ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic reborn (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #80 : คืนอันตราย ห้อง???

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.65K
      7
      11 มี.ค. 59

    หลังจากมองส่ง ขอให้ฮิคารุปลอดภัยจากกรรมการนักเรียนสุดโหดแล้ว เรียวก็เข้าห้องมา

     

    เจอเรียวเฮวิดพื้นอยู่ ตรงส่วนห้องนั่งเล่น

     


    “มาแล้วเหรอ นึกว่าจะคุยนานกว่านี้ซะอีก”เรียวเฮลุกขึ้นมานั่ง พลางยิ้มให้เรียว

     

    “จะคุยอะไรได้ล่ะครับ ไม่ว่าจะมองยังไง พวกผมคงต้องทำใจอย่างเดียวมากกว่ามั้ง”เรียวพูด พลางคว้ามือของเรียวเฮขึ้นมาดู

     

    “เป็นแผลจริงๆด้วย”เรียวขมวดคิ้ว เมื่อเห็นแผลที่ฝ่ามือ

     

    “อ๋อ ที่โดนมีดบาดน่ะเหรอ ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่นี้เอง เล็กน้อยๆ”เรียวเฮว่า พลางสะบัดมือไปมาน้อยๆ

     

    “ไม่ได้ครับ นั่งรอผมบนโซฟาดีๆเลย ผมจะทำแผลให้”เรียวพูดอย่างเด็ดขาด แล้วลุกเดินไปหาอุปกรณ์มาทำแผลให้ร่างสูง

     

    เรียวเฮฟังแล้ว ก็ยิ้มแล้วมองตามอีกคน ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งบนโซฟาดีๆ


     

    .....จะเอานายมาเป็นหมอประจำตัวให้ได้เนี่ย..มันจะยากแค่ไหนกันนะ.....


     

    ไม่นานเรียวก็เดินกลับมา พร้อมชุดปฐมพยาบาล

     

    “ยื่นมือมาสิครับ”เรียวบอก พลางค้นกล่องยา

     

    ซึ่งเรียวเฮก็ทำตามอย่างว่าง่าย


     

    “นี่ อาบน้ำแล้วเหรอครับ ?”เรียวถาม ระหว่างที่ทำแผลให้ เนื่องจากเรียวเฮเปลี่ยนชุดแล้ว ผ้าพันแผลที่มักพันไว้ที่แขนก็ไม่มี

     

    “อื้อ มันร้อนน่ะ เลยอาบก่อน”เรียวเฮตอบ

     

    “แต่ก็ยังอุตสามาวิดพื้นนะครับ ให้เหงื่อออกเล่นเหรอ”เรียวถามอีก พลางถอนหายใจ

     

    “แค่นั้นไม่ทำให้เหงื่อออก อย่างแน่นอนสุดหูรูด”เรียวเฮตอบอย่างมั่นใจ

     

    ส่วนเรียวก็มองหน้า แล้วอยากถามมากเลย ว่ามันแปลว่าอะไร ไอ.สุดหูรูดเนี่ย แต่คิดอีกที กลัวได้คำตอบแบบยูกิแล้วจะงงหนักกว่าเดิม ไม่ถามดีกว่า

     

    “ครับๆ เสร็จแล้วครับ”เรียวบอก เมื่อพันผ้าเสร็จ

     

    “ขอบใจนะ เรียวทำแผลเก่งจริงๆ”เรียวลองขยับมือดู

     

    “ก็คุณเพื่อนชอบทำงานอดิเรก(ตีกับชาวบ้าน)แบบที่มีแผลกลับมานี่นา มันก็ต้องเก่งบ้างล่ะ”เรียวตอบ พลางเก็บอุปกรณ์ลงกล่อง

     


    “นี่ ตกลงมาเป็นหมอประจำตัวให้ชั้นเถอะ ถ้ามีเรียวคอยดูแล เคียวโกะต้องดีใจแน่เลย”เรียวเฮถาม

     

    ชื่อหญิงสาวที่เคยได้ยิน ทำเอาเรียวชะงัก

     

    “ท่าทางคุณเคียวโกะจะสำคัญนะครับ คุณเรียวเฮเรียกชื่อเธออ่อนโยนมากเลย”

     

    “อื้ม สำคัญที่สุด บางทีอาจจะมากกว่ามวยรึเรื่องวองโกเล่ก็ได้นะ”เรียวเฮตอบไป พลางคิดถึงน้องสาว ก็เห็นใบหน้าของน้องสาวลอยขึ้นมา

     

    เรียวที่เห็นเรียวเฮทำหน้ามีความสุข ก็รีบลุกขึ้น

     

    “งั้นผมขออาบน้ำก่อนนะ”เรียวรีบเดินหนี พร้อมกับอาการเจ็บแปล๊บขึ้นมาในอก

     



    หลังจากที่หยิบเสื้อผ้า เดินเข้าห้องน้ำมาแล้ว

     

    เรียวก็ทรุดลงนั่ง ไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไมน้ำตาถึงไหลออกมา

     

    “ถ้าเขาเป็นคนสำคัญขนาดนั้น คนที่ทำให้คุณมีความสุขได้ขนาดนั้น แล้วจะมีผมเป็นคู่หมั้นไปทำไม ให้เขากลับไปหาผู้หญิงคนนั้นดีกว่าไม่ใช่เหรอ”เรียวพูดเบาๆกับตัวเอง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเรื่อยๆ

     

    เรียวส่ายหัวให้กับความคิดตัวเอง บางทีคนที่ผิดอาจเป็นตัวเอง ที่หลงสนใจร่างสูงกว่า แค่เขาช่วยปกป้อง เขาใจดีด้วย แค่นี้ก็หลงชอบเรียวเฮแล้วเหรอ งั้นก็คงต้องทำใจสินะ หลงชอบไปแล้ว ทั้งที่ไม่รู้ว่าอีกคนมีสำคัญรออยู่ ก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากตัดใจ แล้วบอกกับตัวเองไว้ว่า เรียวเฮต้องการให้เขาเป็นหมอประจำตัว ไม่ใช่คู่ชีวิต



     

     

     



    แล้วเรียวก็ลุกขึ้น อาบน้ำ

     

    หลังจากที่ได้ทำใจก่อนออกจากห้องน้ำแล้ว(ซึ่งใช้เวลาเกือบ 5 นาที) เมื่อเรียวออกมาก็มองซ้ายมองขวาไม่เจอเรียวเฮในห้องนอน และห้องนั่งเล่น ก่อนที่หูจะได้ยินเสียงเรียวเฮพูดอยู่ เลยเดินไปหาต้นเสียงที่ได้ยินจากระเบียง

     

    “รู้แล้วล่ะ ขอบใจนะที่เป็นห่วงเคียวโกะ”บทสนทนาที่ได้ยิน และสีหน้ามีความสุขของเรียวเฮ ทำให้เรียวชะงักเสียงที่กำลังจะเรียกทันที

     

    “ไม่ต้องเป็นห่วงให้มากนักหรอก ไม่ทำอะไรเกินตัวหรอกน่า”


     

    เรียวยืนฟังอยู่เงียบๆ หลังม่าน ทั้งที่แถวนี้ไม่น่าจะโทรศัพท์ได้ เพราะอยู่กลางภูเขา แต่หญิงสาวก็พยายามจนสามารถโทรคุยกันได้เลยเหรอ

     

    “อ้อ จริงสิ ลืมเล่าไป จำเรื่องที่พี่เคยเล่าให้ฟังได้มั้ย เพื่อนร่วมห้องที่มหาลัยน่ะ ตอนนี้พี่ขอให้เขามาเป็นหมอประจำตัวให้ล่ะ เขาทำแผลเก่งมาก แล้ววันหลังจะพาไปให้รู้จักนะ”

     

    “แน่นอน เคียวโกะต้องชอบเขามากแน่ๆ.....จะรอให้ถึงวันนั้นอย่างสุดหูรูดเลยล่ะ....อืม..ดึกแล้ว รีบนอนซะ ฝันดีนะ เคียวโกะ”หลังจากวางสายไป เรียวเฮก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว ต่างจากเรียว ที่ในหัวขาวโพลน ไม่รู้ว่าตัวเองกำมือแน่นตั้งแต่เมื่อไร



     

    ...ย้อนไปประมาณ 15 นาที ก่อน...

     

    หลังจากที่เรียวหนีไปอาบน้ำ ทิ้งให้เรียวเฮงงๆอยู่นั้น ตอนแรกก็ว่าจะตามไป แต่มีเสียงเคาะประตูซะก่อน

     

    “อ้าว เจ้าหนูรีบอร์นเองเหรอ มีอะไรเหรอ ดึกป่านนี้”เรียวเฮถาม เมื่อเปิดประตู พบผู้ที่มาเคาะห้องเขา

     

    “เคียวโกะเป็นห่วงอยู่น่ะ เธอติดต่อผ่านเบี้ยงกี้มา อยากคุยกับนาย”แล้วรีบอร์นก็ยื่นโทรศัพท์ให้ พลางเดินจากไป ทิ้งให้พี่นอง คุยกันซะให้ หายอยาก

     

    เรียวเฮเมื่อรับโทรศัพท์ ก็ได้ยินเสียงน้องสาวถามด้วยความเป็นห่วงทันที

     

    เรียวเฮยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเริ่มบทสนทนากับน้องสาวขี้เป็นห่วง

     



    ...ปัจจุบัน...

     

    เรียวสูดลมหายใจเรียกสติ ก่อนจะทักเรียวเฮออกไป

     

    “คุณเรียวเฮ ตากลมตอนกลางคืน ระวังไม่สบายเอานะครับ”แค่เป็นห่วง เขาคงทำได้ใช่มั้ย ในระหว่างที่ตัดใจน่ะ

     

    “โอ้ จะเข้าไปแล้วล่ะ แค่แว๊บมาคุยโทรศัพท์หน่อยเดียวเอง”เรียวเฮหันมายิ้มให้

     

    “จากใครรึครับ อุตสาโทรมาได้นะ กลางป่าแบบนี้”เรียวถามแบบแกล้งไม่รู้

     

    “นั่นสิ ยัยนั่นโทรมาติดได้ไง ก็อยากรู้เหมือนกัน เคียวโกะน่ะ”เรียวเฮตอบกลับมา

     

    “เห็นท่าทางมีความสุขมาก ไม่เจอหน้ากันแบบนี้ คงคิดถึงกันแย่เลยนะครับ”

     

    “ก็นะ เคียวโกะขี้เป็นห่วงน่ะ  พอรู้ว่าเป็นเรื่องวองโกเล่ เลยรีบติดต่อเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า อย่างไวเชียวล่ะ เหมือนแม่ไม่มีผิด”เรียวเฮหัวเราะร่วน

     

    ถึงขนาดรู้เรื่องที่คุณเป็นมาเฟียด้วยเหรอ คนสำคัญคนนั้นของคุณน่ะ...ต้องเป็นคนที่วิเศษมากแน่เลย เพราะขนาดเขารู้ เขายังไม่ทิ้งคุณไปไหน และเป็นห่วงมากอีกด้วย

     

    “มีคนเป็นห่วงก็ดีแล้วนี่ครับ”เรียวว่า แล้วเดินกลับเข้าห้อง

     

    เรียวเฮขมวดคิ้วนิดหน่อย เรียวไม่เคยเดินหนีเขาดื้อๆแบบนี้ แถมนี่เป็นครั้งที่สองของวันแล้วด้วย

     



    เรียวเฮเดินตามเข้าห้องมา

     

    “นอนกันเถอะครับ วันนี้ก็เหนื่อยมากแล้วนะ”เรียวบอกพร้อมกับปิดไฟ เหลือแต่ไฟบนหัวเตียง

     

    ตอนที่เรียวเดินกลับมาที่เตียง เรียวเฮก็ฉุดมือเรียวไว้ แล้วหมุนตัวเรียวดูรอบๆ

     

    “อะ อะไรเหรอ??”เรียงถามงงๆ

     

    “นายไม่ได้บาดเจ็บจากการต่อสู้แน่นะ ดูนายแปลกๆ”เรียวเฮถาม

     

    “ไม่ได้บาดเจ็บหรอกครับ คุณเรียวเฮคิดมากไปแล้ว”เรียวยิ้มตอบ

     

    “เหรอ อาการนาย เหมือนกำลังมีเรื่องงอนชั้น แล้วไม่อยากพูดด้วย เลยเดินหนีเลย”เหมือนคำพูดจะแทงใจดำคนตัวเล็กกว่า ทำเอานิ่งไป

     

    “ชั้นทำอะไรผิดเหรอ เรียวถึงได้โกรธ”เรียวเฮพูดพลางดึงมือให้อีกคนนั่งลงบนเตียง ส่วนตัวเอง ก็คุกเข่าลงกับพื้น ให้สายตาอยู่ระดับเดียวกัน

     

    “เปล่านี่ครับ บอกแล้วไง ว่าคุณเรียวเฮคิดไปเอง”เรียวตอบ พลางหลบตา

     

    “แต่เรียวไม่เคยเป็นอย่างนี้ เรียวไม่เคยหลบตาชั้น”เรียวเฮจับมือเรียวแน่นขึ้น พลางถามย้ำ

     

    “พูดเหมือนเรารู้จักกันดีเลยนะครับ เท่าที่นับได้ จริงๆเรารู้จักกันไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ” เรียวพูดเสียงแข็ง

     

    “ไม่เอาน่าเรียว อย่าทำแบบนี้สิ ชั้นยังอยากให้เราอยู่ด้วยกันไปนานๆนะ”เรียวเฮพูดอย่างอ่อนใจ

     

    “คนที่อยู่เคียงข้างคุณเรียวเฮ คงไม่ใช่ผมหรอกครับ เป็นคุณเคียวโกะต่างหาก”ชื่อที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน ทำให้เรียวเฮเงียบไป สมองที่ปกติ ไม่ค่อยประมวลผลเรื่องอื่น นอกจากเรื่องมวย เริ่มทำงาน ก่อนจะนึกขึ้นได้ย่างไม่น่าเชื่อ


     

    “เอ่อ เรียว ชั้นต้องบอกนายไว้ก่อน ก่อนที่นายจะเข้าใจผิด”

     

    “เรื่องอะไรครับ”

     

    “เรื่องเคียวโกะน่ะ”

     

    “....”เรียวเงียบไม่ตอบ ทำให้เรียวเฮยิ่งมั่นใจเลยว่า เรียวต้องเข้าใจผิดเป็นอย่างอื่นไปแล้วแน่

     

    “เคียวโกะน่ะ เป็นน้องสาวของชั้นนะ ไม่ได้เป็นอย่างอื่น ตอนนี้เรียนอยู่ที่อิตาลี”

     

    “หะ น้องสาว”เรียวทวน พร้อมหันมามองเรียวเฮ

     



    “นี่ สรุปโกรธชั้นเรื่องนี้จริงๆใช่มั้ยเนี่ย”เรียวเฮถาม

     

    “อะ..เอ่อ..”เรียวตอบไม่ถูก

     

    “เคียวโกะเป็นน้องสาวชั้น เด็กกว่าปีนึง เท่าพวกซาวาดะ เป็นเพื่อนร่วมชั้นของซาวาดะด้วย ตอนม.ต้น ตอนนี้ ยัยนั่นไปเรียนอยู่ที่อิตาลีกับเพื่อน แถมมีแฟนแล้วด้วย วันหลังจะแนะนำให้รู้จักนะ”เรียวเฮเล่าแบบย่อๆ

     

    “คะครับ”ตอนนี้ในหัวเรียว มีข้อมูลตีกันจนยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว นี่เขาคิดฟุ่งซ่านมาก จนทำให้ตัวเองร้องไห้คนเดียวได้เลยเหรอเนี่ย คิดเองเออเองสงสัยว่าตรงหน้ามีแฟนแล้ว แต่กลับกลายเป็นน้องสาวซะงั้น สงสัยจะอาการหนักจนน่าส่งแผนกจิตประสาทนะเนี่ย

     



     เรียวเฮเห็นสีหน้า ของเรียวที่ผ่อนคลายมากกว่าเดิมแล้ว ก็ยิ้มให้ แล้วดึงคนตัวเล็กกว่าขึ้นเตียง พร้อมกับคร่อมไว้ไม่ให้หนีไปไหนด้วย

     

    “คะ คุณเรียวเฮ”เรียวเรียกอย่างตกใจ เพราะไม่ทันตั้งตัว แถมหนีไม่ได้ด้วย

     

    “คราวหน้า ถ้าสงสัยก็ถาม อย่าเก็บไว้คนอื่นเดียว ดูสิ เข้าใจผิดแบบสุดหูรูดเลย”

     

    “ครับ ขอโทษด้วยครับ ที่คิดอะไรไม่เข้าท่า”เรียวขอโทษแบบยอมรับผิดแต่โดยดี

     

    “งั้นก็ขอพูดให้ชัดๆเลยแล้วกัน จะได้ไม่มีปัญหาอีก”เรียวเฮพูดพลางยิ้มให้เรียว

     

    “ชั้นคิดว่าชั้นชอบนาย ถึงได้ขอให้นายมาเป็นหมอประจำตัว เพื่อให้นายได้มาอยู่เคียงข้างชั้น เพราะงั้นอย่าได้คิดหนีไปไหนเชียวล่ะ”คำสารภาพรักสั้นๆ เหมาะสมกับพวกพูดไม่ค่อยเก่งอย่างเรียวเฮ แค่นี้ ก็ทำให้อีกคนหน้าแดง เขินจนสบตาตรงๆไม่ได้

     

    เรียวเฮจับใบหน้าที่ตอนนี้แดงแปร๊ดจนปิดไม่ได้ ให้หันมามองเขา

     

    “นายพอจะให้คำตอบชั้นได้มั้ย”

     

    “......”

     

    “.....”เรียวเฮเงียบรอฟังคำตอบ

     

    “..ผมไม่รู้หรอกครับ ว่าผมจะอยู่เคียงข้างคุณได้มั้ย ผมไม่เก่งการต่อสู้ อาจจะทำอะไรไม่ได้นอกจากเป็นตัวถ่วงคุณ แต่ว่า......”

     

    “ ขอให้ผมได้เป็นห่วงคุณ ได้ทำแผลให้คุณต่อไปได้มั้ย”เรียวตอบตรงๆ และยอมสบตาเรียวเฮแต่โดยดี

     

    “งั้นชั้นถือว่านั่น เป็นคำตอบตกลงนะ.....และนี่แทนคำสัญญา”เรียวเฮฉีกยิ้มให้ เมื่อคำตอบที่ได้มา ช่างน่าพอใจ

     

    “สัญญาเหรอ..อือ..”แล้วเรียวก็ไม่ได้พูดอะไรอีก  เมื่อคนด้านบน แนบริมฝีปากลงมา แทนคำสัญญาดั่งที่เจ้าตัวว่า

     

    ในเมื่อสารภาพไปแล้ว เรียวก็ไม่คิดขัดขืน หลับตาลง ยอมรับสัมผัสของคนด้านบนแต่โดยดี

     


    มือบางกำเสื้อยืดที่เรียวเฮใส่อยู่ เมื่อในโพรงปากเริ่มถูกรุกราน

     

    ลิ้นร้อนไล้สัมผัสไปทั่วอย่างเอาแต่ใจ ก่อนจะมาหยุดพัวพันลิ้นเล็กกว่าไว้

     

    “อือ..อื้อ.อ.อื้อ..”เรียวเริ่มประท้วง เมื่อเริ่มหายใจไม่ออก ซึ่งเรียวเฮก็ยอมผละแต่โดยดี แต่ไม่วายเลียริมฝีปากเรียวส่งท้าย

     

    “ฮ่า..แฮ่ก..แฮ่ก..”ร่างเล็กกว่าหายใจหอบ โกยอากาศเข้าปอดอย่างรวดเร็ว กว่าลมหายใจจะกลับเป็นปกติ คนด้านบนก็เริ่มอยู่ไม่สุขซะแล้ว

     

    “คุณเรียวเฮ”เรียวร้องเรียกชื่ออีกฝ่าย เขาไม่รู้ตัวเลย ว่าชุดนอนที่เขาใส่อยู่ โดนปลดกระดุมสองเม็ดบนไปตั้งแต่เมื่อไร

     

    แต่เหมือนเรียวเฮจะแกล้งหูทวนลม ไม่สนใจเสียงของเรียว กดจูบที่คอขาวๆ ไล่ขบเม้มไปตามไหล่มนน่าสัมผัส

     



    “อึก...อืม.ม..”เรียวเม้มปากแน่น ใบหน้าแดงก่ำ หลับตาลงอีกครั้ง ตรงที่โดนสัมผัส มันร้อนมาก หัวใจก็เริ่มเต้นรัวหนักขึ้น จนเรียวกลัวอีกฝ่ายจะได้ยิน

     

    เรียวเฮที่ลอบสังเกตอาการของอีกคนอยู่ เมื่อเห็นดังนั้นก็ลอบยิ้ม แล้วกดจูบหนักๆที่ต้นคอขาว

     

    “คุณเรียวเฮ”เรียวเรียกด้วยเสียงเบาหวิว หัวใจเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว

     

    “เท่ากับ ชั้นตีตราจองเรียวไว้แล้วนะ”เรียวเฮพูดขึ้นมา เมื่อละจากต้นคอที่ยังมีกลิ่นสบู่ ชวนให้หลงใหล ด้วยความเสียดายไม่น้อย

     

    “เอ๋??”คนด้านล่างยังงงๆกับสถานการณ์ตอนนี้อยู่ไม่น้อย

     

    ร่างสูงผมเทา ยิ้มน้อยๆให้ ก่อนจะเอื้อมมือมาแตะตรงรอยแดงที่เขาสร้างไว้บนร่างกายร่างบางผมสีน้ำเงินเข้ม

     

    “ก็จูบแทนคำสัญญา ส่วนรอยนี่ก็แทนการจองตัวเรียว ไม่ให้หายไปจากชั้น พร้อมกับให้เรียวเป็นแฟนด้วยเลยไง”เรียวเฮพูดออกไป พร้อมก็ยันตัวขึ้นมานั่งข้างๆ ส่วนคนฟังก็สติแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขินมาก จนต้องพลิกตัวหนี ซุกใบหน้าลงกับหมอน ส่วนมือก็รีบติดกระดุมที่ถูกปลดไป

     




    “หึหึ”เรียวเฮหัวเราะเบาๆ กับอาการเขินของแฟนตัวเอง ดูท่าจะเขินมาก ทำไมเรียวเฮจะไม่รู้ ก็หูน่ะ แดงน่าดูเชียวล่ะ

     

    น่าแกล้งดีจริงๆ ทันทีที่คิดได้ เรียวเฮก็ก้มลงกระซิบที่ข้างหูเรียว

     

    “ตกลงเป็นแฟนกับชั้นนะ”

     

    “....”เรียวเฮได้ยินเสียงอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์ เลยถามใหม่ พร้อมจับสังเกตใบหูที่แดงกว่าเดิมอีก

     

    “หืม ว่าไงครับ”

     

    “ครับ..”คำสั้นๆที่ได้ยิน  ทำเอาความดีใจพุ่งพรวด ล้มตัวลงนอน พร้อมดึงเรียวเข้ามากอดไว้แน่น แถมจูบเบาๆที่หลังคออีก

     

    “คุณเรียวเฮ ทำอะไรน่ะครับ”เรียวลนลาน รีบถาม เพราะสถานการณ์มันเริ่มล่อแหลมอีกครั้งแล้วไง อันตรายจริงๆ

     

    “ไม่ทำอะไรหรอกน่า คนเขามีพ่อมีแม่ จะทำอะไรข้ามขั้นตอนได้ไง แค่อยากกอดเฉยๆ”คนผมเงินตอบ

     

    ส่วนผมน้ำเงินที่ฟังก็ค้าง ตัวแข็งอีกรอบ คิดได้ขนาดนั้นเชียว

     

    “เหนื่อยมากแล้ว นอนเถอะ ฝันดีนะ เรียว”

     

    เรียวฟังแล้วก็หันหน้ามาตอบ

     

    “ราตรีสวัสครับ”เรียวยิ้มกว้างให้ เรียวเฮก็ยิ้มตอบ จูบเบาๆที่หน้าผาก เป็นไนท์คิส แล้วหลับไปด้วยกัน

     



    - - - - - - - - - - - - - -

    แต่งเอง แล้วอิจฉาเรียวยังไงชอบกล

    เห็นบ่นเรียวเฮกันเยอะ เลยต้องขอบอกว่า ทำใจนิดนึง คนมันบื้ออ่ะ กว่าจะรู้ต้องใช้เวลา

     

    แล้วก็ คุณ Zero ข้าวไม่ได้ลงที่ธัญวลัยไว้นะ (เอาไว้ถ้าโดนแบน แล้วต้องตัดฉาก NC จะเอาไปลงที่นั่น เฮ้อ ช่างชั่วร้ายจริงๆ)  เรื่องนั้นน่าจะเป็นของนักเขียนท่านอื่น เพราะมีคนขออนุญาตข้าวยืมพล็อตเรื่องบางช่วงไปเขียน ข้าวก็ไม่ได้ว่าอะไรน่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×