ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BL] เป้าหมายของข้าคือ HaRem!!

    ลำดับตอนที่ #45 : ย้อนยุค 40 (100%) : การพบกันของสองพี่น้อง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.51K
      402
      9 ต.ค. 60



    ย้อนยุค 40

    การพบกันของสองพี่น้อง

     

    ภายในห้องหนังสืออันหรูหราของนายหญิงสำนักเหม่ยลี้มีร่างสูงโปร่งของมู่หลี่หลงยืนกอดอกอยู่กลางห้อง ใบหน้าที่เริ่มเผยเเววหล่อเหลาตั้งเเต่เเตกหนุ่มมีร่องรอยของความหงุดหงิด "เรียกข้ามามีธุระอะไร"

    "อย่าหงุดหงิดสิ นานทีเจ้าจะว่างมาเจอข้าทั้งที"

    ไม่เพียงไม่ถือสากับท่าทีไร้มารยาทของเด็กหนุ่ม นายหญิงของหุบเขาเหม่ยลี้ยังยิ้มหวานเอ่ยหยอกล้อ ข้างกันมีร่างของสามีนั่งจิบชาไม่ห่าง

    "เข้าเรื่องเถอะ" มู่หลี่หลงยกมือนวดกระบอกตา เขาเเทบไม่ได้นอนมาหลายวันเเล้ว เนื่องจากงานเอกสารมากมายที่มาไม่หยุดไม่หย่อน ถ้าเลือกได้ขอนอนเเห้งตายดีกว่ามาเจอสามีภรรยาคู่นี้ดีกว่า

    ยัดงานทีเหมือนจะเอาให้ตาย เห็นข้าเป็นเซียนที่ไม่ต้องกินต้องนอนเรอะ!

    "พี่ของเจ้าอยู่ในหุบเขาเเล้ว" โจวหมิงพูดเสียงเย็นชา นัยน์ตางดงามเหลือบมองเด็กหนุ่มที่ยืนตัวเเข็ง "ระวังตัวด้วย"

    "ขืนฮ่องเต้สืบได้ว่าตระกูลโจวเเอบช่วย 'พระองค์' เหมือนตระกูลมู่ พวกเราคงลำบาก"

    โจวมี่ฮวาเสริมสามี ท่าทีล้อเล่นเปลี่ยนเป็นจริงจัง การลงทุนนี้เป็นอะไรที่เสี่ยงตั้งเเต่เเรก เพราะเจี่ยงลี่ขอมาหรอกนะ นางถึงยอมหลับตาข้างหนึ่งไม่ยอมรับรู้อะไร

    "..."

    "อย่าทำหน้าเครียดเช่นนั้นเลยเพคะ หม่อมฉันเเค่จะบอกว่าจนกว่าจะจบงานประลอง ขอให้องค์ชายทรงประทับอยู่แต่ในจวน อย่าได้ออกไปข้างนอกเด็ดขาด ...พระองค์ทรงวางใจ ภายในจวนนี้ไม่มีใครสามารถทำอะไรพระองค์ได้แน่นอนเพคะ"

    "เข้าใจเเล้ว จบเรื่องรึยัง"

    "เอ๊ะ? จบเเล้วเพคะ"

    "ขอตัว"

    มู่หลี่หลงสะบัดเเขนเสื้อ หมุนตัวออกจากห้องหนังสือไปดั่งพายุ ทิ้งให้นายหญิงหุบเขาเหม่ยลี้กระพริบตาปริบๆ นางหันมาหาสามีสุดสวยของตนเอง "เด็กนั่นจะนิ่งไปหน่อยหรือเปล่า"

    "เเต่ภายในคงไม่ได้นิ่งตามอย่างที่เห็นหรอก"

     

    ไอ้สัตว์สารเลวน่าตายนั่น

    มู่หลี่หลงกัดฟันกรอด เล็บทั้งห้าจิกลงบนอุ้งมือจนเลือดชิบ เเต่เด็กหนุ่มก็ไม่เเม้เเต่จะปลายตามอง นัยน์ตากวางเเดงก่ำจนเเทบเห็นเส้นเลือด ภาพเปลวเพลิงเเละเสียงกรีดร้องของพระมารดายังคงก้องในหัว

    รวมถึงเเผ่นหลังของพระบิดาที่ปกป้องเขาจนสิ้นชีพ

    'หนีไป ...หลี่หลง'

    'อย่า.. ได้กลับ มา... ที่นี่... อีก'

    ตึง!!!!

    "โถ่เว้ย!!!" เขาฟาดฝ่ามือใส่เสาต้นใหญ่อย่างทนไม่ไหว ความเเรงจากหมัดทำให้เสาต้นนั้นส่งเสียงเล่นเปรี๊ยะคล้ายจะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ ทั้งที่มันทำมาจากเนื้อไม้ชั้นดีที่มีความทนทานสูง

    'เจ้าน่ะหรือ น้องชายของข้า'

    "หึ ให้ซ่อนอยู่เฉยๆงั้นหรือ"

    ไม่มีทางซะหรอก!!!

     

    "คำนับภรรยาท่านรอง กว่าจะเยื้องย่างมาได้นะ"

    "อวี้อิ๋น เมื่อวานข้าเห็นหลิวจี่ควงสาวไปเดินงานที่หมู่บ้านด้วยว่ะ"

    "สือโถว!"

    "จ๋าจ๊ะ เเม่นางคนนั้นงามไม่เลวเลยเนาะ" สือโถวเอียงคอยิ้มยียวนให้หลิวจี่ คิดจะเล่นกับข้ามันเร็วไปหลายปีเฟ้ย ไอ้ร่างทรงศาลพระภูมิ!

    "เรื่องนั้นช่างมันเถอะสือโถว" อวี้อิ๋นบอกปัด ลุกขึ้นกอดเเขนเขาเเน่น ทิ้งให้หลิวจี่ยืนช็อกกับคำว่าช่างเถอะ 

    เพื่อนตาแมวกระซิบเสียงเบา "เจ้าไปเป็นเมียท่านตงฉินตั้งเเต่เมื่อไหร่"

    "ไม่ใช่ชาตินี้เเน่นอน"

    "เเสดงว่าตั้งเเต่ชาติก่อนเหรอ!?"

    วินาทีนี้ข้าควรตบมุกหรือตบเพื่อนตัวเองดีวะ? โว้ย! ชาติก่อนบ้าอะไรล่ะ โสดจนคานเเทบร้าง จะเอาไปรียูสใหม่พ่อค้ายังส่ายหัวเลย หอย!

    เห็นสายตาตายด้านของเพื่อนสนิท อวี้อิ่นจึงกระแอมเเก้เขิน " เเฮ่ม เเล้วเจ้าจะทำยังไงต่อล่ะ ท่านตงฉินมีนายน้อยอยู่เเล้วนะ"

    สือโถวชักเคร่งเครียดขึ้นมาบ้าง

    "เจ้าคิดว่านายน้อยตบตีเก่งป่ะวะ"

    ข้าจะได้ทำใจก่อน เผื่อคนงามสติเเตกโรยตัวลงมากระทืบเขาในยามวิกาลเหมือนที่เห็นในหนังจีน หรือจะไปซื้อพระมาห้อยคอดีวะ จะได้แคล้วคลาดจากภัย เเบบโจวเจว่ยกำลังจะยกมือตบ ละเจอพระอาจจะเกิดอาการร้อนใน ครั่นเนื้อครั่นตัวงี้ (?)

    "นายน้อยมีวรยุทธ์ขั้นหก... เจ้าคิดว่าตบเก่งมั้ยล่ะ"

    "ไม่"

    "ไม่เก่ง?"

    "ไม่อยู่เเล้วโว้ย!!" พูดจบก็เตรียมยกขาวิ่ง อวี้อิ๋นรีบกระโดดคว้าคอเพื่อนสนิทไว้

    "ใจเย็นสือโถว! ถ้าจะหนีก็ช่วยคืนเงินข้าก่อน!!"

    "งั้นข้าจะตั้งรกรากอยู่ที่นี่แหละ"

    "พวกเจ้าซุบซิบอะไรกัน" หลิวจี่ที่หายซึมเเล้ว เดินมาสมทบพวกเขาสองคน ดวงตาเสมองอวี้อิ๋นก่อนจะเลื่อนมายังท่อนแขนที่กอดคอสือโถวอยู่

    "ไม่" สือโถว

    "ไม่มีอะไร" อวี้อิ๋น

    "ไม่เสือกดิ หวายยยยยยยยย"

    หลิวจี่กอดอกอย่างตนที่เหนือกว่า "ค่าซาลาเปาสามลูกเมื่อวันก่อน"

    "ที่เธอเห็นเเค่ฝุ่นมันเข้าตา ฉันไม่ได้ร้องไห้"

    "หะ มันเกี่ยวไรวะ" อวี้อิ๋นเกาหัว

    "ไม่เกี่ยวอ่ะ เเค่อารมณ์มันได้" ช่างเศร้าใจนัก ช่วงนี้มีเเต่คนทวงตังค์ ช่วยเห็นใจคนที่เงินเดือนยังไม่ออกด้วย "ว่าเเต่พวกเจ้าเห็นมู่หลี่หลงมั้ย?"

    เอาจริงคือตอนนี้เขากำลังตามหามู่หลี่หลงอยู่ เห็นว่าเลิกงานเเล้วกะจะหนีบน้องมันไปเปิดหูเปิดตาที่งานด้านล่างเขาซะหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวหลี่หลงได้เส้นเลือดในสมองเเตกตายซะก่อน ส่วนพวกเจ้าสองคนมันก็เเค่ทางผ่านให้ข้ามาผายลมเล่นเท่านั้นล่ะ!

    อวี้อิ๋นส่ายหัว "ข้าไม่ได้เจอมู่หลี่หลงเกือบเดือนเเล้ว"

    "โอ๊ะ"

    "มีอะไรจะเเถลงไขก็รีบเอื้อนเอ่ยมาหลิวจี่ ชักช้าเดี๋ยวกระโดดเตะปากเเตก"

    "ใจเย็นสิ อืมมม ข้าได้ยินว่ามู่หลี่หลงลงเขาไปตั้งเเต่เช้าเเล้ว"

    "หา??!"

    อวี้อิ๋นกับสือโถวอุทานพร้อมกัน ไอ้หนูฮิคิโคโมริ*เวอร์ชั่นบ้างานนั่นอ่ะนะ ลงจากเขาไปตั้งเเต่เช้า???

    "ไปกับใคร"

    "ข้าไม่รู้"

    "เขาอาจจะนัดสหายไปเที่ยวในเมืองก็ได้ เจ้าอย่ากังวลนักเลย"

    "ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ เเค่สงสัยว่าสหายของมู่หลี่หลงเป็นคนเเบบไหน" พีคกว่าออกจากห้องไปคนเดียวคือมีเพื่อนนี่เเหละ หวังว่าหนูจะไม่ควงสามีกลับบ้านมาใช่มั้ยลูก "เออ เอาเถอะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าไปเที่ยวในเมืองคนเดียวก็ได้ว่ะ"

     

    ท่ามกลางฝูงชนที่เดินสวนกันมากมาย ขันทีจิ้นเดินกัดผ้าเช็ดหน้าตามหลังคุณชายหลิงไปไม่ห่าง เหล่าคนที่พวกเขาเดินผ่านต่างทำหน้างงงวย มองกลุ่มพวกเขาเป็นจุดเดียวกัน ขันทีจิ้นกัดฟันกรอดถลึงตาใส่ต้นเหตุที่เดินผิวปากอยู่ด้านข้าง

    "เจ้าทำบ้าอะไรลงไปห้ะ!"

    "หา? นี่ข้าเห็นความปลอดภัยของคุณชายเป็นหลักเลยนะ ถึงได้ดั้นด้นหาหน้ากากมาให้ท่านใส่"

    เพราะกลัวว่าใบหน้าอันหล่อเหลาของฮ่องเต้จะทำให้เกิดศึกชิงนายกลางเมือง พวกเขาจึงต้องหาอะไรมาบดปังซักหน่อย ไม่เข้าใจว่าขันทีแก่จะบ่นทำไม

    จิ้นอันกระทืบเท้า ชี้ไปยังเเผ่นหลังของคนที่เดินเอื่อยอยู่ด้านหน้า "ลายตุ๊กตาหมีเนี่ยนะ! เจ้าหาดีกว่านี้ไม่ได้รึไง!!" เสือ สิงห์ กระทิงเเรดอะไรก็หาไปสิ ทำไมต้องหมี!

    เเถมเป็นหน้ากากหมีสุดน่ารักที่กำลังเป็นที่นิยมของเด็กๆ เเทนที่จะกลมกลืนกับนักเดินทาง กลับกลายเป็นจุดเด่นที่ทำให้ทุกคนต้องมองตาค้าง

    มันก็เเน่สิ เล่นตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ เเต่ด้านบนนี่น่ารักไม่เข้ากับท่อนล่างเลย! ฮ่องเต้ก็เหมือนกัน เเทนที่จะทักท้วงกลับหยิบขึ้นมาสวมหน้าตาเฉย ไม่รู้ว่ามั่นหน้าเกินหรือง่วงเกินจะใส่ใจก็ไม่รู้

    "เฮ้ย หน้ากากหมีมันทำไม อันนี้ข้าซื้อมาตั้งเเพงนะโว้ย"

    ขันทีจิ้นหรี่ตา "ทำมาจากวัสดุชั้นดี? เป็นหน้ากากในตำนาน?"

    "เปล่า จ่ายรวมกับค่าน้ำหอมคุณหญิงของข้าน่ะ หน้ากากเเค่สามเหรียญ ส่วนน้ำหอมสี่ตำลึงทอง"

    "ถ้าไม่ติดว่าเจ้าเป็นเเม่ทัพของเเคว้น เเล้วข้าเป็นขันทีอันสูงส่งเเล้วล่ะก็ ข้าด่าเจ้าว่าไอ้สัตว์ไปเเล้วนะ"

    "...เจ้าด่าไปเเล้วนะ"

    กึก

    จู่ๆ คุณชายหลิงก็หยุดเท้า ฮ่องเต้หนุ่มหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคนสนิททั้งสอง ขันทีจิ้นเเทบอยากยกเท้าถีบไอ้เเม่ทัพเวร 

    หน้ากากหมีช่างทำร้ายฮ่องเต้นัก ความน่ารักของหมีไม่ได้ทำให้ท่านดูน่ารักไปด้วยเลย!

    "ไม่ต้องตาม"

    "อ่ะ เอ๋? ทำไมหรือขอรับ"

    ดวงตาภายใต้หน้ากากเสมองไปยังตรอกซอยเเคบที่ใครบางคนพึ่งเลี้ยวเข้าไป

    "คงทำเช่นนั้นไม่ได้ ชีวิตของท่านไม่ได้กระจอกงอกง่อยเหมือนเมื่อก่อนเเล้วนะขอรับ"

    "เสวียนฝาน!"

    ชายชราขึ้นเสียงสูง คุณชายหลิงเงียบไป ก่อนะจะพูดสั้นๆ 

    "ห้ามยุ่ง"

    เป็นอันว่าตามได้ แต่อย่าได้ยื่นมือเข้ามาสอดเด็ดขาด

    "ขอรับ"

    เเม่ทัพเสวียนโค้งตัวรับคำสั่งเช่นเดียวกับองค์รักษ์อีกสองคน คุณชายหลิงพยักหน้า สาวเท้าไปยังตรอกที่หมายตา 

    ทิ้งให้ขันทีจิ้นมองตามด้วยความเป็นห่วง

     

    ถึงเเม้ว่าเมืองนี้จะเป็นเมืองที่อยู่ใกล้สำนักเหม่ยลี้อันเลื่องชื่อ เเต่ภายในตรอกซอยกลับน่ากลัวไม่ต่างจากสลัมของเมืองอื่นนัก

    คุณชายหลิงเดินเข้าไปอย่างไม่ติดขัด เทียบกับเมืองติดชายเเดนที่เขาเคยอยู่ตั้งเเต่เด็ก ตรอกซอยนี้ถือว่าดีกว่าจม

    มือใหญ่ยกขึ้นจับด้ามดาบเมื่อเห็นว่าเป้าหมายเลี้ยวซ้ายหายไปที่หัวมุม 

    มุกเด็กๆ

    คุณชายหลิงยังคงสงบนิ่งเช่นเดิม เขาก้าวเข้าไปอย่างไม่เกรงกลัว พอพ้นหัวมุมกลับพบเพียงความว่างเปล่าไร้เงาของคนที่ตามหา 

    ร่างสูงหลับตาลง

    ภายในเสี้ยววินาทีนั้นไอสังหารพร้อมคมดาบก็พุ่งเสียดอากาศมาอย่างรวดเร็ว  ฮ่องเต้หนุ่มลืมตาพรึ่บ ยกดาบขึ้นมากั้นในพริบตา

    เคร้งงงง!!

    เสียงโลหะกระทบกันดังลั่นตรอกซอย ชายหนุ่มหรี่ตาลง

    "คิดว่าจะได้ผล?"

    "ไม่อยู่เเล้ว"

    เบื้องหน้าคือคนที่ตามหามาหลายปี เเสงสะท้อนจากดาบคู่ของอีกฝ่ายส่องกระทบใบหน้าอ่อนเยาว์ของบุคคลผู้เป็น น้องชาย

    ชายหนุ่มกดแรงที่ดาบ มู่หลี่หลงเปลี่ยนจากตั้งรับเป็นเอนตัวไปด้านหลัง ก่อนจะตะวัดเท้าตีลังกาออกจากฮ่องเต้ไปไม่กี่ก้าวพร้อมยกดาบคู่ตั้งท่าเตรียมพร้อมอีกครั้ง

    ดวงตาง่วงงุนเปลี่ยนเป็นดุดันจริงจัง เมื่อความรู้สึกเจ็บเเปลบแล่นขึ้นที่ต้นเเขน 

    "ไม่เลว"

    ถึงขั้นทำให้ข้ามีเสียเลือดได้ ดูท่าจะประเมินอีกฝ่ายต่ำไป... สินะ

    "ไม่ได้เจอกันนาน ข้าอยากฆ่าเจ้าใจจะขาดเลยล่ะ จ้าวฉี่หลิง"

    "หึ ไม่ต่างกันหรอก"

    เด็กหนุ่มเอ่ยนามนั้นอย่างถือดี 'จ้าวฉี่หลิง' ผุดยิ้ม 

    ไม่ได้ยินชื่อนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ

    เพราะอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นสกุลมู่ การไล่ล่าถึงได้ยากเย็นกว่าที่ควรจะเป็น ผู้ใดจะไปคิดว่าพระสนมซูเฟยจะเป็นญาติกับตระกูลมู่เเสนกักขฬะของเเคว้น กว่าจะสืบหาได้เล่นทำเอาเขาลำบากไม่น้อย

    จ้าวฉี่หลิงกระตุกยิ้มภายใต้หน้าก่อน ก่อนจะตบเท้าเข้าโจมตี 

    "จ้าวหลี่หลง ...คือชื่อเจ้าสินะ"

    เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

    มู่หลี่หลงยกดาบขึ้นไขว้เป็นกากบาทรับการโจมตีเเสนหนักหน่วง ประกายไฟจากดาบส่องประกายทั่วตรอกเเคบราวกับคสามพิโรธของจ้าววายุ 

    เด็กหนุ่มเเสยะยิ้มเหี้ยมพลิกตัวเตะสีข้างจ้าวฉี่หลิง 

    เเม้ฮ่องเต้หนุ่มยกเเขนขึ้นกั้นทัน เเต่เเรงนั้นก็ทำให้ไถลไปหลายจั้ง

    "ลืมชื่อน้องชายตัวเองหรือ ท่านพี่"

    "ไม่เคยจำต่างหาก”

    เขาถูกส่งไปอยู่ชายเเดนตั้งแต่เกิด ใช้ชีวิตดั่งสามัญชนทั่วไป ต้องจับดาบร่วมสงครามกับสายร่วมศึกไม่เว้นแต่ละวัน ไหนเลยจะไปจำชื่อเหล่าเด็กน้อยที่ฮ่องเต้องค์ก่อนร่วมกันผลิตกับเหล่าสตรีพวกนั้นกัน

    "ชื่อของเจ้าเอง... อีกไม่นาน" ก็คงลืม

    ตึง! โครม!!

    “อั่ก!

    ร่างของมู่หลี่หลงลอยไปกระแทกหินเย็นเฉียบเสียงดังลั่น ดาบคู่ในมือร่วงหล่นสู่ผืนดิน 

    จ้าวฉี่หลิงไม่รอช้าตะวัดดาบใส่คอเด็กหนุ่มทันที

    เคร้ง!

    “หืม?”

    มีดสั้นเล่มเล็กถูกยกขึ้นกั้นดาบยาวได้ทันท่วงที จ้าวฉี่หลิงเเค่นในลำคอ เพิ่มแรงกดดาบในมือมากกว่าเดิม มู่หลี่หลงกัดฟันกรอดจ้องใบดาบที่เคลื่อนเข้ามาใกล้คอของตนอย่างเชื่องช้า

    จะจบเเค่นี้งั้นหรือ!!?

    ตุบ!!

    พวกเขาหันไปตามเสียงพร้อมกัน ที่ปากซอยมีร่างคุ้นเคยยืนอ้าปากค้าง ข้าวของในมือร่วงหล่นเกลื่อนเต็มพื้น

    "นั่นพวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน!!"

    สือโถวเเผดเสียงดังลั่น ยกนิ้วสั่นระริกไปยังสองร่างที่ยืนชิดกันจนเเทบจะสิง 

    โอ้-มาย-ก็อต! ลูกสาวข้าใจเเตก พาผู้ชายมาฟิทเจอริ่งที่ตรอกซอย! ใครสอนให้หนูเลือกสถานที่ทรหดเเบบนี้กันลู๊กกกกก!

    "..."

    มู่หลี่หลงหน้าซีดเผือดมากกว่าเดิม ในใจร้อนดั่งไฟ 

    ทำไมคนที่เขากังวลมากที่สุดถึงมาอยู่ที่นี่ได้! 

    "เรื่องนี้เจ้าไม่เกี่ยว! ไสหัวไปซะ!!"

    สือโถวยกมือทาบอกน้ำตาคลอ นอกจากจะไม่เห็นหัว ยังมีการไล่ข้าไปไกลๆด้วย!? เพลงค่าน้ำนมที่สอนมา(?)ไม่เคยเข้าหัวเจ้าเลยหรือ ไอ้ลูกทัพพี เอ้ย ทรพี!!

    "ข้าไม่ไป!" สือโถวกางเเขนจังก้า "ปล่อยหลี่หลงเดี๋ยวนี้ไอ้หน้าหมา!"

    "หน้ากากหมี"

    "ข้าไม่ได้พูดถึงหน้ากาก เเต่กำลังด่าเจ้าอยู่ต่างหากโว้ย เเล้วนี่อะไร! เล่นเอสเอ็มกันด้วยเหรอ ถึงได้เอาดาบมาพาดคอกันเนี่ยหะ!"

    สองพี่น้องสบตากัน อารมณ์ฆ่าฟันหดหายทะลุเข้าตูดหมา เหลือเเต่ความงงงวยสับสนในชีวิต

    สือโถวเห็นทั้งสองคนมองหน้ากันก็นึกว่ากำลังเเสดงความอาวรณ์ผ่านสายตา รีบพุ่งเข้ามาถีบสีข้างฮ่องเต้ของเเคว้นกระเด็นไปสามก้าว

    โครม!

    "อึ่ก"

    "สะ สือโถว"

    มู่หลี่หลงอ้าปากค้าง สือโถวดันมู่หลี่หลงไปด้านหลัง ใช้หลังตนเองเป็นเกราะกำบัง จ้องบุรุษหน้าหมีด้วยสายตาอาฆาต "อยากจะคบกันข้าไม่ว่าหรอกนะ เเต่ช่วยเห็นเเก่หน้าหลี่หลงด้วย เด็กมันมีพ่อมีเเม่นะ!"

    "..." 

    จ้าวฉี่หลิงกระพริบตาปริบๆ 

    นมปลอมพูดเรื่องอะไร พ่อเเม่เขาก็คนเดียวกับจ้าวหลี่หลงไม่ใช่รี?

    "เจ้าก็เหมือนกันหลี่หลง! จะให้ผู้ชายจับนมต้องให้เขาเปย์เงิ- เเฮ่ม จ่ายสินสอดก่อน เข้าใจมั้ย!"

    "อะไรของเจ้า"

    "ไม่ต้องมาทำหน้างง พี่ชายเสียใจมาก พี่เลี้ยงเจ้าไม่ดีหรือ ซู้ดดดดดดดด" ซูดขี้มูกใส่หน้าเเม่มเพื่อความสมจริง น้องน้อยจะได้รู้ว่าพี่ชายโซเเซดมากๆ!!

    ตอนอายุเท่าเจ้า ข้ายังดีดลูกเเก้วโดดหนังยางอยู่เลย เด็กสมัยนี้ช่างไวไฟนัก คนเเก่จะเป็นลม

    "อย่าขวาง"

    จ้าวฉี่หลิงชูดาบขึ้นขู่ สือโถวคิ้วกระตุกผลักมู่หลี่หลงให้ออกห่าง ก่อนจะชักดาบขึ้นเช่นกัน หนอย ไอ้หมีควายคิ้วตี้ นี่คิดจะใช้กำลังเเย่งชิงเลยเรอะ

    "โทษทีว่ะ เผอิญเด็กที่เจ้าเต๊าะอยู่มันคือน้องชายข้า"

    "เต๊าะ? น้องชาย?"

    "สือโถว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ถอยออกมา!"

    "เจ้าต่างหากที่ต้องถอยออกไป ผู้ใหญ่เขาเคลียร์เรื่องสินสอดกันอยู่ ไสหัวไปกินนมก่อนไป!"

    "หนวกหู"

    "เฮ้ย!!!"

    เคร้ง!

    ไอ้หมอนี่... เเรงเยอะเป็นบ้า!

    สือโถวเม้มปากเเน่น พยายามออกเเรงดันกลับ "โห่ กล้าลงมือก่อนเลยเหรอ ไม่รู้เหรอวะว่าข้าเป็นใคร” หนึ่งในหน่วยอินทรีโลหิต ลูกศิษย์ลูกพี่ตงฉินคนเถื่อนของสำนักเหม่ยลี้เชียวนะเว้ย! เจ้ากล้าแหยมกับลูกพี่ข้าอ๋อ!

    “...”

    ชายหนุ่มหน้ากากหมีเงียบกริบ วาดลวดลายโจมตีไม่มียั้ง สือโถวพลิกตัวหลบคมดาบที่มีมาไม่หยุดยั้ง เหงื่อมากมายทะลักเต็มแผ่นหลัง 

    จะเลือกสามีได้เทพเกินไปแล้วหลี่หลง! แบบนี้ข้าจะสู้ยังไงเล่า!

    เคร้ง!

    “เจ้าเก่ง” ทันใดนั้นหน้ากากหมีเบื้องหน้าก็หายไป สือโถวเบิกตาค้าง รีบจับสัมผัสหาอีกฝ่าย “เสียอย่างเดียว”

    ฉึก!

    “พี่สือโถว!!

    “เจ้าขาดความรู้สึกที่อยากจะฆ่า”

     

     ...................................................................100%..............................................................

     

    อ่ะ จบไปอีกตอนเเล้ว มีวันหยุดยาวมันดีเเบบนี้เองสิน้าาาาา

    ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะค้าาาาา


                                           

                       

    อวี้อิ๋น (อายุ 19 ปี)

    "บางทีข้าก็คิดว่าการเป็นเพื่อนกับเจ้ามันคือลิขิตฟ้า"

    "ถือเป็นเรื่องน่ายินดีในชีวิตสินะ"

    "เปล่า เป็นเวรกรรมอันใหญ่หลวงที่ต้องฟันฝ่า ถ้าข้าทนเป็นเพื่อนเจ้าได้ ต่อให้ฟ้าถล่มก็เป็นเพียงเรื่องผายลม"



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×