ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Close To You (REWRITE ALL)

    ลำดับตอนที่ #5 : Five

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 154
      2
      27 ธ.ค. 65


     

               เขาไม่ได้พูดเล่นเรื่องวงของตัวเอง

     
               คริสต้ามองชายหนุ่มที่ยังไม่คุ้นหน้าดีนักร้องเพลงอยู่บนเวทีเตี้ยๆของผับขนาดเล็กที่สุดที่เคยมาเยือน มันเป็นผับที่เต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ทำความสะอาด มีผู้หญิงตัวเล็กคอยเสิร์ฟเครื่องดื่มให้อย่างอยากรู้อยากเห็นหลังโต๊ะบาร์
     
               "เรารู้จักกันไหมคะ" เธอถามอย่างสงสัย จ้องมองเหมือนคุณป้าวัยกลางคนที่คุ้นหน้าเธอจากโฆษณาแต่ความจำไม่ดีนัก
     
               "ฉันเกรงว่าไม่ค่ะ" คริสต้ายิ้มตอบเล็กน้อยเมื่อถอดหน้ากากออกแล้วยกจินแอนด์โทนิคขึ้นดื่ม
     
               เสียงปรบมือเบาๆดังขึ้นเมื่อเพลงจบลง คริสต้าไม่เคยได้ยินเพลงใดๆก็ตามที่วงของแองกัส แคมป์เบลร้องเพิ่งจบ แต่เธอเห็นดวงตาสีน้ำตาลของนักร้องนำมองมาอีกครั้ง ดูท่าทางกำลังจะเดินมาหา แต่หยุดการกระทำตัวเองไว้
     
               ชายหนุ่มสี่คนทยอยกันลงจากเวทีและปล่อยให้คู่หนุ่มสาวอายุมากกว่าไปนั่งแทนที่ ไม่นานพวกเขาก็เริ่มร้องเพลงฮิตของมาร์รูนไฟฟ์
     
               เฮคเตอร์ บอดี้การ์ดที่นั่งข้างๆยังยกเบียร์ขึ้นดื่มเงียบๆ เขาดูเกร็งกว่าปกติ
     
               "นายโอเคไหม" เธอถามเขา
     
               "ผมแค่คิดว่าเราไม่ควรมาที่นี่กันแค่สองคน" ชายร่างใหญ่กำยำตอบเสียงเบา เขาวางแก้วเบียร์ที่เล็กเหมือนแก้วน้ำเปล่าเมื่อเทียบกับฝ่ามือใหญ่นั้น "คุณจะเป็นข่าว และผมอาจโดนไล่ออกถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา"
     
               "มันจะไม่เกิดอะไรขึ้น" คริสต้ายืนยัน "ฉันแค่มาดูเขาเท่านั้น อีกไม่นานเราจะกลับ"
     
               "เธอคิดว่าไง" เสียงชายหนุ่มอีกคนดังแทรกกลางคัน
     
               คริสต้าหันไปด้านหลัง ที่บัดนี้บริเวณเก้าอี้บาร์โล่งข้างเธอมีชายตัวสูงผอมมายืนบังอยู่ แองกัสมีใต้ตาคล้ำเหมือนเดิม และบริเวณคางของเขามีรอยฟกช้ำที่เธอเห็นตั้งแต่อยู่ในโรงพยาบาลเมื่อวันก่อน
     
               "สวัสดีตอนเย็น แองกัส ฉันสบายดี"
     
               ชายหนุ่มตรงหน้าชะงักเมื่อถูกเหน็บแนม "เอ่อ – ขอโทษที" เขากระแอมไอ "สวัสดีมิส–"
     
               "ได้โปรดอย่าเรียกชื่อฉันที่นี่" เธอขัดเขาทันควัน เผลอหลุดหัวเราะแต่ก็หุบยิ้ม "นายกับวงของนายใช้ได้"
     
               "ใช้ได้?" เสียงสูงของแองกัสทำให้รู้ว่าเขากำลังตั้งคำถาม "เออ ก็ได้ ฉันจะรับไว้เป็นคำชม ทีนี้เธอก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พูดเล่น"
     
               "เพื่อนๆของนายเล่นดนตรีได้ดี อาจต้องฝึกฝนอีกหน่อย นายก็ร้องเพลงดี" เธอยอมรับ เห็นคนตรงหน้าทำหน้าตาประทับใจ "แต่ก็อาจไม่ดีพอที่จะไปถึงปกโรลลิ่งสโตน"
     
               "ฉันจะทำได้ในสักวันหนึ่ง"
     
               "มันก็อาจได้ แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าไม่ ตราบใดที่นายยังสูบบุหรี่มากกว่าสองมวลต่อวัน ดื่มแอลกอฮอล์ทุกวัน ยังไม่นับสารเสพติดประเภทอื่น"
     
               "ฉันไม่ได้สูบบุหรี่เยอะ" เขาเถียง คริสต้าจึงชำเลืองมองซองบุหรี่ในมือของเขาอีกครั้ง "ฉันจะสูบน้อยลงถ้าชีวิตเริ่มดีขึ้นและไม่เฮงซวยอย่างทุกวันนี้"
     
               "ชีวิตนายไม่ได้เฮงซวย"
     
               "ฉันไม่มีแม้แต่บ้านจะอยู่ และฉันได้แค่สามพันดอลลาร์ในคืนนี้ ดังนั้นฉันขอให้เธอหยุดคิดโลกสวยสักวินาทีหนึ่ง"
     
               เสียงกระแอมไอของเฮคเตอร์ดังขัดมาเมื่อแองกัสขึ้นเสียงกว่าเก่า ขณะที่นางแบบสาวก้มลงมองเครื่องดื่มบนโต๊ะครู่หนึ่ง แองกัสก็กำลังสงบสติอารมณ์เมื่อรู้ว่าบอดี้การ์ดของเธอเริ่มส่งเสียงตักเตือนเขาถึงพฤติกรรมเมื่อครู่
     
              "ฉันขอโทษ" เขาพูดเสียงเบา
     
              และมันก็ทำให้เธอตระหนักได้ แองกัสเป็นคนควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ไม่ดีนัก
     
              "มันจะดีนะถ้าการคุยของเราไม่มีใครคนใดคนหนึ่งขึ้นเสียง" เธอว่า "และฉันอยากให้นายฟังฉันให้จบก่อนด่วนสรุปอะไรไปก่อน"
     
              ทั้งสองเงียบไป แต่ไม่นานแองกัสก็เริ่มพยักหน้า เขาชำเลืองมองกลุ่มเพื่อนที่เล่นดนตรีด้วยกันบนเวทีก่อนจะรีบหันสายตามามองเธอ แสร้งไม่สนใจความอยากรู้อยากเห็นของเพื่อน ที่คริสต้ารู้ว่าพวกเขามีคำถามเป็นล้านในหัว
     
              "ได้"
     
              ชายตรงหน้าตอบสั้นๆ เขากอดอกพิงเคาน์เตอร์บาร์ ใช้มือเกาจมูก ท่าทางดูหมดอารมณ์กับทุกสิ่ง แสงไฟในผับมืดสลัวคล้อยตามบรรยากาศเพลงช้าที่บรรเลงอยู่ เธอคิดว่าตอนนี้คงเกือบจะห้าทุ่มครึ่ง และควรรีบกลับได้แล้ว
     
              "ชีวิตนายไม่ได้เฮงซวย เพราะฉันจะช่วยนายตามที่บอกไว้ หวังว่านายจะไม่ทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และพรุ่งนี้ฉันอยากนัดให้นายมาเซ็นสัญญา"
     
              "สัญญาอะไร"
     
              "สัญญาแบบลายลักษณ์อักษร ว่านายจะไม่เปิดเผยความลับของฉัน ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหน"
     
              แองกัสแค่นหัวเราะ เขายิ้มให้บาร์เทนเดอร์ที่ผสมจินแอนด์โทนิคให้เธอเมื่อห้านาทีที่แล้ว แต่ก็กลับมาทำหน้าสีหน้าจริงจังอีกครั้งเมื่อมองเธออย่างตั้งใจ
     
              คริสต้าคุ้นชินกับสายตาแบบนี้ สายตาที่คนแปลกหน้าใช้มองเพื่อสำรวจสิ่งต่างๆบนใบหน้าของเธอ ราวกับหาความบกพร่องที่มองไม่เห็นตามป้ายโฆษณาทั่วไป
     
              นี่คือความเงียบที่น่าอึดอัด และอาจเป็นเพราะท่าทางของเธอที่เขาอ่านออก หรือเป็นเพียงการทำลายความเงียบ เพราะไม่นานแองกัสก็พูดต่อ "โอเค เธอคงมีเบอร์ฉันแล้ว"
     
              "ใช่" เธอพยักหน้า นึกถึงข้อความจากเบอร์ไม่คุ้นเคยที่ส่งมาหาเมื่อเย็นแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ "ฉันจะติดต่อไปพรุ่งนี้เช้า"
     
              เมื่อการสนทนาจบลง เฮคเตอร์ที่เตรียมตัวอยู่แล้วก็เริ่มกางแขนเป็นสัญญาณให้เธอเดินไปตามทางและบังไม่ให้เจ้านายชนกับคนแปลกหน้ารอบกาย คริสต้าจึงใช้เวลาวินาทีสุดท้ายสบตาแองกัสเพื่อเป็นการบอกลาเขา
     
              "ฉันหวังว่าจะได้รับสายจากเธอในวันพรุ่งนี้" เขาพูดพลางปล่อยแขนที่เท้าอยู่บนเคาน์เตอร์บาร์แนบลำตัว
     
              เฮคเตอร์แตะไหล่คริสต้าเบาๆอีกครั้งเพื่อย้ำเตือนให้เธอรีบออกเดิน และทั้งคู่รู้ว่าสถานการณ์เริ่มไม่ปกติเมื่อหางตาสัมผัสได้ถึงแสงแฟลชของโทรศัพท์มือถือที่สว่างวาบมาทางคริสต้าทีหนึ่ง
     
               หญิงสาวเดินออกจากผับเล็กๆท่ามกลางผู้คนที่เริ่มหันมามองทุกฝีก้าว เมื่ออากาศบริสุทธิ์นอกร้านสัมผัสผิวกาย ความโล่งอกก็เริ่มกลับเข้ามาโอบกอดอีกครั้ง เธอควรรีบไปจากที่นี่ก่อนใครสักคนจะตะโกนเรียกชื่อและก่อความวุ่นวาย
     
              "ผมหวังว่าคุณจะรู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป" เฮคเตอร์เตือนขณะเปิดประตูรถเอสยูวีสีดำที่เพิ่งขับเข้ามาจอดตรงหน้าให้
     
              "ถ้ามีทางเลือก ฉันก็ไม่อยากมาเจอคนแบบเขานักหรอก" หญิงสาวก้าวขึ้นรถ รอจนกระทั่งรถเริ่มเคลื่อนที่ออกจากซอยโดยไม่หันกลับไปมองผับที่เดินออกมาอีกแม้แต่เสี้ยววินาที
     
               



              เก้าโมงตรง
     
              แองกัสอ่านข้อความสั้นๆในโทรศัพท์มือถือเก่าคร่ำครึของตนอีกครั้ง เขาเงยหน้ามองตึกสำนักงานใหญ่ของบริษัทไอเอ็มจี ที่บัดนี้วุ่นวายและเต็มไปด้วยผู้คน
     
              หน้าจอโทรศัพท์ดับลง แต่เขาก็กดให้มันสว่างวาบอีกครั้งเพื่อดูเวลาผ่านหน้าจอล็อค ตอนนี้แปดโมงยี่สิบนาที เขาคิดว่าควรมาให้เร็วกว่าที่นัดหมายไว้ เธออาจพิสูจน์ความตรงเวลาของเขาขึ้นมาเหมือนบริษัทจ้างงานก็ได้ แองกัสคิดเช่นนั้น
     
              ชายร่างใหญ่กำยำเดินตรงมาหาเขาที่ริมทางเท้า อีกฝ่ายสวมเสื้อผ้าสีดำหัวจรดเท้า และเสื้อยืดดูเข้ารูปมากพอจะเห็นกล้ามหน้าท้องลางๆ แองกัสจำบอดี้การ์ดของคริสต้าได้ขณะที่เขาเดินเข้ามาเพื่อถามว่า "แองกัสใช่ไหม"
     
              "ใช่ ผมเอง"
     
              คนตรงหน้าพยักหน้าตอบแล้วทำท่าทางให้เขาเดินตามเข้าไปภายในตึกโดยผ่านระบบรักษาความปลอดภัยที่มีเกือบห้าอย่างและขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นสิบสอง
     
              ตลอดทางไม่มีใครสังเกตการมีตัวตนของเขา บางคนแค่เดินผ่านเพื่อทักทายคนนำทางเท่านั้น แต่สายตาก็มองเมินผ่านไปโดยไม่ได้หยุดมองที่แองกัสเป็นพิเศษ
     
              แองกัสมองไปรอบๆกาย มันคล้ายกับออฟฟิศของบริษัทนิตยสารชื่อดังโว้กที่เขาเคยเห็นทางโทรทัศน์รุ่นเก่าและหนาเตอะของคาล มีผู้คนวิ่งวุ่นและมีเสียงเครื่องถ่ายเอกสารดังประกอบเสียงสนทนาอื้ออึง
     
              "นายมาก่อนเวลา" บอดี้การ์ดผิวเข้มตรงหน้าบอกเขาเมื่อทั้งคู่เริ่มเดินขึ้นบันได
     
              เขายักไหล่ "ฉันแค่อยากมาให้ตรงเวลามากที่สุด"
     
              เมื่อคนตรงหน้าหยุดเดิน แองกัสจึงต้องหยุดบ้าง เขาหันมาจ้องหน้าแองกัส มือสองข้างประสานกันไว้ด้านหน้า เหมือนบอดี้การ์ดของมาเฟียในภาพยนต์
     
              "นายรออยู่หน้าห้องนี้ ห้ามเข้าไปจนกว่าฉันจะกลับมา" เขาบอก "และถ้านายคิดทำอะไรโง่ๆ ฉันจะจัดการนายด้วยมือของฉันเอง"
     
              "โอเค พ่อหนุ่มนักกล้าม" เขาตอบอย่างสบายๆ ซึ่งมันคงดูกวนประสาทคนตรงหน้า เพราะเขาได้ยินเสียงสูดหายใจแรงก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินจากไปพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่กระทบกับพื้นดังลั่น
     
              แองกัสก้มมองพื้นไม้สีเข้ม รองเท้าผ้าใบเก่าๆขาดๆของเขาไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมทันสมัยและใหม่เอี่ยมแห่งนี้นัก สายตาชำเลืองมองประตู จนกระทั่งมันถูกเปิดออกและมีช่างภาพกับทีมงานหลายคนกำลังแบกเก้าอี้ ขาตั้งกล้องและไฟอีกจำนวนมากออกมา
     
              "นายมายืนโง่ๆอะไรตรงนี้ ไม่ไปทำงานรึไง" ชายที่แบกเก้าอี้ถามเขาอย่างรำคาญใจ
      
              ชายหนุ่มไม่ทันได้ตอบอะไรก่อนที่คนทั้งหมดจะเริ่มทยอยกันเดินไปตามโถงทางเดินและจากไป ทิ้งเพียงความเงียบไว้ให้เขาอีกครั้ง เมื่อทีมงานคนสุดท้ายตะโกนสั่งให้เขาปิดประตูให้ แองกัสตัดสินใจว่าจะทำตามให้จบๆไป
     
              ในตอนที่เขากำลังจะเหวี่ยงประตูใหญ่ให้ปิดลง สายตาก็มองเข้าไปเห็นภายในห้อง มันเป็นสตูดิโอขนาดใหญ่สำหรับใช้ถ่ายภาพ มีไฟสปอร์ตไลต์ตัวใหญ่สองตัววางหันหน้าเข้าหาแบคดรอปสีขาว ทั้งห้องเป็นกระจกใสมองเห็นตัวเมืองนิวยอร์ก และแน่นอนว่าสว่างพอให้เขาเห็นชายหญิงที่ยืนอยู่ตรงกลางห้อง
     
              หลังจากพบคริสต้ามาแล้วสองถึงสามครั้ง เขายังคงไม่คุ้นชินนักกับใบหน้าของเธอที่ดูเหมือนจะเปล่งแสงออกมาได้เสียที เธออยู่ในชุดเดรสสีแดงเข้ม รองเท้าส้นสูงห้านิ้วทำให้เธอดูสูงกว่าเก่า
     
              "เฮ้! นายมาแอบมองอะไร" เสียงเรียกของชายตรงหน้าเธอทำให้แองกัสสะดุ้ง คริสต้าชะงักและหันสายตามองตาม เขาเห็นเธอมีสีหน้าประหลาดใจครู่หนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วใส่แองกัส
      
              "เอ่อ" คำพูดโง่ๆหลุดออกจากปาก ชายหนุ่มคิดอะไรไม่ออกครู่หนึ่งจนกระทั่งนึกขึ้นได้ว่าตนมาทำอะไร "ฉันมีนัดกับคริสต้า"
     
              ชายในชุดสูทสีเทาเข้มเดินตรงเข้ามาหาเขา ตัวสูงพอๆกับแองกัสแต่ดูมีเนื้อหนังมากกว่า เป็นรูปร่างในอุดมคติของสาวหลายคน กลิ่นน้ำหอมที่ลอยมาทำให้แองกัสฉุนและเริ่มจาม
     
             "โทษที" เขากล่าวพลางใช้ปลายแขนเสื้อหนังสีดำเช็ดจมูกตัวเองเบาๆ
     
             "ฉันนัดนายเก้าโมงไม่ใช่เหรอ" คริสต้าเดินตรงเข้ามาหาเขาฉับพลัน
     
             แองกัสเงยหน้าขึ้นสบตาคนสองคนตรงหน้าอีกครั้ง มันคล้ายกับการมองคนที่มาจากประเทศอื่น คนสองคนที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเขา แองกัสดูออกว่าชายในชุดสูทไม่พอใจกับการปรากฏตัวนี้นัก 
      
             "ฉันเป็นคนชอบมาก่อนเวลา" เขาเปลี่ยนสายตามามองนางแบบผมสีบลอนด์ระหว่างตอบ ที่ดูเป็นมิตรมากกว่าเล็กน้อย
     
             "คริส" ชายข้างเธอเรียก ยังไม่ละสายตาจากแองกัส "เขาเป็นใคร"
     
             "เพื่อนฉันค่ะ เขาเพิ่งมาถึงนิวยอร์ก" คริสต้าตอบอย่างลังเล มือข้างหนึ่งดึงแขนแองกัสให้เดินห่างออกจากตัวบุคคลที่เธอกำลังสนทนาด้วย "กลับไปก่อนเถอะค่ะ เย็นนี้เจอกันนะคะ"
     
             อีกฝ่ายดูครุ่นคิด แองกัสดูออกเมื่อได้ยินคริสต้าพูดจบ แต่เขาก็ยิ้มและพยักหน้าให้เธอ ก่อนตัดสินใจเดินเข้ามาเพื่อหอมแก้มเธอทีหนึ่ง
     
             เมื่อคนแปลกหน้าจากไป แองกัสก็เริ่มสำรวจนางแบบที่อยู่ร่วมห้องกับเขาอีกครั้ง เธอกำลังใช้แรงเหวี่ยงประตูใหญ่ให้ปิด ก่อนจะถอนหายใจและหันกลับมามองเขา "เมื่อกี้นี้นายเห็นอะไรบ้าง"
     
             "เห็นเธอสองคนจูบกันและกำลังจะแก้ผ้า" หญิงสาวขมวดคิ้วมองหน้า เมื่อดูไม่เข้าใจอารมณ์ขันของเขา เขาจึงยักไหล่พร้อมกลอกตา "ไม่ ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น"
     
             "ก็ดี" คริสต้าตอบพลางถอนหายใจอีกรอบ คราวนี้สีหน้าดูผ่อนคลายขึ้น เธอเริ่มเดินไปที่เก้าอี้ข้างแบคดรอปสีขาว หยิบแฟ้มเอกสารออกจากกระเป๋าสะพายหนังสีดำดูดีแล้วยื่นมันให้ "เซ็นซะ"
     
            "ฉันต้องอ่านก่อน" เขารับมาแล้วเดินไปใกล้หน้าต่างพลางไล่เปิดอ่านข้อความในเอกสาร มันเป็นสัญญาที่ดูไม่เป็นทางการอย่างการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็เป็นทางการมากพอสำหรับเรื่องที่ทั้งคู่เคยตกลงกันไว้
     
            "ว่าไง โอเคไหม" เธอถามมาจากข้างหลัง เมื่อแองกัสหันกลับไปก็เห็นเธอกำลังโยนปากกามาให้
     
            "รีบร้อนจังเลยนะ"
     
            "ฉันมีอะไรต้องทำอีกเยอะ แองกัส ดังนั้นมันจะดีมากถ้านายตัดสินใจได้เร็ว"
     
            "แต่เธอยังต้องพึ่งฉัน เธอไม่ควรเร่งฉัน ว่าไหม"
     
            "ฉันไม่ได้ต้องพึ่งพานายขนาดนั้น"
     
            "โอ้ เหรอ แล้วเธอจะเสียเวลาทำสัญญานี้ขึ้นมาทำไม ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน แต่ฉันก็รู้ว่าเธอไม่ได้เขียนมันขึ้นมาเอง มีคนช่วยเหลือเธออยู่" เขายิ้มมุมปากเมื่อเห็นเธอทำท่าหงุดหงิดและกอดอกเหมือนเด็กไม่พอใจ
     
            มันไม่มีอะไรต้องเสีย แองกัสรู้มาตลอด เขาแค่เก็บความลับของเธอเท่านั้น และเธอจะช่วยให้เขาเข้าสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จ ไม่มีอะไรยากเย็น เขาบอกตัวเองขณะกดปลายปากกาและเริ่มบรรจงเซ็นลายเซ็นของตัวเองลงไป
     
            "รู้ไหม" เขาปิดแฟ้มเอกสาร "นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้เซ็นชื่อตัวเองลงในกระดาษ"
     
            "เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นคนแรกในรอบหลายปีของนาย" แองกัสยิ้มเมื่อได้ยินที่เธอพูด เขาตั้งใจหยอกล้อเธออีก และก็ได้ผลเมื่อเห็นเธอเบ้ปาก "ไม่ใช่แบบนั้น ให้ตายเถอะ"
     
            "เธอจะพาฉันไปรู้จักโปรดิวเซอร์เมื่อไหร่" เขาถามต่อ "ไม่เอาสกู้ตเตอร์ ไบรอัน"
     
            "อาจเป็นศุกร์นี้" มือเล็กเดินมาหยิบเอกสารและปากกาจากมือแองกัส ข้างที่จับปากกาของเขาสัมผัสกับนิ้วมือเธอเล็กน้อย มันนุ่มและเย็นเฉียบ "จะมีปาร์ตี้ที่เพนท์เฮาส์ของดูอา ลิป้า"
     
            "ใครนะ"
     
            คริสต้าพูดต่อโดยไม่ฟังคำถาม "จะมีเพื่อนๆโปรดิวเซอร์ไปกันเยอะ มีหุ้นส่วนของค่ายเพลงใหญ่ๆ ฉันคิดว่านายจะได้รู้จักพวกเขาที่นั่น"
     
            "เธอรู้ใช่ไหมว่าวงของฉันไม่ได้ร้องเพลงแนวดูอา ลิป้า"
     
            "ฉันรู้" หญิงสาวสะพายกระเป๋าก่อนกลับมาสบตาเขา "แต่ดูอาฟังเพลงแนวนาย และเธอรู้จักโปรดิวเซอร์แนวเพลงอินดี้ป้อปหลายคน"
     
            "อีกอย่างนึง" นิ้วชี้ถูกยกขึ้นเพื่อแสดงความเห็น "ฉันไม่อยากให้เพื่อนๆในวงรู้ข้อตกลงของเรา"
     
            "เพราะนายกลัวเพื่อนจะหาว่านายขี้โกงเหรอ"
     
            "ฉันไม่–"
      
            "ช่างเถอะ ฉันไม่มีสิทธิ์ตัดสินอะไร" เธอขัดเขากลางคัน "ตกลงตามนั้น วันศุกร์จะติดต่อไป เราหมดธุระกันแล้ว เฮคเตอร์จะพานายออกจากตึก"
     
            แองกัสไม่ได้พูดอะไรต่อเมื่อเห็นนางแบบชื่อดังเดินจากไปอย่างรวดเร็วหลังพูดประโยคนั้นจบ เขายืนเงียบๆอยู่ในห้องสตูดิโอครู่หนึ่ง คิดทบทวนกับสิ่งที่ตัดสินใจทำลงไป ลายเซ็นที่ตอนนี้ถูกจารึกอยู่ในกระดาษเอสี่ของคริสต้า แม็คมิลเลน
     
            เขาครุ่นคิดอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเดินออกจากตึก และบอดี้การ์ดของคริสต้าเดินหายไปโดยไม่กล่าวคำลา ทิ้งให้เขายืนโง่อยู่ริมทางเท้าในนิวยอร์กเช่นเดิม
     
            ทั้งหมดที่ทำลงไปถูกแล้วหรือยัง? เขาไม่แน่ใจกับคำตอบเท่าไหร่
     
            "เฮ้ นายเสื้อหนัง" เสียงไม่คุ้นหูดังขึ้น เมื่อหันไปหาต้นเสียง เขาก็พบชายในสูทสีเทาคนเดิม "มีเวลาคุยไหม"
     
            "ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้นในสตูดิโอ" แองกัสตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก สายตาเหลือบเห็นบอดี้การ์ดสองคนของเขาที่ยืนรออยู่ใกล้รถหรู
     
            "ฉันไม่ได้จะพูดเรื่องนั้น" อีกฝ่ายย่นคิ้ว เมื่อมองในระยะใกล้ ผิวหน้าของเขาดูเนียนอย่างไร้ที่ติ "นายคุยอะไรกับคริสต้า"
     
            "เรื่องส่วนตัว"
     
            "ระหว่างฉันกับคริสต้า เราไม่มีความลับกัน"
     
            "แล้วทำไมไม่ไปถามเธอเองล่ะ" แองกัสควานหยิบแว่นกันแดดที่เสียบไว้ตรงกระเป๋ากางเกงยีนส์ขึ้นมาสวม ตั้งท่าจะเยาะเย้ยเขาก่อนเดินจากไปแต่ก็ถูกรั้งไว้ก่อน
     
            เขาถูกชายในชุดสูทลากให้ขึ้นมาในรถเอสยูวีสีขาวคันหรูที่เห็นเมื่อครู่ กลิ่นใหม่และสะอาดของรถทำให้แองกัสเริ่มฉุนจมูกอีกครั้ง
     
            ทั้งคู่นั่งสบตากัน ก่อนที่มือเรียวสะอาดของอีกฝ่ายจะควานหยิบกระดาษรูปร่างยาวคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าออกมาและเริ่มใช้ปากกาเขียนบางอย่าง "ฉันคิดว่าคนอย่างนายควรจะได้เก็บไว้ใช้"
     
            แองกัสมองกระดาษที่ถูกยื่นมาตรงหน้า มันคือเช็คห้าแสนดอลลาร์ที่มีลายเซ็นยืนยันอยู่ริมกระดาษ
     
            และใช่ แองกัสมองไม่ผิดไป มันไม่ใช่ห้าหมื่น มันคือห้าแสน
     
            โดยปกติแล้ว แองกัสมักไม่ตัดสินใครจากภายนอกหรือจากการคุยเพียงผิวเผิน แต่การกระทำนี้ทำให้เขารู้ว่าไอ้งั่งตรงหน้ารู้จักวิธีการแก้ปัญหาอยู่แค่วิธีเดียว
     
            "นายเป็นใครไม่ทราบ" เขาแสร้งกอดอกมองอีกฝ่าย
     
            "ฉันเป็นแฟนคริสต้า"
     
            "อืม ทำไมไม่เห็นรู้ ไม่เห็นข่าวจากที่ไหนเลย"
     
            "เราต้องการความเป็นส่วนตัว"
     
            "หรือคนใดคนหนึ่งก็อาจจะยังไม่มั่นใจ" แองกัสลดแว่นกันแดดลงเล็กน้อยแล้วใช้สายตามองอย่างมีเลศนัย เขารู้ว่าสิ่งที่ตนพูดทำให้ชายตรงหน้าเริ่มหัวเสีย
     
            "รับเงินไป แล้วอย่ามาพบคริสต้าอีก"
     
             ห้าแสนดอลลาร์ไม่ใช่เงินน้อยๆ และพระเจ้ารู้ดี คนไร้บ้านอย่างเขาต้องการมันอย่างที่สุดในเวลานี้ ชายหนุ่มไม่เสียเวลาคิดให้หนัก เขายักไหล่แล้วหยิบเช็คออกจากมืออีกฝ่าย
     
            "ได้ ฉันจะไม่มาพบเธอสองต่อสองอีก"


     

     

    Croosh - Money

     

    Talk

    เห็นมีรีดเดอร์หลายคนรอให้เราปลดล็อคตอน ดีใจมากเลยค่ะที่ยังมีคนติดตามฮือออ

    เราอัพให้จบเรื่องแน่นอนค่ะ แต่ตอนที่ล็อคกำลังอยู่ในขั้นตอนการรีไรท์นะคะ

    ขอบคุณมากๆสำหรับทุกกำลังใจค่า 

             
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×