนกลายเป็นหลอดแก้วทดลองขนาดเล็ก

     

    สร้างความตื่นตา ให้กับเพื่อนๆคนอื่นเป็นอย่างมาก

     

    รีบอร์นเหลือบมองที่ด้านหลังของแต่ละคน ที่มีร่างของบรรดาปู่ๆทั้งหลายมองดู ยิ้มอย่างพอใจ ที่สามารถทำตามที่สอนให้ได้กันเป็นอย่างดี แค่พวกเขาช่วยซัพพอร์ตให้นิดหน่อย ก็ทำได้ไม่เลว ก่อนจะหายไป

     

    “โอเค ถือว่าผ่าน ไม่น่าเชื่อว่าไม่ถึงชั่วโมง ก็ใช้ไฟดับเครื่องชนได้”รีบอร์นชม ก่อนจะหันไปมองทางป่า แล้วหันมาคุยต่อ

     

    “ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ถ้ายังไงช่วยเตรียมน้ำชา กับของว่าง ให้พวกสึนะหน่อยนะ เพราะแต่ละคน คงกลับมาในสภาพที่ดูไม่ได้แหง โดนมอสก้าไล่ซะขนาดนั้น”รีบอร์น พูดจบ ก็พาพวกเขาทั้งหมด เดินไปที่ห้องอาหารซึ่งตอนนี้ มีทั้ง กาน้ำชา ถ้วยน้ำชา ใบชา น้ำร้อน ถาด วางเรียงไว้

     

    พวกคาสึกิมองหน้ากันนิดหน่อย แต่ก็ช่วยกันเตรียมแต่โดยดี ขนาดพวกเขา เจอแค่ผีคุณปู่ ยังเป็นซะขนาดนี้ แล้วพวกคนอื่นๆที่กำลังวิ่ง(หนี)อยู่ในป่า ยังไม่กลับมา คงสภาพดูไม่ดีเท่าไร ในเมื่อหายไปก่อนพวกเขาอีก

     

    “อ้อ บนโต๊ะอีกตัวมีขนมด้วย พวกนายเลือกไปคนละสองชุดละกันนะ ของตัวเองกับอีกคน”แล้วเด็กทารกก็เดินออกไปจากห้อง แถมท้ายด้วยการบอกว่าจะไปรอที่ทางเข้า

     

    เมื่อเตรียมน้ำชาใส่กา ถ้วยจัดเรียงบนถาดเสร็จ ก็หันไปดูอีกโต๊ะที่ว่ามีขนมอยู่ก็ต้องช็อกค้าง

     

    ไอ้ขนมที่เรียงมากกว่า 40 จานนี่มันอะไร

     

    “เด็กคนนั้นบอกว่าต้องเลือกสินะ แปลว่ามีโอกาสที่จะเป็นของแปลกได้ล่ะสิ”ยูคิพูดเมื่อเขาหายอึ้งแล้ว

     

    “แล้วเราก็ต้องมาวัดดวงกันเหรอ ว่าไอ้โอกาสที่ว่านั่น มันจะสูงสักกี่เปอเซนต์”คาสึกิถาม ซึ่งคำตอบที่ได้รับคือความเงียบ

     

    “เอาเถอะ เลือกไป อย่างน้อย ที่ปลอดภัยก็น่าจะสัก 14 จานนั่นแหละ”โทโมกิสรุป

     

    “ทำไมคิดงั้นล่ะ พี่โทโมกิ”ยูกิถาม เพราะเขาดูยังไง มันก็ไม่เห็นต่างกันเลย ก็แยมโรลธรรมดา กลิ่นวนิลาซะด้วย

     

    “เด็กคนนั้นบอกว่าคนละสองชุดนี่ แปลว่าอย่างน้อยก็ต้องปลอดภัยสำหรับพวกเราคนละชุด แต่ถ้าอยากได้มากกว่านั้นคงต้องเสี่ยงกันสักหน่อย”โทโมกิตอบ

     

    สุดท้าย คิดไปวนมาก็ไม่ได้อะไร จึงต้องตัดสินใจ เลือกสุ่มกัน

     

    พวกเขาเลือกมาคนละ 2 จาน แต่ยูกิเลือกมา 3 จาน ประมาณว่าเผื่อไว้ก่อน จัดใส่ถาดของใครของมัน แล้วเดินถือออกไปหน้าคฤหาสน์

     

    เมื่อออกจากคฤหาสน์ พวกเขาก็เห็นเหล่าคู่หมั้นของตนนั่งหมดแรงกันอยู่กับโต๊ะ บ้างก็ฟุบลงอย่างหมดแรง(สึนะ โกคุเทระ ยามาโมโตะ แรมโบ้) บ้างก็พิงกับเก้าอี้อย่างหมดสภาพ(เรียวเฮ) แม้แต่ฮิบาริ กับมุคุโร่ก็ยังนั่งนึ่ง มือกุมขมับเลย

     

    ไปทำอะไรกันมาเนี่ย วิ่งอยู่ในป่ากันแบบไหน ถึงมีสภาพนี่ได้ แต่ละคนจึงเข้าไปดูคู่ของตน แล้วเช็กสภาพว่ามีตรงไหนบาดเจ็บรึเปล่า

     

    “กว่าจะมากันได้นะ ให้น้ำเจ้าพวกนี้หน่อย ก่อนที่พวกมันจะขาดน้ำตาย เพราะร้อนซะก่อน”รีบอร์นว่า หลังจากที่แต่ละคน เข้าไปดูคู่แล้ว

     

    “ระ แรมโบ้ เป็นอะไรมั้ย”ยูกิเขย่าตัวคนที่กำลังฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะ

     

    “ยูกิ...”แรมโบ้ร้องเรียกชื่ออีกฝ่าย อย่างระโหยโรยแรง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น แล้วเปลี่ยนจากฟุบกับโต๊ะ มาเป็นกอดอีกคนไว้แทน

     

    “หวา เป็นอะไรไป”ยูกิร้องอย่างตกใจ แต่ก็ต้องตกใจกว่าเมื่อเสียงพี่บังเกิดเกล้าของเขา ร้องดังกว่า

     

    “แก..อย่ามาลวมลานน้องชั้นนะ ปล่อยมือเดี๋ยวนี้”ยูคิโวยวายขึ้นมา วันนี้รู้สึกพวกเขาจะโดนลวนลามกันไปไม่ใช่น้อยแล้วน้า และก่อนที่ยูคิจะเดินมาอาละวาด กับแรมโบ้ ก็ถูกคุณคู่หมั้นของตน จับตัวไว้ก่อน

     

    ยูกิจึงเลิกสนใจพี่ชายของตน แล้วหันมาสนใจคู่หมั้นของตนต่อ(ข้าว : ไม่ห่วงพี่ชายซะแล้ว นั่นเจ้าเนียนเชียวนะ)

     

    “นึกว่าจะโดนเจ้านั้นไล่กวดจนตายซะแล้ว”แรมโบ้ร้องครวญครางกับอีกคน

     

    “วิ่งกันไปถึงไหนเนี่ย”ยูกิถาม พลางเอามือลูบหัวช้าๆ ยังไงเขาก็อายุมากกว่า แค่นี้คงไม่เป็นไรมั้ง

     

    “กะคร่าวๆ คงรอบป่า สัก 3 รอบได้มั้ง วิ่งตั้งร่วมชั่วโมงแหน่ะ”

     

    “ชั่วโมงกว่าเฟ้ย เจ้าวัวบ้า”โกคุเทระแทรกบทสนทนาเข้ามา

     

    แต่แรมโบ้ก็ไม่สนใจ แล้วพูดต่ออย่างนึกขึ้นได้ว่า

     

    “จริงสิ แล้วยูกิเป็นอะไรมั้ย โดนพวกคุณปู่ทำอะไรรึเปล่า”

     

    คำถามนี้ ทำเอาพวกวองโกเล่ทุกคนชะงักกึก พอดีมัวแต่อ้อนขอความเห็นใจ จนลืมไปเลย

     

    “เอ่อ ก็ไม่..ไม่มีอะไรหรอก ไม่ได้โดนทำอะไร”ยูกิตอบ

     

    “แล้วทำไม เปื้อนฝุ่น เปื้อนดินแบบนี้ ดูๆไป เสื้อลุ่ยนิดๆนี่นา”แรมโบ้ตั้งข้อสังเกต

     

    “ง่า..ก็แค่..”

     

    “แค่..??”

     

    “คุณปู่สอนให้ใช้ไฟ ไฟอะไรหว่า”ยูกิเกาหัวแกร่กๆ  เขาลืมอีกแล้ว

     

    “ไฟดับเครื่องชนเหรอ”แรมโบ้ถาม

     

    “อืม..ไม่มีอะไรหรอก”ยูกิตอบให้แรมโบ้สบายใจ พูดอีกอย่างก็คือ ในบรรดาพวกเขาทั้ง 7 ไม่มีใครตอบฝั่งวองโกเล่เลยสักคน ว่าตอนแรกพวกปู่จะจับพวกเขาไปเข้าคอร์สวะใภ้วองโกเล่

     

    “เอาล่ะๆ ถ้าเข้าใจแล้ว ก็ดื่มชา แล้วรีบพักซะ ก่อนที่การแบทเทิ่ลจะเริ่ม”รีบอร์นบอก

     

    “ก็ดี ร้อนจะตายแล้ว เอาชามาให้กินหน่อยสิ”โกคุเทระบอก(แต่คิดอีกที น่าจะสั่งมากกว่านะ)

     

    นาโอยะหันมามองอย่างไม่พอใจ ตั้งท่าว่าต่อว่าสักหน่อย แต่พอเห็นอาการอีกคนแล้ว ทำไมเหมือนอาการมันหนักกว่าเขานะ ทั้งที่ เขาน่าจะเป็นที่เสี่ยงตายมากที่สุดแล้วนะ หลังจากที่ถามคนอื่นมา

     

    นาโอยะเลยรินชา พร้อมยกขนมมาให้พร้อม ด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เท่าไร แล้วถึงตามด้วยส่วนของตัวเอง

     

    นั่งลงจิบน้ำชาข้างกัน จิกกันไปพลาง พักเหนื่อยไปพลาง

     

    ...................

    ความสงบ มาเยี่ยมเยียน พวกเขาได้ไม่ถึง 10 นาที ความเอะอะก็เข้ามาแทน

     

    “แว๊กกกกก.....กก”แรมโบ้ร้องเสียงหลงมาแต่ไกล

     

    “เป็นอะไร แรมโบ้.”สึนะร้องถามอย่างรวดเร็ว มองสองคนที่เป็นต้นเสียง ก็เห็นแรมโบ้กับยูกิกอดกันกลมอยู่

     

    “ยะ แยมโล”แรมโบ้พูดด้วยใบหน้าขาวซีด

     

    “หืม??”พวกเขาที่เหลือมองหน้ากันด้วยความไม่เข้าใจ

     

    “แยมโรล กลายเป็นสีม่วง แล้วละลายจานไปเฉยเลยอ่ะ”แรมโบ้ต่อจนจบประโยค

     

    “อ๊อกกก...”แล้วโกคุเทระก็ล้มตึง มือจับท้อง และปิดจมูกอีกข้าง

     

    “กะ กลิ่นนี้มัน..”

     

    “พะ พอยซั่นคุกกิ้งเรอะ”สึนะร้องมองไปที่จุดที่ว่า ที่แม้กระทั่ง ผ้าปูโต๊ะยังละลาย  หลักฐานคาตาขนาดนี้ ใช่เลย

     

    “ใช่แล้ว ฝีมือเบี้ยงกี้นั่นแหละ”รีบอร์นยิ้มรับ

     

    “แล้วให้เบี้ยงกี้ทำ ทำมายยยย จะฆาตกรรมกันเรอะ”สึนะถามคนที่ยังนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์

     

    “ก็แหม รีบอร์นอุตสาขอร้องนี่จ๊ะ เลยทำให้ เป็นไงบ้างล่ะ พอยซั่นคุ้กกิ้ง แยมโรล 3 ชั่วโมง”เบี้ยงกี้ เดินมาอยู่ข้างรีบอร์น คราวนี้ดีหน่อยที่ใส่หน้ากากมาด้วย โกคุเทระเลยยังไม่เป็นลม(หนักไปกว่านี้ จน)หมดสติไปซะก่อน

     

    “ฮะๆๆๆ พี่สาวเนี่ย ยังชอบทำอะไรแบบนี้เหมือนเดิมเลยนะ”ยามาโมโตะหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

     

    “แต่ก็นะ แยมโรล 3 ชั่วโมงเนี่ย  มีตั้ง 30 ชิ้น จาก 48 ชึ้น พวกเธอเล่นเลือกไม่โดนกันเลยนี่ ทำเอาชั้นเซงเลยนะ รึว่าต้องหาทางปรับปรุง ฝีมือให้ดียิ่งขึ้นละเนี่ย”เบี้ยงกี้พึมพำกับตัวเอง แต่ก็ดังมากพอที่จะทำให้คนอื่นๆได้ยิน

     

    มีทั้งหมด 48 ชิ้น เป็นพิษซะ 30 แล้วพวกเขารอดมาได้ยังไงเนี่ย แต่ละคนถึงกับหน้าซีด

     

    “มะ ไม่มีใครเป็นอะไรใช่มั้ย”คาสึกิอดถามออกไปไม่ได้

     

    “ไม่เป็นไรจ๊ะ ถ้ากินถูกอันล่ะก็ พวกนายตายตั้งแต่ 5 นาทีแรกที่กินแล้วล่ะ”เบี้ยงกี้บอกเสียงหวาน

     

    “ชิ น่าเสียดายที่เจ้าวัวบ้ากินผิดอัน ถ้ากินอีกจานคงได้เรื่องแล้ว”รีบอร์นบ่น พร้อมกับดีดนิ้วข้างนึง

     

    “นี่แก กะฆ่าชั้นเรอะ”แรมโบ้โวยวายทันที แต่รีบอร์นก็ไม่สนใจ เมินเอาดื้อๆ ก่อนจะพูดต่อ

     

    “อืม ..โอเค พวกนายผ่านการทดสอบครึ่งหลัง”

     

    “ครึ่งหลัง”เขาทั้งหมดทวน

     

    “ช่าย ครึ่งแรก เป็นการทดสอบว่าใช้ไฟดับเครื่องชนได้มั้ย ส่วนครึ่งหลังก็ทดสอบดูว่า มีไหวพริบ ความสามารถในการหลบเลี่ยงกับดัก(ความตายมั้ย) แล้วก็ผ่านการทดสอบจนได้”รีบอร์นว่า พลางแสย่ะยิ้ม

     

    “การทดสอบ??”ฮิบาริทวน

     

    “ทดสอบอะไรล่ะครับ อัลโกบาเล่โน่”มุคุโร่ถาม

     

    “ทดสอบการเป็นสะใภ้วองโกเล่”เด็กทารกตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน

     

    “.....................”ในพื้นที่เกิดอาการใบ้กิน กลางอากาศ ชะงักค้างไปเกือบนาที ก่อนที่เด็กทารกจะพูดต่อ

     

    “ครึ่งแรก เป็นการใช้ไฟดับเครื่องชน ต่อให้เป็นแค่คู่หมั้น แต่เพื่อให้สามารถปกป้องตัวเองได้จากสถานการณ์วิกฤต ในเมื่อเข้ามายุ่งเกี่ยวกับวองโกเล่ แค่นี้ก็ต้องทำได้ ไม่งั้นก็แย่ ส่วนครึ่งหลังนั้น ก็ลองทดสอบดูว่า มีเซ้นต์ในการหลีกเลี่ยงอันตรายมั้ยเท่านั้นเอง ในเมื่อจะเป็นคู่ชีวิตกัน ก็ต้องดูแลกันให้ดีสิ เดี๋ยวเขาตายไป แล้วเราจะต้องมานั่งเสียใจที่ เราทำอะไรไม่ได้เลย มันน่าเศร้าจะตาย”รีบอร์นร่ายยาวเหยียด

     

    “...................”แต่ละคนยังใบ้กินอยู่

     

     ส่วนคนที่ทำลายอาการนี่คือ

     

    “แปลว่า ผ่านการสอบเป็นสะใภ้ของวองโกเล่ อย่างสุดหูรูดรึเนี่ยยยยย!!!”เรียวเฮตะโกน

     

    พวกสึนะหันไปมองคู่ของตน ที่ตอนนี้กำลังกุมขมับอยู่

     

    ...นี่สุดท้าย..พวกเขาก็โดนจับเข้าคอร์สสะใภ้...จนได้รึเนี่ย..... 



    - - - - - - - - - - - - - -

    วันเกิดของข้าว มีของขวัญคือการนั่งอัพนิยายของตัวเอง ที่ไม่อัพมานาน

    มันของขวัญที่ดี ที่รู้ว่ายังมีคนตามอ่านอยู่ จนถึงทุกวันนี้ รวมแล้วก็หลายปีอยู่นะ

    ขอบคุณนักอ่านทุกท่าน ที่ทำให้นิยายเรื่องนี้มีคนอ่านเกิน หมื่นแปดได้ ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ

    ขอบคุณมากนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×