คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #51 : ย้อนยุค 46 : บุรุษผู้ร้อนเเรง (100%)
ย้อนยุค
46
บุรุษผู้ร้อนแรง
งานประลองยุทธภพผ่านไปด้วยดี
หลังจากได้ผู้ชนะจากสำนักมีชื่อแห่งหนึ่งหุบเขาเหม่ยลี้ก็เข้าสู่ปกติ บัดนี้บนยอดเขาของสำนักเหม่ยลี้เต็มไปด้วยใบเขียวของวสัน์ฤดู
อากาศเย็นสบายชวนให้เหล่าผู้อาศัยทอดถอนหายใจด้วยความเป็นสุขสงบ
แต่กลับมีใครบางคนทำสวนบรรยากาศสุขสันต์ไปนั่งสร้างสวนเห็ดอยู่มุมมืดของกำแพงทุกวัน
ฟางหยงกับกวงซื่อมองสภาพศิษย์น้องอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
หลังจากคุณชายมู่ออกเดินทางออกจากสำนักอย่างกะทันหัน
สือโถวก็กลายเป็นหุ่นกระบอกไม้ที่ไร้จิตวิญญาณ นอกจากตอนทำภารกิจแล้วล้วนแต่ปิดปากเงียบขนาดสหายสนิทอย่างอวี้อิ๋นยังท้อแท้ใจ
ร่างสูงผอมในชุดเกราะสีดำสนิทเหม่อมองแสงแดดที่ลอดผ่านแมกไม้เหนือหัว
ภาพในอดีตตั้งแต่ได้ลืมตาตื่นในร่างนี้ย้อนเข้ามาในสมองอย่างเชื่องช้าราวกับสายน้ำเอื่อยเฉื่อย
‘นี่เจ้าจะตามทหารของทางการไปทำไมเนี่ยเจ้าบ้า!’
‘ก็ลุงแกกวักมือเรียกข้าก็นึกว่าจะให้ช่วยอะไร
ใครจะไปคิดว่าจะโดนลากเข้าคุกเล่า!’
‘คราวหลังถ้าโดนจับไปอีกข้าจะไม่ช่วยเจ้าแล้ว’
‘โถ่ อาเยี่ยนคนดี
บุรุษผู้เป็นที่รักยิ่งของข้า’
‘อย่าเข้ามาใกล้ข้านะ!’
ไม่มีอีกแล้วเพื่อนที่พร้อมช่วยเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
‘พี่สือ ขะ ข้าไม่หิวแล้ว
พี่เอาไปกินเถอะ’
‘ข้าไม่หิว’
‘ข้าพูดจริงๆนะ! ถะ ถ้าพี่ไม่กินข้าก็จะไม่กินด้วย!’
‘ก่อนจะทำแบบนั้นช่วยบอกให้ท้องของเจ้าให้ความร่วมมือก่อนดีรึไม่
ร้องดังจนกบหน้าจวนยังอาย’
‘พี่สือโถว!’
ไม่มีอีกแล้วน้องชายตัวน้อยที่ต้องให้เขากางแขนปกป้อง
.
.
.
ยิ่งเวลาผ่านไปสือโถวยิ่งอาการหนักขึ้นมากกว่าเดิม
ท่าทางที่เปลี่ยนจากเอื่อยเฉื่อยเป็นพร้อมที่จะกระโดดลงหน้าผาทำให้คนในหน่วยอินทรีโลหิตร้อนรนนักโดยเฉพาะท่านรองที่ขมวดคิ้วทุกครั้งที่เห็นสภาพของอดีตศิษย์ที่ตนสอนสั่ง
ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดเขาได้ยินรายงานว่าสือโถวเป็นคนเอ่ยปากขออยู่ที่นี่ต่อเองไม่ใช่หรือ?
เหตุใดถึงได้ทุกข์เช่นนี้กัน
กังวลกันได้ไม่นานพวกเขาเป็นอันต้องปวดหัวอีกครั้งเมื่อภายในสำนักเกิดข่าวลือว่ามีคนเห็นนายน้อยสามพลอดรักกับคนรักที่หลังภูเขา
แถมคนที่ว่านั่นดันเป็นบุรุษหน่วยอินทรีโลหิตที่พร้อมจะเอาดาบจ้วงท้องตัวเองได้ทุกเมื่อ!
หลังจากได้ยินข่าวทุกคนก็แอบมองตงฉินเป็นตาเดียว
ใครบ้างในหน่วยไม่รู้ว่าสือโถวเป็นภรรยา (?) ลับขอของท่านรอง
ภรรยาแอบนอกใจสามีตนเองเช่นนี้ย่อมเกิดการลงโทษตามกฎบ้าน (??)
เห็นทีน้องชายผู้นี้จะได้สิ้นชีพสมใจอยากแล้วแน่แท้
“สือโถว”
ท่อนไม้ในร่างคนหันไปมองหน้าคนเรียก
ฟางหยงกดความเศร้าโศกเสียใจแทนศิษย์น้องลงคอหอย “เจ้าไม่เป็นอะไรนะ?”
“ข้าสบายดี”
ตรงไหนของเจ้าที่สบายดีกัน!!
“ศิษย์พี่มีเรื่องอะไรหรือ”
“คือว่า...”
“สือโถววววววววว”
ไม่ทันที่ฟางหยงจะได้พูดต่อร่างขนาดกระทัดของอวี้อิ๋นก็พุ่งตรงมา “เชี่ยๆ
เจ้ามัวมาทำตัวอยากตายอยู่นี่ทำไม! รู้หรือไม่ว่าตอนนี้กำลังเกิดเรื่อง!!”
“ในสำนักเคยสงบด้วยหรือ...”
ก็เห็นมีเรื่องทั้งวันทั้งชาติไม่เคยให้เขาได้อยู่อยากสงบเลยสักครั้งมั้ย...
อวี้อิ๋นไม่ยอมแพ้ หนุ่มตาแมวเขย่าแขนเสื้อของสหายสนิท
“เจ้ารีบไหนไปเร็วเข้า! ก่อนที่ท่านตงฉินจะหาเจ้าเจอ!!”
“หะ? ท่านตงฉิน??”
สือโถวพลันกระตือรือร้นขึ้นทันควัน
ชื่อของบุรุษเถื่อนของหน่วยอินทรีโลหิตยังคงมีอิทธิพลต่อเขาเสมอ แต่เหตุใดไอ้เถื่อนเพียงหนึ่งเดียวถึงได้ตามล่าเขากัน
ทุกวันนี้นอกจากนอนทำงานแล้วก็นอนอีกรอบเขาไม่เคยทำอะไรที่ทำให้ทางสำนักหรือหน่วยเสียหายนะ
ฟ้าดินเป็นพยานได้!
เขาหันไปหาฟางหยงที่ยืนเลิ่กลั่กเหมือนคนจมน้ำอยู่ด้านข้าง
“ศิษย์พี่นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!”
ระหว่างที่ข้าไม่อยู่พวกเจ้าแอบใส่ร้ายป้ายสีอะไรข้าวะหา!!
“อ่ะ เอ่อ คะ คือว่า”
ฟางหยงก็ไม่รู้จะกล่าวเช่นใด เรื่องครอบครัว (?) เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากนะ
ให้คนนอกอย่างตนพูดคงไม่ดีม้างงงงง
“หลายวันก่อนเจ้าไปทำอะไรกับนายน้อยมาล่ะ”
สือโถวคิดตามทีอวี้อิ๋นพูด
หลายวันก่อนที่ว่านี่มันวันไหนละวะ!? ข้าเจอคนงามครั้งสุดท้ายก็ตอนที่...
“ทำหน้าแบบนี้คงคิดได้แล้วได้ละสิ”
“เชี่ย”
สือโถวสถบเสียงเบา
อย่าบอกว่าเป็นเหตุการณ์สุดสยอง (ต่อจิตใจ) ที่ริมน้ำตกนั่นน่ะเรอะ!
“ข้ากับนายน้อยไม่ได้ทำอะไรกันจริงๆนะ!” เขารีบร้อนแก้ตัว แค่โจวเจว่ยกอดเขา จูบเปลือกตาเขา แล้วก็เหมือนจะสารภาพรักเท่านั้นเอง....
สือโถวหน้าซีดกว่าเดิม
นี่มันหาเรื่องตายชัดๆเลยนี่หว่า ดันไปยุ่งกับใครไม่ยุ่งดันไปยุ่งกับเมียท่านรอง ไม่สิ
ไม่ถูกต้อง ถ้าโจวเจวี่ยชอบเขาจริงๆแสดงว่านายน้อยกับท่านรองความจริงแล้วไม่ได้ซัมติงชวนกระจี้หัวใจกัน?
ท่านรองแอบรักอีกฝ่ายข้างเดียว??
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนตูก็ตายอยู่ดีมั้ยวะ
“มาแก้ตัวให้พวกข้าฟังก็ไม่ประโยชน์อันใดหรอก
ทางที่ดีเจ้ารีบลงเขาไปตอนนี้ดีกว่า”
“ข้าว่า...” ฟางหยงเหลือบมองกวงซื่อเครื่องแบบอืนทรีโลหิตที่กำลังเดินทำหน้าคร่ำเครียดใกล้เข้ามา
“น่าจะไม่ทันแล้วล่ะ”
นานิ๊????!!!!
ฟึ่บ!
ที่เก่าเวลาเดิมที่คุ้นเคย
สนามฝึกซ้อมที่เขาเคยโดนตีเลือดอาบสมัย
(โดนบังคับ) ให้เป็นศิษย์ท่างตงฉินยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน โอ๊ะ
รอยเลือดตรงนั้นใช่ตอนที่ข้าโดนจ้วงพุงเลือดพุ่งเป็นก๊อกน้ำใช่รึเปล่าน้า
“หยิบอาวุธขึ้นมา”
ถ้าข้าเอานิ้วจิ้มตาตัวเองบอดแล้วแอ๊บใสว่ามองไม่เห็นอาวุธที่วางเรียงรายอยู่ข้างสนามฝึกซ้อมนี่จะเป็นอะไรมั้ยนะ...
แต่ดูจากท่านรองที่ยืนเปลือยโชว์แปดลอนเหงื่ออาบหน้าถือดาบยาวอยู่กลางสนาม
เขาบอกตัวเองว่าอย่างเสี่ยงเลยจะดีกว่าเนาะ //ปาดน้ำตา
“แล้วเจ้าใส่เสื้อเกราะมาทำไม?”
เอามาป้องกันตัวจากเจ้าไง!!
นี่เบิกมาจากคลังแสงลับของหน่วยอินทรีโลหิตเลยนะ
แถมเฮียหน้าห้องยังกระซิบว่าผลิตมาจากเหล็กกล้าหายากในรอบร้อยปี!!
สือโถวทำหน้าเคร่งขรึม
ดันหมวกเหล็กขึ้นจากใบหน้า “ข้ารู้ว่าท่านกำลังไม่พอใจ แต่ข้าอยากให้ท่านสงบใจฟังข้าสักนิด”
“โห่ รู้ตัวแล้วรึว่าตนเองทำอันใดผิด”
ตึง!!
ดาบยาวถูกแทงลงพื้น เอ่อ ข้าเคยได้ยินมาว่าไอ้ที่ปูสนามพื้นประลองอันนี้มันสร้างมาจากเหล็กกล้าที่ตูใส่อยู่ป่ะวะ
ท่านรองเล่นแทงมันซะมิดแล้วชุดเกราะข้าจะเหลือเรอะ ไอ้เฮียห้องคลังแสงที่รัก เจ้าตอแหลนี่หว่า!!
“ระ เรื่องนั้น” สือโถวปากคอสั่น
ใจจริงอยากหันหลังวิ่งกลับมาก แต่ติดว่ากลัวดาบที่ปักอยูตรงพื้นจะมาปักก้นตัวเองแทน
“ขะ ข้าบริสุทธิ์นะขอรับ!”
“ยังไง?”
ก็คือข้าไม่ได้กระทำการอันใดที่ภาษาวัยรุ่นเรียกว่าอ่อยใส่นายน้อยที่รักของเจ้าเลยไง
ทำไมเข้าใจไรยาก!
เหม่อเพียงครู่เดียวร่างสูงใหญ่อย่างกับยักษ์ของตงฉินก็ก้าวประชิดร่าง
ไม่ทันที่เขาจะได้ถอยหลังหนีฝ่ามือร้อนของตงฉินก็คว้าหมับเข้าที่หมวกเกราะก่อนจะขว้างทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
“เกะกะ”
“...”
วรยุทธ์ช่างสูงส่งยิ่งนัก ตูตายแน่จ้า!!
“ท่านรอง ท่านใจเย็นก่อนนะขอรับ
ความจริงแล้วข้ากับนายน้อยไม่มีอะไรกันจริงๆนะขอรับ!”
ข้าเคยเป็นลูกศิษย์ท่านนะ ท่านจะฟาดข้าลงจริงๆเหรอ เอ๊ะ แต่ตอนที่เป็นลูกศิษย์พี่แกก็ฟาดเขาไม่เลี้ยงอยู่แล้วนี่หว่า
คิ้วเข้มขมวดแน่น “เกี่ยวอะไรกับนายน้อย”
“อ้าว”
“...”
“...”
“แฮ่ม เมื่อกี้ไม่นับ
ท่านรองมีอะไรจะปรึกษากับข้าหรือขอรับ” เขาเปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจังเอาการเอางาน แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ให้ความร่วมมือเท่าใดนัก
ท่านตงฉินที่รักถึงได้คว้าคอเสื้อเขาดังหมับ!
“เจ้ากอดกับโจวเจว่ยจริงหรือ!”
“ไม่จริงขอรับ!”
“ข้าให้โอกาสอีกครั้ง”
“จริง... นิดหน่อย... ขอรับ”
สีหน้าของตงฉินทะมึนมากกว่าเก่า
เขาเหงื่อแตกพลั่กไปทั่วร่างรีบคว้ามือที่จับคอเสื้อตนเองอยู่แสดงความจริงใจ “ข้าสาบานได้ว่าไม่เคยคิดจะแย่งนายน้อยกับท่านจริงๆนะขอรับ!
ฟ้าดินเป็นพยานได้!”
“แย่งโจวเจว่ย... กับข้า?”
สือโถวพยักหัวรัว ๆ
เมื่อครู่สีหน้าตงฉินแค่ทะมึนพร้อมฆ่าคน
แต่คราวนี้อัพเกรดเป็นหั่นไส้พุงมาเรียงเป็นคำว่าไอ้เถื่อนแดนทรชนแล้ว
“เจ้าจะบ้าหรือ!?”
“แอ้กกกกก”
พูดธรรมดาไม่เหรอ
ทำไมต้องพ่นน้ำลายใส่หน้ากันด้วยคุณครูไม่เคยสอนเหรอว่าน้ำลายของคนเรามีแบคทีเรียตัวเท่าควาย
(?) อาศัยอยู่!!
“ทำไมข้าต้องชอบโจวเจว่ยด้วย
เจ้านี่มัน...!” ตงฉินทำหน้าเหมือนกินอ้วกไปทั้งกอง
ตนกับโจวเจว่ยน่ะรึ ชอบพอกัน!
“ข้าจะไปรู้หรือขอรับ!” เรื่องแอบรักเพื่อนสนิทมีให้เห็นกันเยอะจะตายไป บางทีแค่เดินสะดุดก้อนหินยังชอบกันได้เลย
"ข้า-ไม่-ได้-ชอบ"
"ข้ารู้ ข้ารู้ เพราะท่านแอบชอบนายน้อยอยู่ฝ่ายเดียว
ความลับนี้ไม่ว่ายังไงก็ให้อีกฝ่ายรู้ไม่ได้ แต่ท่านคิดดูว่าขนาดคนอย่างข้ายังมองออก
บางที- อุ้บ!"
ยังไม่ทันจบประโยคริมฝีปากเย็นเฉียบก็ทาบลงมา
สือโถวตัวเเข็งโป้ก นัยน์ตาสีดำสนิทของตงฉินสะท้อนภาพของคนในอ้อมแขนที่เบิกตากว้างเเทบถลน
เอ๊ะ เอ๊ะ!?
ดะ เดี๋ยวนะ..
"โอ้ย!"
ฉับพลันความเจ็บเเปลบเเล่นทั่วริมฝีปาก
สือโถวอุทานด้วยความเจ็บเป็นเหตุให้ลิ้นร้อนสอดเข้าไปลิ้มความหวานภายในได้อย่างง่ายดาย
รสสัมผัสเต็มไปด้วยความเผด็จการเเละเอาเเต่ใจ ตงฉินกวาดลิ้นไปทั่วโพรงปากก่อนค่อยๆแทะเล็มไปตามไรฟัน
ดูดดุนลิ้นเล็กอย่างเอาเเต่ใจ สือโถวหน้าร้อนวูบกับความร้อนเเรงนี้ หัวใจเต้นระรัวจนเเทบเด้งออกจากอก
"อือ อื้อ อื้อ" หะ
หายใจไม่ออก!
สองมือทุบไหล่กว้างเป็นเชิงบอก
ชายหนุ่มผละริมฝีปากเล็กน้อยพอให้คนในอ้อมกอดหายใจเฮือกหนึ่ง
ก่อนประกบปากลงไปอีกรอบ เเถมเพิ่มความร้อนเเรงกว่าเดิมทำเอาสือโถวหน้ามืดตาลายลำตัวอ่อนยวบ
ตงฉินจับท้ายทอยอีกฝ่ายเเน่นป้องกันไม่ให้ถอยหนี
มืออีกข้างกอดเอวเเน่นจนเเทบจะรวมเป็นร่างเดียวกัน
เสียงเเลกน้ำลายดังไปทั่วลานฝึก
สือโถวหน้าเเดงหยาดน้ำตาเริ่มคลอเต็มหน่วยตา จะ จะ จะร้อนเเรงเกินไปเเล้ว!!
เจ้าไปเก็บกดมาจากไหน หา!!
จุ๊บ!!
"เเฮ่ก เเฮ่ก อะ ไอ้"
สือโถวปากคอสั่นถึงขั้นพูดไม่เป็นภาษา
เห็นคนซื่อๆทื่อๆไม่เคยสนใจอะไรในชีวิตอย่างสือโถวอยู่ในสภาพนี้ ตงฉินเกิดความพอใจขึ้นมาหลายส่วน
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มร้าย ยื่นหน้ากระซิบชิดริมฝีปากบวมเเดง
"ข้าทำไม?"
บึ้ม บึ้ม! บึ้มมมมม!
เสียงระเบิดดังขึ้นในหัวสือโถว
ทำเเบบนี้เเล้วข้าจะพูดได้ยังไงเล่า! โฮกกกกกกกก
เพราะคนในอ้อมกอดน่ารักเกินไป ตงฉินจึงอดใจไม่ไหว
เเลบลิ้นเลียหยาดน้ำใสที่เลอะมุมปากสือโถว
ท่าทางพึงอกพึงใจเหมือนได้ดื่มน้ำผึ้งหวาน สือโถวเบือนหน้าหนีออกห่าง
"พะ พอเเล้ว"
ใครก็ได้ช่วยข้าที! จะรับไม่ไหวเเล้ว!! ฮืออออ หมาป่าตัวนี้เป็นใครกัน ใช่ตงฉินจอมโหดนั่นจริงหรือ!?
"คราวนี้เจ้ารู้รึยังว่าข้าชอบใคร?"
"อ่ะ" สือโถวชะงักกึก
ท่าทางกระพริบตาปริบๆบ่งบอกได้อย่างดีว่ายังไม่เข้าใจ บรรยายกาศหอมหวานเมื่อครู่กลายเป็นดุดันอีกครั้ง
"สงสัยต้องเเสดงให้เห็นอีกรอบกระมัง"
"จ้ากกกกก เข้าใจเเล้ว
เข้าใจเเล้ว!!!"
มือสากจากการจับดาบดันใบหน้าหล่อเหลาที่ฉกวูบลงมาเหมือนงูกินเหยื่อ
น้ำหูน้ำตาเเทบไหลพราก ข้ามีชีวิตเดียวนะ
ใจคอจะให้หัวใจเต้นเร็วจนช็อคตายหรืออย่างไร
"เพราะงั้น...ปล่อย...ปล่อยข้าได้เเล้ว"
สัมผัสที่ไม่คุ้นเคยเเบบนี้ชวนให้จักกะจี้หัวใจปนหวาดกลัว
เขาไม่ชอบเลยจริงๆ
"เเน่ใจนะ?"
"เออ!"
ตงฉินหรี่ตาลง
เเววตาปรากฎเเววชั่วร้ายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
"เห็นเเก่ที่เจ้าว่าง่ายเเบบนี้..."
"?"
"ข้าจะให้รางวัลเจ้าก็เเล้วกัน"
"หะ!? มะ ไม่เอ- อื้อออออ"
กว่าตงฉินจะปล่อยเหยื่ออันโอชะออกจากอ้อมอก
สือโถวก็เเถบเป็นลมสลบคาอกชายหนุ่ม
ซึ่งมันทำให้เขาอารมณ์ดีไปอีกหลายวันเลยทีเดียว
ความคิดเห็น