... เรื่องเล่าจาก - - ในวัง - -.... - นิยาย ... เรื่องเล่าจาก - - ในวัง - -.... : Dek-D.com - Writer
×

    ... เรื่องเล่าจาก - - ในวัง - -....

    มีเรื่องที่จะเล่าให้ฟังอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องจริงเหตุการณ์เกิดทีจังหวัดตาก ...........อ่านแล้วยังไงก้อคิดว่าไม่เบื่อ.............

    ผู้เข้าชมรวม

    361

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    361

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    1
    จำนวนตอน : 0 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 66 / 17:52 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                                                                      อ่านซักนิด  เผื่อติดใจ


                    มีเรื่องที่จะเล่าให้ฟังอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องจริงเหตุการณ์เกิดทีจังหวัดตาก

    > > เมื่อพระเทพทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฏรตามที่ต่างๆ
      และได้ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาดสด
      และถามความเป็นอยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา
    > > ซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า
    ' ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ '
    > > แม่ค้าตอบว่า
    ที่สวรรคตแล้ว กิโลละ 40 บาท
       และที่เสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80 บาทจ๊ะ ' เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน

                         เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า
    > > นางสนองพระโอษฐ์ของฟ้าหญิงองค์เล็ก ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับฟ้าหญิง
      ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสายด้วย
      ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์
      นางสนองพระโอฐก็ งง...งง ว่าคนที่แบงค์ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่า
      แต่พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ
      ก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์
      แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ ............ ขนลุกเลย ทรงตรัสกับในหลวงท่านอยู่นั่นเอง


                           อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสาน
    > > เมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่ง
      ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทูล
      ที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงน
      เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ดีนี้ จึงมีคำกราบทูลว่า
      มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือน
    > > ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว. .
    > > พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า
           "  มี
    ทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป 
      ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย
      และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว "
    > > เรื่องนี้ ดร.สุเมธเล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะ ไม่ยกเว้นแม้ในหลวง


                  ....เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น
                   เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่นเรื่องขออนุญาตนำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษ
    > > ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า '
    ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่มิกกี้เมาส์ '

                เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวง ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดิน และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้น        ผู้ใหญ่ ที่   ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน
    > > ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนมี ข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงาน
    > > ว่า
    ' ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม
      ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ '
    > > เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื่อ ในหลวงทรงแย้มพระสรวล อย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า
    > > ' เออ ดี เราชื่อเดียวกัน... ' ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย
       เพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้
     
                 มีอยู่ครั้งหนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตรให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย ทรงโปรดสูบมวนพระโอสถ แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้ ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูลว่า 
              ' ถวายพระเพลิงพระเจ้าข้า '
    > > ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับอธิการบดีว่า
    > >
    ' เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้หรอก '

                  เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร
    > > อยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้ว
         แต่ ราษฎรผู้หนึ่งกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า
    > > '
    ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์ '
    > >
    ในหลวงทรงตรัสว่า ' ขอเดชะ พระหมดแล้ว '


                    วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด
    > > ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมาย
     พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาท
     ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาท
     แล้วก็เอามือของแกมาจับพระหัตถ์ของในหลวง แล้วก็พูดว่า
    > >
    ' ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง '
    > > แล้วก็พูดว่า ยายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมาย
     แต่ในหลวงก็ทรงเฉยๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร
     แต่พวกข้าราชบริพารก็มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัย หรือไม่
     แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคนนั้น
     ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า
    > >
    ' เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ ต้องเรียกน้าซิถึงจะถูก '


                    ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมาแล้ว
    > > พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวีมีพระอาการคัน
      มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา
      คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชาศัพท์
    > >  ก็กราบบังคมทูลว่า
    ' เอ้อ - ทรง... อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ "
    > > พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า
    ' ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่จะท้องได้ยังไง '
     แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่า หมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริงๆ ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า เอ้า พูดภาษา   อังกฤษกันเถอะ เป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษาอังกฤษไป

                   เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟังว่า
    > > มีอยู่ปีนึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร
      อธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิตแล้วบังเอิญว่า มีเหตุขัดข้องบางประการ
      ทำให้อ่านขาดตอน ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึงไหนแล้ว
      ปรากฏว่า ในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับอธิการไปว่า
    > >
    ' เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไปแล้ว '
    > > และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ ไฟดับไปชั่วขณะ...
       ทำให้บัณฑิตคนหนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ายรูป
       พอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้ว
       ก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาท
       ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับพระราชทานอีกครั้ง
       เพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่ระลึก ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุม
         
        >>>>>   ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน   <<<<<<

                  ***************...อ่านกันจบรึป่าวคัฟ...******************

                  ------------- ------ --  เปนรื่องจิง  ถ้ารักท่าน -- ---- ------------  ก็ช่วย  ลง คห. นะคัฟ   ..
                
                                                                                  
                                  


    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น